คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่5วันศุกร์ของผู้เกียจคร้าน
ตอนที่5วันศุกร์ของผู้เกียจคร้าน
ทุกคนชอบกีฬาสีกันไหมล่ะแน่นอนว่าเวลามีกีฬาจะต้องมีคนอยู่สองประเภท
คือประเภทแรกเป็นพวกชอบกีฬาสีเป็นชีวิตจิตใจและประเภทที่สอง
คือพวกที่เกลียดกีฬาสีแบบเข้ากระดูกดำซึ่งฉันคือพวกประเภทที่สองคือเกลียดสุดๆเวลาโรงเรียนจัดงานกีฬาสี!
ในตอนนี้ฮิคารุกำลังนั่งเอาหน้าฟุบด้วยความเบื่อหน่าย
เพราะอีกห้าวันจะมีการจัดงานกีฬาสีซึ่งเขาเป็นประเภทพวกที่ไม่มีชอบใช้แรงเยอะ
“ทำไมทำตัวเบื่อโลกแบบนั้นล่ะฮิคารุ?”
“ฉันเกลียดงานกีฬาสีต้องออกแรงทำโน้นทำนี่
ไหนจะต้องมาลงแข่งกีฬาอีก”
“อืมฉันเข้าใจความรู้ของนายดี”
“อะไรกันเล่าพวกนายสองคนงานกีฬาสีดีออกจะตายไป
เรียนก็ไม่ได้เรียนการบ้านก็ไม่มีด้วย”ในหัวของฮิคารุกับยูกินึกคำเดียวกันได้ขึ้นมาทันที
“(ไอ้ตัวขี้เกียจบ้าพลังเอ๊ย)”
“ฉันว่าพวกนายก็เก่งเรื่องกีฬาออกนี่นา”
“ใครมันจะไปบ้าพลังเหมือนนายกันล่ะ”
“โธ่…พูดแบบนั้นก็ไม่เกินไปหน่อยมั้งยูกิ”
“ไม่เกินไปหรอกนายน่ะหัดขยันเรียนซะบ้าง
แล้ววันนี้มีสอบเก็บคะแนนอ่านหนังสือมาหรือยังห๊ะ”
“อะจึ๋ย!”
“นายนี่มันอย่าทำตัวขี้เกียจเหมือนเจ้าทาโอะจะได้ไหม”
“น่าๆฉันอ่านมาแล้วแค่ไม่มั่นใจว่าจะสอบได้เฉยๆเท่านั้นเอง”
“เฮ้อออ…นายนี่มันจริงๆเลย”
“ยูกิทาโอะนี่ใครเหรอ?”
“อ้อ!จริงสินายไม่ค่อยได้คุยกับคนอื่นมากนักนี่นา ฉันหมายถึงเจ้าหมอนั่นน่ะ”ยูกิชี้นิ้วไปทางผู้ชายตัวผอมคนหนึ่งเขามีผมสีดำหยิกหยอย ตาสีคำคอบตาของเขาดำคล้ำเล็กน้อยเหมือนคนนอนดึกกำลังยื่นคุยกับผู้หญิงคนหนึ่งอยู่
“น่าๆแค่ขอลอกการบ้านนิดหน่อยเอง ไม่เห็นจะเป็นไรเลย”
“ไม่ได้ก็คือไม่ได้โทราชิคุงก็หัดทำเองบ้างสิ”
“ก็ทำการบ้านเองมันน่าเบื่อนี่นา ลอกจากคนอื่นยังจะสบายกว่าเยอะ”
“ฉันไม่รู้ด้วยล่ะฉันไปก่อนทิวข้อสอบในห้องสมุดดีกว่า”
“ด…เดี๋ยวสิ”
“ก็อย่างที่เห็นหมอนั่นไม่ชอบทำการบ้านแล้วมาขอลอก
คนอื่นเขาตลอดแถมชอบนั่งเล่นเกมตอนดึกๆอีก”
“แล้วนายเคยโดนขอแบบนั้นไหมล่ะ”
“ตอนม.4หมอนั่นมาหาฉันบ่อยเลยล่ะ”
“แต่นายคงตอบปฏิเสธทันควันสินะ”
“ก็แหงอยู่แล้วล่ะใครมันจะไปให้คนพันนั้นลอกกัน
ฉะนั้นแล้วไดรถ้าสอบรอบนี้นายได้ไม่ถึง60คะแนนขึ้นไปล่ะก็นายตายแน่เพื่อน”
“ค…ครับไม่ต้องทำหน้าตาน่ากลัวก็ได้”
“ฮะฮะฮะ…จริงสิจะว่าสอบครั้งนี้จะคัดหัวหน้าห้องฝ่ายหญิงกับชายด้วยสินะ”
“ใช่แล้วล่ะเวลามีสอบอย่างงี้ทีไรยูกิได้เป็นหัวหน้าทุกทีนั่นแหละ”
“ก็นะแต่ปีนี้ไม่แน่ใจแฮะ”
“ทำไมล่ะ?”แล้วยูกิก็จ้องมาทางฮิคารุที่นั่งอยู่แล้วสบตาเข้ากับยูกิพอดี
“ฉะ…ฉันเหรอ?”
