ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Dangerous Spy รักอันตรายวายร้ายสายลับ

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 2 Victor

    • อัปเดตล่าสุด 6 ธ.ค. 53


     2

    Victor

     

    (Special: Victor Talk)

    ผับ X-trazy

                    ฮึ... ชีวิตของผมมันก็ไม่มีอะไรนักหรอก เรียบๆ ง่ายๆ เรื่อยๆ ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น ใช้ชีวิตเสเพลไปวันๆ แต่ใช่ว่าผมจะไม่มีการศึกษาน่ะ -_- ผมเรียนนายร้อยตำรวจ ช่วงนี้เป็นช่วงรอแล้วก็รอ.. ผมนี่โชคดีชะมัด ยังไม่ทันเข้าฝึกงาน ก็มีงานใหญ่พร้อมยศถาบรรดาศักดิ์มาเสนอถึงหน้า แหม.. นับว่าผมเนี่ย มีดวงที่ดีจริงๆ -.,- แต่ว่า.. ตอนนี้อะไรๆ มันก็เปลี่ยนไปแล้ว เหมือนชีวิตของผม จากที่อะไรก็เรียบๆ ง่ายๆ ก็เปลี่ยนเป็นน่าตื่นเต้นขึ้น เมื่อเจอ... ผู้หญิงคนนั้น เราเจอกัน ไม่ซิ ต้องพูดว่าผมเจอเธออยู่ฝ่ายเดียวมากกว่า ผมเจอเธอเมื่อสองเดือนที่แล้ว ผมเห็นเธอตั้งแต่ย่างเท้าเข้ามาในผับนี่แล้ว ผมยอมรับน่ะว่าเธอสวย... ผมสีน้ำตาลทองเป็นลอนโตๆ ที่ยาวลงมาถึงเอว นัยน์ตาสีอะเมทิสต์ แล้วไหนจะดวงหน้ารูปไข่นั่น เรือนร่างระเหิดระหงส์นั่นอีก แค่เห็นก็จำติดตา จนแทบจะลบไปจากความทรงจำไม่ได้ ผู้หญิงอะไรจะสวยแล้วก็น่าสนใจแบบนี่น่ะ.. อันที่จริง ตั้งแต่เห็น ผมก็แทบจะถลาเข้าไปทำความรู้จักสนิทสนมด้วยแล้ว แต่ก็ต้องเฉยเอาไว้ เพราะว่าลางสังหรณ์ (เรื่องผู้หญิง) ของผมมันบอกว่าผมจะได้เจอเธออีก แต่ใช่ว่าผมจะหยุดสายอยู่แค่นั้นนะ ผมมองเธออยู่ตลอดเวลา แม้แต่ตอนที่เธอโชว์ลีลากการเต้นอย่างสุดเหวี่ยงอยู่ข้างเวที ผมก็ยังมองเธออยู่.. ก็บอกแล้วไงว่าผู้หญิงคนนี้น่าสนใจ ไม่รู้ว่าวันนี้เธอจะมาที่นี่อีกรึเปล่า แต่สังหรณ์ของผมอีกนั่นล่ะ มันกำลังบอกผมว่า.. เธอกำลังจะมา แล้วมันก็จริงซะด้วยสายตาของผมมองเห็นเธอเดินแทรกผู้คนอยู่ในผับกับเพื่อนสาว แล้วที่น่าตื่นเต้นไปกว่านั้นคือเธอกำลังเดินมาทางผม แล้วก็ทรุดตังลงนั่งข้างๆ

    “วิสกี้เพียวเพียวแก้วนึงค่ะ”

    “เฮ้ย! ยัยทางด่วนมาปุ๊บก็สั่งวิสกี้เพียวเพียวเลยเหรอ..ไม่คอจะสั่งขิงซอฟต์ๆ ก่อนรึไง -_-^

    “หุบปากแกไปเลยนะยัยเว ช่วงนี้ฉันกำลังเซ็งถึงมากแล้วก็มากที่สุดเลยละ -_-

    “เซ็งแล้วมาระบายกับเหล้าเนี่ยนะ เดี๋ยวก็หาทางกลับบ้านไม่ถูกหรอก -_-

    ผมยกมาร์ตินี่ขึ้นดื่มพลางเงี่ยหูฟังบทสนทนาของพวกสองสาวไปพลาง

    “ยังไงฉันก็มีแกหรือแกจะทิ้งฉันไว้ที่นี่แล้วไปกับผู้ชายในสต็อกของแกแทน -_-^

    “พูดซะ ฉันไม่ได้เลวถึงขนาดทิ้งเพื่อนแล้วไปกับผู้ชายหรอกนะ แกพูดออกมาแบบนั้นฉันเสียหายหมดเลย =0=

    “แกเคยสนเรื่องแบบนั้นด้วยรึไง -_-

    “นี่แกอารมณ์เสียแล้วมาลงกับฉันป่ะเนี่ย -0-

    “เปล่าสักหน่อย”

    “โกหก ฉันรู้ว่าแกยังเสียใจเรื่องนายฟอสซิลอะไรนั่นอยู่ แกไม่ต้องมาปิดบังฉันหรอกนะยัยเวย์เพราะว่าฉันรู้ทุกอย่างที่เป็นแก”

    “ฉันจะไปเครียดเรื่องของหมอนั่นทำไม ในเมื่อตอนนี้ฉันกับเขาก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันอีก..ฉันไม่เก็บผู้ชายแบบนั้นไว้ข้างกายหรอก ผู้ชายที่กล้าหักหลังฉัน มันสมควรตายสถานเดียว” ผมแอบสะดุ้ง ก่อนจะเหลือบตาไปมองผู้หญิงที่นั่งข้างๆ ผู้หญิงอะไรดุชะมัด -0-;

    “ให้มันแน่เถอะย่ะแม่ทางด่วน -_- เออนี่ยัยเวย์ แกนั่งตรงนี้ไปก่อนจะละกัน เดี๋ยวฉันขอตัวก่อน ช้า..เดี๋ยวเป้าหมายหลุดลอย” ผมมองตามเพื่อนของเธอไปจนสุดสายตา เฮ้อ~ ผู้หญิงสมัยนี้ ไวไฟชะมัด

