คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : บทที่ 3 เริ่มแผนการที่หนึ่ง
เริ่มแผนการที่หนึ่ง
‘Royal Knight เป็นกลุ่มที่เพอร์เฟ๊กต์ที่สุดของเรา >0< พวกเขาครองแชมป์ตำแหน่งคิงของเซนส์ฟรานซ์มานานถึงสี่ปี แล้วปีนี้ก็เป็นปีที่ห้าสำหรับตำแหน่งอันยาวนาน และคาดว่าภายในปีหน้าพวกเขาก็จะขึ้นเป็นคิงของเซนส์ฟรานซ์อีกเช่นกัน แหม..นับว่ากัดแน่นไม่ยอมปล่อยอำนาจลงเลยน่ะ แต่ก็น่ะ ไม่มีใครในเซนส์ฟรานซ์จะไปแย่งตำแหน่งของพวกเขาหรอก เพราะพวกเขาคืออัจริยะ! ลมหายใจของพวก (ผู้หญิง) เรา และรวมไปถึงพวกเขาเป็นตัวอันตราย! ที่ไม่ควรไปต่อกรด้วย แต่ถึงพวกเขาจะน่ากลัวแค่ไหนก็ตามหรือแม้แต่ว่าจะไม่มีใครเข้าใกล้พวกเขาเลย แต่..เด็กเซนส์ฟรานซ์ของเราได้ยอมมอบตัวถวายชีวิตให้พวกเขาแล้ว พวกเรานี่ละ! ที่พร้อมจะเป็นเพื่อนและคนใกล้ชิด (รวมไปถึงคนรัก) ให้พวกเขาเอง! ไม่ต้องกลัวไปหรอกนะจ๊ะหนุ่ม Royal Knight >0<’
น้ำเน่าจริงๆ =_= ฉันวางหนังสือพิมพ์วาไรตี้เดลี่ลงอย่างเอือมๆ ให้ตายเถอะ พวกชุมนุมเฮงซวยนี่ชอบเขียนอะไรที่มันไร้สาระสิ้นดี แล้วไง..ถึงพวกเขาจะน่ากลัวแค่ไหนก็ตาม แต่พวกเราเด็กเซนส์ฟรานซ์ก็พร้อมที่เป็นเพื่อนและคนใกล้ชิดให้.. โด่เอ๊ย ทุเรศจริงๆ -_-^ เอาละไหนๆ ก็พูดถึงเรื่องพวกนั้นแล้ว ฉันก็ขออธิบายเรื่องของพวกเขาก็แล้วกัน เพราะคาดว่าหลายคนคงไม่เข้าใจอะไรนักกับพวก Royal Knight
พวก Royal Knight เป็นกลุ่มที่ตั้งขึ้นจากการที่คนๆ หนึ่งภายในกลุ่มถูกเลือกเป็นประธานฯ นักเรียนของพวกเรา ในที่นี้ก็คือไคท์ ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานฯ คนปัจจุบัน สมาชิกในกลุ่มจะมีอยู่ทั้งหมดห้าคนด้วยกัน ทั้งหมดจะอยู่ในตำแหน่งต่างๆ ซึ่งประกอบไปด้วย ตำแหน่งประธานนักเรียน รองประธานนักเรียน ไนต์ (ตำแหน่งนักสู้) ปริ๊นซ์ และผู้ตรากฎของโรงเรียน โรงเรียนของเราเป็นโรงเรียนที่มีหอพักอยู่ในตัว แต่ก็มีบางคนไปเช่าอพาสเม้นส์หรือซื้อคอนโดอยู่.. ทุกห้องพักภายในหอจะอยู่ได้สองคน แต่ก็มีแต่พวกเขาเท่านั้นล่ะ ที่มีหอพักเป็นของตัวเองซึ่งตั้งตามทิศทั้งสี่ทิศของโรงเรียน ยกเว้นหอของคินที่อยู่ระหว่างตรงกลางโรงเรียนกับหออื่นๆ ของพวก Royal Knight...หอเหนือ หอใต้ หอตะวันออก หอตะวันตก และหอกลาง...
