คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1 แรกสบตา
แรกสบตา
เฮ้อ~ ในที่สุดฉันก็ตอบตกลงรับงานบ้าๆนั่นไปจนได้
นี่ฉันกำลังขุดหลุมฝังศพตัวเองอยู่ใช่ไหมเนี่ย T_T รู้ทั้งรู้ว่าพวก Royal Knight เป็นพวกยังไง ฉันก็ยังจะรับงานนั่นเข้าไปอีก ไม่ตายก็ไม่รู้ว่าจะพูดยังไงแล้วล่ะ ถึง Royal Knight จะไม่ได้ป่าเถื่อนก็เถอะ แต่ยังไงมันก็คล้ายๆ กันนั่นล่ะว่ะ...พวกนั้นเป็นแก๊งค์ที่มีอิทธิพลมากที่สุดในโรงเรียน ไม่มีใครกล้าไปหยามหน้าพวกนั้น ถ้ายังไม่อยากเจ็บตัว แล้วก็ให้ตัวเองกลายเป็นเด็กมีปัญหาไม่มีที่จะเรียนหนังสือ นอกจากพวกนั้นจะมีอิทธิพลในโรงเรียนแล้ว นอกโรงเรียนพวกนั้นก็ยังจะมีอีกด้วย เรียกว่าครบชุดเลยล่ะ ใครทำอะไรไม่เข้าหน้าพวกนั้น ก็มีแต่ตายกับตายสถานเดียว -_-^
“นั่งถอนหายใจอะไรกันจ๊ะลูกจ๋า ^^” พ่อสุดประเสริฐ (?) ทักฉันก่อนจะชะโงกหน้าเข้ามาหอมแก้มด้านขวาของฉัน พ่อน่ะพ่อ ไม่น่าไปตกลงรับปากเรื่องงานนั้นเล้ย -_-^
“ก็เรื่องที่พ่อไปรับปากยัยปาขี้อะไรนั่นไง รู้ไหม มันจะทำให้หนูตายก่อนวัยอันควรน่ะ -_-^^”
“โถๆๆ ลูกริบบิ้นจ๋า หนูลองคิดดูสิจ๊ะ ถ้าหนูทำงานนั่นสำเร็จล่ะก็...เราจะได้เงินกันเท่าไหร่ โอ้ พ่อไม่อยากจะนับเงินให้คนอ่านเขาอิจฉาเลย ฿_฿” แหม...พอพูดเรื่องเงินเข้าหน่อยเดียว กลายเป็นพ่อทำได้ทุกเรื่อง อีกหน่อยพอไม่มีจะกิน ก็จะขายลูกกินใช่ม่ะ -_-^^^
“พ่อไม่ได้เดือดร้อนด้วยสักหน่อย ก็พูดได้น่ะสิ...แล้วหนูล่ะพ่อ จะตายวันตายพรุ่งก็ยังไม่รู้เลย -_-^”
“เอา...เถียงกันเข้าไป พ่อลูกคู่นี้...วันนี้วันเปิดเทอมวันแรกน่ะริบบิ้น เดี๋ยวก็ไปสายกันพอดีหรอก แล้วอย่าหาว่าแม่ไม่เตือนล่ะ” แม่เอ่ยเตือนฉันก่อนจะยิ้มออกมาบางๆ แต่นั่นก็พอจะเตือนสติของฉันได้
“เออจริงสิ ลืมไปเลยว่าต้องรีบไป...มัวแต่ทะเลาะกับพ่อ จนลืมว่าจะต้องไปโรงเรียน...หนูไปโรงเรียนก่อนน่ะค่ะ~”
“จ้า ^^”
โรงเรียน
“เธอมาช้าไปหนึ่งนาทียี่สิบสามวินาทีน่ะ...รวีพร”
ฮึ่ม...มาสายจนได้ เมื่อเช้าไม่น่ามัวแต่เถียงกับพ่อเลย
“ค่ะ (...)”
