ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ข้อมูลแนวแฟนตาซี ( เหมาะกับนักเขียนที่ต้องการหาข้อมูล )

    ลำดับตอนที่ #41 : Test / Heaven War

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.27K
      2
      22 ต.ค. 49


      



    หลังจากที่พระเจ้าทำการล้างโลกแล้ว พระองค์ทรงทำพันธสัญญากับ โนอาห์ ว่า

    "เราจะไม่ทำลายบรรดามนุษย์และสัตว์โดยใช้น้ำอีก..
    เราจะตั้งสายรุ้งไว้ที่เมฆ เพื่อเป็นเครื่องหมายแห่งพันธสัญญาระหว่างเรากับโลก"

    จากนั้นไม่นาน บุตรชายของ โนอาห์ ชื่อ เชม ก็ได้เกิดบุตรชายคนหนึ่งชื่อ อับราฮัม
    เป็นคนที่มีคุณธรรม และเคารพศรัทธาในองค์พระผู้เป็นเจ้า
    อาศัยอยู่ที่เมืองโซดอม แล้ววันหนึ่งอับราฮัมก็ได้รู้ว่า พระเจ้าจะทำการล้างเมืองโซดอมกับโกโมร่าห์
    อับราฮัม มีหลานชายอยู่คนหนึ่ง ชื่อ โลท ก็เป็นคนดีมีคุณธรรมเช่นกัน
    จากการที่พระเจ้าได้ส่งทูตสวรรค์ 2 องค์ลงมาสอดส่องความเป็นไปในโลกมนุษย์
    ครั้นเวลารุ่งสาง ทูตสวรรค์ทั้ง 2 ก็ได้ พาโลทและครอบครัวให้หนีออกจากเมืองซะ

    และได้กำชับอย่างหนักแน่นว่า

    "จงหนีเอาชีวิตรอด อย่าได้เหลียวหลัง หรือหยูด ณ ที่ใดที่หนึ่งในลุ่มน้ำนี้
    มิฉะนั้น เจ้าจะต้องเสียชีวิต ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ห้ามหันกลับมามองเป็นอันขาด"


    แล้วพระเจ้าก็ให้เทวดาที่ชื่อ Loki กวัดแกว่งดาบเพลิง เกิดเป็นลูกไฟล่วงหล่นลงมาจากฟากฟ้า ทำลายเมืองทั้ง 2 สิ้น

    ลูกหลานของโนอาห์อีกหลายชั่วอายุคน ได้ขยายเผ่าพันธุ์ของตนออกไปเป็นจำนวนมาก
    แล้วก็อีกเช่นเคยมนุษย์ โดยสันดาน มีความชั่วแฝงอยู่ บวกกับการยั่วยุ
    และครอบงำจากเหล่าปิศาจของ Lucifer ทำให้มนุษย์มีความทะเยอทะยาน จนหลงลืมตัว
    คิดว่าตนเป็นพระเจ้าหรือมีอำนาจทัดเทียมพระเจ้า จากยุคนึงไปอีกยุคนึงไม่สิ้นสุด
    ก่อกรรมทำชั่ว อวดดี จนกระทั้งได้มีการสร้างหอคอย บาเบล ขึ้น

     



    ปราการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งมวลมนุษยชาติ หอคอยเทียมฟ้า บาเบล
    (Tower of Babel)


    ในสมัยนั้น มนุษย์พูดภาษาเดียวกันทั่วโลก จึงเป็นการง่ายที่จะสื่อสารกัน เมื่อสร้างหอคอยเสร็จ
    ก็ประกาศตนเป็นอิสระไม่อยากให้มีการแทรกแซงจากพระเจ้า ไม่นานนัก เมื่อพระเจ้าทอดพระเนตรลงมาเห็น
    ก็เป็นอันเข้าพระทัยทันทีว่า มนุษย์นั้นคิดจะก่อการกบฏต่อพระองค์
    พระองค์จึงตรัสว่า

    "เราจะทำให้ภาษาของคนเหล่านี้วุ่นวายต่างกันไป อย่าให้ได้พูดกันเข้าใจอีก"

    จากนั้นก็ทรงชี้นิ้วลงมายังหอคอย ในฉับพลันก็เกิดสายฟ้าฟาดลงบนยอดหอคอย
    มนุษย์ที่อยู่ในนั้นต่างก็กระเด็นไปคนละทิศละทาง
    และจากคำสาปแช่งของพระเจ้าก็ทำให้ ผู้คนนั้นพูดกันคนละภาษา ไม่สามารถสื่อสารกันได้ในขณะนั้น

    Lucifer ก็ไม่ยอมแพ้ ยังคงใช่เล่ห์กล อุบายต่างๆ เข้าครอบงำความคิดต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง....

