คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : วันอังคารของราคะผู้ลุ่มหลง
ตอนที่2 วันอังคารของราคะผู้ลุ่มหลง
ในโลกอินเตอร์เน็ตตอนนี้มีข่าวหรือแปลกๆเกี่ยวกับเว็บไซค์ขายของอยู่เว็บหนึ่ง
เว็บนี้จะขายของเกี่ยวกับของคุณไสยที่ทำให้ตัวเองมีเสน่ห์ต่อเพศตรงข้าม ซึ่งมันใช้ได้ผลเป็นอย่างมากจึงมีผู้เข้าชมเว็บและสั่งซื้อสินค้าเป็นจำนวนมากแต่มีสินค้าอยู่ตัวหนึ่ง
ไม่มีใครเคยสั่งซื้อมันมาก่อนเพราะราคาที่แพงเกินเอื้อมและคำอธิบายของสินค้ามันบอกว่า
สินค้าชิ้นนี้ให้ผลดีกว่าสินค้าอื่นแต่ว่าข้อแม้คือหากใช้แล้วจะต้องแลกด้วยสิ่งมีค่าที่ทัดเทียมกับสิ่งที่ขอไปดังนั้นด้วยเงื่อนไขที่ไม่มีข้อมูลที่แท้จริง
ต่อให้มีเงินมากแค่ไหนก็ไม่มีใครกล้าซื้อมันดังนั้นข้อมูลของสินค้าชิ้นนั้น
จึงถูกเก็บเอาไว้ในส่วนลึกของเว็บไซค์รอค่อยการปลดปล่อยจากลูกค้าที่ต้องการแลกสิ่งสำคัญเพื่อความลุ่มหลงของคนที่ตนรักยิ่ง
เช้าวันที่สองของการย้ายมาอยู่ในชนบทเช้านี้อากาศสดใส
แต่สำหรับฮิคารุที่เพิ่งผ่านเรื่องน่ากลัวมานั้นไม่ได้ยินดียินร้ายอะไรทั้งนั้นตื่นเช้ามาก็เตรียมตัวไปโรงเรียน
ได้ยินเสียงโทรทัศน์ที่คุณยายเปิดไว้รายงานข่าวสภาพอากาศ
เขาลงมาทานข้าวกับคุณยายขณะเดียวกันก็ฟังข่าวไปด้วย
“ทานเลยนะครับ”
“มากันที่ข่าวต่อมาคะเมื่อวานนี่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง
มีการฆาตกรรมหมู่ที่ศาลเจ้าอาถรรพ์ที่เป็นตำนานของหมู่บ้านแห่งนั้น พบศพของนักเรียนชายจำนวนเจ็ดคนด้วยกันคะ
เราจะย้ายไปที่รายงานสดกันนะคะคุณอาราตะเชิญคะ”
“สวัสดีครับผมอาราตะรายงานสดจากที่เกิดเหตุตอนนี้
ผมกำลังสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูที่เกิดเหตุนะครับไม่ทราบว่าที่เกิดเหตุเป็นยังบ้างครับ”
“ครับ…ที่เกิดเหตุก็ไม่พบล่องรอยของการต่อสู้เลยนะครับส่วนศพที่พบเนี่ยคนแรกกระดูกหักเกือบทั้งหมดสาเหตุคิดว่าน่าจะหนีจากฆาตกรแต่พลาดจึงตกลงบันไดตาย
อีกสาเหตุหนึ่งคือถูกผลักลงมาส่วนศพที่สองหัวขาดตอนนี้ยังไม่พบหัวที่หายไป
ศพที่เหลืออีกห้าศพนั้นเละไม่เหลือชิ้นดีเลยละครับ ราวกับถูกทุบด้วยของหนักๆบวกกับความแรงถ้าไม่มีชุดนักเรียนคงจะดูไม่ออกว่าเป็นใคร”
“แล้วไม่ทราบคุณคิดยังไงเกี่ยวกับการที่โหดร้ายคนร้ายครับ”
“ผมเองก็ไม่แน่ใจถึงแรงจูงใจของคนร้ายหรอกนะครับ
แต่ไม่ว่าจะเป็นใครพวกเราจะพยายามตามจับคนร้ายให้ถึงที่สุดเลยล่ะครับ”…ระหว่างที่ฮิคารุกำลังดื่มนมอยู่นั้นจู่ๆคุณยายก็ถามแทรกขึ้นมา
“ฮิคารุที่เมื่อวานหลานกลับมาช้าเพราะหลานไปอยู่ที่ศาลเจ้าอาถรรพ์ใช่ไหม”
“พรวด!!!...คุณยายไหงจู่ๆมาถามผมอย่างงี้ล่ะ”
“แต่ยายก็ไม่ได้พูดอะไรผิดใช่ไหมล่ะ”
“ก็นะครับ”
“ทำไมถึงไม่บอกยาย”
“ก็ผมไม่อยากให้คุณยายเป็นห่วงนี้นาคุณยายน่ะอายุมากแล้วนะครับ”
“เรื่องนั้นยายรู้ตัวดีว่ายายแก่จนทำอะไรไม่ค่อยได้ดั่งใจ
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ายายจะเป็นห่วงหลานไม่ได้นะ”
“เรื่องนั้นผมต้องขอโทษด้วยครับ”
“พวกคนที่ตายคงจะหลอกให้หลานเปิดตู้ที่ยักษ์ถูกผนึกไว้ฆ่าล่ะสินะ”
“ใช่แล้วครับว่า…แต่คุณยายรู้ได้ยังไง?”
