คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : บทที่ 3 เรียกตัว
เรียกตัว
กร๊าซซซซซซ~~ อ๊ากกกกกก~~ กรี๊ดดดดดด~~ ฉันเกลียดหมอนั่นที่สุด!!! -_-^^+ อ๊ากกกกกก~~ ฉันอยากจะฆ่ามัน! อยากจะฆ่าม้านนน!!! >0<
“คุณหนูหายไปไหนมาทั้งคืนค่ะ ป้านี่ห่วงคุณหนูแทบแย่ T_T” ฉันมองป้าโซเฟียด้วยสายตาละห้อย กรี๊ดดดด! เพราะหมอนั่นคนเดียวฉันถึงไม่ได้กลับบ้าน กร๊าซซ!
“คือเวย์..”
“แล้วนั่นคุณหนูไปใส่เสื้อใครมาค่ะ..เอ๊ะ นั่นมันเสื้อผู้ชายนี่นา” ฉันก้มลงมองเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวนี่ทันที ฮึกๆ ฉันลืมเปลี่ยนเสื้อหมอนั่น T_T
“มะ..ไม่ใช่อย่างที่ป้าโซเฟียคิดนะค่ะ..เวย์..เวย์ยังไม่ได้มีอะไรอย่างว่ากับผู้ชายคนไหนเลยนะค่ะ T_T”
“ป้าก็ยังไม่ได้คิดอะไรเลยนี่ค่ะ คุณหนูจะร้อนตัวทำไม..หรือว่า..” ฉันอ้าปากค้างมองหน้าป้าโซเฟียอย่างตกใจ กรี๊ดดด! ป้าโซเฟียไม่ได้คิดอย่างนั้นใช่มั้ย TT^TT
“อ๊ากกก!! ไม่ใช่..ไม่ใช่อย่างที่ทุกคนคิดทั้งนั้นล่ะค่ะ..เวย์ของตัวก่อนก่อนนะค่ะ!”
ตึกๆๆ~
“อ้าว! คุณหนูค่ะ อย่างเพิ่งรีบขึ้นไปสิค่ะ ป้ายังไม่ได้บอกคุณหนูเลยว่า..มีคนมาหา..เฮ้อ! สงสัยจะบอกช้าเกินไป ค่อยบอกใหม่ก็แล้วกัน”
“T^T”
ฮึกๆ ดูเซ่! เพราะอีตาบ้าโรคจิตนั้นคนเดียวเลย ป้าโซเฟียและทุกคนถึงได้เข้าใจฉันผิด T_T อย่าให้ฉันเจอหมอนั่นเป็นครั้งที่สองนะ..ไม่งั้นฉันจะสั่งให้ลูกน้องคุณพ่อไปฆ่าปิดปากหมอนั่นซะ!
“แง้! T_T”
แค่คิดว่าหมอนั่นเป็นคนเปลี่ยนชุดให้ฉันเมื่อคืน ฉันก็แทบจะขาดอากาศหายใจตายอยู่แล้ว ฮือๆ ทำไมชีวิตที่แสนเลิศเลอของฉันถึงต้องไปเจอกับหมอนั่นด้วยนะ กรี๊ดๆ หรือว่าหมอนั่นเป็นพวกเล่นไสยศาสตร์ฉันถึงได้ไปเจอกับเขา..มันต้องใช่แน่ๆ หมอนั่นเป็นพวกเลี้ยงผี มันจะต้องมีทั้งผีลูกกรอก ผีกระสือ ผีกระหังและอีกสารพัดผีอีกมากมาย กรี๊ดดดด!! แค่คิดก็เป็นเสนียดสมองอันบริสุทธิ์ผุดผ่องของฉันแล้ว T^T ถ้าเป็นแบบนั้นไอ้เสนียดจัญไรพวกนั้นไม่ติดมาตามร่างกายของฉันเหรอเนี่ย ไม่ได้การล่ะ! ฉันต้องไปชำระร่างกายให้สะอาดก่อนซะแล้ว!
