ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {Horror Fic} 7 Day's of Nightmare

    ลำดับตอนที่ #7 : ตอนอวสาน วันอาทิตย์ของอัตตาผู้บ้าอำนาจ และคำบอกลาของยมทูต

    • อัปเดตล่าสุด 22 ก.ค. 59


    ชิ้ง!แอ๊ดดดดดโครม!เสียงต้นไม้ที่ล้มลงด้วยการตัดพริบตาเดียว ทีละต้นๆชายหญิงคู่หนึ่งกำลังวิ่งหนีบางสิ่งที่กำลังไล่ลาพวกเขาทั้งสองคน มันมีพลังที่มหาศาลยิ่งกว่าปีศาจที่พวกเขาเคยเจอตอนนี้พวกเขาทำได้แค่วิ่งหนีคิดหาวิธีที่จะเอาชนะมันเท่านั้น

        “แฮ่กแฮ่กแฮ่ก”

        “พวกแกจะหนีไปไหนกัน”

        “มาทางนี้เร็ว”

        “หนีฉันไม่พ้นหรอกออกมาให้ฆ่าซะ คุโรงาเนะ ชิโนะ!!!

    10ชั่วโมงก่อน

        “เฮ้ออออให้ตายเถอะทั้งๆที่เป็นวันอาทิตย์ แท้ๆแต่ต้องมาเรียนเสริมเนี่ยนะ”

        “อย่าบ่นมากเลยน่าปีที่แล้วก็มี”

        “เรียนเสริมเนี่ยมีทุกปีเลยเหรอ?”

        “เปล่าหรอกเพิ่งจะมีปีที่แล้วน่ะเพราะมีนักเรียน กับอาจารย์ตายก็เลยเรียนช้าจึงมาการเรียนเสริมหลักสูตรเพิ่มเติมก่อนจะขึ้นชั้นน่ะ ซึ่งปีนี้มีคนตายเยอะคงจะเรียนเสริมเยอะเอาเรื่อง”

        “งั้นเหรอนี่ทั้งสองคนจะไปเรียนต่อมหาลัยที่ไหนเหรอ”

        “มหาลัยงั้นเหรอ?ฉันว่าฉันจะไปเรียนต่อมหาลัยที่เกี่ยวกับพวกกีฬาน่ะ”

        “ส่วนฉันคิดว่าจะไปเรียนหมอน่ะ แล้วนายล่ะฮิคารุ”

        “ฉันยังไม่ได้คิดเอาไว้เลยแต่ก็คิดว่า อยากจะไปเรียนต่อวิศวกรรมคอมพิวเตอร์น่ะ”

        “เฮ้ก็ดีออกนี้นา”

        “อืมพ่อกับแม่ก็ส่งเสริมด้วยน่ะ”

        “พอพูดเรื่องจะไปเรียนต่อแล้วไม่นึกเลยนะ ว่าจะต้องแยกจากกันเร็วขนาดนี้น่ะ”

        “อะไรนายเหงาหรือไงยูกิ”

        “หึอย่างนายไปไกลๆได้ก็ดี”

        “ใจร้ายอะ”

        “1ปีที่ฉันมาเรียนที่นี่ผ่านไปเร็วจังเลยแฮะ อีกไม่กี่อาทิตย์พวกเราก็จะไม่ได้เจอกันอีกแล้วสินะ”แวบหนึ่งที่ฮิคารุเผลอทำหน้าเศร้าขึ้นมาก แล้วก็แขนของคนสองคนมาวางไว้ที่ไหล่ของเขาทั้งสองข้าง

        “เอาน่าๆอย่าทำหน้าอย่างงั้นสิไม่ว่าจะไปที่ไหน พวกเราทั้งสามคนก็ยังเป็นเพื่อนกันนะ”

        “ไดรพูดถูกแล้วล่ะพวกน่ะยังติดต่อกันได้เสอมนะ ถ้ามีเรื่องอยากปรึกษาก็โทรมาได้ทันทีเลย”

        “อืมขอบคุณทั้งสองคนมากเลยนะ”

        “เอาล่ะฉันว่าเรารีบไปกันดีก่วาเดี๋ยวจะไปสายเอา”

        “ใครวิ่งช้าเป็นไอ้ขี้แพ้”

        “อ้าวเฮ้ย!อย่าวิ่งนำไปก่อนเซ่”

        “รอฉันด้วยสิ”

       “ฮ่าฮ่าฮ่า”แล้วทั้งสามคนก็วิ่งแข่งกันไปที่โรงเรียนช่วงที่ได้อยู่กับเพื่อนๆ คือความสุขที่สุดสำหรับช่วงวัยนี้และเมื่อพวกเขาไปถึงที่ห้องแล้ว ภายในห้องมีนักเรียนเพียงไม่กี่คนอาจเป็นเพราะพวกเขาไม่อยากมาหรือมีธุระ

        “คนน้อยจังเลยนะ”

        “ก็เรื่องปกติล่ะนะเนอะยูกิ”

        “…….

