คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 2 ฟ้ามีตา (แต่ไม่มีแวว)
ฟ้ามีตา (แต่ไม่มีแวว)
“ฉันไปก่อนนะรุ้ง”
“มันจะมีเด็กมาสายอีกเหรอวะ.. โรงเรียนเองก็มีหอให้อยู่” -_-^ ฉันคิดว่าฉันพูดกับยัยนั่นรู้เรื่องตั้งแต่เมื่อวานแล้วนะ
“ก็พวกที่ไปเช่าคอนโดฯหรือไม่ก็อพาสเมนส์อยู่ไง แกนี่ก็ถามแปลกๆ ฉันเสียเวลากับแกมามากแล้วนะยัยรุ้ง ฉันไปก่อนล่ะ” ฉันโบกมือบ๊ายบ่ายยัยนั่นก่อนจะเดินออกมา
“(‘ ‘)”
เมื่อฉันมาถึงหน้าประตูโรงเรียน นายคินก็หันมามองฉันด้วยสายตาเย็นชาทันที สงสัยคงอยากจะบอกฉันว่า ‘เธอมาช้าไป 3 วินาที’ อะไรประมาณนี้ =_=
“ขอโทษที่มาช้า -_-“
“(‘ ‘)” เหอะ ฉันละอยากรู้จริงๆ ว่าหมอนั่นเคยยิ้มให้ใครบ้างหรือเปล่าเนี่ย -_-^^
“ตกลงนายจะไม่พูดกับฉันใช่มั้ย? -_-^”
“(‘ ‘)” หมอนั่นหันมามองหน้าฉัน
“-_-^” ฉันเองก็หันไปจ้องหมอนั่น ไม่นานบรรยากาศรอบๆตัวฉันก็เริ่มเย็นลงเรื่อยๆ สาเหตุก็มาจากหมอนั่นละ ไม่รู้ว่าตอนเด็กๆ ไปกินน้ำแข็งจากขั้วโลกมาหรือไงนะ ชอบแผ่ออกมาจริงๆเลย -_-
“(‘ ‘)”
“คนเรานี่ก็แปลกเนอะ มีปากแต่ไม่ยอมพูดออกมา สงสัยว่ากลัวดอกพิกุลจะร่วงออกมาจากปาก”
ฉันพูดกระแนะกระแหนหมอนั่น ก่อนจะหันไปสนใจเด็กที่มาสายแทน
“หอพักในโรงเรียนก็มีไม่ยอมอยู่ ชอบไปเช่าคอนโดฯอยู่กันจริงๆ... คราวหน้าถ้ามาสายอีกละก็ ฉันจะตัดคะแนนความประพฤติออกซะ!”
“ครับๆ T_T“ ไอ้เด็กเวรนั่นทำหน้าตาละห้อย ก่อนจะเดินออกไปทันที พอได้โอกาสฉันก็หันกลับไปหา อีตาคิน พร้อมกับพูดแขวะ
“ทำไม เกิดมาไม่เคยเห็นหน้าผู้หญิงรึไง จ้องอยู่ได้ -_-^”
“ไม่เคยเห็นผู้หญิงปากมากเหมือนเธอมาก่อนต่างหาก (‘ ‘)”
ขวับ!
ฉันหันกลับไปมองหมอนั่นอย่างตกใจ มะ..เมื่อกี้หมอนั่นพูดกับฉันงั้นเหรอ? พระเจ้า! ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย ให้ตายเถอะ -_-^ หรือว่าฉันจะหูฝาดไปหว่า!
