คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ตอนอวสาน วันอาทิตย์ของอัตตาผู้บ้าอำนาจ และคำบอกลาของยมทูต
ชิ้ง!แอ๊ดดดดดโครม!เสียงต้นไม้ที่ล้มลงด้วยการตัดพริบตาเดียว
ทีละต้นๆชายหญิงคู่หนึ่งกำลังวิ่งหนีบางสิ่งที่กำลังไล่ลาพวกเขาทั้งสองคน
มันมีพลังที่มหาศาลยิ่งกว่าปีศาจที่พวกเขาเคยเจอตอนนี้พวกเขาทำได้แค่วิ่งหนีคิดหาวิธีที่จะเอาชนะมันเท่านั้น
“แฮ่กแฮ่กแฮ่ก”
“พวกแกจะหนีไปไหนกัน”
“มาทางนี้เร็ว”
“หนีฉันไม่พ้นหรอกออกมาให้ฆ่าซะ
คุโรงาเนะ ชิโนะ!!!”
10ชั่วโมงก่อน
“เฮ้ออออ…ให้ตายเถอะทั้งๆที่เป็นวันอาทิตย์
แท้ๆแต่ต้องมาเรียนเสริมเนี่ยนะ”
“อย่าบ่นมากเลยน่าปีที่แล้วก็มี”
“เรียนเสริมเนี่ยมีทุกปีเลยเหรอ?”
“เปล่าหรอกเพิ่งจะมีปีที่แล้วน่ะเพราะมีนักเรียน
กับอาจารย์ตายก็เลยเรียนช้าจึงมาการเรียนเสริมหลักสูตรเพิ่มเติมก่อนจะขึ้นชั้นน่ะ ซึ่งปีนี้มีคนตายเยอะคงจะเรียนเสริมเยอะเอาเรื่อง”
“งั้นเหรอนี่ทั้งสองคนจะไปเรียนต่อมหาลัยที่ไหนเหรอ”
“มหาลัยงั้นเหรอ?ฉันว่าฉันจะไปเรียนต่อมหาลัยที่เกี่ยวกับพวกกีฬาน่ะ”
“ส่วนฉันคิดว่าจะไปเรียนหมอน่ะ แล้วนายล่ะฮิคารุ”
“ฉันยังไม่ได้คิดเอาไว้เลยแต่ก็คิดว่า
อยากจะไปเรียนต่อวิศวกรรมคอมพิวเตอร์น่ะ”
“เฮ้ก็ดีออกนี้นา”
“อืมพ่อกับแม่ก็ส่งเสริมด้วยน่ะ”
“พอพูดเรื่องจะไปเรียนต่อแล้วไม่นึกเลยนะ ว่าจะต้องแยกจากกันเร็วขนาดนี้น่ะ”
“อะไรนายเหงาหรือไงยูกิ”
“หึ…อย่างนายไปไกลๆได้ก็ดี”
“ใจร้ายอะ”
“1ปีที่ฉันมาเรียนที่นี่ผ่านไปเร็วจังเลยแฮะ
อีกไม่กี่อาทิตย์พวกเราก็จะไม่ได้เจอกันอีกแล้วสินะ”แวบหนึ่งที่ฮิคารุเผลอทำหน้าเศร้าขึ้นมาก
แล้วก็แขนของคนสองคนมาวางไว้ที่ไหล่ของเขาทั้งสองข้าง
“เอาน่าๆอย่าทำหน้าอย่างงั้นสิไม่ว่าจะไปที่ไหน
พวกเราทั้งสามคนก็ยังเป็นเพื่อนกันนะ”
“ไดรพูดถูกแล้วล่ะพวกน่ะยังติดต่อกันได้เสอมนะ
ถ้ามีเรื่องอยากปรึกษาก็โทรมาได้ทันทีเลย”
“อืมขอบคุณทั้งสองคนมากเลยนะ”
“เอาล่ะฉันว่าเรารีบไปกันดีก่วาเดี๋ยวจะไปสายเอา”
“ใครวิ่งช้าเป็นไอ้ขี้แพ้”
“อ้าวเฮ้ย!อย่าวิ่งนำไปก่อนเซ่”
“รอฉันด้วยสิ”
“ฮ่าฮ่าฮ่า”แล้วทั้งสามคนก็วิ่งแข่งกันไปที่โรงเรียนช่วงที่ได้อยู่กับเพื่อนๆ
คือความสุขที่สุดสำหรับช่วงวัยนี้และเมื่อพวกเขาไปถึงที่ห้องแล้ว
ภายในห้องมีนักเรียนเพียงไม่กี่คนอาจเป็นเพราะพวกเขาไม่อยากมาหรือมีธุระ
“คนน้อยจังเลยนะ”
“ก็เรื่องปกติล่ะนะเนอะยูกิ”
“…….”