        “ยูกิได้ยินที่ฉันพูดไหมหืมมมม”ไดรหันไปทิศทางที่ยูกิมองมีเด็กสาวหน้าตาดี ผมสีน้ำเงินและดวงตาก็มีสีน้ำเงินสวมแว่นตากรอบสีแดง เธอกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ข้างๆประตูทางเข้าด้านหลังห้อง

        “แหมๆ”

        เฮือก!

        “ที่แท้แอบมองชิราโฮชิยู่นี่เองแอบชอบเธอ ก็บอกไปตรงๆสิเดียวก็ไม่ได้เจอหน้ากันแล้วนะ”

        “จะจะบ้าเหรอไงฉันไม่ได้แอบชอบคันนะสักหน่อย”

        “อย่าโกหกความรู้สึกตัวเองแบบนั้นสิ”

        “ยูกินี่นายชอบคุณชิราโฮชิอย่างงั้นเหรอ”

        “บอกว่าไม่ใช่ไงโว้ยยยยย!

        “หมอนี่ก็ปากแข็งไปอย่างงั้นแหละที่จริง แอบชอบตั้งแต่ม.4แล้ว”

        “บอกว่าไม่ได้ชอบไง”

        “แล้วนายจะแอบมองเธอทำไมถ้าไม่ได้ชอบน่ะ”

        “ระเรื่องนั้นก็……

        “เธอดูไม่ค่อยเข้ากับใครเลยนะ”

        “เพราะเป็นคนเงียบน่ะถึงจะมีเพื่อน แต่ก็แค่พวกหวังผลประโยชน์เท่านั้นล่ะ”

        “เพราะฉะนั้นนายเลยเป็นห่วงเธอเหรอ”

        “ก็เคยทำงานเป็นหัวหน้าด้วยกันนี่นาตั้งแต่ เธอไม่ได้เป็นหัวหน้าก็ไม่ค่อยมีใครมาคุยกับเธอเลย”

        “อย่างงั้นเหรอ”

        “ก็นะว่าแต่เมื่อไรอาจารย์คาราสึจะมากันล่ะเนี่ย”

        “อาจารย์เป็นคนสอนเรางั้นเหรอ”

        “ ใช่ของอาจารย์คาบแรกน่ะ”

        “ถ้างั้นเดี๋ยวฉันไปตามเขาเอง”

        “นายแน่ใจนะ”

        “อืมฉันแน่ใจ”

        “ถ้างั้นไปที่พักครูเลยนะคิดว่าพวกอาจารย์น่าจะอยู่ที่นั่น”

        “ฉันเข้าใจแล้วล่ะ”ฮิคารุก็เดินออกจากห้องไปเดินไปที่ห้องพักครูตามที่ยูกิบอก ก่อนที่เขาจะเลี้ยวซ้ายต่อหัวมุมเขาก็ได้ยินเสียงของอาจารย์คาราสึ คุยกับใครคนหนึ่งที่เขารู้จักแอบฟังตรงหัวมุม

        “ป๊ะป๋าว่าชิโนะจังควรจะไปบอกเขาได้แล้วนะ”

        “มันไม่ได้จำเป็นขนาดนั้นหรอกคะ”

        “ชิโนะจังฟังที่ป๊ะป๋าพูดนะชิโนะจังไม่จำเป็นต้องสวมหน้ากากเย็นชาไปตลอดหรอก ทำตามความรู้สึกของตัวเองบ้างอย่าทำตามที่เธอคนนั้นบอกเสมอไปนะ”

        “ผู้นำตละกูลคุโรงาเนะจะไม่นำความรู้สึกนึกคิด ของตัวเองมาเป็นที่ตั้งในระหว่างการทำภารกิจไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม”พูดจบเธอก็เดินมาทางที่ฮิคารุกำลังซ่อนตัวอยู่ เขาทำอะไรไม่ได้จึงโผล่ออกไปแล้วทำตัวให้เนียนเท่านั้น ช่วงที่เดินสวนเขาสบตากับชิโนะข้างในแววตาคู่นั้นองเธอมีอะไรที่ต่างจากปกติ

        “เอออาจารย์คาราสึครับถึงเวลาสอนแล้วครับ”