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป
ฮ้า ^^ อาบน้ำแล้วชดชื่นจังเลย อาบน้ำนานขนาดนี้ไม่รู้ว่าพวกเสนียดจัญไรพวกนั้นจะหมดไปจากตัวฉันรึเปล่า -_- นี่ฉันอุตส่าห์อาบน้ำนานที่สุดในรอบสองปีเชียวน่ะ ปกติฉันอาบน้ำแค่ห้านาทีหรือบางทีก็ไม่ถึงด้วยซ้ำ การเรียนตำรวจทำให้ฉันต้องทำอะไรๆ เร็วขึ้นไปหมด ไม่ว่าจะเป็นการอาบน้ำ แต่งตัวหรือแม้แต่ทานข้าว -_-; ตอนนี้ชีวิตของฉันก็มีแต่คำว่าเร็ว เร็ว แล้วก็เร็ว แต่ก็นะ การทำอะไรต่อมิอะไรเร็วๆ ก็ทำให้ชีวิตเรามีสีสันขึ้นเยอะเลย..เอาล่ะ! ต่อจากนี้ฉันจะทำอะไรดีล่ะเนี่ย ฉันบ่นในใจก่อนจะคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาเล่น
ปิ๊บๆ
‘You have 32 missed calls
Phosserat
The numbers try to contact you’
บ้าเอ๊ย!!! นี่หมอนั่นยังกล้าโทรมาหาฉันอีกเหรอเนี่ย -_-+ หรือว่าแค่บริษัทของครอบครัวตัวเองล้มละลายมันยังไม่สะใจเท่าที่ควรถึงได้กล้าโทรมาหาฉัน..ผู้ชายคนนี้มันตื้อไม่เลิกจริงๆ ให้ตาย -_-^^ ฉันเลิกสนใจข้อความบ้าๆ นั่นก่อนจะกดเลื่อนข้อความลงมาเรื่อยๆ จนถึงข้อความหนึ่ง
‘You have 116 missed calls
Wenesia
The numbers try to contact you’
=_= ให้ตาย นี่ยัยเวเนเชียก็เอากับเขาด้วยเหรอเนี่ย สงสัยยัยนั่นกดมาหาฉันมือแทบหงิกแน่ๆ ก็ตั้งร้อยกว่าสายแน่ะ เฮ้อ~ นี่ฉันปิดมือถือไปตั้งแต่เมื่อไหร่วะ รู้สึกว่าเมื่อคืนก่อนเกิดเรื่องฉันก็ยังเปิดมือถืออยู่นี่นา แล้วทำไม..หรือว่าหมอนั่น -_- นี่มันกล้ามายุ่งกับสมบัติส่วนตัวของฉันเลยเหรอเนี่ย ฮึ่ม! ฝากเอาไว้ก่อนเถอะ เจอคราวหน้า ฉันจะคิดบัญชีทบต้นทบดอกแน่..แต่เอ๊ะ ทำไมประโยคนี้มันคุ้นๆ จังแฮะ แต่ว่าช่างมันเถอะ..มันอาจจะไม่เกี่ยวกับฉันก็ได้ โทรหายัยเวเนเชียให้สบายใจดีกว่า
“ฮัลโหล ยัยเวเนเชีย”
(ฮ้าวววว~ -0- ยัยเวย์เหรอ) น้ำเสียงแบบนี้ บอกได้คำเดียวเลยว่ายัยนั่นเพิ่งจะตื่น -_-; นี่มันก็ปาไปเกือบเที่ยงแล้วนะเนี่ย
“ไม่ใช่ ฉันแค่โทรผิด -_-^”
(ฮ้าวววว~ ฉันจำเสียงแกได้นะโว้ย -0- ว่าไง โทรมาหาฉันมีอะไรล่ะ..อุ๊ย! ไม่เล่นนะวิน เวกำลังคุยกับเพื่อนอยู่..อุ๊บ!... จ๊วบ! จ๊วบ!)
=_= ถึงว่าทำไมยัยนั่นถึงได้ตื่นสายก็เพราะว่าอยู่กับผู้ชายยังไงล่ะ ไม่นายเสียงง่วงนอนของยัยเวกลายเป็นเสียงครางที่ดังมาตามสายแทน น่าสะอิดสะเอียนชะมัด
“นี่ยัยเว ถ้าแกจะสวีทกับแฟนก็วางสายฉันซะ ตาถ้าแกจะคุยกับฉันก็เลิกสวีทกับแฟน”
(อืม พอแล้ววิน เวจะคุยกับเพื่อน)
(เอาๆ ว่าไง แกมีอะไรถึงได้โทรมาหาฉันเนี่ย)
“ฉันน่าจะถามแกมากกว่านะว่าเมื่อคืนแกโทรมาหาฉันทำไม รู้สึกว่าร้อยกว่าสายนะ -_-”
(เอ่อ โทษที ฉันลืมไปว่ะ..ว่าแต่ทำไมเมื่อคืนแกไม่รับโทรศัพท์วะ ฉันนี่โทรหาแกจนมือแทบหงิก -_-)
อ้าว! นี่ตกลงมือถือไม่ได้ปิดหรอกเหรอ -0-; งานนี้ถ้าพูดไปมีหวังหน้าแตกยับว่ะ
“...”
