ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Detective Delivery สืบ สาว ราว รัก คุณชายมาดนิ่ง(จบแล้ว)

    ลำดับตอนที่ #5 : บทที่ 4 ตกกระไดพลอยโจน 1

    • อัปเดตล่าสุด 22 ก.ย. 53


     4

    ตกกระไดพลอยโจน 1

               

                ฮ้า.. ^^ ทำไมเช้านี้มันถึงได้สดชื่นอย่างนี้นะ

                    “ยัยรุ้งอรุณสวัสดิ์ยามเช้า ^^                                

                    “อืม อรุณสวัสดิ์” ฉันหันไปมองยัยรุ้งที่งัวเงียตื่นขึ้นมาอย่างขำๆ ก็แน่อยู่หรอก วันนี้เป็นวันศุกร์มีเรียนเฉพาะช่วงบ่ายนี่นา ยัยนั่นก็ต้องไม่อยากตื่นเช้าเป็นธรรมดา

                    “จะนอนต่อก็ได้นะ วันนี้เรามีเรียนเฉพาะช่วงบ่าย”

                    “เออ ดี” ยัยนั่นพูดจบก็ล้มตัวลงไปนอนต่อทันที เมื่อคืนกว่ายัยนั่นจะเข้ามานอนก็ปาเข้าไปตีหนึ่งกว่าแล้ว ชิ..ก็มัวแต่เล่นผีถ้วยแก้วอยู่นั่นละ สักวันฉันจะแช่งให้มันโดนผีเข้าสิง มันจะได้เข็ดซะบ้าง -0-^

                    “เออ นี่รุ้ง ถ้าแกจะไปหาฉันก็ไปหาที่ห้องสมุดละกันนะ ฉันจะไปอยู่ที่นั่น”

                    “เออ~ ไปเถอะ ฉันจะนอน (-_-)zZ” เชิญแกหลับให้สบายเถอะวะ ฉันส่ายหน้าไปมาอย่างระอา ก่อนจะเดินออกมาจากห้องตรงไปยังห้องสมุด ดินแดนสวรรค์ที่มีแต่หนังสือ >_<

                   

    ห้องสมุด

    “สวัสดีค่ะอาจารย์ ^^” พอย่างเข้าห้องสมุด ฉันก็ยกมือไหว้อาจารย์บรรณารักษ์ทันที

    “มาแต่เช้าเลยนะจ๊ะ ^^

    “ค่ะ..แล้วอาจารย์บรรณารักษ์คนเก่าละค่ะ?” ฉันถามพลางใช้สายตาสอดส่องหาอาจารย์บรรณรักษ์คนเก่า หวังว่าคงจะฟื้นขึ้นมาแล้วนะ ไม่งั้นฉันคงรู้สึกผิดที่เป็นตัวต้นเหตุทำให้ท่านต้องสลบหมดสติคาห้องสมุด =_= แต่จะพูดให้ถูก มันเป็นความผิดของอีตาคินต่างหาก ไม่ใช่ของฉันสักหน่อย -_-^

    “อ๋อ ท่านขอย้ายไปประจำที่ห้องสมุดภาษาต่างประเทศน่ะจ๊ะ ^^;

    ก็ดีเหมือนกัน เจ๊แกจะได้ไม่ต้องมาช็อคคาห้องสมุดอีก

    “งั้นหนูขอตัวไปจัดหนังสือให้เข้าที่ก่อนนะค่ะ ^^;

    “จ๊ะ” พอสิ้นเสียงอาจารย์บรรณารักษ์ ฉันก็เดินตรงมาที่หมวดสังคมฯ ทันที ได้ข่าวว่าตั้งแต่เมื่อวันก่อนที่หนังสือหล่นมาทั้งชั้น ก็ยังไม่มีใครมาเก็บหนังสือเข้าชั้นเลย วันนี้ฉันก็เลยมาช่วยจัดซะ แต่พอเดินมาถึงหมวดสังคมฯ แล้วเห็นสภาพหนังสือที่ระเนระนาดเกลื่อนกราดอยู่เต็มพื้น ฉันก็ถอนหายใจออกมาทันที ไม่ใช่ไม่อยากทำ เพียงแต่คิดว่าคงจะต้องจัดอีกนาน เฮ้อ~ เริ่มแรกก็ต้องปัดฝุ่น ก่อนจะจะจัดหนังสือให้เข้าที่

