ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : บทสรุปแห่งความรัก
“รุก”  เสียงประกาศการบุกดังจากบุรุษนัยน์ตาสีเขียวที่มีแววมุ่งมั่น
“แน่ใจนะ”  เสียงคาดคั้นจากเจ้าหญิงหัวขโมยดังขึ้น  พลางหยิบหมากในกระดานขยับหลบ  นัยน์ตามีประกายระริก
“อืม...รุก”  คำตอบรับยิ่งทำให้อีกฝ่ายชอบอกชอบใจ  หัวเราะหน้าระรื่น
“นายรับปากแล้วนะโร  ห้ามผิดคำพูดล่ะ”
“อืม...ถ้านายชนะ”
“รุกฆาต”
“เฮ้ย!!!  นายโกงนี่”
เสียงจากโรที่งงกับเหตุการณ์บนกระดานหมากเบื้องหน้า  ในเมื่อเค้าจะชนะอยู่แล้ว...อีกแค่ตาเดียว...แต่ไอ้เรือนั่นมันโผล่มาจากไหน...ก็ในเมื่อเค้าดูรอบคอบแล้วนี่
“โกงบ้า!  โกงบอ!  อะไรของแก  แพ้แล้วอย่ามามั่ว!  เดี๋ยววิเวียนมานายก็อย่าลืมทำตามคำพูดล่ะ”  เฟรินพูดขณะรีบล้มกระดานหมากรุก  พร้อมกับตีหน้าตายเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
โรได้แต่นั่งนิ่งนึกไม่ถึงกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น  ข้อตกลงที่เค้าขอให้เฟรินมาเดินหมากด้วยก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร  แต่มันสมควรแล้วหรอที่จะบอกให้เวลานี้
“นั่งอึ้งอยู่ได้  กับอีกแค่ไปบอกน้องสาวของตัวเอง  ทำหน้ายังกับจะไปตาย”  เฟรินกระซิบเสียงเบาเพื่อไม่ให้คนอื่นได้ยิน
บรรยากาศคึกคื้นภายในป้อมอัศวินมีมาตั้งแต่ตอนกลับจากการคว้าชัยชนะในการชิงตราเกียรติยศได้สำเร็จ  เป็นงานเลี้ยงที่จัดกันเองภายในป้อมอัศวิน  ทุกคนทุกชั้นปีมาร่วมงานกันอย่างสนุกสนานรื่นเริง  มีทั้งอาหารเครื่องดื่มต่างๆมากมาย  โดยได้รับอภินันทนาการจากไฮคิงพระองค์ใหม่  ซึ่งใช้ฐานะอดีตหัวหน้าป้อมอัศวินจัดเลี้ยง  เฟรินได้ไปชวนวิเวียนให้มาร่วมงานด้วย  โดยให้วิเวียนปลอมตัวมาตามที่เธอถนัด  เพราะยังไงคนก็เยอะอยู่แล้วคงไม่น่าผิดสังเกต  ซึ่งวิเวียนก็ตอบตกลงทันทีเช่นกัน
“เฟริน!!  เล่นเสร็จยัง  มาทางนี้หน่อย”  เสียงตะโกนเรียกจากเพื่อนซี้ดังขึ้น
“นายบอกให้วิเวียนสบายใจเถอะ  บอกแค่วิเวียนคนเดียวเอง  ไม่ต้องคิดมากหรอก”  เฟรินพูดปลอบใจโร  ทั้งๆที่ตัวเองแหละที่ทำให้คิดมาก  โรได้แต่ถอนหายใจเฮือก  ก่อนพยักหน้ารับ
“มีอะไร...เอ๊ะ!!  นั่นมัน...”  เฟรินเดินมาหาคิลกับเพื่อนๆปีสามอีกกลุ่มที่นั่งคุยกันอยู่  พร้อมกับเริ่มยิ้มเจ้าเล่ห์
“พวกนายเอาเข้ามาได้ยังไง”  เฟรินถามขณะเอามือไปหยิบขวดก้นกลมสีเขียวๆ  ขนาดพอมือขึ้นมาดมๆ
“ถ้าทางจะแรงนะเนี่ย  กลิ่นฉุนชะมัด”
“ความสามารถพิเศษไงล่ะ  หึๆ”  เจคว่ากลั้วหัวเราะ
