ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {Horror Fic} 7 Day's of Nightmare

    ลำดับตอนที่ #2 : วันอังคารของราคะผู้ลุ่มหลง

    • อัปเดตล่าสุด 28 เม.ย. 59



    ตอนที่2 วันอังคารของราคะผู้ลุ่มหลง


        ในโลกอินเตอร์เน็ตตอนนี้มีข่าวหรือแปลกๆเกี่ยวกับเว็บไซค์ขายของอยู่เว็บหนึ่ง เว็บนี้จะขายของเกี่ยวกับของคุณไสยที่ทำให้ตัวเองมีเสน่ห์ต่อเพศตรงข้าม ซึ่งมันใช้ได้ผลเป็นอย่างมากจึงมีผู้เข้าชมเว็บและสั่งซื้อสินค้าเป็นจำนวนมากแต่มีสินค้าอยู่ตัวหนึ่ง ไม่มีใครเคยสั่งซื้อมันมาก่อนเพราะราคาที่แพงเกินเอื้อมและคำอธิบายของสินค้ามันบอกว่า สินค้าชิ้นนี้ให้ผลดีกว่าสินค้าอื่นแต่ว่าข้อแม้คือหากใช้แล้วจะต้องแลกด้วยสิ่งมีค่าที่ทัดเทียมกับสิ่งที่ขอไปดังนั้นด้วยเงื่อนไขที่ไม่มีข้อมูลที่แท้จริง ต่อให้มีเงินมากแค่ไหนก็ไม่มีใครกล้าซื้อมันดังนั้นข้อมูลของสินค้าชิ้นนั้น จึงถูกเก็บเอาไว้ในส่วนลึกของเว็บไซค์รอค่อยการปลดปล่อยจากลูกค้าที่ต้องการแลกสิ่งสำคัญเพื่อความลุ่มหลงของคนที่ตนรักยิ่ง

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

        เช้าวันที่สองของการย้ายมาอยู่ในชนบทเช้านี้อากาศสดใส แต่สำหรับฮิคารุที่เพิ่งผ่านเรื่องน่ากลัวมานั้นไม่ได้ยินดียินร้ายอะไรทั้งนั้นตื่นเช้ามาก็เตรียมตัวไปโรงเรียน ได้ยินเสียงโทรทัศน์ที่คุณยายเปิดไว้รายงานข่าวสภาพอากาศ เขาลงมาทานข้าวกับคุณยายขณะเดียวกันก็ฟังข่าวไปด้วย

        “ทานเลยนะครับ”

        “มากันที่ข่าวต่อมาคะเมื่อวานนี่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง มีการฆาตกรรมหมู่ที่ศาลเจ้าอาถรรพ์ที่เป็นตำนานของหมู่บ้านแห่งนั้น พบศพของนักเรียนชายจำนวนเจ็ดคนด้วยกันคะ เราจะย้ายไปที่รายงานสดกันนะคะคุณอาราตะเชิญคะ”

        “สวัสดีครับผมอาราตะรายงานสดจากที่เกิดเหตุตอนนี้ ผมกำลังสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูที่เกิดเหตุนะครับไม่ทราบว่าที่เกิดเหตุเป็นยังบ้างครับ”

        “ครับที่เกิดเหตุก็ไม่พบล่องรอยของการต่อสู้เลยนะครับส่วนศพที่พบเนี่ยคนแรกกระดูกหักเกือบทั้งหมดสาเหตุคิดว่าน่าจะหนีจากฆาตกรแต่พลาดจึงตกลงบันไดตาย อีกสาเหตุหนึ่งคือถูกผลักลงมาส่วนศพที่สองหัวขาดตอนนี้ยังไม่พบหัวที่หายไป ศพที่เหลืออีกห้าศพนั้นเละไม่เหลือชิ้นดีเลยละครับ ราวกับถูกทุบด้วยของหนักๆบวกกับความแรงถ้าไม่มีชุดนักเรียนคงจะดูไม่ออกว่าเป็นใคร”

        “แล้วไม่ทราบคุณคิดยังไงเกี่ยวกับการที่โหดร้ายคนร้ายครับ”

        “ผมเองก็ไม่แน่ใจถึงแรงจูงใจของคนร้ายหรอกนะครับ แต่ไม่ว่าจะเป็นใครพวกเราจะพยายามตามจับคนร้ายให้ถึงที่สุดเลยล่ะครับ”ระหว่างที่ฮิคารุกำลังดื่มนมอยู่นั้นจู่ๆคุณยายก็ถามแทรกขึ้นมา

        “ฮิคารุที่เมื่อวานหลานกลับมาช้าเพราะหลานไปอยู่ที่ศาลเจ้าอาถรรพ์ใช่ไหม”

        “พรวด!!!...คุณยายไหงจู่ๆมาถามผมอย่างงี้ล่ะ”

        “แต่ยายก็ไม่ได้พูดอะไรผิดใช่ไหมล่ะ”

        “ก็นะครับ”

        “ทำไมถึงไม่บอกยาย”

        “ก็ผมไม่อยากให้คุณยายเป็นห่วงนี้นาคุณยายน่ะอายุมากแล้วนะครับ”

        “เรื่องนั้นยายรู้ตัวดีว่ายายแก่จนทำอะไรไม่ค่อยได้ดั่งใจ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ายายจะเป็นห่วงหลานไม่ได้นะ”

        “เรื่องนั้นผมต้องขอโทษด้วยครับ”

        “พวกคนที่ตายคงจะหลอกให้หลานเปิดตู้ที่ยักษ์ถูกผนึกไว้ฆ่าล่ะสินะ”

        “ใช่แล้วครับว่าแต่คุณยายรู้ได้ยังไง?”