“ก็ใช่น่ะสิรู้สึกว่าสอบปลายภาคของเทอมที่แล้ว นายทำคะแนนเยอะกว่าฉันนี่นา”
“มันก็แค่ฟลุ๊คเท่านั้นเอง”
“ไม่มีทางที่นายจะฟลุ๊คได้หรอกสอบครั้งนี่ ฉันจะชนะนายให้ได้เลยค่อยดู”
“โดนประกาศสงครามซะแล้วนะฮิคารุ แบบนี้นายไม่รอดแน่”
“แหะ แหะ แหะ”
…………………………………………………
“อ้าวล่ะทุกคนวันจะมีการสอบเก็บคะแนนและ เป็นการคัดเลือกหัวหน้าห้องด้วยนะดังนั้นตั้งใจกันหน่อยล่ะ”ข้อสอบวิชาแรกเป็นวิชาคณิตศาสตร์
ทุกคนต่างพากันเคร่งเคลียดในการทำข้อสอบมีอยู่คนหนึ่งที่ยังทำตัวชิลล์ๆไม่ยอมทำข้อสอบจริงจังอยู่
“ข้อสอบวิชาคณิตอย่าจะตายไปกามั่วๆไปซะก็จบ จะได้มีเวลาเหลือเล่นเกม”ว่าแล้วทาโอะก็กาข้อสอบแบบส่งเดชไปด้วยไม่สนใจคะแนนของตนเอง
แล้วก็แอบหยิบเครื่องเกมมากดเล่นใต้โต๊ะผ่านไปสักพักการกระทำของเขาก็ความแตกจนได้
“โธ่เอ้ย อีกแค่นิดเดียวก็ชนะบอสได้แล้วเชียว”
“งั้นเอาชนะข้อสอบให้ได้ก่อนดีมั๊ยล่ะ”สายตาของอาจารย์หญิงแก่ จ้องเขม็งไปที่ทาโอะ
“อ…อาจารย์!”
“ใจกล้าไม่น้อยนะที่กล้าเล่นเกมในเวลาสอบแบบนี้
เครื่องเกมนี่ฉันจะยึดเอาไว้ที่ห้องพักครูไว้มาเอาตอนปิดเทอมแล้วกันส่วนเธอก็ออกไปยืนนอนเดี๋ยวนี้”
“แต่…”
“ไม่มีคำว่า แต่ ไปเดี๋ยวนี้”
“ฮ่าฮ่าฮ่า”ระหว่างที่เดินออกไปทางประตูคนที่อยู่ในห้อง
ก็พากันหัวเพราะไล่หลังของเขา
“พวกเธอที่เหลือก็ตั้งใจสอบกันล่ะ”
“ครับ/ค่ะ”
“ถ้าอาจารย์ยึดเครื่องเกมไปแล้วเราจะเอาอะไรมาเล่นล่ะเนี่ย”
“ทุกคนหมดเวลาสอบแล้วส่งกระดาษคำตอบขึ้นมา ให้เวลาพัก5นาทีเตรียมสอบวิชาต่อไป”
“สอบเป็นไงบ้างฮิคารุนายทำได้ไหม”
“อืมพอได้นะทางนายล่ะยูกิ”
“สบายมากแต่ก็นะ…ส่วนไดรก็นั่งสลดอย่างงั้นไม่น่าจะรอดแฮะ”
“แหะ แหะ”
“แต่จะว่าเจ้าบ้าทาโอะใจกล้าจริงนะที่กล้าเล่นเกมในเวลาสอบเนี่ย”
“นั่นสินะเขาไม่ค่อยใส่ใจเรื่องสอบเลยนะ”
“ถ้าคนแบบนั้นสนใจน่ะแปลกจริงสิ หมดเวลาพักแล้วฉันไปก่อนนะ”
“อืม”
…………………………………………………
“เอาล่ะทุกคนคะแนนสอบจะบอกในวันพรุ่งนี้นะ วันนี้ก็กลับบ้านกันดีๆล่ะ”