“ฉลองให้กับความสำเร็จของป้อมอัศวิน”  ครี้ดพูดขณะกระดกเครื่องดื่มเข้าปาก
“ใช่ๆ  ฉลองให้กับป้อมอัศวิน”  เฟรินทำท่าจะไปหยิบขึ้นมาดื่มบ้าง
“เฟริน!!”  เสียงเรียกของบุรุษผมเงินทำให้เฟรินชะงัก  ได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ  ทำให้เพื่อนๆในวงพากันหัวเราะขำขัน
“นิดเดียวเองน่า  อย่าดุนักสิ”  เสียงออดอ้อนจากสาวน้อย  ทำให้คาโลได้แต่ส่งนัยน์ตาดุมาปราม
“นายชวนใครมา  ก็มาดูแลด้วย”  คาโลพูดเสียงเรียบ  แววตายังบ่งบอกถึงความไม่พอใจอยู่  แต่เฟรินตอนนี้กลับมีหน้าตาสดใส  นัยน์ตาสีน้ำตาลคู่โตมีประกายระริก  ก่อนเดินตามคาโลไปพร้อมกับลากคิลที่ยืนหัวเราะอยู่ข้างๆไปด้วย
“วิเวียน”  เฟรินเดินเข้าไปหาเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่รวบผมครึ่งศีรษะไว้ทางด้านหลัง  การแต่งตัวที่แสนธรรมดาก็สามารถกลมกลืนได้ดีกับผู้คนที่พบเห็น
“พี่หญิง”  เสียงตอบกลับจากวิเวียนที่หันหลังกลับมาตามเสียงเรียก
“เป็นไง มานานรึยัง  ขอโทษที่ผมไม่ได้มารับ  พอดีผม...”  เฟรินอ้ำอึ้งไม่รู้จะบอกวิเวียนยังไงดี
“อ๋อ  ไม่เป็นไรเพคะ  พอดีหญิงมาถึงก็เจอเจ้าชายคาโล  อ๊ะ!!  คุณคิล”  วิเวียนเพิ่งสังเกตเห็นคิลที่ยืนอยู่ด้านหลัง  คิลโค้งศีรษะให้เป็นการทักทาย
“งานน่าสนุกดีนะเพคะ  หญิงไม่เคยมางานแบบนี้เลย”  วิเวียนพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“จริงรึฮะ”  เฟรินแปลกใจ  แต่ก็นึกขึ้นได้ว่าวิเวียนอยู่แต่ในวังคงไม่มีเพื่อนมากนัก  เมื่อเห็นสีหน้าของวิเวียนเริ่มหมองลง  จึงรีบพูดขึ้น
“วันนี้ผมมีคนๆนึงอยากให้รู้จัก  รับรองไม่ผิดหวังแน่ๆ”  เฟรินพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นไม่แพ้กัน  ทำให้วิเวียนอยากรู้ขึ้นมาทันที
“นายแน่ใจนะเฟริน”  คิลถามเจ้าเพื่อนซี้จอมยุ่ง  ซึ่งตอนนี้คาโลได้แต่ยืนถอนหายใจอยู่ข้างๆ
“แน่ใจสิ  พวกนายน่ะไปทางโน้นก่อนเลยไป๊!!!”  เฟรินพูดพร้อมดันหลังคิลและคาโลให้เดินออกไปก่อน
“ใครหรอเพคะพี่หญิง”  วิเวียนถามขณะเดินตามเฟรินมาทางระเบียงด้านหน้าซึ่งไม่มีผู้คน
“โร!!”  เฟรินตะโกนเรียกเมื่อเห็นกับบุรุษที่เธอตามหาอยู่  โรหันมามองตามเสียงเรียก  แล้วเดินเข้ามาใกล้
“อ่ะ!!  น้องสาวนาย  นายจัดการต่อเองนะ  ฉันไปล่ะ”  เฟรินพูดพร้อมจูงมือวิเวียนเดินเข้าไปหา
“เอ๊ะ!!!  พี่หญิงพูดว่าอะไรนะเพคะ”  วิเวียนถามด้วยสีหน้างุนงง