ฉันพยักหน้าตอบ อาจารย์สุรีย์สุดโหดประจำฝ่ายปกครอง ที่ทำหน้าที่จับสายนักเรียนมาช้าหลังแปดโมงเช้าเป็นต้นไป ที่หน้าประตูโรงเรียน โดยเฉพาะวันเปิดเทอมวันแรกแบบนี้ เจ๊ท่านจะคึกเป็นพิเศษ -_-; รู้ไหมค่ะเจ็ท่านได้ฉายาว่าอะไร ‘เจ้าแม่แห่งเวลาในยมโลกบนโลกมนุษย์’ คือฉายาของเจ๊ท่าน เพราะไหมค่ะ =_=; ?
“รู้แล้วทำตามซะด้วยล่ะ คราวหน้าถ้าเธอมาสายอีกล่ะก็ ฉันจะตัดคะแนนความประพฤติของเธอซะ -_-^”
“ค่ะ อาจารย์”
“อ้อ หลังเลิกเรียนช่วยไปพบฉันที่ห้องปกครองด้วย...เอาล่ะ ขึ้นไปบนหอประชุมได้แล้ว -_-;”
“ค่ะ”
ฉันรีบรับคำก่อนจะเดินตัวลีบออกมาจากหน้าประตูโรงเรียน แล้วรีบวิ่งไปที่หอประชุมทันทีทันใด ฉันไม่โง่พอจะอยู่ให้โดนสวดอีกรอบหรอกน่ะ
หอประชุม
“ริบบิ้น ทางนี้ๆ” ฉันหันไปมองยัยรุ้งที่ยืนโบกไม้โบกมือเรียกฉันอยู่อีกฝั่งของหอประชุม อ้อ...ยัยรุ้งเป็นเพื่อนคนเดียวที่ฉันสนิทที่สุดในโรงเรียนนี้ =_=
“แฮ่กๆ หวัดดีรุ้ง -0-;”
“เออหวัดดี ทำไมแกมาช้าจังฟะ...นี่โชคดีน่ะที่ยังไม่เริ่มการปฐมนิเทศ ไม่งั้นแกเสร็จแน่ -^-“ ฉันเงยหน้ามองยัยรุ้งอย่างเอือมๆ มาปุ๊บก็เทศน์ปั๊บ ประเสริฐไหมล่ะเพื่อนฉัน -_-^
“เออ...ฉันก็มาแล้วนี่ไง แกจะบ่นอะไรนักหนาว่ะ ไปๆ นั่งได้แล้ว ขืนยืนอยู่แบบนี้ เดี๋ยวก็โดนสวดซะหรอก” ฉันบ่นอุบอิบก่อนจะดึงยัยรุ้งให้นั่งลง
“แกเป็นอะไรว่ะริบบิ้น...ปกติเปิดเทอมทีไร แกจะดูคึกคักเป็นพิเศษ แต่ปีนี้ไม่น่ะ” ไอ้นิสัยสอดนี่แก้ไม่หายเลยจริงๆน่ะ -_-^
“ไม่มีอะไรหรอก”
“แน่ใจ”
“อืม” แกจะให้ฉันบอกรึไงว่าฉันกำลังจะไปตายน่ะ เพราะว่าฉันต้องทำแผนการรักโรแมนติกกบ้าบออะไรนั่นน่ะ T_T
“ก็แล้วไป” เสียงของยัยรุ้งและเด็กในหอประชุมเงียบลงไป เมื่อผู้อำนวยการขึ้นเวทีเริมการปฐมนิเทศ
“สวัสดีและขอต้อนรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี่ที่ 5 ทุกคน ครูในฐานะผู้อำนวยการโรงเรียนมีความยินดีเป็นอย่างมากที่นักเรียนทุกคนสอบเลื่อนชั้นขึ้นมาได้...”