    “น้องขออีกแก้ว” ผมวกสายตากลับมามองผู้หญิงข้างๆ อีกครั้ง เธอ..ทำให้ผมแปลกใจน่ะ ผู้หญิงอะไร คอแข็งชะมัด -_-

    “ดื่มเยอะเดี๋ยวก็เมาหรอก” ผมพูดขึ้นลอยๆ ก่อนจะใช้นิ้วคลึงปากแก้วแชมเปญเล่น พลางสังเกตท่าทางของเธอไปด้วย เธอคนนั้น ถ้าจำไม่ผิดคงจะชื่อเวย์ เธอหันมามองผมก่อนจะเลิงคิ้วขึ้นเป็นเชิงถาม

    “ฉันจะเมาหรือไม่เนี่ยแล้วมันหนักหัวนายรึไง -_-” ฮะ..ผู้หญิงคนนี้ปากกล้าดีจริง

    “ปากกล้าใช่ย่อยน่ะเนี่ย คงจะไม่แปลกถ้ามีผู้ชายติดใจ”

    “พอดีว่าฉันเกลียดผู้ชายแบบนั้นเป็นอันดับต้นๆ -_-

    “หว้า..ถ้าอย่างนั้น ฉันก็อกหักนะสิ” ผมยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา ก่อนจะเลื่อนหน้าเข้าไปใกล้เธอ เธอหันมามองผมด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ ก่อนจะคว้าแก้วมาร์ตินี่ของผมไปดื่มแทน อ่า...ทำแบบนั้น มันเชิญชวนกันนี่หว่า แต่ก่อนที่ผมจะได้ทำอะไร ร่างของเธอก็ถูกกระชากไปซะก่อน

    “เวย์ นี่เวย์มาหาผมใช่มั้ย?”

    “ปล่อย..เอามือสกปรกของนายไปจากแขนของฉันเดี๋ยวนี้น่ะ”

    “เวย์อย่าทำแบบนี้กับผมสิ ฟังผมอธิบายเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นก่อนได้มั้ย?”

    เพี๊ยะ!

    หู่ย -0- เห็นแล้วเจ็บแทนชะมัด ผู้หญิงอะไรครบชุดแฮะ ปากจัด ดุ มือหนัก สงสัยว่าเท้าก็คงจะหนักเหมือนกันด้วยแน่ๆ เลย =0=;

    “เรื่องของเรามันจบลงไปหลายเดือนแล้ว นายยังจะมายุ่งอะไรกับฉันอีก ฉันไม่กลับไปคบกับนายให้เสียศักดิ์ศรีหรอกน่ะ” ผมเลิกคิ้ว มองหนังสดตรงหน้าอย่างสนใจ ท่าทางว่าหนังตรงหน้าจะได้ข้อมูลอะไรดีๆ เยอะเลย

    “ผมไม่ได้ขอให้เวย์กลับมาคบกับผมอีก ผมแค่อยากจะอธิบายทุกอย่างให้เวย์ฟังแล้วให้เรากลับมาเป็นเพื่อนกันก็ยังดี ผมขอร้องล่ะเวย์ฟังผมอธิบายหน่อยได้มั้ย”

    “จะให้ฉันฟังเรื่องสารเลวอะไรของนายอีกล่ะฟอสเซรัส อย่าลืมสิ สิ่งที่นายทำเอาไว้กับฉัน ฉันไม่มีทางที่จะลืมมันได้ง่ายๆ หรอกน่ะ ปล่อยแขนฉันได้แล้ว ฉันไม่มีอะไรจะพูดกับนาย”

    “เวย์...”

    “ปล่อย!!” เอาละเหวย..ตอนนี้คนทั้งผับหันมามองคู่นั้นกันอย่างสนใจ ช่างเป็นหนังสดที่เผ็ดร้อนจัดจ้านเสียจริงๆ -_-^

    “ไม่ จนกว่าผมจะพูดกับเวย์ให้รู้เรื่อง”

    “ไม่ปล่อยใช่มั้ย”

    “ใช่”

    “ได้”

    ซ่า!

    เวร =_= ทำไมวิสกี้เพียวเพียวแก้วนั้นมันถึงได้โดนหน้าผมจังๆ วะ อย่าแปลกใจละ ก็เพราะไอ้เวรนั่นมันเอี้ยวตัวหลบไง วิสกี้เพียวเพียวแก้วนั้นมันถึงได้โดนหน้าผมเต็มๆ -_-^ สงสัยว่างานนี้มีเคลียร์

    “ผู้ชายอย่างนายมันก็ปอดแหก ไม่สมราคาคุย”

    “เวย์ฟังผมอธิบายก่อนได้มั้ย ผมอธิบายเรื่องทุกอย่างได้น่ะ”

    “ไม่จำเป็น..ร.ป.ภ. ลากตัวมันออกไปเดี๋ยวนี้เลยนะ!

    ร.ป.ภ. สามสี่คนที่เดินเขามาก็ถลากันเข้าไปจับไอ้เวรนั่น แล้วลากออกไปทันที ดี เอามันไปเลยๆ บังอาจหลบแก้ววิสกี้เพียวเพียวดีนัก -_-^

    “ปล่อยฉันนะโว้ย! ฉันจะคุยกับแฟนฉันให้รู้เรื่อง บอกให้ปล่อยไงเล่า! เวย์บอกให้พวกมันปล่อยผมทีสิ ผมยังอยากอธิบายเรื่องทุกอย่างให้เวย์ฟังน่ะ เวย์ ปล่อยฉันน่ะโว้ย! เวย์!!

