ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {Horror Fic} 7 Day's of Nightmare

    ลำดับตอนที่ #6 : วันเสาร์ของตะกละผู้เสพติดการกิน

    • อัปเดตล่าสุด 22 ก.ค. 59


        ในเวลาพักกลางวันอันแสนสงบสุขเป็นเวลาที่เรา จะกินข้าวกล่องร่วมกันกับเพื่อนๆใต้ต้นไม้หรือในห้องเรียนซึ่งตอนนี้พวกฮิคารุ กำลังนั่งกินข้าวกล่องกันในห้องคุยกันตามภาษาเด็กวัยรุ่นผู้ชายในช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่ทุกคนจะพักผ่อนอย่างสบายก่อนจะเข้าเรียนต่อในคาบเรียนต่อไป

        “เฮ้ออออออกไปยื่นนอกห้องปวดขาชำมัดเลย”

        “ใครใช้ให้นายนอกหลับในคาบประวัติศาสตร์เองล่ะ”

        “พวกนายเองก็จริงๆเลยทำไมไม่บอกฉันเลยล่ะ ว่าอาจารย์คาราสึเดินมาหาน่ะ”

        “ถึงอาจารย์คาราสึจะใจดีก็เถอะนะแต่ ขืนบอกนายพวกฉันสองคนก็โดนด้วยน่ะสิ”

        “เห็นด้วยกับฮิคารุอย่างแรง”

        “ใจร้ายทำไมทรยศเพื่อนแบบนี้ล่ะ”

        “เขาเรียกว่าวิธีเอาตัวรอดต่างหาก”

        “เฮ้ยๆๆ!อย่ามาแย่งของกินของคนอื่นเขาสิ ของนายก็มีไม่ใช่เหรอไง”

        “หืมมมมม”ทั้งสามคนหันไปตามเสียงโวยวายด้านหลังมีผู้ชายสองคน นั่งอยู่ที่โต๊ะของตัวเองคนที่โวยวายเป็นคนตัวผอม ส่วนอีกคนเป็นผู้ชายตัวใหญ่และอ้วนผมสีดำด้วยความที่เขาตัวอ้วนทำให้ตาของเขาเล็ก

        “ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลยมีตั้งเยอะแยะ แบ่งๆกันกินก็ไม่เสียหายหนิ”

        “แบ่งน่ะแบ่งได้แต่คนอย่างนายมันกินเยอะ เกินไปพอแล้วฉันขอออกไปกินที่อื่นดีกว่า”

        “นั่นมันเจ้าหมูอ้วนนี่นา”

        “เขาชื่อ คอนตะ ใช่มะ”

        “ใช่แล้วล่ะปกติหมอนั่นจะไปที่โรงอาหารมากกว่า แต่ไม่รู้ทำไมวันนี้ดันมานั่งกินบนห้อง”

        “อุตส่าห์คิดว่าจะได้นั่งกินข้าวสบายๆแล้วเชียวนะ”

        “ฉันว่าเราพวกเรารีบย้ายที่กันก่อนเถอะ ไม่งั้นไม่มีข้าวให้กินแน่ๆ”

        “เขาจะกินทั้งหมดนี่ได้ยังไงกัน”

        “งั้นฉันจะบอกอะไรให้หมอนั่นสามารถกินข้าวกล่องได้ตั้ง10กล่อง”

        “อะเอาจริงเหรอ”

        “ใช่ดังนั้นรีบลุกก่อนหมอนั่นจะมา”

        “โอ้โห!ข้าวกล่องของพวกนายน่ากินจังเลยนะ”

        “(ซวยลุกไม่ทันแล้ว)”

        “ฉันขอส่วนแบ่งหน่อยจะได้ไหมล่ะ”

        “(ทะทำไงดี)”