(ว่าไง ทำไมไม่รับโทรศัพท์วะ) จะให้บอกแกรึไงว่าโดนจูบจนเป็นลม ก็เลยไม่ได้รับโทรศัพท์น่ะ -_-//
“ไม่มีอะไรหรอก พอดีว่าเกิดเรื่องนิดหน่อยนะ”
(เกิดเรื่อง? ใช่เรื่องเดียวกับเมื่อคืนที่แกหายตัวไปอย่างไม่บอกไม่กล่าวฉันรึเปล่าวะ -_-;)
“อืม เรื่องเดียวกัน แต่มันไม่ได้ร้ายแรงหรอก แกไม่ต้องไปสนใจ..ว่าแต่แกเถอะ พอหาฉันไม่เจอ โทรหาฉันไมติดเนี่ยก็ถือโอกาสมากับผู้ชายเลยใช่มั้ย -_-;”
(แฮ่ นิดหน่อยเอง -.,- แต่แกอย่ามาว่าฉันนะเพราะว่าคนนี้ฉันจะเอาจริงวะ)
“ทุกรายแกก็พูดแบบนี้แต่ก็ไม่เห็นจริงจังสักที แล้วฉันจะเชื่อแกได้ยังไงว่าคนนี้แกจะเอาจริงนะ -_-a”
(จริงๆ นะเวย์ คนนี้นะเอาจริง..ผู้ชายอะไรหล่อชะมัดแถมยังรวยอีกนะแก นี่ล่ะ ตรงสเป็คฉันเลยล่ะแก -.,-) เฮ้อ..ยัยนี่เป็นเอาหนักว่ะ
“เออๆ ตามใจแกก็แล้วกัน ยังไงซะฉันก็ห้ามแกไม่ได้อยู่แล้วนี่..เออๆ แค่นี้ละกัน ฉันไม่อยากรบกวนเวลาสวีทของแกให้มากกว่านี้”
(จ้าๆ แม่เพื่อนรู้ใจ ยังไงๆ ฉันก็อวยพรให้แกรีบมีแฟนเร็วๆ ละกัน จะได้รู้ว่ารสชาติจองความรักที่ไม่อาจหักห้ามใจมันเป็นยังไง)
ฟังแล้วน่ากลัวชะมัด ‘รสชาติจองความรักที่ไม่อาจหักห้ามใจ’ ฉันจะอ้วกให้รู้แล้วรู้รอดวะ -_-^
“แล้วฉันจะตั้งหน้าตั้งตารอวันที่แกพูดถึงล่ะกัน..ไม่มีอะไรแล้วใช่มั้ย ฉันจะได้วาง -_-^”
(เดี๋ยวๆๆ..รักนะจุ๊บๆ วะฮะฮ่า ^0^)
ฉันมองหน้าจอมือถืออย่างขยะแขยงก่อนจะวางสายยัยเวเนเชีย ยัยนั่นชอบพูดอะไรให้ฉันขยะแขยงตลอดสิน่า เฮ้อ..แต่จะว่าไปถ้าวันไหนไม่ได้ยินเสียงยัยนั่นฉันก็คงยิ้มไม่ได้เหมือนกัน ยัยนั่นเหมือนตัวตลกทางโทรศัพท์ พอพูดด้วยทีไร ฉันก็สบายใจทุกครั้ง ราวกับว่ายัยนั่นช่วยแบ่งเบาความหนักอึ้งในใจของฉันออกไป มีเพื่อนแบบนี้มันก็ดีเหมือนกัน แต่ใช่ว่าจะดีเสมอไป -_-; ฉันขอบายนิสัยเจ้าชู้ของยัยนั่น ฉันว่าผู้ชายเจ้าชู้หนักแล้วนะ แต่ยัยเวเนเชียหนักยิ่งกว่า ยัยนั่นคบกับผู้ชายหล่อๆ รวยๆ แต่ไม่ได้มีอะไรลึกซึ้งต่อกันนะ ก็แค่นั่งดื่มด้วยกัน แลกเบอร์คุยกัน แต่รู้สึกว่าไอ้ผู้ชายคนปัจจุบันที่ยัยนั่นยอมคบหาด้วยมันจะมีอะไรกันเกินเลยนะ สงสัยว่าคนนี้ยัยเวเนเชียจะเอาจริงถึงได้ยอมมีอะไรด้วยทั้งๆ ที่กำลังเรียนปริญญาตรี (ยัยนั่นเป็นทันตะฯ ล่ะ) เอาเป็นว่าเราหยุดคุยเรื่องของยัยเวเนเชียแค่นี้ดีกว่า เดี๋ยวมันจะไม่จบ
