ลำดับตอนที่ #19
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #19 : บุปผาคืนช่อ ตะวันคืนฟ้า
นับจากวันแรกที่ฟงเหลยแสดงพลังให้ศิษย์ทั้งสองชมก็ผ่านมาเป็นเดือนแล้ว ภายในวังยังคงวุ่นวายไม่หายหลังจากเกิดร่องรอยพลังทำลายล้างอันเป็นปริศนา แต่บัดนี้ทุกฝ่ายต่างลงความเห็นว่าน่าจะเป็นฝีมือของยอดยุทธปริศนา ผู้เป็นอาจารย์ขององค์ชายซึ่งเรื่องนี้แพร่กระจายออกไปราวกะไฟลามทุ่ง
" ช่างจินตนาการกันไปได้เนอะ อาจารย์ฟงเหลย "
เสียงตรัสกลั้วหัวเราะของไทเฮาทำเอาคนทั้งสองเหาะเราะแกนๆส่วนคนต้นเรื่องกลับแสดงสีหน้าสนุกสนานอย่างเห็นได้ชัด
" นั่นสินะ ข้าว่านะไทเฮาคนที่ทำได้ขนาดนั้นนะต้องเป็นยอดฝีมือที่ร้ายกาจที่สุดในแผ่นดิน "
" เอ๊ะ ใครรึท่านอาจารย์ฟงเหลย ใครคือผู้มีพลังยุทธร้ายกาจที่สุดในแผ่นดิน "
ไทเฮากล่าวถามอย่างอยากรู้ ต้องยอมรับเลยว่าเวลานางมีความสนใจในอะไรสักอย่างด้านน่ารักๆเหมือนตอนสาวๆจะโผล่ออกมาทันที แม้จะมีอายุแล้วแต่นางยังคงนิสัยและความน่ารักไว้ได้อย่างไม่มีเปลี่ยน
" ท่านเคยได้ยินพรรค มารที่หนึ่งรึไม่ "
" พรรคมารที่หนึ่งแห่งแผ่นดิน!!! "
คนทั้งสามกล่าวโพลงออกมาอย่างพร้อมเพียง
" ใช่ เล่ากันว่าหัวหน้าพรรคที่ชื่อมารอันทพาลมีอาจารย์อยู่คนหนึ่ง คนผู้นี้ประสิทธ์ประสาทวิชาต่างๆให้มารอันทพาล "
" ห หมายความว่าอย่างไรท่านอาจารย์ ศิษย์ชักสับสน "
ฟงเหลยที่เป็นคนเปิดเผยไม่คิดปิดบังอะไร เขากล่าวลอยอย่างบอกเล่า คนทั้งสามต่างเข้าใจไปในมุมที่ต่างกัน
" มารอันทพาลมีอาจารย์อยู่คนหนึ่ง เขามีนามว่าทรราชสีหยก เชี่ยวชาญศาสต่างๆหลายแขน่ง วันหนึ่งด้วยความเมตตาจึงเก็บมารอันทพาลไปเลี้ยง(?) ด้วยพรสวรรค์ในการสอนของเขา เพียงไม่กี่ปีมารอันทพาลก็กลายเป็นยอดฝีมือ "
" ทว่าเพียงไม่นานจากนั้นนักอาจารย์ของมารอันทพาลก็ได้พบรักกับหญิงสาวนางหนึ่ง ด้วยความที่จิตใจไม่มั่นคงทำให้เขากระทำการผิดพลาด ใช่ อย่างการไปรักกับคนสักคน และโลกนี้ก็ล้วนอนิจจา สุดท้ายความรักของเขาก็พังทลาย แต่แทนที่หัวใจของเขาจะแหลกสลายจนตัวตาย "
" ไม่เลย เขาไม่ได้ใจสลายจนตัวตาย เขามีชีวิตอยู่แต่มิอาจอยู่ทนกับภาพเดิมๆได้อีกต่อไป เขาตัดสินใจออกเดินทางโดยมิลังเล เดินทางหมื่นลี้รักษาแผลใจ "
" ซิกๆๆ อัจฉริยะบุคคลยังไม่อาจข้ามบ่วงรัก ข้าให้เรื่องเล่าของท่านสิบกะโหลก "
ไทเฮาอินจัดจนร้องไห้น้ำหมูกไหล เดือดร้อนขันทีที่อยู่รับใช้ต้องหาอะไรมาชัดหยาดน้ำตา ขณะที่เทียนหลงเริ่มมองเห็นเค้ารางอะไรสักอย่าง เขานึกอยู่แล้วเชียวว่าอาจารย์ของตนต้องมีฐานะไม่ธรรมดา เพียงแต่ว่าหากเรื่องเล่าเป็นจริงนั้น มิเท่ากับว่าตนเองคือศิษย์น้องของมารอันทพาลที่กำลังยึดครองยุทธภพหรือ?
