ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อาจารย์ป่วน ก้วนจอมมาร

    ลำดับตอนที่ #16 : สีแดงที่ชุบย้อมไปถึงดวงใจ

    • อัปเดตล่าสุด 29 พ.ค. 56






            สายลมโบกพัดให้ปอยผมพริ้วไสว  นัยตาที่เคยสีดำน่าลุ่มหลงแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงดุจทับทิม  เล็บมือที่เคยชมพูสดน่ารักบัดนี้ถูกย้อมด้วยเลือดจนมิอาจกลับคืน  เมื่อการพัฒนาวรยุทธตามแบบเดิมๆไม่ได้ผล  นางจึงเลือกเส้นทางใหม่ เส้นทางของนางเอง



               " ด ได้โปรด ว ไว้ชีวิตข้าด้วย "



               หนึ่งในศิษย์ของสำนักคุ้มกันขนาดกลางกล่าวอย่างหวาดกลัว  หากมองแต่เพียงยามนี้ย่อมน่าสงสารไม่น้อย เพียงแต่เมื่อไม่กี่วันก่อนย่อมเป็นมันและศิษย์ร่วมสำนักที่ก่อการข่มเหงหญิงสาวผู้น่าสงสาร



               " เจ็ดวันก่อน... "



                   อึก



               เพียงกล่าวท่าวความแค่นี้ผู้ดีจอมปลอมถึงกับสะอึก  แต่กระนั้นก็ไม่ได้ทำให้นางแปลกใจแต่อย่างใด  ใบหน้าที่ถูกคลุมด้วยผ้าแพรสีแดงประดับประดาด้วยดิ้นทองเป็นรูปหงส์คาบบุปผา  ใบดาบทับทิมสีแดงสะท้อนแสงแลดูน่าอัศจรรย์



               " ครานั้นหญิงคนนั้นมิใช่รึที่กล่าวแบบนี้กับเจ้า  แต่นางก็ยังถูกพวกเจ้าข่มเหงรังแก "




                 นางกล่าวแล้วก็หยุดไปพักหนึ่ง  ความคิดหนึ่งแล่นเข้ามาในหัวของนาง  หากเป็นนางที่ตกเป็นเหยื่อเล่า เขาคนนั้นจักช่วยรึไม่ แล้วหากนางถูกข่มเหงเล่าเขาจักทำอย่างไร




                 ฝ่ายผู้ดีจอมปลอมเมื่อสังเกตเห็นถึงความผิดปกติจึง ฉวยโอกาสทันที หากมันคิดจะหนีย่อมไม่สำเร็จและหากนิ่งอยู่ต่อย่อมไม่พ้นที่ตาย  มือสั่นเทาล้วงหยิบมีดอาบยาพิษที่ซ่อนไว้ออกมา   เพียงพริบตาก็ทะยานร่างเข้าใกล้  ดางตาวาวโรจน์หมายมั่นที่จะสังหาร




                ทว่า




                เหมือนเป็นดังภาพที่นิ่งค้างอยู่บนอากาศ  ร่างเนื้อของมันหยุดนิ่งพร้อมกับแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงดุจทับทิม  ก่อนจะแตกสลายกลายเป็นเพียงละอองเลือด




                 " โง่เง่า "






                  นางกล่าวออกมาอย่างไร้ความรู้สึก  มือซ้ายชูขึ้นเป็นสัญญาณก่อนจะมีชายชุดดำปรากฏกายอยู่ใกล้  เพียงแต่เมื่อพิจรนาอย่างถี่ถ้วนแล้วคงต้องว่า เป็นหญิงชุดดำต่างหาก



                 " กระจายคำสั่งไปยังหน่วยกิเลน   ก่อนตะวันขึ้นข้าอยากเห็นสำนักคุ้มภัยชั่วช้านี้ลุกไหม้  เอาหัวของพวกมันมากองไว้ที่นี้ ไปได้!"




                    พรุบ



                    สิ้นคำร่างสีดำก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย คงต้องบอกว่าในยุทธภพยามนี้วิกฤตแล้ว









                ทางด้านวังหลวงยังคงสงบอย่างแปลกๆ  เทียนหลงหลังจากทะลวงจุดชีพจรหมดแล้วก็เริ่มฝึกวิชาร่วมกับไซซี  สำหรับเขาที่มีพื้นฐานและทักษะยุทธระดับสูงมาก่อนย่อมไม่ใช่เรื่องลำบากอันใด ซึ่งนั้นเป็นความคิดของเขาตอนแรก ทว่า



                " ซ ไซซี เบามือ  อ๊าก ได้ๆๆ ข้ายอมแพ้ "



               ดัชนีของไซซีที่ปลกคลุมด้วยปราณแหลมคมช่างน่ากลัว  ทั้งรวดเร็วพริกแพลง  นอกจากนี้ท่าร่างของนางยังหลอกตาเขาอีกด้วย  คิดแล้วก็ไม่เข้าใจจริงๆ ทั้งที่เขาใช้หมัดน่าจะได้เปรียบดัชนีแท้ๆ ไหนจะเรื่องที่นางเป็นอิสตรีอีก  



                " เฮ้อ  เจ้ามันกากแท้เทียนหลง  รัศมีการอออกหมัดของตนเองเจ้ายังไม่เข้าใจถ่องแท้ ไหนจะปราณที่ไม่ได้รูปนั่น  กลับกัน เจ้าดูไซซีสิ  การจู่โจมแต่ละครั้งอยู่ในระยะที่นางถนัดที่สุด  ปราณดัชนีก่อรูปจนกลายเป็นดั่งหอก  เฮ้อ วันนี้พอแค่นี้เลิกได้ "


                 ฟงเหลยกล่าวเลิกอย่างเซงๆ ขณะที่เทียนหลงบ่นอุบ อันตัวเขานั่นมิเคยคำนึงถึงเรื่องเหล่านี้มาก่อนเลย แม้จะแอบเซงเล็กน้อย แต่ภาพที่ปรากฏก็ทำเอาเขาหายเซงทันที




                 "อาจารย์สอนข้าเล่นเพลงนั้นซิ "

                 " เฮ้ย สอนก็ได้แต่ปล่อยแขนข้าก่อนสิ "


                  " ไม่อาวเดี๋ยวจารย์หนี "








    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×