    “ไม่เป็นอะไรใช่มั้ยครับคุณผู้หญิง แล้วจะให้ทางร้านของเราจัดการกับผู้ชายคนนั้ครับ”

    “ไม่ต้องทำอะไรมากหรอก ไม่ต้องให้เขาเข้ามาเหยียบที่นี่สักเดือนก็พอ”

    “ครับคุณผู้หญิง ทางเราจะจัดการให้เดี๋ยวนี้ล่ะครับ” ผมเหลือบตามองผู้หญิงคนนั้นอย่างฉุนๆ นี่ยัยนั่นไม่คิดจะมาขอโทษผมรึไงน่ะ -_-^

    “น้องวิสกี้เพียวเพียวอีกแก้ว -_-+

    หมับ

    “พอได้แล้วมั้ง -_-^

    ก่อนที่เธอจะได้ดื่มอีกแก้ว ผมก็กระชากแขนเธอเอาไว้ซะก่อน ยัยนั่นต้องขอโทษผม ไม่อย่างนั้นผมไม่ยอมจริงๆ ด้วย -_-^

    “นายเป็นใคร มีสิทธิ์อะไรมาสั่งฉัน -_-=_= บอกหน่อยสิว่านั่นคือคำพูดของเธอจริงๆ น่ะ -0-^

    “ฉันก็ไม่ใช่จักรพรรดิหรือผู้ยิ่งใหญ่มาจากไหนหรอกน่ะ ฉันก็แค่คนธรรมดาที่ต้องการให้เธอมาขอโทษที่สาดวิสกี้เพียวเพียวใส่หน้าฉันก็เท่านั้นเอง -_-^

    -_-^ ประสาทรึเปล่า ฉันไปสาดอะไรใส่หน้าหน้านายตั้งแต่เมื่อไหร่กันหรือว่าอยากเรียกร้องความสนใจจากผู้หญิงถึงได้มาพูดแบบนี้ต่อหน้าฉัน -_-^” เฮอะ..ยัยนั่นคิดว่าตัวเองเป็นใครมาจากไหนกันน่ะถึงได้กล้าพูดออกมาไม่อายปากแบบนั้นน่ะ -_-;

    “สำคัญตัวผิดไปรึเปล่า หืม? เธอคิดว่าตัวเองวิเศษแล้วอย่างนั้นเหรอถึงพูดออกมาแบบนั้นน่ะ ขนาดคนที่เขาฟังก็ยังอายแทนเธอเลย แต่นี่เธอกลับพูดมันออกมาได้อย่างหน้าตาเฉย นับว่าหน้าด้านจริงๆ”

    เพี๊ยะ

    “รู้สึกว่าฉันจะจำได้ว่าไอ้คนที่มันมาพูดแบบนี้กับฉัน มันต้องนอนหยอดน้ำข้าวต้มอยู่โรงพยาบาลกลายเป็นพิการช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ หรือว่านายอยากลองดูอีกสักคนจะได้รู้ว่ารสชาติมันเป็นยังไง”

    “เก็บคำพูดนั่นไว้พูดกับตัวเองดีกว่า เผื่อคนที่จะนอนโรงพยาบาลจริงๆ คือตัวเธอ..ขอโทษฉันเดี๋ยวนี้ ขอโทษที่สาดเหล้าสาหน้าฉันกับตบหน้าฉัน” ผมเพิ่มแรงบีบที่ต้นแขนเป็นเท่าตัว เมื่อยังเห็นว่าเธอยังแค่นยิ้มกับคำพูดของผมอยู่ สงสัยว่ายัยนั่นเองละมั้งที่ประสาท -_-^

    “ทำไมฉันต้องขอโทษด้วยละ บอกเหตุผลหน่อยสิ”

    “ก็เพราะว่าเธอทำเกินกว่าเหตุ ดังนั้นจึงต้องขอโทษฉัน”

    “เฮอะ..ก็บอกแล้วไงว่านายมามีสิทธิ์มาสั่งฉัน”

    “นี่เธอ” ผมเพิ่มแรงบีบต้นแขนเข้าไปอีกจนเธอต้องนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ แต่ไม่ว่าจะเจ็บแค่ไหนก็ยังไม่ยอมขอโทษผมสักที ให้ตายสิ ยัยนั่นเป็นผู้หญิงประเภทไหนกันเนี่ย

    “จะบอกอะไรให้ฉันไม่จำเป็นจะต้องขอโทษนาย แต่ตรงกันข้ามนายต่างหากที่ต้องขอโทษฉัน ขอโทษที่ทำร้านร่างกายฉัน” ผมทำเสียงฮึในลำคอ ก่อนจะจ้องหน้าหน้าอย่างเธอเอาเรื่อง

    “เธอต่างหากละที่ต้องขอโทษฉัน..เดี๋ยวนี้”

    “นายกล้าสั่งฉันอย่างนั้นเหรอ..ดี แล้วนายจะรู้สึก”

    ก่อนที่ผมจะได้ตั้งตัว น้ำสีอำพันของวิสกี้เพียวเพียวก็ละเลงลงบนหัวของผมเรียบร้อยแล้ว นี่เธอ..บ้าเอ๊ย!

    “เธอ!

    “อ้อ แถมให้พิเศษอีกแก้ว ชอบนักไม่ใช่รึไงมาร์ตินี่เนี่ย”

    ซ่า!

    หมด หมดกัน..สภาพ ผมตามร่างของผู้หญิงคนนั้นไปอย่างโกรธจัด ก่อนจะเช็คบิลด์แล้วรีบวิ่งเข้าห้องน้ำ เสร็จแล้วจะได้ไปคิดบัญชีคืนเป็นสองเท่า

     

    ลานจอดรถ

    “หยุดเดี๋ยวนี้น่ะ!

    หมับ

    พอล้างหน้าเสร็จผมก็รีบวิ่งมากระชากแขนยัยนั่นที่ลานจอดรถทันที โชคดีน่ะที่ยัยนั่นไม่ไปซะก่อน ไม่งั้นก็ไม่รู้ว่าจะไปตามตัวคิดบัญชีได้ที่ไหน -_-^

    “ยังไม่พออีกรึไงกัน -_-^

    “ไม่พอแน่! ขอโทษฉันเดี๋ยวนี้น่ะ!

