ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    มาเรียนภาษาเยอรมันกันเถอะ! - ภาคไวยากรณ์

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 1 - ตัวอักษรและการออกเสียง

    • อัปเดตล่าสุด 21 ก.พ. 52


    ก่อนอื่นเปิดไฟล์เสียงด้านบน แล้วฟังไปด้วยนะเจ้าคะ


    ชื่อเรียกของแต่ละตัวอักษรในภาษาเยอรมัน

    ตัวพิมพ์ใหญ่

    ตัวพิมพ์เล็ก

    IPA

    เสียงอ่านโดยประมาณ

    A

    a

    [aː]

    อา

    B

    b

    [beː]

    เบ

    C

    c

    [tseː]

    เซ

    D

    d

    [deː]

    เด

    E

    e

    [eː]

    เอ

    F

    f

    [ɛf]

    เอฟ

    G

    g

    [geː]

    เก

    H

    h

    [haː]

    ฮา

    I

    i

    [iː]

    อี

    J

    j

    [jɔt]

    ยอท

    K

    k

    [kaː]

    คา

    L

    l

    [ɛl]

    แอล์

    M

    m

    [ɛm]

    เอ็มม์

    N

    n

    [ɛn]

    เอ็นน์

    O

    o

    [oː]

    โอ

    P

    p

    [peː]

    เพ

    Q

    q

    [kuː]

    คู

    R

    r

    [ɛr]

    แอร์

    S

    s

    [ɛs]

    เอส

    T

    t

    [teː]

    เท

    U

    u

    [uː]

    อู

    V

    v

    [faʊ]

    เฟา

    W

    w

    [veː]

    เว

    X

    x

    [ɪks]

    เอ็กส์

    Y

    y

    [ʏ́psilɔn]

    อิบซิลอน

    Z

    z

    [tsɛt]

    เซ็ดด์

    Ä

    ä

    [εː]/[aːʊ́mlaʊt]

    แอ, อา อุมเลาท์

    Ö

    ö

    [øː]/[oːʊ́mlaʊt]

    เออ*, โอ อุมเลาท์

    Ü

    ü

    [yː]/[uːʊ́mlaʊt]

    อิ(ว),* อู อุมเลาท์

     

    ß

    [ɛstsɛ́t]

    เอสเซ็ท

    *เป็นเสียงที่ประมาณในภาษาไทยได้ยาก ให้ฟังเสียงในไฟล์ดีๆ

     

    กฎทั่วไปในการออกเสียง

    ·       โดยทั่วไปเหมือนกับภาษาอังกฤษ

    ·       ระวังเรื่อง accent ด้วย คำส่วนใหญ่จะมี accent อยู่ที่พยางค์แรก แต่ก็มีคำยกเว้นที่เป็นคำซึ่งมาจากต่างประเทศอยู่เหมือนกัน

    ·       เสียงสระเป็นเสียงสั้นไม่ก็ยาว สระที่ลง accent จะออกเสียงยาว

    ·       แต่ถ้าหลังจากสระเป็นพยัญชนะสองตัวขึ้นไปเรียงติดกัน จะออกเสียงสระเป็นเสียงสั้น

    ·       คำประสมจะลง accent แยกจากกัน

     

    เสียงสระ (เสียงอ่านภาษาไทยเป็นเสียงโดยประมาณ ลองฟังแล้วพยายามออกเสียงเลียนแบบเสียงจริง)

    a

    [aː]

    อา

    da, ja, Mal, Bahn*(*ถ้ามีตัว h หลังสระให้ออกเสียงสระยาว)

    [a]

    อะ

    alt, Mann, halten

    e

    [eː]

    เอ*

    beten, geben, Tee* (*สระเรียงซ้อนกันจะกลายเป็นเสียงยาว)

    [ɛ]

    เอะ*

    essen, den

    [ə]

    เออะ

    Nase

    i

    [iː]

    อี

    Bibel, mir

    [ɪ]

    อิ

    mit, finden, Sinn

    o

    [oː]

    โอ

    Not, Boot

    [ɔ]

    โอะ

    offen, Gott

    u

    [uː]

    อู

    tun, Uhr

    [ʊ]

    อุ

    unten, dumm

    ä

    [ɛː]

    เอ

    Bär, Dämon

    [ɛ]

    เอะ

    ändern, Männer

    ö

    [øː]

    เออ

    Öl, Höhe

    [œ]

    เออะ

    öffnen, können

    ü

    [yː]

    อี(ว)

    über, Bühne

    [ʏ]