“เธอทำยังไงคินถึงพูดกับเธอได้นะ -_-^” ฉันหันกลับไปมองทางต้นเสียง ปรากฏว่าเป็นยัยปาขี้นั่นเอง
“ฉันไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย หมอนั่นพูดกับฉันเองต่างหาก -0-“จริงๆน่ะ ยัยนั่นมองฉันด้วยสายตาคมกริบก่อนจะถอนหายใจออกมา
“เอาเถอะ ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรเธอสักหน่อย.. แต่อย่ามาแย่งคินไปจากฉันละกัน ไม่อย่างนั้นเธอไม่ตายดีแน่ -_-^” จะแย่งหรือไม่แย่ง ฉันก็มีชะตากรรมเดียวกันละหว้า
“มีอะไรก็รีบๆ พูดมาเถอะ ได้เวลาเข้าเรียนแล้ว”
“อีกสองวันฉันจะให้เธอเริ่มแผนแรก เตรียมตัวเอาไว้ให้ดีด้วยล่ะ.. อ้อ ส่วนแผนการฉันเป็นคนคิด เธอมีหน้าที่แค่จัดฉากจำเอาไว้ด้วยล่ะ” พูดจบยัยนั่นก็สะบัดตูดเดินจากไป อะไรวะ... ฉันมีหน้าที่แค่จัดฉากเองเหรอเนี่ย =_= แล้วยัยนั่นจะจ้างฉันเอาไว้ทำซากอะไรวะ
ห้องเรียน
“ฟู่~ ยัยริบบิ้น ฉันนึกว่าแกจะได้เรียนห้องเดียวกับพวก Royal Knight ซะอีก ใจฉันเนี่ยคว่ำไปไม่รู้กี่ตลบแล้ว -^-“พอฉันย่างเท้าเข้ามาในห้องเรียนก็ได้ยินเสียงบ่นเว่อร์ๆ ของยัยรุ้งดังเข้ามากระทบแก้วหู
“แกก็พูดเกินไป ฉันหัวสมองไม่ถึงขั้นอัจฉริยะขนาดนั้นหรอก คนบ้าอะไรเก่งฉิบ!!”
“แถมหล่อเลิศ เพอร์เฟ็กต์อีกต่างหาก >0<” อีกล่ะ พูดถึงเรื่องเก่งๆ ทีไร ต้องกลับมาพูดถึงพวกเวรนั่นทุกที ฉันละโคตรเอียนเลย -_-;
“มีใครเคยบอกแกมั้ยว่าบ้าผู้ชาย -_-^” ฉันบ่นอย่างอารมณ์เสีย ก่อนจะหยิบหังสือเรียนขึ้นมาเปิดอ่านเพื่อเตรียมเรียน
“ไรของแกหว้า.. บ่นไม่เข้าเรื่องเลยจริงๆ”
ฉันไม่พยายาม (ที่จะ) ไม่สนใจเสียงบ่นกระเหง้ากระหงอดของยัยรุ้ง ให้ตายเถอะ นอกจากยัยนั่นจะบ้าผู้ชายเข้าขั้นเทพชนิดอาการสาหัสแบบกู่ไม่กลับแล้ว ยัยนั่นยังบ่นเก่งอีกต่างหาก ฉันคิดถูกหรือเปล่าเนี่ยที่มีเพื่อนเก่งไปซะทุกเรื่อง (ยกเว้นเรื่องเรียน) แบบนี้น่ะ =_=;;;
‘คิน Royal Knight
ชื่อจริง ภาคิน วิวัติวงศ์ รีสโตเคิล
เกิดวันที่ 29 เดือน xxx พ.ศ. xxx เบอร์โทร 08x-xxxxxxx
ที่อยู่ในโรงเรียน หอกลาง ที่อยู่นอกโรงเรียน คอนโด Xxx
ความสามารถพิเศษ อัจฉริยะทุกด้าน
กิจกรรมที่ชอบ อ่านหนังสือได้ทุกสถานที่ ทุกเวลา ทุกสถานการณ์
อาหารที่ชอบ ทานได้ทุกอย่าง
นิสัยใจคอ เย็นชาชนิดช่องฟิตยังยอมแพ้ นิ่งซะจนเสายังอาย แรงควายชนิดที่ควายยังขอบาย (ไอ้ข้อหลังนี่มันไม่ใช่แฮะ -0- ) หล่อซะจนเทพบุตรยังโหวตให้ เก่งซะจนหนังสือเรียกพี่