แต่ในส่วนของไซซีนั้นมองแตกต่างออกไป นางมองเห็นอะไรบางอย่างในตัวของอาจารย์คนนี้แต่แรก ตั้งแต่ครั้งหอโคมแดงนั้นแล้วที่นางติดใจในตัวเขา ความลึกลับที่แฝงอยู่ทั่วทุกอนูของฟงเหลย นางจะทำอย่างไรดีหน่อ ในเมื่อคนคนนี้ยังมีแผลใจ
' เอ๊ะ หรือนางจะเข้าไปด้ามใจดี '
แต่ก่อนที่ใครจะได้กล่าวอะไรไปมากกว่านั้น อยู่ๆบุปผาสีแดงก็พริ้วมาตามสายลม เสียงพิณเบาๆดังเคล้าเสียงสายลมอย่างลงตัว
บ่ายวันนั้นจะเป็นวันที่คนทั้งหวังมิอาจลืม ภาพของเกี้ยวสีแดงที่มีคนหามหกคนทะยานผ่านหมู่ตึก ระหว่างที่เกี้ยวหลังนั้นทะยานไปข้างหน้าไม่มีครั้งใดเลยที่เท้าของคนทั้งหกจะเหยียบพื้น นับว่าร้ายกาจแล้วกับการใช้งานคนที่ทรงพลังยุทธระดับนี้ได้
นำหน้าเกี้ยวหลังนั้นด้วยหญิงสาวที่ทะยานร่างโปรยดอกไม้ เก๋งศิลาหลังใหญ่ดูคับแคบไปทันตาเมื่อร่างของคณะผู้มาเยือนเดินเข้ามาข้างใน
กงกงและมหาเสนาต่างมิอาจก้าวเท้าไปได้มากไปกว่านี้ เขาทั้งสองเฝ้ามาจะอีกฟากของสระบัว คลั้นจะทะยานร่างไปก็ถูกกดไว้ด้วยจิตรสังหารของหญิงสาวผู้โปรดอกไม้
เพียงแว๊บแรกเท่านั้นที่เกี้ยวเปิดออกคนทั้งหลายที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างรู้สึกเหมือนหายใจไม่ออก เป็นหญิงสาววัยแรกแย้มที่เดินออกมาอย่างเชื่องช้า จะมีก็แต่คนเพียงคนเดียวเท่านั้นที่รู้ว่าจริงๆแล้วความแก่ชราถูกหยุดเอาไว้ด้วนวิชายุทธชั้นสูง
ในด้านความงามย่อมมิอาจตัดสินขาดกับไซซีได้ แต่ในด้านความสง่างามแล้วนางคนนี้นำไปไกลทีเดียว ท่าทีที่เหมือนไม่เห็นอะไรอยู่ในสายตานั้นช่างช่วยนึกสงสัย สีแดงของทั้งอาภรและเกศา ไหนจะนัยตาที่ดูส่องสว่างนั่น
" ข้า หยางกุ้ยเฟยคารวะอาจารย์ "
" ข้ามารอันทพาลคารวะอาจารย์ "
ขณะที่ทุกคนกำลังตะลึงงั้นกับหญิงสาวผู้มาใหม่ จนลืมชายอีกคนที่แต่งกายหรูหราไปเสียสิ้น ชายคนนี้ดูภายนอดเย็นชานัก แต่น้ำเสียงที่กล่าวออกมาช่างถ่อมตนเหลือหลาย
" ..... "
ไม่มีคำกล่าวใดๆจากคนที่เขาทั้งสองค้นหา ฟงเหลยหันหน้าออกไปทางสระบัวก่อนจะนั่งทอดสายตาไปยาวไกล น่าแปลกยิ่งนักที่แม้อยากจะไปให้ไกลแท้ๆ แต่พอเจอหน้ากันแล้วก็มิอาจก้าวขาออกไปได้
" ฟงเหลย ข้ารักท่านนะ "
เป็นหยางกุ้ยเฟยที่กล่าวออกมาก่อน นางเดินดุ่มๆเขาไปใกล้เข้าแล้วหยุดชะงักไปจังหว่ะหนึ่ง ก่อนจะโผเข้ากอดจากทางด้านหลัง โดยมีสายตาของไทเฮามองอย่างลุ่นระทึก
" เจ้าแต่งงาน เจ้ามีคนอื่นไปแล้ว "
คำกล่าวเรียบๆนิ่งๆของเขาทำเอาศิษย์คนโตอย่างมารอันทพาลลุกขึ้นมาโวยในทันที
" ได้อย่างไรอาจารย์ หากอยากได้สิ่งท่านก็ชิงมาสิกะแค่สำนักดาบทองข้ามารอันทพาลถล่มมันจนไร้ชื่อไปแล้ว อาจารย์กลับเถอะ กลับไปพรรคของเราอาจารย์หญิงรอท่านมานานแล้วนะ "
