คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : คาซึดะ มิยากิ
“ คุณหนูมิยากิ...”
“...”
“คุณหนูคะ”
เสียงถอนใจดังขึ้นเบาๆก่อนที่ฉันจะเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ตัวโปรดแล้วหยิบแว่นกันแดดขึ้นมาสวม มือข้างหนึ่งเอื้อมไปหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบแก้เซ็ง... จะขอเวลาพักผ่อนหย่อนใจบ้างไม่ได้รึไง...ทำไมถึงต้องมีคนมาคอยขัดจังหวะความสุขของฉันตลอดเลยนะ
ตอนนี้ร่างของแม่บ้านในชุดกิโมโนกำลังเดินเข้ามาหา
“ คุณหนู... คุณผู้หญิงให้มาตามค่ะ เห็นบอกว่ามีเรื่องด่วนจะคุยด้วย”
ฉันหลับตาลง
“ บอกแม่ว่าเดี๋ยวฉันจะไป”
“ แต่...แต่ว่า...”
“ ไปเถอะน่า
” ฉันโบกมือไล่แม่บ้านโดยไม่สนใจว่าเธอจะอ้อนวอนแค่ไหน บ้าชะมัด แต่อย่าเอามือมาแทะโลมขาฉันได้ม๊ายยยยยย >[]<
“ ฉันกะไว้แล้วว่านิสัยอย่างแกมันลูกบังเกิดเกล้า ต้องให้แม่เดินมาหาเอง”
ร่างของหญิงสาววัยกลางคนกำลังเยื้องกรายเข้ามาใกล้ ทรวดทรงองเอวบ่งบอกถึงการดูแลรักษาเป็นอย่างดี แม้จะอายุปาเข้าไปสี่สิบกว่าแล้ว แต่ร่างนั้นก็ยังสมส่วนและคงความงามไว้ได้อย่างครบถ้วน ใบหน้าดูเด็กกว่าอายุจริงเป็นสิบปี...ใช่ เธอคือแม่แท้ๆของฉันเอง
เมื่อเห็นว่าร่างนั้นกำลังเดินทอดน่องเข้ามาอย่างช้าๆฉันก็รีบยกหนังสือขึ้นปิดหน้า...แต่ก็ยังไม่พ้นอยู่ดี
“ ไม่ต้องหลบ!”
“ อะไรกันเนี่ยคุณนาย...”
“ นี่ เลิกเรียกฉันแบบนั้นนะ มิยากิ!”
ฉันยันกายลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วดับบุหรี่ในมือลงก่อนจะยกแก้วไวน์ขึ้นมาจิบ
“ ทำไมล่ะคุณนาย เรียกแบบนั้นออกจะเพราะดี”
“ แต่ฉันไม่ชอบ เอ้า นี่ของแก!”
“ อะไร...”
ฉันถามอย่างงงๆตอนที่’คุณนาย’ โยนซองกระดาษสีน้ำตาลซองหนึ่งมาให้ O_Oอ๊ะ...นี่มันส่งมาจากเมืองไทยนี่นา ต้องมาจากพ่อแน่ๆ ไม่รอช้าฉันรีบฉีกซองเปิดดูทันทีด้วยความกระตือรือร้น แม่กำลังใช้หางตามองมาทางฉันพลางเบ้ปากนิดๆ กิริยาแบบนี้มันเหมือนนางร้ายในละครโทรทัศน์ไม่มีผิด
“ พอได้ไอ้ซองบ้านี่ทีไร...รู้สึกว่าแกจะดีใจจนออกนอกหน้าเชียวนะ”
“ แน่ล่ะสิ นานๆทีพ่อจะส่งอะไรมาให้แบบนี้...”