    ผึ่บ ผึ่บ

    “ฮัดชิ่ว!” อ่า..ฝุ่นพวกนี้กำลังจะทำร้ายฉัน -_-^ ฉันเดินเข้าไปปัดๆ กวาดๆ ชั้นหนังสือ ไม่อยากจะพูดเลย.. ว่าหยากไย่เยอะเป็นบ้า -_-^

    ฮู่ววว์~

    ฉันเป่าฝุ่นที่กระจายอยู่บนปกหนังสือแล้วนำมันจัดเข้าชั้น ฉันไม่อยากจะคิดนะ ว่าหนังสือมันหล่นมาได้ยังไงทั้งชั้น ทั้งๆ ที่ตอนแรกมันก็ยังดีๆ อยู่ หรือว่า..ต้องใช่แน่ๆ ยัยเด็กบ้าพวกนั้นแน่ที่แกล้งฉันกับคิน ไม่งั้นหนังสือมันจะหล่นมาได้ยังไงถ้าไม่มีใครไปยุ่งกับมัน -_- ฉันคิดพลางก็จัดหนังสือไปพลาง โดยไม่ทันสังเกตว่ามีใครคนหนึ่งเดินเข้ามาในหมวดนี้อย่างเงียบๆ

    ปึกๆ~

    ฉันกระแทกหนังสือลงบนชั้นอย่างแรงตามอารมณ์ที่ขุ่นมัว คิดยังไงก็คิดไม่ออก ว่ายัยเด็กพวกนั้นจะแกล้งฉันไปทำไม.. “ขอบใจ” ฉันรับหนังสือที่ถูกยื่นมาให้ โดยไม่ทันคิดว่าใครเป็นคนยื่น

    ฮึบ!

    บ้าเอ๊ย! หนังสือพวกนี้มันอยู่ชั้นห้านี่หว่า ฉันพยายามเขย่งเท้าเพื่อเอาหนังสือไปวาง แต่จนแล้วจนรอดก็วางไม่ถึงสักที เหอะ..ไม่อยากจะยอมรับหรอกนะว่าเตี้ยนะ -_-^ ฉันพยายามจะลองอีกครั้ง แต่ในระหว่างที่พยายามอยู่นั้น..

    “ฉันช่วย (’ ‘)” ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น พร้อมๆ กับเดินเข้ามาซ้อนด้านหลังของฉัน แล้ววางหนังสือพวกนั้นลงบนชั้นห้าอย่างสบายๆ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นนายคิน น้ำเสียงเย็นๆ ทุ้มๆ แบบนั้นคงไม่มีใครเหมือนหรอก.. อาเด๊ะ นายคินเหรอ? เมื่อสมองประมวลทุกสิ่งทุกอย่างได้แล้ว ฉันก็หันกลับไปมองหมอนั่น เป็นจังหวะเดียวกับที่เขาจัดหนังสือเสร็จ แล้วก้มลงมามองฉันพอดี ทำให้ใบหน้าของเราสองคนเกือบชนกันอีกครั้ง.. เมื่อกี้คงเป็นเขาที่ยื่นหนังสือให้ฉัน

    “เมื่อกี้นายเป็นคนยื่นหนังสือให้ฉันใช่มั้ย?” ฉันตัดสินใจรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มีอยู่ (น้อยนิด) เอ่ยปากถามคิน

    “(‘ ‘)” เขาไม่ตอบ แต่กลับจ้องหน้าของฉันแทน หมอนั่นจะจ้องหาสิวบนหน้าฉันรึไงนะ -_-^.. เมื่อเห็นว่าเขาไม่ยอมตอบ ฉันเลยกะจะเดินออกมาจากตรงนั้น แต่คินกลับยกแขนขึ้นเท้ากับชั้นหนังสือทั้งสองข้างปิดทางหนีของฉันโดยสิ้นเชิง เหมือนกับว่าตอนนี้ฉันกำลังถูกเขากอดทางอ้อม