        “ลืมไปแล้วเหรอยายน่ะเป็นอนเมียวจินะแล้วคนที่จัดการยักษ์ล่ะ”

        “ผมพูดไปก็ไม่แน่ใจว่าคุณยายจะเชื่อไหม คนที่จัดการยักษ์เป็นเด็กผู้หญิงร่วมห้องของผมเอง”

        “ว่าแล้วเชียวว่าต้องเป็นเด็กคนนั้น”

        “คุณยายรู้จักชิโนะด้วยเหรอครับ”

        “เปล่าหรอกยายรู้แค่ว่าคนของตระกูลคุโรงาเนะมีหน้าที่ ปราบพวกภูตผีตามที่ผู้ว่าจ้างต้องการให้ไปปราบพวกเขาจะใช้ศาสตร์มืดที่เรียกว่าอาวุธสีนิลในการปราบ”

         “(หรือว่าจะเป็นเคียวที่ชิโนะใช่กันนะ)”

        “ว่าแต่หลานไม่รีบไปโรงเรียนเหรอ”

        “ห๊ะ!...ถึงเวลาไปโรงเรียนแล้วเหรอเนี่ยผมไปก่อนนะครับคุณยาย”

        “ไปดีมาดีนะ”ฮิคารุก็รีบวิ่งออกจากบ้านไปจนใกล้จะถึงโรงเรียนแล้ว เขาก็หยุดวิ่งและเดินต่อแทนซักพักหนึ่งก็มีเสียงของผู้หญิงเรียกชื่อของเขา เขาจึงหันไปด้านหลังก็มีผู้หญิงผมสีทองวิ่งตามาโบกมือยิ้มให้

        “อรุณสวัสดิ์นะฮิคารุคุง”

        “อรุณสวัสดิ์อาเกฮะ”

        “นี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่เราเดินไปโรงเรียนด้วยกันน่ะ”

        “อะอืมนั่นสินะ”

        “ดูข่าวเมื่อเช้าหรือน่ากลัวจังเลยเนอะอยู่ๆก็มีคนตายแถมยังเป็นพวกของบาคุอีก”

        “นี่เธอรู้ได้ยังไงว่าเป็นพวกบาคุ”

        “ก็ในข่าวเขาก็บอกรายชื่อผู้เสียชีวิตนี่นาเธอไม่ได้ดูข่าวเหรอ”

        “เปล่าหรอกคือฉันดูแค่ช่วงรายงานสดแล้วก็รีบออกจากบ้านมาน่ะ”

        “อ๋อแบบนี้นี่เอง”ฮิคารุกับอาเกฮะเดินคุยกันระหว่างทางไปโรงเรียนพอมาถึงโรงเรียนพวกเขาก็เดินไปที่ห้องของตัวเองแต่บรรยากาศในห้องนั้นเงียบกว่าปกติคงเป็นเพราะข่าวเมื่อตอนเช้า แต่ก็มีอยู่คนหนึ่งที่ไม่ได้ตื่นกลัวกับข่าวที่เกิดขึ้น ยังคงอ่านวรรณกรรมต่อไปแบบเงียบๆ

        “อรุณสวัสดิ์”

        “…….อรุณสวัสดิ์”

        “(นึกว่าจะไม่ตอบซะแล้วแฮะ)ยังอ่านวรรณกรรมอยู่อีกเหรอ”

        “……..ก็ชอบอ่านแบบนี้มากกว่าหนิคะ”

        “ฉันว่าเธอลองเปลี่ยนไปอ่านพวกนิยายบ้างก็ได้นี่นา”

        “ไม่ล่ะคะ”

        “เมื่อเช้าเธอได้ดูข่าวไหม”

        “ไม่จำเป็นที่จะต้องดูหรอกคะเพราะในเมื่อรู้ผลลัพธ์อยู่แล้ว”

        “น่ะนั่นสินะ”

        “(ทำไมฮิคารุคุงถึงได้คุยกับยัยแม่มดนั่นล่ะทั้งๆที่เราน่าสนใจกว่าแท้ๆเลย ดีล่ะเราต้องพยายามมัดใจของฮิคารุคุงให้ได้ด้วยวิธีของฉันคนนี้เนี่ยแหละ)”เมื่ออาเกฮะคิดแบบนั้นแล้วก็เริ่มลงมือวางแผนต่างๆ

        “(เอาล่ะหมดคาบเช้าแล้วถึงเวลาพักกลางวันแล้ว)”

        “เฮ้ฮิคารุไปกินข้าวกันเถอะ”

        “อืมไปสิ”

        “ฮิคารุคุงไปกินข้าวกล่องกันเถอะนะ(แผนแรกชวนให้ไปกินข้าวกล่องกันสองต่อสอง)”

        “ขอโทษนะพอดีวันนี้ฉันไม่ได้ทำข้าวกล่องก็เลย จะไปกินที่โรงเรียนอาหารกับพวกไดรน่ะ”

        “พอดีเลยฉันทำมาเผื่อด้วยนะ”

       “ไม่เป็นไรฉันเกรงใจน่ะงั้นฉันไปก่อนนะ”

       “เดี๋ยวสิ(โธ่เอ้ย!...แผนแรกไม่ได้ผลต้องแผนที่สอง”

    ......................................................................

        “ฮิคารุคุงคือโจทย์เลขข้อนี้ฉันไม่ค่อยเข้าใจสอนฉันหน่อยได้ไหม(แผนที่สองให้เขาสอนการบ้านหรืองานให้เพื่อเพิ่มความใกล้ชิดกันมากขึ้น”

        “ได้สิข้อไหนล่ะ”

        “ข้อนี้ไงล่ะพอดีฉันไม่ค่อยเข้าใจสูตรที่จะใช่น่ะ”

        “อ๋อ!...ข้อนี้น่ะเหรอข้อนี้เธอจะต้องเอาสมการแรกมาคูณกับสมการที่สองเมื่อหาผลลัพธ์ได้แล้วก็เอาผลลัพธ์ที่ได้ไปลบกับสมาการที่สอง แล้วก็จะได้คำตอบนี่อาเกฮะฟังที่ฉันพูดอยู่หรือเปล่า”

        “อะอ๋อจ้ะๆฉันฟังอยู่นี่ฮิคารุคุงวันอาทิตย์ที่จะมาถึงนี้ฮิคารุคุงว่างไหม”

        “ก็ว่างนะทำไมเหรอ”

