ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เพราะเกลียดเธอจึงเจอรัก

    ลำดับตอนที่ #4 : .ในที่สุดก็ต้องแต่ง

    • อัปเดตล่าสุด 1 ม.ค. 50


    เพราะเกลียดเธอจึงเจอรัก

    ตอนที่ 4 ในที่สุดก็ต้องแต่ง

        เช้าวันใหม่ที่สดใส ธีรวุฒิ ตื่นจากที่นอนด้วยความงัวเงียตามแบบฉบับของเขา
    หลังจากที่นั่งจนหายมึนหัวก็จัดการทำภารกิจส่วนตัว แล้วลงไปข้างล่างอย่างรวดเร็ว
    เมื่อเห็นผู้เป็นมารดานั่งอยู่ที่โต๊ะทานอาหาร ชายหนุ่มก็ย่องไปด้านหลัง แล้วขโมย
    หอมแก้มไปฟอดใหญ่

      "อ้าวจะไปแล้วทำงานแล้วหรอลูก  ไม่ทานข้าวกับแม่ก่อนหละ"นารีรัตน์ทักด้วยความ
    เป็นห่วง เมื่อเห็นลูกชายตั้งท่าออกจากบ้าน

     
      "ไม่หละครับ    ไปนะครับ เจอกันตอนเย็น"ธีรวุฒิพูดจบก็พรวดพราดออกไปเลย

     
      "เฮ้อ  ลูกคนนี้นี่   เป็นโรคกระเพาะขึ้นมานะ จะไม่รักษาจริงๆด้วย"นารีรัตน์ได้แต่ยืน
    บ่นในความดิ้อรั้นของลูกชาย

     
    ตึกสีขาวสูงระฟ้า ของ ชยานันท์กรุ๊ป ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางผู้คนพลุ่งพล่าน  ธีรวุฒิ
    เลี้ยวเข้าไปในอาคารอย่างเคยชิน  เมื่อจอดรถในที่จอดรถของผู้บริหารเรียบร้อย ก็เดิน
    เข้าตึกไป ระหว่างทาง ก็ทักทายพนักงานตามเคาน์เตอร์ต่างๆอย่างสนิทสนม  ซึ่งเป็น
    ภาพที่ทุกคนเห็นจนชินตา  แม้กระทั่งเดินเข้าไปในลิฟต์ก็ยังไม่วาย อดไม่ได้ที่จะหันไป
    ทักทาย สาวๆพนักงานในบริษัท จนถึงชั้นของตัวเองจึงก้าวขาออกจากตู้สี่เหลี่ยม
    เคลื่อนที่


    "ไงวะธีร์    บริหารสเน่ห์แต่เช้าเลยนะเอ็ง"ภาสกรแซวเพื่อนซี้อย่างอารมณ์ดี


    "กูเปล่า เค้าเรียกเป็นมิตรกับทุกคนเว้ย"ธีรวุฒิแก้ตัวเมื่อถูกภาสกรแซว


    "เออๆ  จะพยายามเชื่อ  แต่ตอนนี้กูหิวแล้ววะ ไปหาอะไรกินกับกูหน่อยดิ"ภาสกร
    ดันหลังเพื่อนร่างสูงไปหาของกิน


    ****************************************************

     

    "ไอ้พาส กูจะแต่งงาน"ธีรวุฒิโพล่งขึ้นขณะที่พาสกรกำลังยกน้ำ
    ขึ้นดื่ม เป็นผลให้ชายหนุ่มสำลักน้ำในทันที


    "มึงว่ารัยนะ   แต่งงานหรอ  ฮ่ะๆๆ ฮ่าๆๆ"พาสกรหัวเราะท้องคัดท้องแข็ง

    "มัยวะ  กูจะแต่งงานกะเค้าบ้างไม่ได้งัย"ธีรวุฒิทำหน้าบูดใส่เพื่อน

    "เปล่าโว้ย  กูแค่สงสัยว่าอะไรมาเข้าฝันมึงให้มึงคิดเรื่องนี้วะ"พาสกรทำท่าทางครุ่นคิด