    “คิน” เมื่อเห็นว่าทำอะไรไม่ได้แล้ว ฉันก็เงยหน้ามองเขาด้วยอารมณ์ขุ่นมัว บ่งบอกเป็นนัยๆ ว่าถ้าหากเขาไม่ยอมปล่อยฉันเป็นอิสระ ฉันจะไม่รับรองความปลอดภัยของเขา แต่เขาก็ไม่ได้สนใจคำพูดทางแววตาของฉัน กลับพูดอย่างอื่นออกมาแทน

    “ฉันเตือนเธอหลายครั้งแล้วเรื่องติดกระดุมบน แต่รู้สึกว่าเธอจะไม่เคยเชื่อฉัน..แล้วอย่าหาว่าฉันไม่เตือนก็แล้วกัน” เขาก้มลงมากระซิบชิดข้างหูของฉันเบาๆ ทำเอาขนแขนฉันลุกซู่กับความใกล้ชิดที่เกิดขึ้น

    “ปล่อยได้แล้ว -_-^” ฉันบอกหมอนั่นด้วยน้ำเสียงห้วนๆ

    “(‘ ‘)” แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้ยินในสิ่งที่ฉันกำลังพูดนะ -_-^ ฉันเลยต้องเขย่งเท้าขึ้นไปกระซิบที่ข้างหูของเขาเบาๆ

    “ปล่อย” เหตุการณ์ดูเหมือนมันจะยิ่งเลยเถิดเข้าไปใหญ่ เมื่อจู่ๆ แขนข้างหนึ่งของคินได้เลื่อนลงไปโอบเอวฉันเอาไว้หลวมๆ

    “คิน O_O” เขาไม่สนใจเสียงเรียกของฉัน แต่กลับหมุนตัวฉันให้ไปติดกับกระจกบานเลื่อนที่อยู่ตรงข้ามแทน

    “คิน” ฉันเรียกชื่อของเขาอีกครั้งและพยายามผลักเขาออกไป แต่ดูเหมือนว่าแรงของฉันมันไม่ส่งผลกระทบอะไรกับเขาเลย แล้วหมอนั่นก็ทำในสิ่งที่ฉันคาดไม่ถึง! เขาก้มลงมาหาฉันก่อนจะบดเบียดริมฝีปากของเขาลงมาบนกลีบปากของฉัน ฉันเบิกตากว้างมองคินอย่างตกตะลึง ก่อนจะพยายามผลักเขาออกไปอีกครั้ง แต่ไม่รู้ว่าเรี่ยวแรงของฉันหายไปไหนหมด มันเหมือนกับว่าคินได้ดูดกลืนเรี่ยวแรงทั้งหมดของฉันไป.. หมอนั่นจูบฉันก่อนจะบดคลึงริมฝีปากของฉันเบาๆ แล้วร้อนแรงขึ้นตามลำดับ เขาทำให้ฉันอยากจะกรีดร้องออกมาดังๆ แต่ก็ทำไม่ได้ ทำได้แค่เพียงตกตะลึงกับการกระทำของเขาแล้วปล่อยให้เขาจูบฉันจนกว่าจะพอใจ เนิ่นนานกว่าที่เขาจะยอมถอนริมฝีปากออกไป ฉันปรือตาขึ้นมองนัยน์ตาสีเขียวมรกตคู่นั้นที่ก้มลงมาอยู่ก่อนแล้ว เขากำลังจะก้มลงมาจูบฉันอีกรอบ เร็วกว่าที่คิดฉันเงื้อขึ้นฝาดลงบนใบหน้าของเขาอย่างแรง

    เพี๊ยะ!

