ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เพราะเกลียดเธอจึงเจอรัก

    ลำดับตอนที่ #3 : คลุมถุงชน

    • อัปเดตล่าสุด 1 ม.ค. 50


    เพราะเกลียดเธอจึงเจอรัก

    ตอนที่ 3  คลุมถุงชน

    "อุ๊ย....   แม่ มาได้ไงค่ะเนี่ย  ทำไมไม่เรียกฟ้าไปรับหละค่ะ"อิงฟ้ากล่าวทักทาย
    ผู้เป็นมารดาที่ยืนรออยู่หน้าร้านด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

    "ไม่งั้นเค้าจะเรียกเซอร์ไพรส์หรอจ๊ะ"พิมพ์นภาพูดอย่างอารมณ์ดี 
    แล้วมองดูบรรยากาศรอบๆร้าน"ร้านน่านั่งดีเหมือนกันนี่ลูก    แล้วขายดีมั้ยหละ"

    "ก็........ดีค่ะแม่     ว่าแต่แม่เอาของไปไว้ไหนอะค่ะ"อิงฟ้าเปลี่ยนเรื่อง
     แล้วเดินไปหยิบเค้กอัลมอนด์หน้าตาน่าทานจากตู้โชว์มาหนึ่งชิ้น

    "แม่แวะเอาไปไว้ที่บ้านแล้วจ่ะ   ตั้งแต่มาถึง  นี่ยังไม่ได้ไปเปิดหูเปิดตาที่ไหนเลย
     ตอนนั่งรถมานี่ยังงงทางจะตายอยู่แล้ว  เลยต้องพึ่งนายชมเนี่ย " พิมพ์นภาพูดพลาง
    ตักเค้กเข้าปาก 2-3 คำ "ไปไม่กี่ปีเอง เปลี่ยนไปเยอะแล้วเนอะ"

    "3ปีกว่า เนี่ยยังไม่พอที่จะทำให้อะไรๆเปลี่ยนได้อีกเหรอคะ"หญิงสาวกล่าวยิ้มๆ
     พลางมองดูผู้เป็นแม่ทานเค้กอย่างเอร็ดอร่อย   "แล้วแม่ไม่กลัวอ้วนแล้วเหรอค่ะ"

    "ก็ลูกสาวแม่อยากทำอร่อยทำไมหละ  แม่ก็ต้องกินสิ"พิมนภาตักเค้กคำสุดท้ายเข้าปาก
     แล้วตามด้วยน้ำผลไม้ที่ลูกสาวสุดที่รักส่งให้  

    "เดี๋ยวแม่ไปบ้านคุณหญิงนารีรัตน์ก่อนนะ ขืนอยู่นี่ต่อมีหวังกินไม่หยุดแน่ ไปนะจ๊ะ"
    พิมพ์นภา หยิกจมูกหญิงสาวอย่างเอ็นดู แล้วเดินขึ้นรถไป

    "แล้วอย่าลืมกลับมาทานข้าวเย็นนะค่ะ"อิงฟ้าตะโกนไล่หลังรถยุโรปคันงาม
    ที่กำลังแล่นออกไปโดยมีนายชมเป็นคนขับ

    "กลับไปทำเค้กต่อดีกว่า"อิงฟ้าเปรยกับตัวเอง  แล้วหมุนตัวเข้าร้านไป 
     เธอง่วนอยู่กับการทำเค้กอยู่นาน เท่าไหร่เธอก็ไม่ทราบแน่  จนกระทั่ง ลูกค้ารายแรก
    ของวันเดินเข้ามาในร้าน  นั่นแหละเธอถึงได้วางมือแล้วเอ่ยทักทายเสียงใส
     แต่แล้วเธอก็ต้องชะงัก เมื่อลูกค้าคนนั้นคือ  ธีรวุฒิ 