“ลืมไปแล้วเหรอยายน่ะเป็นอนเมียวจินะแล้วคนที่จัดการยักษ์ล่ะ”
“ผมพูดไปก็ไม่แน่ใจว่าคุณยายจะเชื่อไหม
คนที่จัดการยักษ์เป็นเด็กผู้หญิงร่วมห้องของผมเอง”
“ว่าแล้วเชียวว่าต้องเป็นเด็กคนนั้น”
“คุณยายรู้จักชิโนะด้วยเหรอครับ”
“เปล่าหรอกยายรู้แค่ว่าคนของตระกูลคุโรงาเนะมีหน้าที่
ปราบพวกภูตผีตามที่ผู้ว่าจ้างต้องการให้ไปปราบพวกเขาจะใช้ศาสตร์มืดที่เรียกว่าอาวุธสีนิลในการปราบ”
“(หรือว่าจะเป็นเคียวที่ชิโนะใช่กันนะ)”
“ว่าแต่หลานไม่รีบไปโรงเรียนเหรอ”
“ห๊ะ!...ถึงเวลาไปโรงเรียนแล้วเหรอเนี่ยผมไปก่อนนะครับคุณยาย”
“ไปดีมาดีนะ”…ฮิคารุก็รีบวิ่งออกจากบ้านไปจนใกล้จะถึงโรงเรียนแล้ว
เขาก็หยุดวิ่งและเดินต่อแทนซักพักหนึ่งก็มีเสียงของผู้หญิงเรียกชื่อของเขา
เขาจึงหันไปด้านหลังก็มีผู้หญิงผมสีทองวิ่งตามาโบกมือยิ้มให้
“อรุณสวัสดิ์นะฮิคารุคุง”
“อรุณสวัสดิ์อาเกฮะ”
“นี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่เราเดินไปโรงเรียนด้วยกันน่ะ”
“อะ…อืมนั่นสินะ”
“ดูข่าวเมื่อเช้าหรือน่ากลัวจังเลยเนอะอยู่ๆก็มีคนตายแถมยังเป็นพวกของบาคุอีก”
“นี่เธอรู้ได้ยังไงว่าเป็นพวกบาคุ”
“ก็ในข่าวเขาก็บอกรายชื่อผู้เสียชีวิตนี่นาเธอไม่ได้ดูข่าวเหรอ”
“เปล่าหรอกคือฉันดูแค่ช่วงรายงานสดแล้วก็รีบออกจากบ้านมาน่ะ”
“อ๋อแบบนี้นี่เอง”…ฮิคารุกับอาเกฮะเดินคุยกันระหว่างทางไปโรงเรียนพอมาถึงโรงเรียนพวกเขาก็เดินไปที่ห้องของตัวเองแต่บรรยากาศในห้องนั้นเงียบกว่าปกติคงเป็นเพราะข่าวเมื่อตอนเช้า
แต่ก็มีอยู่คนหนึ่งที่ไม่ได้ตื่นกลัวกับข่าวที่เกิดขึ้น
ยังคงอ่านวรรณกรรมต่อไปแบบเงียบๆ
“อรุณสวัสดิ์”
“…….อรุณสวัสดิ์”
“(นึกว่าจะไม่ตอบซะแล้วแฮะ)…ยังอ่านวรรณกรรมอยู่อีกเหรอ”
“……..ก็ชอบอ่านแบบนี้มากกว่าหนิคะ”
“ฉันว่าเธอลองเปลี่ยนไปอ่านพวกนิยายบ้างก็ได้นี่นา”
“ไม่ล่ะคะ”
“เมื่อเช้าเธอได้ดูข่าวไหม”
“ไม่จำเป็นที่จะต้องดูหรอกคะเพราะในเมื่อรู้ผลลัพธ์อยู่แล้ว”
“น่ะ…นั่นสินะ”
“(ทำไมฮิคารุคุงถึงได้คุยกับยัยแม่มดนั่นล่ะทั้งๆที่เราน่าสนใจกว่าแท้ๆเลย
ดีล่ะเราต้องพยายามมัดใจของฮิคารุคุงให้ได้ด้วยวิธีของฉันคนนี้เนี่ยแหละ)”…เมื่ออาเกฮะคิดแบบนั้นแล้วก็เริ่มลงมือวางแผนต่างๆ
“(เอาล่ะหมดคาบเช้าแล้วถึงเวลาพักกลางวันแล้ว)”
“เฮ้ฮิคารุไปกินข้าวกันเถอะ”
“อืมไปสิ”
“ฮิคารุคุงไปกินข้าวกล่องกันเถอะนะ…(แผนแรกชวนให้ไปกินข้าวกล่องกันสองต่อสอง)”
“ขอโทษนะพอดีวันนี้ฉันไม่ได้ทำข้าวกล่องก็เลย
จะไปกินที่โรงเรียนอาหารกับพวกไดรน่ะ”
“พอดีเลยฉันทำมาเผื่อด้วยนะ”
“ไม่เป็นไรฉันเกรงใจน่ะงั้นฉันไปก่อนนะ”
“เดี๋ยวสิ…(โธ่เอ้ย!...แผนแรกไม่ได้ผลต้องแผนที่สอง”
......................................................................