แล้วผู้อำนวยการก็พูดออกมาอีกยาวเหยียด ชนิดที่มาได้ฟังแล้วอยากจะหลับคาหอประชุมกันเลยทีเดียว -_-;
“เอาล่ะ ครูก็จะขอแนะนำประธานนักเรียนคนใหม่...ไม่ใช่สิ ต้องเป็นประธานฯคนเก่าสำหรับนักเรียนเก่า แต่เป็นประธานฯคนใหม่สำหรับนักเรียนใหม่”
ไอ้ฉันก็รู้อยู่หรอกน่ะ ว่าประธานฯนักเรียนห้าปีซ้อนเนี่ย หน้าตามันเป็นยังไง ก็แค่เป็นเทพบุตรลงมาเกิดชัดๆ! ตัวสูงขาวราวเปรต จมูกโด่งราวกับยัดซิลิโคลนเข้าไป ผมสีบรอนซ์เงินยาวระต้นคอ นัยน์ตาสีไพลิน ที่เหมือนดั่งเวทมนต์ สะกดตาสะกดใจผู้หญิงให้สยบลงแทบเท้าหมอนั่น -_-^ แต่ที่ฉันไม่รู้ และไม่รู้มาก่อนคือ อีตาคิน ตลอดระยะเวลาห้าปีที่ผ่านมา ฉันยอมรับน่ะว่าฉันไม่เคยเห็นหน้าหมอนั่นมาก่อน =_= แต่เฮ้! ฉันไม่ใช่ผู้หญิงที่บ้าผู้ชายขนาดนั้นน่ะ-0-; ฉันเป็นผู้หญิงที่ได้รับฉายาว่าเชยและเฉิ่มที่สุดในโรงเรียนเชียวน่ะ (น่าภาคภูมิใจจริงๆให้ตายซิ -_-^) มันก็ไม่มีอะไรมากนักหรอกน่ะ ฉันก็แค่ใส่แว่นหนาเตอะมาโรงเรียนก็เท่านั่นเอง -0-; ทั้งๆที่สายตาฉันก็ไม่ได้สั้นหรือยาวอะไร ที่ใส่มาเพียงแค่ไม่อยากเป็นจุดเด่นให้ใครเขาตบเอา ฉันผิดรึไงเล่า
“ไคท์เนี่ยเก่งจริงๆน่ะ ได้เป็นประธานฯตั้งห้าปีซ้อนแน่ะ”
ยัยรุ้งหันมากระซิบข้างๆ หูฉัน ในขณะที่อีตาประธานนักเรียนไคท์กำลังอ่านกฎและการลงโทษของโรงเรียนให้ทุกคนฟัง ซึ่งฉันเชื่อเหลือเกินว่าไม่มีใครอยากฟังกฎของโรงเรียนหรอก
“แกอย่าลืมสิ ว่าหมอนั่นเป็นใคร...หัวหน้าแก๊ง Royal Knight เชียวน่ะ มีเหรอที่ใครหน้าไหนจะกล้าต่อกรกับพวกนั้นน่ะ”
“เออ นั่นสิ” ฉันส่ายหน้าไปมาให้กับความจำสั้นของยัยรุ้ง ยัยนั่นขี้ลืมชะมัด
หอหญิง
“เอาล่ะทุกคน ผู้ที่ได้ไปอยู่หอเหนือหอเดียวกับประธานนักเรียนคือ เอมิกา น่ะจ๊ะ หวังว่าทุกคนคงจะไม่มีการขัดข้องอะไรน่ะ...แยกย้ายกันขึ้นไปพักผ่อนที่ห้องของตัวเองได้แล้วจ๊ะ”