“ครับ/ค่ะ”
“ฮิคารุฉันจะไปร้านหนังสือน่ะไปด้วยกันไหม”
“ไปสิฉันอยากจะไปหาหนังสือมาอ่านพอดี”
“งั้นพวกเราสองคนไปกันเถอะ”
“สองคน?แล้วไดรล่ะ”
“หมอนั่นบอกว่าสอบเสร็จแล้วรู้สึกอึดอัด
เลยขอไปยืดเส้นยืดสายที่สนามบอลใกล้บ้านน่ะ”
“ก็สมกับเป็นไดรล่ะนะ”
“งั้นเราไปกันเลยเถอะ”แล้วทั้งสองคนก็เดินออกจากห้องไประหว่างทางพวกเขาก็คุยกัน
เรื่องข้อสอบของวันนี้จากนั้นก็เปลี่ยนเรื่องคุยกันไปเรื่อยๆ จนถึงร้านหนังสือพวกเขาก็แยกย้ายกันไปตามมุมหนังสือที่ตนสนใจฮิคารุก็เดินไปเลือกดูหนังสือตรงมุมหนึ่งระหว่างที่หาอยู่นั้น
เขาก็สะดุดกับมุมหนังสือวรรณกรรมซึ่งทำให้เขานึกถึงเด็กสาวผมดำที่เขาวันนี้ทั้งวันเขายังไม่ได้คุยกับเธอเลย
“เฮ้ฮิคารุนายเลือกหนังสือได้หรือยัง”
“อ…อืมได้แล้วล่ะ”ฮิคารุหยิบหนังสือออกมาหนึ่งเล่มแล้วไปจ่ายเงินพร้อมกับยูกิ
“ไว้เจอกันวันพรุ่งนี้นะ”
“โอเคไว้เจอกันพรุ่งนี้”หลังจากบอกลากันเสร็จแล้วทั้งสองคนก็แยกย้ายกลับบ้านไปคนละทาง
ระหว่างทางกลับบ้านนั้นมีแม่น้ำสายหนึ่งไหลผ่าน
เขาชอบมองพระอาทิตย์ตกดินจากทางนี้เสมอแถวนี้จะไม่มีผู้คนเดินมาสักเท่าไร
แต่วันนี้แปลกไป เขาเห็นเด็กสาวคนหนึ่งเธอนั่งอยู่เนินหญ้าใกล้ๆริมแม่น้ำดูเหมือนเธอกำลังนั่งทำอะไรอยู่ฮิคารุเดินเข้าไปใกล้เธออีกนิดหน่อย
“เธอมาทำอะไรตรงนี้เหรอชิโนะ?”
“หืมมมม…อ๋อคุณนั่นเอง”
“ฉันขอนั่งด้วยได้ไหม”เธอไม่ตอบแต่พยักหน้าแทนคำตอบฮิคารุนั่งลง
ข้างๆเธอเว้นระยะห่างจากเธอเล็กน้อยนั่นทำให้เห็นว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่
“ทำไมมานั่งพับกระดาษตรงนี้ล่ะ”
“ตรงนี้วิวสวยแล้วก็ลมพัดเย็นสบายดีน่ะคะ แต่ก็ไม่ได้มาบ่อยนักหรอก”
“ฉันเองก็ชอบที่นี้เหมือนกันแต่ก็ไม่เคยมานั่งตรงนี้หรอกนะ”สายลมพัดผ่านเข้ามากลิ่นของต้นหญ้า
ทำให้ฮิคารุรู้สึกผ่อนคลาย แล้วชิโนะยื่นนกกระดาษที่เธอนั่งพับอยู่ตัวนกเป็นกระดาษสีแดงที่มีลวดลายของดอกไม้หลายชนิด
“เธอให้ฉันงั้นเหรอ?”