ฉันยักไหล่ตอบอย่างไม่แยแสกับกิริยาอาการที่ไม่ค่อยจะสบอารมณ์ของแม่
“ ชิส์...รักกันเหลือเกิน”
พ่อกับแม่แยกทางกันตั้งแต่ที่ฉันยังเด็กๆ แม่พาฉันมาอยู่ที่ญี่ปุ่นด้วยขณะที่น้องสาวซึ่งเป็นแฝดคนละฝาของฉันอยู่กับพ่อที่เมืองไทย และในช่วงเวลาเพียงไม่นานที่แม่เลิกกับพ่อ แม่ก็แต่งงานใหม่กับเศรษฐีชาวญี่ปุ่นที่มีชื่อว่า คาซึดะ มาโมโต้ ซึ่งเขาอายุราวๆ 50 กว่า และปัจจุบันนี้พ่อบุญธรรมของฉันก็นอนเจ็บออดๆแอดๆอยู่บนเตียงและรถเข็นซะเป็นส่วนใหญ่ ส่วนแม่ของฉันน่ะเหรอ...ยังคงสวยและสาวสะพรั่งเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน
มีงานอดิเรกคือไปงานสังสรรค์ได้แทบทุกวัน
“ นี่ รีบๆอ่านมันซะ เย็นนี้แกต้องไปงานกับฉันนะ”
แถมยังเดือดร้อนมาถึงฉันอีก -_-*
“ งานอะไรอีกล่ะ แม่ไปคนเดียวไม่ได้เหรอไง หรือไม่ก็ลากโยชิกิไปด้วยก็ได้ หนูไม่เห็นจะอยากไปไอ้งานบ้านั่น...”
“ งานนี้เขามีแต่ผู้หญิงไปกัน แกจะให้ฉันลากน้องชายแกไปได้ยังไงล่ะ แล้วป่านนี้มันไปเมาหัวราน้ำอยู่ที่ไหนแล้วก็ไม่รู้”
แม่ยังคงบ่นต่อไปเรื่อยๆ แต่ฉันก็ไม่ได้สนใจได้แต่ปล่อยให้มันผ่านเข้ามาทางหูซ้ายและทะลุออกทางหูขวา ก้มลงอ่านข้อความในกระดาษที่ถืออยู่แทน ลายมือภาษาไทยที่คุ้นเคยของพ่อทำให้รู้สึกอบอุ่นขึ้นมา แต่แทนที่มันจะทำให้ฉันยิ้มได้เหมือนเคย ครั้งนี้มันกลับให้ความรู้สึกเศร้าๆอย่างบอกไม่ถูกแฮะ
ฉันพบกว่านอกจากกระดาษซึ่งถูกเขียนถามสารทุกข์สุขดิบด้วยลายมือของพ่อแล้ว...ยังมีการ์ดอีกใบแนบมาด้วย มันเป็นกระดาษสีขาวสะอาดและมีตัวหนังสือสีดำตัดกัน
การ์ดนี่มัน...งานศพนี่
กุลธิดา ทรัพย์สมบูรณ์
ชื่อของฝ้ายน้องสาวฉัน! O_O
ฉันรู้สึกได้ถึงขนแขนที่เริ่มตั้งชันขึ้นมาเมื่อหยิบจดหมายของพ่อขึ้นมาอ่านอีกครั้ง หัวสมองเหมือนจะมึนตื้อไปชั่วขณะ...
ข้อความที่ถูกเขียนไว้ตรงหน้าดูเรือนลางสำหรับฉัน และมันเริ่มจะชัดเจนขึ้นเมื่อฉันอ่านมาจนถึงบรรทัดสุดท้าย
‘ พ่อรักลูกนะป่าน อย่าลืมมางานศพน้องให้ได้นะลูก ยัยฝ้ายคงอยากจะเจอลูกก่อนที่เขาจะไป...’
กระดาษใบนั้นร่วงจากมือฉันทันที
ฝ้ายตายแล้ว!
“ นั่นแกเป็นอะไรไปอีกล่ะมิกิ แกคงซึ้งในจดหมายของพ่อแกมากเลยล่ะสิ”
แม่หันมาถามตอนที่กำลังจรดริมฝีปากปากกับแท่งลิปสติกสีแดงสด ส่วนฉัน...ต้องใช้เวลาอยู่นานกว่าจะเค้นเสียงออกมาจากลำคอที่ตีบตันได้
“ แม่...”
“...”
“ ฝ้ายตายแล้ว...”
ความคิดเห็น