ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักซนๆ 4 คนอลเวง

    ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 3

    • อัปเดตล่าสุด 20 มี.ค. 58


    ตอน 3

    สนามบินสุวรรณภูมิ

    “นี่ก็ 10 โมงจะครึ่งแล้วทำไมตาต้นกับยัยปลายยังไม่ออกมาอีกคะคุณ” เสียงคุณหญิงภัทราบ่นขึ้น พร้อมรอการกลับมาของลูกๆแทบจะไม่ไหว

    “ใจเย็นๆสิคุณ เดี๋ยวก็คงออกมาแล้ว นั่นไง..พูดยังไม่ขาดคำ” คุณอานนท์พูดพร้อมกับโบกมือต้อนรับการกลับมาของลูกๆเช่นกัน

    “คุณแม่ ปลายคิดถึงคุณแม่ที่สุดในโลกเลยคะ” ปลายน้ำ หรือนางสาวปลายน้ำ พัฒนกิจ ลูกสาวคนเล็กของบ้านพัฒนกิจ รีบวิ่งมากอดมารดาด้วยความคิดถึง

    “สวัสดีครับคุณพ่อ คุณแม่” ต้นน้ำเอ่ยพร้อมยกมือไหว้บิดามารดา

    “การเดินทางราบรื่นดีนะลูก เป็นไงบ้างหืมเรา” คุณอานนท์เอ่ยพร้อมตบไหล่ลูกชายเบาๆ

    “เรียบร้อยดีครับ”

    “ยัยปลายนี่กระเป๋าอะไรเยอะแยะคะลูก” คุณหญิงทำท่าตกใจกับกระเป๋าเสื้อผ้าใบใหญ่ 4-5 ใบ และมั่นใจว่าต้องเป็นของยัยลูกสาวขี้โรคของเธอแน่ๆ

    “นี่มีแต่ของฝากทั้งนั้นเลยคะคุณแม่ ปลายซื้อมาฝากทุกคนเลย แหม...กลับมาคราวนี้อยู่ยาวนี่คะ ปลายเลยจัดหนักไปหน่อย” พูดจบพรางกอดมารดาแบบอ้อนๆ

    “ไม่หน่อยมั้งลูก พ่อว่าหนักมากเลยนะนั่น” ผู้เป็นบิดาเอ่ยแซวลูกสาว

    “ผมว่าเรากลับบ้านกันเถอะครับ” ต้นน้ำเอ่ยขึ้น และครอบครัวพัฒนกิจก็เดินทางกลับบ้าน

    เวลาล่วงเลยมาถึงช่วงเย็น ขณะที่ปลายน้ำยังคงวุ่นวายกับการจัดเสื้อผ้าและของฝากไม่เสร็จ ต้นน้ำก็เคาะประตูห้องน้องสาว

    “ก๊อก ก๊อก ก๊อก”

    “ยัยปลาย พี่เข้าไปนะ”

    “คะพี่ต้น เข้ามาเลยปลายไม่ได้ล็อกห้อง” ต้นน้ำเข้ามาในห้องน้องสาวที่ขนาดใหญ่เท่ากับห้องของเขา แต่ทำไมตอนนี้มันแทบจะไม่มีที่ให้เขาเดิน มีแต่เสื้อผ้า ของฝากเต็มห้อง

    “นี่ ยังจัดของไม่เสร็จอีกหรอเรา คุณแม่ให้มาตามลงไปทานข้าวได้แล้ว”

    “ฮัดชิ้ว” เสียงจามของปลายน้ำ ทำให้ต้นน้ำที่กำลังจะดุเรื่องของฝากรีบเข้าไปหาปลายน้ำทันที ปลายน้ำเป็นเด็กขี้โรคตั้งแต่เกิด เป็นอะไรนิดหน่อยก็ต้องเป็นหนักกว่าคนอื่น นี่ดีที่ออกกำลังกายช่วงหลังเลยเข้าโรงพยาบาลไม่บ่อยเหมือนแต่ก่อน แต่ก็ทำให้คนในบ้านอดเป็นห่วงไม่ได้

    “ปลายเป็นอะไร ไม่สบายรึป่าว” ต้นน้ำพูดพร้อมยกมือแตะหน้าผากน้องสาวทันที

    “ปลายไม่ได้เป็นอะไร สงสัยฝุ่นจะเยอะไปหน่อย แหะ แหะ”

    “พี่จะให้ป้าอ้อยขึ้นมาช่วยเราจัดของ ไม่งั้นวันนี้คงไม่ได้นอน กินข้าวเสร็จแล้วกินยากันไว้ก่อนเลยนะเดี๋ยวไม่สบาย”

    “เจ้าคะ” ปลายน้ำยิ้มรับ ตอนยังเด็กเธอไม่เข้าใจที่พ่อแม่พี่ชายมักจะเป็นห่วงเธอแบบโอเว่อร์ จนบางครั้งเธอเองยังรำคาญ แต่ทว่าเธอเองก็รับรู้ว่าร่างกายตัวเองอ่อนแอ เป็นอะไรนิดหน่อยก็ต้องเข้าโรงพยาบาล เธอจึงเข้าใจในความหวังดีของทุกคนในครอบครัว พร้อมกับพยายามทำร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอเพื่อทุกคนจะได้สบายใจ