    "เป็นไง  ถึงกับอึ้งเลยหรอ   อิงฟ้า"ชายหนุ่มพูดพลางนั่งลงตรงโต๊ะหน้าเคาน์เตอร์  
    จ้องหน้าหญิงสาวที่กำลังอึ้ง  ซึ่งเมื่อถูกทักเช่นนั้นเจ้าหล่อนก็เปลี่ยนสีหน้าอย่างรวดเร็ว  

    "จะรับอะไรดีคะ"หญิงสาวทำเป็นไม่สนใจ

    "ผมแค่อยากรู้ว่าคุณว่างนักรึไง ถึงมีเวลาไปแกล้งคนอื่นเค้าแบบเนี่ย"เขาเอ่ยด้วย
    น้ำเสียงเรียบ  ธีรวุฒิเปลี่ยนอิริยาบถจากนั่งเป็นยืนท้าวแขน  เขาจ้องลึกลงไปใน
    ดวงตาสีนิลกลมโต  จนทำให้คนถูกจ้องอดเสียวสันหลังไม่ได้  แต่ก็ยังทำใจดีสู้เสือ  
     
    "ชั้นก็อยากรู้เหมือนกันว่า  คุณกับแฟนคุณหนะว่างนักรึไง ถึงมีเวลามาป่วน
    ร้านคนอื่นเค้าเนี่ย"อิงฟ้าโต้กลับ

    "ก็ ตอนนั้นผมมาในฐานะลูกค้านี่   คุณเป็นเจ้าของร้าน ก็ต้องดูแลสิ ไม่เคยได้ยินรึไง
    ลูกค้าคือพระเจ้าอะ"ชายหนุ่มเถียงข้างๆคูๆ

    "ลูกค้าอย่างคุณชั้นไม่ยกให้เป็นพระเจ้าหรอก"อิงฟ้าเริ่มใจชื้นขึ้นมาหน่อย 
     เมื่อคู่ต่อสู้ของเธอไม่น่ากลัวอย่างที่คิด

    "นี่คุณ.....................ช่างเหอะ ที่ผมมานี้ไม่ได้อยากจะมาต่อปากต่อคำกับคุณหรอกนะ
     แค่ต้องการคำขอโทษ  จากคุณเท่านั้น  หรือถ้าคุณไม่อยากขอโทษก็ไม่เป็นไร
     แค่จ่ายมา 10000นึง"ธีรวุฒิพูดหน้าตาเฉย

    "ประสาทสิ  ชั้นทำอะไรผิดไม่ทราบ  คุณนั่นแหละที่ต้องขอโทษชั้น"หญิงสาวเถียงกลับ
    อย่างเหลืออด

    "เอ          หรือคุณอยากจะจ่ายเป็นอย่างอื่น"ร่างสูงไม่พูดเปล่า หากแต่ยังย่างสุมเข้า
    มาใกล้ พร้อมมองร่างเล็กอย่างมีความความหมาย  เป็นผลทำให้ร่างเล็กรีบหาสิ่งของ
    ป้องกันตัว  และที่ได้คือไม้เบสบอล พร้อมกับขู่

    "อย่าเข้ามานะ   แล้วก็ออกไปจากร้านชั้นได้แล้ว   ออกไปสิ"อิงฟ้าเอ่ยพร้อมกับขยับไม้
    ในมือ  แต่ก็ไม่เป็นผล ชายหนุ่มไม่มีท่าทีว่าจะกลัวเลยแม้แต่น้อย  ซ้ำยังเดินตรงเข้า
    มากระชากไม้ในมือจนกระเด็นไปไหนก็ไม่รู้   อิงฟ้าถอยหลังจนหลังติดกับผนังห้อง
     เธอเห็นท่าไม่ดี เตรียมตั้งท่าออกวิ่ง แต่  ธีรวุฒิ รู้ทันใช้แขนท้าวกับผนังห้อง
    กั้นไม่ให้เธอหนีไปไหน  ร่างสูงค่อยๆโน้มหน้าลงมา ร่างเล็กใช้มือดันหน้าอก
    ของคนตัวสูงเอาไว้ แต่ก็ต้านแรงได้ไม่มาก  จึงเบือนหน้าหนี  เผยให้เห็นคอเรียวงาม
     เธอสัมผัสได้ถึง ลมหายใจอุ่นๆ ที่ซอกคอ   หญิงสาวหลับตาปี๋ เสียงโทรศัพท์ของธีรวุฒิ
    ดังขึ้น เหมือนเสียงสวรรค์มาช่วยเธอ  ทำให้เขาผละออกจากเธออย่างรวดเร็ว 