        “อ้าว?งั้นเหรอแป๊บหนึ่งนะครูไปเอาของก่อนแล้วจะตามไป”

        “ครับ”แล้วฮิคารุก็กลับไปที่ห้องเมื่อเขานั่งลงที่โต๊ะได้สักพัก อาจารย์คาราสึก็เข้ามาในห้องแล้วเริ่มสอนเนื้อหาเพิ่มเติมวันนี้ทั้งวัน พวกเขาเรียนเนื้อหาเพิ่มเติมในแต่ละวิชาเวลาผ่านไปหลังเลิกเรียนทุกก็เก็บข้าวของเตรียมจะกลับบ้าน

        “ถ้างั้นก็เอาไปเจอกันพรุ่งนี้นะฮิคารุ”

        “ทั้งสองคนก็ระวังด้วยล่ะ”

        “โอเคบาย”

    …………………………………….

        รถบรรทุกคันหนึ่งขับผ่านถนนแห่งหนึ่งแล้วก็หยุดจอด ที่ตรงจุดทิ้งขยะมีชายฉกรรจ์สองคนลงมาจากรถพอกับดาบคาตานะเล่มหนึ่ง ซึ่งดูแล้วน่าจะเป็นของที่มีราคาที่แพง

        “โธ่เอ๊ย!นึกว่าเป็นของแพงที่ไหนได้ของเก๊”ชายคนที่ถือดาบขว้างไปที่ท้องขยะสุดแรง โดยความโกรธดูเหมือนเขาจะถูกหลอกมา

        “ช่วยไม่ได้รีบกลับไปเอาเรื่องเจ้าคนขายกันดีกว่า”

        “ฉันจะอัดมันให้เละเลยค่อยดูสิ”แล้วพวกเขาก็กลับขึ้นรถไปทิ้งดาบไว้ตรงนั้น เมื่อพวกเขาขับรถออกไปขณะเดียวกันก็มีเด็กสาวคนหนึ่งเดินผ่านตรงนั้นพอดี เธอแต่งตัวเรียบร้อยแต่ใบหน้าของเธอดูเคร่งครึมไม่แสดงอารมณ์อย่างอื่นเลยแม้แต่น้อย

        “(ทำไมปีนี้ถึงไม่ได้คะแนนเต็มเหมือนทุกทีล่ะ แบบนี้ก็ไม่ไหวนะลูกตั้งใจหรือเปล่า)”

        “(คันนะใกล้จะเรียนจบแล้วลูกต้องตั้งใจ สอบเข้ามหาลัยหมอดีๆให้ได้ล่ะลูกน่ะคือความหวังของครอบครัวนะ)”

        “(ปีนี้พลาดตำแหน่งหัวหน้าห้องงั้นเหรอ น่าเสียดายจังแบบนี้จะขอพึ่งพาได้หรือเปล่าเนี่ย)”

        “(ถ้าไม่ได้เป็นหัวหน้าห้องฉันว่ายัยนั่นคงไม่มีตัวตนกับเขาหรอกฮ่าฮ่าฮ่า)”

        “อึกทำไมทำไมฉันต้องเสียสิ่งสำคัญเพราะยัยนั่นด้วยนะ ถ้ายัยนั่นไม่ได้ตำแหน่งหัวหน้าห้องละก็ฉันคงไม่ต้องเสียทุกคนไปหรอก”

        “(ถ้างั้นเจ้าอยากได้อำนาจคืนไหม)”

        เฮือก!

        “นั่นใครน่ะ!

        “ข้าอยู่ตรงนี้สาวน้อย”แล้วคันนะก็หันไปตรงจุดทิ้งขยะ มีดาบเล่มหนึ่งถูกทิ้งเอาไว้มันกำลังเรียกหาเธออยู่

        “นายเป็นคนเรียกฉันงั้นเหรอ”

        “(ถูกต้องข้าจะมอบพลังให้แก่เจ้า)”

        “พลังงั้นเหรอ?”