    “บ้ารึเปล่า คิดว่าทำแบบนี้แล้วฉันจะขอโทษรึไงกัน ฝันไปเถอะ -_-^” นี่ผมควรจะนับหนึ่งถึงสิบใช่มั้ย ไม่อย่างนั้นผมได้ต่อยหน้ายัยนั่นจริงๆ -_-^

    “ก็แค่คำว่าขอโทษเนี่ย แค่นี่เธอพูดไม่ได้รึไงกัน มันยากนักรึไง -_-

    “สำหรับนายมันอาจไม่ยาก แต่สำหรับฉันมันไม่ใช่ ฉันไม่ยอมเสียศักดิ์ศรีขอโทษนายหรอก เอาไว้ฉันตายก่อนเมื่อไหร่ นายก็ค่อยมาทวงคำคำนั้นจากฉันก็แล้วกัน ฉันอาจจะพิจารณาขอโทษนายก็ได้”

    “เธอ” ผมอึ้งไปกับคำพูดของยัยนั่น รอให้ตายก่อนแล้วไปทวงคำขอโทษ แล้วตอนนั้ผมจะต้องจุดธูปอันเชิญวิญญาณของยัยนั่นมาด้วยรึเปล่าวะ -0-

    “อ๊ะ” เพราะมัวแต่อึ้ง จึงไม่รู้ตัวเลยว่ายัยนั่นหลุดจาการเกาะกุมตั้งแต่เมื่อไหร่ ผมรีบวิ่งไปกระชากแขนยัยนั่นก่อนที่เธอจะได้สตาร์ทรถ กะเอาไว้แล้วว่ารวยไม่ใช่เล่น..ขับเฟอร์รารี่เลยเหรอ

    “ที่นายมาตามตื้อฉันเนี่ย เพราะต้องการคำขอโทษหรือต้องการเงินจากฉันกันแน่”

    ฮะ..ยัยนี่ ใช้วิธีเอาเงินฟาดหัวเลยเหรอเนี่ย

    “เก็บเงินของเธอเอาไว้เถอะ เพราะฉันไม่ต้องการ ฉันต้องการแค่คำขอโทษ เธอให้ฉันได้รึเปล่าละ”

    “สรุปเอาเท่าไหร..ห้าแสนพอมั้ย?” มันจะดูถูกเกินไปแล้วนะ

    พลั่ก

    “เอาซี่ ห้าแสนสำหรับฉันมันไม่มีค่าหรอก ลองเปลี่ยนจากเงินเป็นอย่างอื่นดีมั้ย?”

    ผมยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา ก่อนจะก้มลงมองยัยนั่นตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาโลมเลีย พลางขยับตัวเข้าไปไกลมากขึ้น

    “บ้านสักหลัง..พอมั้ย? หรือว่าที่ดินสักสิบไร่”

    “ของแค่นั้นนะ ฉันมีอยู่แล้ว แล้วก็มีเยอะซะด้วย”

    “แล้วนายต้องการอะไรกันแน่ ถึงจะพอใจแล้วเลิกตามมารังควานฉันสักที -_-^” ผมขยับเข้าไปพูดใกล้ๆ หูของยัยนั่น ฮะ ถ้าได้ฟัง คงวีนแตกแน่ๆ

    “ร่างกานเธอเป็นไง..น่าสนใจดี ได้มั้ย?”

    เพี๊ยะ!

    “ฉันไม่ใช่ผู้หญิงข้างถนนที่นายจะมาปู้ยี้ปู้ยำตามอำเภอใจได้..ห้าแสน ฉันจะให้นายไปห้าแสนแล้วเลิกตามมารังความฉัน”

    ผมยืนมองเธอหยิบเช็คชึ้นมาขึ้นมาเขียนๆ เซ็นต์ๆ อย่างเฉยชา ยัยนั่นคิดได้ไงว่าผมต้องการเงินขนาดนั้น (หน้าผมดูเป็นคนจนขานนั้นเลยเหรอ -0-) คงคิดว่าตัวเองเป็นนายธนาคารผลิตเงินขึ้นมาใช้เอง ถึงไม่ได้รู้จักคุณค่าของเงินขนาดนั้น

    หมับ

    “เอาไปห้าแสน คงจะพอนะ” ผมก้มลงมองเช็คในมือ ก่อนจะหยิบมันขึ้นมาฉีกทิ้งต่อหน้าต่อตายัยนั่น

    “เธอจะเอามันไปฟาดหัวใครก็ได้ แต่นั่นต้องไม่ใช่ฉัน เงินแค่ห้าแสนฉันก็มีแล้วก็มีมากกว่านั้นด้วย ไม่จำเป็นต้องให้เธอมาสงเคราะห์ ฉันว่าทางที่ดี เธอควรจะระวังเงินของตัวเองเอาไว้ดีกว่า เผื่อสักวัน..เงินมันจะหมดกระเป๋า ไม่มีแม้แต่จะใช้ ถึงตอนนั้นฉันอาจจะหัวเราะเธอเอาก็ได้”

    “นาย.. มันจะดูถูกฉันมากเกินไปแล้วน่ะ”

    “ฉันว่า เราเลิกเล่นกันดีกว่า เธอควรจะขอโทษฉันได้แล้ว ฉันไม่มีเวลามาเถียงกับเธอตลอดทั้งคืนหรอกน่ะ..หรือว่าจะไปเถียงกันต่อที่ห้องของฉันก็ได้น่ะ ฉันอนุญาต”

    “ต่ำ! ความคิดนายนี่มันต่ำจริงๆ”

    “แต่อย่างน้อยความคิดของฉันก็ไม่ได้ต่ำแบบกู่ไม่กลับอย่างเธอสักหน่อย”

    เพี๊ยะ!

    “นายยังเป็นลูกผู้ชายอยู่รึเปล่า..ถึงได้ด่าฉันแบบนี้น่ะ” ยัยนั่นจ้องราวกับจะกินเลือดกันเนื้อแต่ก็ได้แต่จ้องเท่านั้นละมั้ง -_-;

    “ฉันเป็นลูกผู้ชายเป็นสุภาพบุรุษกับสุภาพสตรีที่ดีเท่านั้น..ไม่ใช่แบบเธอ ขะชอโทษฉันได้รึยัง ฉันรอมานานแล้วน่ะ -_-;

    “เลวว่างั้นเถอะ ผู้ชายอย่างนายนี่มันกู่ไม่กลับจริงๆ” ผมขยับเขาไปเบียดยัยนั่นมากขึ้นหลังจากที่ผลักเธอให้ไปติดกับรถ

    “ปากจัดจังน่ะ..ไม่รู้ว่าข้างในจะหวานหรือว่าจัดจ้าน”

    “จะทำอะ..อุ๊บ!” ก่อนที่เธอจะทำร้ายผมอีกครั้ง ผมก็เลยถือโอกาสตอนนี้ปิปากของเธอซะ ผมเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าผู้หญิงปากจัดคนนี้ข้างในมันจะหวานรึเปล่า