    "สวัสดีครับ        ครับอีก 15 นาทีถึงครับ    แค่นี้ก่อนนะครับ  สวัสดีครับ"ชายหนุ่มจบ
    บทสนทนาอย่างรวดเร็ว  พอจะหันกลับมาหาอิงฟ้า   ก็เจอไม้เบสบอลอันที่เขาแย่งมา
    จากหญิงสาว อัดเข้าอย่างจังบริเวณลำตัว  เจออย่างนี้ร่างสูงถึงกับทรุด

    "นี่สำหรับที่นายมาล่วงเกินชั้น  แล้วถ้าไม่รีบไปอีกจะโดนหนักกว่านี้"แม้ท่าทางของ
    หญิงสาวจะไม่ค่อยน่ากลัวแต่สภาพร่างกายที่เพิ่งถูกลอบโจมตีมาทำให้เขาไม่กล้า
    ต่อกรด้วย    ร่างสูงค่อยๆพยุงตัวเองยืนขึ้น จนหายจุกแล้วทำท่าจะออกไป
      หญิงสาวจึงวางไม้ลง เป็นจังหวะที่ชายหนุ่มโอบมาจากด้านหลังแล้วจัดการกับแก้ม
    นุ่มนิ่มนั้น ด้วยริมฝีปาก อุ่นๆ    แล้วถอนออกอย่างรวดเร็ว  หญิงสาวจะหันกลับไป
    จัดการ      แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว   เลยได้แต่ ได้แต่ยืนเต้นเร่าๆ   อยู่ตรงนั้น

    "ไอ้คนฉวยโอกาส   อย่าให้เจออีกนะ จะตีให้หัวแบะเลย   คอยดูสิ"อิงฟ้า
    กล่าวอย่างหัวเสีย

    ****************************************************

    "นั่นไง ตาธีร์มาแล้ว   ธีร์มานี่สิลูก   นี่คุณหญิงพิมพ์นภาลูก"นารีรัตน์แนะนำ
    เพื่อนสนิทกับลูกชาย ธีรวุฒิยกมือไหว้พิมพ์นภาอย่างอ่อนน้อม

    "แหม เห็นแต่ตอนเด็กๆ  โตมาน้าจำไม่ได้เลยนะเนี่ย  หล่อขึ้นตั้งเยอะ"พิมพ์นภา
    พูดกับธีรวุฒิ      ชายหนุ่มได้แต่ยิ้มตอบ

    "ขึ้นไปอาบน้ำอาบท่าก่อนไปลูก แต่งตัวหล่อๆด้วยนะวันนี้จะมีสาวสวยมาบ้าน"นารีรัตน์
    หัวเราะอย่างอารมณ์ดีแล้วก็หันไปคุยกับเพื่อนสนิทต่อ

    "เป็นไง  พอผ่านมั้ยจ๊ะ"นารีรัตน์ถาม

    "ชั้นหนะ โอเคเลยแหละเหลือแต่แม่ฟ้าหละ วันหลังค่อนนัดเค้ามาเจอกันแล้วกันเนอะ"
    พิมพ์นภาพูดยิ้มๆ

    "อุ๊ย..ทำไมต้องวันหลังด้วยละ ไหนๆก็ไหนๆและ วันนี้เลยสิ หนูฟ้าอยู่รึเปล่าหละ"นารี
    รัตน์ขัดขึ้น