    "แม่กูมั้ง   ไอ้นี่หนิ  พอกูไม่คิดแต่งมึงก็หาว่ากูใช้ผู้หญิงเปลือง พอกูจะแต่งมึงก็ค้านอีก
    ตกลงมึงจะเอายังไงกับกูกันแน่วะ"ธีรวุฒิเถึยง

    "กูก็ไม่ได้ว่าอะไร"พาสกรพูดด้วยเสียงยานคางก่อนจะกระแอมแล้วทำท่าเหมือนนักข่าว
    ในโทรทัศน์"ขณะนี้เป็นรายงานข่าวด่วน  นายธีรวุฒิ ชยานันท์ ได้ปิดฉากตำนานคาสโนว่า
    ด้วยวัยเพียง 26 ปี ยังไม่มีรายงานว่าสาวผู้โชคร้ายผู้นั้นเป็นใคร.....จบข่าว" 


    "ว่าใครคาสโนว่า"ธีรวุฒิทำหน้าเซ็งกับท่าทางปัญญาอ่อนของเพื่อนรัก


    "อ้าว  ก็แกไง เปลี่ยนผู้หญิงเป็นว่าเล่น  มึงรู้ตัวป่าว ผู้ชายทั้งประเทศเค้าอิจฉามึงกัน
    จะตาย"พาสกรกล่าวอย่างอิจฉา


    "กูเปล่า แค่คนมันหน้าตาดีอะนะ แบบว่ามีสเน่ห์อะเข้าจ๋ายปะ"ธีรวุฒิทำเสียงล้อเลียน
    เพื่อน


    "โว้ย  กูจะอ้วก   พูดออกมาได้"พาสกรพูดอย่างหมั่นไส้และถามต่อ"เออ นี่ ตกลงผู้หญิง
    ผู้โชคร้ายแห่งปีคนนั้นเป็นใครวะ"


    "ลูกเพื่อนแม่กู"ธีรวุฒิตอบเรียบๆแล้วก้มลงจัดการกับอาหารของตัวเองต่อ


    "แหม เดี๋ยวนี้เล่นของสูงนะเว้ย       อืม ลูกเพื่อนแม่มึงหรอ คนไหนวะ กูเคยเห็นมะ      
    เฮ้ย ไอ้ธีร์ มึงฟังกูอยู่รึป่าว "พาสกรตะคอกเมื่อเห็นว่าเพื่อนไม่มีทีท่าสนใจในสิ่งที่เขาพูด


    "เออ ฟังอยู่  มึงไม่เคยเห็นหรอก กูก็พึ่งเคยเห็นเค้าเหมือนกัน"ประโยคหลังเหมือนธีรวุฒิ
    จะพูดกับตัวเอง


    "หือ   พึ่งเคยเห็นเค้า แล้วจะแต่งงานกะเค้า โว้ย  ไอ้คนอื่นที่แกควงเป็นเดือนๆ ยังไปไม่
    รอดซักราย แล้งนี่เพิ่งเคยเห็น  จะรอดหรอวะ"พาสกรเริ่มซักต่อ


    "ไม่รอดก็หย่า"ธีรวุฒิตอบหน้าตาเฉย


    "เฮ้ย  แต่งงานนะเว้ย ไม่ใช่เล่นขายขนม กูหละเซ็งเพื่อนกูจริงๆ"พาสกรส่ายหน้าอย่างเอือม
    ระอา"แล้วนี่ สรินยารู้เรื่องยังอะ"


    "บอกมัย เค้าก็เหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ เพียงแต่กูสลัดไม่หลุดก็เท่านั้น   แล้วมึงไม่ต้องหวังดี
    ไปบอกเค้าหรอกนะ  เดี๋ยวกูบอกเอง"ธีรวุฒิกล่าวดักคอ
    แล้วพูดตัดบทเมื่อเห็นเพื่อนตั้งทำท่าจะซักต่อ