ไว้มีข่าวคราวความคืบเราจะมาอัพเดตให้อีกนะค่ะ ^^’
=_=^^ มันไม่ได้ช่วยอะไรเล้ย อย่าแปลกใจไปล่ะ ไอ้ที่ฉันถ่างตาอ่านอยู่เนี่ยมันคือประวัติอันน้อยนิด (นิดจริงๆ) ของอีตาคิน พ่อทูนหัวของโรงเรียนรองลงมาจากประธานฯ -_-^ ถ้าถามว่าฉันไปสรรหามาจากไหน ก็ขอบอกเอาไว้เลยว่าฉันไปเอามาจากเว็บบอร์ดของโรงเรียน อยากรู้จริงๆ เลยว่าไอ้มนุษย์หน้าไหนมันไปแอดเอาไว้วะ น่าจับเตะซะให้ตายเลยเชียว -_-^^^ ข้อมูลที่ได้มาก็ได้ไม่มาก ไร้สาระทั้งนั้น จะบอกอะไรให้น่ะ ว่าข้อมูลของอีตามนุษย์สุดเย็นชานี่นะสั้นกว่าของคนอื่นในบรรดาสี่คนนั้นอีก! ไม่รู้จะลึกลับซับซ้อนไปใย
“เป็นอะไรไปริบบิ้น ฉันเห็นแกนั่งทำหน้าเครียดอยู่ตั้งนานแล้ว”
“เปล่า” ฉันตอบปฏิเสธก่อนจะวางประวิติของอีตาคินลงบนโต๊ะอย่างหมดอารมณ์
“อ๊ะ... ประวัติคิน แกอ่านมันด้วยเหรอ ไหนเห็นแกบอกฉันว่าไม่สนใจไง ที่แท้พอลับหลังหน่อยเดียวก็เอาประวัติคินมาอ่านซะแล้ว” ยัยรุ้งพูดพร้อมหรี่ตาลงพิจารณาฉันด้วยสายตาคมกริบ
“ช่าย~ ฉันเป็นผู้ช่วยหมอนั่นทำไมฉันจะอ่านประวัติของหมอนั่นไม่ได้ละ” ฉันแกล้งพูดไปอีกแบบจนยัยรุ้งสะอึกหาคำพูดมาจับผิดฉันฉันไม่ได้
“เชอะ! คราวนี้รอดไปนะแก ถ้าคราวหน้าเจออีกละก็แกเสร็จฉันแน่” ยัยนั่นพูดอย่างหมายมั่นปั้นมือ แล้วคิดรึไงว่าคราวหน้าฉันจะให้ยัยนั่นจับได้ ไม่มีทางซะหรอก -_-
“...”
“ยัยบิ้นนี่อย่าบอกนะว่าแกสนใจคินขึ้นมานะ” จู่ๆ ยัยรุ้งก็ถามฉันด้วยสีหน้าจริงจังจนฉันขนลุกซู่ไปหมด ก็นานๆ ทียัยนั่นจะถามอะไรที่มันจริงจังแบบนี้นี่นา ฉันก็ต้องขนลุกบ้างเป็นตามธรรมดา
“เฮ้อ! ฉันเคยบอกแกแล้วไงว่าฉันไม่สนใจหมอนั่น แล้วแกยังจะมาถามเอาความอะไรจากฉันอีกเนี่ย -0-“
“ก็ฉันสนใจของฉันอ่ะ แกอย่าหาว่าฉันว่าแกเลยนะริบบิ้น ฉันรู้สึกว่าช่วงนี้แกแปลกๆ ไป”
“ยังไง?” ฉันถามยัยนั่นอย่างไม่เข้าใจ แต่ฉันคิดว่ายัยนั่นต้องหาว่าฉันบ้าผู้ชายขึ้นมากแน่ๆ
“ฉันว่าแกบ้าผู้ชายขึ้น จากที่ดูหงิมๆ ก็ดูกล้าขึ้น ฉันได้ยินพวกเด็กห้องหนึ่งมันพูดกันให้แซดเลยว่าเมื่อวันก่อนแกเดินชนไหล่คิน แถมยังอยู่ต่อหน้าเจ๊สุรีย์อีกต่างหาก จริงรึเปล่าวะ?”
แหม ไอ้ข่าวพรรค์นี้ละแพร่เร็วกว่าเชื่อไข้หวัดนกซะอีกนะ ทั้งๆ ที่เพิ่งจะเกิดเรื่องไปเมื่อวานรวมวันนี้ก็ยังไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมงเลย -_-^
“เหอะ.. แล้วแกจะอยากรู้ไปทำไม?”