    “อึก”

    ผมใช้มืออีกข้างเชยคางเธอขึ้น แล้วเบียดร่างของตัวเองเข้าไปหาเข้าไปหาเธออีกจนไม่เหลือช่องว่างระหว่างเรา ผมบดคลึงริมฝีปากของเธออย่างแรง ก่อนจะสอดลิ้นเข้าไปความหาความหวานจากภายในจนพอใจ แต่ก็ยังไม่เต็มอิ่ม..จากนั้นริมฝีปากก็ค่อยๆ เลื่อนไปที่แก้มและตามลำคอระหง สุดท้ายจึงวกกลับมาหยุดริมฝีปากไว้ที่เดิม ผมจูบยัยนั่นอีกครั้งและอีกครั้งอย่างรุนแรงและร้อนแรงกว่าเดิม จูบจนลืมเวลาว่านานเท่าไหร่ ลืมสถานที่ว่าที่คือที่ไหน ลืมแม้กระทั่งว่าไม่เคยรู้จักผู้หญิงที่กำลังจูบอยู่ แต่ก็ช่วยไม่ได้นี่นา ใครใช้ให้ริมฝีปากของยัยนั่นหอมหวานน่ากินแบบนี้ละ หึ..ผมยังคงจูบยัยนั่นไม่ยอมปล่อยมาปล่อยตัวเธออีกที เมื่อเริ่มรู้สึกว่าร่างบางใต้อาณัติหยุดการขัดขืนและดูเหมือนว่าร่างกานจะอ่อนปวกเปียกไปหมด ผมถอนริมฝีปากออกมาอย่างอ้อยอิ่งแกมเสียดาย ก็มันเสียดายจริงๆ นี่นา อุตส่าห์ของดีทั้งที -.,-

    “เธอ”

    แปะ แปะ

    “ตื่นสิ เฮ้! ตื่นสิวะ -_-^

    หลังที่ถอนจูบ ก็ทำให้ผมรู้ว่า...ยัยนั่นเป็นลมไปแล้ว -0-; อะไรวะ โดนจูบแค่นี้ถึงกับเป็นลมเลยเหรอเนี่ย หรือว่าเป็นจูบแรกวะ =0=^ ผมมองหน้ายัยนั่นอย่างเซ็งกับชีวิต ทำไมต้องมาลงที่ผมวะ -_-*

    “ให้ตายเหอะ..นี่ฉันจะต้องแบกเธอกลับด้วยใช่มั้ยเนี่ย -_-^

    “...” เงียบ ไอ้ผมก็รู้หรอก คนเป็นลมที่ไหนมันจะพูดได้ แต่ก็แค่ถามไปอย่างนั้นเอง เผื่อจะมรใครตอบกลับมา -0-

    “มันน่าทิ้งให้เสือแบกลับไปกินที่บ้านจริงๆ -_-^

    ผมบ่นอุบอิบก่อนจะคว้าร่างของยัยนั่นขึ้นมาอุ้มแล้วพาไปที่รถของตัวเอง นอกจากจะไม่รู้จักแล้วเนี่ยผมยังต้องพาเธอกลับบ้านด้วยเหรอเนี่ย ให้ตาย...อาเมน

     

    วันรุ่งขึ้น คอนโดคนโสด

    -_-<- จ้อง

    คนรู้จักก็ไม่ใช่ ยังอุตส่าห์แบกกลับมาที่พักอีก เฮ้อ~ อะไรจะใจบุญขนาดนี้น่ะ -0-^ หลังจากที่จ้องหน้ายัยนั่นสักพักผมก็เดินออกมาสูดอากาศที่ระเบียงห้อง ไม่รู้ว่ายัยนั่นตื่นขึ้นมาจะกระทืบผมรึเปล่า แต่ก็ไม่แน่อ่ะน่ะ อาจจะตื่นขึ้นมาแล้วสับผมเป็นชิ้นๆ ก็ได้ แต่เฮ้! เมื่อคืนผมไม่ได้ล่วงเกินอะไรเธอเลยน่ะ (แอบร้อนตัว) แค่เปลี่ยนเสื้อผ้าให้เอง =0=; แต่เมื่อคืนผมปิดไฟน่ะ..ไม่เห็นอะไรเลย มันมืดตื๋อไปหมด ทั้งที่ใจเรียกร้องอยากจะเห็นจะตาย T_T แต่ก็ต้องอดทนเพื่อความเป็นสุภาพบุรุษ T^T เห็นมั้ย ว่าผมใจดีขนาดไหนเนี่ย

    “อืม” ผมค่อยๆ เดินเขามาในห้องเมื่อได้ยินเสียงครางของใครบางคนดังเข้ามาในหู

    “ตื่นแล้วเหรอ -_-

    “หืม..นาย” ยัยนั่นขยี้ตาสองสามครั้งก่อนจะเพ่งมองอย่างชัดๆ อีกที จากนั้นก็...ไม่ต้องบอกก็รู้ -_-v

    “กรี๊ดดดดดดดดดดดด!!!

    “เออ กรี๊ดเข้าไป -_- เดี๋ยวก็ได้ลูกซองสักนัดมากินแทนข้าเช้าหรอก”

    “นาย..นายมาอยู่ที่ห้องของฉันได้ยังไง แล้ว..แล้วเมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้น กรี๊ดดด~ >0<

    “ไว้เธอหยุดกรี๊ดก่อนเมื่อไหร่แล้วฉันค่อยบอก -_-^

    “ไม่! นายต้องบอกฉันมาเดี๋ยวนี้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น..แล้วทำไมนายต้องใส่แค่กางเกงยีนส์ตัวเดียวมาเดินอยู่ในห้องของฉันล่ะ T_T

    ประสาท -_-^ ยัยนั่นมองยังไงเนี่ยว่านี่เป็นห้องของเธอเอง นี่มันห้องของผมขัดๆ นี่นา -_- หรือว่าโดนภาพเช้านี้หลอนจนเป็นประสาทกันแน่

    “แหกตาเธอดูให้ดีนี่มันห้องของเธอรึไงกัน -_-^” พอผมพูดจบยัยนั่นก็หันไปมองรอบๆ ห้องทันที ถ้ายัยนั่นคิดว่าเป็นห้องของเธอเองมันคงจะมีเสื่อผ้า สัมภาระและของใช้ของผู้ชายเนอะ -_-;

    “อ้าว..นี่มันไม่ใช่ห้องของฉันหรอกเหรอ..นี่อย่าบอกน่ะว่าห้องของนายน่ะ?”

