คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตอนสาม มหานครแอตแลนติส และ อาณาจักรมิโนอา
... ย้อนอดีตไปเมื่อ 2300 ปีก่อนหน้านี้ได้มีนักปราชญ์ชาวกรีกผู้ยิ่งใหญ่ท่านหนึ่งชื่อ พลาโต
ท่านได้เรียบเรียงบทสนทนาไว้สองบทชื่อ Timaeus และ Critias บทสนทนาได้กล่าวถึง Critias
ซึ่งเป็นทวดของพลาโต ว่า ปู่ของท่าน ( ท่านในที่นี้น่าจะหมายถึง Critias) มีนามว่า Critias the Elder
Critias the Elder ได้ยินนิทานที่เล่ามาจากพ่อของท่านที่ชื่อ Dropides เล่ามาอีกต่อหนึ่ง
จากเพื่อนของท่านที่ชื่อ Solon ซึ่งคาดว่า Solon น่าจะมีชีวิตอยู่ในราวปี พ.ศ. 10
(เอาเป็นว่าประมาณ 2500 มาแล้ว)...
และตัว Solon เองก็ยังได้ยินได้ฟังมาจากพระชาวอียิปต์แห่งวิหาร Sais ในประเทศอียิปต์ว่า ...
ซึ่งได้กล่าวถึงอาณาจักรใหญ่แห่งหนึ่งที่รุ่งเรืองอำนาจมาก ชื่อแอตแลนติส ...
ประชาชนของอาณาจักรนี้เป็นลูกหลานของเทพ โพเซดอน (เทพแห่งทะเล) บนเกาะมีภูเขา
มีแผ่นดินอุดมสมบูรณ์ มีป่าไม้ แร่ธาตุและสัตว์ป่าเช่น ช้าง มากมาย อาณาจักรนี้มีกษัตริย์ปกครองถึง
10 พระองค์ ซึ่งทุกองค์เป็นบุตรที่ถือกำเนิดจาก นาง Cleito กับ เทพ Poseidon
ทุกๆ 5 ปีกษัตริย์ที่กำลังที่กำลังปกครองจะล่าวัวศักดิ์สิทธิ์เพื่อนำไปถวายเป็นเทพบูชาแด่โพเซดอน
และพลาโตยังเล่าอีกว่าในเมืองหลวงของอาณาจักรแอตแลนติส มีบ่อน้ำร้อนสำหรับการอาบน้ำในฤดูหนาว
และบ่อน้ำเย็นสำหรบอาบน้ำในฤดูร้อนอีกด้วย ซึ่งสถานอาบน้ำเหล่นี้ยังถูกแบ่งออกเป็นระดับๆ
สำหรับคนวรรณะต่างๆ เช่น สำหรับ กษัตริย์ คนธรรมดา และ ม้า...
... ตัวเกาะแอตแลนติส ซึ่งมีกำแพงล้อมรอบนั้น ยังถูกแบ่งออกเป็นวงแหวนที่เรียงซ้อนกัน 5 วง
โดยมีสะพานเชื่อมระหว่าง วงแหวนเหล่านั้น และเรือเดินสมุทรยังสามารถลอยลำเข้าไปได้ถึงใจกลางเมือง
นอกจากนี้ชาวเมือง ยังมีการศึกษา มีความสามารถด้านการทำสงคราม และ มีศีลธรรมสูง
แต่เมื่อเวลาผ่านไปหลายชั่วอายุคน ความเจริญรุ่งเรืองของอาณาจักรเริ่มสลาย
ชาวแอตแลนติสได้เปลี่ยนเป็นคนกักขฬะที่กระหายอำนาจ เทพเจ้า Zeus
จึงลงโทษอณาจักรแอตแลนติสทันที ...
