ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อาจารย์ป่วน ก้วนจอมมาร

    ลำดับตอนที่ #15 : ตอนสิบฮ่า

    • อัปเดตล่าสุด 27 พ.ค. 56


     
     
            หญิงงามแห่งเมืองหลวงตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกเจ็บปวด  ทั้งแขนและขาแทบจะไร้เรี่ยวแรงหากแม้นรู้ว่าจะต้องโดนแบบนี้เธอของผ่านดีกว่า
     
     
             " อู๊ย เจ็บๆ  "
     
     
            วี๊งงง ...
     
     
     
            อยู่ๆก็มียุ่งตัวน้อยบินมาเกาะอยู่หลังแขนของเธอก่อนจะดูดเลือดอย่างไม่สนใจสายตาของเธอแม้แต่น้อย ไซซีรวบรวมกำลังและกะจะฟาดมันให้ตาย เพียงแต่ดูเหมือนจะไม่ทันเสียแล้ว  เจ้ายุ่งน้อยบินเตอะแตะพุ่งกางจากไปอย่างสบายๆ ขณะที่เธอยังไม่สามารถยกแขนได้แม้แต่น้อย
     
     
                " กรอดดด .. ด เจ้ายุ่งบ้า ฝากไว้ก่อนเถอะ "
     
     
     
              ร่างกายทุกส่วนปวดร้าวไปหมด    แม้จะยังเจ็บปวดทั่วทั้งร่างแต่บัดนี้พอจะสามารถสัมผัสปราณได้อย่างไม่ยากเย็น  คิดได้ดังนั้นแล้วจึงหลับตาสูดลมหายใจเพื่อโคจรลมปราณตามที่ได้ร่ำเรียนมา
     
     
     
     
     
     
     
            " อ๊ากกกกกกกกก "
     
     
             " อย่าร้องน่า เทียนหลง "
     
     
              " อ อาจารย์ ท ทำไมของข้ายังไม่เสร็จสักที "
     
     
               " อ่อ ร่างกายของเจ้ามันฝึกวิชามาเยอะ การจะทำลายรวดเดียวหมดก็เกรงแต่จะพิการถาวร ดังนั้นจงกัดฟันเอา "
     
     
     
     
                ว่าแล้วก็ส่งกระแสปราณอันร้ายกาจซอนไซเข้าไปในร่าง ก่อนจะระเบิดขุมชีพจร
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
              ณ หมู่เกาะทะเลใต้ ท้องฟ้าสดใส  มองเห็นเรือใบ แล่นอยู่ในทะเล
     
     
              อึนอึนเดินไปยังท่าเรือส่วนตัวอย่างสงบ ข้างกายคือ ซีเซียงกวง น้องร่วมสาบานของมันเอง
     
     
             " เซียงกวง ข้าไปครานี้อาจยาวนานนัก อย่างไรเสียก็ฝากกิจการของพรรคเราด้วย "
     
               " ได้ พี่อึนไม่ต้องห่วงข้าจะดูแลพรรคอย่างสุดความสามารถ "
     
     
              ซีเซียงกวงรับคำเป็นมั่นเป็นเหมาะ  ทันทีที่เรือแล่นจากไปรอยยิ้มของมันที่ซ้อนไว้ก็แผ่ออกอย่างหุบไม่อยู่   
     
     
              " คึคึ ท่านนี้ท่าจะบ้าแล้วพี่อึน  ปรมจรณ์ของเรามาจากทางเหนือ ดังนั้นหากจะตามรอยท่านย่อมต้องไปทางบกสิ งานนี้ข้าคงได้ครองพรรคอีกนาน "
     
     
     
              ว่าแล้วซีเซียงกวงก็เดินไปหัวเราะไป โดยลืมดูไปว่าพื้นไม้ท่าเรือส่วนหนึ่งมันผุใกล้จะพังมิพังแหล่
     
     
     
     
              แกร๊กก  โครมมม
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
             วันนี้เป็นวันแรกที่จะมีการซ้อมรบระหว่าง 7 สำนักใหญ่ อดีตเจ้าสำนักมังกรทองที่บัดนี้ล่มสลายไปแล้วได้เดินตามไต้ซือแห่งวัดไร่ถั่วเข้าไปในป่า
     
     
               " ท่านไต้ซือ ท่านแน่ใจนะว่านัดกับคนของท่านไว้ที่นี้ "
     
               " แน่นอนสิ "
     
               " อ๊ะ นั่นมันห้องน้ำนิ "
     
     
     
              อดีตเจ้าสำนักมังกรทรงอุทานแปลกใจ ก่อนจะเดินตามไต้ซือเข้าไป เมื่อเข้ามาใกล้ก็พบกับชายปริศนาในชุดแต่งกายแปลกประหราด ตลอดทั้งตัวเป็นชุดเดียวกัน เขานั่งไขว้ขาอยู่หน้าห้องน้ำ เมื่อเขาและไต้ซือเข้าไปใกล้มันก็หันมามองก่อนจะกล่าวออกมาด้วยภาษาแปลกๆพร้อมกับแหวกเสื้อออก
     
     
               " ยาราไนก๊ะ "
     