~ So I say a little prayer Hope my dreams will take me there
~
ฉันหยิบมือถือขึ้นมากะจะรับแต่พอเห็นชื่อคนที่โทรเข้ามาเท่านั้น ฉันก็วางมือถือลงอย่างหมดอารมณ์ทันที
~ Where the skies are blue To see you once again, my love ~
ฉันมองมือถือที่ส่งเสียงลั่นอย่างไม่ใส่ใจก่อนจะวิ่งลงจากห้องนอนไปด้านล่างทันที ขืนอยู่ในห้องต่อมีหวัง..ฉันได้อาละวาดข้าวของพังกระจายแน่ ทางที่ดีลงมาด้านล่างซะยังดีกว่า
ตึกๆๆ~ ฟุ่บ~ ปิ๊บ
“ป้าโซเฟียมีของว่างอะไรทานบ้างค่ะ~” ฉันเดินลงมานั่งที่ห้องนั่งเล่นก่อนจะเปิดโทรทัศน์หารายการที่พอดูได้ในขณะที่ปากก็ถามหาอาหารว่างจากป้าโซเฟีย คุณหนูก็อย่างนี้ล่ะ..สบายทุกอย่าง อิจฉาอ่ะเด่ >_<
“มีแต่พวกผลไม่ค่ะคุณหนู เดี๋ยวป้านำผลไม้กับน้ำผลไม้ไปให้นะค่ะ” ฉันกดเลื่อนรายการทีวีโทรทัศน์ไปเรื่อย แต่ก็ไม่มีรายการไหนน่าสนใจ ก็เลยเลือกช่องเพลงไปซะ ได้ฟังเพลงคลายเครียดหน่อยก็ดีเหมือนกัน ฮู่วววว์
“มาแล้วค่ะ ^^”
“ขอบคุณค่ะ..เอ่อ ป้าค่ะ ช่วงนี้มีใครโทรมาที่บ้านหรือมาถึงบ้านเพื่อคุยกับเวย์หรือเปล่าค่ะ -)O(-”
ฉันหยิบแก้วมังกรขึ้นมาเคี้ยวตุ้ยๆ ก่อนจะถามป้าโซเฟีย ทำเอาแก้วมังกรในปากจะร่วงแหล่ไม่ร่วงแหล่ แค่นั้นยังไม่พอยังเจอสายตาดุๆ ของป้าโซเฟียอีกต่างหาก สงสัยต่อจากนี้ฉันคงจะต้องถูกป้าโซเฟียฝึกสอนเรื่องมารยาทในการรับประทานอาหารแน่ๆ ฮือๆ T_T
“ไม่มีใครโทรมาหานะค่ะ” ฉันถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ก็ดีแล้วล่ะที่ไม่มีใครโทรมา ไม่งั้นข่าวเรื่องที่ฉันมีแฟนคงได้ถึงหูคุณแม่กับคุณพ่อแน่ๆ เลย -_- แต่ใช่ว่าจะโล่งอกไปรอดถึงฝั่งซะเมื่อไหร่ เมื่อจู่ๆ ป้าโซเฟียก็พูดในสิ่งที่ทำเอาฉันเกือบจะสำลักแก้วมังกรตาย
“แค่กๆ เมื่อกี้ป้าพูดว่าไงนะค่ะ แค่กๆๆ” ฉันไอค่อกแค่กก่อนจะคว้าแก้วน้ำส้มขึ้นมาดื่มพรวดเดียวหมดแก้ว ฟู่วววว์~ นี่ฉันจะต้องตายก็เพราะหมอนั่นใช่มั้ยเนี่ย -_-^
“ป้าก็แค่บอกว่ามีคนมาหาคุณหนูถึงบ้านก็เท่านั้นเองค่ะ -0-”
“ใช่คนที่มีผมสีน้ำตาลแดง ตาสีสนิมเหล็ก ตัวสูงๆ ขาวๆ ตี๋ๆ ใช่มั้ยค่ะ -0-;” ฉันพูดพลางทำท่าทางประกอบไปด้วย เพี้ยง! หวังว่าคงไม่ใช่หมอนั่นหรอกนะ