แต่อริสโตเติล ผู้เป็นศิษย์เอกคนหนึ่งของพลาโต กลับคิดว่า แอตแลนติสคืออาณาจักรในจินตนาการของพลาโต
ที่ไม่มีตัวตน
แต่มีอาณาจักรหนึ่งที่มีส่วนคล้ายคลึงกับมหานครแอตแลนติส ซึ่งนั่นก็คืออาณาจักรมิโนอา ( อ่านกันอย่างงี้หรือเปล่า )
อารยธรรม Minoan อยู่บริเวณหมู่เกาะของประเทศกรีก ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเมื่อหลายพันปีมาแล้ว
เป็นอารยธรรมแรกๆ ในยุโรป ก่อนอารยธรรมกรีกเสียอีก อาณาจักร Minoan มีความร่ำรวยมาก
ควบคุมเศรษฐกิจในแถบนั้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการค้าขาย มีท่าเรือแล้วเปลี่ยนสินค้าจากอียิปต์และอื่น
มีกองทัพเรือที่เข้มแข็งซึ่งไม่มีใครสามารถยึดครองได้เป็นเวลาหลายร้อยปี
แต่อยู่ๆอาณาจักรก็เสื่อมอำนาจลง จนถูกชาวเผ่าอื่นที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินกรีก (แผ่นดินทวีปยุโรป)
ก็เคลื่อนพลเข้ามายึดครอง
ทั้งนักธรณีวิทยาและนักโบราณคดีค้นพบหลักฐานว่าการล่มสลายของ Minoan เกิดจากภัยธรรมชาติ
เป็นภัยจากภูเขาไฟระเบิด ซึ่งเป็นการระเบิดของภูเขาไฟบนเกาะ ซานโตรินี (Santorini)
เกาะซานโตรินีนี้ในสมัยกรีกโบราณมีชื่อว่า เทียร่า (Thera)
3500 ปีที่แล้วเมื่ออณาจักรของ Minoan กำลังอยู่ในยุคเฟื่องฟู ภูเขาไฟเทียร่า ก็ประทุขึ้น
เป็นการระเบิดของภูเขาไฟที่รุนแรงเป็นอันดับสองในรอบหนึ่งหมื่นปี (รองจากภูเขาไฟที่อินโดนีเซีย)
การระเบิดครั้งนี้เปลี่ยนลักษณะทางภูมิศาสตร์ของภูมิภาคแถบนั้นไปอย่างมากมายทีเดียวครับ
และที่แน่ๆ คือ มีผลกระทบต่อชาว Minoan ภูเขาไฟได้ทำลายทั้งบ้านเมืองและตลาดการค้าแทบนั้นด้วย
และอีกประมาณ 50 ปีให้หลังก็ถูกพวกกรีกเข้ามายึดครอง และสูญสิ้นไป
เท่าที่อ่านคร่าวๆ ตำนานแอตแลนติกน่าจะเกี่ยวข้องกับ Minoan มากกว่าที่อื่นๆ
1) เป็นอารยะธรรมที่ตั้งอยู่ในหมู่เกาะ ซึ่งเหมาะที่จะเป็นอาณาจักรแอตเลนติส
2) เป็นอารยธรรมที่อยู่ระหว่างกรีกกับอียิปต์ ยิ่งพลาโตได้ฟังเรื่องมาอีกทีจากคนที่เคยไปอียิปต์
ยิ่งทำให้น่าเชื่อว่า แอตแลนติสต้องเป็นอาณาจักรใดอาณาจักรหนึ่งที่ชาวอียิปต์รู้จักดี
อียิปต์กับ Minoan นั้นค้าขายกันมาก่อนแล้ว น่าเชื่อกว่าที่ไกลๆเช่น สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า
เพราะพลาโตและชาวอียิปต์คงไม่เคยเห็นมหาสมุทรแอตแลนติกมาก่อน
3) ตำนานที่บอกว่าพระเจ้าถล่มอาณาจักรให้จมลงพื้นมหาสมุทรนั้น เข้ากันได้ดีกับ
หลักฐานทางธรณีวิทยา เรื่องการระเบิดของภูเขาไฟเทียร่า นอกจากนั้นยังมีหลักฐานว่า