“ยูกิได้ยินที่ฉันพูดไหมหืมมมม…”ไดรหันไปทิศทางที่ยูกิมองมีเด็กสาวหน้าตาดี
ผมสีน้ำเงินและดวงตาก็มีสีน้ำเงินสวมแว่นตากรอบสีแดง
เธอกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ข้างๆประตูทางเข้าด้านหลังห้อง
“แหมๆ”
เฮือก!
“ที่แท้แอบมองชิราโฮชิยู่นี่เองแอบชอบเธอ
ก็บอกไปตรงๆสิเดียวก็ไม่ได้เจอหน้ากันแล้วนะ”
“จะ…จะบ้าเหรอไงฉันไม่ได้แอบชอบคันนะสักหน่อย”
“อย่าโกหกความรู้สึกตัวเองแบบนั้นสิ”
“ยูกินี่นายชอบคุณชิราโฮชิอย่างงั้นเหรอ”
“บอกว่าไม่ใช่ไงโว้ยยยยย!”
“หมอนี่ก็ปากแข็งไปอย่างงั้นแหละที่จริง
แอบชอบตั้งแต่ม.4แล้ว”
“บอกว่าไม่ได้ชอบไง”
“แล้วนายจะแอบมองเธอทำไมถ้าไม่ได้ชอบน่ะ”
“ระ…เรื่องนั้นก็……”
“เธอดูไม่ค่อยเข้ากับใครเลยนะ”
“เพราะเป็นคนเงียบน่ะถึงจะมีเพื่อน แต่ก็แค่พวกหวังผลประโยชน์เท่านั้นล่ะ”
“เพราะฉะนั้นนายเลยเป็นห่วงเธอเหรอ”
“ก็เคยทำงานเป็นหัวหน้าด้วยกันนี่นาตั้งแต่
เธอไม่ได้เป็นหัวหน้าก็ไม่ค่อยมีใครมาคุยกับเธอเลย”
“อย่างงั้นเหรอ”
“ก็นะว่าแต่เมื่อไรอาจารย์คาราสึจะมากันล่ะเนี่ย”
“อาจารย์เป็นคนสอนเรางั้นเหรอ”
“ ใช่ของอาจารย์คาบแรกน่ะ”
“ถ้างั้นเดี๋ยวฉันไปตามเขาเอง”
“นายแน่ใจนะ”
“อืมฉันแน่ใจ”
“ถ้างั้นไปที่พักครูเลยนะคิดว่าพวกอาจารย์น่าจะอยู่ที่นั่น”
“ฉันเข้าใจแล้วล่ะ”ฮิคารุก็เดินออกจากห้องไปเดินไปที่ห้องพักครูตามที่ยูกิบอก
ก่อนที่เขาจะเลี้ยวซ้ายต่อหัวมุมเขาก็ได้ยินเสียงของอาจารย์คาราสึ
คุยกับใครคนหนึ่งที่เขารู้จักแอบฟังตรงหัวมุม
“ป๊ะป๋าว่าชิโนะจังควรจะไปบอกเขาได้แล้วนะ”
“มันไม่ได้จำเป็นขนาดนั้นหรอกคะ”
“ชิโนะจังฟังที่ป๊ะป๋าพูดนะชิโนะจังไม่จำเป็นต้องสวมหน้ากากเย็นชาไปตลอดหรอก
ทำตามความรู้สึกของตัวเองบ้างอย่าทำตามที่เธอคนนั้นบอกเสมอไปนะ”
“ผู้นำตละกูลคุโรงาเนะจะไม่นำความรู้สึกนึกคิด ของตัวเองมาเป็นที่ตั้งในระหว่างการทำภารกิจไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม”พูดจบเธอก็เดินมาทางที่ฮิคารุกำลังซ่อนตัวอยู่
เขาทำอะไรไม่ได้จึงโผล่ออกไปแล้วทำตัวให้เนียนเท่านั้น
ช่วงที่เดินสวนเขาสบตากับชิโนะข้างในแววตาคู่นั้นองเธอมีอะไรที่ต่างจากปกติ
“เออ…อาจารย์คาราสึครับถึงเวลาสอนแล้วครับ”
“อ้าว?งั้นเหรอแป๊บหนึ่งนะครูไปเอาของก่อนแล้วจะตามไป”
“ครับ”แล้วฮิคารุก็กลับไปที่ห้องเมื่อเขานั่งลงที่โต๊ะได้สักพัก
อาจารย์คาราสึก็เข้ามาในห้องแล้วเริ่มสอนเนื้อหาเพิ่มเติมวันนี้ทั้งวัน
พวกเขาเรียนเนื้อหาเพิ่มเติมในแต่ละวิชาเวลาผ่านไปหลังเลิกเรียนทุกก็เก็บข้าวของเตรียมจะกลับบ้าน
“ถ้างั้นก็เอาไปเจอกันพรุ่งนี้นะฮิคารุ”
“ทั้งสองคนก็ระวังด้วยล่ะ”
“โอเคบาย”
…………………………………….