“ไม่ต้องมาเฉไฉ อ๊ะ O_O หรือว่าที่แกไม่ยอมตอบฉันเนี่ยเพราะมันเป็นเรื่องจริงวะริบบิ้น!”
“-_-^” ฉันไม่ตอบแต่ส่งสายตาเอือมระอาไปแทน
“โอ้ว.. มันเป็นเรื่องจริงเหรอเนี่ย สายรุ้งแสนสวยอย่างฉันจะบ้าตาย” แล้วยัยรุ้งก็ทำท่าจะลงไปชักดิ้นชักงออยู่บนพื้นห้องสมุดจริงๆ =_=
“ถ้าแกไม่อายสายตาประชาชีที่อยู่ในห้องสมุดละก็ แกก็ทำไปเถอะ -_-“ฉันพูดจบก็ลุกขึ้นเดินออกมาจากตรงนั้นโดยไม่ลืมที่จะถือประวัติอันแสนโสมมอย่างของอีตาคินไปด้วย
พลั่ก!! หมับ
“โอ๊ะ!”
ในระหว่างที่ฉันกำลังจะเดินออกจากห้องสมุด ฉันก็ชนเข้ากับผู้ที่เดินสวนเข้ามาในห้องสมุดอย่างจัง แต่โชคดีที่เขารวบเอวของฉันเอาไว้ทันไม่งั้นฉันก็คงต้องล้มลงไปชักดิ้นชักงอแทนยัยรุ้งเป็นแน่ เอ๊ะ.. ทำไมเสียงในห้องสมุดมันถึงเงียบไปจนผิดปกติแบบนี้นะ -0- (ก่อนจะเกิดเรื่องมันยังดังนิดๆ อยู่เลยนี่นา)
“ระ.. ระ.. ริบบิ้น O_O “ฉันไปมองยัยรุ้งที่ส่งเสียงเรียกฉันก่อนจะยกมือขึ้นปิดปากของตังเองอย่างตกใจอย่างกับเห็นผี พอฉันลองหันไปมองคนอื่นๆ ปรากฏว่าทุกคน เน้น! ทุกคนกำลังอยู่ในอาการอึ้งแล้งก็อึ้ง! แม้แต่อาจารย์บรรณารักษ์เองก็ถึงกับเป็นลมล้มพับไปเลย ทำไมทุกคนถึงมีอาการแบบเดียวกันแบบนี้นะ?
ฟู่ววว์~
ฉันรู้สึกเหมือนมีใครกำลังหายใจรดหัวฉันอยู่เลยนะ -0-; สงสัยต้องเป็นที่กอดฉันเอาไว้อยู่แน่ๆ
“นะ.. นาย O_O”
พอฉันเงยหน้าขึ้นมอง สายตาของฉันก็สบเข้ากับนัยน์ตาสีเขียวมรกตคู่หนึ่งที่ก้มลงมองฉันอยู่ก่อนแล้วพอดี นายคินนั่นเอง ฉันมองเขาอย่างตกตะลึง เพราะไม่คิดว่าฉันจะได้อยู่ใกล้กับเขาขนาดนี้ ฉันสบสายตาเขาอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเลื่อนสายตามองเลยไปสำรวจใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา.. หมอนั่นเป็นผู้ชายผิวขาวเว่อร์ ผู้หญิงบางคนยังอายเขาเรื่องสีผิวด้วยซ้ำ เค้าโครงใบหน้าอันหล่อเหลานั้นออกไปทางแนวลูกครึ่งเสียส่วนใหญ่ จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากสีกุหลาบน่าหลงใหลชวนให้ท้าเข้าไปสัมผัส แต่สวนที่เด่นชัดที่สุดในใบหน้าของเขานั้นคงจะหนีไม่พ้นนัยน์ตาสีเขียงมรกตคู่นั้น ยิ่งตัดเข้ากับเรือนผมสีทองอ่อนๆ แล้วยิ่งทำให้นัยน์ตาคู่นั้นมีเสน่ห์น่าหลงใหลไปอีกแบบ ถึงมันจะไม่ได้เป็นเหมือนดั่งมนต์สะกดเหมือนนัยน์ตาสีไพลินของประธานฯ แต่นัยน์ตาคู่นี้กลับดูอบอุ่นใจได้อย่างไม่น่าเชื่อ... ก่อนที่ความคิดบ้าๆ จะแล่นเข้าสู่หัวสมองของฉัน ฉันก็รีบสะบัดหน้าพรืดทันที