    -_-

    “แง้! ไม่ต้องมามองฉันด้วยสายตาแบบนั้นเลยน่ะ..บอกฉันมาเดี๋นวนี้เลยนะว่ามันเกิดอะไรขึ้น ฃแวใครมาเปลี่ยนชุดให้ฉัน Y_Y” ยัยนั่นยกมือขึ้นกุมคอเสื้อตัวเองทันที นี่กลัวผมจะถลาเข้าไปปล้ำรึไง ถ้าจะปล้ำจริงๆ ล่ะก็ยัยนั่นคงเสร็จผมไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ไม่รอให้รอดจนถึงขนาดนี้หรอก -_-^

    “ฉันเองล่ะที่เป็นคนเปลี่ยนชุดให้เธอ”

    “อะไรน่ะ..นายเป็นคนเปลี่ยนชุดให้ฉันอย่างนั้นเหรอ แง้! แล้วนายเห็นอะไรไปบ้างล่ะเนี่ย อ๊ากกก~ ฉันจะบ้าตาย T^T

    น่ารักว่ะ ยัยนั่นทำตัวเหมือนคนกำลังจะตายแบบนั้นแล้วน่ารักดีออก ดีกว่าตอนทำหน้าไร้อารมณ์เยอะเลย -.,-

    “ไม่เห็น”

    “โกหก ฉันไม่เชื่อนายหรอก บอกมาเดี๋นวนี้น่ะว่าเห็นอะไรไปบ้าง ไม่อย่างนั้นฉันไม่ยอมจริงๆ ด้วย T^T

    “จะเอาอะไรกันนักกันหนาวะ บอกว่าไม่เห็นแล้วยังจะถามอีกว่าเห็นรึเปล่า แถมไม่เชื่ออีกต่างหาก แต่พอบอกว่าเห็นก็ร้องกรี๊ดบอกว่าไม่เป็นสุภาพบุรุษ แล้วนี่เธอต้องการให้ฉันพูดอะไรกันแน่ พูดไอ้นู่นก็ไม่ได้ไอ้นี่ก็ไม่ได้ ช่วยเลือกมาสักอย่างได้มั้ย ฉันจะได้พูดถูก -_-^^

    “ฮึก TT_TT

    “ไม่ต้องมาทำหน้าน่าสงสาร ฉันไม่ใจอ่อนหรอกน่ะ -_-^” ไอ้แบบนี้น่ะ มันต้องน่าฆ่าให้ตายสถานเดียว

    “ฮือ TT^TT

    -_-^^

    “แง้! ฮึก ฮือๆๆ T_T

    เวร =_=; นี่ผมทำยัยนั่นร้องไห้เหรอเนี่ยแต่ผมไม่ได้ทำอะไรยัยนั่นสักหน่อย แล้วเธอจะร้องไห้ทำไมเนี่ย เป็นเรื่องแล้วไง T_T

    “จะร้องทำไมเนี่ย ฉันไม่ได้ทำอะไรเธอสักหน่อย -0-

    “ฮึก..ฮึก ฮือๆ T_T” อ้าว..แล้วถ้าเป็นแบบนี้จะพูดกันรู้เรื่อฝมั้ยเนี่ย

    “อย่าเพิ่งร้องสิยัยบ้า ยังคุยกันไม่รู้เรื่องเลย..ฉันยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอเป็นใคร มาจากไหน ชื่ออะไรน่ะ”

    “ฮือๆๆ T_T

    “เออๆ ฉันขอโทษก็ได้ฟะ -_-; แต่ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดนี่นาจะขอโทษเธอทำไมเนี่ย -0-

    “ฮึก..ฉันไม่ให้อภัยถ้านายไม่ยอมบอกฉันว่าฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง T_T” ให้ตาย -_- นี่ยัยนั่นยังจะคิดถามอีกเหรอเนี่ย..ผมละเชื่อเธอจริงๆ เลย

    “จะให้ฉันย้อนความทรงจำของเธอมั้ย จะได้รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นแล้วมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง -_-*

    “มะ..ไม่ต้อง ฉันไม่อยากรู้ก็ได้วะ แต่ว่านายไม่ได้ทำมิดีมิร้ายฉันใช่มั้ย T^T

    -_-^ เมื่อคืนฉันปล้ำเธอไปแล้วล่ะ..เช้านี้ก็กะว่าจะพาไปขายต่อคงได้ราคาดีไม่น้อย” ผมโกหก -_-^ ใครมันจะไปมีอารมณ์ปล้ำผู้หญิงตอนกำลังหลับว่ะ คนอื่นอาจไม่แน่แต่นั้นไม่ใช่ผทแน่นอน -_-^

    TT^TT! นะ..นานล้อเล่นใช่มั้ย ฉะ..ฉันยังปริสุทธิ์อยู่ใช่มั้ย Y_Y

    ผมว่าถ้าล้อเล่นเธอต่อไปคงได้มีน้ำตารอบสองแน่ๆ และถ้าถึงตอนนั้นเราก็คงจะพูดไม่รู้เรื่องและไม่รู้เรื่องจนถึงที่สุด ทางที่ดีควรหยุดเอาไว้แต่นี้จะดีกว่าถึงจะอยากแกล้วก็เถอะ =0=;

    “โอเค เธอฟังฉันให้ดีน่ะ ทุกอย่างที่ฉันจะพูดต่อไปนี้มันคือความจริง เธอจะเชื่อฉันหรือไม่มันก็แล้วแต่เธอเพราะฉันได้พูดความจริงออกไปแล้ว..เมื่อคืนที่ผับ Xtrazy เธอสาดวิสกี้เพียวเพียวแล้วก็มารตินี่ใส่หน้าฉันโดยที่ยังไม่ขอโทษ..ขอโทษฉันซะก่อนแล้วฉันจะละเว้นเธอ -_-^

    “ทะ..ทำไมฉันต้องขอโทษนายด้วยล่ะ -0-!