    "วันนี้น่าจะว่างแหละ  จะเอางั้นหรอ"พิมพ์นภาถามอย่างไม่แน่ใจ

    "แน่นอน  ชั้นก็อยากเห็นว่าที่ลูกสะใภ้เหมือนกันนะ"นารีรัตน์เอ่นแล้วทำท่าฝันหวาน
    จนเพื่อนสนิทขำ

    "ก็ได้ แปปนะ"นารีรัตน์พยักหน้าแทนคำตอบ 

    "ฮัลโหล  ฟ้าเหรอลูก ว่างมั้ยจ๊ะ  อือ   แม่อยากให้ฟ้ามาบ้านคุณหญิงนารีรัตน์
    หน่อยได้มั้ยลูก   จ๊ะๆ  รีบมานะ  จ๊ะ หวัดดีจ๊ะ"พิมพ์นภา   คุยโทรศัพท์กับลูกสาว
    ใบหน้ายิ้มแย้ม

    "อีก 15 นาทีถึง รอแปปนะ"พิมพ์นภาหันกลับมาพูดกับนารีรัตน์ 

    "เท่าไหร่ก็รอได้จ๊ะ  ตาธีร์ลงมาพอดีเลย อยากทานอะไรหละเดี่ยวบอกตาธีร์
    ให้ทำให้ทาน"นารีรัตน์พูดกับเพื่อนพร้อมเรียกชายหนุ่มมาที่ห้องรับแขก

    "ทำอาหารเป็นด้วยหรอ  อือ ยัยฟ้าเค้าชอบทานอาหารอิตาเลี่ยนนะ เอาเป็นสปาเก็ตตี้
    แล้วกัน พอไหวมั้ยลูก"พิมพ์นภาพูดกับธีรวุฒิ

    "สบายมากครับ"ชายหนุ่มรับคำ  ชื่อ เหมือนอิงฟ้าเลย แถมยังชอบกินเหมือนกันอีก
    แต่คงไม่ใช่หรอกมั้ง  ชายหนุ่มสลัดความคิดออกจากหัวแล้วเริ่มลงมือทำอาหารตามคำสั่ง

    เสียงแตรรถดังมาจากหน้าบ้านชยานันท์ หญิงสูงวัยเดินไปเปิดประตูให้
    รถฮอนด้า แจ๊ส สีดำ เลี้ยวเข้ามาในบริเวณบ้าน รถจอดที่หน้าประตูบ้าน ประตูรถเปิด
    ออก  หญิงสาวในชุดเดรสสีขาวยาวถึงเข่า  แขนกุดเข้ารูป ปล่อยชายพริ้วไหว ผมที่จัด
    ทรงเรียบร้อยดูสวยสง่าเข้ากับชุด ก้าวออกมาจากรถ เธอส่งกุญแจรถให้กับคนขับรถ
    ของบ้านชยานันท์ที่เข้ามารับรถไปจอดในโรงรถ  แล้วเธอจึงเดินเข้าไปในตัวบ้าน
    หญิงสาวเดินเข้าไปในห้องรับแขก  พบหญิงวัยกลางคน 2 คนนั่งคุยกันอยู่อย่าง
    สนุกสนาน 

    "อ้าวยัยฟ้า   มานี่สิลูก  นี่คุณหญิงนารีรัตน์ จำได้มั้ยลูก"พิมพ์นภาทักทายผู้มาใหม่

    "สวัสดีคะคุณป้า   จำได้สิคะแม่"อิงฟ้าทักทายนารีรัตน์ผู้ที่เธอเรียกป้ามาตั้งแต่เด็ก
    ตั้งแต่จำความได้  แล้วกลับมาตอบคำถามผู้เป็นแม่