“เดี๋ยวให้มันอธิบายเองนะ  ผมขอตัวก่อน”  เฟรินยิ้มให้อย่างร่าเริงก่อนเดินจากไป  ทิ้งให้ทั้งสองคนได้แต่ยืนนิ่งเงียบไม่พูดจาใดๆ
“สบายดีมั้ยวิเวียน”  โรถามขึ้นก่อนเพื่อทำลายความเงียบ
“คุณรู้จักฉันด้วยรึ”  วิเวียนสงสัย  ในเมื่อเธอก็ปลอมตัวแล้ว  คนอื่นๆที่เดินผ่านมายังจำเธอไม่ได้เลย  โรพยักหน้านิดๆ
“คุณคือ...”  เสียงของวิเวียนขาดหายไป  เมื่อสายตาไปสะดุดเข้ากับอะไรบางอย่างที่บุรุษเบื้องหน้าห้อยอยู่  ‘ครึ่งตราสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งเวนอล’  น้ำตาของวิเวียนพรั่งพรูออกมาด้วยความดีใจ  ก่อนโผเข้ากอดบุรุษเบื้องหน้าเอาไว้ด้วยความรู้สึกที่อัดอั้นมานาน
“เสด็จพี่...หญิง...หญิงนึกว่า...นึกว่า...เส็ดจพี่...”  เสียงที่ส่งออกมาแทบจะไม่เป็นคำพูด  ทำให้โรได้แต่ลูบผมของน้องสาว  ปลอบใจเธอด้วยความอ่อนโยน
“พี่ขอโทษที่ไม่ได้บอก  แต่น้องหญิงต้องเข้าใจนะ  ตอนนี้พี่อยู่ในฐานะของขอทานแห่งทริสทอร์  ขอให้น้องหญิงเก็บเรื่องนี้เป็นความลับได้ไหม”  น้ำเสียงของโรเอ่ยด้วยความอ่อนโยนที่มีต่อน้องสาวคนเดียวของเค้า  ที่ต้องมาแบกรับภาระอันหนักเกินกว่าวัยของเธอนัก
“ทำไมๆ  เสด็จพี่ไม่แสดงฐานะที่แท้จริง”  คำตัดพ้อจากวิเวียนทำให้โรค่อยๆดึงร่างบางที่กอดเค้าอยู่ออกมา
“พี่มีเหตุผลของพี่  หวังว่าน้องหญิงคงเข้าใจและทำตาม”  โรกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ  “เมื่อถึงเวลาพี่จะจัดการทุกอย่างเอง”  มือของเค้าค่อยๆลูบผมของวิเวียนอย่างเอ็นดู  วิเวียนพยักหน้ารับคำตามที่โรบอก
“เฟริน!!”  เสียงเรียกทำให้คนแอบดูสะดุ้งสุดตัว  ก่อนหันหน้ามาจ้องถลึงตาใส่
“นายเองหรอคาโล  ตกใจหมดเลย”
“นายมาทำอะไรอยู่ตรงนี้”  คาโลถามเสียงขรึม
“ก็ดูพี่น้องเค้าปรับความเข้าใจกันน่ะสิ  หึๆ”  เฟรินพูดพร้อมยิ้มให้อย่างอารมณ์ดี  “เอ แล้วไอ้คิลล่ะ”
“อยู่ข้างใน”  คาโลตอบสั้นๆเช่นเคย  แต่เฟรินก็ไม่ถือสาอะไร  พลางชะโงกหน้าเข้าไปดูข้างใน
“เอ๊ะ!!!  นั่นมันอยู่กับเรนอนนี่ ต้องไปช่วยมันหน่อยซะแล้ว ^^”  เฟรินทำท่าจะเดินเข้าไป  แต่มือใหญ่คว้าข้อมือบางเอาไว้ก่อน
“นายเลิกยุ่งเรื่องคนอื่นซะทีจะได้มั้ย”  คาโลถาม  ทำให้เฟรินถึงกับยัวะขึ้นมาทันที
“ทำไมฉันทำให้วิเวียนกับโรคุยกันไม่ดีตรงไหน  วิเวียนกับโรเวนจะได้มีโอกาสมากขึ้น  ส่วนไอ้คิลน่ะมันจีบสาวเป็นที่ไหน  ฉันจะไปช่วยมันผิดมากนักรึ”
“แล้วเรื่องของฉันกับนาย นายไม่คิดจะ ”  เสียงขาดๆหายๆจากคาโลทำให้เฟรินถึงกับหน้าร้อนผะผ่าว  ความโกรธที่มีอยู่นั้นกลับกลายเป็นความดีใจขึ้นมาทันที