นอกจากนี้พวกเขายังมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองอีกตั้งหาก สังเกตง่ายๆ ที่บนฝ่ามือด้านซ้ายของพวกเขาจะมีรอยสักอยู่.. รอยสักสีดำรูปดาวหกแฉก ตรงกลางดาวจะมีชื่อเล่นภาษาอังกฤษของพวกเขาอยู่ K, J, D, D, K ไคท์ เจได เดฟ แดนซ์ คิน.. ยังมีอีกน่ะ พวกเขายังมีสัญลักษณ์ประจำตำแหน่งอีก แล้วก็ที่สำคัญพวกเขายังมีเข็มกลัดของ Royal Knight ที่สร้างขึ้นมาสองอันต่อหนึ่งคน เข็มกลัดอันที่สองของพวกเขา..มีผู้หญิงกี่คนไม่รู้ที่ต้องการจะเป็นเจ้าของเข็มกลัด เพราะว่าเข็มกลัดอันที่สองมีไว้สำหรับตำแหน่งผู้หญิงของ Royal Knight ถ้าจะกล่าวถึงหน้าที่ของแต่ละคน ฉันเองก็ไม่รู้ว่าจะมีตำแหน่งประธานฯ และรองประธานฯ ไว้ทำไม -_- หรือว่ามีไว้ประดับโรงเรียนก็ไม่รู้..สมาชิกทั้งหมดจะมีหน้าที่ดังต่อไปนี้
ไคท์ ดำรงตำแหน่งประธานนักเรียนและหัวหน้ากลุ่ม Royal Knight มีหน้าที่เดินลอยไปลอยมา ไม่มีงานเป็นชิ้นเป็นอัน นอกเสียจากว่าจะถูกคณะอาจารย์สั่งลงมาถึงจะมีผลงานกับเขา ประธานฯ จะอยู่หอเหนือซึ่งเป็นที่สิงสถิตของประธานฯ ทุกรุ่น เข็มกลัดของประธานฯ จะเป็นสีทองแสดงถึงตำแหน่งว่ายิ่งใหญ่แค่ไหน...ส่วนนิสัย ประธานฯ จะเป็นพวกที่คุยกับใครไม่ได้นาน คุยได้ไม่ถึงนาทีก็ชวนทะเลาะด้วย ในสายตาของฉันจึงเห็นว่าประธานฯ เป็นพวกที่ไม่น่าคบอย่างรุนแรง -_-^
เจได ดำรงตำแหน่งรองประธานนักเรียน ไม่มีหน้าที่อะไรกับเขาเหมือนกัน แค่เดินลอยไปลอยมาแบบประธานฯ ท่านรองฯ (นักเรียนผู้หญิงที่นี่จะเรียกเขาว่าอย่างนั้น แต่ฉันขอเรียกว่ารองประธานฯ ดีกว่า) จะอยู่หอใต้ อันซึ่งเป็นที่สิงของรองประธานฯ เข็มกลัดของรองประธานฯ จะเป็นสีทองเหลือบเงินแสดงตำแหน่งสำคัญน้อยลงมาจากผู้ตรากฎ (ไม่รู้ว่าทำไมผู้ตรากฎถึงสำคัญกว่ารองประธานฯ ก็ไม่รู้) หมอนี่มีนิสัยดีมากทีเดียว อย่างน้อยก็น่าคบมากกว่าประธานฯ แต่มีอย่างหนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของรองประธานฯ คือทุกวันศุกร์เขาจะชอบไปเยี่ยมเด็กๆ ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า นับว่ารองประธานฯ เป็นคนที่มีจิตใจดีมากคนหนึ่งเลยละ
เดฟ ดำรงตำแหน่งไนต์หรือนักสู้ ตำแหน่งนี้มีไว้คุมกีฬาทุกอย่างที่มีในเซนส์ฟรานซ์ ดังนั้นสนามกีฬาของโรงเรียนจึงมักเป็นที่ๆ เดฟชอบไปอยู่มากที่สุด หลายๆ คนอาจคิดว่าตำแหน่งนักสู้จะต้องเป็นผู้ชายที่ถึก รูปร่างใหญ่โต หน้าตาดูไม่ได้ แต่นั้นมันเป็นแค่คำนิยามของโรงเรียนอื่นไม่ใช่ที่นี่ เพราะที่นี่ผู้ดำรงตำแหน่งนักสู้หล่อมากกก ถึงมากที่สุด (แต่น้อยกว่าอีตาประธานฯ ไม่น่าคบนั่น เพราะว่าหมอนั่นเป็นผู้ชายที่หน้าตาดีแล้วก็เพอร์เฟ็กต์ที่สุดในกลุ่ม -_-) และที่สำคัญเดฟเป็นสุภาพบุรุษมาก >_< กรี๊ดๆ ผู้ชายแบบนี้ละที่เป็นผู้ชายในฝันของฉัน! เดฟจะอยู่หอตะวันออก เข็มกลัดของเขาจะเป็นสีดำเหลือบทอง เพราะมันจะเข้ากับตำแหน่งนักสู้ของเขา