        “คือจะว่าอะไรไหมถ้าฉันอยาก จะชวนฮิคารุคุงไปเที่ยวน่ะ”แต่ก่อนที่ฮิคารุจะตอบก็มีชายสองคนเดินมาข้างหลังอาเกฮะ

        “ไปเที่ยวกับพวกเราดีกว่าน่ะอาเกฮะจัง”

        “เฮราอิคุง เคนโกคุงทำไมอยู่ๆมาหาถึงที่ห้องเรียนเลยล่ะ”

        “ก็ไม่เห็นเธอออกมารอพวกเราตามปกติหนิ”

        “เพราะฉะนั้นพวกเราเลยมาหาที่ห้อง”

        “นี่ๆอาเกฮะจังหลังเลิกเรียนไปร้านเกมเซนเตอร์ไหม”

        “ไม่ก็ไปขับรถเล่นกัน”

        “น่าเสียดายนะแต่วันนี้ฉันขอกลับบ้านก่อนดีกว่า”

        “อ้าว?...ทำไมล่ะ”

        “ถามว่าทำไมเหรอก็ไม่รู้สินะแหะแหะ”ระหว่างที่อาเกฮะกำลังคุยกับพวกผู้ชายที่อยู่ข้างห้อง ต่างก็มีเสียงซุบซิบนิทากันอยู่หลังห้อง

        “นี่เธอยัยอาเกฮะเอาอีกแล้วล่ะ”

        “ทำตัวแอบแบ๊วหลอกล่อผู้ชายไปวันๆน่าสมเพชสิ้นดี”

        “ฉันได้ยินมาว่าอาเกฮะน่ะไปแย่งแฟนของมิโยะจังที่อยู่ห้องข้างๆ ด้วยนะคราวนี้คงคิดจะมายั่วฮิคารุคุงแน่ๆ”

        “ถึงจะเป็นถึงหนูสาวของนักธุรกิจรายใหญ่ก็เถอะทำแบบนี้ไร้ยางอายที่สุด”

        “เรื่องไปเที่ยวกับพวกเธอเอาไว้วันหลังแล้วกันนะโอเคนะทั้งสองคน”

        “โธ่เอ้ย!…เซ๊งเลยเอาตามนั้นก็ได้พวกฉันไปก่อนล่ะ”

        “อาเกฮะสนิทกับพวกเขาเหรอ”

        “เปล่าจ้ะไม่ใช่อย่างที่ฮิคารุคุงคิดนะเราก็แค่ สนิทกันแบบเพื่อนเท่านั้นเองแหละ”

        “อย่างงั้นหรอกเหรอ”

        “อืมๆใช่แล้วล่ะจ้ะ”เสียงกริ่งหมดเวลาพักเที่ยงดังขึ้นทุกคนที่อยู่ข้างนอกก็กลับเขาห้อง วันนี้ไม่ค่อยได้เรียนอะไรมากเพราะอาจารย์บางส่วนต้องไปงานศพของพวกบาคุ สรุปแล้ววันนี้ทั้งก็เหมือนไม่ได้เรียนวันนี้จึงไม่มีการบ้านนักเรียนบางส่วนก็ดีใจที่ไม่มีการบ้าน บางส่วนก็ไม่ค่อยรู้สึกดีเท่าไรเพราะเหตุการณ์ที่เกินขึ้นเมื่อคืนนี้

        “เฮ้ออออออวันนี้ทั้งวันแถบจะไม่ได้ทำอะไรเลยแฮะ จัดของเสร็จแล้วรีบกลับบ้านเลยดีกว่า”

        “ฮิคารุคุงจะกลับบ้านแล้วเหรอ(แผนที่สามคือการเดินกลับบ้านด้วยกันสองต่อสองยามพระอาทิตย์ตกดินแล้วเราก็จะได้รู้ด้วยว่าบ้านของฮิคารุคุงอยู่ที่ไหน”

        “ใช่แล้วล่ะมีอะไรหรือเปล่าอาเกฮะ”

        “คือเดินกลับบ้านด้วยกันดีไหมล่ะ”

        “บ้านเธอกับฉันอยู่คนละทางไม่ใช่เหรอ”

        “(เออก็จริงแฮะลืมคิดไปเลย)นั่นสินะฉันคนนี้นี่ไว้เลยเรื่องแค่นี้ก็จำไม่ได้ฮะฮะ”

        “งั้นฉันไปก่อนล่ะไว้เจอกันใหม่วันพรุ่งนี้นะ”

        “อืมไว้เจอกันใหม่พรุ่งนี้(แผนที่สามก็ไม่ได้ผลวันนี้ทั้งวันแผนของเราไม่ได้ผลเลยสักนิด ในเมื่อเป็นแบบนี้ก็ตั้งสะกดรอยตามแทนแล้วกัน)”อาเกฮะก็รีบตามฮิคารุที่เดินออกนอกโรงเรียนไปแล้ว เธอค่อยตามทุกฝีก้าว ทางฝั่งฮิคารุเองก็รู้สึกเหมือนมีใครตามมา แต่ก็ทำเป็นไม่สนใจเดินต่อไปเรื่อยๆแล้วอยู่ๆก็มีมือของใครบางคนมาดึงที่ชายเสื้อไว้เขาค่อยๆหันหลังไป ในใจเขาภาวนาอย่าให้เป็นพวกโรคจิตหรือผีสางอะไรพวกนี้เลยพอหันไปแล้วไม่มีใครอยู่

        “พี่ชายๆหนูอยู่ข้างล่างนี้”เขาก้มลงไปดูก็เจอกับเด็กหญิงตัวเล็กน่ารักอายุราวๆ8-9ขวบคงจะได้ ใส่ชุดเก่าๆรองเท้าแตะถือกระเป๋าที่มีโบว์ผูกผมอยู่สองเส้น

        “พี่ขอโทษก็หนูเล่นมาดึงเสื้อพี่แบบนี้พี่ก็ตกใจน่ะสิ”

        “หนูขอโทษหนูแค่อยากขายโบว์ผูกผมนี้ให้หมดน่ะคะ พี่ชายช่วยซื้อหน่อยนะคะเหลือแค่สองเส้นเอง”