“คาโล!!”  เสียงเรียกของสาวน้อยที่ตะลึงกับคำพูดของชายหนุ่ม  พร้อมกับดวงหน้าเริ่มขึ้นสีเหมือนสีผิวของลูกแอปเปิ้ลสุก
“เฟรินแต่งงานกับฉันนะ”  เสียงของคาโลที่ส่งมาพร้อมกับนัยน์ตาสีฟ้าคู่สวยที่มีความจริงจังแสดงออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน  พร้อมกับคุกเข่าเบื้องหน้าเฟริน  กุมมือเธอเอาไว้เพื่อรอคำตอบ
“อืม”  เฟรินพยักหน้ารับทันที  ทำให้คาโลลุกขึ้นยืน  บรรจงประทับริมฝีปากของตนลงไปบนริมฝีปากบางอย่างดูดดื่มและเนิ่นนาน  ก่อนถอนริมฝีปากออกมาเบาๆ
“เอ๊ะ!!  แต่เรายังเรียนกันอยู่นะคาโล”  เฟรินเอียงคอถามด้วยความสงสัย  ทำให้คาโลอมยิ้มน้อยๆกับความน่ารักของเจ้าหล่อน
“ก็หมั้นกันก่อนก็ได้”  คาโลตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน  ทำให้เฟรินพยักหน้ารับคำ  ก่อนคาโลจะดึงร่างบางเข้ามาสู่อ้อมกอดอันอบอุ่น
จบบริบูรณ์
-----------------------------------------------------------------
มุมจิบน้ำชา : อิอิ  หวานกันจุใจมั้ยเอ่ย ^^  ฟิคนี้ค่อนข้างสั้น  ก็ประมาณว่าเหมือนฟิคสรุปละกันนะคะ  จบแบบ Happy  Ending คงชอบใจกันนะเจ้าคะ  แต่ว่าจบแค่นี้ก็ไม่ใช่ roseate นะซิจ๊ะ  ใครอยากอ่านต่อมีบทส่งท้ายมาให้อ่านด้วยแหละ ^o^   
“แน่ใจนะ”  เสียงคาดคั้นจากเจ้าหญิงหัวขโมยดังขึ้น  พลางหยิบหมากในกระดานขยับหลบ  นัยน์ตามีประกายระริก
“อืม...รุก”  คำตอบรับยิ่งทำให้อีกฝ่ายชอบอกชอบใจ  หัวเราะหน้าระรื่น
“นายรับปากแล้วนะโร  ห้ามผิดคำพูดล่ะ”
“อืม...ถ้านายชนะ”
“รุกฆาต”
“เฮ้ย!!!  นายโกงนี่”
เสียงจากโรที่งงกับเหตุการณ์บนกระดานหมากเบื้องหน้า  ในเมื่อเค้าจะชนะอยู่แล้ว...อีกแค่ตาเดียว...แต่ไอ้เรือนั่นมันโผล่มาจากไหน...ก็ในเมื่อเค้าดูรอบคอบแล้วนี่
“โกงบ้า!  โกงบอ!  อะไรของแก  แพ้แล้วอย่ามามั่ว!  เดี๋ยววิเวียนมานายก็อย่าลืมทำตามคำพูดล่ะ”  เฟรินพูดขณะรีบล้มกระดานหมากรุก  พร้อมกับตีหน้าตายเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
โรได้แต่นั่งนิ่งนึกไม่ถึงกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น  ข้อตกลงที่เค้าขอให้เฟรินมาเดินหมากด้วยก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร  แต่มันสมควรแล้วหรอที่จะบอกให้เวลานี้
“นั่งอึ้งอยู่ได้  กับอีกแค่ไปบอกน้องสาวของตัวเอง  ทำหน้ายังกับจะไปตาย”  เฟรินกระซิบเสียงเบาเพื่อไม่ให้คนอื่นได้ยิน