รถบรรทุกคันหนึ่งขับผ่านถนนแห่งหนึ่งแล้วก็หยุดจอด
ที่ตรงจุดทิ้งขยะมีชายฉกรรจ์สองคนลงมาจากรถพอกับดาบคาตานะเล่มหนึ่ง
ซึ่งดูแล้วน่าจะเป็นของที่มีราคาที่แพง
“โธ่เอ๊ย!นึกว่าเป็นของแพงที่ไหนได้ของเก๊”ชายคนที่ถือดาบขว้างไปที่ท้องขยะสุดแรง
โดยความโกรธดูเหมือนเขาจะถูกหลอกมา
“ช่วยไม่ได้รีบกลับไปเอาเรื่องเจ้าคนขายกันดีกว่า”
“ฉันจะอัดมันให้เละเลยค่อยดูสิ”แล้วพวกเขาก็กลับขึ้นรถไปทิ้งดาบไว้ตรงนั้น
เมื่อพวกเขาขับรถออกไปขณะเดียวกันก็มีเด็กสาวคนหนึ่งเดินผ่านตรงนั้นพอดี
เธอแต่งตัวเรียบร้อยแต่ใบหน้าของเธอดูเคร่งครึมไม่แสดงอารมณ์อย่างอื่นเลยแม้แต่น้อย
“(ทำไมปีนี้ถึงไม่ได้คะแนนเต็มเหมือนทุกทีล่ะ
แบบนี้ก็ไม่ไหวนะลูกตั้งใจหรือเปล่า)”
“(คันนะใกล้จะเรียนจบแล้วลูกต้องตั้งใจ
สอบเข้ามหาลัยหมอดีๆให้ได้ล่ะลูกน่ะคือความหวังของครอบครัวนะ)”
“(ปีนี้พลาดตำแหน่งหัวหน้าห้องงั้นเหรอ
น่าเสียดายจังแบบนี้จะขอพึ่งพาได้หรือเปล่าเนี่ย)”
“(ถ้าไม่ได้เป็นหัวหน้าห้องฉันว่ายัยนั่นคงไม่มีตัวตนกับเขาหรอกฮ่าฮ่าฮ่า)”
“อึก…ทำไม…ทำไมฉันต้องเสียสิ่งสำคัญเพราะยัยนั่นด้วยนะ
ถ้ายัยนั่นไม่ได้ตำแหน่งหัวหน้าห้องละก็ฉันคงไม่ต้องเสียทุกคนไปหรอก”
“(ถ้างั้นเจ้าอยากได้อำนาจคืนไหม)”
เฮือก!
“นั่นใครน่ะ!”
“ข้าอยู่ตรงนี้สาวน้อย”แล้วคันนะก็หันไปตรงจุดทิ้งขยะ
มีดาบเล่มหนึ่งถูกทิ้งเอาไว้มันกำลังเรียกหาเธออยู่
“นายเป็นคนเรียกฉันงั้นเหรอ”
“(ถูกต้องข้าจะมอบพลังให้แก่เจ้า)”
“พลังงั้นเหรอ?”