       “แล้วหนูมาขายของคนเดียวแบบนี้มันอันตรายนะพ่อแม่ไปไหนล่ะ”

        “คุณพ่อรับจ้างก่อสร้างในเมืองส่วนคุณแม่ก็ป่วย หนูเลยมาขายของเพื่อที่จะหาเงินช่วยค่ารักษาของคุณแม่พี่ชายช่วยหนูหน่อยนะเส้นละ100เยนเอง”

        “โอเคก็ได้ๆพี่เห็นว่าหนูลำบากนะพี่เลยซื้อนะ”

        “ไซโย!...ขอบคุณคะพี่ชาย”ฮิคารุย่อตัวลงให้พอดีกับตัวเด็กหญิงโบว์ผูกผมนั้น มีสีแดงกับสีเขียวทั้งสองเส้นมีลวดลายสีขาวเป็นรูปดอกสึบากิ

        “โบว์นี้ลวดลายแปลกดีนะ”

        “โบว์พวกนี้หนูทำเองเลยนะคะ”

        “เอ๋?...เก่งจังเลยนะเราน่ะเอานี่เงิน”

        “ขอบคุณมากเลยคะพี่ชาย”เมื่อรับเงินแล้วเด็กหญิงก็ยิ้มแย้มอย่างมีความสุขจากนั้นก็วิ่งกลับบ้านไป

        “ซื้อมาแล้วฉันจะไปให้ใครกันล่ะเนี่ย”อาเกฮะที่แอบดูเหตุการณ์ที่เสาไฟฟ้าดวงตาก็ฉายแวว คิดว่าถ้าตนทำเป็นบังเอิญไปตรงนั้นแล้ว ฮิคารุคงจะเอาโบว์ผูกผมให้เธอเมื่อว่างแผนเสร็จกำลังจะออกจากที่ซ่อนแต่ก็มีใครบางคนเดินสวนนำหน้าเธอไป

        “นี่คุณยังไม่กลับบ้านอีกเหรอ”

        “อ้าว?...ชิโนะฉันเห็นเธอออกจากห้องเรียนไปนึกกว่ากลับบ้านไปแล้วซะอีกนะ”

        “เปล่าคะฉันแค่แวะเอาหนังสือที่ยืม ไปคืนที่ห้องสมุดเพิ่งออกมาเมื่อกี้นี่เอง”

        “งั้นเหรอจริงสิถ้าไม่รังเกลียดเธอช่วยรับเจ้านี่ไปหน่อยได้ไหม”

       “นั่นมันอะไรกันน่ะคะ”

       “โบว์ผูกผมน่ะพอดีมีเด็กผู้หญิงมาขายฉันสงสารเลยซื้อมาแต่ไม่รู้จะเอาให้ใครดี”

        “คุณก็เลยเอามาให้ฉันที่บังเอิญผ่านมาพอดีเหรอคะ”

        “ก็มันช่วยไม่ได้นี่นาให้เธอไปถึงเธอจะไม่ผูกมันแต่ก็ยังดีกว่าเก็บไว้ที่ฉันน่ะ  

       “ถ้างั้นฉันจะรับเอาไว้แล้วกัน”ฮิคารุส่งโบว์ผูกผมให้เธอจากนั้นเธอก็ขอตัวกลับบ้านไปส่วนเขาเองก็เดินกลับบ้านของตนเองไป ปล่อยบุคคลที่สามยื่นคับแค้นใจอยู่ตรงนั้น

        “ทำไมทำไมกันฮิคารุคุงถือสนิทกับยัยแม่มดนั่นได้ล่ะ อุตส่าห์บอกว่าอยู่ด้วยแล้วจะตายแท้ๆจะต้องใช้วิธีไหนถึงจะกำจัดยัยแม่มดให้พ้นทางกันนะ”

        “อ้าว?...นี้อาเกฮะมาทำอะไรตรงนี้ยังไม่กลับบ้านอีกเหรอ”

        “มานาเบะจังคือว่านะถ้าอยากจะให้ผู้ชายมาหลงรักเราเราควรจะใช้วิธีไหนดี”

        “หา?...ไหงอยู่คนเนื้อหอมอย่างเธอมาถามอะไรแบบนี้กับฉันล่ะ”

        “ก็ฮิคารุคุงเขาไม่สนใจฉันเลยน่ะสิ”

        “อ๋อๆนักเรียนใหม่ห้องเธอสินะความจริงก็ไม่ใช่จะไม่มีวิธีดีๆหรอกนะ”

        “มันเป็นวิธีแบบไหนเหรอ”

        “รอแป๊บนะปิ๊งปิ๊งอ่านี้ไงเจอแล้วเธอลองเข้าเว็บนี้ดูสิ”

        “ร้านขายของคูณไสยเนี่ยนะ”

        “แต่ของเขาดีนะนี่จะบอกอะไรให้สินค้าของเว็บนี้ใช้แล้วได้ผลทันทีเลยล่ะนะ เพื่อนฉันลองซื้อมาใช้แล้วมันให้ผลดีสุดๆ”

        “จริงๆเหรอ”

        “อืมเธอลองเข้าเว็บที่บ้านของเธอดูนะเผื่อมีของที่เธออยากได้”

        “ฉันจะลองดูนะขอบใจมากเลยนะมานาเบะจัง”

        “อืมฉันไปก่อนล่ะบายไว้เจอกันพรุ่งนี้นะ”

        “ดีล่ะในเมื่อวิธีของฉันไม่ได้ผลก็ต้องลองใช้ไสยศาสตร์เนี่ยแหละ”

    ......................................................................