ชื่อเสียงความโหดร้ายของมารอันทพาลจะมาจบลงก็วันนี้ หากมีใครสักคนสังเกตจะพบว่าชายชุดดำที่แบกเกี้ยวทั้งหกกำลังตาเหลือกและอ้าปากค้าง เพราะบัดนี้นอกจากบุปผาโลหิตจะยอมแตะต้องกายผู้อื่นแล้ว หัวหน้าพรรคมารอันยิ่งใหญ่ได้ลงไปคู้กอดขาของคนคนนั้น คนที่พวกมันไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน คนที่ทั้งสองเรียกว่าอาจารย์
" เจ้าหมายความว่าไง "
เมื่อเป็นเรื่องของตนเองฟงเหลยกลับโง่เขลานัก เขากล่าวถามคนทั้งสองเสียงสั่น
" หมายความว่าอาจารย์หญิงไม่ได้แต่งกับใครไงขอรับอาจารย์ "
" กลับกันเถอะฟงเหลย จากนี้ไปไม่ว่าจะอะไรจะไม่สามารถพลากเราจากกันไดอีกแล้ว ข้ารักท่านนะ กลับกันเถอะ "
พูดไปพร้อมกับกอดไป ฟงเหลยสัมผัสได้จากน้ำเสียงเลยว่าคงยากที่ทั้งสองจะปล่อยมือจากตัวเขา หากเขาต้องการสลัดทิ้งย่อมไม่ยาก เพียงแต่เขาไม่มีความคิดที่จะทำอย่างนั้นเลย
มือสีขาวซีดของฟงเหลยค่อยเคลื่อนไปก่อนจะกอดหญิงสาวเอาไว้แน่น มารอันทพาลที่เห็นท่าทีของอาจารย์จึงเลิกเกาะขาแล้วยืนขึ้น มือที่ว่างอีกข้างจึงหันมาลูบหัวมันเบาๆ แต่น่าแปลกนักที่มันมิได้รู้สึกรังเกียจใดๆ
" ห หมายความว่าอย่างไรท่าน ! "
เสียงกล่าวตกใจดังมาจากสองสหายหมาเสนากับกงกง ซึ่งหนึ่งในคนทั้งสองเป็นชาวยุทธโดยตรงจึงได้ยินกิตติศัพท์ของมารอันทพาลและบุปผาคลั้งโลหิตมาไม่น้อย
" ชู่วว เจ้าจะพูดทำไม "
ไทเฮาหันเป็นเอ็ดเสียงเขียวอย่างไม่พอใจ ทำเอาคนทั้งสองทำหน้าไม่ถูก
" เทียนหลง ไซซี ข้าจะแนะนำคนทั้งสองให้เจ้ารู้จัก คนนี้มารอันทพาลศิษย์พี่ของเจ้า ส่วนคนนี้ "
" ข้าหยางกุ้ยเฟย..ป เป็น... "
" นางเป็นคนรักของข้า คนที่ครั้งหนึ่งทำข้าอกหัก "
" ข ข้าขอโทษ ตอนนั้นข้าคิดไม่ทันถ้าหากย้อนเวลาได้ข้าคง... "
คำกล่าวที่เหลือของนางจมหายไปในลำคอ แต่ทั้งกงกง มหาเสนาและศิษย์ทั้งสามคนที่เหลือต่างอดไม่ได้ที่จะขนลุกซู่ต่อสายตาที่แฝงไปด้วยความบ้าคลั่งของนาง
" งั้นหมายความว่าทั้งสองคนเป็นศิษย์พี่ของเทียนหลงกับไซซี "
" ขอรับ "
เป็นมารอันทพาลตอบฮองเฮาอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งเมื่อดูจาดสีหน้าคนถามแล้วคงจะดีใจอยู่เป็นแน่
" งั้นเราไปทานข้าวด้วยกันไหม พ่อของเทียนหลงต้องดีใจแน่ๆ "
ใช่ ใจหนึ่งของฮ่องเต้หลงเก๋อย่อมดีใจหนักหนา ก็ลูกชายของตนได้เป็นถึงศิษย์ร่วมสำนักกับมารอันทพาลเจ้าหัวหน้าพรรค มารที่หนึ่งแห่งแผ่นดิน ไหนจะสุดยอดจ้าววีรกรรมมือกระบี่พันศพ บุปผาคลั้งโลหิตอีก
อ่า แต่อีกใจหนึ่งสิ
' มันจะฆ่าล้างโคตรเราไหมเนี้ย อ๊ะ น้องหญิงไฉนเจ้าไปป้อนอาหารให้นางมารร้ายอย่างนั้น เฮ้ยๆ อย่ารินของแปลกให้ลูกข้ากินสิมารอันทพาล '
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น