“(ใช่แล้วเจ้าน่ะคงถูกแย่งชิงอำนาจไปล่ะสิ)”
“ใช่ถูกแย่งโดยผู้หญิงคนหนึ่งทั้งๆที่
ตัวเธอไม่มีอะไรเลยและไม่มีใครเข้าใกล้เธอด้วย”
“(มันคงจะน่าเจ็บใจสินะที่ถูกคนอื่นที่ด้อยกว่าตัวเอง
แย่งชิงอำนาจที่เจ้ารักษายิ่งชีพน่ะ)”
“ถ้าเธอไม่มาที่นี่ฉันก็คงจะยังได้อยู่กับทุกคนอย่างมีความสุขแท้ๆ”
“(เจ้าอยากได้อำนาจคือมากไหมล่ะ)”
“แน่นอนไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไร ฉันจะทวงคืนทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอเอามันไป”
“(ยื่นมือของเจ้าและหยิบข้าข้นมาเจ้าก็จะได้รับพลังจากข้า)”คันนะไม่ลังเลที่จะหยิบดาบขึ้นมา
เมื่อมือของเธอจับที่ตัวดาบแล้วก็มีพลังไหลเข้าสู่ตัวเธอ ดวงตาสีน้ำเงินของเธอแปลเปลี่ยนเป็นสีแดงมีรอยสักสีดำเป็นเส้นๆโผล่ขึ้นตามแขนและใบหน้าของเธอ
“เอาล่ะได้เวลาแย่งชิงอำนาจแล้ว”
…………………………………….
ในตอนนี้ฮิคารุกำลังเดินอยู่หน้าระเบียบห้องเรียน
พอเขาใกล้จะถึงทางออกตัวอาคารก็มีหญิงสาวคนหนึ่งเรียกตัวเขา
“คุณช่วยรอก่อนได้ไหมคะ”
“อ้าวชิโนะมีอะไรกับฉันหรือเปล่า?”
“ขอโทษนะคะไม่ทราบว่าจะช่วยไปกับฉันหน่อยจะได้ไหมคะ”
“เอ๊ะ?”ชิโนะเดินนำฮิคารุมาที่ด้านหลังอาคารเรียน
ฮิคารุมองไปที่ตาของเธอถึงดูภายนอกเหมือนจะไม่มีต่างไปจากปกติแต่คราวนี้รู้สึกถึงอะไรบางอย่าง
“เธอมีเรื่องสำคัญอะไรจะบอกฉันงั้นเหรอ”
“คือฉันจะมาบอกว่า……”
“ว่าอะไร”
“คือฉันจะ…”ก่อนที่เธอจะได้พูดก็มีเสียงของใครบางคนพูดแทรกขึ้นมา
“ในที่สุดก็หาตัวเจอจนได้”ทั้งสองคนสัมผัสถึงพลังมหาศาลจากบุคคลที่สาม
ชิโนะเรียกเคียวคู่ใจของเธอออกมาเตรียมพร้อมที่จะสู้
“นี่คุณไปเอาดาบนั่นมาจากไหนคุณชิราโฮชิ”
“ดาบเนี่ยน่ะเหรอ?ฉันไม่จำเป็นต้องตอบคำถามของเธอ
ฉันมาเพื่อฆ่าเธอโดยเฉพาะเลยล่ะ”
“คุณชิราโฮชิคุณรู้หรือเปล่าว่ากำลังทำอะไร”
“รู้สิว่าฉันจะฆ่ายัยแม่มดนี้ไงล่ะ”
“คุณถูกควบคุมอยู่นะ”
“หนวกหู!มันไม่เกี่ยวกับนายแต่ถ้าอยากตาย
พร้อมกับยัยนี้ฉันก็จะสนองให้!!!”คันนะพุ่งมาพร้อมกับดาบในมือเธอกำลังจะเข้าไปฝันฮิคารุ
แต่ชิโนะก็ใช้เคียวรับการโจมตีเอาไว้
“เฮ้!เธอก็เก่งดีหนิแต่เจอแบบนี้แล้วจะทำยังไง”คันนะกะหน่ำการโจมตีเข้าเรื่อยๆชิโนะก็ถอยไปด้านหลัง
เพราะแรงที่ฝันมาอย่างไม่หยุดหยั่ง
เมื่อถึงดาบสุดท้ายคันนะก็ปัดเคียวหลุดออกจากมือของชิโนะจนได้ปลายดาบขู่ดเข้าที่แก้มของเธอจนเป็นแผล
มีเลือดออกเมื่อท่าไม่ดีฮิคารุรีบจับมือชิโนะแล้วกระโดดข้ามกำแพงไปหนีเข้าไปในป่า
คันนะก้ไม่รอช้าเธอใช้ดาบฝันกำแพงเป็นช่องแล้วตามเขาทั้งสองคนไป
“แฮ่กแฮ่กแฮ่ก”
“พวกแกจะหนีไปไหนกัน”
“มาทางนี้เร็ว”
“หนีฉันไม่พ้นหรอกออกมาให้ฆ่าซะ คุโรงาเนะ ชิโนะ!!!”ตอนนี้ทั้งสองคนกำลังซ่อนอยู่หลังต้นไม้ใหญ่พวกเขาได้ความมืดช่วยในการหลบซ่อน