        “(ใช่แล้วเจ้าน่ะคงถูกแย่งชิงอำนาจไปล่ะสิ)”

        “ใช่ถูกแย่งโดยผู้หญิงคนหนึ่งทั้งๆที่ ตัวเธอไม่มีอะไรเลยและไม่มีใครเข้าใกล้เธอด้วย”

        “(มันคงจะน่าเจ็บใจสินะที่ถูกคนอื่นที่ด้อยกว่าตัวเอง แย่งชิงอำนาจที่เจ้ารักษายิ่งชีพน่ะ)”

        “ถ้าเธอไม่มาที่นี่ฉันก็คงจะยังได้อยู่กับทุกคนอย่างมีความสุขแท้ๆ”

        “(เจ้าอยากได้อำนาจคือมากไหมล่ะ)”

        “แน่นอนไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไร ฉันจะทวงคืนทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอเอามันไป”

        “(ยื่นมือของเจ้าและหยิบข้าข้นมาเจ้าก็จะได้รับพลังจากข้า)”คันนะไม่ลังเลที่จะหยิบดาบขึ้นมา เมื่อมือของเธอจับที่ตัวดาบแล้วก็มีพลังไหลเข้าสู่ตัวเธอ ดวงตาสีน้ำเงินของเธอแปลเปลี่ยนเป็นสีแดงมีรอยสักสีดำเป็นเส้นๆโผล่ขึ้นตามแขนและใบหน้าของเธอ

        “เอาล่ะได้เวลาแย่งชิงอำนาจแล้ว”

    …………………………………….

        ในตอนนี้ฮิคารุกำลังเดินอยู่หน้าระเบียบห้องเรียน พอเขาใกล้จะถึงทางออกตัวอาคารก็มีหญิงสาวคนหนึ่งเรียกตัวเขา

        “คุณช่วยรอก่อนได้ไหมคะ”

        “อ้าวชิโนะมีอะไรกับฉันหรือเปล่า?”

        “ขอโทษนะคะไม่ทราบว่าจะช่วยไปกับฉันหน่อยจะได้ไหมคะ”

        “เอ๊ะ?”ชิโนะเดินนำฮิคารุมาที่ด้านหลังอาคารเรียน ฮิคารุมองไปที่ตาของเธอถึงดูภายนอกเหมือนจะไม่มีต่างไปจากปกติแต่คราวนี้รู้สึกถึงอะไรบางอย่าง

        “เธอมีเรื่องสำคัญอะไรจะบอกฉันงั้นเหรอ”

        “คือฉันจะมาบอกว่า……

        “ว่าอะไร”

        “คือฉันจะ”ก่อนที่เธอจะได้พูดก็มีเสียงของใครบางคนพูดแทรกขึ้นมา

        “ในที่สุดก็หาตัวเจอจนได้”ทั้งสองคนสัมผัสถึงพลังมหาศาลจากบุคคลที่สาม ชิโนะเรียกเคียวคู่ใจของเธอออกมาเตรียมพร้อมที่จะสู้

        “นี่คุณไปเอาดาบนั่นมาจากไหนคุณชิราโฮชิ”

        “ดาบเนี่ยน่ะเหรอ?ฉันไม่จำเป็นต้องตอบคำถามของเธอ ฉันมาเพื่อฆ่าเธอโดยเฉพาะเลยล่ะ”

        “คุณชิราโฮชิคุณรู้หรือเปล่าว่ากำลังทำอะไร”

        “รู้สิว่าฉันจะฆ่ายัยแม่มดนี้ไงล่ะ”

        “คุณถูกควบคุมอยู่นะ”

        “หนวกหู!มันไม่เกี่ยวกับนายแต่ถ้าอยากตาย พร้อมกับยัยนี้ฉันก็จะสนองให้!!!”คันนะพุ่งมาพร้อมกับดาบในมือเธอกำลังจะเข้าไปฝันฮิคารุ แต่ชิโนะก็ใช้เคียวรับการโจมตีเอาไว้

        “เฮ้!เธอก็เก่งดีหนิแต่เจอแบบนี้แล้วจะทำยังไง”คันนะกะหน่ำการโจมตีเข้าเรื่อยๆชิโนะก็ถอยไปด้านหลัง เพราะแรงที่ฝันมาอย่างไม่หยุดหยั่ง เมื่อถึงดาบสุดท้ายคันนะก็ปัดเคียวหลุดออกจากมือของชิโนะจนได้ปลายดาบขู่ดเข้าที่แก้มของเธอจนเป็นแผล มีเลือดออกเมื่อท่าไม่ดีฮิคารุรีบจับมือชิโนะแล้วกระโดดข้ามกำแพงไปหนีเข้าไปในป่า คันนะก้ไม่รอช้าเธอใช้ดาบฝันกำแพงเป็นช่องแล้วตามเขาทั้งสองคนไป

        “แฮ่กแฮ่กแฮ่ก”

        “พวกแกจะหนีไปไหนกัน”

        “มาทางนี้เร็ว”