    ไม่รู้ว่าเขาจะมองหน้าฉันยังไง รู้แต่ว่าหลังจากที่ตบหน้าหมอนั่นไปแล้วฉันก็รีบวิ่งออกมาจากตรงนั้นทันที หมดกันจูบแรกของฉัน..ทำไมต้องเป็นหมอนั่นด้วยนะที่ได้มันไป แต่ที่ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมหัวใจของฉันมันถึงได้เต้นระรัวเหมือนกับว่ามีใครมาตีกลองอยู่ข้างในตอนที่เขาจูบฉันด้วย..ไม่นะริบบิ้น แกอย่าคิดอะไรกับเขานะ ไม่อยากนั้นแกจะเดือดร้อนเอาได้.. ฉันถอนหายใจออกมากับความคิดงี่เง่าของตัวเองแล้วเดินออกมาจากห้องสมุด แต่สายตาของฉันกลับไปสะดุดเข้ากับยัยเด็กบ้าพวกนั้นที่กำลังเดินตามหาใครก็ไม่รู้ ฉันละไม่อยากเจอหน้ายัยเด็กบ้านั่นเลย เจอที่ไรมีอันต้องซวยทุกที -_-^ เอ๊ะ..หรือว่าที่หมอนั่นจูบฉัน เพราะไม่อยากให้ยัยเด็กบ้าพวกนั่นมาเห็นฉัน ช่างเถอะ..จะเพราะอะไรก็ช่าง หมอนั่นก็โดนฉันตบไปแล้ว

     

    หอหญิง

    “หายห้าไปเกือบทั้งวันเลยนะ -_-

    “ก็ฉันบอกแกแล้วนี่นาว่าไปห้องสมุดมา” ฉันตอบก่อนจะนั่งลงใกล้กับยัยรุ้ง

    “ฉันรู้แล้วย่ะว่าแกไปห้องสมุดมา” ยัยรุ้งพูดก่อนจะย่นจมูกใส่ฉัน “แกไปกินไปกินข้าวเที่ยงรึยังเนี่ย?”

    “เรียบร้อยแล้ว..แกละ?”

    “อืม” ฉันยัยนั่นไปอย่างไม่ใส่ใจ เพราะแต่คิดเรื่องของคินอยู่ มาสะดุ้งเอาตอนที่ยัยรุ้งเรียกฉันนั่นละ

    “ยัยริบบิ้น”

    “หือ?” ฉันหันมอลงรุ้งที่ชี้ไม้ชี้มือมาที่เสื้อสูทของฉัน ยัยนั่นเป็นอะไรไปอีกละเนี่ย

    “อะไรของแกวะยัยรุ้ง”

    “อะไรอยู่ในกระเป๋าเสื้อสูทของแก” ฉันก้มลงมองกระเป๋าเสื้ออย่างงงๆ ก่อนจะหยิบเจ้าสิ่งที่ว่านั้นออกมา ให้ตายเหอะ..นี่มันบัตรดูหนังที่ฉันเป็นคนเอาไปไว้ที่ห้องนอนของคินนี่นา แล้วมันมาอยู่ที่ฉันได้ยังไงกันละเนี่ย

    “มันคืออะไรเหรอริบบิ้น” ยัยรุ้งยื่นหน้าเข้ามาดู แต่ฉันชักหลบซะก่อน นี่ฉันต้องไปคืนให้เขาใช่มั้ยเนี่ย

    “ไม่มีอะไรหรอก เออ ยัยรุ้ง เดี๋ยวฉันมานะ มีเรื่องต้องไปเคลียร์ก่อนนะ..ขอตัว”

    “เดี๋ยวริบบิ้น..” ฉันวิ่งออกมาจากห้องโดยไม่สนใจเสียงเรียกของยัยรุ้งที่กำลังเรียกอยู่ ฉันมีสิ่งสำคัญกว่ายัยรุ้งต้องทำ นั่นคือไปถามหมอนั่นให้รู้เรื่อง ถึงที่มาที่ไปของไอ้บัตรดูหนังนี่ -_-^

     