หลังจากที่อาจารย์ประจำหอเรียกพวกเราทุกคนมาจับฉลากหาผู้โชคดีที่จะได้ไปอยู่หอเหนืออันเป็นที่สิงสถิตของประธานนักเรียนทุกรุ่น เจ๊ท่านก็สั่งแยกย้ายกลับห้อง ถ้าจะถามว่าทำไมต้องจับฉลากหาผู้โชคดีด้วยไปอยู่หอเหนือด้วย ก็เพราะว่า หอหญิงของพวกเรามันเต็มน่ะสิ ปีนี้มีนักเรียนหญิงเพิ่มขึ้นเยอะมาก (ต้องขอบคุณพวก Royal Knight เขาน่ะที่ทำให้ประชากรนักเรียนหญิงในโรงเรียนเราเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว -_-) หอหญิงก็เลยเต็มไม่พอแค่หนึ่งคน แค่หนึ่งคนเท่านั้นน่ะ! อาจารย์ก็เลยต้องเรียกพวกเราเหล่านักเรียนหญิงมาจับฉลากกัน ฉันล่ะสงสารคนที่ได้จริงๆ -0-;;
“แกว่าไหมริบบิ้น ผู้หญิงคนนั้นที่ได้ไปอยู่หอเดียวกับประธานฯนี่โชคดีจัง” หลังขึ้นมาบนห้อง ยัยรุ้งก็ปริปากบ่นเสียดายขึ้นมาทันที
“ฉันว่าซวยมากกว่าว่ะ -_-^”
“ทำไมแกคิดว่างั้นว่ะ -0-“
“ถ้าไปอยู่กับคนอื่นฉันว่าอาจจะโชคดี แต่นี่เป็นอีตาไคท์ ประธานนักเรียนแล้วก็ที่สำคัญหมอนั่นยังเป็นหัวหน้า Royal Knight อีกต่างหาก แกก็น่าจะรู้กิตติมศักดิ์ของพวกนั้นดีน่ะ ขึ้นแบล็คลิสต์อันดับหนึ่งแบบนั้น คงไม่มีนิสัยเรียบร้อยหรอก”
“คนล่ะเรื่องกันเลยย่ะ -_-^ ที่ฉันบอกว่าโชคดีน่ะ หมายถึงยัยนั่นได้อยู่ใกล้คนหล่อๆ แบบประธานฯต่างหาก ในบรรดา Royal Knight คนที่หล่อที่สุด แล้วก็เพอร็เฟ็กต์ทุกอย่าง คงจะหนีไม่พ้นประธานฯ รองลงมาก็คงจะเป็นเดฟ ไนต์สุดหล่อ >_< “
“แล้วคินไม่อยู่ในสเปกแกรึไง”
ฉันว่า ถ้าถามยัยรุ้งเรื่องของคิน คงได้ข้อมูลเยอะพอดู ก็ยัยนั่นเล่นบ้า Royal Knight ทั้งแก๊ง
“นั่นล่ะสเป็กฉันเลย แต่ติดตรงที่ว่า คินจะอยู่เงียบๆ ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร พูดก็พูดน้อยอีกต่างหาก แถมยังเย็นชากับชอบอ่านหนังสือเป็นชีวิตอีกต่างหาก T_T“
“คินชอบอ่านหนังสือด้วยเหรอ?” ฉันถามยัยรุ้งอย่างงงๆ แกมไม่อยากจะเชื่อ คนอย่างคินนี่น่ะชอบอ่านหนังสือ? พวกป่าเถื่อนอ่านหนังสือเป็นด้วยเหรอ?