    อิ(ว)

    dünn, Hütte

    ai

    [aɪ]

    ไอ

    Mai

    ei

    Eis, mein

    ay

    Bayern

    ey

    Meyer

    au

    [aʊ]

    เอา

    Baum, Traum

    äu

    [ɔʏ]

    ออย

    Bäume, träumen

    eu

    neu, heute, Europa

    ie

    [iː]

    อี

    die, Biene, Liebe

    (แต่ Familie ออกเสียง [iə] เพราะมาจากต่างประเทศ)

     

    คำอธิบายอย่างไม่เป็นทางการของผู้เขียนสำหรับเสียงสระบางเสียง

    ·       ตัว e ออกเสียง “เอ” แต่ฉีกปากให้กว้างกว่าปกติ ในขณะที่ตัว ä ออกเสียง “เอ” ธรรมดา

    ·       เสียง ö ทำปากให้ริมฝีปากห่อเป็นวงกลมเหมือนจะพูดว่า “โอ” แต่ออกเสียงว่า “เอ” (o-e)

    ·       เสียง ü ทำปากให้ริมฝีปากห่อเป็นวงกลมเหมือนจะพูดว่า “อู” แต่ออกเสียงว่า “อี” (u-i)

     

    เสียงพยัญชนะที่ควรระวัง

    b, d, g

    [b], [d], [g]

    (พยัญชนะต้น) Bett, oben, du, Ende, Gas, gegen

     

    [p], [t], [k]

    (ตัวสะกด) ab, Raub, Hand, Kind, Tag, Zug

    c

    [k]

    Computer

    [s]

    forcieren

    [tʃ]

    Cello

    [ts]

    Cäsar

    ch

    [x]

    (หน้า a, o, u, au) Bach, Koch, Buch, Bauch

     

    [ç]

    (นอกจากนั้น) ich, Märchen, echt

    chs

    [ks]

    Fuchs, wachsen

    ds

    [ts]

    abends

    ts

    nichts, nachts

    tz

    Platz

    dt

    [t]

    Stadt, Verwandte

    h

    [h]

    haben, hin

    (กรณีสระ + h จะกลายเป็นสระยาว) Fahrt, gehen

    j

    [j]

    Japan, jetzt

    -ig

    [iç]

    billig, König

    (แต่ billige [bɪ́lɪgə], königlich [kǿːnɪklɪç])

    -ng

    [ŋ]

    Prüfung, lang

    ph

    [f]

    Philosophie, Physik

    qu

    [kv]

    Quelle, Qual

    pf

    [pf]

    (ออกเป็นเสียงเดียว) Apfel, Kopf, Pferd

    r

    [r]

    (รัวลิ้นที่เพดานปาก) rot, fahren, rauchen

    [ɐ]

    (กลายเป็นเสียงสระ) der, Doktor; aber, Butter

    s

    [z]

    (หน้าสระ) also, reisen, sein

    [s]

    (กรณีอื่น) aus, Bus

    ß

    [s]

    außer, Fuß

    sch

    [ʃ]

    schlafen, schon, Tisch, Englisch

    sp, st

    [ʃp], [ʃt]

    (ขึ้นต้นคำ) spät, sprechen, Student

     

    [sp], [st]

    (กรณีอื่น) Knospe, Fenster, Herbst

    t

    [t]

    tot, trinken

    [ts]

    (ti + เสียงต่อไป ในคำต่างประเทศ) Nation, Patient

    th

    [t]

    Theater, Mathematik

    tsch

    [tʃ]

    Deutsch, tschüs

    v

    [f]

    Vater, vier, von

     

    [v]

    (คำจากต่างประเทศ) Villa, Universität

    w

    [v]

    Wasser, wo

    x

    [ks]

    Examen, Text

    z

    [ts]

    Herz, Zeit

     

    คำอธิบายอย่างไม่เป็นทางการของผู้เขียนสำหรับเสียงของบางพยัญชนะ

    ·       b, d, g ถ้าเป็นตัวสะกดให้ออกเป็น p, t, k ตามลำดับ

    ·       ch ที่ตามหลัง a, o, u หรือ au ออกเสียง ฮ+(สระก่อนหน้านั้น) แบบเป่าออกมาเพียงแต่ลมหายใจ อย่าง Bach, Koch, Buch, Bauch จะออกเสียงประมาณ บา(ฮ)า คอ(ฮ)อ บู(ฮู) เบาโ(ฮ)

    ·       -ig ออกเสียงราวๆ อิ(ฮิ) คล้ายๆ กับกรณี ch แต่เป็นเสียง ฮิ (มีแต่ลมหายใจ) ลงท้าย