        “หนีฉันไม่พ้นหรอกออกมาให้ฆ่าซะ คุโรงาเนะ ชิโนะ!!!”ตอนนี้ทั้งสองคนกำลังซ่อนอยู่หลังต้นไม้ใหญ่พวกเขาได้ความมืดช่วยในการหลบซ่อน ครั้งแรกที่ถูกไล่ล่ายังเป็นช่วงที่พระอาทิตย์ยังไม่ตกแต่ตอนนี้พระอาทิตย์ได้ลับขอบฟ้าไปแล้ว เหลือเพียงแต่ความมืดมิดเท่านั้นฮิคารุกำลังใช้สมาธิเพื่อหาวิธีเอาตัวรอดแล้วชิโนะก็พูดออกมาทำให้สมาธิของเขาหายไป

        “คุณน่ะรีบใช้โอกาสนี้หนีไปซะ”

        “พูดอะไรน่ะฉันจะทิ้งเธอแล้วหนีไปได้ยังไง”

        “เธอคนนั้นตามแค่ฉันคนเดียว คุณไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกันกับฉัน”

        “ไม่!ฉันไม่มีวันทิ้งเธอไปเด็ดขาด”

        “ทำไมคุณถึงหัวดื้อได้ขนาดนี้นะ”

         “เพราะว่าฉันไม่อยากให้ใครตายอีกแล้ว ทั้งเธอทั้งคุณชิราโฮชิด้วย”

        “เธอคนนั้นถูกครอบงำไปแล้วไม่มีทางกลับมาเป็นเหมือนเดิมหรอก”

        “ไม่ลองก็ไม่รู้สิว่าจะช่วยเธอได้หรือไม่ได้”ฮิคารุหลับตาลงรวบรวมสมาธิอีกครั้ง

        “(คิดสิคิดฮิคารุทำยังไงถึงจะแก้ปัญหานี้ได้)”

        “(ฉันไม่อยากสูญเสียตำแหน่งหัวหน้าไป)”

        “(เอ๊ะ!?เสียงนี้หรือว่า)”ฮิคารุหันไปที่คันนะเธอกำลังฝันต้นไม้ล้มลงไปหลายต้นเพื่อที่จะหาตัวพวกเขา

        “(ถ้ามันเป็นอย่างที่เราคิดล่ะก็)”

        “เดี๋ยวนั่นคุณจะทำอะไรน่ะ”ฮิคารุวิ่งออกไปจากที่ซ่อนเผชิญหน้าคันนะแบบตรงๆ

        “หึออกมาจากที่ซ่อนตัวเหรอห๊ะ”

        “คุณชิราโฮชิทำไมถึงต้องการตำแหน่งหัวหน้าห้อง ขนาดนั้นด้วยล่ะมันสำคัญมากถึงกับทำให้คุณต้องฆ่าคนเลยอย่างงันเหรอ”

        “อย่างนายจะไปเข้าใจอะไรฉันล่ะคนที่ได้ถูกขาดหวังอะไรเลยน่ะ”

        “คุณก็เรียนเก่งเพื่อนคุณก็มีไม่ใช่เหรอ”

        “คนพวกนั้นไม่ใช่เพื่อนฉันหรอกใช่แต่ถึงอย่างงั้น ฉันก็แกล้งทำเป็นโง่ต่อไปตั้งแต่เด็กแล้วตัวฉันไม่เคยมีเพื่อนเลยพ่อกับแม่ก็ไม่เคยเห็นหัวฉัน พวกเขาเอาแต่สนใจพี่สาวที่เป็นหน้าเป็นตาให้กับครอบครัวฉันถูกทิ้งดังนั้นแล้วฉันก็เริ่มตั้งใจขยันเรียน จนได้เป็นหัวหน้าห้องได้รับคำชื่นชมมากมายจากพวกครู เพื่อนๆและที่สำคัญที่สุดพ่อกับแม่ก็หันมาสนใจในตัวฉัน แต่ว่าเพราะยัยนั่นแย่งตำแหน่งของฉันไปทุกๆคนเริ่มถอยจากฉันต่อให้มันเป็นเพียงแค่ภาพหลอนฉันก็จะไม่มีวันที่จะยอมเสียไปหรอก”

    “แบบนั้นมันไม่ถูกต้องนะ”

        “หนวกหู!หนวดหูๆๆๆ!ไม่มีใครยอมเป็นเพื่อนจริงให้กับฉันหรอก คนที่ทำตัวจืดชืดไม่มีอะไรดีนอกจากสมองน่ะ”

        “มีสิฉันนี่ไงที่จะเป็นเพื่อนกับเธอ”

        “เอ๊ะ!?...นายโกหกไม่มีใครสนใจคนอย่างฉันหรอก”

        “ต้องมีสิยูกิน่ะเขาเป็นห่วงเธอมากเลยนะ”