        “เอาล่ะลองเข้าเว็บที่มานาเบะจังแนะนำมาดีกว่าไหนดูสิมีอะไรน่าสนใจบ้างน้ำหอมหว่านเสน่ห์ เครื่องรางหาคู่รัก แหวนเจ้าหญิงเงือก ไม่ว่าจะอันไหนๆก็ไม่น่าสนใจทั้งนั้นเลย”อาเกฮะนั่งหาสินค้าตั้งนานสองนานก็ยังไม่เจอของที่ถูกใจ จนเธอค้นไปถึงสต็อกเก็บของที่ถูกปิดเอาไว้นานเธอลองคลิกเข้าดูมีสินค้าอยู่หนึ่งชิ้นมันถูกปิดตายมาหลายเดือน แต่ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงถูกใจของชิ้นนี้มากราคาแพงกว่าของชิ้นอื่นๆที่เธอหามาเธอไม่ได้สนใจราคาที่แพงเกินเอื้อมนั่นเลย เธอกดซื้อมันทันทีจากนั้นเธอก็เข้านอนรอของที่เธอสั่งซื้อมาส่งอย่างใจจดใจจ่อ เช้าวันต่อมาอาเกฮะก็ไปโรงเรียนตามปกติแล้วก็พยายามลองเอาชนะใจฮิคารุอีกครั้งแต่ก็ยังไม่ได้ผลอีกเช่นเคย จนถึงเวลากลับบ้านเธอรีบตรงกลับบ้านทันทีแล้วเธอก็เห็นมีกล่องสีดำใบใหญ่ขนาดเท่าตัวเธอว่างอยู่หน้าบ้าน

        “ไซโย!...ของมาส่งแล้วเว็บนี้ของส่งเร็วดีจังเลย รีบขนไปไว้ข้างในบ้านดีกว่าฮึ่บ!...หนักเอาเรื่องเหมือนกันนะเนี่ย”

        “เฮ้อออออถึงห้องสักทีรีบแกะกล่องเลยดีกว่า”แล้วอาเกฮะก็ดึงเทปกาวออกทีละชิ้นๆจนตัวกล่องถูกเปิดออกเป็นสี่ส่วน ข้างในมีตุ๊กตาผมสั้นสีดำดวงตาสีขาวกลมโต ใสชุดกิโมโนสีดำลายดอกกุหลาบสีแดง

        “พอดูของจริงแล้วสวยกว่าในเว็บซะอีกนะเนี่ยเหตุผลที่เราสั่งซื้อมา เพราะถ้าเรานำของมีค่าบูชาให้ตุ๊กตาตัวนี้ยิ่งมีค่ามากเท่าไรเราก็จะได้คนๆนั้นมาเร็วเท่านั้น”

        “เอาล่ะไหนดูคู่มือแนะนำการใช้หน่อยสิ”เธอหยิบหนังเล่มเล็กสีดำตัวหนังสือสีแดงมันเขียนถึงวิธีการใช้ต่างเกี่ยวกับตุ๊กตาตัวนี้

        “ขั้นตอนแรกเราต้องนั่งคุกเขาต่อหน้าตุ๊กตาบนวงแหวนเวยท์ที่เขียนเอาไว้ ข้างใต้ตุ๊กตาตัวนี้สินะถ้างั้นเราก็ต้องย้ายมันมาว่างไว้ตรงนี้”

        “ขั้นตอนที่สองแค่พูดว่าตุ๊กตาฮิอิโระเอ๋ยเราขอมอบของมีค่าที่สุดในชีวิตของเราให้แก่ท่านเพื่อให้ความปรารถนาเป็นจริง อืมง่ายหนิเดียว”

        “ยังไงซะเราก็มีเงินมากมายอยู่แล้วแค่เอามาใช่บูชาตุ๊กตานิดๆหน่อยๆคงไม่เป็นไรหรอกถ้างั้นก็เริ่มกันเลยดีขั้นแรกก็นั่งตรงนี้ เสร็จแล้วจากนั้นก็อะแฮ่มตุ๊กตาฮิอิโระเอ๋ยเราขอมอบของมีค่าที่สุดในชีวิตของเราให้แก่ท่านเพื่อให้ความปรารถนาของเราเป็นจริง”

        “(ฮี่ฮี่ฮี่ข้าขอรับของมีค่าของเจ้า)”

        “เอ๊ะ!?...เมื่อกี้เหมือนได้ยินเสียงใครหัวเราะช่างเถอะสงสัย เราคงหูแว่วไปเองคุณตุ๊กตาช่วยทำให้ฮิคารุคุงเป็นของฉันด้วยนะคะ”อาเกฮะยิ้มแย้มอย่างมีความสุขแต่หารู้หรือไม่เธอได้ทำสิ่งที่จะทำชีวิตของเธอเปลี่ยนไปตลอดกาล

        “ฮือฮือเมื่อวานดันนอนดึกไปหน่อยเลยตื่นสาย อดเดินไปโรงเรียนกับฮิคารุคุงเลยแต่ก็ยังดีที่ยังไปโรงเรียนทัน”

        “อรุณสวัสดิ์จ้าทุกๆคน”แต่ว่าบรรยากาศในห้องกลับดูเงียบผิดปกติทุกๆคนทำเศร้าเหมือนเพิ่งเสียอะไรบางอย่างไป

        “อ้าว?...ทุกๆคนเป็นอะไรกันไปหมดทำไมถึงทำหน้าเศร้ากันอย่างงั้นล่ะ”

        “ทุกๆคนนั่งที่ให้เรียบร้อยวันนี้พวกอาจารย์ก็จะไม่อยู่ กันอีกแล้วนะอาจารย์จะฝากงานให้พวกเธอทำ”

        “อาจารย์คุโรงาเนะจะไปไหนเหรอคะ”

        “นี่คุณฮายาเมะไม่ได้ดูข่าวเหรอว่าคุณมาสึระถูกรถบรรทุกชนตายเมื่อคืนนี้เอง”

        “ดะเดี๋ยวนะคะเมื่อวานฉันเพิ่งคุยอยู่กับเธอเมื่อตอนเย็น แล้วตอนกลางคืนเธอถูกรถชนตายงั้นเหรอ”

        “อืมใช่ดูเหมือนเมื่อคืนเธอจะขับรถจักรยานยนต์ ออกไปข้างนอกอาจารย์เองก็ไม่รู้หรอกนะว่าเธอออกไปทำอะไรเธอผ่านตรงสามแยกแล้ว รถบรรทุกก็ขับออกแต่คนขับคงจะไม่เห็นเธอเพราะตรงนั้นมันมืดเธอถูกชนอย่างจังจนร่างกายของเธอถูกแยกออกเป็นสามส่วนเลยล่ะ”