“ฮิคารุคุงคือโจทย์เลขข้อนี้ฉันไม่ค่อยเข้าใจสอนฉันหน่อยได้ไหม…(แผนที่สองให้เขาสอนการบ้านหรืองานให้เพื่อเพิ่มความใกล้ชิดกันมากขึ้น”
“ได้สิข้อไหนล่ะ”
“ข้อนี้ไงล่ะพอดีฉันไม่ค่อยเข้าใจสูตรที่จะใช่น่ะ”
“อ๋อ!...ข้อนี้น่ะเหรอข้อนี้เธอจะต้องเอาสมการแรกมาคูณกับสมการที่สองเมื่อหาผลลัพธ์ได้แล้วก็เอาผลลัพธ์ที่ได้ไปลบกับสมาการที่สอง
แล้วก็จะได้คำตอบนี่อาเกฮะฟังที่ฉันพูดอยู่หรือเปล่า”
“อะ…อ๋อจ้ะๆฉันฟังอยู่นี่ฮิคารุคุงวันอาทิตย์ที่จะมาถึงนี้ฮิคารุคุงว่างไหม”
“ก็ว่างนะทำไมเหรอ”
“คือจะว่าอะไรไหมถ้าฉันอยาก จะชวนฮิคารุคุงไปเที่ยวน่ะ”…แต่ก่อนที่ฮิคารุจะตอบก็มีชายสองคนเดินมาข้างหลังอาเกฮะ
“ไปเที่ยวกับพวกเราดีกว่าน่ะอาเกฮะจัง”
“เฮราอิคุง เคนโกคุงทำไมอยู่ๆมาหาถึงที่ห้องเรียนเลยล่ะ”
“ก็ไม่เห็นเธอออกมารอพวกเราตามปกติหนิ”
“เพราะฉะนั้นพวกเราเลยมาหาที่ห้อง”
“นี่ๆอาเกฮะจังหลังเลิกเรียนไปร้านเกมเซนเตอร์ไหม”
“ไม่ก็ไปขับรถเล่นกัน”
“น่าเสียดายนะแต่วันนี้ฉันขอกลับบ้านก่อนดีกว่า”
“อ้าว?...ทำไมล่ะ”
“ถามว่าทำไมเหรอก็ไม่รู้สินะแหะแหะ”…ระหว่างที่อาเกฮะกำลังคุยกับพวกผู้ชายที่อยู่ข้างห้อง
ต่างก็มีเสียงซุบซิบนิทากันอยู่หลังห้อง
“นี่เธอยัยอาเกฮะเอาอีกแล้วล่ะ”
“ทำตัวแอบแบ๊วหลอกล่อผู้ชายไปวันๆน่าสมเพชสิ้นดี”
“ฉันได้ยินมาว่าอาเกฮะน่ะไปแย่งแฟนของมิโยะจังที่อยู่ห้องข้างๆ
ด้วยนะคราวนี้คงคิดจะมายั่วฮิคารุคุงแน่ๆ”
“ถึงจะเป็นถึงหนูสาวของนักธุรกิจรายใหญ่ก็เถอะทำแบบนี้ไร้ยางอายที่สุด”
“เรื่องไปเที่ยวกับพวกเธอเอาไว้วันหลังแล้วกันนะโอเคนะทั้งสองคน”
“โธ่เอ้ย!…เซ๊งเลยเอาตามนั้นก็ได้พวกฉันไปก่อนล่ะ”
“อาเกฮะสนิทกับพวกเขาเหรอ”
“เปล่าจ้ะไม่ใช่อย่างที่ฮิคารุคุงคิดนะเราก็แค่
สนิทกันแบบเพื่อนเท่านั้นเองแหละ”
“อย่างงั้นหรอกเหรอ”
“อืมๆใช่แล้วล่ะจ้ะ”…เสียงกริ่งหมดเวลาพักเที่ยงดังขึ้นทุกคนที่อยู่ข้างนอกก็กลับเขาห้อง
วันนี้ไม่ค่อยได้เรียนอะไรมากเพราะอาจารย์บางส่วนต้องไปงานศพของพวกบาคุ สรุปแล้ววันนี้ทั้งก็เหมือนไม่ได้เรียนวันนี้จึงไม่มีการบ้านนักเรียนบางส่วนก็ดีใจที่ไม่มีการบ้าน
บางส่วนก็ไม่ค่อยรู้สึกดีเท่าไรเพราะเหตุการณ์ที่เกินขึ้นเมื่อคืนนี้
“เฮ้ออออออ…วันนี้ทั้งวันแถบจะไม่ได้ทำอะไรเลยแฮะ
จัดของเสร็จแล้วรีบกลับบ้านเลยดีกว่า”
“ฮิคารุคุงจะกลับบ้านแล้วเหรอ…(แผนที่สามคือการเดินกลับบ้านด้วยกันสองต่อสองยามพระอาทิตย์ตกดินแล้วเราก็จะได้รู้ด้วยว่าบ้านของฮิคารุคุงอยู่ที่ไหน”
“ใช่แล้วล่ะมีอะไรหรือเปล่าอาเกฮะ”
“คือเดินกลับบ้านด้วยกันดีไหมล่ะ”
“บ้านเธอกับฉันอยู่คนละทางไม่ใช่เหรอ”
“(เออ…ก็จริงแฮะลืมคิดไปเลย)…นั่นสินะฉันคนนี้นี่ไว้เลยเรื่องแค่นี้ก็จำไม่ได้ฮะฮะ”
“งั้นฉันไปก่อนล่ะไว้เจอกันใหม่วันพรุ่งนี้นะ”
“อืมไว้เจอกันใหม่พรุ่งนี้…(แผนที่สามก็ไม่ได้ผลวันนี้ทั้งวันแผนของเราไม่ได้ผลเลยสักนิด
ในเมื่อเป็นแบบนี้ก็ตั้งสะกดรอยตามแทนแล้วกัน)”…อาเกฮะก็รีบตามฮิคารุที่เดินออกนอกโรงเรียนไปแล้ว
เธอค่อยตามทุกฝีก้าว ทางฝั่งฮิคารุเองก็รู้สึกเหมือนมีใครตามมา
แต่ก็ทำเป็นไม่สนใจเดินต่อไปเรื่อยๆแล้วอยู่ๆก็มีมือของใครบางคนมาดึงที่ชายเสื้อไว้เขาค่อยๆหันหลังไป
ในใจเขาภาวนาอย่าให้เป็นพวกโรคจิตหรือผีสางอะไรพวกนี้เลยพอหันไปแล้วไม่มีใครอยู่