แดนซ์ ดำรงตำแหน่งปริ๊นซ์ของโรงเรียน แต่บอกเอาไว้ก่อนน่ะว่าปริ๊นซ์ของที่นี่ไม่ได้มีไว้อวดสักดาความหล่อ แต่มีไว้คุมกฎของโรงเรียน! หรือเรียกอีกอย่างว่าผู้คุมกฎนั่นละ...ถ้าพูดถึงนิสัยของปริ๊นซ์งั้นเหรอ ฉันว่าวันนี้ทั้งวันคงสาธยายนิสัย (เลวๆ) ของหมอนั่นไม่หมดแน่ๆ -_- เพราะว่าปริ๊นซ์เป็นผู้ชายที่นิสัยแย่มาก มากกว่าประธานฯ ซะอีก หมอนี่นะอารมณ์ร้อนเป็นที่หนึ่ง ถ้าไม่พอใจอะไรขึ้นมาก็อาละวาดอย่างเดียว แถมยังจะไประรานชาวบ้านเขาอีกต่างหาก -_-^ ยังไม่หมดแค่นี่น่ะ นอกจากอารมณ์ร้อนแล้วยังจะเจ้าชู้ประตูดินกับเขาด้วย! สาวๆ ที่นี่ถูกหมอนั่นฟันมาไม่รู้กี่คนแล้ว ถ้าจะพูดให้ถูกคือนับไม่ถูกต่างหากละ -_-^^ ส่วนเข็มกลัดของปริ๊นซ์จะเป็นสีดำเหลือบเงิน หอ..หมอนี่จะอยู่หอตะวันตก เกือบติดกับกำแพงโรงเรียน
คิน ดำรงตำแหน่งผู้ตรากฎของเซนส์ฟรานซ์ ไม่ว่ากฎน้อยใหญ่ กฎของห้องสมุด กฎโรงเรียนและอีกมากมาย หมอนี่จะเป็นผู้ตราขึ้นมาเองทั้งหมด นับว่าหมอนี่เป็นอัจฉริยะในเรื่องนี้เหลือเกิน..นิสัยเหรอ ไม่รู้สิ เท่าที่เจอมา หมอนั่นเป็นคนเย็นชา ชอบแผ่รังสีอำมหิตออกมาเวลาไม่พอใจ เชอะ..ก็แค่ผู้ชายนิสัยไม่ดี ไม่มีมนุษยสัมพันธ์กับคนรอบข้าง -_-^ เข็มกลัดของเขาจะเป็นสีเงิน มีความสำคัญรองลงมาจากประธานฯ ส่วนหอ หมอนี่จะอยู่หอกลาง
มีอีกอย่างที่พวกนี้มีอภิสิทธิ์เหนือพวกเราทุกคนคือ ชุดนักเรียนที่ใส่ ไอ้ชุดมันก็เหมือนกันอยู่หรอก แต่มันแตกต่างกันที่เสื้อสูท พวกธรรมดาเสื้อสูทจะเป็นมีเทา แต่สำหรับพวกนั้นเสื้อสูทจะเป็นสีดำ ร้านที่ตัดก็ต้องแบ่งแยก ร้านที่ตัดเสื้อให้พวกเขาจะเป็นร้านเสื้อที่มีดีไซน์เนอร์ชื่อก้องโลกมาตัดแล้วก็ออกแบบให้เป็นพิเศษ ผู้หญิงพวกเขาก็เหมือนกันจะได้อภิสิทธิ์ใส่เสื้อสูทสีดำ -_-^
ฉันคงอธิบายได้คร่าวๆ แค่นี้ละ ขืนอธิบายต่อไปไม่รู้ว่าวันนี้จะอธิบายจบรึเปล่า เอาเป็นว่าพวกนี้เป็นผู้มีอิทธิพลในโรงเรียนก็แล้วกันน่ะ
“ทำอะไรอยู่นะริบบิ้น?” เสียงของยัยรุ้งดังขึ้นมา ฉันเลยหันไปชูหนังสือพิมพ์ของวันนี้ให้ยัยนั่นดู
“อ่านข่าวพวกนั้นเหรอ? ทำไมหมู่นี้แกชอบอ่านข่าวของพวกนั้นจังวะ”
“เอ้า ก็ฉันต้องทำหน้าที่จับสายนักเรียนร่วมกับคินนี่นา เรื่องของพวกนั้นฉันก็ควรจะศึกษาบ้าง ไม่ใช่ไปทำงานร่วมกับเขาแต่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพวกเขาเลย” ฉันพูดแก้ตัวน้ำขุ่นกลับไป ก็ฉันยังไม่อยากบอกยัยนั่นนี่นา (. .)