    "หิวรึยังลูก   ไปที่กินข้าวกัน"นารีรัตน์จูงมืออิงฟ้าไปที่โต๊ะอาหาร 
    นารีรัตน์นั่งที่หัวโต๊ะ "นิด ไปเชิญคุณธีร์มา บอกว่า หนูฟ้ามาแล้ว"

    "ค่ะ"แม่บ้านหญิงวัยเดียวกับนารีรัตน์รับคำ แล้วเดินออกไป

    "วันนี้พี่เค้าอุตส่าห์เข้าครัวทำสปาเก็ตตี้ให้หนูฟ้าโดยเฉพาะเลยนะ"นารีรัตน์ชวนคุย   

    "ไม่เห็นต้องลำบากเลยค่ะ  ความจริงฟ้าทานอะไรก็ได้ค่ะ"ฟ้าพูดตอบ

    "มาแล้วครับ"เสียงทุ้มที่ฟังแล้วคุ้นหูดังขึ้น  แต่นึกก็นึกไม่ออกว่าเคยได้ยินที่ไหน

    อิงฟ้าหันไปมองที่ต้นเสียง แล้วก็ต้องช็อก!!!  จากใบหน้ายิ้มแย้มก็บูดบึ้งลงทันที

    "คุณ...."ทั้งสองอุทานขึ้นพร้อมกัน 

    "อ้าวเคยเจอกันแล้วหรอลูก"พิมพ์นภาถามขึ้น

    "ครับ/ค่ะ"

    "งั้นก็ดีเลยพูดอะไรจะได้ง่ายๆหน่อย มาๆทานข้าวกันก่อน"นารีรัตนตัดบท
     อิงฟ้ายังคงขุ่นข้องหมองใจกับเรื่องเมื่อตอนกลางวันอยู่ ยิ่งเห็นชายหนุ่มไม่
    มีสีหน้าสะทกสะท้านเหมือนกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นแล้วมันยิ่งเพิ่มความคุกรุ่น
    ในใจเธอให้มีมากขึ้นเท่านั้น

    "คืองี้ลูกพวกแม่ก็เห็นว่าลูกโตๆกันแล้ว  น่าจะแต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝาได้แล้ว"
    นารีรัตน์เอ่ยเปิดประเด็นเมื่อทั้งหมดทานอาหารเสร็จ

    "แล้วแม่ก็เลยเห็นว่า พวกเราสองคนเหมาะสมกัน น่าจะแต่งงานกัน ใช่มั้ยครับ"
    ธีรวุฒิเอ่ยอย่างรู้ทันมารดา  เพื่อหวังประชด

    "ใช่จ๊ะ แหมลูกนี่เข้าใจอะไรง่ายดีนะ"นารีรัตน์ประชดกลับ

    "แม่ครับ"ชายหนุ่มเรียกมารดาเสียงดุ  แต่นารีรัตน์ก็ทำหน้าตาไม่รู้ไม่ชี้

    "แล้วฟ้าว่าไงหละลูก"พิมพ์นภาหันมาถามลูกตัวเอง อิงฟ้ามองหน้าธีรวุฒิ
    ทำตาดุใส่  แต่ถึงเธอจะโกรธจะเกลียดเขามากเท่าใด มันก็ไม่มากพอที่จะทำให้
    เธอหักหน้าแม่เธอได้ลงคอ  แต่หากจะให้เธอตอบรับนั้นมันก็คงจะมากไป
    ชีวิตเธอทั้งชีวิตจะให้มาอยู่กับคนฉวยโอกาสแบบนี้ มันคงทรมานน่าดู

    "คือ.....เอ่อ.....ฟ้ายังไม่พร้อมค่ะ  แล้วอีกอย่างร้านของฟ้าก็เพิ่งเปิดมันยัง
    ไม่เข้าที่อะค่ะ   แล้วเอ่อ     ฟ้าก็ยังสนุกกับงานอยู่เลยคะ"อิงฟ้ายกเหตุผล
    มากมายมาอ้าง