“ต๊าย!! ยัยริบบิ้น แกไปมุดหัวอยู่ไหนมาฮะ...ฉันไม่แปลกใจเลยน่ะ ว่าทำไมแกถึงได้ฉายาว่ายัยริบบิ้นสุดเฉิ่ม เพราะแกน่ะเฉิ่มจริงๆ แถมเชยอีกต่างหาก -_-^”
“ก็ฉันไม่ได้บ้าผู้ชายเหมือนอย่างแกสักหน่อย -_-; ว่าแต่หมอนั่นชอบอ่านหนังสือจริงๆเหรอ”
“ก็ใช่น่ะสิ คินน่ะชอบอ่านหนังสือมาก เรียกว่าคลั่งตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงเลยล่ะ...ไม่ว่าจะไปไหนมาไหน เขาก็จะถือหนังสือไปอ่าน”
ฉันเชื่อ...เชื่อว่ายัยรุ้งบ้าจนเข้าขั้นสาหัส -_-^
“เหรอ...แล้วหมอนั่นหน้าตาเป็นยังไงเหรอ” ฉันถามยัยรุ้งด้วยสายตาไร้เดียงสาสุดๆ คือฉันยังไม่อยากให้ยัยนั่นรู้ว่าตอนนี้ฉันกำลังจะไปปู้ยี้ปู้ยำคินของยัยนั่นอ่ะน่ะ
“ก็ เอ๊ะ...แกสนใจผู้ชายตั้งแต่เมื่อไหร่วะยัยบิ้น -0-“ ริบบิ้นโว้ย เรียกให้มันเต็มๆ ดิ เรียกแบบนั้นน่าเกลียดตายชัก -_-;
“ทำไม ฉันจะอยากรู้ไปประดับบารมีในสมองบ้างไม่ได้รึไง -_-;”
“ไอ้ได้มันก็ได้อยู่หรอกน่ะ แต่แกอย่าแย่งของฉันน้า~” เหอๆ ฉันไม่แย่งของๆแกหรอก แต่ฉันจะทำให้หมอนั่นไปรักยัยปาขี้นั่นต่างหาก (บาร์บี้ไม่ใช่เหรอ)
“แกเห็นฉันเป็นอะไรฟะ -_-^”
“เออหน่า..ฉันล้อแกเล่นหรอก...คินน่ะมีผมสีทอง ฉันไม่รู้น่ะว่านัยน์ตาเขาสีอะไร แทบจะไม่มีใครรู้เรื่องนี้เลยล่ะ ไม่นับพวกเพื่อนในแก็งค์น่ะ ถ้าแกเจอคินล่ะก็ แกสังเกตได้ง่ายๆ เลยว่า รอบๆตัวหมอนั่นจะแผ่รังสีอำมหิตออกมา พูดถึงก็ขนลุกว่ะ ปรื๋อ ~_~”
ยัยรุ้งพูดจบก็ยกมือขึ้นมาลูบแขนตัวเอง หมอนั่นน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย
“เออ ขอบคุณสำหรับข้อมูล” ถึงมันจะไม่ได้ช่วยอะไรขึ้นมาก็เถอะ ประโยคสุดท้ายฉันไม่ได้พูดออกไป ได้แต่พูดมันเอาไว้ในใจ
“ถ้าแกจะจีบคิน ก็บอกฉันบ้างล่ะกัน ฉันจะหาทางช่วยแก เพราะฉันเองก็อยากจะเอาตัวกับหัวใจไปใกล้ชิดเดฟ >_<”
เออ...ไปกันใหญ่แล้วเพื่อนฉัน เฮ้อ~
ห้องฝ่ายปกครอง
“มาแล้วเหรอ รวีพร -_-“
พอฉันย่างเท้าเข้ามาในห้องฝ่ายปกครองเท่านั้น เสียง ’เจ้าแม่แห่งเวลาในยมโลกบนโลกมนุษย์’ ก็ดังขึ้นทักทายโสตประสาทฉันทันที
“ค่ะ”
“ที่ฉันเรียกเธอมาไม่ใช่จะตำหนิอะไรเธอหรอกน่ะ แต่ที่ฉันเรียกเธอมา ก็เพราะฉันอยากจะให้เธอช่วยอะไรสักอย่าง...ได้ไหม?”
“ถ้าหนูช่วยได้ก็จะช่วยค่ะ...ว่าแต่อาจารย์มีเรื่องอะไรให้หนูช่วยเหรอค่ะ” ฉันว่ามันชักจะมีกลิ่นไม่ดีลอยมาแล้วล่ะ -_-;;
“เธอช่วยได้แน่ คือฉันอยากจะให้เธอช่วยทำหน้าที่จับสายนักเรียนให้ฉันหน่อยน่ะ”
“แล้วอาจารย์ล่ะค่ะ! แล้วจะให้หนูทำเมื่อไหร่กับใครค่ะ!” ทันทีที่รู้ว่ามีงานเข้า ฉันก็รีบถามอาจารย์สุรีย์อย่างรวดเร็ว
“ใจเย็นๆ สิ ที่ฉันให้เธอทำหน้าที่แทน เพราะว่าฉันอยากจะพักสักหน่อย ฉันจะให้เธอเริ่มทำหน้าที่ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ แต่เธอไม่ต้องกลัวว่าฉันจะให้ทำคนเดียว ฉันจะให้นายภาคินมาช่วยเธออีกแรง”
“ภาคิน?”