“แน่ใจนะว่าไม่มีอะไรแอบแฝงน่ะ -_-“
“นี่แกเห็นฉันเป็นอะไรเนี่ย แค่นี้ก็ไม่ไว้ใจกันแล้วรึไง -_-;” ฉันบ่นตัดพ้อยัยนั่นให้สมจริงสมจัง
“เออๆ ฉันเชื่อแกก็ได้วะ แต่ถ้าฉันจับได้ว่าแกแอบปิดบังอะไรฉันเอาไว้ละก็ แกเจอดีแน่ -_-^”
เรื่องอะไรจะให้จับได้เล่า ถ้าพร้อมนั่นละ ฉันถึงจะยอมเปิดปากบอก ฉันคิดในใจก่อนจะตอบส่งเดชไปอย่างไม่ใส่ใจ
“จ้า ถ้าแกจับได้จริงๆ อ่ะน่ะ” ยัยรุ้งแยกเขี้ยวให้ฉันทันทีที่พูดจบ ฉันยิ้มออกมาอย่างขำๆ กับท่าทางของยัยนั่น ถ้ามีเพื่อนแบบนี้อีกสักสองสามคนก็คงจะดีไม่น้อย แต่ว่ามาคิดดูอีกทีมียัยนั่นคนเดียวก็เกินพอแล้วละ... ว่าแต่ทำไมฉันรู้สึกว่าช่วงนี้มันดูเงียบๆ ยังไงชอบกลนะ หลังจากที่ฉันกรี๊กใส่ห้องสมุดเมื่อวาน ฉันก็เริ่มรู้สึกว่าทุกอย่างรอบๆ ตัวฉันมันเงียบผิดปกติ อันที่จริงมันก็ดีอยู่หรอกนะ แต่โบราณกล่าวไว้ว่าก่อนจะเกิดพายุ สิ่งต่างๆ จะเงียบสงบ.. ยัยปาขี้นั่นก็เหมือนกัน หลังจากวันนั้นก็หายเงียบไปเลย นี่เวลาก็ผ่านมาสองวันแล้ว มันคงจะถึงเวลาจักฉากรักโรแมนติกแล้วสินะ...
“เออ ว่าแต่เมื่อวานเกิดอะไรขึ้นในห้องสมุด วันนี้แกถึงดูหงอยเหงายังไงชอบกล” อีกละ ตั้งแต่เมื่อวานแล้วที่ยัยนั่นมัวแต่ซักฉันเรื่องในห้องสมุด -_-//
“ไม่มี”
“ไม่เชื่อ -_-“
“เอ๊ะ แกจะมานั่งถามฉันหรือว่าแกจะไปเรียนหนังสือกันแน่วะยัยรุ้ง -_-^”
“ชิ รอดไปอีกแล้วนะแก -0-” ยัยรุ้งหันมาทำหน้าอาฆาตใส่ฉันก่อนจะเดินไปเรียนหนังสือ พอลับหลังยัยนั่น ฉันก็ถอนหายใจออกมา เกือบไปแล้วมั้ยละยัยริบบิ้น..
จ้อกแจ้กๆๆ
สถานที่ที่ดังที่สุดในโรงเรียน ก็คงจะหนีไม่พ้น...โรงอาหารแห่งเดียว -_-^
“แกจะทำหน้าเอือมระอาโรงอาหารไปถึงเมื่อไหร่วะ ริบบิ้น -_-”
“จนกว่าฉันจะหาที่นั่งเจอ -_-^” ฉันพูดกับยัยรุ้งก่อนจะเดินไปหาที่นั่ง และในระหว่างที่ฉันกับยัยรุ้งทานข้าวอยู่นั้น...
“กรี๊ดดดดดดดด~ พวก Royal Knight มา!!! >0<” ยัยผู้หญิงกลุ่มหนึ่งก็วิ่งเข้ามาในโรงอาหาร แล้วกรี๊ดบอกทุกคนว่าพวก Royal Knight มา -_-^
“ให้ตายสิ..ยัยพวกนั้นไม่รู้จักกาลเทศะบ้างหรือไงนะ -_-;” ฉันเงยหน้าขึ้นมองยัยรุ้งที่บ่นแข่งกับเสียงกรี๊ดร้องอันโหยหวนของเด็ดในโรงอาหาร
“กรี๊ดดดดด~ >0<” ฉันว่านะยัยพวกนั่นต้องกินนกหวีดเข้าไปแน่ๆ แสบแก้วหูชะมัด
ตึกๆ~
ผ่านไปสักพักทุกสรรพสิ่งในโรงอาหารก็งียบลงทันที เงียบจนได้ยินเสียงเดินของพวกนั้นทั้งห้าคน (ฉันว่ามันคุ้นๆ ยังไงชอบกลแฮะ -0-) ฉันว่ามันออกจะเว่อร์ไปหน่อยไหม -*-
ตึกๆ~
พวกนั่นเดินผ่านหน้าฉันกับยัยรุ้งไป ฉันแอบเงยหน้ามองอีตาคินด้วยละ และก็เป็นจังหวะเดียวกับที่หมอนั่นหันมาสบตาฉันพอดี ฉันเห็นริมฝีปากของเขากระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์ด้วยละ -0-; แถมฉันยัง (อุตส่าห์) เห็นหมอนั่นทำปากมุบมิบคล้ายกับจะพูดกับฉันว่า ‘เธอไม่รอดแน่’ อะไรประมาณนี้ =_=;
“คินเขาหันมามองแกด้วยละริบบิ้น ตกลงว่าแกเป็นอะไรกับคินป่ะเนี่ย?”
“เปล่า” ฉันมองตามคินไปอย่างไม่เข้าใจ หมอนั่นบอกว่าฉันจะไม่รอด เพราะอะไร? เขาจะบอกอะไรฉันกันแน่เนี่ย บ้าจริงๆ -_-*
ปัง!