        “(ไม่รู้เหมือนกัน)”ทั้งสามคนส่งซิกเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาไม่ได้สนใจ คำพูดของคอนตะเลยแม้แต่น้อยระหว่างที่กำลังหาวิธีอยู่นั้น ก็มีเสียงของใครบางคนที่ไม่คาดคิดมาช่วยชีวิตไว้พอดี

        “ขอโทษนะคะคุณกำลังบังทางเข้าของฉันอยู่ ช่วยหลีกทางให้หน่อยจะได้ไหมคะ”

        “มะมะแม่มดขะขอโทษทีงั้นฉันขอตัวก่อนนะ”แล้วเขาก็รีบวิ่งออกส่วนชิโนะก็เดินมานั่งที่โต๊ะของเธอโดยไม่ได้สนใจสายตาทั้งสามคู่ที่จ้องมองมาเลยแม้แต่น้อย

        “……..เอ่อเราควรขอบคุณเธอไหมเนี่ย”

        “จะบ้าเหรอเธอแค่บังเอิญกลับมานั่งที่เท่านั้นเอง”

        “ยังไงก็ฉันว่าเรามากินข้าวกันต่อเถอะอีกสักพัก ก็ใกล้จะถึงเวลาเรียนคาบต่อไปแล้วด้วยสิ”

        “นั่นน่ะสินะ”เมื่อหมดช่วงพักกลางวันแล้วคาบต่อมาเป็นวิชาพละ พวกเขาเปลี่ยนเป็นชุดพละแล้วไปรวมตัวกันที่สนาม

        “เอาล่ะทุกคนวันนี้ครูจะสอบวิ่งจับเวลานะครูจะให้เวลา 5นาทีวอร์มร่างกายก่อนแล้วมาสอบวิ่ง”

        “วิ่งอีกแล้วเหรอให้ตายเถอะฉันล่ะเกียจการวิ่ง จริงๆแต่ดันได้วิ่งคนแรกซะงั้น”

        “ก็นายเอาแต่นั่งอ่านหนังสือนี่นาฮ่าฮ่าฮ่า”

        “นายน่ะหุบปากไปเลย”

        “ถ้าวอร์มร่างกายกันเสร็จแล้วครูจะเรียกตามเลขที่นะ คิราโนะ”

        “ครับ”

        “ยาสึจิ”

        “ครับ”

        “ไฮบาระ”

        “อยู่นี่ครับ”

        “นากาบานะ”

        “…….

        “นากาบานะแปลกจังเลยแฮะเจ้าบ้านั่นไปไหนแล้วล่ะเนี่ย”

        “สงสัยคงจะโดนแล้วไปแอบหาของกินมั้งครับอาจารย์”

        “เฮ้อออออให้ตายเถอะเอาเป็นว่าคนที่ยังไม่ถึงคิว ก็ช่วยออกไปหาตัวหน่อยก็แล้วกัน”

        “ครับ/คะ”

        “นายคิดว่าคนอย่างเจ้าอ้วนนั้น จะไปอยู่ที่ไหนกันล่ะฮิคารุ”

        “นายอยู่มานานกว่าฉันไม่ใช่เหรอ ไหงมาถามฉันล่ะห๊ะ”

        “ยูกิไปวิ่งนี่นามันก็ไม่มีคนค่อยช่วยคิดน่ะสิ”

        “ก็อย่าหวังพึ่งฉันนักสิหืม?”ระหว่างที่ฮิคารุกวาดสายตามองดูแถวๆสนาม แล้วเขาก็เห็นเงาสีดำทะมึนอยู่ด้านหลังพุ่มไม้ใกล้ๆกำแพงโรงเรียน มันดูน่ากลัวและน่าขยะแขยง

        “นายเจอคอนตะแล้วเหรอ”

        “ฉันก็ไม่แน่ใจแต่เห็นอะไรอยู่หลังพุ่มไม้ทางนั้นน่ะ”

        “อาจจะเป็นคอนตะก็ได้ ฉันขอไปดูก่อนล่ะ”

        “ดะเดี๋ยวสิ”ไม่ทันไรไดรก็วิ่งไปทางพุ่มไม้ที่เขาบอก เพื่อความปลอดภัยฮิคารุก็ตามไปด้วย

        “ง่ำกรุ๊บๆ ง่ำกรุ๊บๆ”

        “นึกว่าหายไปไหนที่แท้ก็มานั่งกินขนมอยู่นี่เอง”

        “ดไดร!

