ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อาจารย์ป่วน ก้วนจอมมาร

    ลำดับตอนที่ #13 : บุพผาแย้มหยอกรัก

    • อัปเดตล่าสุด 21 พ.ค. 56


     
     
     
     
            หากเป็นคนธรรมดาสามัญย่อมต้องมีกล้ามเป็นมัดๆหากริจะลองเล่นพิณประกายฟ้า  หากเป็นผู้ฝึกวิชายุทธย่อมต้องมีปราณไม่ธรรมดาถึงจะเล่นพิณหลังนี้ได้ แต่ไม่ว่าจะท่างใดก็ตาม หากลองมีคนเล่นพิณหลังนี้ได้ นั่นย่อมหมายถึงไม่ธรรมดา
     
     
     
     
                เพียงเสียงแรกของพิณดังขึ้นเสียงจอแจอันคึกครื้นในงานก็เงียบหายไป  ท่วงสำเนียงที่หวานดุจน้ำผึ้งแต่ก็ไม่อาจเอื้อมไปถึง เหมือนดังคนขี่นกโชโคโบะที่เอาแอบเปิ้ลหลอกล่อ(ไฟนอลแฟนตาซี) ฉันใดก็ฉันนั้น   เหมือนดังหญิงสาวที่เพิ่งมีรักแรก เหมือนดังชายหนุ่มที่ลุ่มหลงในห้วงความรัก  ความขมขื่นเกิดขึ้นได้ทุกเวลาหากไม่ระวัง และเมื่อเสียงพิณหยุดลงทุกคนก็เหมือนเสียอะไรบางอย่างไป
     
     
     
                   แปะๆๆ 
     
     
     
                   " ไม่ธรรมดา ๆ  ข้า โค่วสือ ไม่ทราบว่าท่านผู้เลิศล้ำมีชื่อเสียงประการใด "
     
     
                 ฟงเหลยที่กำลังซึมซับกับบทเพลงที่เล่นโดยการเหนี่ยวนำของร่องรอยปราณอดไม่ได้ที่ส่งสายตาเย็นชาไปให้ ยังให้ศิษย์ทั้งสองลอบไม่พอใจไปด้วย ทำให้ผู้ใหญ่อย่างฮองเฮาต้องออกโรง
     
     
     
                  " ท่านนี้ย่อมเป็นท่านอาจารย์ขององค์ชายเทียนหลง ไม่ทราบว่าท่าน? "
     
                  " โอ้ว ทูลฮองเฮาหม่อมฉันเป็นผู้บรรเลงพิณตำหนักลู่หยาง  โค่วสือ หว่ากง "
     
     
     
                     " เฟ้ย อารมณ์เสีย วันนี้ข้าขอลา  พิณนี้เป็นของผู้ใด "
     
     
                  ฟงเหลยกล่าวเสียงดังอย่างหงุดหงิด  อันว่าความไร้มารยาทที่มักจะโผล่ออกมาฮองเฮาย่อมทราบ เพียงแต่มาหลุดแบบนี้นางก็ไม่รู้จะแก้อย่างไร  แต่หากกงกงแอบแนะนำมาเป็นจริง เกร่งแต่ว่าคนคนนี้จะสังหารผู้คนได้ง่ายดุจหายใจ  
     
     
                 " ท่านอาจารย์โปรดใจเย็นก่อนไม่ทราบท่านเป็นอันใด "
     
     
                  " ข้ากำลังซึมซับอารมณ์ของเพลงเกือบจะสุดแล้ว เจ้าแก่นี้ดันมาทำซะเสียหมด น่าถอนหงอกเสียจริง  "
     
     
     
                  สิ้นคำกล่าวคนทั้งงานก็ส่งสายตาดุไปยังชายคนนั้นยังให้ต้องถอยทัพไปอย่างจำยอม  ด้วยเพราะมันเป็นนักดนตรีย่อมฟังออกในทันทีว่าเพลงกำลังจบลง เช่นนั้นแล้วจึงตั้งใจจะเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ให้เป็นที่จดจำ เพียงแต่ไม่นึกว่าเรื่องมันจะออกมาเป็นแบบนี้  ดังคำโบราณว่า ความเกรียนทำให้คนตาบอด  ถ้าเพียงแต่มันไม่คิดเรื่องอื่นๆเพ้อเจ้อแล้วตั้งใจฟัง มันย่อมต้องทราบเป็นแน่แท้ว่าเพลงวิเศษอย่างนี้ต้องใช้เวลาซึมซับบรรยากาศ
     
     
     
                 " อ่อ เช่นนั้นพิณหลังนี้้ข้าขอมอบให้ท่าน "
     
     
     
                เป็นชายร่างสูงโปร่งกล่าวออกมา มันมิใช่ใครอื่นหากแต่เป็นเสนาคลังนั่นเอง
     
     
     
                  " ขอบใจ งั้นลาล่ะ บาย "
     
     
     
                  ว่าแล้วก็หอบพิณหลังใหญ่ก่อนจะทะยานร่างออกไปทันที  และกว่าฮ่องเฮาจะรู้ตัวลูกหัวแก้วหัวแหวนทั้งสองก็ตามอาจารย์ของตนไปไกลแล้ว


                               ชิ  แอบชิ่งนี้หว่า
     
     
     