    การที่มนุษย์กระจัดกระจายกันไป ทำให้มนุษย์หลายเผ่าพันธุ์ยิ่งเหินห่างจากพระเจ้า
    Lucifer เลยได้โอกาส ส่งสาวกของตนแปลงกายเป็นมนุษย์
    ค่อยยุยงให้ผู้คนหันมานับถือลัทธิต่างๆแทนที่จะนับถือศรัทธาในพระเจ้า
    ให้มีการสร้างเทวรูปต่างๆขึ้นมาสักการะ จนกระทั้งถึงยุคของ โมเสส
    พระเจ้าได้ประทานอำนาจให้ และให้ขึ้นไปที่ เขาซีนาย เพื่อนำ บัญญัติ 10 ประการ กลับลงมาจากพระเจ้า

    แต่ก็ยังมีคนหลงผิดอีกจำนวนมากมายที่ยังคงบูชาเทวรูปต่างๆ

    จนถึงยุคของกษัตริย์ เดวิด แต่แล้วก็มิวายมีเรื่องที่ทำให้เสื่อมศีลธรรมอีกจนได้
    เมื่อเดวิด สมสู่กับหญิงงามที่มีสามีแล้ว และต้องการครอบครองตัวนางโดยการใช้อำนาจเล่ห์กล
    สั่งให้สามีของนางผู้นั้นออกไปตายในสนามรบ ต่อมาเดวิดมีบุตรชายชื่อ โซโลมอน
    แต่แล้วก็ทำผิดต่อพระเจ้าอีก ตามเรื่องเล่า โซโลมอน มีมเหสีถึง 700 คน

    จนกระทั่งถึงยุคของ พระเยซู.....



    ภาพจิตรกรรมร่วมสมัย สีน้ำมันบนผ้าใบ "กำเนิดพระคริสต์"(The Birth of Christ)

    จาก อับราฮัม ถึง โซโลมอน นับรวม 14 ชั่วคน
    และนับจาก เดวิด อีก 14 ชั่วคน คือรุ่นที่ 28
    บุตรชายของ โยเซฟ ช่างไม้ สามีของนางมาเรียให้กำเนิดบุตรชายชื่อ เยซู
    ที่เมือง เบธเลเฮม ครั้งหนึ่ง พระวิญญาณ ได้นำพาพระเยซู พลัดเข้าไปในถิ่นทุรกันดาร
    ทรงอด พระกระยาหารถึง 40 วัน 40 คืน Lucifer วกเวียนเข้ามาหาและทูลว่า

    " ถ้าท่านเป็นบุตรของพระเจ้าจริง ทำไมไม่สั่งให้ก้อนหินเหล่านี้กลายเป็นอาหารซะล่ะ"

    พระเยซู กล่าวตอบไปว่า

    "มนุษย์จะบำรุงชีวิตด้วยอาหารเพียงอย่างเดียวหาได้ไม่
    แต่บำรุงด้วยด้วยพระวจนะทุกคำที่ออกมาจากพระโอษฐ์ของพระเจ้า"


    Lucifer ได้ทดสอบพระเยซูรวม 3 ครั้ง
    ถึงกับใช้บ้านเมืองและโลกทั้งโลกรวมทั้งพลังอำนาจต่างๆมาหลอกล่อ ก็ไม่เป็นผล
    พระเยซูมีโอกาสเผยแพร่คำสอนเพียง 3 ปีเท่านั้น ก่อนที่จะถึงวาระสุดท้ายบนไม้กางเขน
    และคนที่ทำให้พระเยซูถูกจับตรึงกางเขนก็ไม่ใช่ใคร หนึ่งในสาวกที่ทรยศเพราะเห็นแก่ทรัพย์นั่นก็คือ Judhas

    เพียงแค่มารครอบงำจิตใจ ก็ทำให้เขาเกิดความโลภ บอกที่สอนของพระเยซูให้กับพวกทหารโรมัน



    ภาพจิตรกรรมร่วมสมัย สีน้ำ ชื่อภาพ"ตรึงกางเขน" (Crusifixion)

    พระเยซู ถูกตรึงกางเขนเวลา 9.00 น.เศษ ของเช้าวันรุ่งขึ้น
    ครั้นเที่ยงวัน ขณะที่ท้องฟ้ายังสว่งอยู่ พลันก็เกิดลมพายุมืดมัวไปทั่วแผ่นดิน
    พระเยซู ร้องด้วยเสียงอันดังว่า...