ครั้งแรกที่ถูกไล่ล่ายังเป็นช่วงที่พระอาทิตย์ยังไม่ตกแต่ตอนนี้พระอาทิตย์ได้ลับขอบฟ้าไปแล้ว
เหลือเพียงแต่ความมืดมิดเท่านั้นฮิคารุกำลังใช้สมาธิเพื่อหาวิธีเอาตัวรอดแล้วชิโนะก็พูดออกมาทำให้สมาธิของเขาหายไป
“คุณน่ะรีบใช้โอกาสนี้หนีไปซะ”
“พูดอะไรน่ะฉันจะทิ้งเธอแล้วหนีไปได้ยังไง”
“เธอคนนั้นตามแค่ฉันคนเดียว คุณไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกันกับฉัน”
“ไม่!ฉันไม่มีวันทิ้งเธอไปเด็ดขาด”
“ทำไมคุณถึงหัวดื้อได้ขนาดนี้นะ”
“เพราะว่าฉันไม่อยากให้ใครตายอีกแล้ว ทั้งเธอทั้งคุณชิราโฮชิด้วย”
“เธอคนนั้นถูกครอบงำไปแล้วไม่มีทางกลับมาเป็นเหมือนเดิมหรอก”
“ไม่ลองก็ไม่รู้สิว่าจะช่วยเธอได้หรือไม่ได้”ฮิคารุหลับตาลงรวบรวมสมาธิอีกครั้ง
“(คิดสิคิดฮิคารุทำยังไงถึงจะแก้ปัญหานี้ได้)”
“(ฉันไม่อยากสูญเสียตำแหน่งหัวหน้าไป)”
“(เอ๊ะ!?เสียงนี้หรือว่า)”ฮิคารุหันไปที่คันนะเธอกำลังฝันต้นไม้ล้มลงไปหลายต้นเพื่อที่จะหาตัวพวกเขา
“(ถ้ามันเป็นอย่างที่เราคิดล่ะก็)”
“เดี๋ยวนั่นคุณจะทำอะไรน่ะ”ฮิคารุวิ่งออกไปจากที่ซ่อนเผชิญหน้าคันนะแบบตรงๆ
“หึ…ออกมาจากที่ซ่อนตัวเหรอห๊ะ”
“คุณชิราโฮชิทำไมถึงต้องการตำแหน่งหัวหน้าห้อง
ขนาดนั้นด้วยล่ะมันสำคัญมากถึงกับทำให้คุณต้องฆ่าคนเลยอย่างงันเหรอ”
“อย่างนายจะไปเข้าใจอะไรฉันล่ะคนที่ได้ถูกขาดหวังอะไรเลยน่ะ”
“คุณก็เรียนเก่งเพื่อนคุณก็มีไม่ใช่เหรอ”
“คนพวกนั้นไม่ใช่เพื่อนฉันหรอกใช่แต่ถึงอย่างงั้น
ฉันก็แกล้งทำเป็นโง่ต่อไปตั้งแต่เด็กแล้วตัวฉันไม่เคยมีเพื่อนเลยพ่อกับแม่ก็ไม่เคยเห็นหัวฉัน
พวกเขาเอาแต่สนใจพี่สาวที่เป็นหน้าเป็นตาให้กับครอบครัวฉันถูกทิ้งดังนั้นแล้วฉันก็เริ่มตั้งใจขยันเรียน
จนได้เป็นหัวหน้าห้องได้รับคำชื่นชมมากมายจากพวกครู
เพื่อนๆและที่สำคัญที่สุดพ่อกับแม่ก็หันมาสนใจในตัวฉัน
แต่ว่าเพราะยัยนั่นแย่งตำแหน่งของฉันไปทุกๆคนเริ่มถอยจากฉันต่อให้มันเป็นเพียงแค่ภาพหลอนฉันก็จะไม่มีวันที่จะยอมเสียไปหรอก”
“แบบนั้นมันไม่ถูกต้องนะ”
“หนวกหู!หนวดหูๆๆๆ!ไม่มีใครยอมเป็นเพื่อนจริงให้กับฉันหรอก
คนที่ทำตัวจืดชืดไม่มีอะไรดีนอกจากสมองน่ะ”
“มีสิฉันนี่ไงที่จะเป็นเพื่อนกับเธอ”
“เอ๊ะ!?...นายโกหกไม่มีใครสนใจคนอย่างฉันหรอก”
“ต้องมีสิยูกิน่ะเขาเป็นห่วงเธอมากเลยนะ”
“ยูกิ”ภาพในความทรงจำที่เธอได้ทำงานร่วมกับยูกิมันก็
หลั่งไหลออกมามีเพียงแค่เขาเท่านั้นที่ค่อยพูดคุยกับเธอแบบจริงจัง
ใบหน้าของคันนะเริ่มมีน้ำตาไหลออกมา
“คุณชิราโฮชิคุณพูดออกสิว่า ฉันขอเป็นเพื่อนนายได้ไหม”
“ฉัน…ฉันน่ะ”
“(แย่แล้วยัยเด็กนี่กำลังหลุดจากการควบคุม อย่าไปฟังที่มันพูดนะไม่มีใครที่อยากเป็นเพื่อนเธอถ้าเธอไม่ได้เป็นหัวหน้าหรอก)”
“ฉัน…ฉันขอเป็นเพื่อนกันกับนายได้ม่ายยยยยยยย!!!”