        “อะไรกันเรื่องแบบนั้นไม่จริงหรอก”

        “อาจารย์มาแจ้งเท่านี้นะอาจารย์จะเอางาน ไว้บนโต๊ะพวกเธอมาหยิบเอาไปทำเองนะ”

        “ทำไมกันทำไมต้องเกิดแบบนี้ขึ้นด้วยกันล่ะ”

        “ฉันขอแสดงความเสียใจด้วยนะอาเกฮะ คุณมาสึระคงเป็นเพื่อนที่ดีของเธอสินะ”

        “ใช่มานาเบะจังเป็นเพื่อนสนิทของฉันทำไมเธอต้องมาจากไปแบบนี้ด้วย”

        “(เพราะว่าเธอยกเพื่อนของเธอให้ฉันยังไงล่ะ)”

        “เอ๊ะ!?...เมื่อกี้ได้ยินเสียงของใครอีกแล้ว”

        “มีอะไรหรือเปล่าอาเกฮะ”

        “เปล่าจ้ะไม่มีอะไร”

        “งั้นเหรอถ้างั้นฉันขอกลับไปนั่งทีก่อนล่ะนะ”

        “อืมจ้ะ(ดเดี๋ยวก่อนสิทำไมฮิคารุคุงมาปลอบฉันแค่นี้เองล่ะ พิธีที่ทำไปเมื่อวานไม่ได้ผลเหรอไม่สิไม่น่าจะเป็นไปได้ต้องลองทำอีกครั้ง)”พอเลิกเรียนแล้วอาเกฮะก็รีบกลับบ้านไปเพื่อลงทำพิธีอีกครั้ง เธอเปิดประตูเข้าห้องไปก็พบความผิดปกติบางอย่าง

        “เอ๊ะ?...ทำไมตุ๊กตาตัวนี้รู้สึกว่าผมมันสั้นกว่านี้ไม่ใช่เหรอเหลือว่าเราคิดไปเอง ช่างเถอะเราลองหาวิธีที่ทำให้ฮิคารุคุงมาตกหลุมรักเราให้ได้”อาเกฮะหยิบคู่มือมาอ่านอีกเธอเปิดมันอ่านไม่ว่าจะหน้าไหนๆก็ไม่มีวิธีที่ดีที่สุดจนสุดท้ายเธอเปิดเจอหน้าสุดท้าย มันเขียนเอาไว้ถ้าหากให้คนมาตกหลุมรักแบบรวดเร็วก็ต้องนำตุ๊กตาไปไว้ที่ๆคนๆนั้นเคยอยู่หรือนำสิ่งของของคนๆนั้น มาวางไว้ที่ตุ๊กตาแล้วเรียกคนที่เราต้องการให้มาด้วยไม่ว่าจะอยู่ไกลหรือใกล้ตุ๊กตา พิธีกรรมก็จะสำเร็จ

        “วิธีนี้ล่ะดีที่สุดโชคดีที่เราแอบขอเบอร์โทรศัพท์ของฮิคารุคุงจากไดรคุง ก่อนอื่นต้องเอาตุ๊กตาตัวนี้ไปไว้ที่โรงเรียนก่อนสินะจากนั้นก็โทรเรียกฮิคารุคุงออกมา”เมื่อว่างแผนเสร็จสับเรียบร้อยแล้วอาเกฮะก็เอาตุ๊กตาห่อผ้าสีดำแล้วแอบเอาไปไว้ที่โรงเรียน พอถึงโรงเรียนแล้วเธอก็เอาตุ๊กตาไปนั่งที่ของฮิคารุจากนั้นเธอก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโทรหาฮิคารุ

     

        “ครืนๆครืนๆหืมมมม?ใครโทรมากันล่ะเนี่ยเบอร์ไม่คุ้นเลยแฮะฮัลโล

        “ฮัลโลฮิคารุคุงใช่ไหม”

        “อาเกฮะเธอมีเบอร์โทรฉันได้ยังไง?”

        “เรื่องนั้นเอาไว้จะอธิบายให้ฟังนะแต่ช่วยไปส่งฉันที่โรงเรียนหน่อยได้ไหม”

        “ทำไมล่ะ”

        “คือฉันลืมของสำคัญเอาไว้ใต้โต๊ะน่ะแต่ฉันไม่กล้า ไปคนเดียวเธอช่วยไปเป็นเพื่อนฉันหน่อยได้ไหมนะขอร้องล่ะ”

       “ก็ได้แค่แป๊บเดียวนะหาขอเจอแล้วฉันจะกลับบ้านเลยนะ”

       “ขอบคุณมากเลยนะจ้ะฮิคารุคุงฉันวางสายก่อนนะ”

       “หวังว่างานนี้ฉันคงไม่เอาตัวเองไปเป็นอาหารให้ปีศาจตัวไหนหรอกนะ คุณยายครับผมของออกไปทำธุระข้างนอกหน่อยได้ไหมครับ”

        “ตามสบายแต่หลานระวังตัวด้วยนะเอาเครื่องรางไล่วิญญาณไปด้วยเพราะตอนนี้มันมืด แล้วพวกภูตผีจะมีพลังเยอะเป็นพิเศษนะ”

        “ผมเข้าใจแล้วครับผมจะรีบกลับมา”

    ......................................................................