“อ้อ พวกเธอคงไม่รู้จักเขาในนามของชื่อจริง แต่ว่าพวกเธอคงรู้จักเขาในนาม คิน Royal Knight “
ฮะ...หา ว่าไงน่ะ คิน Royal Knight อย่างนั้นเหรอ ให้ตายเถอะอะไรมันจะบังเอิญขนาดนี้น่ะ -_-^^
“จะให้หนูทำงานกับเขาเหรอค่ะ?”
“ใช่...เธอไม่ต้องกลัวเขาหรอกหน่า นายคินเขาไม่กินเธอหรอก” อาจารย์สุรีย์พูดออกมาอย่างขำๆ แต่ฉันเนี่ยสิ ขำไม่ออกค่ะ =_=
“คนอื่นไม่ได้เหรอค่ะ”
“เธอจะเอานายไคท์รึไง -_-“ เหอะ รายนั้นน่ะยิ่งไม่กล้าเข้าไปใหญ่เลยล่ะ
“นายคินก็นายคินค่ะ T_T” ฉันตอบอาจารย์สุรีย์กลับไปอย่างเศร้าๆ เมื่อก่อนคิดว่าอีกนานกว่าความตายจะมาหา แต่ไหงตอนนี้ความตายกลับมาหาเร็วจังเลยฟะ Y_Y
“ดีมาก ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอแค่นี้ล่ะจ๊ะ ^^”
แหม อาจารย์พอได้สิ่งที่ตัวเองต้องการแล้วเนี่ยหน้าบานเชียวน่ะ -_-^ ฉันค่อยๆ เดินออกมาจากห้องฝ่ายปกครองอย่างเศร้าใจ จะไม่ให้เศร้าใจก็ยังไงอยู่เนอะ
พลั่ก
“โอ๊ย!”
“อ๊ะ 0_0”
“(‘ ‘)”
ฉะ...ฉันไม่ได้ตาฝาดไปใช่ไหม มะ...หมอนั่นที่ฉันเดินชนคือ อีตาคิน Royal Knight! โอ้! พระเจ้า...หมอนั่นดูดีกว่าที่คิดเลยแฮะ -.,-
“ขอโทษค่ะ”
“อ้าว ภาคินมาพอดีเลยน่ะ ^^”
“ครับ (‘ ‘)”
“เออนี่ภาคิน นี่รวีพร ผู้ช่วยเธอที่จะจับสายนักเรียนพรุ่งนี้”
“ครับ (‘ ‘)” หมอนั่นหันมามองฉันด้วยหางตา ก่อนจะตอบรับอาจารย์สุรีย์กลับไป ชิ! ผู้ชายอะไรทำตัวไม่น่ารักเอาซะเลย
“รวีพร เธอชื่อเล่นว่าอะไรเหรอ ภาคินเขาจะได้เรียกถูก”
อาจารย์สุรีย์หันมาถามฉันพร้อมตีหน้าโหด แหมๆ อาจารย์ทีกับนายคินนั่นยิ้มหวานซะหยดหย้อด พอกับฉันล่ะก็โหดเชียว ช่างให้ความยุติธรรมกันจริงๆ -_-^
“ยังไงเขารู้จักหนูอยู่ดี ไม่จำเป็นต้องบอกวันนี้หรอกค่ะ” ฉันกระแทกเสียงตอบอาจารย์สุรีย์กลับไป
“รวีพร”
“เขาไม่เห็นอยากรู้จักหนูสักหน่อยนี่ค่ะอาจารย์ -_-^”
“รวีพร” อาจารย์สุรีย์เน้นเสียงเรียกชื่อฉันให้หนักขึ้นกว่าเดิม แต่ฉันก็ทำเป็นเมินเฉยไม่สนใจ
“ถ้าไม่มีอะไรแล้วหนูขอตัวน่ะค่ะ” ฉันพูดอย่างรวดเร็วก่อนจะเดินผ่านหน้าอาจารย์สุรีย์ไปยังนายคิน
พลั่ก!