    “ก็แล้สแต่น่ะ..เขายอกกันว่าเช้าๆ ผู้ชายมักมีอารมณ์อย่างว่าแล้วยิ่งโดยเฉพาะมีผู้หญิงนอนอยู่บนเตียงด้วยเนี่ย เขาบอกว่าจะมีอารมณ์คึกเป็นพิเศษ ไอ้ฉันเองก็ไม่รู้หรอกน่ะว่ามันจริงอย่างที่พูดรึเปล่า..ก็เลยอยากจะลองทดสอบดู ไหนๆ ก็มีผู้หญิงอย่างเธออยู่ด้วยแล้ว..คงจะสนุกไม่น้อย” ผมเดินย่างสามขุมเข้าไปหายัยนั่นที่เตียง เท่านั้นล่ะเธอก็ถอยกรูดจนติดหัวเตียงไปเลยแถมยังพูดคำที่ผมต้องการมากที่สุดออกมาด้วยล่ะ!

    “อย่ามาทำอะไรบ้าๆ แบบนั้นกับฉันน่ะ..ฮึก ฉันขอโทษนายก็ได้ ฉันขอโทษ T_T

    “เธอว่าอะไรน่ะ ฉันไม่ได้ยินเลย”

    “ฉันขอโทษ T^T

    “ว่าไงน่ะ”

    “ฉันขอโทษ!

    “อะไรน่ะ อะไรเกิดๆ ฉันได้ยินไม่ถนัดเลย ใครจะเกิดรึไง -0-

    “ฉันขอโทษ! ได้ยินมั้ยว่าฉันขอโทษ!! ฉันขอโทษ!!” โอ้โฮ..ต้องการแค่ประโยคเดียวแต่นี่ยัยนั่นใจบุญกลับแถมมาให้ตั้งหลายประยึแน่ะ อะไรจะใจบุญขนาดนี้น่ะ

    “อืม..ชื่นใจแฮะ เอาล่ะฉะนจะเล่าต่อล่ะกัน ถึงไหนแล้วเนี่ย”

    TT^TT

    “โอเค...จากนั้นฉันก็ตามไปเอาคำขอโทษจากเธอที่ลานจอดรถแต่เธอก็เอาแต่ปฎิเสธลูกเดียวเราก็เลยมรปากเสียงกัน ตอนนั้นฉันโมโหที่เธอไม่ยอมขอโทษฉันก็เลย..จูบเธอไป แต่ก็ยังไม่เข้าด้ายเข้าเข็มเธอก็ชิงเป็นลมไปซะก่อนฉันก็เลยต้องแบกเธอกลับมาที่ห้องของฉัน..แล้วฉันก็เป็นคนเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอเอง..ไม่ต้องมาด่าฉันเลยน่ะ -_-^” ผมรีบพูดดักคอยัยนั่นเพราะรู้ดีว่าเธอจะต้องด่าผมแน่ ก็แน่ล่ะ..ใครจะพูดชมบ้างก็ให้มันรู้ไป

    “ไม่ต้องมาทำเป็นรู้ดี เล่าต่อไปเลยน่ะ T_T

    “ก็จบแล้วไง..ฉันต้องเล่าอะไรอีกรึไง”

    “นายยังไม่ได้บอกฉันเลยน่ะว่าตอนเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ฉัน นายเห็นอะไรที่ไม่สมควรรึเปล่า T_T

    “หน้าอกแบนๆ เหมือนไม้กระดานอัดนั่นน่ะเหรอ -_-^

    “กรี๊ดดดดดดดด!! นายเอาอะไรมาพูดน่ะว่าหน้าอกฉันแบนราบเหมือนไม้กระดานอัดน่ะ TT^TT

    ผมแทบกลั้นเสียงหัวเราะเอาไว้ไม่ไหวเมื่อยัยนั่นตั้งท่าจะลงไปชักดิ้นชักงอกับพื้นห้อง ฮ่าๆ ขำว่ะ ^0^

    “งั้นเธอก็ยอมรับน่ะสิว่าหน้าอกของเธอแบนเหมือนไม้กระดานอัดจริงๆ”

    “กรี๊ดดดดดดด!! ไอ้บ้า ไอ้โรคจิตไปตายซะ!

    ฟิ้ว~

    “เฮ้ย! อย่าเล่นแบบนี้สิ” ผมโวยวายลั่นห้องเมื่อยัยนั่นขว้างหมอนใส่ผมไม่หยุด

    ฟิ้ว~

    “ไปตายซะไอ้โรคจิต!

    ฟิ้ว~

    “เฮ้ย! เดี๋ยว..”

    พลั่ก

    “อั้ก” หน้าผม! ยัยนานขว้างหมอนมาโดนหน้าผม! นี่ถ้าโดนอย่างอื่นจะไม่ว่าเลยน่ะแต่นี่มันโดนหน้าผม.งมันเป็นของรักของหวง แบบนี้ยอมให้ไม่ได้เฟ้ย!

    “สมน้ำหน้า แบร่ :P ฉันกลับก่อนล่ะกันหวังว่าคราวหน้าเราคงไม่ต้องเจอกันอีก! บ๊ะบ่าย” หน็อย ยัยบ้า!

    “หยุดเดี๋ยวนี้น่ะยัยบ้า! คิดเหรอว่าฉันจะยอมปล่อยเธอไปง่ายๆ น่ะ..ไม่มีทางหรอก หยุดเดี๋ยวนี้น่ะ! ฉันบอกให้หยุด!!

    ตึกๆ~

    “หยึดให้โง่อ่ะดิ แบร่ :P

    “หน็อย -_-^

    ตึกๆ~ หมับ!

    ผมรีบวิ่งสุดฝีเท้าก่อนจะกระโดดตะครุบตังยัยนั่นเอาไว้ทำหะวกเราเสียหลักล้มลงแล้วกลิ้งไปกับพื้นห้อง

    ทั่กๆๆๆ~ กึก!