        “เอาล่ะฮิคารุคุงคงจะออกจากบ้านมาแล้ว เรารีบทำเป็นเนียนเพิ่งออกจากบ้านมาดีกว่า”

        “แกร๊งแกร๊ง

        “จะว่าไปแล้วอาเกฮะอยู่ไหนละเนี่ยไอ้เราก็ดันรีบออกมาซะได้”

        “ฮิคารุคุงเธอมารอฉันนานหรือยังพอดีฉันเพิ่งจะออกจากบ้านมาน่ะ”

        “เปล่าเลยฉันเพิ่งเดินมาถึงกำลังคิดว่าเธอจะรอฉันอยู่ที่ไหนหรือเปล่าน่ะ”

        “อย่างงั้นเหรอถ้างั้นพวกเรารีบไปกันเถอะนะมันมืดแล้วจะมีอะไรเกิดขึ้นก็ไม่รู้”

        “อืมนั่นสินะ”ระหว่างที่ทั้งสองคนคุยกันอยู่ก็เกิดเรื่องน่ากลัวขึ้นในโรงเรียนแล้ว

        ตึก….ตึก….ตึก

        “ให้ตายเถอะทำงานเป็น รปภ. นี่เหนื่อยชำมัดเลย ต้องมานั่งเดินตรวจทั่วโรงเรียนแถมค่าแรงก็ได้น้อยอีกด้วยโรงเรียนนี้งกเป็นบ้าเลย นั่นใครน่ะ!มาทำอะไรที่โรงเรียนตอนกลางคืนแบบนี้”

        “ฮี่ฮี่ฮี่มาเป็นของเล่นให้ฉันเถอะ”

        “พูดเรื่องอะไรน่ะดะเดี๋ยวจะทำอะไรน่ะ!?...อ๊ากกกกกกกกก!!!

        “เฮ้ออออในที่สุดก็ถึงโรงเรียนสักทีทำไมรู้สึกเหนื่อยกว่าเดินตอนเช้าล่ะเนี่ย”

        “ขอบคุณที่มาส่งนะฮิคารุคุงรออยู่ตรงนี้นี่แหละ”

        “หา?พูดเรื่องอะไรน่ะบนอาคารมันมืดนะเธอจะไปคนเดียวได้ยังไงกัน”

        “ไม่เป็นไรฉันเอาไฟฉายมาด้วยน่ะแป๊บเดียวเองเดี๋ยวฉันก็มาโอเคนะ”

        “โอเคฉันจะรออยู่หน้าอาคารนี้ก็ได้”

        “ฉันขึ้นไปก่อนนะ”เธอเดินขึ้นบันไดไปจนชั้นที่สามซึ่งเป็นชั้นเรียนของเธอ แต่ว่าเธอก็ต้องตกใจเมื่อมีรอยสีแดงเธอแถบจะกริ๊ดแต่ก็ต้องเอามือปิดปากเอาไว้ รอบสีแดงถูกลากยาวไปตั้งแต่บันได้ชั้นสองไปจนถึงชั้นสี่ เธอค่อยๆเดินต่อไปแล้วรอยสีแดงนั่นก็มาสุดปลายที่ห้องเรียน เธอค่อยเลื่อนประตูอย่างช้าๆจากนั้นเธอก็ได้ยินเสียงเหมือนมีอะไรถูกแท่ง

         “น่ะนั่นใครกันนะมีใครอยู่ในห้องนี้เหรอ”อาเกฮะค่อยส่องไฟฉายไปยังต้นเสียงมีผู้หญิงผมสีดำยาว ใสชุดกิโมโนสีดำลายดอกกุหลาบสีแดงรอบๆตัวมีแต่น้ำสีแดงนองพื้น เธอกำลังยกมีดเสียบแท่งอะไรสักอย่างอยู่เมื่อเธอสังเกตดีเธอแถบจะเป็นลม เพราะสิ่งที่ผู้หญิงคนนั้นกำลังเสียบแท่งอยู่นั้นเป็นศพของ รปภ. ที่เพิ่งตกเป็นเหยื่อของเธอ ผู้หญิงคนนั้นค่อยหมุนหัวมาทางเธอจนหัวหมุนตรงกับแผ่นซึ่งถ้าเป็นคนปกติธรรมดาๆคงทำไม่ได้แต่นี้ดันเป็น ตุ๊กตาที่เธอเพิ่งแบกออกจะบ้านมามันหัวเราะอย่างน่ากลัวแล้วจู่ๆก็มีเลือดไหลของจากตาและปากของมันลูกตาของมันหลุดออกมา

        “กะกะกริ๊ดดดดดดดดดด!!!!

        “นั่นเสียงของอาเกฮะนี่นา”

        “บางทีมันคงจะเริ่มแล้วละมั้งคะการไล่ล่าน่ะ”

        “ชิชิโนะเธอมาตอนไหนเนี่ย!

        “เรื่องนั้นมันไม่สำคัญหรอกคะคุณรออยู่ที่นี่แหละ มันอันตรายไปสำคัญคนที่ยังทำได้แค่พกเครื่องรางติดตัว”แล้วชิโนะก็เดินเข้าไปในอาคารปล่อยให้ฮิคารุยื่นรออยู่ตรงนั้น

        “นะนะนี่มันเรื่องบ้าอะไรกันทำไมฉันต้องมาเจอแบบนี้ด้วย!

     

        “จะรีบไปไหนรอฉันด้วยสิฮี่ฮี่ฮี่”

        “ออกไปอย่ามายุ่งกับฉัน!!! ใครก็ได้ช่วยด้วยช่วยฉันด้วยฮิคารุคุง”อาเกฮะวิ่งหนีสุดชีวิตตะโกนเรียกให้คนมาช่วยแต่มันก็ไม่ได้ผลเธอวิ่งไปจนถึงบันได ระหว่างชั้นสองกับชั้นหนึ่งแต่เธอสะดุดขาตัวเองแล้วตกบันไดไปเธอพยายามจะพยุงตัวขึ้น แต่ทว่าขาข้างขาวของเธอหักและบิดเบี้ยวผิดธรรมชาติตอนี้เธอเริ่มจะเสียสติเธอก็ค่อยคานไปที่บันไดแต่อยู่ๆเจ้าตุ๊กตาก็ยื่นอยู่ที่บันไดตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ เธอแทบอยากจะวิ่งหนีแต่ทำไม่ได้แค่ตะเกียกตะกายตรงไปที่บันไดอีกฟัง

        “(ทำไมทำไมกันทำไมฉันต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ด้วยทั้งๆที่ช่วงเวลาที่ผ่านมา ชีวิตของฉันมีแต่สิ่งดีๆหน้าตาของฉันก็สวยเป็นลูกคุณหนูที่ร่ำรวย แต่ทำไมฉันต้องมาจุดจบด้วย!!!)”อาเกฮะนึกช่วงเวลาที่เธอได้ใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย ด้วยเงินของพ่อแม่แต่ว่าชีวิตแสนสุขของกำลังจะถูกกลืนหายไปตลอดการน้ำตาไหลอาบแก้มทำให้เห็นทางเลืองลาง