        “ยูกิ”ภาพในความทรงจำที่เธอได้ทำงานร่วมกับยูกิมันก็ หลั่งไหลออกมามีเพียงแค่เขาเท่านั้นที่ค่อยพูดคุยกับเธอแบบจริงจัง ใบหน้าของคันนะเริ่มมีน้ำตาไหลออกมา

        “คุณชิราโฮชิคุณพูดออกสิว่า ฉันขอเป็นเพื่อนนายได้ไหม”

        “ฉันฉันน่ะ”

        “(แย่แล้วยัยเด็กนี่กำลังหลุดจากการควบคุม อย่าไปฟังที่มันพูดนะไม่มีใครที่อยากเป็นเพื่อนเธอถ้าเธอไม่ได้เป็นหัวหน้าหรอก)”

        “ฉันฉันขอเป็นเพื่อนกันกับนายได้ม่ายยยยยยยย!!!

        “ตอนนี้แหละชิโนะ”เมื่อได้สัญญาณเธอก็พุ่งออกไปและใช้เคียว ปัดดาบให้หลุดออกจากมือของคันนะแล้วคันนะก็หมดสติไป ฮิคารุรีบไปประครองร่างของเธอเอาไว้

        “ยะอย่าทำอะไรข้าเลยนะข้ากลัว”

        “ปีศาจอย่างพวกเจ้าไม่มีค่าพอจะมีชีวิตอยู่ต่อไปหรอก”เธอหยิบดาบขึ้นแล้วฝันไปที่คมมีดของเคียว จนตัวดาบหันและแตกเป็นชิ้น

         “ดูเหมือนว่าเธอจะหมดสติไปจะทำยังไงต่อดีล่ะ”

        “ฉันโทรแจ้งรถพยาบาลเมื่อกี้แล้ว อีกสักพักก็คงจะมาแล้ว”

        “โล่งอกไปที….จริงสิชิโนะก่อนหน้านี้เธอมีอะไรจะคุยกับฉันเหรอ”

        “ฉันแค่ก็จะบอกว่า…..ลาก่อน”

        “มันหมายความยังไงกันน่ะ”เธอไม่ตอบแล้วเธอก็หายตัวไปพร้อมกับสายลม ปล่อยให้ฮิคารุอยู่ตามลำพังกับคันนะเมื่อชิโนะไปแล้วฮิคารุจึงพาคันนะ มาไว้ที่ศาลเจ้าที่เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราว

    …………………………………….

        เช้าวันต่อมาซึ่งเป็นวันปกติธรรมดาๆแต่ว่าจากเหตุการณ์เมื่อคืนวาน ทำให้ฮิคารุรู้สึกสังหรณ์ใจไม่มีดีตัวเขาเองก็ไม่แน่ใจว่า สิ่งที่เขารู้สึกในตอนนี้มันคืออะไรเขาจึงรีบไปโรงเรียนให้เร็วที่สุดเมื่อเขาไปถึงหน้าห้องเรียนของเขาฮิคารุสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วเลื่อนประตูห้องเขายังไม่เห็นเด็กสาวที่นั่งอยู่ข้างหลังของเขาเลยซึ่งปกติเธอจะมาก่อนเขาเสมอ

        “(ลาก่อน)”

        “ที่เธอพูดนั่นเป็นความจริงงั้นเหรอ”เพื่อความแน่ใจฮิคารุจึงเดินไปถามเพื่อนสนิททั้งสองคนที่กำลังนั่งคุยกันอยู่

        “อรุณสวัสดิ์ทั้งสองคน”

        “อ้าว!ไงฮิคารุอรุณสวัสดิ์”

        “เออนี่ทั้งสองคนพอดีฉันมีเรื่องอยากจะถามน่ะ”

        “ได้สิถามมาได้เลย”

        “คือมันก็อาจจะไม่ควรถามเท่าไรแต่ พวกนายสองคนพอจะรู้ไหมว่าชิโนะเธอไปที่ไหน”

        “ชิโนะ?ใครกันงั้นเหรอ?”

        “นี่ล้อเล่นอะไรกันน่ะก็ เธอนั่งอยู่ข้างหลังฉันไง”ไดรกับยูกิหันมามองหน้ากันครั้งหนึ่งด้วยความสงสัย

        “ฮิคารุนายเอาหัวไปกระแทกอะไรมาหรือเปล่า”

        “ห๊ะ?”