“( ‘ ‘)” ฉันเงยหน้าขึ้นมองคินอีกครั้ง ปรากฏว่าหมอนั่นก็ยังคงจ้องฉันอยู่เหมือนเดิมไม่ย้ายสายตาไปไหน แถมเขายังไม่คิดจะปล่อยฉันให้เป็นอิสระอีกต่างหาก
“นาย อ๊ะ! >_<” ฉันกำลังจะอ้าปากพูดกับคิน แต่จู่ๆ หมอนั่นก็กลับก้มหน้าลงมาเรื่อยๆ จนฉันตกใจ
พึ่บ พึ่บ
“ติดกระดุมบนซะบ้าง ฉันจะได้ไม่ต้องเห็นอะไรไปมากกว่านี้ (‘ ‘)” คินก้มลงมากระซิบเบาๆ ที่ข้างหูของฉันให้ฉันพอได้ยินกันแค่สองคน ลมหนๆ ที่หายใจร้อนๆ ที่เป่ารดอยู่ข้างหูทำเอาของฉันสมาธิกระเจิดกระเจิงไปหมด แถมหัวใจเจ้ากรรมก็ยังเต้นไม่เป็นจังหวะอีกต่างหาก เมื่อคินขยับหน้าออกไปแล้วฉันก็ก้มลงมองเสื้อของตัวเองทันที ปรากฏว่าอีตานั่นตืดกระดุมบนให้ฉันเรียบร้อยแล้ว -_-// แล้วเมื่อกี้เขาเห็นอะไรไปบ้างฉันไม่อยากจะคิดให้ขายขี้หน้าเลยจริงๆ T_T
“ขะ.. ขอบคุณ //”
“(‘ ‘)” เขามองหน้าฉันต่ออีกนิดก่อนจะปล่อยฉันให้เป็นอิสระ ก่อนจะหันหลังกลับแล้วก้าวยาวๆ ออกจากห้องสมุดไป
ตึกตักๆๆ
บ้าจริง หมอนั่นทำให้หัวใจของฉันเต้นผิดอัตรา แล้วถ้าเกิดหัวใจวายขึ้นมาจะทำยังไงล่ะเนี่ย ฮือๆ T_T ฉันหันกลับไปมองผู้คนในห้องสมุดอีกครั้ง ปรากฏว่าทุกคนก็ยังมองฉันด้วยสายตาเดิมๆ ไม่เปลี่ยนแปลง ฉันเลยตัดสินใจที่จะวิ่งหนีออกมาจากห้องสุดทันที ขืนอยู่ต่อไปฉันคงได้บ้าตายไปซะก่อนแน่ๆ Y_Y
‘สุดช็อค! หนุ่มคิน Royal Knight กอดสาวกลางห้องสมุดแบบไม่อายสายตาประชาชีทั้งหลาย ตอนนี้ทุกคนก็กำลังคิดกันไปต่างๆ นานาว่า ‘ผู้หญิงคนนั้น’ จะใช่สุดที่รักของหนุ่มคินหรือไม่!’
บัดโซ้บบ~ ที่สุดเลย!! ฮือๆ T_T ไอ้วาราตี้เดลี่ (หนังสือพิมพ์ของโรงเรียน) ฉันจะไปฆ่าพวกแก ฮือๆ T^T
“แกยังโอเคน่ะริบบิ้น =_=” ยัยรุ้งหันมาถามฉันอย่างหวาดๆ สงสัยเพราะหน้าตาของฉันมันส่อแววอาฆาตเกินไป ยัยนั่นถึงได้ถาม T_T
“ฮือๆ ฉันไม่โอเคตั้งแต่ที่แกเอาหนังสือพิมพ์นี่มาให้ฉันอ่านแล้ว! T_T” อ๊ากกก! อย่าให้แม่รู้น่ะว่าใครหน้าไหนมันจัดตั้งชุมนุมนี้ขึ้นมา แม่จะไปฆ่ามันซะ! โทษฐานที่มันทำให้ชื่อเสียงของฉันป่นปี้ไม่เหลือชิ้นดีแบบนี้!