“เธอสินะ ริบบิ้นสุดเฉิ่ม -_-^” ฉันเงยหน้าขึ้นมองคนที่มาตบโต๊ะเรียนของฉัน ใครอีกวะเนี่ย -_-^
“ใช่ ทำไม”
“บาร์บี้ให้มาตามเธอไปพบที่โรงยิม”
“อืม” ฉันรับคำ สงสัยว่ายัยนั่นคงจะให้ฉันเริ่มงานแล้วสินะ
โรงยิม
“มีอะไร -_-” พอฉันมาถึงโรงยิม ฉันก็เอ่ยปากถามยัยนั่นอย่างไม่สบอารมณ์
“วันนี้เธอต้องดำเนินแผนการแรกให้ฉัน..หวังว่าเธอคงไม่ลืมใช่มั้ย?
“เออ -_-” ฉันไม่มีทางลืมแผนการแรกที่จะทำให้ความตายเคลื่อนที่มาหาฉันเร็วขึ้นหรอก
“ดี..เด็กๆ” พูดจบยัยนั่นก็ตบมือสองสามครั้ง ไม่นานก็มีเพื่อนของยัยนั่นเดินออกมาพร้อมกับช่อดอกไม้ช่อใหญ่ พร้อมๆ กับที่ยัยนั่นยื่นซองอะไรบางอย่างมาตรงหน้าฉัน
“..มันคืออะไร?” ฉันเอ่ยถามยัยปาขี้
“บัตรดูหนังสองใบ”
“แล้วมันเกี่ยวกับแผนการแรกตรงไหน?” ฉันถามยัยนั่นอย่างงงๆ
“ยัยโง่ ก็ฉันจะให้คินไปดูหนังตามบัตรนี่ไง แล้วฉันก็จะไปด้วย เธอมีหน้าที่เอาช่อดอกไม้กับบัตรดูหนังนี่ไปไว้ในหอกลาง แล้วต้องให้คินเห็นด้วยละ”
หอกลาง
ยัยนั่นกำลังทำให้ฉันคลั่ง ถึงแม้ว่าตอนนี้ฉันจะยืนอยู่หน้าหอกลางก็เถอะ -_-;
“ฉันมาทำบ้าอะไรที่นี่วะ” ฉันบ่นกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะหันหลังกลับ แต่จนแล้วจนรอดก็ต้องหันกลับเหมือนเดิม “ฉันต้องทำมันจริงๆ เหรอเนี่ย T_T” ฉันบ่นอีกครั้ง ก่อนจะอแอบๆ ขึ้นหอกลาง ขืนทะเล่อทะล่าเข้าไป ฉันโดนปาดคอแน่
“ไงวะเพื่อน..ขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์เมื่อวันก่อน สะใจมั้ย?” ในระหว่างที่ฉันกำลังย่องๆ ขึ้นหอกลางอยู่นั้น จู่ๆ พวก Royal Knight ทั้งห้าก็เดินขึ้นหอกลางซะงั้น อะไรมันจะมาเอาตอนนี้นะ T_T
“(‘ ‘)”
“ฮะฮ่าๆ ^0^ ไอ้คินของเราจนมุมก็คราวนี้ละวะ แกนึกยังไงของแกวะ จู่ๆ ก็ทำตัวให้เป็นข่าวขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ เมื่อก่อนเห็นทำตัวเงียบๆ ไม่คิดว่าที่แท้แกก็อยากดังเหมือนกันวะ ^^”
“ใครจะเหมือนพวกแก วันๆ ชอบทำตัวให้เป็นข่าว (‘ ‘)” ฉันจ้องนายคิน เพราะไม่คิดว่าเขาจะปริปากพูดออกมา
“ว้าว! ไอ้คินของเราพูดยาวเป็นครั้งแรกวะ” ฉันมองดูพวกนั่นเอ่ยเสียงล้อคินขณะเดินขึ้นบันไดหอกลาง หมอนั่นพูดยาวเป็นครั้งแรก? แล้วที่เขาพูดกับฉันนั่นละ เขาเรียกว่าอะไร?