บรรยากาศคึกคื้นภายในป้อมอัศวินมีมาตั้งแต่ตอนกลับจากการคว้าชัยชนะในการชิงตราเกียรติยศได้สำเร็จ  เป็นงานเลี้ยงที่จัดกันเองภายในป้อมอัศวิน  ทุกคนทุกชั้นปีมาร่วมงานกันอย่างสนุกสนานรื่นเริง  มีทั้งอาหารเครื่องดื่มต่างๆมากมาย  โดยได้รับอภินันทนาการจากไฮคิงพระองค์ใหม่  ซึ่งใช้ฐานะอดีตหัวหน้าป้อมอัศวินจัดเลี้ยง  เฟรินได้ไปชวนวิเวียนให้มาร่วมงานด้วย  โดยให้วิเวียนปลอมตัวมาตามที่เธอถนัด  เพราะยังไงคนก็เยอะอยู่แล้วคงไม่น่าผิดสังเกต  ซึ่งวิเวียนก็ตอบตกลงทันทีเช่นกัน
“เฟริน!!  เล่นเสร็จยัง  มาทางนี้หน่อย”  เสียงตะโกนเรียกจากเพื่อนซี้ดังขึ้น
“นายบอกให้วิเวียนสบายใจเถอะ  บอกแค่วิเวียนคนเดียวเอง  ไม่ต้องคิดมากหรอก”  เฟรินพูดปลอบใจโร  ทั้งๆที่ตัวเองแหละที่ทำให้คิดมาก  โรได้แต่ถอนหายใจเฮือก  ก่อนพยักหน้ารับ
“มีอะไร...เอ๊ะ!!  นั่นมัน...”  เฟรินเดินมาหาคิลกับเพื่อนๆปีสามอีกกลุ่มที่นั่งคุยกันอยู่  พร้อมกับเริ่มยิ้มเจ้าเล่ห์
“พวกนายเอาเข้ามาได้ยังไง”  เฟรินถามขณะเอามือไปหยิบขวดก้นกลมสีเขียวๆ  ขนาดพอมือขึ้นมาดมๆ
“ถ้าทางจะแรงนะเนี่ย  กลิ่นฉุนชะมัด”
“ความสามารถพิเศษไงล่ะ  หึๆ”  เจคว่ากลั้วหัวเราะ
“ฉลองให้กับความสำเร็จของป้อมอัศวิน”  ครี้ดพูดขณะกระดกเครื่องดื่มเข้าปาก
“ใช่ๆ  ฉลองให้กับป้อมอัศวิน”  เฟรินทำท่าจะไปหยิบขึ้นมาดื่มบ้าง
“เฟริน!!”  เสียงเรียกของบุรุษผมเงินทำให้เฟรินชะงัก  ได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ  ทำให้เพื่อนๆในวงพากันหัวเราะขำขัน
“นิดเดียวเองน่า  อย่าดุนักสิ”  เสียงออดอ้อนจากสาวน้อย  ทำให้คาโลได้แต่ส่งนัยน์ตาดุมาปราม
“นายชวนใครมา  ก็มาดูแลด้วย”  คาโลพูดเสียงเรียบ  แววตายังบ่งบอกถึงความไม่พอใจอยู่  แต่เฟรินตอนนี้กลับมีหน้าตาสดใส  นัยน์ตาสีน้ำตาลคู่โตมีประกายระริก  ก่อนเดินตามคาโลไปพร้อมกับลากคิลที่ยืนหัวเราะอยู่ข้างๆไปด้วย
“วิเวียน”  เฟรินเดินเข้าไปหาเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่รวบผมครึ่งศีรษะไว้ทางด้านหลัง  การแต่งตัวที่แสนธรรมดาก็สามารถกลมกลืนได้ดีกับผู้คนที่พบเห็น
“พี่หญิง”  เสียงตอบกลับจากวิเวียนที่หันหลังกลับมาตามเสียงเรียก
“เป็นไง มานานรึยัง  ขอโทษที่ผมไม่ได้มารับ  พอดีผม...”  เฟรินอ้ำอึ้งไม่รู้จะบอกวิเวียนยังไงดี
“อ๋อ  ไม่เป็นไรเพคะ  พอดีหญิงมาถึงก็เจอเจ้าชายคาโล  อ๊ะ!!  คุณคิล”  วิเวียนเพิ่งสังเกตเห็นคิลที่ยืนอยู่ด้านหลัง  คิลโค้งศีรษะให้เป็นการทักทาย