“อืมใช้แทนเครื่องรางน่ะ”
“เออ…ขอบใจพับสวยดีหนิแล้วเธอพับไว้
เอาไปทำอะไรงั้นเหรอ”
“นิดหน่อยน่ะคะ”
“เหรอถ้างั้นฉันขอตัวกลับก่อนล่ะนะ
เธอเองถ้ากลับบ้านก็ระวังตัวด้วยล่ะ”
“เจอกันพรุ่งนี้นะคะ”
“เจอกันพรุ่งนี้”
…………………………………………………
เมื่อพระอาทิตย์ตกลับฟ้าไปแล้วก็น่าจะไม่มีบุคคลใด
อยู่ในบริเวณของโรงเรียนแต่ก็ยังมีใครบางคนทำตัวลับๆล่อๆอยู่หน้าโรงเรียน
“ป่านี้แล้วคงจะไม่มีใครอยู่ที่โรงเรียนแล้วล่ะ เป็นโอกาสเหมาะไปเอาเครื่องที่ห้องพักครูเลย”โทราชิล้วงไฟฉายในกระเป๋ากางเกงออกมา
เดินเข้าไปในตัวอาคารเรียนเดินตรงไปยังห้องพักครูทางเดินในโรงเรียนยามค่ำคืนมันช่างเงียบงัน
“ให้ตายเถอะมาโรงเรียนตอนกลางคืนแบบนี้ก็น่าขนลุกใช่ย่อยแฮะ”
แกร๊งๆๆๆๆ
“นั่นใครน่ะ”โทราชิรู้สึกได้ยินเสียงแปลกผ่านหลังเขาไปจึงตะโกนถามออกไป
แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับใดๆทั้งสิ้น
“สงสัยฉันคงหูแววไปเองแฮะช่างเถอะ”ผ่านไปสักพักโทราชิก็มาถึงห้องพักครูเขาใช้วิธี
งัดแงะประตูอย่างชำนาญเขาเปิดประตูแล้วเดินเข้าข้างในห้อง เขาหาโต๊ะของอาจารย์ที่ยึดเครื่องเกมเขาไปแล้วความพยายามของเขาก็สำเร็จ
เครื่องเกมถูกว่างบนโต๊ะเขาจึงหยิบมันมาแล้วรีบออกจากห้อง
“สำเร็จในที่สุดก็ได้เครื่องเกมกลัยมา…เอ๊ะ!?”เขารู้สึกเห็นอะไรกำลังมาทางเขา
มันอยู่ไกลเขามองมันไม่ค่อยชัดเท่าไร แต่พอมันยิ่งเข้ามาใกล้ๆทำให้เขาแทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเอง
“มะๆ…มือเดินได้”สิ่งที่โทราชิเห็นคือมือข้างขวา
มันใช้นิ้วทั้งห้าเดินแทนเท้ามันกำลังมาด้วยความเร็วสูงซึ่งโทราชิก็ไม่ยื่นรอให้มันมาใกล้
เขารีบวิ่งหนีทันทีแต่ไม่ว่าเขาจะวิ่งเร็วแค่ไหนเขากลับรู้สึกว่าทางเดินที่เขาอยู่นั้นเหมือนมันไม่มีท่าทีว่าจะสิ้นสุดปลายทาง
“แฮ่ก แฮ่ก…ทำไมกันเนี่ยวิ่งเท่าไรก็ไม่ถึงบันไดอีกล่ะ”ระหว่างที่วิ่งอยู่เขาก็หัดไปมองด้านหลังเจ้ามือนั่น
มันยังวิ่งตามเขามามันก็ตามมาแบบติดๆ
และเข้าใกล้เขาขึ้นเรื่อยๆแล้วโทราชิก็สะดุดล้มจนได้เขารีบหัดไปด้านหลังมือที่ไล่ตามเขามาก็กระโจมใส่และกระชากคอเสื้อของโทราชิ
“ว้ากกกกกกกก!!!”เมื่อยิ่งเห็นมือใกล้ๆลักษณะของมันเป็นเหมือนหนังหุ้มกระดูก
สีผิวออกน้ำตาลเข้มนิ้วนางกับนิ้วก้อยเป็นกระดูก
“หยุดแหกปากร้องซะไม่งั้นแกตาย”
“กะ...แกเป็นตัวอะไร”
“ข้าจะเป็นตัวอะไรก็ช่างถ้าแกไม่ช่วยข้าแกต้องตาย”