    "ไหนมึงบอกว่าหิวงัย มัวแต่ซักอยู่นั่น  เย็นหมด"เจอแบบนี้พาสกรเลยได้แต่เก็บความสงสัย
    ก้มหน้าก้มตากินข้าวต่อ

    *********************************************************

    เพื่อต้องการให้อิงฟ้าแต่งงานด้วย  วันนี้หลังจากเลิกงานธีรวุฒิจึงบึ่งรถไปที่ร้านเค้กของอิงฟ้า
    พบว่ามีคนนั่งอยู่ในร้านมากพอสมควร  เขาจึงเลือกที่นั่งที่ว่างอยู่ตรงมุม ของร้านและรอจนกระทั่ง
    ลูกค้าคนสุดท้ายเดินออกจากร้านไป  เสียงทักทายที่คุ้นเคยดังขึ้นมาจากหลังเคาน์เตอร์
    แล้วก็ต้องชะงักลงอีก เมื่อเห็นหน้าลูกค้าชัดๆ

    "สวัสดีค่ะ รับอะไรดีค่ะ  อ้าว คุณ    มาที่นี่ทำไม"หญิงสาวหน้าบึ้งลงในทันที


    "แหม เจอกันก็ทำหน้าบึ้งซะและ ยิ้มหน่อยสิครับ"ชายหนุ่มแกล้งหยอกแต่หญิงสาวไม่เล่นด้วย


    "ไม่ต้องมาพูดมาก ออกไปได้แล้ว"หญิงสาวเอ่ยปากไล่


    ""พึ่งรู้นะเนี่ยว่าเจ้าของร้านเค้าไล่ลูกค้ากันด้วย"ชายหนุ่มยังคงยั่วต่อ แล้วยกมือ
    เป็นเชิงให้ฟังเขาพูดก่อนเมื่อเห็นว่าฝ่ายหญิงเริ่มขยับปาก

    "ผมจะมาพูดเรื่องแต่งงานหนะ  อย่าพึ่งพูดฟังผมก่อนสิ   ผมรู้ว่า เราสองคนก็ไม่อยากแต่งงาน
    กันนักหรอกใช่มั้ย"หญิงสาวพยักหน้าอย่างมั่นใจ "แล้วผมก็คิดว่าพวกแม่ๆของเราเค้าคงไม่ยอม
    แต่ถ้าเราร่วมมือกันมันก็ไม่แน่ ใช่มั้ย"ชายหนุ่มถาม   หญิงสาวพยักหน้าหงึกๆ

    "แล้วไงต่อ"เมื่อธีรวุฒิเห็นว่าหญิงสาวเริ่มสนใจในสิ่งที่ตนพูด ก็เปลี่ยนเรื่อง

    "เดี๋ยวผมจะบอกให้ฟัง  แต่ตอนนี้ผมหิวน้ำอะ"ชายหนุ่มแกล้งทำเป็นหิวน้ำ ทำให้หญิงสาว
    ต้องเดินไปรินน้ำมาให้ด้วยท่าทางที่ไม่เต็มใจนัก  แล้วนำแก้วที่ใส่น้ำเปล่า มาวางกระแทก
    ตรงหน้าชายหนุ่ม  

    "เอ้า  นี่"

    "ขอเป็นกาแฟแทนได้มั้ย  กาแฟ 2 น้ำตาล 1 ครีม2นะ ขอบคุณ"ชายหนุ่มสั่งเป็นชุดๆ จน
    อิงฟ้าไม่มีทางปฏิเสธ จำยอมเดินเข้าไปหลังร้านแล้วชงกาแฟให้ธีรวุฒิ  เมื่ออิงฟ้าคล้อยหลัง
    ไปไม่นาน ธีรวุฒิก็หยิบซองยาผงสีขาวออกมาจากกระเป๋าเสื้อ แล้วเทลงให้แก้วน้ำเปล่าที่
    อิงฟ้านำมาให้เมื่อครู่   แล้วคนให้ยาผสมเข้ากับน้ำจนเป็นเนื้อเดียวกัน  ชายหนุ่มนั่งมองผล
    งานของตัวเองอย่างพอใจ   ไม่นานนัก อิงฟ้าก็เดินออกมาจากหลังร้าน พร้อมกาแฟถ้วยใหญ่
    ส่งกลิ่นหอมโชยไปทั่ว  ชายหนุ่มสูดกลิ่มกาแฟแล้วชม