“ตอนนี้แหละชิโนะ”เมื่อได้สัญญาณเธอก็พุ่งออกไปและใช้เคียว
ปัดดาบให้หลุดออกจากมือของคันนะแล้วคันนะก็หมดสติไป
ฮิคารุรีบไปประครองร่างของเธอเอาไว้
“ยะ…อย่าทำอะไรข้าเลยนะข้ากลัว”
“ปีศาจอย่างพวกเจ้าไม่มีค่าพอจะมีชีวิตอยู่ต่อไปหรอก”เธอหยิบดาบขึ้นแล้วฝันไปที่คมมีดของเคียว
จนตัวดาบหันและแตกเป็นชิ้น
“ดูเหมือนว่าเธอจะหมดสติไปจะทำยังไงต่อดีล่ะ”
“ฉันโทรแจ้งรถพยาบาลเมื่อกี้แล้ว อีกสักพักก็คงจะมาแล้ว”
“โล่งอกไปที….จริงสิชิโนะก่อนหน้านี้เธอมีอะไรจะคุยกับฉันเหรอ”
“ฉันแค่ก็จะบอกว่า…..ลาก่อน”
“มันหมายความยังไงกันน่ะ”เธอไม่ตอบแล้วเธอก็หายตัวไปพร้อมกับสายลม
ปล่อยให้ฮิคารุอยู่ตามลำพังกับคันนะเมื่อชิโนะไปแล้วฮิคารุจึงพาคันนะ
มาไว้ที่ศาลเจ้าที่เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราว
…………………………………….
เช้าวันต่อมาซึ่งเป็นวันปกติธรรมดาๆแต่ว่าจากเหตุการณ์เมื่อคืนวาน
ทำให้ฮิคารุรู้สึกสังหรณ์ใจไม่มีดีตัวเขาเองก็ไม่แน่ใจว่า
สิ่งที่เขารู้สึกในตอนนี้มันคืออะไรเขาจึงรีบไปโรงเรียนให้เร็วที่สุดเมื่อเขาไปถึงหน้าห้องเรียนของเขาฮิคารุสูดหายใจเข้าลึกๆ
แล้วเลื่อนประตูห้องเขายังไม่เห็นเด็กสาวที่นั่งอยู่ข้างหลังของเขาเลยซึ่งปกติเธอจะมาก่อนเขาเสมอ
“(ลาก่อน)”
“ที่เธอพูดนั่นเป็นความจริงงั้นเหรอ”เพื่อความแน่ใจฮิคารุจึงเดินไปถามเพื่อนสนิททั้งสองคนที่กำลังนั่งคุยกันอยู่
“อรุณสวัสดิ์ทั้งสองคน”
“อ้าว!ไงฮิคารุอรุณสวัสดิ์”
“เออ…นี่ทั้งสองคนพอดีฉันมีเรื่องอยากจะถามน่ะ”
“ได้สิถามมาได้เลย”
“คือมันก็อาจจะไม่ควรถามเท่าไรแต่
พวกนายสองคนพอจะรู้ไหมว่าชิโนะเธอไปที่ไหน”
“ชิโนะ?ใครกันงั้นเหรอ?”
“นี่ล้อเล่นอะไรกันน่ะก็
เธอนั่งอยู่ข้างหลังฉันไง”ไดรกับยูกิหันมามองหน้ากันครั้งหนึ่งด้วยความสงสัย
“ฮิคารุนายเอาหัวไปกระแทกอะไรมาหรือเปล่า”
“ห๊ะ?”