    ห้องสมุด

    ฉันเดินหาหมอนี่ทุกซอกทุกมุมของห้องสมุดแล้ว แต่ไม่มีวี่แววของหมอนั่นแม้แต่น้อย หรือว่าจะไม่ได้อยู่ที่นี่ อต่อยู่ที่หอกลางวะ ไม่ได้การละ.. ฉันรีบวิ่งสุดฝีเท้าทาที่หอกลางทันที ครั้งที่แล้วฉันมาอย่างลับๆ ล่อๆ แต่ครั้งนี้ฉันมาอย่างเปิดเผย เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัว ฉันเรียกขวัญกำลังใจให้ตัวเองก่อนจะสูดหายใจเข้าปอดแล้วเดินเข้าไปในหอกลาง มุ่งตรงไปที่ห้องสมุดในหอทันที

    แอด~

    “คิน..นายอยู่ในนี่หรือเปล่า” ฉันตะโกนถามเข้าไปในห้องสมุด ก็ฉันขี้เกียจเดินเข้าไปนี่หว่า =.=

    “...” ทุกสรรพสิ่งเงียบ แสดงว่าหมอนั่นไม่ได้อยู่ที่นี่สินะ เฮ้อ ในเมื่อไม่อยู่ที่ห้องสมุดก็ต้องอยู่ในห้องนั่งเล่นหรือไม่ก็ห้องนอนฝั่งนู่นแน่ๆ

    ห้องนั่งเล่น แอด~

    “ยู้ฮู มีใครอยู่มั้ย~

    “...” เงียบ ไม่อยู่สินะ

    ห้องนอน แอด~

    “จ๊ะเอ๋! เซอร์ไพร์สมั้ย ^^

    “...” ไม่อยู่ T_T เฮ้ หมอนั่นไปอยู่ที่ไหนกันนะ ฉันเดินตามหาจนเมื่อยไปหมดแล้วนะ ยังไม่เห็นจะเจอหมอนั้นเลย T^T นายไปมุดหัวอยู่ที่ไหนกันนะอีตาบ้าคิน TT_TT ฉันเดินออกมาจากห้องนอนของคินอย่างเซ็งๆ ก่อนจะเดินตรงไปที่ระเบียงของหอเรื่อยๆ หมอนั่นไปมุดหัวอยู่ที่ไหนกันแน่นะ ฉันรำคาญแล้วนะโว้ย! -_-^

     

    No one ever saw me like you do

    (ไม่เคยมีใครสักคนมองฉันอย่างที่เธอมอง)

    All the things that I could add up too

    (ทั้งหมดทุกสิ่งนั้น ฉันสามารถเทียบเท่าได้ไหม)

    I never knew just what a smile was worth

    (ฉันไม่เคยรู้ว่าแค่เพียงรอยยิ้มก็เป็นสิ่งที่มีคุณค่า)

    But your eyes see everything without a single word

    (แต่สายตาทั้งคู่ของเธอเห็นทุกสิ่งโดยไม่ต้องเอ่ยกล่าวอะไรสักคำ)

     

    ในระหว่างที่ฉันกำลังโมโหอีตาคินอยู่นั้น ฉันก็ได้ยินเสียงกีต้าร์กับเสียงฮัมเพลงดังแว่วๆ มากับสายลม ฉันจำเสียงของเขาได้ คินกำลังร้องเพลงนี้...

     

    ‘Cause there’s somethin’ in the way you look at me

    (เพราะนั้นเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เธอมองมาที่ฉัน)

    It’s as if my heart knows you’re the missing piece

    (มันราวกับว่าหัวใจของฉันรู้ว่าเธอคือสิ่งที่หายไป)

    You make me believe that there’s nothing in this world I can’t be

    (เธอทำให้ฉันเชื่อว่านั่นไม่มีสิ่งใดในโลกอีกแล้วที่ฉันไม่สามารถทำได้)

    I never know what you see

    (ฉันไม่รู้ว่าเธอมองเห็นอะไรในตัวของฉัน)

    But there’s somethin’ in the way you look at me

    (แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่ทำให้เธอมองมาที่ฉัน)

     