    "อื้อ   หอมจังเลย ท่าทางน่าอร่อย"


    "ถ้ายังเรื่องมากอีก ชั้นจะเอากาแฟสาดจริงๆด้วย"อิงฟ้าขู่เอาไว้


    "ครับๆ ไม่เปลี่ยนแล้วครับ"ชายหนุ่มรับคำอย่างว่าง่ายพร้อมยกถ้วยกาแฟมาดื่มอึกนึง
    แล้วพูดต่อ 

    "ตะกี้ถึงไหนแล้วหละ   อ่อ   ถ้าพวกเราสองคนร่วมมือกัน พวกแม่ๆก็คงยอมนะ ผมว่า"


    "แล้วจะทำยังไงหละ"หญิงสาวถามด้วยความฉงนเพราะเธอยังไม่เห็นทางที่
    จะทำให้คุณแม่ของเธอเปลี่ยนความคิดได้เลย


    "เอ้า    คุณจำได้มั้ย ที่คุณแม่คุณพูดกับแม่ผม ว่าให้ลองดูๆกันไปก่อน ไม่แน่2คนนั้น
    อาจจะรักกันจริงๆก็ได้  เราก็ทำทีเป็น ว่าคบหาดูใจกันอยู่  ซักเดือนนึงก็พอ แล้วบอกว่า
    ไปกันไม่รอด อย่างงี้ดีมั้ย"หลังจากที่ร่ายยาว  ก็หันกลับมาถามความคิดเห็นของผู้สนทนา
    ซึ่งตอนนี้กำลังเคลิ้มก็พยักหน้า อือๆ รับไป    ชายหนุ่มเห็นดังนั้นก็ยื่นแก้วน้ำเปล่าที่ใส่ยา
    นอนหลับให้แก่หญิงสาว  อิงฟ้ารับมาทำหน้างงๆ


    "ไม่รู้จักดื่มฉลองรึไง  จะร่วมงานกันทั้งทีก็ แบบแสดงความดีใจหน่อยไม่เป็นรึไงครับ"
    ชายหนุ่มยกเหตุผลมาหว่านล้อม


    "ด้วยน้ำเปล่ากับกาแฟเนี่ยนะ"อิงฟ้าค้าน


    "อะฮ่ะ  ถูกต้อง ฉลองไร้แอลกอฮอลล์ไง ไม่รู้เรื่องอีกแล้ว"ชายหนุ่มทำท่ารำคาญ

    "มาๆๆ ชนแก้วๆ  เพื่อความอนาคตของเรา"

    "เพื่ออนาคตของเรา"อิงฟ้าพูดตามเสียงใสแล้วดื่ม โดยหารู้ไม่ว่ากำลังจะมีภัยมาถึงตัว
    เมื่อดื่มกันจนหมด เธอก็เก็บแก้วไปล้าง ระหว่างทางนั้นได้รู้สึกปวดหัวอย่างประหลาด
    ถึงกับเซ จนธีรวุฒิต้องเข้าประคอง