        “(เงาเมื่อกี้มาจากตัวคอนตะงั้นเหรอ? หรือว่ามาจากที่อื่นกันแน่?”

        “อาจารย์ยยยยนากาบานะมาแอบกินขนมอยู่ตรงนี้คร้าบบบบ!

        “เฮ้อออให้ตายเถอะเรียกมันมาซะ ฉันจะจัดบทลงโทษให้”แล้วไดรก็ลากคอคอนตะไปหาอาจารย์ ส่วนฮิคารุที่ตามอยู่ข้างหลัง ก็ยังคงครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องเงาที่เขาเห็น

        “นายเนี่ยนะกล้าดียังถึงได้โดนวิชาของฉันกันห๊ะ”

        “ก็ผมไม่ชอบวิชาพละนี่นาแล้วผมก็หิวด้วย”

        “นายมันก็หิวได้ตลอดนั่นแหละไปวิ่ง รอบสนาม10รอบโทษฐานที่โดนวิชาของฉัน”

        “แต่ว่า”

        “ไม่มีคำว่าแต่รีบไปเร็วเข้า”

        “คะครับ”

        “คิกคิกคิก”

        “ฮ่าฮ่าฮ่า”เมื่อเขาออกตัววิ่งพวกเพื่อนๆในห้องก็พากันหัวเราะ เพราะรู้ว่าเขาคงวิ่งไม่ถึง10รอบแค่ครึ่งรอบอาจจะไม่ถึงเลยด้วยซ้ำไป

        “แฮ่กแฮ่กฉัน ฉันวิ่งต่อไปไม่ไหวแล้ว”

        “เฮ้!อย่าหยุดวิ่งสินี่นายยังวิ่งไม่ถึง5นาทีเลยนะ”

        “อาจารย์ค่าหมดคาบของอาจารย์แล้วนะคะ”

        “อ้าวเหรอถ้างั้นไปจัดแถวแล้วก็แยกย้ายไปเรียนวิชาต่อไปเลยนะ”

        “เข้าใจแล้วคะ”

        “นายเองก็ไปเข้าแถวได้แล้ว”

        “เฮ้อออรอดไปทีเรา”และเมื่อเรียนเสร็จแล้วทุกๆก็แยกย้ายกันกลับ หลังจากที่ฮิคารุบอกลากับพวกไดรแล้วเขาก็เดินกลับบ้านตามปกติ พอเขาเดินไปถึงริมแม่น้ำเขาก็ได้พบกับคนบางคนที่เขาเพิ่งเจอเมื่อไม่นานมานี้ผมสีดำของเธอพัดตามสายลมที่พัดเข้ามา

        “เธอมาที่นี่อีกแล้วเหรอ”

        “ฉันมีเรื่องอยากจะคุยกับคุณ”

        “มีอะไรจะคุยกับฉันงั้นเหรอ?”