     
     
     
     
     
                    " เคี๊ยกฮ่าๆๆ  ได้พิณฟรีโว้ย "
     
     
                    " ฮ่าๆ ท่านอาจารย์ช่างล้ำลึก ข้าคิดอยู่แล้วว่าท่านทำตัวแบบนั้นต้องมีอะไรแอบแฝง "
     
     
                    " อาจารย์เพลงนั่นสอนข้าหน่อย  "
     
     
                  " @ เทียนหลงข้าก็ไม่ได้คิดแต่แรกหรอก แต่จังหว่ะเหมาะเกิ้นจะปล่อยไปก็น่าเสียดาย  @ ไซซี ข้าเป็นอาจารย์เจ้านะ ยังไงก็ต้องสอนอะไรเจ้าบ้างแหละ "
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
                    " ขออภัยแทนคนคนนั่นด้วยท่านเสนาคลัง "
     
     
                  " มิเป็นใดหรอก  กระหม่อมพอทราบว่าท่านผู้นั้นเป็นยอดคน ไม่ทราบว่าท่านไปหาคนผู้นี้มาแต่ใด "
     
     
     
                 ฟังคำกล่าวของเสนาคลังแล้ว นางก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา
     
     
                   " เป็นลูกชายข้าเชิญมาเอง "
     
     
                    " โอ้ว ช่างปรีชายิ่งนัก "
     
     
     
     
     
     
     
                 ภาพของคนสามคนวิ่งเล่นกันในส่วนหินสะท้อนผ่านสายตาของผู้ยิ่งใหญ่  คนเป็นพ่อย่อมต้องดีใจที่ลูกมีความสุข และยิ่งต้องดีใจขึ้นไปอีกเมื่อเห็นถึงอะไรบางอย่าง
     
     
     
                   " ฝากท่านแล้ว ฟงเหลย "
     
     
     
     
     
     
     
     
     
                   หลังจากกลับถึงตำหนักแล้วคนทั้งสามต่างแยกย้าย ไซซีปราถนาจะล้างเครื่องปทิณโฉม ส่วนเทียนหลงจะอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้า  ทำให้ยามนี้ฟงเหลยอยู่คนเดียวจริงๆเป็นครั้งแรกของวัน  เพราะยามเช้าก็มีไซซีมีปรณิบัติ ยามสายเทียนหลงก็มาพร้อมกับเมื้อผ้าและของปลอมตัว  ยามบ่ายก็เพิ่มฮ่องเฮาขึ้นมาอีก ยามนี้เกือบพลบค่ำแล้ว ย่อมเป็นครั้งแรกของวันที่ใจของเขาคลายจากความวุ่นวาย
     
     
     
                  " เจ้าสบายดีไหมน้า  กุ้ยเฟย "
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
                    ขณะที่อีกคนกำลังคิดคณึง  อีกคนกลับยิ่งกว่า
     
     
     
     
     
     
                 เลือดสีแดงฉานชุบย้อมให้อดีตวังตะวันรุ่ง พรรค มารฟ้า ลุกไหม้  ร่างบางเดินเหยียบย่ำซากศพอย่างไม่หวั่นเกรง อดีตเจ้าสุริยัน อาฆาตต้องจบชีวิตลงบนบัลลังทอง ดวงตาที่มองค้างอย่างเคืองแค้นไม่ได้สร้างความรู้สึกใดๆแก่นาง
     
     
     
     
                    " เท่านี้ทั้งทางเหนือและภาคกลางก็มีเราเป็นพรรคมารที่ใหญ่ที่สุดสินะครับ "
     
     
                  มารอันทพาลกล่าวลอยๆ พร้อมกับเอื้อมมือไปเก็บตำราลับ ดรรชนีสุริยัน  ก่อนจะส่งสัญญาณให้ขนข้าวของมีค่าต่างๆจากไป
     
     
     
                " ข้าจะล้างบางรอท่าน สักวันหนึ่งท่านจะต้องกลับมา  "
     
     
                เสียงหวานใสเอื่อนเอ่ยราวกะไร้เดียงสา ถ้อยค้ำแห่งรักมั่นถูกสลักเสลาด้วยเลือดของผู้คน  อนิจจาตำนานดอกไม้แดงกำลังผลิบาน 
     
     
     
     
     
     
     
               " ข่าวด่วนขอรับ "
     
     
            เสียงคนนำสารดังขึ้นอย่างร้อนรน เจ้าสำนักทั้ง 7 หันมามองอย่างสนใจ ก่อนจะเป็นไต้ซือแห่งวัดไร่ถั่วกล่าวอนุญาติ
     
     
               " ตอนนี้พรรคมารที่หนึ่งแห่งแผ่นดินถล่มพรรค มารฟ้าไปแล้วขอรับ "
     
     
               " เป็นไปได้ไง!! "
     
     
     
                 คนทั้งหมดต่างลอบเหงื่อชื้นหนาวเหน็บ  
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     -------------------------------------------------------
     
     
     
     
                           อุ๊โฮ้  มาอัพแล้วนะๆ   อาจไม่ค่อยเข้มข้นนัก แต่ว่าบัดนี้ยุทธภพกำลังจะร้อนเป็นไฟแว้วว
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×