“แกเปลี่ยนไปเยอะเลยนะคิน -_-;”
“เหรอ (‘ ‘)” เสียงของพวกเขาค่อยๆ เงียบลงไป ก่อนที่ทุกคนจะหายเข้าไปในห้องๆ หนึ่ง ซึ่งฉันคิดว่าน่าจะเป็นห้องนั่งเล่น แล้วห้องนอนของอีตานั่นอยู่ห้องไหนฟะ ฉันเดินมาถึงทางแยก ก็ต้องหันมองซ้ายทีขวาที เพราะไม่รู่ว่าจะไปทางไหนก่อนดี
“ทำไมห้องมันเยอะอย่างนี้นะ =_=” ฉันบ่น ก่อนจะตักสินใจเลี้ยวไปทางขวา เพราะเห็นว่ามีแค่ห้องเดียวโดดๆ ถ้าทางนี้มันไม่ใช่ก็ค่อยไปด้านอื่น แต่ว่าเสียวชะมัด มาทำงานตอนที่พวกนั้นอยู่พอดี นี่ถ้าโดนจับได้ขึ้นมา มีหวังไม่รอดแน่ -_-^
แอด~
ฉันเปิดประตูห้องเข้าไป.. ปรากฏว่ามันเป็นห้องสมุด! นี่หมอนั่นคลั่งถึงขนาดมีห้องสมุดไว้ในหอด้วยเหรอเนี่ย -0-; ในเมื่อทางขวาไม่ใช่ ก็ต้องไปทางซ้าย... ทางซ้ายนี่ห้องเยอะชะมัด มันต้องมีสักห้องละหน่าที่เป็นห้องนอนของเขา ดีละ! ฉันจะได้หามันให้เจอแล้วรีบออกไปจากที่นี่
ห้องที่หนึ่ง แอด~
..ไม่ใช่..ห้องว่าง
ห้องที่สอง แอด~
..ไม่ใช่ ห้องทำงาน
ห้องที่สาม
ฉันดินมาหยุดหน้าห้องที่สาม กำลังจะเปิดประตูเข้าไป แต่ก็ต้องชะงัก เมื่อได้ยินเสียงคนพูดดังออกมาจากห้อง “ยัยนั่นเป็นใครวะ ไอ้คิน?” อะไร? ใครเป็นใครวะเนี่ย ด้วยความอยากรู้ฉันจึงเอาหูไปแนบกับประตูห้อง เพื่อจะได้ยินชัดกว่านี้
“ยัยนั่นไหน”
“ตกลงแกมีกี่คนกันแน่วะ” ฉันไม่เข้าใจในสิ่งที่พวกเขาพูดเลย =_=; ฉันว่าฉันไปดีกว่า ยังมีงานต้องทำอีกเยอะ... ห้องที่สี่ เอาละ เหลืออีกแค่สองห้อง ห้องนี้กับห้องตรงกันข้าม ห้องไหนจะเป็นห้องนอนของเขากันนะ
แอด~
อ่า *0* ในที่สุดห้องนี้ก็ไม่ทำให้ฉันผิดหวัง เพราะว่านี่คือห้องนอนของอีตาคินจริงๆ ฉันหันไปปิดประตูเบาๆ ก่อนจะเดินเข้ามาสำรวจห้องของหมอนั่น “น่าอยู่จังแฮะ -0-” หมอนี่จัดห้องได้น่าอยู่ชะมัด ฉันนำช่อดอดไม้กับบัตรดูหนังไปวางไว้บนเตียงของเขาอย่างเบามือ.. ผนังห้องหมอนั่นเลือกโทนสีอ่อนเข้ากับเตียงที่เน้นโทนสีน้ำเงินอมฟ้า จะหันไปทางไหนก็สบายตาชะมัด
กรุ๊ง กริ๊ง~
ฉันหันไปมองที่หน้าต่างที่เปิดกว้างเอาไว้ แรงลมทำให้โมบายที่ระเบียงกระทบกันดังราวกับทำนองของสียงเพลง แต่มันจะพิเศษตรงที่ว่าเพลงนี้ สายลมเป็นตัวขับร้อง
ฟิ้ว~
ฉันละอิจฉาห้องของหมอนี่ชะมัด ลมพัดแต่ละครั้งเย็นไปถึงขั้วหัวใจ ต่างจากห้องของฉันลิบลับ อันที่จริง มันก็ไม่มีอะไรแตกต่างกันมากนักหรอก ฉันแค่ขอบห้องของเขาก็เท่านั้นเอง -0-; เอาละ! ฉันว่าฉันควรกลับได้แล้ว ถ้าเกิดช้ากว่านี้ เดี๋ยวอีตาคินก็มาเห็นเข้าพอดี
แอด~
ฉันเปิดประตูออก ก่อนจะชะเง้อมองดูว่าใครอยู่แถวนี้บ้างรึเปล่า เมื่อเห็นว่าทางสะดวก ก็ค่อยๆ ย่องออกมา
“จะไปไหนนะ” เฮือก!! ฉันสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงทักดังขึ้น เมื่อกี้ก็ไม่เห็นใครแล้วนี่หว่าแล้วใครมาทักฉันละเนี่ย ฉันบ่นในใจก่อนจะค่อยๆ หันไปมองด้านหลัง กะว่าอาจจะเจอพวกนั้นสักคนสองคน แต่ปรากฏว่าไม่เห็นมีใครสักคน! แล้วเมื่อกี้ใครถามฉัน?