“พี่ชายๆหนูอยู่ข้างล่างนี้”…เขาก้มลงไปดูก็เจอกับเด็กหญิงตัวเล็กน่ารักอายุราวๆ8-9ขวบคงจะได้ ใส่ชุดเก่าๆรองเท้าแตะถือกระเป๋าที่มีโบว์ผูกผมอยู่สองเส้น
“พี่ขอโทษก็หนูเล่นมาดึงเสื้อพี่แบบนี้พี่ก็ตกใจน่ะสิ”
“หนูขอโทษหนูแค่อยากขายโบว์ผูกผมนี้ให้หมดน่ะคะ
พี่ชายช่วยซื้อหน่อยนะคะเหลือแค่สองเส้นเอง”
“แล้วหนูมาขายของคนเดียวแบบนี้มันอันตรายนะพ่อแม่ไปไหนล่ะ”
“คุณพ่อรับจ้างก่อสร้างในเมืองส่วนคุณแม่ก็ป่วย
หนูเลยมาขายของเพื่อที่จะหาเงินช่วยค่ารักษาของคุณแม่พี่ชายช่วยหนูหน่อยนะเส้นละ100เยนเอง”
“โอเคก็ได้ๆพี่เห็นว่าหนูลำบากนะพี่เลยซื้อนะ”
“ไซโย!...ขอบคุณคะพี่ชาย”…ฮิคารุย่อตัวลงให้พอดีกับตัวเด็กหญิงโบว์ผูกผมนั้น มีสีแดงกับสีเขียวทั้งสองเส้นมีลวดลายสีขาวเป็นรูปดอกสึบากิ
“โบว์นี้ลวดลายแปลกดีนะ”
“โบว์พวกนี้หนูทำเองเลยนะคะ”
“เอ๋?...เก่งจังเลยนะเราน่ะเอานี่เงิน”
“ขอบคุณมากเลยคะพี่ชาย”…เมื่อรับเงินแล้วเด็กหญิงก็ยิ้มแย้มอย่างมีความสุขจากนั้นก็วิ่งกลับบ้านไป
“ซื้อมาแล้วฉันจะไปให้ใครกันล่ะเนี่ย”…อาเกฮะที่แอบดูเหตุการณ์ที่เสาไฟฟ้าดวงตาก็ฉายแวว
คิดว่าถ้าตนทำเป็นบังเอิญไปตรงนั้นแล้ว
ฮิคารุคงจะเอาโบว์ผูกผมให้เธอเมื่อว่างแผนเสร็จกำลังจะออกจากที่ซ่อนแต่ก็มีใครบางคนเดินสวนนำหน้าเธอไป
“นี่คุณยังไม่กลับบ้านอีกเหรอ”
“อ้าว?...ชิโนะฉันเห็นเธอออกจากห้องเรียนไปนึกกว่ากลับบ้านไปแล้วซะอีกนะ”
“เปล่าคะฉันแค่แวะเอาหนังสือที่ยืม
ไปคืนที่ห้องสมุดเพิ่งออกมาเมื่อกี้นี่เอง”
“งั้นเหรอ…จริงสิถ้าไม่รังเกลียดเธอช่วยรับเจ้านี่ไปหน่อยได้ไหม”
“นั่นมันอะไรกันน่ะคะ”
“โบว์ผูกผมน่ะพอดีมีเด็กผู้หญิงมาขายฉันสงสารเลยซื้อมาแต่ไม่รู้จะเอาให้ใครดี”
“คุณก็เลยเอามาให้ฉันที่บังเอิญผ่านมาพอดีเหรอคะ”
“ก็มันช่วยไม่ได้นี่นาให้เธอไปถึงเธอจะไม่ผูกมันแต่ก็ยังดีกว่าเก็บไว้ที่ฉันน่ะ
“ถ้างั้นฉันจะรับเอาไว้แล้วกัน”…ฮิคารุส่งโบว์ผูกผมให้เธอจากนั้นเธอก็ขอตัวกลับบ้านไปส่วนเขาเองก็เดินกลับบ้านของตนเองไป
ปล่อยบุคคลที่สามยื่นคับแค้นใจอยู่ตรงนั้น
“ทำไม…ทำไมกันฮิคารุคุงถือสนิทกับยัยแม่มดนั่นได้ล่ะ
อุตส่าห์บอกว่าอยู่ด้วยแล้วจะตายแท้ๆจะต้องใช้วิธีไหนถึงจะกำจัดยัยแม่มดให้พ้นทางกันนะ”
“อ้าว?...นี้อาเกฮะมาทำอะไรตรงนี้ยังไม่กลับบ้านอีกเหรอ”
“มานาเบะจังคือว่านะถ้าอยากจะให้ผู้ชายมาหลงรักเราเราควรจะใช้วิธีไหนดี”
“หา?...ไหงอยู่คนเนื้อหอมอย่างเธอมาถามอะไรแบบนี้กับฉันล่ะ”
“ก็ฮิคารุคุงเขาไม่สนใจฉันเลยน่ะสิ”
“อ๋อๆนักเรียนใหม่ห้องเธอสินะความจริงก็ไม่ใช่จะไม่มีวิธีดีๆหรอกนะ”
“มันเป็นวิธีแบบไหนเหรอ”
“รอแป๊บนะ…ปิ๊ง…ปิ๊ง…อ่านี้ไงเจอแล้วเธอลองเข้าเว็บนี้ดูสิ”
“ร้านขายของคูณไสยเนี่ยนะ”
“แต่ของเขาดีนะนี่จะบอกอะไรให้สินค้าของเว็บนี้ใช้แล้วได้ผลทันทีเลยล่ะนะ เพื่อนฉันลองซื้อมาใช้แล้วมันให้ผลดีสุดๆ”
“จริงๆเหรอ”
“อืมเธอลองเข้าเว็บที่บ้านของเธอดูนะเผื่อมีของที่เธออยากได้”
“ฉันจะลองดูนะขอบใจมากเลยนะมานาเบะจัง”
“อืมฉันไปก่อนล่ะบายไว้เจอกันพรุ่งนี้นะ”
“ดีล่ะในเมื่อวิธีของฉันไม่ได้ผลก็ต้องลองใช้ไสยศาสตร์เนี่ยแหละ”
......................................................................