    ·       sp, st ที่ขึ้นต้นคำ ออกเสียง s เป็นเสียง ชุ (=shu) ต่างจากในภาษาอังกฤษที่ออกเป็นเสียง สะ

    ·       t ในคำจากต่างประเทศที่อย่าง Nation, Patient ออกเสียงเป็น [ts] ในกรณีนี้คือ Nat-si-on และ Pat-si-ent

     

    ฝึกออกเสียง

    ตัวเลข

    1 eins

    2 zwei

    3 drei

    4 vier

    5 fünf

    6 sechs

    7 sieben

    8 acht

    9 neun

    10 zehn

    11 elf

    12 zwölf

    13 dreizehn

    14 vierzehn

    15 fünfzehn

    16 sechzehn

    17 siebzehn

    18 achtzehn

    19 neunzehn

    20 zwanzig

    21 einundzwanzig

    22 zweiundzwanzig

    30 dreißig

    40 vierzig

    50 fünfzig

    60 sechzig

    70 siebzig

    80 achtzig

    90 neunzig

    100 hundert

    101 hunderteins

    1000 tausend

    10000 zehntausend

     

     

    ระวังการออกเสียงตัวเลข 16 sechzehn เซ็ก(ฮิ)-เซน กับ 60 sechzig เซ็ก(ฮิ)-ซิ(ฮิ)

    ·       ตัวเลข 13 ถึง 19 ก็คือ 3 ถึง 9 ตามด้วยคำว่า ~zehn (สิบ) คล้ายๆ กับภาษาอังกฤษที่เป็น thirteen, fourteen, fifteen … nineteen แต่ว่าให้ระวังคำอ่านของ 16 (sechzehn) กับ 17 (siebzehn) ที่จะเพี้ยนไปจากปกติ 6 sechs, 7 sieben

    ·       ตัวเลข 20, 30 … 90 นั้นตามหลังด้วย ~zig แต่ให้ระวังตรง 30 dreißig (เปลี่ยนจาก z เป็น ß) 60 sechzig และ 70 siebzig

    ·       22 อ่านว่า zweiundzwanzig ซึ่งแยกส่วนได้เป็น zwei|und|zwanzig คือ สอง|และ|ยี่สิบ
    ในทำนองเดียวกัน
    23 คือ dreiundzwanzig (drei|und|zwanzig) = สาม|และ|ยี่สิบ
    หรือ 25 คือ fünfundzwanzig (fünf|und|zwanzig) = ห้า|และ|ยี่สิบ
    สังเกตว่า 21 อ่านว่า einundzwanzig คือในกรณีนี้เลข 1 อ่านว่า eins (ตัด s ทิ้ง)

    ·       ตั้งแต่ 100 ขึ้นไปอ่านจากหลักทางซ้าย + สองหลักสุดท้ายอย่างเช่น
    123 อ่านว่า hundertdreiundzwanzig (hundert|dreiundzwanzig)= หนึ่งร้อย|สามและยี่สิบ

     

    คำทักทาย

    Guten Morgen, Herr Meyer! – Guten Morgen, Frau Müller!

    Good morning, Mr. Meyer! – Good morning, Mrs. Müller!

    อรุณสวัสดิ์ คุณไมเยอร์ – อรุณสวัสดิ์ คุณนายมุลเลอร์

     

    Guten Tag, Doris! – Guten Tag, Ulrike!

    Hello, Doris! – Hello, Ulrike! (จริงๆ Guten Tag แปลว่า Good day)

    สวัสดี ดอริส – สวัสดี อุลริเก

     

    Guten Abend, liebe Zuschauer!

    Good evening, dear listeners!

    สวัสดีตอนเย็นครับ ท่านผู้ฟังที่รัก

     

    Gute Nacht!

    Good night!

    ราตรีสวัสดิ์

     

    Wie geht es Ihnen? – Danke, gut. Und Ihnen? – Danke, auch gut.*

    How are you? – I’m fine, thank you. And you? – I’m fine too, thank you.

    สบายดีรึเปล่าครับ? – สบายดีค่ะ แล้วคุณล่ะคะ? – ผมก็สบายดีครับ

     

    Wie geht’s dir? – Danke, gut. Und dir? – Danke, es geht.**

    How’s it going? – Fine thanks. And you? – Well, so-so.

    นายเป็นยังไงบ้าง? – ก็ดีนิ แล้วนายล่ะ? – ก็พอไหวล่ะนะ

     

    Auf Wiedersehen! – Auf Wiedersehen!