“ฉันขอโทษริบบิ้น ฉันเข้าใจความรู้สึกของแกน่ะ =_=” ลำพังแค่ตัวหนังสืออย่างเดียว อารมณ์ฉันไม่ขึ้นขนาดนี้หรอก แต่นี่..ไอ้รูปที่อีตาคินกอดฉันอยู่ด้านล่างของหนังสือพิมพ์ มันหมายความว่ายังไง!!
“ถ้าเข้าใจ แกต้องไปถล่มที่ตั้งชุมนุมบ้านี่เป็นเพื่อนฉัน”
“เฮ้ย! แกจะบ้าเหรอ! ถึงฉันจะเข้าใจความรู้สึกของแก แต่ฉันก็ยังไม่อยากโดนประธานฯ กระทืบตายตอนนี้หรอกน่ะ..ใช่ว่าแกโดนคนเดียวเสียเมื่อไหร่ ฉันได้ยินแว่วๆ มาว่าประธานฯ เองก็โดนเหมือนกัน รู้สึกว่าเมื่อวันก่อนประธานฯ บุกไปฉีกอกพวกชุมนุมบ้านี่ถึงที่ โทษฐานให้ข่าวมั่วซั้ว..แต่ที่มีข่าวแกลงหนังสือพิมพ์เด่นหราด้านขนาดนี้ อาจจะเป็นเพราะว่า คินไม่ค่อยยุ่งเรื่องพวกนี้เท่าไหร่..มั้ง”
“T_T”
“เออ ฉันลืมบอกแกไป วิชาประวัติศาสตร์วันนี้ลงไปเรียนที่ห้องสมุด รู้สึกว่าอาจารย์ที่ยังไม่กลับมาจากต่างจังหวัดอะไรนี่ละ ยังไงก็ไปด้วยละกัน”
“อืม T_T”
ห้องสมุด
“อาจารย์ชุลีพรยังไม่กลับมาจากต่างจังหวัด ช่วงนี้ก็ขอให้ทุกคนลงมามาหนังสือที่ห้องสมุดกันก่อนก็แล้วกันนะจ๊ะ ^^” สิ้นเสียงอาจารย์บรรณารักษ์คนใหม่ (คนเก่ายังไม่ฟื้น -_-) เสียงบ่นระงมก็ดังขึ้นเป็นระยะๆ ก่อนจะเงียบสลายไป
“ที่อาจารย์แกยังไม่กลับ เพราะมัวแต่ไปเที่ยวอยู่รึเปล่าวะ” ยัยรุ้งหันมากระซิบข้างๆหู ของฉัน ก่อนจะเบ้หน้าออกมาเพราะว่าฉันหยิกเข้าเต็มรัก
“แกนนี่มันจริงๆ เลยน่ะ” ฉันบ่นออกมาก่อนจะเดินไปหาหนังสืออ่านแก้เซ็ง ฉันเดินมุดๆ เข้าไปหาหนังสือที่หมวดสังคมฯ อ่า..ฉันชอบหนังสือหมวดนี้ที่สุดเลย >_< แต่ว่าหมวดนี้อับชะมัด -_-^ อาจารย์บรรณารักษ์ไม่ยอมมาทำความสะอาดซะบ้าง ซกมกจริงๆ -0- แต่ระหว่างที่ฉันกำลังเดินก้มๆ เงยๆ หาหนังสืออยู่นั้น ฉันก็ชนเข้ากับใครคนหนึ่งเข้าอย่างจัง (อีกล่ะ)
หมับ!