“เอาล่ะลองเข้าเว็บที่มานาเบะจังแนะนำมาดีกว่า…ไหนดูสิมีอะไรน่าสนใจบ้างน้ำหอมหว่านเสน่ห์ เครื่องรางหาคู่รัก แหวนเจ้าหญิงเงือก
ไม่ว่าจะอันไหนๆก็ไม่น่าสนใจทั้งนั้นเลย”…อาเกฮะนั่งหาสินค้าตั้งนานสองนานก็ยังไม่เจอของที่ถูกใจ
จนเธอค้นไปถึงสต็อกเก็บของที่ถูกปิดเอาไว้นานเธอลองคลิกเข้าดูมีสินค้าอยู่หนึ่งชิ้นมันถูกปิดตายมาหลายเดือน
แต่ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงถูกใจของชิ้นนี้มากราคาแพงกว่าของชิ้นอื่นๆที่เธอหามาเธอไม่ได้สนใจราคาที่แพงเกินเอื้อมนั่นเลย
เธอกดซื้อมันทันทีจากนั้นเธอก็เข้านอนรอของที่เธอสั่งซื้อมาส่งอย่างใจจดใจจ่อ เช้าวันต่อมาอาเกฮะก็ไปโรงเรียนตามปกติแล้วก็พยายามลองเอาชนะใจฮิคารุอีกครั้งแต่ก็ยังไม่ได้ผลอีกเช่นเคย
จนถึงเวลากลับบ้านเธอรีบตรงกลับบ้านทันทีแล้วเธอก็เห็นมีกล่องสีดำใบใหญ่ขนาดเท่าตัวเธอว่างอยู่หน้าบ้าน
“ไซโย!...ของมาส่งแล้วเว็บนี้ของส่งเร็วดีจังเลย
รีบขนไปไว้ข้างในบ้านดีกว่าฮึ่บ!...หนักเอาเรื่องเหมือนกันนะเนี่ย”
“เฮ้อออออ…ถึงห้องสักทีรีบแกะกล่องเลยดีกว่า”…แล้วอาเกฮะก็ดึงเทปกาวออกทีละชิ้นๆจนตัวกล่องถูกเปิดออกเป็นสี่ส่วน
ข้างในมีตุ๊กตาผมสั้นสีดำดวงตาสีขาวกลมโต ใสชุดกิโมโนสีดำลายดอกกุหลาบสีแดง
“พอดูของจริงแล้วสวยกว่าในเว็บซะอีกนะเนี่ยเหตุผลที่เราสั่งซื้อมา เพราะถ้าเรานำของมีค่าบูชาให้ตุ๊กตาตัวนี้ยิ่งมีค่ามากเท่าไรเราก็จะได้คนๆนั้นมาเร็วเท่านั้น”
“เอาล่ะไหนดูคู่มือแนะนำการใช้หน่อยสิ”…เธอหยิบหนังเล่มเล็กสีดำตัวหนังสือสีแดงมันเขียนถึงวิธีการใช้ต่างเกี่ยวกับตุ๊กตาตัวนี้
“ขั้นตอนแรกเราต้องนั่งคุกเขาต่อหน้าตุ๊กตาบนวงแหวนเวยท์ที่เขียนเอาไว้
ข้างใต้ตุ๊กตาตัวนี้สินะถ้างั้นเราก็ต้องย้ายมันมาว่างไว้ตรงนี้”
“ขั้นตอนที่สองแค่พูดว่าตุ๊กตาฮิอิโระเอ๋ยเราขอมอบของมีค่าที่สุดในชีวิตของเราให้แก่ท่านเพื่อให้ความปรารถนาเป็นจริง
อืม…ง่ายหนิเดียว”
“ยังไงซะเราก็มีเงินมากมายอยู่แล้วแค่เอามาใช่บูชาตุ๊กตานิดๆหน่อยๆคงไม่เป็นไรหรอกถ้างั้นก็เริ่มกันเลยดีขั้นแรกก็นั่งตรงนี้
เสร็จแล้วจากนั้นก็อะแฮ่ม…ตุ๊กตาฮิอิโระเอ๋ยเราขอมอบของมีค่าที่สุดในชีวิตของเราให้แก่ท่านเพื่อให้ความปรารถนาของเราเป็นจริง”
“(ฮี่ฮี่ฮี่…ข้าขอรับของมีค่าของเจ้า)”
“เอ๊ะ!?...เมื่อกี้เหมือนได้ยินเสียงใครหัวเราะช่างเถอะสงสัย
เราคงหูแว่วไปเองคุณตุ๊กตาช่วยทำให้ฮิคารุคุงเป็นของฉันด้วยนะคะ”…อาเกฮะยิ้มแย้มอย่างมีความสุขแต่หารู้หรือไม่เธอได้ทำสิ่งที่จะทำชีวิตของเธอเปลี่ยนไปตลอดกาล
“ฮือ…ฮือ…เมื่อวานดันนอนดึกไปหน่อยเลยตื่นสาย อดเดินไปโรงเรียนกับฮิคารุคุงเลยแต่ก็ยังดีที่ยังไปโรงเรียนทัน”
“อรุณสวัสดิ์จ้าทุกๆคน”…แต่ว่าบรรยากาศในห้องกลับดูเงียบผิดปกติทุกๆคนทำเศร้าเหมือนเพิ่งเสียอะไรบางอย่างไป
“อ้าว?...ทุกๆคนเป็นอะไรกันไปหมดทำไมถึงทำหน้าเศร้ากันอย่างงั้นล่ะ”
“ทุกๆคนนั่งที่ให้เรียบร้อยวันนี้พวกอาจารย์ก็จะไม่อยู่
กันอีกแล้วนะอาจารย์จะฝากงานให้พวกเธอทำ”
“อาจารย์คุโรงาเนะจะไปไหนเหรอคะ”
“นี่คุณฮายาเมะไม่ได้ดูข่าวเหรอว่าคุณมาสึระถูกรถบรรทุกชนตายเมื่อคืนนี้เอง”