    หลังจากที่กลิ้งกันมาสักพักพวกเราก็มาติดอยู่กับประตูกระจกบานเลื่อนก่อนถึงระเบียงห้อง สภาพของพวกเราอยู่ในลักษณะที่ยัยนั่นอยู่ด้านบนโดยมีผมอยู่ด้านล่าง -_-^ เรียกได้ว่าผมนี่ละที่รับทุกอย่าง ไม่ว่าน้ำหนังของคนด้านบนหรือว่าแรงกระแทกทั้งพื้นห้องและก็สิ่งของ -_-^

    “อุ๊ย!” ยัยนั่นอุทานออกมาเมื่อผมและเธอเงยหน้าขึ้นพร้อมกับทำให้ริมฝีปากของเราเกือบชนกัน มันก็สมควรเพราะว่าช่องว่างระหว่างเราสองคนแทบจะไม่มี..นี่เป็นครั้งแรกนะที่ผมได้เห็นใบหน้าของยัยนั่นใกล้ขนาดนี้ ถึงแม้ว่าจะเคยจูบเธอมาแล้วก็เถอะ แต่ตอนนั้นผมก็ไม่ได้สังเกตมัวแต่ควานหาความหวานจากริมฝีปากอิ่มอมชมพูนั่น..เห็นไกลๆ ก็ว่าสวยแล้วแต่ยิ่งมามองใกล้ๆ ระยะประชิดแบบนี้ก็ยิ่งสวยเข้าไปอีก ฮะๆ ไม่รู้จะอธิบายยังไงดีกับความสวยของผู้หญิงคนนี้ เอาเป็นว่าสวยหาตัวจับยากก็แล้วกัน

    “จะปล่อยได้รึยัง -_-//

    “คิดว่าไงละ หืม? เมื่อกี้เธอทำร้ายร่างกายฉัน คิดว่าควรจะชดใช้ยังไงถึงจะคุ้ม” ผมกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นเข้าไปอีกเอาให้ดิ้นหนีไม่ได้เลย

    “ขอโทษ! พอใจรึยัง..ปล่อยฉันได้แล้ว”

    “ง่ายเกินไปมั้ง -0- ทีตอนทำล่ะไม่คิดพอตอนนี้จะมาขอความเมตตา” ยัยนั่นอ้าปากเหวอไปเลยทีเดียว ผมอยากจะบอกเธอมากเลย..น่ากินว่ะ -0-

    “แล้วนายจะให้ฉันทำยังไงล่ะ”

    “เอ๋..ทะอะไรดีน้า เอาแบบนี้ก็แล้วกัน ฉันให้เธอคิดเองดีกว่าว่าจะชดใช้ให้ฉันยังไง..ดีมั้ย?”

    “นายแน่ใจนะว่าพูดจริงนะ T_T

    “เอ้า ก็ต้องพูดจริงนะสิ ฉันไม่โกหกผู้หญิงสวยๆ น่ากินแบบเธอหรอกหน่า..สบายใจได้” แทนรอยยิ้มจริงใจผมก็ยิ้มเจ้าเล่ห์ให้เธอแทน สงสัยว่างานนี้..มีเฮ หึๆ

    “ก็ได้ๆ ฉันจะลองเชื่อใจนายดูสักครั้ง เอาเป็ว่าฉันจะเลี้ยงข้าวนายเป็นการชดใช้ก็แล้วกัน..แล้วคราวนี้จะปล่อยฉันได้ยังอ่ะ”

    “จ้าๆ -_-

    ไรหว้า..จับนานหน่อยก็ไม่ได้ หวงตัวจริงๆ -.,- ผมปล่อยมือออกจากร่างของเธออย่างเสียดาย (อย่างสุดซึ้ง) พอเป็นอิสระปุ๊บ ยัยนั่นก็เด้งตัวออกจากผมทันทีแถมยังเว้ยระยะห่างเราไปซะไกลเชียว -_-; นี่ยัยนั่นคิดจริงๆ เหรอเนี่ยว่าผมจะปล้ำนะ เชื่อเค้าเลย -0-;

    “เธอสัญญากับฉันแล้วนะว่าจะเลี้ยงข้าวเป็นการชดใช้น่ะ ถ้าเบี้ยวล่ะก็ฉันจะคิดเป็นสองเท่าแล้วก็จะมาเอาคืนทบต้นทบดอก แต่ถ้าคิดหนีเมื่อไหร่..ตายอย่างเขียด -_-+

    “ตานอย่างสิงห์ไม่ได้เหรอ T_T

    “สิงในนรกจะเอารึเปล่าล่ะ -_-+

    “ง่ะ T^T” ผมถอนหายใจออกมาอย่างเซ็งๆ ผู้หญิงนี่เป็นเพศที่เข้าใจยากจริงๆ ว่ามั้ย? เอะอะอะไรหน่อนเดียวเดี๋ยวก็ตบ เดี๋ยวก็ร้องไห้ เดี๋ยวก็งอนบ้างล่ะ แล้วไหนจะแค้นบ้างล่ะ..วุ่นวายจริงๆ -_-*

    “รู้แล้วก็จำใส่สมองไว้ด้วยล่ะ -_-+

    “อืมๆ...เอ๊ะ! นะ..นาย..นาย..นั่น..นั่นตัวอะไรนะ O_O” ยัยนั่นตอบรับก่อนจะอุทานออกมาอย่างตกใจพลางชี้ไม้ชี้มือไปด้านหลังผมอย่างหวาดหวั่น เป็นบ้าอะไรขึ้นมาอีกล่ะนั่น -*-

    “อะไรของเธอ -_-*

    “หันไปดูสิ TT_TT” ผมมองหน้ายัยนั่นอย่างคาดโทษ นี่ถ้าหันไปแล้วไม่เจออะไรล่ะก็ พ่อจะฟัดให้ดูเป็นขวัญตา -_-++

    “ก็ไม่เห็นมีอะไรเลยนี่นา เธอตาฝาด..”

    พลั่ก!

    “อุ๊ก!!

    “สมน้ำหน้า แบร่ : P

    “..เธอ..”

    ผมยกมือขึ้นชี้หน้ายัยนั่นแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ได้แต่ทรุดลงไปกองกับพื้นอย่างเจ็บปวด ยะ..ยัยนั่นเตะผ่าหมากผม บ้าเอ๊ย..เจ็บฉิบ อย่าให้เจออีกนะ ผมจะเอาคืนให้สาสมเลยคอยดู -_-+++ อะ..อูย เจ็บ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×