“ชะ…ช่วย?แกจะให้ช่วยอะไร”
“ตามหาชิ้นส่วนที่หายไปของข้าที่กระจัดกระจ่ายอยู่ที่นี่”
“ห๊ะ!?...แล้วฉันจะไปหาที่ไหนให้แกกันเล่า
เห็นอย่างงี้โรงเรียนนี้มันก็ใหญ่เอาเรื่องนะ”
“ข้ารู้ว่าชิ้นส่วนของข้าอยู่ที่ไหนแต่ข้าไม่สามารถ
จะไปเอามันมาเองได้เพราะมีคนใช้เวทย์ผนึกชิ้นส่วนของข้าเอาไว้ดังนั้นแกต้องช่วยข้า”
“ถ้าฉันไม่ช่วยแกล่ะ”
“ถ้าแกไม่ช่วยถ้าแกไม่ช่วยหรือช่วยแต่เกิดเลิกกลางคัน แกจะถูกข้าคนนี้สาปแช่งให้ตายซะกลับกันถ้าแกช่วยข้า
ข้าก็จะปล่อยเจ้าไปแบบโดยดี”
“โอเคๆฉันจะช่วยแกก็ได้แล้วอยู่ไหนล่ะ ไอ้ชิ้นส่วนแกน่ะ”
“ตามข้ามา”มันปล่อยมือจากคอเสื้อของโทราชิ แล้วก็นำทางไปที่ไหนสักที่ภายในโรงเรียนนี้เขาเดินตามันสักพักมันก็ไปหยุดอยู่หน้าห้องห้องหนึ่ง
“ที่นี่คือที่แรก”
“หืมมมมม…ห้องสมุดงั้นเหรอ”โทราชิลื่นประตูออกเจ้ามือก็รีบเข้าไปมันตรงไปยัง
ตูเก็บหนังสือตูเล็กติดผนังห้อง
“ข้างในตู้นี่แหละ”
“ไม่เห็นจะมีเลยนี่นาเจ้ามือแน่ใจนะ”
“มันซ่อนอยู่หลังหนังสือต่างหากเล่า”โทราชิย่อตัวลงไปเปิดตู้ออกแล้วลื่อหนังสือ
ที่อยู่ข้างในออกก็มีมือข้างซ้ายอยู่แล้วมันก็ออกมาจากตู้หนังสือ
เขาจะร้องลั่นแต่เพราะเจอแขนข้างขวาไปก็เลยไม่ค่อยตกใจมากเท่าไรสายตาของโทราชิก็มองไปเห็นกระดาษโอริกามิรูปหมวกซามูไร
ตกอยู่ข้างๆหนังสือที่เขาลื่อออกมาตรงกลางมีตัวอักษรแปลกๆที่เขียนด้วยหมึกดำอยู่
แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะมาสนใจอย่างอื่นในหัวของเขาตอนนี้คิดแต่จะเอาตัวรอดให้ได้อย่างเดียว
“นี่แกน่ะไปกันต่อได้แล้ว”
“รู้แล้วน่า”มือทั้งสองข้างก็ใช้นิ้วไต่ออกไปโดยที่ไม่รอให้
โทราชิที่กำลังลุกขึ้นยื่นเลยแม้แต่น้อย
“แค่ข้างเดียวก็ขนลุกอยู่แล้วยิ่งสองข้างยิ่งสยองเข้าไปใหญ่”คราวนี้มือทั้งสองข้างของมันไต่ออกไปยังด้านนอกอาคารและไปยังโรงยิมที่อยู่ข้างๆอาคาร
“คราวนี้โรงยิมอีกเหรอเนี่ยให้ตายเถอะ ขี้เกียจไปโน้นมานี่จริงๆเล้ย”
“เลิกบ่นแล้วมาเปิดประตูนี่จะได้ไหม”
“ไม่ต้องบอกฉันก็รู้อยู่แล้วแต่ประตูนี้ล็อค ฉันต้องใช้เวลาเปิดแป๊บหนึ่ง”
“เร็วๆหน่อยก็แล้วกัน”โทราชิก็ใช้วิธีเดิมกับประตูห้องพักครูเมื่อเขาปลดล็อคได้
เขาเปิดประตูออกเจ้ามือทั้งสองก็รีบเข้าไปอีกตามเคย
มันไปหยุดอยู่หน้าประตูห้องเก็บอุปกรณ์กีฬา
“ในห้องนี้สินะ”เขาเปิดประตูข้างในนั้นนอกจากจะมีอุปกรณ์กีฬา