“ที่ห้องของเราน่ะไม่มีคนชื่อนี้อยู่เลยนะ เธอเป็นนักเรียนใหม่เหรอไง”
“แต่นี่มันจะเรียนจบอยู่แล้วนะใครจะมาย้ายมาตอนนี้กันเล่า”
“เอ่อนั่นสินะ”
“(เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่)”
“อ้าวฮิคารุนั่นนายจะไปไหนน่ะ”
“ต้องไปถามอาจารย์คาราสึถ้าเป็นอาจารย์ต้องบอกได้แน่ๆ”
“เอ๋?อาจารย์คาราสึงั้นเหรอ ครูไม่เห็นว่ามีอาจารย์ชื่อนี้อยู่เลยนะ”
“อาจารย์ที่สอนวิชาประวัติศาสตร์ไงล่ะครับ”
“อาจารย์ที่สอนวิชาประวัติศาสตร์งั้นเหรอ
ก็มีอาจารย์ไซคากิยังไงล่ะจ้ะ”อาจารย์สาวชี้นิ้วไปทางชายชราไว้หนวดหัวขาวตัวอ้วนตามวัยคนแก่
“เออถ้างั้นขอโทษที่มารบกวนนะครับ”
“จ้ะไม่เป็นไร”
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นทำไมทุกคนถึงจำทั้งสองคนไม่ได้”ฮิคารุพยายามอดทนรอเวลาเลิกเรียนเพื่อนที่จะได้ออกไปตามหาทั้งสองคน
และความอดทนของเขาก็สำเร็จมันถึงเวลาเลิกเรียนแล้วเขารีบเก็บของใส่กระเป๋าทันที
“ฮิคารุวันนี้ว่างไหมไปเล่นบาสกัน”
“ขอโทษทีนะฉันมีธุระด่วนน่ะ”
“หมอนั่นรีบไปไหนของเขากันนะ?”
“ไม่รู้สิ”ฮิคารุออกแรงวิ่งให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เขาไปยังสถานที่ต่างๆ ที่คิดว่าพวกเขาทั้งสองคนจะอยู่เขาเดินถามพวกชาวบ้าน ก็ไม่มีใครจักพวกเขาเลยฮิคารุลองไปที่ศาลเจ้าต้องสาปที่ๆเจอกับชิโนะและได้พบเจอกับเรื่องราวมากมายจนเขาเริ่มหมดแรงเขาหยุดพักหายใจ เขาวิ่งแทบเกือบจะรอบหมู่บ้านเขาก็ยังไม่เจอสองพ่อลูกเลยพระอาทิตย์ก็ใกล้จะตกลับขอบฟ้าเขาเริ่มหมดหวัง จู่ๆเขาก็ได้ยินเสียงอะไรบ้างอย่างเหมือนเสียงเครื่องจักรและเสียงหวูดรถไฟ
บู๊นนนนน บู๊นนนนน
“เสียงนี่มัน….จริงสิที่หมู่บ้านมีสถานีรถไฟเล็กๆอยู่นี่นา
ทำไมฉันถึงคิดไม่ออกนะ”เขาเริ่มออกวิ่งอีกครั้งไปยังสถานี้รถไฟซึ่งมันอยู่ไม่ไกลจากที่เขาหยุดพัก
มากเมื่อเขาขึ้นบันไดไปที่ชานชาลารถไฟเขาก็เห็นเด็กสาวผมสีดำเดินขึ้นไปที่รถไฟ
แล้วรถไฟก็เคลื่อนตัวช้าๆและเริ่มเร็วขึ้นเพื่อที่จะออกชานชาลาแล้ว
“แฮ่กแฮ่กแฮ่ก…เดี๋ยวๆรอก่อนสิ”ฮิคารุวิ่งตามรถไฟไป
“อย่าเพิ่งรีบไปสิฉันยังมีเรื่องที่ต้องบอกเธออีกนะฉันน่ะ…ฉันน่ะ….ฉันชอบเธอออออ!!!”
ตึง!ฮิคารุวิ่งติดราวกั้นสถานีรถไฟเขาได้แต่มองรถไฟ
ที่วิ่งไปตามรางจนลับสายตาไป
ตึง!
“โธ่เอ๊ย!”