“อ๋อ นั่นล่ะค่ะใช่เลย ทำไมค่ะ มีเรื่องอะไรรึเปล่าค่ะ?” ฉันหันมามองหน้าป้าโซเฟีย ก่อนจะขบเขี้ยวขบฟันอย่างเจ็บใจ อ๊ากกก~! นี่นายฟอสเซรัสกล้ามาหาฉันถึงบ้านเลยเหรอเนี่ย! ไม่ได้การล่ะ! ฉันจะต้องทำอะไรสักอย่างก่อนที่ทุกคนจะรู้ว่าหมอนั่นเป็นแฟนเก่าฉัน -0-^
“ป้าโซเฟียค่ะ ถ้าเกิดว่าหมอนั่นมาที่นี่อีกล่ะก็ไม่ต้องให้เขาเข้ามาในบ้านนะค่ะ แล้วก็บอกไปด้วยว่าไม่รู้จักเวย์ บ้านนี้ไม่มีคนชื่อเวย์”
ฉันพูดออกมาอย่างรวดเร็วราวกับติดจรวดก่อนจะหอบหายใจแรง นี่ฉันไม่คิดเลยนะว่าการพูดเร็วๆ แบบนี้ก็เหนื่อยเหมือนกัน ไม่สิ ต้องบอกว่าหืดขึ้นคอเลยต่างหากถึงจะถูก -_-a พอฉันสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วก็เงยหน้ามองทุกคน ปรากฏว่าทุกคนกำลังทำหน้าแบบนี้แล้วก็แบบนี้
“-0-!!” ฉันกระพริบตาปริบๆ มองปฏิกิริยาของทุกคนอย่างงงๆ นี่ทุกอย่างที่ฉันพูดไปทุกคนไม่ได้เข้าใจอะไรเลยใช่มั้ย =_=
“มะ..เมื่อกี้ คุณหนูพูดว่าไงนะค่ะ ป้าได้ยินไม่ถนัด -0-”
ไม่ใช่ไม่ถนัดค่ะป้าโซเฟียแต่ไม่รู้เรื่องเลยถึงจะถูก
“เฮ้อ~ เอาอย่างนี้ก็แล้วกันนะ ถ้าผู้ชายคนนั้นมาอีกก็ให้ยามไล่ออกไปจากหน้าบ้านเลยนะค่ะ แล้วก็บอกด้วยว่าบ้านหลังนี้ไม่มีคนชื่อเวย์หรือว่าเวยุตา”
“ทำไมล่ะค่ะคุณหนู ทำไมต้องไล่เขาด้วยนะค่ะ ป้าก็เห็นว่าเขาไม่มีพิษภัยอะไรสักหน่อยนี่ค่ะ?”
“เห็นหน้าแบบนั้นใช่ว่าจะไว้ใจได้นี่ค่ะ..เวย์จะบอกอะไรให้นะค่ะ หมอนั่นน่ะเป็นคนโรคจิตชอบขโมยชุดชั้นในของผู้หญิง..ถ้าเกิดให้หมอนั่นเข้ามาในบ้านล่ะก็ เวย์ไม่รับประกันนะค่ะว่ามันเกิดอะไรขึ้น” ขอโทษด้วยนะฟอสที่ฉันต้องพูดแบบนั้น ไม่อย่างนั้นทุกคนก็จะรู้ว่าระหว่างฉันกับนายมีความสัมพันธ์กันยังไง (. .)
“จะ..จริงเหรอค่ะเนี่ย ไม่ได้การล่ะป้าต้องไปบอกยามพวกนั้นก่อนแล้ว” แล้วป้าโซเฟียก็วิ่งหน้าตั้งไปที่ป้อมยามหน้าประตูบ้านทันที ฉันมองภาพนั้นอย่างขำๆ ก่อนจะคว้าจานแก้วมังกรขึ้นไปบนห้องโดยไม่ลืมปิดทีวี ขืนเปิดไว้ก็ไม่ได้ช่วยประหยัดค่าไฟ แถมยังเป็นตัวบ่อนทำลายทรัพยากรอีกต่างหาก ทางที่ดี..ปิดเถอะ -0-
ตึกๆๆ~
ฉันเดินฮัมเพลงขึ้นมาอย่างสบายใจแต่พอเข้ามาในห้องนอนได้สักพัก ฉันก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายจากหน้าบ้านทันที นี่ใครมาเผาบ้านฉันรึไงเนี่ยถึงได้ตะโกนกันซะลั่นบ้านแบบนี้
“ปล่อยฉันนะเว้ย! ฉันขอเข้าไปพบเวย์หน่อยไม่ได้รึไง ปล่อยฉันนะ!”