    Good bye! – Good bye!

    ลาก่อนครับ – ลาก่อนค่ะ

     

    Tschüs, bis morgen! – Tschüs! (ออกเสียงเป็น Tschüss ก็มี)

    Bye, until tomorrow! – Bye!

    แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะ – แล้วเจอกัน

     

    Danke schön! – Bitte schön!

    Thank you very much. – You’re welcome.

    ขอบคุณมากครับ – ไม่เป็นไรค่ะ

     

    * ประโยคใช้ถามคนที่ไม่สนิทกัน (Ihnen = คุณ)

    ** ประโยคใช้ถามคนที่สนิทกัน (dir = นาย, เธอ, แก)

     

    ชื่อฤดูกาล เดือน วัน ช่วงเวลา

    ฤดูกาล

    Frühling

    [frýːlɪŋ]

    spring

    ฤดูใบไม้ผลิ

    Sommer

    [zɔ́mɐ]

    summer

    ฤดร้อน

    Herbst

    [hɛrpst]

    fall, autumn

    ฤดูใบไม้ร่วง

    Winter

    [vɪ́ntɐ]

    winter

    ฤดูหนาว

     

    เดือน

    Januar

    [jánuaːr]

    January

    มกราคม

    Februar

    [féːbruaːr]

    February

    กุมภาพันธ์

    März

    [mɛrts]

    March

    มีนาคม

    April

    [aprɪ́l]

    April

    เมษายน

    Mai

    [maɪ]

    May

    พฤษภาคม

    Juni

    [júːni]

    June

    มิถุนายน

    Juli

    [júːli]

    July

    กรกฎาคม

    August

    [aʊgʊ́st]

    August

    สิงหาคม

    September

    [zɛptɛ́mbɐ]

    September

    กันยายน

    Oktober

    [ɔktóːbɐ]

    October

    ตุลาคม

    November

    [novɛ́mbɐ]

    November

    พฤศจิกายน

    Dezember

    [detsɛ́mbɐ]

    December

    ธันวาคม

     

    วัน

    Montag

    [móːntaːk]

    Monday

    วันจันทร์

    Dienstag

    [díːnstaːk]

    Tuesday

    วันอังคาร

    Mittwoch

    [mítvɔx]

    Wednesday

    วันพุธ

    Donnerstag

    [dɔ́nɐstaːk]

    Thursday

    วันพฤหัสบดี

    Freitag

    [fráɪtaːk]

    Friday

    วันศุกร์

    Samstag

    [zámstaːk]

    Saturday

    วันเสาร์

    Sonnabend

    [zɔ́n|aːbənt]

    Sonntag

    [zɔ́ntaːk]

    Sunday

    วันอาทิตย์

     

    ·       Tag แปลว่า Day (วัน) วันส่วนใหญ่จึงลงท้ายด้วย ~tag

    ·       Mittwoch มาจาก Mitte (mid กลาง) + Woche (week สัปดาห์) เพราะฉะนั้น Mittwoch จึงมีความหมายราวๆ mid-week หรือ “กลางสัปดาห์” นั่นเอง

    ·       Sonnabend เป็นคำที่ใช้ในแถบเยอรมันทางเหนือ มาจาก Sonne (sun พระอาทิตย์) + Abend (evening ตอนเย็น) รวมกันอาจจะเป็น sun-evening อาจจะทำให้คิดว่าเป็นเย็นวันอาทิตย์ แต่จริงๆ ความหมายเดิมคือ “เย็นก่อนวันอาทิตย์” ก็คือวันเสาร์นั่นเอง

     

    ช่วงเวลา

    Morgen

    [mɔ́rgən]

    morning

    เช้า

    Vormittag

    [fóːɐmɪtaːk]

    late morning

    สาย

    Mittag

    [mɪ́taːk]

    noon

    เที่ยง

    Nachmittag

    [náːxmɪtaːk]

    afternoon

    บ่าย

    Abend

    [áːbənt]

    evening

    เย็น

    Nacht

    [naxt]

    night

    กลางคืน

     

    ·       เหมือนก่อนหน้านี้ Mittag มาจาก Mitte (mid กลาง) + Tag (day วัน)

    ·       vor แปลว่า in front of (ก่อนหน้า) ดังนั้น Vormittag จึงแปลว่า “ก่อนเที่ยง” หรือ สาย นั่นเอง

    ·       nach แปลว่า after, pass (หลังจาก) ดังนั้น Nachmittag ก็คือ “หลังเที่ยง” หรือ บ่าย นั่นเอง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×