“ดะ…เดี๋ยวนะคะเมื่อวานฉันเพิ่งคุยอยู่กับเธอเมื่อตอนเย็น
แล้วตอนกลางคืนเธอถูกรถชนตายงั้นเหรอ”
“อืมใช่ดูเหมือนเมื่อคืนเธอจะขับรถจักรยานยนต์
ออกไปข้างนอกอาจารย์เองก็ไม่รู้หรอกนะว่าเธอออกไปทำอะไรเธอผ่านตรงสามแยกแล้ว
รถบรรทุกก็ขับออกแต่คนขับคงจะไม่เห็นเธอเพราะตรงนั้นมันมืดเธอถูกชนอย่างจังจนร่างกายของเธอถูกแยกออกเป็นสามส่วนเลยล่ะ”
“อะไรกันเรื่องแบบนั้นไม่จริงหรอก”
“อาจารย์มาแจ้งเท่านี้นะอาจารย์จะเอางาน
ไว้บนโต๊ะพวกเธอมาหยิบเอาไปทำเองนะ”
“ทำไมกันทำไมต้องเกิดแบบนี้ขึ้นด้วยกันล่ะ”
“ฉันขอแสดงความเสียใจด้วยนะอาเกฮะ คุณมาสึระคงเป็นเพื่อนที่ดีของเธอสินะ”
“ใช่มานาเบะจังเป็นเพื่อนสนิทของฉันทำไมเธอต้องมาจากไปแบบนี้ด้วย”
“(เพราะว่าเธอยกเพื่อนของเธอให้ฉันยังไงล่ะ)”
“เอ๊ะ!?...เมื่อกี้ได้ยินเสียงของใครอีกแล้ว”
“มีอะไรหรือเปล่าอาเกฮะ”
“เปล่าจ้ะไม่มีอะไร”
“งั้นเหรอถ้างั้นฉันขอกลับไปนั่งทีก่อนล่ะนะ”
“อืมจ้ะ…(ด…เดี๋ยวก่อนสิทำไมฮิคารุคุงมาปลอบฉันแค่นี้เองล่ะ
พิธีที่ทำไปเมื่อวานไม่ได้ผลเหรอไม่สิไม่น่าจะเป็นไปได้ต้องลองทำอีกครั้ง)”…พอเลิกเรียนแล้วอาเกฮะก็รีบกลับบ้านไปเพื่อลงทำพิธีอีกครั้ง
เธอเปิดประตูเข้าห้องไปก็พบความผิดปกติบางอย่าง
“เอ๊ะ?...ทำไมตุ๊กตาตัวนี้รู้สึกว่าผมมันสั้นกว่านี้ไม่ใช่เหรอเหลือว่าเราคิดไปเอง
ช่างเถอะเราลองหาวิธีที่ทำให้ฮิคารุคุงมาตกหลุมรักเราให้ได้”…อาเกฮะหยิบคู่มือมาอ่านอีกเธอเปิดมันอ่านไม่ว่าจะหน้าไหนๆก็ไม่มีวิธีที่ดีที่สุดจนสุดท้ายเธอเปิดเจอหน้าสุดท้าย
มันเขียนเอาไว้ถ้าหากให้คนมาตกหลุมรักแบบรวดเร็วก็ต้องนำตุ๊กตาไปไว้ที่ๆคนๆนั้นเคยอยู่หรือนำสิ่งของของคนๆนั้น
มาวางไว้ที่ตุ๊กตาแล้วเรียกคนที่เราต้องการให้มาด้วยไม่ว่าจะอยู่ไกลหรือใกล้ตุ๊กตา
พิธีกรรมก็จะสำเร็จ
“วิธีนี้ล่ะดีที่สุดโชคดีที่เราแอบขอเบอร์โทรศัพท์ของฮิคารุคุงจากไดรคุง
ก่อนอื่นต้องเอาตุ๊กตาตัวนี้ไปไว้ที่โรงเรียนก่อนสินะจากนั้นก็โทรเรียกฮิคารุคุงออกมา”…เมื่อว่างแผนเสร็จสับเรียบร้อยแล้วอาเกฮะก็เอาตุ๊กตาห่อผ้าสีดำแล้วแอบเอาไปไว้ที่โรงเรียน
พอถึงโรงเรียนแล้วเธอก็เอาตุ๊กตาไปนั่งที่ของฮิคารุจากนั้นเธอก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโทรหาฮิคารุ
“ครืนๆ…ครืนๆ…หืมมมม?ใครโทรมากันล่ะเนี่ยเบอร์ไม่คุ้นเลยแฮะฮัลโล…”
“ฮัลโล…ฮิคารุคุงใช่ไหม”
“อาเกฮะเธอมีเบอร์โทรฉันได้ยังไง?”
“เรื่องนั้นเอาไว้จะอธิบายให้ฟังนะแต่ช่วยไปส่งฉันที่โรงเรียนหน่อยได้ไหม”
“ทำไมล่ะ”
“คือฉันลืมของสำคัญเอาไว้ใต้โต๊ะน่ะแต่ฉันไม่กล้า
ไปคนเดียวเธอช่วยไปเป็นเพื่อนฉันหน่อยได้ไหมนะขอร้องล่ะ”
“ก็ได้แค่แป๊บเดียวนะหาขอเจอแล้วฉันจะกลับบ้านเลยนะ”
“ขอบคุณมากเลยนะจ้ะฮิคารุคุงฉันวางสายก่อนนะ”
“หวังว่างานนี้ฉันคงไม่เอาตัวเองไปเป็นอาหารให้ปีศาจตัวไหนหรอกนะ
คุณยายครับผมของออกไปทำธุระข้างนอกหน่อยได้ไหมครับ”
“ตามสบายแต่หลานระวังตัวด้วยนะเอาเครื่องรางไล่วิญญาณไปด้วยเพราะตอนนี้มันมืด
แล้วพวกภูตผีจะมีพลังเยอะเป็นพิเศษนะ”
“ผมเข้าใจแล้วครับผมจะรีบกลับมา”
......................................................................