ก็ยังมีสิ่งแปลกปลอมอยู่ด้านในมันเป็นร่างกายในชุดกิโมโนสีขาวเก่าๆที่ชายเสื้อและแขนขาดขาดหวิว
โทราชิกลั่นใจแบกร่างนั้นออกมาแล้วก็มีของบางอย่างหล่นออกมาจากตัวเสื้อ
“โอ้วววว!ร่างกายของข้า”แล้วแขนทั้งสองข้างก็เข้าไปต่อกับร่างกายของมัน
แต่โทราชิไม่ได้มองพวกมันเขามองสิ่งหล่นออกมาจากเสื้อของมัน
มันคือกระดาษโอริกามิรูปจิ้งจอกตรงกลางถูกเขียนอักษรแปลกๆด้วยหมึกสีดำเหมือนอันก่อนหน้านี้
“ข้าต่อร่างกายเสร็จแล้วไปต่อกันได้”
“อ...เอ้อ”เมื่อแขนกับร่างต่อกันความเร็วของมันเลยตกลงไปบ้าง
ถ้าไม่นับเรื่องหัวมันคงเหมือนกับคนพิการที่ไม่มีขาทั่วไป
“(คราวนี้สยองยิ่งกว่าแขนสองข้างอีกแฮะ)”ครั้งนี้มันคานย้อนกลับเข้าไปด้านในอาคารอีกครั้ง
มันคานไปหยุดอยู่ที่หน้าห้องวิทยาศาสตร์
โทราชิก็ทำแบบเช่นเคยคือเปิดประตูแล้วให้มันเข้าไปมันคานไปที่โต๊ะทดลองตัวหนึ่งโทราชิก็เดินไปเปิดตู้ข้างใต้ออก
ข้างในมีขาสองข้างยัดอยู่ด้านหลังอุปกรณ์ทดลองแต่เขาต้องค่อยๆหยิบอุปกรณ์ออกเพราะแต่ละอย่าง
มันมีราคาที่แพงมากพอหยิบออกมาหมดขาทั้งสองข้างมันก็กระโดดออกมาเอง
เข้าไปต่อกับส่วนที่เหลือและเช่นเคยเมื่อเจอชิ้นส่วนมันก็ต้องมีกระดาษโอริกามิอยู่ซึ่งมันเป็นอย่างที่เขาคิด
ด้านในมุมของตู้มีกระดาษที่พับเป็นรูปนกว่างอยู่เขาหยิบออกมาดูที่ปีกของนกมีตัวอักษรแปลกๆที่เขียนด้วยหมึก
เหมือนอันอื่นๆระหว่างที่เจ้าชิ้นส่วนพูดได้กำลังนำทางออกไปโน้นมานี่เขาก็แอบเก็บพวกกระดาษโอริกามิมาด้วย
“นี่แกน่ะเหลือส่วนสุดท้ายแล้วรีบตามาซะ”ไม่รอช้ามันเดินนำเขาไปเขาก็ได้แค่เดินตามมันเท่านั้น
คราวนี้เขาต้องเดินขึ้นบันไดหลายขั้น จนถึงบันไดขึ้นไปชั้นบนดาดฟ้า
“แฮ่ก แฮ่ก…เฮ้นี่ฉัน…ขอพักก่อนได้ไหม”
“ถ้ายังไม่ก้าวขาต่อแกได้ตายแน่”
“ฉันต้องเดินตามแกมาหลายชั่วโมงแล้วนะ จะไม่พักกันเลยหรือไง”
“หลังจากที่แกช่วยข้าหาส่วนหัวเจอ
แกจะได้พักแน่นอนตลอดกาลเลยด้วย”สุดท้ายโทราชิก็จำใจเดินต่อจนไปถึงบนดาดฟ้าจนได้
“มาถึงดาดฟ้าแล้วรีบๆบอกมาซะว่าหัวแกอยู่ไหน…..นะ…นั่นแกจะทำอะไรน่ะ”เมื่อเขาให้ไปมองเจ้าปีศาจที่อยู่ข้างหลังของเขา
มันกำลังดึงบางอย่างออกมาจากพื้นซึ่งมันคือง้าวที่ด้ามจับทำจากไม่ไผ่เก่าๆแห้งๆใบมีดก็มีรอยขรุขระ
“หัวของข้าน่ะมันไม่มีตั้งแต่แรกอยู่แล้ว”
“อะ…อะไรนะนี่แกหลอกใช้ฉันงั้นเหรอ”
“ก็เปล่าหนิถึงข้าจะบอกว่าที่นี่ไม่มีหัวของข้า
แต่ก็มีหัวใหม่อยู่ตรงหน้าข้าแล้วนี่นา”
“มะ!...”