    มื้ออาหารเย็นของบ้านของบ้านพัฒนกิจ เต็มไปด้วยอาหารมากมายบนโต๊ะที่คุณหญิงภัทราลงมือเข้าครัวเองเพื่อต้อนรับการกลับมาของลูกๆ

    “พ่อครับ พรุ่งนี้ผมว่าจะเข้าบริษัทเลย” ต้นน้ำเอ่ยขณะทานอาหาร

    “เอางั้นเลยรึ ไม่พักสักหน่อยหรอ” คุณอานนท์เอ่ยตอบลูกชายด้วยความเป็นห่วง

    “ไม่ครับ อยากรีบเคลียร์งานให้เสร็จๆ วันนี้ก็พักแล้ว พ่อต่างหากที่พักบ้างได้แล้ว” 555 เสียงหัวเราะดังจากประมุขของบ้านพัฒนกิจ ลูกชายเขาเป็นที่พึ่งพาได้จริงๆ

    “ตาต้นกับคุณจะเข้าบริษัทพรุ่งนี้หรอคะ ฉันว่าจะพายัยปลายไปตรวจร่างกายสักหน่อย เพิ่งกลับมาจากอังกฤษเผื่อเจ็บป่วยจะได้รีบรักษา” คุณหญิงเอ่ยด้วยความเป็นห่วงลูกสาวอย่างเช่นเคย

    “ปลายไม่ได้เป็นอะไรนะคะคุณแม่” ปลายน้ำแย้งนิดๆ

    “เมื่อกี้พี่เห็นเราจามอยู่เลย ไปตรวจกับคุณแม่เถอะ เผื่อเป็นอะไรจะได้ป้องกันไว้ก่อน” ต้นน้ำเอ่ยอย่างเป็นห่วงน้องสาว

    “เจ้าคะ ดีเลยปลายจะได้เอาของไปฝากพี่เมฆ พี่หมอก พี่เดือน พี่ดาวแล้วก็คุณลุงหมอกับคุณป้าด้วย” ปลายน้ำเอ่ยอย่างอารมณ์ดีที่จะได้เจอพี่ชายพี่สาวสุดรักของเธอทำให้ต้นน้ำชะงักไปเล็กน้อย

    “ตาต้น สนใจจะพาน้องไปโรงพยาบาลกับแม่ไหม” คุณหญิงภัทราเอ่ยแซวลูกชายตรงๆ เพราะรู้ดีที่ลูกชายสุดที่รักอยากเจอใครในโรงพยาบาล

    “ไม่ดีกว่าครับ อยากรีบเคลียร์งานที่บริษัทให้เสร็จ ช่วงนี้กำลังจะปิดงบด้วย” ต้นน้ำเอ่ยแม้ว่าใจเขาอยากจะไปหา ไปเจอหน้าคนตัวเล็กที่คิดถึงมานาน ไม่เป็นไรหรอก อดทนรออีกนิดเดียว หารู้ไม่ว่าพรุ่งนี้เขาอาจได้เจอคนที่คิดถึงสุดหัวใจอยู่ตอนนี้ก็ได้

    หลังจากรับประทานอาหารมื้อเย็นเสร็จ ปลายน้ำกับคุณหญิงภัทราและป้าอ้อยก็เข้าไปจัดการห้องของปลายน้ำที่ตอนนี้เต็มไปด้วยเสื้อผ้าและของฝาก ส่วนต้นน้ำนั้นเดินไปที่ห้องทำงานของบิดาด้วยสีหน้าเครียด

    “พ่อครับ พ่อเห็นรายงานงบประมาณปีนี้รึยังครับ” บุตรชายเอ่ยเสียงเครียดกับบิดา

    “อืม เห็นแล้ว” คุณอานนท์ยังตอบอย่างใจเย็น

    “พ่อไม่สงสัยอะไรบ้างหรอครับ” ต้นน้ำเอ่ยพร้อมขมวดคิ้วเล็กน้อย ปกติบิดาของเขาเป็นคนละเอียดและรอบคอบมาก ไม่น่าจะไม่เห็นตัวเลขในงบที่มันผิดปกติ

    “เก่งขึ้นเยอะเลยนะลูกพ่อ แบบนี้สิพ่อจะได้วางใจให้ดูแลบริษัทของเราได้” คุณอานนท์เอ่ยอย่างชื่นชมลูกชายของตนเอง ลูกชายของเขาไม่เคยทำให้เขาผิดหวังสักเรื่อง อาจจะหัวดื้อไปบ้าง ซนไปบ้าง แต่ก็รู้จักขอบเขตและดูแลตัวเองกับน้องได้เสมอ