    "เป็นอะไรรึเปล่าครับ"ชายหนุ่มถามด้วยความเป็นห่วง


    "ไม่เป็นไรหรอกปวดหัวนิดหน่อย  ขอบใจนะ"อิงฟ้าตอบด้วยใบหน้าซีดเซียวขณะที่สติกำลัง
    หลุดลอยไปนั้นเธอก็รู้สึกเหมือนถูกคนอุ้ม พอลืมตาเห็นเป็นธีรวุฒิ ก็โวยวาย เธอพยายามดิ้น
    แต่ด้วยเรี่ยวแรงอันน้อยนิดก็ไม่อาจสู้เขา หญิงสาวถูกอุ้มขึ้นไปบนห้องนอนของตัวเอง ที่
    เธอใช้เป็นห้องนอนชั่วคราวเมื่อต้องอยู่เฝ้าร้าน  เขาวางเธอลงบนเตียงแสนรักของเธอ
    แล้วขึ้นคร่อม อิงฟ้าตกใจร้องโวยวายพยายามจะหนีแต่ถูก ธีรวุฒิล็อกตัวเอาไว้ แล้วซุก
    ไซ้ที่ซอกคอของหญิงสาว  หญิงสาวพยายามดิ้นมากขึ้นแต่ด้วยฤทธิ์ยา ทำให้สติ
    สัมปัชชัญญะ  ค่อยๆเลือนหายไป 


    "หึ  สิ้นฤทธิ์แล้วสินะ"ธีรวุฒิเอ่ย เมื่อเห็นว่าหญิงสาวเงียบไป เขาลุกขึ้นมาจากเตียง มอง
    ร่างเล็กที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง ด้วยสีหน้าแห่งผู้มีชัย จากนั้นก็เริ่ม เอากล้องวิดีโอที่ยังไม่ได้เปิด
    มาตั้งไว้เหนือทีวีที่ตรงข้ามกับเตียงนอนที่อิงฟ้านอนอยู่  แล้วหันมาจัดการถอด เสื้อผ้าเธอ
    ออก จนเหนือแต่ชุดชั้นใน แล้วก็ห่มผ้าให้เธอเรียบร้อย   จากนั้นก็ถอดเสื้อผ้าตัวเองหมดเหลือแต่
    ผ้าเช็ดตัวผืนเดียว  และที่ต้องทำจากนี้ก็แค่รอเวลา  ที่เธอตื่นขึ้นมาพบสถานการณ์ที่เขาสร้างไว้
    และแน่นอนต่อจากนี้ต่อไป เขาจะบังคับให้เธอทำอะไร เธอก็ต้องทำ ทั้งเรื่องแต่งงานด้วยเหมือนกัน

     
              สองสามชั่วโมงผ่านไป อิงฟ้าเริ่มรู้สึกตัวเธอลืมตาโพลง มองเพดานห้องอย่างงุนงงๆ ลุกขึ้นนั่ง
    พิงหัวเตียง ทำให้เธอรู้ว่า เสื้อผ้าไม่ได้อยู่กับตัวแล้ว  เธอเริ่มคิดประติดประต่อเรื่องราวว่าเกิดอะไร
    ขึ้นกับเธอ

    "อ้าว  ตื่นแล้วหรอ คุณฟ้าคนสวย"ธีรวุฒิก้าวออกมาจากห้องน้ำ ยิ่งเธอเห็นเขานุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียว
    มันยิ่งทำให้เธอแทบบ้า จะเป็นอะไรได้อีกนอกจากว่า ...............แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งกลัวว่ามันจะเป็นจริง
    ชายหนุ่มเห็นสีหน้าของอิงฟ้าก็พอจะเดาออก เลยพูดดักหน้าให้เธอเจ็บใจเล่น

    "อย่างที่คุณคิดหนะถูกแล้ว"ร่างสูงพูดพลางเดินเข้ามานั่งลงข้างอิงฟ้า เมื่อเห็นหญิงสาวกระเถิบหนี
    เขาเลยจับเธอกดเอาไว้บนเตียงแล้วขึ้นคร่อม เห็นว่าหญิงสาวหนีไม่รอดแน่ก็ใช้มือลูบไล้ไปตามเนื้อนวล
    เนียนของหญิงสาว