“งานน่าสนุกดีนะเพคะ  หญิงไม่เคยมางานแบบนี้เลย”  วิเวียนพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“จริงรึฮะ”  เฟรินแปลกใจ  แต่ก็นึกขึ้นได้ว่าวิเวียนอยู่แต่ในวังคงไม่มีเพื่อนมากนัก  เมื่อเห็นสีหน้าของวิเวียนเริ่มหมองลง  จึงรีบพูดขึ้น
“วันนี้ผมมีคนๆนึงอยากให้รู้จัก  รับรองไม่ผิดหวังแน่ๆ”  เฟรินพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นไม่แพ้กัน  ทำให้วิเวียนอยากรู้ขึ้นมาทันที
“นายแน่ใจนะเฟริน”  คิลถามเจ้าเพื่อนซี้จอมยุ่ง  ซึ่งตอนนี้คาโลได้แต่ยืนถอนหายใจอยู่ข้างๆ
“แน่ใจสิ  พวกนายน่ะไปทางโน้นก่อนเลยไป๊!!!”  เฟรินพูดพร้อมดันหลังคิลและคาโลให้เดินออกไปก่อน
“ใครหรอเพคะพี่หญิง”  วิเวียนถามขณะเดินตามเฟรินมาทางระเบียงด้านหน้าซึ่งไม่มีผู้คน
“โร!!”  เฟรินตะโกนเรียกเมื่อเห็นกับบุรุษที่เธอตามหาอยู่  โรหันมามองตามเสียงเรียก  แล้วเดินเข้ามาใกล้
“อ่ะ!!  น้องสาวนาย  นายจัดการต่อเองนะ  ฉันไปล่ะ”  เฟรินพูดพร้อมจูงมือวิเวียนเดินเข้าไปหา
“เอ๊ะ!!!  พี่หญิงพูดว่าอะไรนะเพคะ”  วิเวียนถามด้วยสีหน้างุนงง
“เดี๋ยวให้มันอธิบายเองนะ  ผมขอตัวก่อน”  เฟรินยิ้มให้อย่างร่าเริงก่อนเดินจากไป  ทิ้งให้ทั้งสองคนได้แต่ยืนนิ่งเงียบไม่พูดจาใดๆ
“สบายดีมั้ยวิเวียน”  โรถามขึ้นก่อนเพื่อทำลายความเงียบ
“คุณรู้จักฉันด้วยรึ”  วิเวียนสงสัย  ในเมื่อเธอก็ปลอมตัวแล้ว  คนอื่นๆที่เดินผ่านมายังจำเธอไม่ได้เลย  โรพยักหน้านิดๆ
“คุณคือ...”  เสียงของวิเวียนขาดหายไป  เมื่อสายตาไปสะดุดเข้ากับอะไรบางอย่างที่บุรุษเบื้องหน้าห้อยอยู่  ‘ครึ่งตราสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งเวนอล’  น้ำตาของวิเวียนพรั่งพรูออกมาด้วยความดีใจ  ก่อนโผเข้ากอดบุรุษเบื้องหน้าเอาไว้ด้วยความรู้สึกที่อัดอั้นมานาน
“เสด็จพี่...หญิง...หญิงนึกว่า...นึกว่า...เส็ดจพี่...”  เสียงที่ส่งออกมาแทบจะไม่เป็นคำพูด  ทำให้โรได้แต่ลูบผมของน้องสาว  ปลอบใจเธอด้วยความอ่อนโยน
“พี่ขอโทษที่ไม่ได้บอก  แต่น้องหญิงต้องเข้าใจนะ  ตอนนี้พี่อยู่ในฐานะของขอทานแห่งทริสทอร์  ขอให้น้องหญิงเก็บเรื่องนี้เป็นความลับได้ไหม”  น้ำเสียงของโรเอ่ยด้วยความอ่อนโยนที่มีต่อน้องสาวคนเดียวของเค้า  ที่ต้องมาแบกรับภาระอันหนักเกินกว่าวัยของเธอนัก
“ทำไมๆ  เสด็จพี่ไม่แสดงฐานะที่แท้จริง”  คำตัดพ้อจากวิเวียนทำให้โรค่อยๆดึงร่างบางที่กอดเค้าอยู่ออกมา