ฉัวะ!ไม่ทันได้เอยอะไรออกมาง้าวก็ฝันเข้าที่คอของโทราชิ
เลือดพุ่งออกเป็นน้ำพุร่างกายล้มลงกับพื้นเลือดไหลนองพื้นเต็มไปหมด
“พักให้สบายเลยเจ้าโง่”มันเดินข้ามศพของโทราชิไปแล้วหยิบหัวของเขามาใส่ให้ตัวเอง
“ถึงจะไม่ดีเท่าหัวของข้าแต่ก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรล่ะนะ
เอาล่ะมันถึงเวลาที่จะต้องไปล้างแค้นนังเด็กนั่นสักที”
“อุตส่าห์ผนึกเอาไว้แล้วยังออกมาได้อีกนะคะ นักรบต้องสาปไดโคสึ”เจ้าปีศาจก็มองตรงไปด้านหน้าข้างบนรั่วเหล็กมีเด็กสาวในเครื่องแบบนักเรียนคนหนึ่งนั่งอยู่บนขอบรั่วนั่น
ผมสีดำที่พัดปลิวสะไหวตามสายลมสะท้อนกับแสงจันทร์
ในมีถือเคียวยักษ์สีดำซึ่งเป็นอาวุธคู่ใจของเธอ
“กำลังจะออกไปหาเธออยู่พอดีแต่ถ้าเธอมาหาเอง
แบบนี้ข้าก็ไม่ต้องเสียเวลาออกไปตามเองสินะ”
“ฉันผนึกร่างของเจ้าเอาไว้แล้วทั้งหมด เจ้าออกมาได้ยังไงกัน”
“ก็เพราะมีเจ้าหน้าโง่คนหนึ่งดันมาเตะ โดนกล่องที่เจ้าผนึกข้าเอาไว้ผนึกโอริกามิของเจ้าเลยเสื่อมมนต์ข้าเลยออกมาได้แล้วก็หลอกใช้เจ้านี่ตามหาชิ้นส่วนอื่นๆ
ของข้าและตัดหัวของมันมาแทนหัวที่เจ้าทำลายทิ้งไปไงล่ะ”
“ฉันประมาณเองสินะที่ไม่ทำลายทีละชิ้น แต่กลับนึกเอาไว้”
“ก็เพราะถ้าทำแบบนั้นคำสาปของข้าก็จะแผ่กระจาย
ไปทั่วหมู่บ้านแห่งนี้ผู้คนจะล้มตายด้วยภัยพิบัติและโรคระบาดซึ่งในตอนนี้เจ้าก็ยังทำลายข้าไม่ได้อยู่ดี
ช่างเป็นการกระทำที่ไม่ประโยชน์สิ้นดีฮ่าฮ่าฮ่า”
“มันก็ไม่แน่หรอกนะคะ”เมื่อชิโนะพูดแบบนั้นไดโคสึก็หยุดหัวเราะทันที
ใบหน้าของมันมีคำถามตั้งขึ้นมา
“เจ้าพูดเรื่องอะไรเจ้าทำลายหรือฆ่าข้าไม่ได้หรอก
อย่าพูดถ่วงเวลาตายของเจ้าเลยนังเด็กน่าโง่จงตายด้วยเนื้อมือของข้าผู้นี้ซะ!”ไดโคสึกระโดดพุ่งเข้าหาชิโนะเหวี่ยงคมง้าวใส่เธอ
แต่เธอลุกขึ้นเหยียบขอบรั่วตีลังกาหลบไปด้านหน้าได้
“หลบได้เก่งดีหนิแต่คราวนี้เจ้าไม่รอดแน่…อึก…อ่อค”อยู่ๆไดโคสึก็กระอักเลือดสีดำออกมา
ก้มมองไปที่ตัวก็พบว่ามีแผลถูกฝันเฉียงเป็นแผลใหญ่
“นะ…นี้เจ้าทำอะไรลงไป อึก…ถ้าทำแบบนี้คำสาปในตัวข้าก็จะออกมานะ”
“คิดว่าที่ฉันผนึกร่างของเจ้าเอาไว้แค่เพื่อไม่ให้ออกไปฆ่า
ผู้คนบริสุทธิ์อย่างเดียวงั้นเหรอ”
“ว่าไงนะ…..นี้หรือว่าเจ้า!”