     
               " ม หมายความว่ายังไงท่านไต้ซือ ม มามุขนี้ข้าไม่ขำด้วยนะ "
     
     
              ชายผู้ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากกล่าวตะกุกตะกัก  แม้จะแปลไม่ออกแต่จากสายตานั่นที่ส่งมา จะให้ทำตัวโง่งมคิดเป็นอื่นไปได้อย่างไร  แน่นอนแหละว่าเขาไม่ยอมพลาดทีเสียท่าแน่ เพียงแต่จะหันหลังหนีก็ไม่ได้เพราะมิอาจประเมินและประมาทวิชาตัวเบาของชายปริศนา 
     
     
            " ยาราไนก๊าาา "
     
     
     
              เสียงลากยาวของท่านไต้ซือแห่งวัดไร่ถั่วดังลากยาวเป็นครั้งสุดท้าย
     
     
     
     
     
     
     
     
     
            ณ โรงเตี้ยมแห่งหนึ่งที่มีบรรยากาศทั่วๆไป
     
     
     
                " ข่าวใหญ่ๆ  "
     
     
                 เสียงของตัวประกอบที่มักโผล่ยามมีเรื่องสำคัญดังเรียกความสนใจ   ชายหนุ่มชาวยุทธที่ดูมีภูมิคนหนึ่งกล่าวรับไปอย่างมีเชิง
     
     
              " ใจเย็นๆ น้องชาย เจ้ามีเรื่องอันใดรึ "
     
     
              " ตอนนี้พรรคมารฟ้าถูกถล่มแล้ว "
     
     
     
              ชายผู้นั่นกล่าวทั้งยังไม่ทันหายหอบดี  ซึ่งข่าวครานี้สร้างความแปลกใจแก่ชาวยุทธไม่น้อย เพียงแต่ว่า
     
     
              " แล้วถล่มได้อย่างไรเล่า ข้ายังไม่ได้ยินข่าวการระดมคนจากพรรคใดเลย "  ชายคนเดิมกล่าวถามออกไปพร่างลุกขึ้นยืน
     
     
     
             " ป เป็นถูกถล่มในชั่วข้ามคืน... อึก  ฝีมือพรรคมารที่หนึ่ง เล่าลือว่าบุปผาแดงลงมือเอง "
     
     
     
               ได้ยินคำว่าบุปผาแดงประหนึ่งมันโดนตบฉากเข้าที่่หน้า  อันเรื่องราวต่างๆล้วนขจรไกล ยิ่งช่วงปีที่ผ่านมายิ่งเป็นข่าวนัก กับนางมารหน้าใหม่ที่แสนร้ายกาจ วรยุทธไม่ทราบสำนักและหลักการ  ร้อนแรงไม่ร้อนรน รุกรับไร้กระบวน  มีท่าไร้ท่ามิอาจแยก  ลี้ลับดุจภูตพราย  ส่องสว่างดุจตะวันแลจันทรา
     
     
     
              " บ บุปผาแดง  ช ใช่บุปผาแดง สิ้นลมก่อนสิ้นใจไม่ "
     
     
              " ถูก  ว่ากันว่านางลงมือดุดันนัก  คนถูกฆ่าล้วนแต่สิ้นลมก่อนสิ้นใจ กระบี่ของนางรวดเร็วยิ่งกว่าผู้ใด ทั้งยังกระบวนท่าอันลี้ลับ   "
     
     
              " ต แต่ข้าเคยเห็นที่หุบเขาหลับฮัวนะ  น นางกำมือ... จากนั้นหน้าผาก็ถล่ม "
     
     
                " เป็นได้ว่านางมีพลังยุทธสูงส่ง "
     
                " นางอาจเป็นมารร้ายจากยุคหลายร้อยปีก่อนก็ได้ เพียงแต่สั่งสมพลังวัตรจนถึงขั้นคืนวัยสาว "
     
              " นั่นสิ อาจเป็นได้เพราะไม่เคยมีชื่อนางในยุทธภพมาก่อนเลย "
     
     
     
     
                หลากหลายเสียงลือเสียงเล่าอ้าง  เพียงแต่ชายหนุ่มได้เดินจากไปแล้ว  หากกล่าวไปใครจะเชื่อทั้งหมดล้วนเกิดแต่เพียงความเห็นแก่ตัวของคนสองคน คนหนึ่งคือพ่อของนางเอง และอีกหนึ่งย่อมเป็นเขามิผิด
     
     
     
               " แต่เพียงแค่นั้นเจ้ากลับใช้เลือดล้างแผ่นดินเลยรึ หย่างกุ้ยเฟย "
     
     
     
     
     
     
     
                ข่าวสารขจรไกลเพียงแต่ดูเหมือนคนที่เป็นศูนย์กลางของพายุเลือดครั้งนี้จะยังคงไม่รู้ตัว
     
     
     
     
             " ฮัดเช่ย "
     
             " อั๊ก แค่กๆ ท ท่านเป็นอะไรอาจารย์ "
     
     
             " ข้าจามน่ะสิ "
     
     
               เพียงแต่การจามระหว่างทะลวงชีพจรจะทำให้เทียนหลงบาดเจ็บเสียแล้วสิ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×