“บ้านหลังนี้ไม่มีคนชื่อเวย์ มาผิดบ้านแล้วล่ะคุณ..ออกไปจากบ้านได้แล้ว เกะกะจริงๆ”
ฉันเปิดผ่านดูเหตุการณ์ด้านล่างว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ก็ต้องละงักสายตาเมื่อเห็นว่าใครที่มาบุกรุกบ้านฉัน ฉันมองหน้าฟอสอย่างชั่งใจ ไม่รู้ว่าคราวนี้หมอนั่นจะมาไม้ไหนอีก
“ขอร้องล่ะให้ผมพบเวย์หน่อยได้มั้ย ผมมีเรื่องจะคุยกับเธอ”
ฟอสเอ่ยขอยามอย่างอ้อนวอนก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองฉันที่แอบมองเขาอยู่ที่ห้อง ฉันสบสายตาฟอสด้วยสายตาว่างเปล่า เขาเห็น..ใช่ เขาเห็นฉัน เขาเห็นตั้งแต่แรกว่าฉันยืนอยู่ตรงนี้ เขาถึงได้เงยหน้าขึ้นมามองฉัน..สายตาของฟอสเจือไปด้วยแววตาอ้อนวอนแกมขอร้อง นัยน์ตาสีสนิมเหล็กคู่นั้นที่เคยทอประกายสดใสแวววาวกลับหม่นแสงลงอย่างเหลือเชื่อ ไม่ว่าเขาจะมีสายตาแบบไหนฉันก็ไม่ใจอ่อนกับผู้ชายแบบนั้นหรอกนะ ฉันยอมรับนะว่าแอบหวั่นไหวกับสายตาคู่นั้น แต่ฉันไม่ยอมให้มันมาอิทธิพลเหนือฉันเป็นอันขาด ฉันปิดม่านลงก่อนจะพาตัวเองมานั่งอยู่บนเตียง..ฉันขอโทษนะฟอสที่ต้องทำแบบนั้น ฉันไม่มีทางเลือกจริงๆ ขอโทษนะ.. ฮะๆ นี่ฉันกำลังทำอะไรอยู่กันนะ ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าตัวเองกำลังหนีอะไรบางอย่างที่มองไม่เห็น ทำไมฉันถึงรู้สึกแน่นหน้าอกเมื่อเห็นนัยน์ตาหม่นแสงของหมอนั่นแบบนั้นนะ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับฉัน...มันเกิดอะไรขึ้นกับหัวใจของฉันกันแน่..
“ออกไปเดี๋ยวนี้นะเว้ย! ไม่งั้นฉันจะแจ้งตำรวจมาจับแก -_-^”
“เวย์! ผมรู้นะว่าเวย์โกรธผมมากมายแค่ไหน แต่ผมก็ยังจะอยากอธิบายให้เวย์ฟังอยู่ดี..แล้วผมจะมาหาใหม่นะ ดูแลตัวเองด้วยนะ! เดี๋ยวไม่สบายเอา”
“ฮึกๆ” น้ำตาที่พยายามกลั้นเอาไว้ก็ไหลลงมาจนได้..ทำไม ทำไมหมอนั่นยังทำเหมือนกับว่าระหว่างเราไม่มีอะไรเกิดขึ้นแบบนี้นะ ทำไมต้องทำราวกับว่าห่วงใยฉันหนักหนาแบบนี้ ทั้งๆ ที่ฉันทำร้ายเขาเอาไว้มากมาย ทำไมเขาต้องทำให้หัวใจของฉันแกว่งแบบนี้นะ ฉันไมเขาใจ..หมอนั่นจริงๆ
ครืดๆ~
ฉันปาดน้ำตาออกจากร่องแก้มอย่างลวกๆ ก่อนจะคว้ามือถือขึ้นมาเปิดอ่านข้อความ
‘From
Phosserat
I’m sorry about everything that happened between us
(ผมเสียใจกับเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้น)
I didn’t ask for apologize,
(ผมไม่ได้ขอให้เวย์ให้อภัย)