“ไปหาหนังสือมาอ่าน (‘ ‘)” อ้อ =_=; ที่แท้เป็นเสียงจากห้องนั่งเล่นนี่เอง พวกนั้นทำเอาฉันตกอกตกใจหมด ไอ้เราก็นึกว่าใครมาทัก แต่เดี๋ยวนะ.. อีตาคินจะออกมาเอาหนังสืออย่างนั้นเรอะ! ซวยแล้วไงไอ้ริบบิ้น แล้วนี่ฉันจะทำยังไงดีละเนี่ย ฉันหันซ้ายหันขวาหาทางเอาตัวรอด แต่เมื่อหันไปมองทางห้องนั่งเล่นก็เห็นว่าประตูกำลังจะเปิด ฉันจึงรีบวิ่งสุดฝีเท้าออกมาจากตรงนั้นไปซ่อนตัวอยู่ใต้บันไดทันที วิ่งก่อนดีกว่าถูกจับได้ก็แล้วกัน
“นั่นใครน่ะ (‘ ‘)”
ตึกๆ
หวังว่าเขาคงไม่สังเกตว่าใต้บันไดมีร่างของฉันอยู่หรอกนะ
“อะไรของแกวะไอ้คิน -_-^”
“ฉันได้ยินเสียงเหมือนคนวิ่ง (‘ ‘)” หูนายนี่ช่างดีเสียจริงๆ ฉันนี่ละที่วิ่งผ่านหน้านายเมื่อกี้ =_=
“หูฝาดหรือเปล่า..อาจจะเป็นแมวก็ได้มั้ง” ใช่ๆ อาจจะเป็นแมว ใครเป็นคนพูดกันเนี่ย >_< ความคิดดีจริงๆ เลย มันคงจะเป็นวิธีเอารอดสิน่ะ ดีล่ะ!
“เหมี้ยว~ เหมี้ยว~” ฉันแกล้งทำเสียงแมวออกมาเผื่อว่าพวกนั้นจะเชื่อไม่สงสัยอีกต่อไป
“นั่นไง แมวชัดๆ!” ทำไมฉันรู้สึกว่าไอ้คำท้ายๆ นี่มันเหมือนจะจงใจเน้นเหลือเกินนะ.. ช่างเถอะ ฉันอาจจะคิดไปเองก็ได้ “โรงเรียนเราเลี้ยงแมวด้วยเหรอ (‘ ‘)” เวร! โรงเรียนเราไม่เลี้ยงแมวนี่หว่า
“งั้นก็คงจะเป็นหมา” หมางั้นเหรอ ฉันต้องทำเสียงหมาสินะ ถึงจะรอด (ตรงเกินไปป่ะ -0-)
“โฮ่ง โฮ่ง โบ๋ววววว~” ฉันร้องเสียงหมาแล้วน่ะ หวังว่าคงจะรอด T_T
“อุบ..คิก ฉันว่าแกหูฝาดวะ ^^” ฉันได้ยินเสียงหัวเราะครืดๆ ในลำคอของเจ้าพวกนั้น เดฟที่พูดออกมาก็เหมือนกับพยายามกลั้นหัวเราะเต็มที่ พวกนั้นขำอะไรกันนะ? ท่าทางคงจะเป็นพวกเส้นตื้น แค่นี้ก็ทำเป็นหัวเราะ -_-
“ฉันก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน” ใต้บันไดที่ฉันซ่อนตัวอยู่สามารถมองเห็นคินได้อย่างถนัด ฉันเห็นหมอนั่นคลี่ยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมาก่อนจะเดินขึ้นชั้นสองไป =_= นี่ฉันไม่ได้ตาฝาดไปใช่มั้ย ที่ฉันเห็นหมอนั่นยิ้มออกมาตั้งสองครั้ง ถึงมันจะดูเจ้าเล่ห์ไปก็เถอะ -^- ฉันสะบัดความคิดบ้าๆ นั่นทิ้ง ก่อนจะรีบวิ่งออกมาจากหอกลางอย่งไม่คิดชีวิต โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่า มี ‘ใคร’ บางคนกำลังมองลงมาจากชั้นสองของหอ...
เมื่อวิ่งออกมาจากจากหอกลางได้แล้วฉันก็รีบตรงมาที่หอหญิงทันที ที่กลับมาเพราะว่าฉันต้องกลับมารายงานยัยปาขี้นะสิ
ห้อง 1051 ก๊อกๆๆ~
“เข้ามา” แอด~
“อ่อ มาแล้วเหรอ เป็นไงบ้างละ เรียบร้อยดีมั้ย?” ฉันหันไปมองทุกคนในห้องอย่างเอือมระอา ยัยนั่นมีเพื่อนตั้งห้าหกคน แต่ทำไมถึงไม่ใช้วะ มาจ้างฉันทำไมไม่รู้
“...”
“บาร์บี้ถามแล้วก็รีบๆ พูดออกมาสิ -_-^” ฉันมองหนึ่งในเพื่อนของยัยนั่นที่นั่งทาเล็บอยู่ แล้วถอนหายใจออกมาแทน ความจริงก็ไม่ได้อยากมานักหรอก ไม่สิ ต้องบอกว่าไม่อยากทำแผนการนี้เลยด้วยซ้ำ ถ้าไม่ติดว่าพ่อรับปากยัยนั่นไปแล้ว
“ไม่สำเร็จเหรอ”
“เปล่าหรอก ทุกอย่างเรียบร้อยดี ฉันเอาช่อดอกไม้กับบัตรดูหนังไปวางไว้ในห้องนอนของหมอนั่นแล้ว”
“ห้องนอนของคินเลยเหรอ?” ยัยปาขี้เลิกคิ้วถามฉัน
“อืม ไม่มีอะไรแล้วฉันขอตัวก่อนนะ” ฉันหมุนตัวเตรียมจะย่างเท้าออกไปจากห้อง แต่ยัยนั่นเอยปากถามฉันขึ้มาซะก่อน
“ห้องนอนของคินน่ารักไหม?”