“กรี๊ดด...อุ๊บ!” ฉันกรี๊ดออกมา เมื่อถูกปิดปากแล้วลากเข้าซอกหลืบของหมวดสังคมฯ กรี๊ดด! หมอนั่นจะลากฉันเข้าไปทำอะไรในนั้น O_O ฉันดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมกอดของผู้ชายคนนั้น ก่อนจะหันหน้าไปดูว่าเป็นใคร
“อ่า อาย O_O” (อ่า นาย) ฉันจ้องมองคินอย่างตกตะลึง หมอนี่ลากฉันเข้ามาทำอะไรในนี่เนี่ย และดูเหมือนว่าเขาจะรู้ทันความคิดของฉัน หมอนั่นจึงตอบกลับมาว่า
“เงียบแล้วเฉยเอาไว้ (‘ ‘)” ฉันกำลังจะอ้าปากพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็ต้องเงียบไปเมื่อมีเสียงหนึ่งดังเข้ามาแทน
“หายไปไหนแล้วน่ะ เมื่อกี้ฉันยังเห็นรุ่นพี่คินอยู่เลย”
“ใช่ๆ ฉันก็เห็นรุ่นพี่ริบบิ้นที่กำลังเป็นข่าวกับรุ่นพี่คินอยู่ด้วยน่ะ”
“หรือว่า..”หาสองคนนั้นให้เจอเร็ว เพื่อจะได้เห็นอะไรดีๆ” อ๊ากก~ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย เด็กพวกนั้นจะมาตามหาฉันกับอีตาคินทำไม T_T เมื่อเด็กพวกนั้นกำลังใช้สายตาสอดส่องหาฉันกับคินอย่างจริงจัง ฉันก็ยิ่งขยับเข้าไปใกล้เขามากขึ้น จนไม่เหลือช่องว่างระหว่างเราสองคน ฉันรู้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆ ของเขาที่รินรดอยู่บนหัวของฉันอยู่ด้วยละ หมอนั่นทำให้หัวใจของฉันเต้นผิดอัตราอีกแล้ว -_-//
“ชู่วว์ เงียบไว้น่ะดีแล้ว (‘ ‘)” หมอนั่นคิดว่าฉันจะปัญญาอ่อนกรี๊ดให้เด็กพวกนั้นได้ยินรึไง -_-^ ฉันเงยหน้าขึ้นกะจะส่งค้อนไปให้เขา แต่ก็ต้องชะงัก เพราะหมอนั่นเองก็ก้มหน้าลงมามองฉันพอดี ทำให้ริมฝีปากของเราสองคนเกือบสัมผัสกันอย่างน่าหวาดเสียว ฉันรีบสะบัดหน้าหนี เมื่อหมอนั่นไปยอมเลื่อนใบหน้าออกไป ให้ตายสิ..หมอนั่นเป็นผู้ชายประเภทไหนกันแน่เนี่ย -_-^
“เราหากันมาทุกซอกทุกมุมแล้วน่ะ ไม่เห็นจะมีคนที่เราตามหากันเลย”
“จะเหลือก็แต่หมวดสังคมฯ ที่ยังไม่ได้หา ไม่แน่อาจจะอยู่ที่นั่นก็ได้”
ใครใช้ให้พวกแกฉลาดกันวะ -_-^^
“ถ้างั้นก็ไปหากันเลยดีกว่า”
ตึกๆๆ~
ฉันเงยหน้าขึ้นมองคินทันที ถ้ายัยเด็กหลำหวันพวกนั้นมาเห็นสภาพเราสองคนตอนนี้ละก็ ปรือ~ ฉันไม่อยากจะคิดเลยว่าพรุ่งนี้จะมีข่าวอะไรให้ฉันขายขี้หน้า ~_~
ตึกๆๆ~ พรึ่บ!
“อ่า รุ่นพี่คิน มาทำอะไรตรงงนี้ค่ะ =_=”
“(‘ ‘)” ..มาอ่านหนังสือไง ยัยบ้า!