    "เอามือสกปรกของคุณออกไป"อิงฟ้าตวามลั่น


    "แหมดุจริงนะ   เมื่อกี้ไม่เห็นเป็นแบบนี้เลย  รู้ตัวมั้ยว่าคุณหนะเก่งมากเลยนะ เล่นซะผมเค.."
    ชายหนุ่มพูดได้แค่นั้นก็โดนฝ่ามือประทะที่ใบหน้าอย่างแรง จนหน้าหันไปตามแรงมือ 

    "หน้าไม่อาย ใช้กำลังบังคับคนอื่นเค้ามาแล้วยังจะ พูดได้ไม่อายปากอีก ทุเรศจริงๆ"หญิงสาวด่าลั่น
    ธีรวุฒิหันมาประจันหน้าหญิงสาวที่กำลังโกรธเผยให้เห็นรอยแดงรูปนิ้วมือที่แก้มด้านซ้าย  อิงฟ้ามอง
    มันด้วยความพอใจ  ชาหนุ่มบดขยี้ริมฝีปากอันเนียนนุ่มของเธอด้วยริมฝีปากอุ่นหนา  อิงฟ้าดิ้นรน
    ต่อสู้ เอาตัวรอด เธอพยายามผลักอกของเขาออกแต่ไม่เป็นผล ชายหนุ่มใช้ข้างหนึ่งโอบเอวเธอไว้
    แล้วใช้ข้างที่เหลือ สัมผัสที่หน้าท้องแบนราบ ลูบขึ้นมาอย่างช้านิ่มนวลผิดกับร่างเล็กที่ ดิ้นรนต่อสู้
    อย่างสุดแรงเกิด  มือหยาบหนาไล่ขึ้นมาถึงเนินอกนิ่มเขาสัมผัสมันด้วยความพึงพอใจ  และแล้วก็ต้อง
    ชะงัก เมื่อเห็นว่าตัวเองกำลังจะทำอะไรอยู่  เขาผละออกจะเธอแทบจะทันทีทันใด  เขายืนมองร่างเล็ก
    ที่นอนขดตัวสั่นเทาอยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนใหญ่อย่างรู้สึกผิด  แต่เขามาไกลเกินกว่าจะถอยแล้ว

    "คุณทำแบบนี้ทำไม    คุณต้องการอะไร"หญิงสาวถามปนสะอื้น


    "คุณไม่ต้องห่วง ผมรับผิดชอบคุณแน่  ผมจะรีบจัดงานแต่งงานให้เร็วที่สุด"ชายหนุ่มพูดเหมือนที่คิดไว้


    "ไม่ต้อง!!!!!!"หญิงสาวตวาดลั่น  เมื่อเธอไม่ยอมง่ายๆเขาจึงต้องงัดไพ่ไม้ตายออกมาใช้  ชายหนุ่ม
    เดินไปหยิบแผ่นซีดีเปล่ามาจากในกล้องวิดีโอที่เตรียมไว้


    "ถ้าคุณไม่แต่งผมจะเอา ไอ้เนี่ย ไปประจาน  คนเค้าจะได้รู้ไงว่าคุณเป็นเมียผมแล้ว"ธีรวุฒิพูดแล้งชูแผ่นซีดีขึ้นในมือ


    "เลวที่สุด  ชั้นไม่เคยเห็นใครเลวเท่าคุณมาก่อนเลย"กล่าวจบ ก็ฟุบหน้าลงกับหมอน ที่หลงเหลืออยู่
    คือ เสียงร่ำไห้ปานจะขาดใจ เล็ดลอดออกมาจากหมอนใบใหญ่  ชายหนุ่มยืนมองภาพนั้นด้วยความ
    รู้สึกผิด  ถ้าเขาไม่ลวนลวมเธอ เธอคงไม่ตกใจขนาดนี้  แต่ถึงเขาจะรู้สึกผิดเพียงไร เธอคงไม่มีวันให้อภัยเขาอยู่แล้ว
    สิ่งที่เขาจะทำได้ในตอนนี้ คือ  เดินหน้าต่อไปเท่านั้น

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×