        “เมื่อตอนเรียนวิชาพละคุณน่ะเห็นเงานั่นแล้วสินะ”

        “ออืมตอนแรกฉันก็ไม่เห็นหรอกเพิ่งจะมาเห็น ตอนเรียนวิชาพละนั่นแหละเงานั่นคืออะไรงั้นเหรอชิโนะ”

        “เงานั่นคือสิ่งชั่วร้ายอย่างหนึ่งมันจะสิ่งสู่คนที่น่าจะ มีความเป็นไปได้ว่าเขาสามารถจะทำให้พวกมันก่อตัวเป็นอย่างเนื้อได้ เพื่อที่จะได้ฆ่าผู้ที่ให้กำเนินมันและผู้คนบริสุทธิ์”

        “ถ้างั้นมันก็อันตรายกับทุกๆคนน่ะสิ”

        “ใช่และมันจะอันตรายกับตัวคุณด้วยเพราะฉะนั้น ฉันเลยจะมาเตือนคุณไม่ให้เข้าใจเขาเรื่องนี้ฉันจะเป็นคนจัดการเอง”

        “ฉันเข้าใจแล้วล่ะว่าแต่มันต้องใช้เวลานาน เท่าไรกว่าเจ้าเงานั้นจะเป็นตัวตนขึ้นมา”

        “แล้วแต่ความคิดในด้านลบของคนที่ผู้สิ่งสู่คะ”

        “เหรอชิโนะ”

        “คะ”

        “ยังไงก็ระวังตัวด้วยนะ”

        “คุณเคยเห็นฉันเสียท่าด้วยเหรอคะ”

        “นะนั่นสินะเธอออจะเก่งกว่าฉันจะตายไปนี่นาฮะฮะฮะ”

        “แต่ยังไงก็….ถือเป็นการอวยพรแล้วกันนะคะ”

        “เอ๊ะ?”

        ฟิ้ววววว!เพียงพริบตาเธอก็หายไปพร้อมกับสายลม มันเป็นเรื่องปกติดังนั้นแล้วฮิคารุก็ไม่ได้สนใจอะไรมากเขาก็เดินกลับบ้านต่อไป

    ………………………………………….

        “ฮิคารุลงมากินข้าวได้แล้ว”

        “จะลงไปเดี๋ยวนี่ล่ะครับ”เขาถอดหูฟังออกแล้วเดินลงบันได ไปยังห้องครัวที่โต๊ะมีอาหารคนสองคน

        “วันนี้มีปลาซาบะย่างเหรอครับ”

        “จ้ะวันนี้ที่ตลาดมีปลาสดๆมาค้าน่ะ”

       “เหรอครับถ้างั้นทานเลยนะครับ”

       “ฮิคารุ”

        “ครับคุณยาย”

        “อีกไม่กี่อาทิตย์หลานก็จะเรียนจบแล้ว หลานได้ว่างแผนเอาไว้หรือยังว่าจะไปเรียนต่อที่ไหน”

        “เรื่องนั้นตัวผมเองยังไม่ได้คิดเลยครับ”

        “งั้นเหรอเรื่องแบบนี้คงจะคิดมากเป็นธรรมดา ยังไงก็หลานค่อยๆคิดไปแล้วกันนะ”

        “ครับ”เมื่อทานข้าวเสร็จแล้วฮิคารุจึงขอตัวขึ้นไปทำการบ้านที่ห้อง ในขณะที่ทำการบ้านอยู่นั้นในหัวของเขาก็คิดเรื่องการเรียนต่อ ซึ่งตัวเขาเกือบจะหนึ่งที่มาอยู่ที่นี่ยังไม่เคยคิดเรื่องนี้เพราะพอเปิดเทอมแรกก็เจอเรื่องมากมายแล้วมันก็ทำให้คิดถึงคำพูดของคนๆหนึ่งขึ้นมา

        “(ทุกการกระทำของคุณอาจทำให้มีคนให้กำเนิดกิเลสอีกก็ได้)”ใช่แล้วมันเป็นคำพูดที่เขาได้เจอกับชิโนะครั้งแรกหากสักวันหนึ่ง เขาต้องไปเรียนต่อที่อื่นมันจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกไหมหรือจะมีคนตายเพราะเขาอีกซึ่งมันเป็นสิ่งที่กังวลใจเขามากที่สุด

        “เฮ้ออออทำไมต้องเอาเรื่องเก่าๆมาคิดให้หัวด้วยฟระเนี่ย!