    ฉันค่อยๆ ตามเสียงเพลงนั้นไปเรื่อยๆ จนมาถึงระเบียงของหอ แต่ที่น่าแปลกคือ ตรงสุดระเบียงจะมีบันไดลงไปอีก ฉันเดินลงไปตามบันไดไปเรื่อยๆ จนเจอกับเขา คินกำลังนั่งร้องเพลงอยู่ที่โต๊ะหินอ่อนภายในสวนดอกไม้ขนาดเล็กที่มีต้นไม้น้อยใหญ่คอยเป็นร่มเงาไม่ให้กระทบกับความร้อนของแสงอาทิตย์ยามเที่ยงวัน

     

    If I could freeze a moment in my mind

    (ถ้าฉันสามารถหยุดช่วงเวลาเหล่านี้เก็บเอาไว้ได้)

    It’ll be the second that you touch your lips to mind

    (มันจะเป็นสิ่งต่อไป เธอนั้นจะสัมผัสฉันด้วยการจุมพิตกับฉัน)

    I’d like to stop the clock, make time stands still

    (ฉันอยากจะหยุดเวลานี้ไว้ ทำให้เรายืนอยู่อย่างนี้)

    ‘Cause, baby, this is just the way you look at me

    (เพราะว่าที่รัก นี่เป็นทางเดียวที่ฉันรู้สึกอย่างนี้เสมอ)

     

    ฉันมองคินด้วยใบหน้าหลากหลายอารมณ์.. อะไรที่ทำให้เขาต้องร้องเพลงเศร้าๆ แบบนี้ ทั้งๆ ที่คนอย่างหมอนั้นไม่สมควรมาทำอะไรแบบนี้.. นัยน์ตาสีเขียวมรกตคู่นั้น ตอนนี้มันกำลังฉายแววปวดร้าว จนฉันรู้สึกได้ว่าเขาเจ็บมากแค่ไหน ฉันว่าคนที่เขาร้องเพลงให้คงจะเป็นคนสำคัญสำหรับเขาไม่น้อย ไม่งั้นเขาคงไม่ต้องมาทำอะไรบ้าๆ แบบนี้หรอก...

     

    I don’t know how or why I feel different in your eyes

    (ฉันไม่รู้ว่าอย่างไร หรือทำไม ฉันถึงรู้สึกแตกต่างในตาของเธอ)

    All I know is it happens every time

    (ทั้งหมดฉันรู้ว่ามันเกิดขึ้นทุกๆ เวลา)*

     

    เสียงเพลงกับกีต้าร์ค่อยๆ เงียบลงช้าๆ ก่อนที่เจ้าตัวจะเงยหน้าขึ้นทอดสายตาไปยังสวนดอกไม้อย่างเหม่อลอย...

    “นายเองก็มีมุมเศร้ากับเขาเหมือนกันเนอะ” คินสะดุ้งจากภวังค์ก่อนจะหันมามองฉันอย่างช้าๆ พร้อมๆ กับที่ฉันเดินไปหาเขาแล้วนั่งลงบนม้าหินอ่อนตัวเดียวกับเขา

    “...” คินไม่ตอบฉัน แต่จ้องตาฉันแทน ฉันเลยส่งยิ้มบางๆ ไปให้เขาโดยไม่คิดอะไร แต่สำหรับเขาแล้วมันไม่ใช่ คินเลื่อนมือของเขามาไล้ใบหน้าของฉันเบาๆ แล้วเชยคางของฉันขึ้น ก่อนจะค่อยๆ โน้มใบหน้าลงมาแล้วทาบทับริมฝีปากสีชมพูอ่อนระเรื่อของเขาลงบนริมฝีปากของฉันอย่างอ่อนโยนแต่ก็ร้อนแรงในเวลาเดียวกัน ฉันเผลอสบกับนัยน์ตาสีเขียวมรกตคู่นั้น นัยน์ตานั่นเหมือนดั่งเวทมนตร์สะกดให้ฉันอยู่นิ่งกับที่ไม่ขัดขืนอย่างที่ควรจะเป็น ฉันค่อยๆ หลับตาลงอย่างช้าๆ ปล่อยให้เขาควานหาความหวานจากริมฝีปากของฉันให้พอ

    “ฉันขอโทษที่ฉวยโอกาส (‘ ‘)” คินเอ่ยปากขอโทษฉันหลังจากที่เขาปล่อยฉันให้เป็นอิสระแล้วจากการจูบของเขา

    -_-//” ฉันไม่เคยคิดว่าตัวเองจะเขินจนพูดไม่ออกขนาดนี้ (. .)//

    ...