    "ไม่เป็นไรจ๊ะ  ป้าเข้าใจ แล้วตาธีร์ละว่าไงลูก"นารีรัตน์หันกลับมาถามลูกชาย
    ตัวเองบ้าง

    "ผมก็ยังไม่พร้อมครับ  โธ่แม่ เดี๋ยวนี่เค้าไม่มีคลุมถุงชนกันแล้วนะแม่"ชายหนุ่มเถียง
    แต่เสียงอ่อนลงเมื่อเห็นสีหน้าผิดหวังของผู้เป็นมารดา

    "ใครว่าแม่คลุมถุงชน  แม่หวังดีต่างหาก ธีร์คิดหรอว่าผู้หญิงที่เข้ามาติดพันธีร์หนะ
    มันจะรักธีร์จริง เชื่อแม่สิ แม่ผ่านอะไรๆมาเยอะแล้ว หนูฟ้าเนี่ยแหละดีที่สุด"นารีรัตน์
    ร่ายยาว 

    "ครับๆ ผมเชื่อแล้วครับ"ชายหนุ่มรับคำตัดบทก่อนที่ผู้เป็นแม่จะร่ายยาวไปกว่านี้

    "ไม่เป็นไร ในเมื่อพวกลูกยังไม่พร้อมก็ไม่เป็นไร  เอาไว้พร้อมเมื่อไหร่ก็มาบอกแม่ละกัน"
    นารีรัตน์ทำท่าเสียดาย

    "แหมเธอก็  อย่าไปบังคับเด็กมันมากเลย อย่างน้อยก็ให้เค้ารู้จักกันมากกว่านี้ก่อน
    ไม่แน่เค้าอาจจะชอบกันขึ้นมาจริงๆก็ได้"พิมพ์นภาให้กำลังใจเพื่อน"งั้นชั้นกลับก่อน
    แล้วกัน"

    "อือ ธีร์ไปส่งน้องหน่อยไป"ชายหนุ่มลุกขึ้นผายมือเชิญให้หญิงสาวเดินนำ



    ********************************************

     

    "ติดใจผมรึไงครับ ถึงไม่ยอมปฏิเสธ"ชายหนุ่มยิ้มยั่ว


    "นี่พูดให้มันดีๆนะ  ถ้าชั้นไม่เห็นแก่หน้าแม่ชั้นกับคุณป้าแล้วหละก็
    ชั้นไม่เลี้ยงคุณไว้อย่างงี้หรอก"อิงฟ้าหันกลับมาโต้


    "โอ๊ะๆ  กลัวจังเลย"ธีรวุฒิหัวเราะอย่างอารมณ์ดี


    "คุณจำไว้เลยนะว่า ผู้หญิงอย่างชั้น ไม่มีวันเลือกเอาผู้ชายอย่างคุณ
    มาเป็นสามีหรอกจำไว้"อิงฟ้าพูดอย่างถือดี


    "แล้วคุณคอยดูแล้วกัน"ชายหนุ่มตัดบทเมื่อ เห็นพิมพ์นภาเดินมา


    "ธีร์ น้ากลับแล้วนะลูก"พิมพ์นภาแตะแขนชาหนุ่มเป็นเชิงร่ำลา


    "ครับ สวัสดีครับ  ขับรถดีๆนะครับคุณอิงฟ้า"ประโยคหลังเขาหันกลับมาพูดกับอิงฟ้า
    แววตาอยากเอาชนะ อิงฟ้าเบ้ปากอย่างไม่ใส่ใจ


    ธีรวุฒิยืนรอจนกระทั่งรถสีดำเคลื่อนตัวออกจากสายตาไป  พลางนึกถึงอิงฟ้า

    ผู้ที่ตั้งท่าเป็นศัตรูกับเขาตลอดมา แล้วยิ้มที่มุมปาก อย่างมีเลศนัย





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×