        แกร๊งๆ แกร๊งๆ

        “ไส้ดินสอหมดแล้วเหรอเนี่ยต้องเอาไส้มาเต็ม อ้าว!?ไม่มีไส้ดินสอหมดแล้วเหรอเนี่ยให้ตายเถอะออกไปซื้อใช่ไหมเนี่ย ป่านี้แล้วหวังว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นนะ”

    ………………………………………….

        อีกด้านทางบ้านของคอนตะตอนนี้เขา กำลังกินทุกสิ่งทุกอย่างโดยที่ไม่มีท่าทีจะหยุดกินเลย

        “ง่ำง่ำง่ำขนมนี่อร่อยจริงๆข้าวกล่องด้วยโน้นก็อร่อย อร่อยไปทุกๆอย่างเลยอ้าว?หมดแล้วเหรอฉันยังไม่อิ่มเลยแฮะออกไปซื้อที่มินิมาร์ทดีกว่า”

        “คอนตะนั่นลูกจะไปไหนน่ะ”

        “ผมจะออกไปข้างนอกครับแม่”

        “ป่านี้เนี่ยนะ”

        “ไม่ต้องเป็นห่วงเดี๋ยวผมกลับมา”

        “ระวังตัวด้วยแล้วกัน”

        “คร้าบบบบบบแม่”พอคอนตะเดินออกมาถึงตรอกระหว่างบ้านสองหลัง ก็มีบางสิ่งได้ออกจากตัวของเขาไปแล้ว

       ครืน ครืน

        “หืมมมมมีอะไรผ่านข้างหลังไปนะช่างเถอะ ไปซื้อของกินดีกว่าจะเอาอะไรดีนะมันฝรั่งทอด น้ำอัดลมหรือจะเป็นข้าวปั่นดี”

        “คนที่กินไม่เลือกหน้ามันต้องโดนชำแหละ”

        “เอ๊ะ!?.......เฮือก!”คอนตะค่อยๆหันหลังไปภาพที่เขาเห็นเป็นผู้ชายตัวใหญ่ ซึ่งมันก็เป็นเรื่องปกติแต่สิ่งที่ทำให้เขาตกใจจนแทบช็อกคือ ในมือซ้ายของเขามีเลื่อยไฟฟ้าที่สตาร์ทไว้แขนข้างขวาขาดผ้ากันเปื้อนที่เปื้อนเลือดสีแดงส่วนหัวของเขาเป็นหัวของหมูตาซ้ายหลุดออก ห้อยไปมาอย่างน่าขยะแขยงขาซ้ายใส่รองเท้าบูทขาขวาเป็นกระดูกที่มีเศษเนื้อติดอยู่ มีแมลงวันไต่ตอมกลิ่นเหม็นลอยเตะจมูก

        “ตะตัวประหลาด!!!

        “คนกินทิ้งกินขว่างต้องตาย คนเลือกกินต้องตายและตะกละต้องตาย”

        “ยะอย่าเข้ามาว้ากกกกกกก!!!

    ………………………………………….

        “เฮ้อออออค่อยยังชั่วหน่อยยังดีนะที่ร้านเครื่องเขียนยังไม่ปิด”

        “แฮ่กๆๆใครก็ได้ช่วยฉันด้วย”

       “หืมมมม

        โครม!!!

        “โอ็ยเจ็บๆใครที่ไหนวิ่งมาชนเนี่ย….เดี๋ยวสินี่นายคอนตะหนิ”

        “ฮิคารุนั่นนายเหรอช่วยฉันด้วย!!!