“เมื่อกี้คุณพูดเล่นใช่ไหม”
“!?”เสียงอันคุณเคยของเด็กสาวคนหนึ่งที่เขารู้จัก
ฮิคารุค่อยๆหันหลังไปมีเด็กสาวคนหนึ่งผมของเธอสีดำผูกด้วยโบว์สองสีดวงตาสีแดง ในชุดประโปรงยาวสีขาวสวมเสื้อยีนส์แขนยาวทับ
หมวกฟางใบใหญ่มือซ้ายถือกระเป๋าเดินทาง
“คุณได้ยินที่ฉันพูดไหม”
หมับ…ชิโนะยังไม่ทันตั้งตัวก็ถูกฮิคารุกอด
เธอตกใจเล็กน้อยกับการกระธรรมของเขา
“จะจากกันก็ช่วยบอกลากันดีๆหน่อยสิ”
“ฉันต้องขอโทษด้วยคะ”แล้วฮิคารุก็ปล่อยแขนที่กอดชิโนะออก
ทั้งสองต่างสบตากัน
“หลังจากทำภารกิจเสร็จสิ้นตระกูลของเรา
จะทำการลบความทรงจำของผู้คนในสถานที่ที่เราทำหน้าที่อยู่”
“แล้วทำไมถึงไม่ลบความทรงจำของฉันด้วยล่ะ”
“……….”
“ฉันน่ะคิดว่าจะไม่ได้บอกกับความรู้สึกกับเธอซะแล้ว”
“ฉันแค่คิดว่าอยากจะไปจากที่นี่โดยที่ไม่ต้องการเจอ
หน้าคุณเพราะฉันไม่อยากบอกลาตรงๆกับคุณมันน่าเศร้าตระกูลของฉัน ไม่ต้องการให้ผู้นำทอดตระกูลนำความรู้สึกมาในภารกิจเพราะฉะนั้นฉันพยายามจะหนีความรู้สึกของตัวเอง”
“ฉันเข้าใจแล้วล่ะ”
“ตัวฉันน่ะดีใจมากๆเลยนะคะ
ที่มีคนค่อยคุยกับฉันไม่ว่าภายนอกของจะเป็นยังไง”
“อืม”
“ฉันน่ะชอบคุณมากเลยนะ”
“อืม”
“ฉันน่ะไม่ได้อยากไปจากคุณเลยจริงๆนะ”
“ฉันรู้แต่ฉันคิดว่าพวกเราสองคนคงจะได้เจอกันอีกแน่ๆ
ว่าแต่ฉันคิดว่าเธอไปแล้วซะอีกนะ”
“รถไฟขบวนที่ฉันจะขึ้นเหลืออีก10นาทีแล้วป๊ะป๋า
ก็ไปเอาของที่ลืมไว้น่ะค่ะ”
“ชิโนะจังขอโทษที่ทำให้รอนะ อ้าว?ฮิคารุคุงมาส่งด้วยงั้นเหรอ”
“ครับ”
บู๊นนนนนน บู๊นนนนน
“รถไฟของพวกเรามาโน้นแล้ว”รถไฟจอดเทียบชานชาลาคาราสึเลยของ
เอากระเป๋าขึ้นไปไว้บนรถไฟ
“ต้องจากกันแล้วสินะ”
“ค่ะ”
“ชิโนะถ้าหากเธอไม่ได้อยู่ด้วยแล้วถ้าหากสักวันหนึ่ง
ฉันเป็นตัวต้นเหตุให้คนอื่นตายอีกฉันควรจะทำยังไงดี”
“คุณยังจำนกที่ฉันพับให้คุณได้ถ้าหากคุณต้องการ
ความช่วยเหลือคุณก็เรียกฉันผ่านสิ่งนั้นได้เลย”
“ชิโนะจังคนขับรถไฟบอกว่าจะออกรถแล้วนะ”
“ฉันต้องไปแล้ว”
“ขอให้โชคดีนะ”
“ค่ะ!”เป็นครั้งแรกที่ฮิคารุได้เห็นรอยยิ้มของชิโนะ มันช่างสดใสเหมือนพระอาทิตย์ยามเช้ารถไฟได้ออกจากชานชาลาฮิคารุยื่นส่งชิโนะ อยู่ตรงนั้นจนรถไฟได้ลับไปจากสายตาของเขาเดินกลับบ้านไปโดยยังหวังว่าตราบใดที่โลกยังมีเรื่องลี้ลับอยู่ สักวันหนึ่ง
ก็คงจะได้พบกับเธออีกครั้งไม่เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน
Ending
ก็จบกันไปแล้วสำหรับซีรี่ส์เรื่อนี้ขอบคุณที่ติดตาม
กันมาจนถึงตอนจบนะคะและตอนนี้โรลก็ได้
สร้างเพจเพื่อให้ทุกคนไปคอมเม้นท์ว่าควรจะ
ปรับปรุงยังไงหรืออยากให้แต่งแนวไหนบอกไดค่ะ
https://www.facebook.com/Worlds-story-1768584486697503/?ref=aymt_homepage_panel
ความคิดเห็น