    "เอโลอี เอโลอี ลามา สะ บัก ธานี"

    แปลว่า

    " พระเจ้าของข้าพระองค์ พระเจ้าของข้าพระองค์ ใฉนทรงทอดทิ้งข้าพระองค์เสีย"

    พอถึงเวลา บ่ายสามโมง พระเยซู ได้รับสั่งประโยคสุดท้ายว่า

    " โอ้พระบิดาเจ้า ทรงอภัยให้พวกเขาเถิด พวกเขาไม่รู้ว่าได้ทำอะไรลงไป "

    แล้วพระองค์ก็สิ้นพระชนม์ ขณะนั้นม่านในวิหารก็ขาดออกเป็น 2 ท่อน
    ท้องฟ้ามืดมัว แผ่นดินไหว เป็นที่น่าสะพรึงกลัวยิ่ง


    Judhas รู้สึกละอายใจอย่างมากที่ทรยศ
    จึงทำการแขวนคอตาย แต่ด้วยบาปที่ใหญ่หลวงยิ่ง
    Judhas ถูกสาปให้ไร้ชีวิต แต่วิญญาณยังคงอยู่ และไม่มีวันได้เห็นแสงสว่างแห่งดวงอาทิตย์อีกชั่วกัปชั่วกัลย์



    ภาพลงเส้นหมึกดำ ประกอบในพระคัมภีร์
    เป็นภาพที่ยูดาห์ ทนละอายต่อบาปมิได้และกำลังจะแขวนคอตนเอง


    Lucifer เห็นดังนั้นจึงเข้าครอบงำวิญญาณของ Judhas ทันที
    ทำให้เกิดปิศาจอันดุร้ายและกระหายเลือดขึ้น นั่นคือ Vampire ตัวแรกในโลกใบนี้...

    หลังจากที่มีปิศาจตนแรกเดินดินอยู่บนโลกมนุษย์

    เป็นช่วงเวลาที่มีเทวดาถูกขับออกจากสวรรค์มากที่สุด
    เพราะเนื่องจากเหล่าเทวดาไม่เข้า พระเจ้า ว่าเหตุใดจึงปล่อยให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น
    เหล่าเทวดาจึงคิดหาวิธีเอาชนะ Lucifer ด้วยวิธีของตน
    นั้นคือ การรวมสมสู่กับมนุษย์ เพื่อให้มีเทวดาที่เดินดินอยู่ในโลก
    เช่นเดียวกับ ปีศาจ ก่อให้เกิดลูกครึ่ง หรือ Nephalim มากมายบนโลก

    พระเจ้าทรงทราบเรื่องในภายหลัง
    จึงขับไล่เหล่าเทวดาที่สมสู่กับมนุษย์ออกจากดินแดนศักสิทธิ์
    เทวดาเหล่านี้จึงกลายเป็นเทวดาฝ่ายกบฏ
    แต่ไม่ได้เข้าร่วมกับ Lucifer
    เพียงชอบทำอะไรที่นอกเหนือจากคำที่พระเจ้าทรงบอกกล่าว



    ภาพจิตรกรรมร่วมสมัย ประกอบในพระคัมภีร์ฉบับปี 1994 ภาพเทวดาตกสวรค์
    (Fallen Angels)


    เทวดาองค์แรกที่พระเจ้ารับสั่งให้ลงมาคอยสอดส่องมนุษย์และปิศาจก็ไม่ใช่ใครอื่น
    Gabriel นั่นเอง แต่จนแล้วจนรอด Gabriel ก็กลับหลงใหลในความ ศิวิไลซ์ ของมนุษย์

    จนไม่ยอมกลับขึ้นสวรรค์อีก...

    จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ ทุกอย่างเลวร้ายลง ทั้ง 3 โลก มาอยู่รวมกันในโลกใบเดียว..

    พระเจ้าจึงตัดขาดสวรรค์ออกจากโลกมนุษย์

    และทำเพียงแค่เฝ้ามอง...



    ส่วนฝ่ายนรก ก็เช่นเดียวกัน
    ทำแค่คอยเก็บดวงวิญญาณของมนุษย์ที่ชั่วร้าย เพื่อรวบรวมกำลังต่อกรกับพระเจ้าต่อไป...

     

    .........................................................................................................

    เครดิต  http://www.geocities.com/clubchingchong/Page-4.htm



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×