“พี่มีเหตุผลของพี่  หวังว่าน้องหญิงคงเข้าใจและทำตาม”  โรกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ  “เมื่อถึงเวลาพี่จะจัดการทุกอย่างเอง”  มือของเค้าค่อยๆลูบผมของวิเวียนอย่างเอ็นดู  วิเวียนพยักหน้ารับคำตามที่โรบอก
“เฟริน!!”  เสียงเรียกทำให้คนแอบดูสะดุ้งสุดตัว  ก่อนหันหน้ามาจ้องถลึงตาใส่
“นายเองหรอคาโล  ตกใจหมดเลย”
“นายมาทำอะไรอยู่ตรงนี้”  คาโลถามเสียงขรึม
“ก็ดูพี่น้องเค้าปรับความเข้าใจกันน่ะสิ  หึๆ”  เฟรินพูดพร้อมยิ้มให้อย่างอารมณ์ดี  “เอ แล้วไอ้คิลล่ะ”
“อยู่ข้างใน”  คาโลตอบสั้นๆเช่นเคย  แต่เฟรินก็ไม่ถือสาอะไร  พลางชะโงกหน้าเข้าไปดูข้างใน
“เอ๊ะ!!!  นั่นมันอยู่กับเรนอนนี่ ต้องไปช่วยมันหน่อยซะแล้ว ^^”  เฟรินทำท่าจะเดินเข้าไป  แต่มือใหญ่คว้าข้อมือบางเอาไว้ก่อน
“นายเลิกยุ่งเรื่องคนอื่นซะทีจะได้มั้ย”  คาโลถาม  ทำให้เฟรินถึงกับยัวะขึ้นมาทันที
“ทำไมฉันทำให้วิเวียนกับโรคุยกันไม่ดีตรงไหน  วิเวียนกับโรเวนจะได้มีโอกาสมากขึ้น  ส่วนไอ้คิลน่ะมันจีบสาวเป็นที่ไหน  ฉันจะไปช่วยมันผิดมากนักรึ”
“แล้วเรื่องของฉันกับนาย นายไม่คิดจะ ”  เสียงขาดๆหายๆจากคาโลทำให้เฟรินถึงกับหน้าร้อนผะผ่าว  ความโกรธที่มีอยู่นั้นกลับกลายเป็นความดีใจขึ้นมาทันที
“คาโล!!”  เสียงเรียกของสาวน้อยที่ตะลึงกับคำพูดของชายหนุ่ม  พร้อมกับดวงหน้าเริ่มขึ้นสีเหมือนสีผิวของลูกแอปเปิ้ลสุก
“เฟรินแต่งงานกับฉันนะ”  เสียงของคาโลที่ส่งมาพร้อมกับนัยน์ตาสีฟ้าคู่สวยที่มีความจริงจังแสดงออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน  พร้อมกับคุกเข่าเบื้องหน้าเฟริน  กุมมือเธอเอาไว้เพื่อรอคำตอบ
“อืม”  เฟรินพยักหน้ารับทันที  ทำให้คาโลลุกขึ้นยืน  บรรจงประทับริมฝีปากของตนลงไปบนริมฝีปากบางอย่างดูดดื่มและเนิ่นนาน  ก่อนถอนริมฝีปากออกมาเบาๆ
“เอ๊ะ!!  แต่เรายังเรียนกันอยู่นะคาโล”  เฟรินเอียงคอถามด้วยความสงสัย  ทำให้คาโลอมยิ้มน้อยๆกับความน่ารักของเจ้าหล่อน
“ก็หมั้นกันก่อนก็ได้”  คาโลตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน  ทำให้เฟรินพยักหน้ารับคำ  ก่อนคาโลจะดึงร่างบางเข้ามาสู่อ้อมกอดอันอบอุ่น
จบบริบูรณ์
-----------------------------------------------------------------
มุมจิบน้ำชา : อิอิ  หวานกันจุใจมั้ยเอ่ย ^^  ฟิคนี้ค่อนข้างสั้น  ก็ประมาณว่าเหมือนฟิคสรุปละกันนะคะ  จบแบบ Happy  Ending คงชอบใจกันนะเจ้าคะ  แต่ว่าจบแค่นี้ก็ไม่ใช่ roseate นะซิจ๊ะ  ใครอยากอ่านต่อมีบทส่งท้ายมาให้อ่านด้วยแหละ ^o^   
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น