Just want us still be good friends
(เพียงแค่ขอให้เราเป็นเพื่อนกันก็ยังดี)
I want you to know that I still love and miss you, Way
(ผมยังยืนยันคำเดิมว่าผมยังรักและคิดถึงเวย์)’
ปุบ~
ฉันวางมือถือลงเหมือนคนไม่มีแรง ทำไมหมอนั่นต้องลงทุนขนาดนี้ด้วยนะ รู้ทั้งรู้ว่าไม่มีอะไรดีขึ้นก็ยังทำอีก หมอนั่นกะจะเรียกคะแนนความสงสารจากฉันรึไงกัน เฮอะ...แต่ไม่ว่าเขาจะลงทุนทำยังไง ฉันก็ไม่มีวันกลับไปหาเขาอีกแล้ว..แต่ถ้าเป็นเพื่อนกันก็ไม่แน่ ฉัน..ต้องทำอะไรบางอย่างแล้วใช่มั้ย? ฉันหยิบมือถือขึ้นมาพิมพ์ข้อความก่อนจะส่งไปหาหมอนั่น ถ้าเขาเข้าใจในสิ่งที่ฉันส่งไปก็ดีฉันจะได้ไม่ต้องมารู้สึกผิดเหมือนตอนนี้ ไม่รู้ว่ารู้สึกผิดอะไรกัน แต่ก็นะ..บางทีการทำอะไรสักอย่างนอกจากการอยู่เฉยๆ ก็น่าจะทำอะไรๆ ให้ดีขึ้นมากกว่าที่เป็นอยู่..ฉันเชื่อแบบนั้น
ฟุบ~
ฉันล้มตัวลงนอนก่อนจะยิ้มออกมาอย่างขมขื่น ความรู้สึกของคนเรามันก็แปลกนะ นึกจะรักก็รัก นึกจะชอบก็ชอบ นึกจะเกลียดก็เกลียด นึกยังไงก็ได้อย่างนั้นแต่บางครั้งมันก็แลกมาด้วยความเจ็บปวด แต่ก็เท่านั้น..ทุกคนยอมที่จะเสี่ยงกับความเจ็บปวดเพื่อให้ได้มาซึ่งความรู้สึกหลายๆ อย่างที่ตัวเองอยากจะได้ให้สมความปรารถนา บางครั้ง ฉันเองก็เป็นหนึ่งในนั้น โกรธ เกลียด แค้นที่รู้ว่าตัวเองถูกหักหลังจากผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าแฟน จนเผลอทำอะไรร้ายๆ ลงไปโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง เฮอะ..มาคิดได้เอาตอนนี้มันจะมีประโยชน์อะไร ถ้าคนๆ นั้นสูญเสียทุกอย่างที่ควรเป็นของตัวเองไปแล้วอย่างไม่มีวันกลับ..ใจหนึ่งฉันก็อยากถามเขาอยู่หรอกนะว่าให้อภัยกับสิ่งที่ฉันทำลงไปได้รึเปล่าแต่ใจหนึ่งก็ปฏิเสธมัน เพียงเพราะกลัวคำว่าศักดิ์ศรีของตัวเอง กลัวมันจะหล่นลงไปแล้วเอาขึ้นมาไม่ได้ เฮอะ! บางครั้งฉันก็เกลียดตัวเองที่เป็นแบบนั้นเหมือนกัน แต่จะทำอะไรมันได้ในเมื่อมันเป็นแบบนั้นไปแล้ว...
ฟู่ววววว์~
~ So I say a little prayer Hope my dreams will take me there
~
ฉันถอนหายใจออกมาอีกรอบก่อนจะคว้าโทรศัพท์มือถือมากดรับอย่างหมดอารมณ์ ใครมันโทรมาอีกเนี่ย ไม่รู้จักเวล่ำเวลาจริงๆ -_-^
“ฮัลโหล -_-;”
(สวัสดีครับ นั่นใช่คุณเวยุตา วัฒนพานิชหรือเปล่าครับ) ใครวะ? เสียงไม่คุ้นหูเลย
“ใช่ค่ะ มีอะไรกับดิฉันรึเปล่าค่ะคุณ..”