        “อย่าทำอะไรไร้ประโยนช์เลยมาให้ฉันฆ่าซะดีๆหึหึหึฮ่าฮ่าฮ่า”

        “(ไม่เอาแล้วฉันฉันไม่อยากเจอเรื่องแบบนี้อีกแล้วใครก็ได้ช่วยด้วย)”

        “ถ้าคุณไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับความมืดตั้งแต่แรก ฉันว่าคุณคงไม่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ก็ได้นะคะ”

        “ยะยัยแม่มดมะไม่สิชิโนจังขอร้องช่วยฉันด้วยฉันยังไม่อยากตาย”

        “เอ๋?...มีเหยื่อมาให้เล่นอีกแล้วใบหน้าสวยๆนั่นฉันจะช่วยกรีดให้เละเลยล่ะฮี่ฮี่ฮี่”

        “ฉันคงต้องขอปฏิเสธคะเพราะว่าฉัน….เปะ!...มีหน้าที่มากำจัดคุณเท่านั้นเอง”ชิโนะเรียกเคียวของเธอออกมาฟันเข้าที่คอของตุ๊กตาจนหัวหลุดออกจากตัวกลิ้งไปกับพื้น

        “กะกรี๊ดดดดดดดดดดด”คราวนี้ฮิคารุที่รออยู่ข้างล่างทนไม่ไหวรีบวิ่งขึ้นมาชั้นหนึ่งเขาเห็นอาเกฮะนั่งกอดเข่าร้องไห้อย่างบ้าคลั่งอยู่ที่ผนังอาคาร ตอนนี้สติของอาเกฮะไม่มีเหลืออีกต่อไปแล้ว

        “อาเกฮะนี้เกิดอะไรขึ้นทำไมขาของเธอถึงเป็นแบบนี้”

        “อย่ามายุ่งกับฉัน!...ออกไป!...ออกไปให้หมดเลยเจ้าพวกปีศาจ!!!

        “ตอนนี้เธอเสียสติไปแล้วเธอคงไม่กลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้วล่ะคะ”

        “อะไรกันทั้งๆที่เธออุตส่าห์ไม่ตายแล้วแท้ๆนะ”

        “คนที่เข้าใกล้ความมืดโดยที่ไม่รู้จักวิธีหนีมันออกมา จุดจบของคนๆนั้นถ้าไม่ตายก็จะเสียสติเหมือนเธอคนนี้ดังนั้นไม่มีจุดจบที่สวยงามรออยู่หรอกคะ”

        “อะไรกันเรื่องแบบนี้มันไม่ยุติธรรมไปหน่อยเหรอ”

        “อ้าวๆอะไรกันนี่ฉันมาช้าไปเหรอเนี่ย?”

        “อะอาจารย์คาราสึทำไมมาอยู่ที่นี่ล่ะครับ”

        “อ๋อ!...คือว่าเรื่องนั้น….

        “ก็หนูบอกไปแล้วยังไงล่ะคะว่าหนูจัดการเองได้ให้ป๊ะป๋ารออยู่ที่บ้านดีกว่าน่ะ”

        “อ๋อ!อาจารย์คาราสึเป็นป๊ะป๋าของชิโนะนี่เอง…………เอ๋อออออออทะทั้งสองคนเป็นพ่อลูกกันหรอกเหรอ?!

        “ก็นามสกุลเหมือนกันก็ต้องเป็นพ่อลูกกันอยู่แล้วหนิคะไม่เห็นจะแปลกตรงไหนเลย”

        “เรื่องนั้นมันก็ไม่แปลกหรอกแต่เพราะทั้งนิสัยทั้งหน้าตาไม่เหมือนกันเลยนี่นา”

        “ฮิคารุคุงจะดูไม่ออกมันก็ไม่แปลกจริงๆแหละนะแต่ว่า เรื่องนี้ไว้คุยกันวันหลังดีกว่าเมื่อกี้ฉันโทรเรียกรถตำรวจกับรถพยาบาลมาแล้ว อีกสัก10นาทีก็คงจะมาเราควรจะหนีไปจากที่นี่ก่อนดีดว่า”

        “แล้วอาเกฮะล่ะครับปล่อยไว้แบบนี้เหรอ”

        “ก็นะเราต้องปล่อยคุณฮายาเมะไว้ตรงนี้แหละ เพราะยังไงเธอคงจะไม่ยอมไปกับเราอยู่แล้ว”

        “มันก็จริงอย่างที่อาจารย์พูดแหละครับ”ฮิคารุมองอาเกฮะที่กำลังตัวสั่นเพราะเรื่องที่เธอเจอมา

        “งั้นพวกเราไปกันเถอะฮิคารุคุงฉันจะไปส่งเธอที่บ้านด้วยแล้วกันนะ”

        “ไม่เป็นไรครับผมเดินกลับเองได้”

        “แต่ฉันว่าเธอคงต้องการหาคนมาแก้ต่างให้คุณยายของเธอด้วยจริงไหมล่ะ”

        “ระเรื่องนั้นมันก็”

        “ชิโนะจังไม่ว่าอะไรใช่ไหม”

        “จะทำอะไรก็ทำเถอะคะ”

        “งั้นตกลงตามนี้นะพวกเราไปขึ้นรถกันเถอะ”ฮิคารุทำอะไรไม่ได้นอกจากเดินตามสองพ่อลูกขึ้นรถไป ปล่อยให้อาเกฮะที่เสียสติอยู่ที่โรงเรียน เหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้ฮิคารุคิดว่าการก้าวความสู่ความมืดโดยที่ไม่รู้ถึงผลลัพธ์ที่จะตามมันอาจทำให้ ชีวิตของเราหรือคนอื่นๆที่ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวด้วยต้องดับไปเหมือนเปลวไฟที่อยู่กลางพายุ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×