“อย่างที่คิดนั่นแหละผนึกนั่นนอกจากจะทำให้เจ้า ไม่สามารถขยับไปไหนมาไหนได้แล้วยังกัดกร่อนคำสาปของเจ้าจนตอนนี้ไม่มีคำสาปหลงเหลืออยู่แล้ว”
“หน่อยแน่นังเด็กตัวแสบตายซะแก”
ฉัวะ!ไดโคสึพุ่งเข้าใส่ชิโนะอีกครั้งแต่ถูกชิโนะง้างเคียวฝันร่างของไดโคสึเป็นสองส่วน
“คราวนี้เจ้าคงไปฆ่าใครไม่ได้อีกแล้วล่ะนะ…….แล้วฉันจะอธิบายให้เขาฟังยังไงกันดีล่ะ”
…………………………………………………
เช้าวันต่อมาทุกๆคนก็มาโรงเรียนตามปกติข่าวตอนเช้า
ทำให้ใครหลายๆคนตกใจกันอย่างมากกับการตายของโทราชิ แต่ว่าเพราะเป็นคนที่ไม่เอางานเอาการก็เลยมีใครสนใจเรื่องของเขา
“ผลสอบออกมาแล้วทุกๆคน”เมื่อได้ยินอย่างนั้นทุกๆคนในห้องก็เงียบสนิท
ตั้งหน้าตั้งตารอฟังผลคะแนนและที่ลุ้นกันมากที่สุดก็คือว่าใครจะได้เป็นหัวหน้าห้องฝ่ายหญิงและฝ่ายชาย
“ครูจะประกาศก่อนนะว่าใครได้เป็นหัวหน้าของแต่ละฝ่ายนะ
ผลที่ได้คือผู้ที่ได้เป็นหัวหน้าของฝ่ายชายคือ….โอโซระ ฮิคารุคุง”
“เย้ยยย!!!”
แปะ!แปะ!แปะ!
“ยินดีด้วยนะฮิคารุคุง”
“และสุดท้ายคนที่ได้เป็นหัวหน้าฝ่ายหญิงก็คือ….คุโรงาเนะ ชิโนะ”
“…………..”
“ฮะฮะฮะยังไงก็ขอเชิญทั้งสองคน มารับเข็มกัดหัวหน้าห้องด้วยนะ”
“ชิ…โธ่เอ๊ย”ระหว่างที่ฮิคารุกำลังลุกขึ้นเขาก็ได้ยินเสียง
ของใครบางคนที่ฟังดูแล้วไม่สบอารมณ์เท่าไร
“ครูขอแสดงความยินดีกับทั้งคนด้วย”
“ขอบคุณครับอาจารย์”พอได้รับเข็มกัดแล้วทั้งสองคนก็กลับไปนั่งที่ของตนเอง
ส่วนอาจารย์คาราสึก็ขอตัวไปสอนห้องอื่นก่อน
“ฮิคารุ”
“หืมมมมม…อะจึ๋ย”
“สุดท้ายนายก็แย่งตำแหน่งหัวหน้าฉันไอจนได้สินะห๊ะ”
“ระ…เรื่องนั้นฉันขอโทษคือแบบว่า…”
“นายเก่งมากเลยฮิคารุที่ทำข้อได้คะแนนเยอะน่ะ”
“นายไม่โกรธฉันเหรอ”
“ฮ่าฮ่าฮ่าจะบ้าเหรอไงฉันแค่พูดเล่นเองน่า”
“เฮ้!ถ้างั้นวันนี้เราไปเลี้ยงฉลองกันเถอะ”
“นายไม่ต้องมาพูดเลยเตรียมตัวสอบซ้อมเถอะไดรเอ๋ย”
“ไม่ต้องพูดถึงเรื่องนั้นก็ได้”
“ฮ่าฮ่าฮ่า”ชิโนะไม่ได้เล่าเกี่ยวกับเรื่องเมื่อคืนนี้
ปกติถ้ารู้ว่าคนในห้องตายฮิคารุคงรู้สึกแย่เธอก็เลยอาจจะไม่ยอมเล่าอะไรให้ฟัง
แต่ถึงเธอจะไม่ทำแบบนั้นไงซะเพราะมีเพื่อนคอยอยู่ข้างๆเขาจึงยังยิ้มและหัวเราะได้อีกครั้งและก็เพราะเครื่องลางที่ได้จากเธอ
ความคิดเห็น