(ผมภวิช เดชะบวรภักดี รองผู้บังคับการกองปราบฯ ครับ)
คนจากกองปราบเองเหรอเนี่ย ให้ตาย -_-;
“อ๋อค่ะ คุณภวิช ไม่ทราบว่ามีธุระอะไรกับดิฉันรึเปล่าค่ะ”
(ก็ไม่มีอะไรมากนักหรอกครับ ท่านผู้การสั่งให้ผมโทรมาหาคุณ นัดแนะเรื่องที่ตกลงกันเอาไว้ ไม่ทราบว่าคุณเวยุตาพร้อมรึยังครับ)
“ค่ะ ดิฉันพร้อมปฏิบัติงานตั้งแต่รับปากท่านผู้การเอาไว้แล้วล่ะค่ะ แล้วตกลงท่านผู้การนัดให้ดิฉันไปพบเมื่อไหร่ค่ะ ดิฉันจะได้เตรียมความพร้อม”
(ครับ ท่านผู้การต้องการให้คุณมาที่กองปราบฯ พรุ่งนี้ครับ หวังว่าคงไม่เป็นการรบกวนอะไรคุณนะครับ)
“ไม่ค่ะ พรุ่งนี้ดิฉันจะไปตามนัดค่ะ เวลาเดิมใช่มั้ยค่ะ”
(ครับ)
“ค่ะ ขอบคุณมากนะค่ะ”
ฟู่วววว์~
เอาล่ะเหวย...งานข้าวของแท้เลยล่ะ =_= ทำไมท่านผู้การต้องนัดให้ฉันไปพบพรุ่งนี้ด้วยนะ ไม่เข้าใจเลยจริงๆ แล้วนี่ ยัยฟ้ารู้เรื่องนี้รึยังเนี่ย ไม่ได้การล่ะ..ฉันต้องโทรไปถามยัยนั่นซะหน่อยแล้ว เอ๊ะ..หรือว่าไม่ต้องโทรไปหาดีนะ ถ้ายัยนั่นไปด้วยพรุ่งนี้ก็คงต้องเห็น ถ้าไม่เห็นแสดงว่าไม่ไป เอาล่ะ! เตรียมตัวสำหรับงานพรุ่งนี้ดีกว่า ฉันจะได้ไม่ต้องขายหน้าใคร
วันรุ่งขึ้น กองปราบฯ
“สวัสดีค่ะ ^^”
บ้าเอ๊ย! วันนี้เป็นวันอะไรวะ วันซวยรึไงเนี่ย -_-^ ตลอดทางที่เดินเข้ามาในกองปราบฯ ฉันต้องยิ้ม ไหว้ ยิ้ม ไหว้ แล้วก็ยิ้ม ไหว้ -_-+ จนฉันเนี่ยเมื่อยปากไปหมดแล้ว นี่อย่าบอกนะว่าทุกครั้งที่ฉันต้องมาที่นี่จะต้องทำแบบนี้ทุกครั้งนะ โอ้! ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ฉันต้องตายแน่ๆ เลยล่ะ T_T
“มาแล้วหรือครับคุณเวยุตา ^^”
“ค่ะ ^^”
งั้นเชิญในห้องกครับ ท่านผู้การกำลังรอคุณอยู่”
“ค่ะ” ฉันเดินตามคุณภวิช ไม่สิ ต้องเรียกพี่วิช..เข้ามาในห้องท่านผู้การ ภายในห้องกับบรรยากาศในห้องยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน รู้สึกกดดันยังไงไม่รู้แฮะ -0-;
“ท่านผู้การครับ คุณเวยุตามาแล้วครับ”
“มาแล้วเหรอ..นั่งก่อนสิ ยืนนานๆ มันเมื่อยนะ ^^+”
“ขอบคุณค่ะ =_=” ฉันอยากเปลี่ยนรอยยิ้มนั่นเป็นอย่างอื่นแทนชะมัด เห็นแล้วรู้สึกเสียวสันหลังยังไงไม่รู้ ไม่แน่อาจไม่ใช่แค่เสียววันหลัง ความซวยอาจมาเยือนก็ได้เนอะ..
“คงต้องนั่งรอไปก่อนนะหนูรันเวย์ เราต้องรอให้อีกคนหนึ่งมาก่อน”
“ฟ้าใหม่เหรอค่ะ?”
“ไม่ใช่หรอก..งานที่พวกเธอจะทำเนี่ยมันมีทั้งหมดสี่คน ผู้หญิงสอง ผู้ชายสอง..ฉันเลยแบ่งออกเป็นสองกลุ่มโดยการแบ่งชายหญิง ดังนั้นเธอต้องคู่กับผู้ชาย ฟ้าใหม่เองก็ต้องคู่กับผู้ชายเหมือนกัน”
“ทำไมจะต้องเป็นแบบนั้นด้วยล่ะค่ะ ดิฉันไม่เข้าใจ”
“ก็ถ้าหากว่าให้ผู้หญิงจับคู่กับผู้หญิงมันคงไม่เหมาะเท่าไหร่ ถ้ามีผู้ชายอยู่ด้วยมันจะสะดวกกว่า..อย่างน้อยๆ พวกเขาก็ปกป้องเราได้ยามเมื่อเรามีภัย”
“...” ฉันไม่เข้าใจอยู่ดีนั้นล่ะ -_-^
“เอาล่ะ เขามากันแล้ว” ฉันมองตามสายตาของท่านผู้การไปที่ประตูที่ค่อยๆ เปิดออก แล้วผู้ชายคนหนึ่งก็ย่างเท้าเข้ามาในห้อง ผู้ชายคนนั้น..ฉันรู้จักดี ดีซะด้วยล่ะ =_=
“O_O นาย!!”
“Hi, baby ^^”
ความคิดเห็น