“ฉันไม่มีเวลาสำรวจขนาดนั้นหรอก พอดีว่าพวก Royal Knight ทั้งห้ากลับมาพอดี ไม่รู้ว่านึกยังไงถึงได้มารวมตัวที่หอกลางได้.. ขอตัวนะ” ฉันพูดจบก็รีบเดินออกมาจากห้องของยัยนั่น ไม่รู้สิ ฉันก็ไม่รู้ตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงได้โกหกยัยนั่นเรื่องห้องนอนของคิน ฉัน.. ฉันไม่อยากให้ใครรู้ว่าห้องนอนของเขาเป็นยังไงนอกจากฉันเอง... นี่ฉันเป็นบ้าอะไรเนี่ย
แอด~
“แกหายไปไหนมาวะริบบิ้น?” พอฉันเปิดประตูเข้าห้องปุ๊บ เสียงของรุ้งก็ดังเข้ามากระทบโสตประสาททันทีทันใด ราวกับว่าเจ้าตัวกำลังรอคอยเวลานี้มานานเหลือเกิน
“ถามทำไม”
“ก็อาจารย์เขาถามถึงแกกันให้ควั่กนะสิ แล้วตกลงแกไปไหนมา อย่าบอกนะว่ามัวแต่ไปขลุกอยู่ในห้องสมุดนะ -_-^”
“เออ ฉันไปอยู่ในห้องสมุดมา” หอกลางของคินต่างหากเล่า ที่ฉันไปมา -_-*
“พักนี้รู้สึกว่าแกจะชอบห้องสมุดจังนะ”
“...”
“ทำไม ฉันพูดตรงไปหรือแกตอบฉันไม่ได้กันแน่ -_-” ยัยนั่นเป็นอะไรไปอีกละเนี่ย
“ฉันเบื่อที่จะตอบคำถามแกต่างหากละ” ฉันพูดอย่างไม่ใส่ใจก่อนจะเดินแยกเข้าห้องน้ำไป
10 นาทีผ่านไป
“แกยังไม่ตอบคำถามฉันเลยนะ ริบบิ้น”
“นี่แกกะจะเอาคำตอบให้ได้เลยใช่มั้ยวะ -_-^”
“เออ” ฉันมองยัยรุ้งอย่างระอา ก่อนจะล้มตัวลงนอน
“ริบบิ้น~”
“ที่ฉันไปห้องสมุดก็เพราะว่าฉันต้องการความรู้ให้มากกว่านี้ แกนี่ก็ถามแปลกๆ” ในที่สุกฉันก็ทนลูกอ้อนของยัยนั่นไม่ไหว เลนตอบแบบส่งๆ ไป
“แกไม่ได้นัดกับคินใช่..”
“แกคิดว่าฉันจะทำอย่างนั้นรึไง -_-^” ถึงในใจจะแอบคิดบ้างก็เถอะ -.,-
“ฉันไม่คิดว่าแกจะทำแบบนั้น แต่คนอื่นๆ เขาพูดกันว่าแกนัดเจอกับคิน ฉันเลย..”
“แกเลยเชื่อว่างั้น? -_-^”
“อืม” ยัยนั่นพยักหน้าตอบฉันอย่างฝืดๆ ฉันละอยากจะบ้าตาย เพื่อนของฉันกลายเป็นคนเชื่อคนง่ายไปตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย =_=
“พวก..”
“พวกห้องหนึ่งพูดกันนะ ฉันก็เลยเชื่อ อย่างน้อยมันก็น่าจะมีมูลความจริงบ้าง แต่ถ้ามันไม่ใช่อย่างที่แกบอกละก็ ฉันก็จะเชื่อแก ^^;” ยัยรุ้งส่งยิ้มให้ฉัน ซึ่งฉันก็รู้ว่ามันคงฝืดสุดๆ
“คราวหน้า ถ้าไม่มั่นใจอะไรเกี่ยวกับตัวฉัน แกก็มาถามฉันตรงๆ เลยดีกว่า.. ราตรีสวัสดิ์”
“อืม ราตรีสวัสดิ์” ฉันข่มตาให้หลับลงอย่างยากลำบาก ใจหนึ่งก็อดคิดถึงคำพูดของยัยรุ้งเมื่อกี้ไม่ได้ ถ้าเกิดว่าฉันนัดเจอกับคินจริงๆ ยัยนั่นจะทำหน้ายังไงนะ...
ความคิดเห็น