ฉันตอยแทนอีตาคินที่เอาแต่นิ่งเงียบ มัวแต่อ่านหนังสือในมือ (ที่ไม่รู้ว่าไปเอามาตอนไหน)
“รุ่นพี่เห็นรุ่นพี่ริบบิ้นหรือเปล่าค่ะ =_=”
“(‘ ‘)” ..ฉันก็นั่งด่าพวกแกอยู่ด้านหลังอีตาคินนี่ไง! -_-^
“อ่า ไม่เห็นสิน่ะค่ะ..งั้นพวกเราไม่รบกวนแล้วละค่ะ” ยัยเด็กบ้าพวกนั้นรีบพูดก่อนจะพาเพื่อนๆ วิ่งออกไปจากซอกหลืบของหมวดสังคมฯ
“ฟู่วว์~” ฉันถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก พรางขยับตัวออกมาจากจากด้านหลังอีตาคินอย่างยากลำบาก เมื่อกี้ก่อนหน้าที่ยัยเด็กพวกนั้นจะมา อีตาคินก็จับฉันโยนเข้าไปด้านหลังของเขาทันทีอย่างไม่ต้องเสียเวลาคิดมากมาย เล่นเอายัยจุกไปเลย แต่ก็น่ะ โชคดีที่ยัยเด็กพวกนั้นไม่เห็น เพราะอีตาคินตัวใหญ่มากนะสิ เขาจึงบังฉันไว้จนมิดกอปรกับบรรยากาศในหมวดสังคมฯ มันมืดด้วนละ จึงทำให้ไม่มีใครสังเกตว่าด้านหลังของเขามีฉันซ่อนตัวอยู่
“ทำไมนายไม่จับฉับสับๆ แล้วโยนไปจ้างหลังซะเลยละ จุกเป็นบ้า -0-^”
“เรื่องมาก (‘ ‘)”
“หน็อย ยังมาด่าฉันอีก ไม่ใช่เพราะนายรึไงละ ฉันถึงต้องมาเป็นแบบนี้เนี่ย บ้าจริงๆ เลย ไอ้ชุมนุมเวรนั่นก็เหมือนกันน่าจะยุบๆ ไปได้แล้ว ชอบสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านชาวช่องกันจริงๆ -_-^”
ฉันหันไปแหวใส่คิน เผื่อว่าหมอนั่นจะได้สำนึกขึ้นมาได้บ้าง
“(‘ ‘)” แต่เปล่าเลย หมอนั่นไม่ได้สำนึกสักนิด!
“พูดกับหมามันยังรู้เรื่องกว่านายเลย -_-^” พอฉันพูดจบคินก็ตวัดสายตามามองฉันทันที
“อ้อ ได้ยินด้วยเหรอ ไอ้เราก็นึอว่าจะเป็นใบ้แล้วก็หูหนวกซะอีก ชิ!” ฉันย่นจมูกใส่คินก่อนจะลุกขึ้นปักกระโปรงที่เต็มไปด้วยฝุ่น
ผั่บ ผั่บ
ออกไปแล้วฉันจะบอกให้นักการภารโรงมาทำความสะอาดซะ ฮึ่ย -_-^^^
“ให้ตาย..เธอนี่ชอบโชว์จริงๆ (‘ ‘)”
“หือ?” ฉันเงยหน้าขึ้นมองคินอย่างงงๆ เมื่อกี้หมอนั่นพูดว่าไงน่ะ? -0-
“อะไรของ..กรี๊ดดด!” ฉันอ้าปากจะถามคิน แต่เป็นจังหวะเดียวกับที่ในชั้นร่วงลงมาหาฉันทั้งชั้น!
หมับ ตุ้บ! ตุ้บ! โครม!
ฉันหลับตาปี๋เตรียมตัวรับความเจ็บปวดที่จะเกิดขึ้นจากหนังสือทั้งหลาย เมื่อได้ยินเสียงหนังสือหล่นลงมาหมดแล้ว ฉันก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้น สิ่งแรกที่ฉันเห็นคือนัยน์ตาสีเขียวมรกตคู่เดิมกับใบหน้าคมคายที่อยู่ใกล้กับใบหน้าของฉันมาก
ติ๋ง
“อ๊ะ O_O” เลือดที่ศีรษะของเขาไหลหยดลงมากระทบที่แก้มของฉัน ทำให้ฉันรู้ว่า เขา..บาดเจ็บเพราะว่าช่วยฉันเอาไว้
“คิน..”
“ฉันไม่ชอบผู้หญิงใส่เสื้อชั้นในสีชมพูลายคิตตี้หรอกน่ะ..คราวหน้าถ้าไม่อยากให้ฉันเห็นอีกละก็ ติดกระดุมบนซะบ้าง” ทุกสรรพสิ่งรอบๆ ตัวเราเงียบชี่ จึงทำให้ฉันได้ยินคำพูดของเขาอย่างแจ่มชัด ฉันมองหน้าคินอย่างตกตะลึง ก่อนจะ..
1
2
3
“กรี๊ดดดดดดดดดด!!! >0<”
ความคิดเห็น