    ......

    .........

    พวกเราสองคนปิดปากเงียบกันเนิ่นนาน จนฉันอึดอัด จึงพูดทำลายความเงียบขึ้นมา

    “ฉันเอามาคืนนาย” ฉันยื่นบัตรดูหนังให้คิน เท่านั้ละหมอนั่นก็หันมาจ้องหน้าฉันอย่างเอาเรื่องทันที ไรวะ..ฉันทำผิดเหรอ =_=

                            “...”

     

    *เพลง The way you look at me ศิลปิน Christian Bautista

    “ก็ของนายไม่ใช่รึไง..ฉันเลยเอามาคืน -_-

    “รู้ได้ไงว่าเป็นของฉัน (‘ ‘)” ฉันสะอึกไป เออแฮะ จะบอกหมอนั่นว่าไงดีละเนี่ย ขืนบอกความจริงไปอย่าหวังเลยว่าฉันจะรอดกลับไปนะ คิดได้ดังนั้นฉันก็ตอแหลออกไปทันที (เก่งเรื่องนี้จริงนะ -_-)

    “ก็วันนี้ทั้งวัน ฉันยังไม่เจอหน้าใครนอกจากนาย ถ้าไม่เป็นของนายแล้วจะเป็นของใครที่ไหน..อย่าพูดออกมานะว่าไม่ใช่ของฉัน เพราะว่าฉันไม่เชื่อเด็ดขาด -_-^ ว่าไงจะเอาคืนมั้ยเนี่ย”

    “ฉันไม่ต้องการคืน (‘ ‘)”

    “ก็ของนาย =_=

    “(‘ ‘)” อะไรของเขาวะ แค่คืนให้ทำไมต้องทำเป็นโกรธด้วยก็ไม่รู้

    “ตกลงจะไม่เอาใช่มั้ย ในเมื่อไม่ต้องการแล้วนายจะเอามาให้ฉันทำไม ทำไมไม่ทิ้งลงถังขยะไปวะ -_-^

    หมับ

    ฉันกำลังจะฉีกเศษกระดาษรกโลกนี่ทิ้ง แต่คินกลับมาจับมือฉันเอาไว้ อะไรของหมอนั่นวะ ในเมื่อไม่เอาฉันจะได้ฉีกทิ้ง มาจับมือไว้ทำไมเนี่ย -_-^

    “อะไรอีกละ นายนี่มันเรื่องมากจริงๆ เลย -_-^

    “ไปกับฉัน (‘ ‘)”

    “หืม?” ฉันหันไปมองคิน เมื่อกี้หมอนั่นพูดว่าอะไรนะ ฉันได้ยินไม่ค่อยถนัด อะไรไปๆ ก็ไม่รู้

    “ไปกับฉัน (‘ ‘)” ฉันเริ่มรู้สึกว่าหมอนี่แผ่รังสีอำมหิตออกมาแล้วนะ -0-

    “ไปไหน =_=” ฉันเองก็ยังไม่เจียมตัว ยังถามอีตาคินไปอย่างงงๆ ก็ฉันไม่รู้นี่นาว่าหมอนั่นจะให้ฉันไปไหน จะให้ฉันตอบส่งเดชไปรึไงเล่า ถ้าว่าหมอนั่นพาฉันไปฆ่าขึ้นมาละ ฉันก็ตายฟรีนะสิ -_-

    “คิดว่าไปไหนละ” หมอนั่นถามย้อนกลับมาแล้วขยับเข้ามาใกล้ฉันเรื่อยๆ จนฉันต้องขยับหนีเมื่อเห็นว่านั่งใกล้ชิดกันเหลือเกิน แต่ขยับไม่ถึงไหนคินก็ยื่นมือออกมารวบร่างฉันเอาซะก่อน

    “ปล่อยฉันนะ!