        “ที่ห้องของเราน่ะไม่มีคนชื่อนี้อยู่เลยนะ เธอเป็นนักเรียนใหม่เหรอไง”

        “แต่นี่มันจะเรียนจบอยู่แล้วนะใครจะมาย้ายมาตอนนี้กันเล่า”

        “เอ่อนั่นสินะ”

        “(เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่)”

        “อ้าวฮิคารุนั่นนายจะไปไหนน่ะ”

        “ต้องไปถามอาจารย์คาราสึถ้าเป็นอาจารย์ต้องบอกได้แน่ๆ”

        “เอ๋?อาจารย์คาราสึงั้นเหรอ ครูไม่เห็นว่ามีอาจารย์ชื่อนี้อยู่เลยนะ”

        “อาจารย์ที่สอนวิชาประวัติศาสตร์ไงล่ะครับ”

        “อาจารย์ที่สอนวิชาประวัติศาสตร์งั้นเหรอ ก็มีอาจารย์ไซคากิยังไงล่ะจ้ะ”อาจารย์สาวชี้นิ้วไปทางชายชราไว้หนวดหัวขาวตัวอ้วนตามวัยคนแก่

        “เออถ้างั้นขอโทษที่มารบกวนนะครับ”

        “จ้ะไม่เป็นไร”

        “นี่มันเกิดอะไรขึ้นทำไมทุกคนถึงจำทั้งสองคนไม่ได้”ฮิคารุพยายามอดทนรอเวลาเลิกเรียนเพื่อนที่จะได้ออกไปตามหาทั้งสองคน และความอดทนของเขาก็สำเร็จมันถึงเวลาเลิกเรียนแล้วเขารีบเก็บของใส่กระเป๋าทันที

        “ฮิคารุวันนี้ว่างไหมไปเล่นบาสกัน”

        “ขอโทษทีนะฉันมีธุระด่วนน่ะ”

        “หมอนั่นรีบไปไหนของเขากันนะ?”

        “ไม่รู้สิ”ฮิคารุออกแรงวิ่งให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เขาไปยังสถานที่ต่างๆ ที่คิดว่าพวกเขาทั้งสองคนจะอยู่เขาเดินถามพวกชาวบ้าน ก็ไม่มีใครจักพวกเขาเลยฮิคารุลองไปที่ศาลเจ้าต้องสาปที่ๆเจอกับชิโนะและได้พบเจอกับเรื่องราวมากมายจนเขาเริ่มหมดแรงเขาหยุดพักหายใจ เขาวิ่งแทบเกือบจะรอบหมู่บ้านเขาก็ยังไม่เจอสองพ่อลูกเลยพระอาทิตย์ก็ใกล้จะตกลับขอบฟ้าเขาเริ่มหมดหวัง จู่ๆเขาก็ได้ยินเสียงอะไรบ้างอย่างเหมือนเสียงเครื่องจักรและเสียงหวูดรถไฟ

    บู๊นนนนน บู๊นนนนน

        “เสียงนี่มัน….จริงสิที่หมู่บ้านมีสถานีรถไฟเล็กๆอยู่นี่นา ทำไมฉันถึงคิดไม่ออกนะ”เขาเริ่มออกวิ่งอีกครั้งไปยังสถานี้รถไฟซึ่งมันอยู่ไม่ไกลจากที่เขาหยุดพัก มากเมื่อเขาขึ้นบันไดไปที่ชานชาลารถไฟเขาก็เห็นเด็กสาวผมสีดำเดินขึ้นไปที่รถไฟ แล้วรถไฟก็เคลื่อนตัวช้าๆและเริ่มเร็วขึ้นเพื่อที่จะออกชานชาลาแล้ว

        “แฮ่กแฮ่กแฮ่กเดี๋ยวๆรอก่อนสิ”ฮิคารุวิ่งตามรถไฟไป

        “อย่าเพิ่งรีบไปสิฉันยังมีเรื่องที่ต้องบอกเธออีกนะฉันน่ะฉันน่ะ….ฉันชอบเธอออออ!!!

        ตึง!ฮิคารุวิ่งติดราวกั้นสถานีรถไฟเขาได้แต่มองรถไฟ ที่วิ่งไปตามรางจนลับสายตาไป

        ตึง!

        “โธ่เอ๊ย!