“เอาล่ะฮิคารุคุงคงจะออกจากบ้านมาแล้ว
เรารีบทำเป็นเนียนเพิ่งออกจากบ้านมาดีกว่า”
“แกร๊ง…แกร๊ง…”
“จะว่าไปแล้วอาเกฮะอยู่ไหนละเนี่ยไอ้เราก็ดันรีบออกมาซะได้”
“ฮิคารุคุงเธอมารอฉันนานหรือยังพอดีฉันเพิ่งจะออกจากบ้านมาน่ะ”
“เปล่าเลยฉันเพิ่งเดินมาถึงกำลังคิดว่าเธอจะรอฉันอยู่ที่ไหนหรือเปล่าน่ะ”
“อย่างงั้นเหรอถ้างั้นพวกเรารีบไปกันเถอะนะมันมืดแล้วจะมีอะไรเกิดขึ้นก็ไม่รู้”
“อืมนั่นสินะ”…ระหว่างที่ทั้งสองคนคุยกันอยู่ก็เกิดเรื่องน่ากลัวขึ้นในโรงเรียนแล้ว
ตึก….ตึก….ตึก
“ให้ตายเถอะทำงานเป็น รปภ. นี่เหนื่อยชำมัดเลย
ต้องมานั่งเดินตรวจทั่วโรงเรียนแถมค่าแรงก็ได้น้อยอีกด้วยโรงเรียนนี้งกเป็นบ้าเลย
นั่นใครน่ะ!มาทำอะไรที่โรงเรียนตอนกลางคืนแบบนี้”
“ฮี่ฮี่ฮี่…มาเป็นของเล่นให้ฉันเถอะ”
“พูดเรื่องอะไรน่ะดะ…เดี๋ยวจะทำอะไรน่ะ!?...อ๊ากกกกกกกกก!!!”
“เฮ้ออออ…ในที่สุดก็ถึงโรงเรียนสักทีทำไมรู้สึกเหนื่อยกว่าเดินตอนเช้าล่ะเนี่ย”
“ขอบคุณที่มาส่งนะฮิคารุคุงรออยู่ตรงนี้นี่แหละ”
“หา?…พูดเรื่องอะไรน่ะบนอาคารมันมืดนะเธอจะไปคนเดียวได้ยังไงกัน”
“ไม่เป็นไรฉันเอาไฟฉายมาด้วยน่ะแป๊บเดียวเองเดี๋ยวฉันก็มาโอเคนะ”
“โอเคฉันจะรออยู่หน้าอาคารนี้ก็ได้”
“ฉันขึ้นไปก่อนนะ”…เธอเดินขึ้นบันไดไปจนชั้นที่สามซึ่งเป็นชั้นเรียนของเธอ
แต่ว่าเธอก็ต้องตกใจเมื่อมีรอยสีแดงเธอแถบจะกริ๊ดแต่ก็ต้องเอามือปิดปากเอาไว้
รอบสีแดงถูกลากยาวไปตั้งแต่บันได้ชั้นสองไปจนถึงชั้นสี่
เธอค่อยๆเดินต่อไปแล้วรอยสีแดงนั่นก็มาสุดปลายที่ห้องเรียน
เธอค่อยเลื่อนประตูอย่างช้าๆจากนั้นเธอก็ได้ยินเสียงเหมือนมีอะไรถูกแท่ง
“น่ะ…นั่นใครกันนะมีใครอยู่ในห้องนี้เหรอ”…อาเกฮะค่อยส่องไฟฉายไปยังต้นเสียงมีผู้หญิงผมสีดำยาว
ใสชุดกิโมโนสีดำลายดอกกุหลาบสีแดงรอบๆตัวมีแต่น้ำสีแดงนองพื้น
เธอกำลังยกมีดเสียบแท่งอะไรสักอย่างอยู่เมื่อเธอสังเกตดีเธอแถบจะเป็นลม
เพราะสิ่งที่ผู้หญิงคนนั้นกำลังเสียบแท่งอยู่นั้นเป็นศพของ รปภ. ที่เพิ่งตกเป็นเหยื่อของเธอ ผู้หญิงคนนั้นค่อยหมุนหัวมาทางเธอจนหัวหมุนตรงกับแผ่นซึ่งถ้าเป็นคนปกติธรรมดาๆคงทำไม่ได้แต่นี้ดันเป็น
ตุ๊กตาที่เธอเพิ่งแบกออกจะบ้านมามันหัวเราะอย่างน่ากลัวแล้วจู่ๆก็มีเลือดไหลของจากตาและปากของมันลูกตาของมันหลุดออกมา
“กะ…กะ…กริ๊ดดดดดดดดดด!!!!”
“นั่นเสียงของอาเกฮะนี่นา”
“บางทีมันคงจะเริ่มแล้วละมั้งคะการไล่ล่าน่ะ”
“ชิ…ชิโนะเธอมาตอนไหนเนี่ย!”
“เรื่องนั้นมันไม่สำคัญหรอกคะคุณรออยู่ที่นี่แหละ
มันอันตรายไปสำคัญคนที่ยังทำได้แค่พกเครื่องรางติดตัว”…แล้วชิโนะก็เดินเข้าไปในอาคารปล่อยให้ฮิคารุยื่นรออยู่ตรงนั้น
“นะ…นะ…นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันทำไมฉันต้องมาเจอแบบนี้ด้วย!”
“จะรีบไปไหนรอฉันด้วยสิฮี่ฮี่ฮี่”
“ออกไปอย่ามายุ่งกับฉัน!!!