    “ไปกับฉัน” หมอนั่นพูดเสียงเข้มขึ้นมาเรื่อยๆ ตามแรงอารมณ์ แล้วฉันจะไปตรัสรู้ได้ยังไงกันละว่าเขาจะให้ฉันไปไหน T_T

    “ไปไหนเล่า! นายก็พูดออกมาให้ชัดเจนดิ ฉันจะได้เข้าใจ ไม่ใช่พูด ว้าย >0<” ฉันพูดยังไม่ทันจบ อีตาบ้านั่นก็กระชากฉันเข้าไปจนปะทะเข้ากับแผ่นอกแข็งแกร่งของเขา

    “อ๊ากก ปล่อยฉันนะโว้ย!” ฉันทั้งร้องทั้งดิ้นไปมาในอ้อมกอดของเขาอย่างบ้าคลั่ง แต่ทำไมหมอนั่นยังไม่ยอมปล่อยฉันอีกฟะ T^T

    “ไม่หยุดฉันจูบ (‘ ‘)” น้ำเสียงราบเรียบแต่แฝงไปด้วยอันตรายเอาไว้ สั่งแค่เพียงประโยคเดียว ฉันก็หยุดดิ้นทันทีอย่างว่าง่าย ทำไมหมอนั่นถึงมีอิทธิพลกับฉันจังวะ T^T

    “หยุดแล้ว นายกพูดออกมาสิ T^T

    “เธอยังไม่หยุดพูด (‘ ‘)” แง้! ไอ้นู่นก็ไม่ได้ ไอ้นี่ก็ไม่ได้ จะอะไรกับฉันนักหนาวะ T_T

    “...” ฉันเม้มปากเข้าหากันแน่นจนเป็นเส้นตรง ไม่ยอมปริปากพูดแม้แต่นิด กลัวว่าคินจะจูบฉันจริงๆ วันนี้ฉันโดนหมอนั่นจูบไปสองครั้งแล้วนะ T^T

    “เสาร์นี้ไปดูหนังเป็นเพื่อนฉันหน่อย”

    “หา! ไปดูหนังกับนาย ทำไมฉันต้องไปกับนายด้วย!! O_O” ฉันตะโกนใส่หน้าคินอย่างตกใจ ทำให้น้ำลายกระจายเต็มหน้าหมอนั่นทันที -_- ไม่ใช่ความผิดของฉันนะ ใครใช้ให้เขาพูดบ้าๆ แบบนั้นออกมากันละ -0- คินมองหน้าฉันก่อนจะก้มลงหน้าลงมาเช็ดกับเสื้อนักเรียนของฉัน เออ..ไหงมาเช็ดที่ฉันละ T_T

    “ฉันจะไม่พูดเป็นครั้งที่สอง”

    “..แต่นายกำลังบังคับฉันอยู่นะ T_T

    “ใครสั่งให้เธอพูด”

    T^T” หมอนั่นมองฉันอย่างเจ้าเล่ห์ ก่อนจะก้มลงมาจูบฉัน อ๊ากกกก~!! ใครก็ได้ช่วยบอกฉันหน่อยสิว่าหมอนี่เป็นนายคินจอมเย็นชาคนนั้นจริงๆ นะ TT_TT

    “เธอไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธฉัน..ริบบิ้น” หมอนั่นรู้ชื่อฉันได้ไงนะ O_O

    “นายรู้ อุ๊ย!” ฉันพูดไม่ทันจบประโยค คินก็ก้มลงมาปิดปากฉันซะก่อน แง้! หมอนี่มันก็ไม่ต่างไปจากผู้ชายทั่วไปตรงไหน มันก็เชื้อเดียวกันละหว้า TT_TT

    “เธอต้องไปกับฉัน”

    TT^TT” เออ รู้แล้ว ฉันปฏิเสธนายไม่ได้หรอก อีตาบ้าเอ๊ย!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×