    “พ่อพูดแบบนี้ แสดงว่าพ่อรู้อยู่แล้วตั้งแต่ต้นใช่ไหมครับ พักหลังๆมานี่ ผมเห็นยอดในบัญชีผิดปกติไป 2-3 ครั้งแล้ว พ่อคิดว่าไงครับ” แม้จะมีคำตอบอยู่ในใจแต่ต้นน้ำเลือกที่จะปรึกษากับบิดาของตนก่อนที่จะเอ่ยพาดพิงบุคคลที่ 3 ของเรื่องที่ทำให้เขาต้องหัวหมุนกับตัวเลขที่เกินมาเป็นล้านๆ

    “คุณธนากรหัวหน้าแผนกบัญชี เขาเป็นคนซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา ครั้งหนึ่งเมื่อประมาณ 10 กว่าปีก่อนเคยมีพนักงานธุจริต เขาจับได้แต่กลับส่งตัวคนทำผิดมาหาพ่อ พร้อมขอร้องให้พ่อไม่แจ้งตำรวจ...เขาเป็นผู้ใหญ่ที่ใจดี ผู้คนให้ความเคารพนับถือเขาทั้งบริษัท และที่สำคัญเขาไม่เคยทำงานพลาด” ผู้เป็นบิดาเอ่ยพลางมองหน้าลูกชาย

    “แต่ผมมั่นใจว่าตรวจบัญชีไม่ผิดพลาด แม้ว่าผมจะไม่ถนัดในเรื่องนี้แต่บัญชี 2-3 ครั้งหลังที่ฝ่ายบัญชีส่งมามีจำนวนการเบิกเกินไปแน่นอนครับ” ต้นน้ำเอ่ยอย่างมั่นใจ

    “พ่อรู้เจ้าต้น แต่การจะตีงูก็ต้องตีให้ตายจะให้มาแว้งกัดเราไม่ได้ อีกแค่ 2 ปี คุณธนากรก็จะเกษียณ ครอบครัวของเขาก็มีเงินมีทองใช้ไม่ขาดมือ ภรรยาและลูกก็เป็นคนดีมีหน้าตาในสังคม พ่อถึงกำลังมองหาต้นเหตุที่เขาตกแต่งบัญชีไม่ออกนะสิ” ต้นน้ำได้ยินได้แต่ถอนหายใจที่คนสนิทที่ไว้ใจกับหักหลังกันได้

    “ผมจะสืบเรื่องนี้เองครับพ่อ จะทำให้เสร็จก่อนปิดบัญชีสิ้นปีนี้ ผมไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาทำลายบริษัทเราหรอกครับ แม้ผมจะเคารพเขามากก็ตาม” ต้นน้ำเอ่ยอย่างหนักแน่นเรียกรอยยิ้มจากบิดาเสียไม่ได้

    “ดีมากลูก งั้นลูกก็รับหน้าที่จัดการปัญหาเรื่องนี้ซะ ถ้าทำสำเร็จพ่อจะไปขอหนูดาวให้” บิดาเอ่ยพร้อมเอาหญิงสาวที่ลูกชายตนแอบหลงรักตั้งแต่เด็กมาล่อ เห็นหน้าเจ้าต้นมันเครียดแล้วสนุกดี คิคิ ต้องกลับห้องไปเล่าให้คุณหญิงภัทราฟังซะแล้ว

    “โธ่ คุณพ่อ ไม่มีเรื่องนี้คุณพ่อคุณแม่ก็ต้องไปสู่ขอยัยเปี๊ยกนั่นให้ผมอยู่แล้ว ไม่งั้นอย่าหวังจะได้อุ้มหลาน ผมไม่ยอมแต่งกับใครแน่” เรื่องอะไรเขาจะยอม อุตส่าห์รอมาตั้งแต่เด็กยันโต ใครหน้าไหนก็อย่าหวังมาแย่ง

    “แต่พ่อครับ ผมคงต้องหาผู้ช่วยในการจัดการเรื่องนี้สักหน่อย พ่อคงอนุญาตถ้าผมจะรับเลขาเพิ่มอีกสักคน”

    “เอาเลยเจ้าต้น พ่อให้สิทธิเราในการจัดการเรื่องนี้ เงินทองพ่อไม่เสียดายหรอก เสียดายแต่มิตรภาพเท่านั้นแหละ เฮ้อ...ไปนอนเถอะพรุ่งนี้จะตื่นสายเอา อ่อ...แล้วก็ถ้าอยากจะแวะไปหาหนูดาวที่โรงพยาบาลก็ไปเถอะ โดดงานไปได้พ่อไม่ว่า” คุณอานนท์เอ่ยแขวะลูกชายปากแข็งที่คิดถึงหญิงสาวที่ตัวเองแอบรักใจจะขาด แต่กลับทำเป็นฟอร์มจัด แล้วเดินออกจากห้องไปทันที

    “พ่อนะพ่อ รู้ทันไปหมด น้องดาว...ไม่รู้จะจำพี่ได้รึป่าวนะ” ต้นน้ำเอ่ยพร้อมรอยยิ้มที่คิดถึงคนตัวเล็กอย่างจับใจ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×