หลังจากภูเขาไฟระเบิดแล้ว เมืองท่าของพวก Minoan ยังถูกถล่มด้วยคลื่นซินามิอีกต่างหาก
ซึ่งน่าจะอธิบายว่าทำไมอาณาจักรถึงถล่มลงใต้มหาสมุทรได้
จากการศึกษาของ Marinastos ในเวลาต่อมาทำให้เรารู้ว่า เมื่อ 1520 ปีก่อนคริสต์กาลนั้น ภูเขาไฟบนเทียร่าได้ระเบิดขึ้น 3 ครั้ง และในครั้งสุดท้ายนั้นพลังระเบิดของภูเขาไฟที่สูงถึง
เหตุการณ์ปฐพีถล่มล้างเผ่าพันธุ์ครั้งนั้น อธิบายชะตากรรมของ Crete ได้อย่างสมบูรณ์และ Marinastos เองก็คิดว่าเหตุการณ์นี้อธิบายการสูญสลายของแอตแลนติสด้วย ทฤษฎีนี้เป็นทฤษฎีแอตแลนติสที่ผู้คนยอมรับกันมาก แต่เมื่อเวลาผ่านไปได้ประมาณ 20 ปีความเชื่อนี้ก็เริ่มคลอนแคลนอีก เพราะนักประวัติศาสตร์ได้พบหลักฐานเพิ่มเติมว่าภูเขาไฟบนเทียร่าได้ระเบิดก่อนที่พระราชวัง Knossos บนเกาะ Crete จะถูกถล่มถึง 150 ปี
นักโบราณคดีนั้นเชื่อว่าอารยธรรม Minoan ลอดพ้นการระเบิดของภูเขาไฟ และ การถล่มของซูนามิ อย่างน้อยก็กว่า 50 ปี ก่อนที่พวก Mycenean ซึ่งมาจากฝั่งกรีกจะเข้ามายึดครอง
การระเบิดของภูเขาไฟนั้นจะทำลายย่อยยับก็น่าจะแต่เมืองที่ตั้งอยู่บนเกาะเทียร่าเท่านั้น ส่วนเมืองอื่นๆนั้น แม้จะเสียหายบ้าง แต่ก็คงไม่ถึงกับล่มสลาย
แต่อย่างไรก็ตามผลของการระเบิดครั้งนี้ไม่ใช่เฉพาะแต่ทำลายบ้านเมืองอย่างเดียว คลื่นซูนามิยังทำลายท่าเรือต่างๆ ที่เป็นหัวใจเศรษฐกิจของอารยธรรมด้วย
นอกจากนั้นแล้วนักโบราณคดียังเชื่อว่าการระเบิดของภูเขาไฟยังมีผลต่อจิตวิทยาของผู้คนด้วย และก่อผลเสียหายมากพอๆกับความเสียหายทางวัตถุ ก่อนหน้าการระเบิดนั้นผู้คนของมิโนวัน นับถือพระเจ้าของพวกเขา พวกพระและกษัตริย์รักษาอำนาจส่วนกลางไว้ได้ หลังจากการระเบิดพวกเขามองธรรมชาติเปลี่ยนไป มีการพบหลักฐานว่าหลังจากการระเบิด ผู้คนบางส่วนหันมานับถือ เทพเจ้าจากท้องทะเล นอกจากนี้ยังมีการขุดพบโครงกระดูกของเด็กชายหญิง 5 คน ซึ่งคาดว่าถูกนำมาบูชายันต์ เพื่อคารวะเทพเจ้า แน่นอนว่าเทพเจ้าองค์นี้ไม่ใช่เทพเจ้าที่ชาว Minoan นับถือ เพราะชาวมิโนวันเป็นคนมีศีลธรรม คงไม่บูชายันต์ลูกหลานของตัวเอง
จะเห็นว่าการที่เกิดศาสนาใหม่ที่ป่าเถื่อนนี้ บอกถึงว่าประชาชนเสื่อมศรัทธาในกษัตริย์ และพระรวมทั้งศาสนาเดิม ซึ่งไม่ต้องสงสัยว่า อำนาจทางการเมืองของอาณาจักรต้องสั่นคลอน และในที่สุดก็เป็นเหตุให้ล่มสลาย เมื่ออาณาจักรใกล้เคียงเข้ายึดครอง
คิดไปคิดว่าก็คล้ายๆกับเรื่องเล่าของพลาโต ที่ว่าชาวเมืองแอตแลนติสนั้นเสื่อมศีลธรรม จะเห็นว่ามิโนวันก็เสื่อมศีลธรรมลงจริงๆด้วย ขนาดที่สังหารลูกหลานของตนเองได้
ความคิดเห็น