ฉันเดินชนไหล่หมอนั่นออกมาอย่างไม่ใส่ใจ เดิมทีคิดว่าจะได้ยินเสียงเจ้าแม่ตวาดมา แต่คิดผิดถนัด ไม่มีแม้แต่เสียงของใครดังตามมา สงสัยจะอึ้งกับการกระทำของฉันมั้ง ผู้ชายอะไรอยู่น่าเตะชะมัด นี่ถ้าไม่ติดว่า
จะต้องทำภารกิจบ้าบออะไรนั่นน่ะ จ้างให้สักร้อยล้าน ฉันก็จะทำ (อ้าว) เจอกันครั้งแรกก็ไม่ถูกชะตากันซะแล้ว อย่างนี้มันจะไปรอดไหมน่ะ
หอหญิง
“แกไปไหนมาวะริบบิ้น”
“ห้องฝ่ายปกครอง” ฉันตอบยัยรุ้งไปอย่างไม่ใส่ใจเท่าไหร่ ก่อนจะล้มตัวลงนอน
“ไปทำไม?”
“อาจารย์สุรีย์เรียกไปพบน่ะ เพื่อให้ฉันไปทำหน้าที่จับสายนักเรียนวันพรุ่งนี้”
“จับสายนักเรียน 0_0!”
“เออ” ฉันตอบยัยนั่นก่อนจะพลิกตัวไปอีกด้าน
“เดี๋ยวๆ อย่าเพิ่งหลับเซ่ มาคุยกันให้รู้เรื่องก่อน ริบบิ้น!” ยัยรุ้งเขย่าร่างฉัน ก่อนจะจับตัวฉันให้หมุนไปหามัน
“อะไรของแกอีกเนี่ย -_-^” ฉันบ่นกลับไปอย่างไม่สบอารมณ์
“ทำไมอาจารย์สุรีย์ถึงเลือกแกไปจับสายนักเรียน แล้วจะไปทำหน้าที่กับใคร เมื่อไหร่ 0_0”
“ฉันขอตอบแกทีละคำถามน่ะ ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมอาจารย์ถึงเลือกฉัน ท่านบอกแต่ว่าอยาก จะพัก เลยให้ฉันไปทำหน้าที่จับสายนักเรียนในวันพรุ่งนี้ ส่วนจะไปกับใครน่ะเหรอ...”
“กับใคร?”
“นายคิน Royal Knight”
“พระเจ้า! นี่แกได้ทำงานร่วมกับคินเหรอเนี่ย แกนี่โชคดีจริงๆว่ะ”
“เออ จะอะไรก็ชั่ง ฉันขอไปอาบน้ำก่อนก็แล้วกัน -_-^”
“เออๆ ฉันอยากเป็นแบบแกบ้างจัง ฉันจะได้เอาตัวและหัวใจไปไว้ที่เดฟสุดหล่อของฉัน >_<”
“=_=^” เคยเห็นคนบ้าไหมค่ะ อยู่ตรงหน้าฉันนี่ล่ะ สดๆ ร้อนๆ จากศรีธัญญาเลยล่ะ -_-^^
“ถ้ามันโชคดีอย่างที่แกพูดมันก็ดีน่ะสิ” ฉันบ่นกับตัวเองเบาๆ ไม่อยากจะไปขัดจังหวะความสุขยัยรุ้งที่กำลังบ้าเดฟอยู่
“เดฟ~เดฟจ๋า~รอหน่อยน่ะจ๊ะ เดี๋ยวรุ้งคนนี้จะพลีกายถวายหัวใจให้ ~>_<~”
=_____=;;; ประสาทกลับแลัวเพื่อนฉัน
ความคิดเห็น