        “เมื่อกี้คุณพูดเล่นใช่ไหม”

        “!?”เสียงอันคุณเคยของเด็กสาวคนหนึ่งที่เขารู้จัก ฮิคารุค่อยๆหันหลังไปมีเด็กสาวคนหนึ่งผมของเธอสีดำผูกด้วยโบว์สองสีดวงตาสีแดง ในชุดประโปรงยาวสีขาวสวมเสื้อยีนส์แขนยาวทับ หมวกฟางใบใหญ่มือซ้ายถือกระเป๋าเดินทาง

        “คุณได้ยินที่ฉันพูดไหม”

        หมับชิโนะยังไม่ทันตั้งตัวก็ถูกฮิคารุกอด เธอตกใจเล็กน้อยกับการกระธรรมของเขา

        “จะจากกันก็ช่วยบอกลากันดีๆหน่อยสิ”

        “ฉันต้องขอโทษด้วยคะ”แล้วฮิคารุก็ปล่อยแขนที่กอดชิโนะออก ทั้งสองต่างสบตากัน

        “หลังจากทำภารกิจเสร็จสิ้นตระกูลของเรา จะทำการลบความทรงจำของผู้คนในสถานที่ที่เราทำหน้าที่อยู่”

        “แล้วทำไมถึงไม่ลบความทรงจำของฉันด้วยล่ะ”

        “……….

        “ฉันน่ะคิดว่าจะไม่ได้บอกกับความรู้สึกกับเธอซะแล้ว”

        “ฉันแค่คิดว่าอยากจะไปจากที่นี่โดยที่ไม่ต้องการเจอ หน้าคุณเพราะฉันไม่อยากบอกลาตรงๆกับคุณมันน่าเศร้าตระกูลของฉัน ไม่ต้องการให้ผู้นำทอดตระกูลนำความรู้สึกมาในภารกิจเพราะฉะนั้นฉันพยายามจะหนีความรู้สึกของตัวเอง”

        “ฉันเข้าใจแล้วล่ะ”

        “ตัวฉันน่ะดีใจมากๆเลยนะคะ ที่มีคนค่อยคุยกับฉันไม่ว่าภายนอกของจะเป็นยังไง”

        “อืม”

        “ฉันน่ะชอบคุณมากเลยนะ”

        “อืม”

        “ฉันน่ะไม่ได้อยากไปจากคุณเลยจริงๆนะ”

        “ฉันรู้แต่ฉันคิดว่าพวกเราสองคนคงจะได้เจอกันอีกแน่ๆ ว่าแต่ฉันคิดว่าเธอไปแล้วซะอีกนะ”

        “รถไฟขบวนที่ฉันจะขึ้นเหลืออีก10นาทีแล้วป๊ะป๋า ก็ไปเอาของที่ลืมไว้น่ะค่ะ”

        “ชิโนะจังขอโทษที่ทำให้รอนะ อ้าว?ฮิคารุคุงมาส่งด้วยงั้นเหรอ”

        “ครับ”

    บู๊นนนนนน บู๊นนนนน

        “รถไฟของพวกเรามาโน้นแล้ว”รถไฟจอดเทียบชานชาลาคาราสึเลยของ เอากระเป๋าขึ้นไปไว้บนรถไฟ

        “ต้องจากกันแล้วสินะ”

        “ค่ะ”

        “ชิโนะถ้าหากเธอไม่ได้อยู่ด้วยแล้วถ้าหากสักวันหนึ่ง ฉันเป็นตัวต้นเหตุให้คนอื่นตายอีกฉันควรจะทำยังไงดี”

        “คุณยังจำนกที่ฉันพับให้คุณได้ถ้าหากคุณต้องการ ความช่วยเหลือคุณก็เรียกฉันผ่านสิ่งนั้นได้เลย”

        “ชิโนะจังคนขับรถไฟบอกว่าจะออกรถแล้วนะ”

        “ฉันต้องไปแล้ว”

        “ขอให้โชคดีนะ”

        “ค่ะ!”เป็นครั้งแรกที่ฮิคารุได้เห็นรอยยิ้มของชิโนะ มันช่างสดใสเหมือนพระอาทิตย์ยามเช้ารถไฟได้ออกจากชานชาลาฮิคารุยื่นส่งชิโนะ อยู่ตรงนั้นจนรถไฟได้ลับไปจากสายตาของเขาเดินกลับบ้านไปโดยยังหวังว่าตราบใดที่โลกยังมีเรื่องลี้ลับอยู่ สักวันหนึ่ง

    ก็คงจะได้พบกับเธออีกครั้งไม่เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน

       Ending












    ก็จบกันไปแล้วสำหรับซีรี่ส์เรื่อนี้ขอบคุณที่ติดตาม

    กันมาจนถึงตอนจบนะคะและตอนนี้โรลก็ได้

    สร้างเพจเพื่อให้ทุกคนไปคอมเม้นท์ว่าควรจะ

    ปรับปรุงยังไงหรืออยากให้แต่งแนวไหนบอกไดค่ะ

    https://www.facebook.com/Worlds-story-1768584486697503/?ref=aymt_homepage_panel








     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×