ใครก็ได้ช่วยด้วยช่วยฉันด้วยฮิคารุคุง”…อาเกฮะวิ่งหนีสุดชีวิตตะโกนเรียกให้คนมาช่วยแต่มันก็ไม่ได้ผลเธอวิ่งไปจนถึงบันได
ระหว่างชั้นสองกับชั้นหนึ่งแต่เธอสะดุดขาตัวเองแล้วตกบันไดไปเธอพยายามจะพยุงตัวขึ้น
แต่ทว่าขาข้างขาวของเธอหักและบิดเบี้ยวผิดธรรมชาติตอนี้เธอเริ่มจะเสียสติเธอก็ค่อยคานไปที่บันไดแต่อยู่ๆเจ้าตุ๊กตาก็ยื่นอยู่ที่บันไดตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้
เธอแทบอยากจะวิ่งหนีแต่ทำไม่ได้แค่ตะเกียกตะกายตรงไปที่บันไดอีกฟัง
“(ทำไม…ทำไมกันทำไมฉันต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ด้วยทั้งๆที่ช่วงเวลาที่ผ่านมา
ชีวิตของฉันมีแต่สิ่งดีๆหน้าตาของฉันก็สวยเป็นลูกคุณหนูที่ร่ำรวย
แต่ทำไมฉันต้องมาจุดจบด้วย!!!)”…อาเกฮะนึกช่วงเวลาที่เธอได้ใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย
ด้วยเงินของพ่อแม่แต่ว่าชีวิตแสนสุขของกำลังจะถูกกลืนหายไปตลอดการน้ำตาไหลอาบแก้มทำให้เห็นทางเลืองลาง
“อย่าทำอะไรไร้ประโยนช์เลยมา…ให้…ฉัน…ฆ่า…ซะดีๆหึหึหึ…ฮ่าฮ่าฮ่า”
“(ไม่เอาแล้วฉัน…ฉันไม่อยากเจอเรื่องแบบนี้อีกแล้วใครก็ได้ช่วยด้วย)”
“ถ้าคุณไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับความมืดตั้งแต่แรก
ฉันว่าคุณคงไม่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ก็ได้นะคะ”
“ยะ…ยัยแม่มดมะ…ไม่สิชิโนจังขอร้องช่วยฉันด้วยฉันยังไม่อยากตาย”
“เอ๋?...มีเหยื่อมาให้เล่นอีกแล้วใบหน้าสวยๆนั่นฉันจะช่วยกรีดให้เละเลยล่ะฮี่ฮี่ฮี่”
“ฉันคงต้องขอปฏิเสธคะเพราะว่าฉัน….เปะ!...มีหน้าที่มากำจัดคุณเท่านั้นเอง”…ชิโนะเรียกเคียวของเธอออกมาฟันเข้าที่คอของตุ๊กตาจนหัวหลุดออกจากตัวกลิ้งไปกับพื้น
“กะ…กรี๊ดดดดดดดดดดด”…คราวนี้ฮิคารุที่รออยู่ข้างล่างทนไม่ไหวรีบวิ่งขึ้นมาชั้นหนึ่งเขาเห็นอาเกฮะนั่งกอดเข่าร้องไห้อย่างบ้าคลั่งอยู่ที่ผนังอาคาร
ตอนนี้สติของอาเกฮะไม่มีเหลืออีกต่อไปแล้ว
“อาเกฮะนี้เกิดอะไรขึ้นทำไมขาของเธอถึงเป็นแบบนี้”
“อย่ามายุ่งกับฉัน!...ออกไป!...ออกไปให้หมดเลยเจ้าพวกปีศาจ!!!”
“ตอนนี้เธอเสียสติไปแล้วเธอคงไม่กลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้วล่ะคะ”
“อะไรกันทั้งๆที่เธออุตส่าห์ไม่ตายแล้วแท้ๆนะ”
“คนที่เข้าใกล้ความมืดโดยที่ไม่รู้จักวิธีหนีมันออกมา
จุดจบของคนๆนั้นถ้าไม่ตายก็จะเสียสติเหมือนเธอคนนี้ดังนั้นไม่มีจุดจบที่สวยงามรออยู่หรอกคะ”
“อะไรกันเรื่องแบบนี้มันไม่ยุติธรรมไปหน่อยเหรอ”
“อ้าวๆ…อะไรกันนี่ฉันมาช้าไปเหรอเนี่ย?”
“อะ…อาจารย์คาราสึทำไมมาอยู่ที่นี่ล่ะครับ”
“อ๋อ!...คือว่าเรื่องนั้น….”
“ก็หนูบอกไปแล้วยังไงล่ะคะว่าหนูจัดการเองได้ให้ป๊ะป๋ารออยู่ที่บ้านดีกว่าน่ะ”
“อ๋อ!อาจารย์คาราสึเป็นป๊ะป๋าของชิโนะนี่เอง…………เอ๋อออออออทะ…ทั้งสองคนเป็นพ่อลูกกันหรอกเหรอ?!”
“ก็นามสกุลเหมือนกันก็ต้องเป็นพ่อลูกกันอยู่แล้วหนิคะไม่เห็นจะแปลกตรงไหนเลย”
“เรื่องนั้นมันก็ไม่แปลกหรอกแต่เพราะทั้งนิสัยทั้งหน้าตาไม่เหมือนกันเลยนี่นา”
“ฮิคารุคุงจะดูไม่ออกมันก็ไม่แปลกจริงๆแหละนะแต่ว่า
เรื่องนี้ไว้คุยกันวันหลังดีกว่าเมื่อกี้ฉันโทรเรียกรถตำรวจกับรถพยาบาลมาแล้ว
อีกสัก10นาทีก็คงจะมาเราควรจะหนีไปจากที่นี่ก่อนดีดว่า”
“แล้วอาเกฮะล่ะครับปล่อยไว้แบบนี้เหรอ”
“ก็นะเราต้องปล่อยคุณฮายาเมะไว้ตรงนี้แหละ
เพราะยังไงเธอคงจะไม่ยอมไปกับเราอยู่แล้ว”
“มันก็จริงอย่างที่อาจารย์พูดแหละครับ”…ฮิคารุมองอาเกฮะที่กำลังตัวสั่นเพราะเรื่องที่เธอเจอมา
“งั้นพวกเราไปกันเถอะฮิคารุคุงฉันจะไปส่งเธอที่บ้านด้วยแล้วกันนะ”
“ไม่เป็นไรครับผมเดินกลับเองได้”
“แต่ฉันว่าเธอคงต้องการหาคนมาแก้ต่างให้คุณยายของเธอด้วยจริงไหมล่ะ”
“ระ…เรื่องนั้นมันก็”
“ชิโนะจังไม่ว่าอะไรใช่ไหม”
“จะทำอะไรก็ทำเถอะคะ”
“งั้นตกลงตามนี้นะพวกเราไปขึ้นรถกันเถอะ”…ฮิคารุทำอะไรไม่ได้นอกจากเดินตามสองพ่อลูกขึ้นรถไป
ปล่อยให้อาเกฮะที่เสียสติอยู่ที่โรงเรียน
เหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้ฮิคารุคิดว่าการก้าวความสู่ความมืดโดยที่ไม่รู้ถึงผลลัพธ์ที่จะตามมันอาจทำให้
ชีวิตของเราหรือคนอื่นๆที่ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวด้วยต้องดับไปเหมือนเปลวไฟที่อยู่กลางพายุ
ความคิดเห็น