        “เกิดเรื่องอะไรขึ้น”

        “มะมีตัวประหลาดไล่ฆ่าฉัน”

        “อะไรนะ?”เมื่อฮิคารุมองไปยังทางที่คอนตะวิ่งเขาก็เห็นสิ่งที่คอนตะ เรียกว่าตัวประหลาดกำลังใช้เลื่อยลากไปตามพื้นเสียงเหล็กเสียดสีกับพื้นคอนกรีตดังสนั่น

        “รีบลุกขึ้นแล้วมาทางนี้เร็วเข้า”แล้วทั้งสองคนก็รีบวิ่งหนีไปยังตรอกซอยแคบๆ แต่ว่าผ่านไปอีกสักพักคอนตะก็ทรุดลงกับพื้นด้วยความเหนื่อย

        “ฉันฉันวิ่งต่อไปไม่ไหวแล้ว”

        “พูดอะไรน่ะรีบลุกขึ้นเร็ว เดี๋ยวนายก็ได้ตายหรอก”ฮิคารุพยายามดึงแขนคอนตะให้เขาลุกขึ้นแต่ไม่ได้ผล

        “ฉันไม่ไหวแล้วจริงๆ”

        “โธ่เอ๊ยจะทำยังไงดีล่ะ”

        “พวกแกต้องตาย”มันไล่ตามมาทันแล้วยกเลื่อยขึ้นพร้อมจะฝัน ทิ้งสองคนให้เป็นชิ้นแต่ว่า….

        “หืมมมม

        ฟุ่ง!แกร๊ง!ครืนนนนนนน!!!จู่ๆก็มีร่างหนึ่งพุ่งออกมาทางด้านหลังของพวกฮิคารุ เคียวสีดำปะทะกับเลื่อยไฟฟ้าเสียงใบมีดเคียวและใบเลื่อยเสียงดัง เธอใช้เท้าถีบเจ้าปีศาจให้กระเด็นไปด้านหลัง

        “คุณนี่ต่อให้ไม่ไปหาเรื่องเอง ก็มีเรื่องตามมาสินะ”

        “ชิโนะ!เธอรู้ได้ยังว่าพวกฉันอยู่ที่นี่”

        “คุณพกเครื่องรางเอาไว้ฉันก็เลยรู้ว่าคุณอยู่ที่ไหน”

        “ไม่ตัวเกะกะมาขวางจนได้”

        “ปีศาจอย่างเจ้าต้องถูกกำจัด”

        “คิดว่าทำได้ก็ลองดูสิย้ากกกกกกก!!!”ชิโนะหยิบยันต์ออกมาจากกระเป๋าเสื้อโค้ดจำนวนหนึ่ง เธอท่องคาถายันต์แต่ละใบลอยไป เป็นวงกลมซ่อนทับกันเป็นชั้นมันเรืองแสงสีม่วงแล้วเธอก็ตวัดเคียวกลายเป็นคลื่นตัดผ่านยันต์ชั้นแล้วชั้นเล่าจนมันมี พลังที่มหาศาลตัดร่างของเจ้าปีศาจเป็นสองส่วน

        “สำเร็จจัดการมันได้แล้วล่ะ คอนตะรอดตายละสลบตอนไหนเนี่ย”

        “สงสัยคงตั้งแต่เห็นฉันแล้วละมั้งคะ”

        “ฮะฮะฮะขอบคุณที่มาช่วยนะชิโนะ”

        “มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอกคะฉันว่า พวกรีบไปจากตรงนี้ดีกว่านะคะ”

        “นั่นสินะ”

    ………………………………………….

        “อะอืมนี่ฉันมานอนอยู่ตรงนี่ได้ยัง”

        “แกต้องตาย”

       “ห๊ะ!?”

       แฮ่ฮฮฮฮฮฮฮ!!!

       “ว้ากกกกกกกกก!!!”เช้าวันต่อมาในข่าวหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ ลงข่าวเกี่ยวกับการตายของเด็กหนุ่มม.ปลายที่ตายด้วยสาเหตุถูกตัด ที่ลำตัวขาดเป็นสองท่ออย่างน่าสยดสยองเป็นข่าวดังอีกเรื่องของชนาบทแห่ง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×