คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : บทที่ 2 - การผันกริยารูปปัจจุบัน, ชนิดประโยคและตำแหน่งกริยารูปถูกกำหนด
เอาล่ะ... เข้าสู่การผันกริยาในภาษาเยอรมันอย่างจริงๆ จังๆ เลยนะเจ้าคะ
(แล้วอย่าลืมกดฟัง MP3 ด้วยล่ะ)
1. การผันของกริยารูปปัจจุบัน
กริยานั้นจะมีการผันตามบุคคลและจำนวน (เอกพจน์หรือพหูพจน์) ของประธาน สำหรับรูปที่เป็นรากสำหรับใช้ผันนั้นจะเรียกว่า รูป Infinitiv [ผู้เขียนขอเรียกง่ายๆ ว่ารูปไม่กำหนด] สำหรับรูปนี้จะแบ่งเป็นสองส่วนคือแกนและหาง แล้วส่วนหางจะลงท้ายด้วย en (หรือ n) เจ้าค่ะ
lernen: lern + en |
learn |
เรียน |
arbeiten: arbeit + en |
work |
ทำงาน |
heißen: heiß + en |
be called |
ถูกเรียกว่า (มีชื่อว่า) |
tun: tu + n |
do |
ทำ |
ก่อนอื่นเรามาดูสรรพนามแทนบุคคลต่างๆ กันก่อนนะเจ้าคะ (รูปประธาน)
|
เอกพจน์ |
พหูพจน์ |
บุรุษที่ 1 (ผู้พูด) |
ich |
wir |
บุรุษที่ 2 (ผู้ฟัง) |
du (รูปสนิทสนม) Sie (รูปสุภาพ) |
ihr (รูปสนิทสนม) Sie (รูปสุภาพ) |
บุรุษที่ 3 (คำแทนคำนาม) |
er sie es |
sie |
ข้อสังเกต
· ต่างจาก I ในภาษาอังกฤษ คำว่า “ฉัน” ในภาษาเยอรมัน ich นั้นจะขึ้นต้นด้วยตัวพิมพ์ใหญ่เฉพาะกรณีขึ้นต้นประโยคเท่านั้นเจ้าค่ะ
· สรรพนามบุรุษที่ 2 มีอย่างละ 2 รูปสำหรับทั้งกรณีเอกพจน์และพหูพจน์ ถ้าแปลเป็นภาษาไทยโดยคร่าวๆ du = เธอ นาย ihr = พวกเธอ พวกนาย ส่วน Sie = คุณ (เอกพจน์) หรือ พวกคุณ (พหูพจน์)
· สรรพนามรูปสุภาพ Sie นั้นขึ้นต้นด้วยอักษรพิมพ์ใหญ่เสมอ
· สรรพนามรูปสุภาพ Sie นั้นมีที่มาจากรูปบุรุษที่ 3 พหูพจน์ เพราะฉะนั้นการผันรูปต่างๆ (ที่จะแนะนำหลังจากนี้) ของทั้งสองกรณีนั้นจะเหมือนกันทั้งหมด ต่างกันเพียงอักษรขึ้นต้นเป็นตัวพิมพ์เล็กหรือตัวพิมพ์ใหญ่เท่านั้นเจ้าค่ะ
เมื่ลองดูดีๆ จะสังเกตว่าคำว่า sie (หรือ Sie) นั้นมีถึงสามความหมาย ปัญหาจึงเกิดขึ้นว่า “แล้วจะแยกความหมายออกจากกันได้ยังไงล่ะ?” ใช่มั้ยเจ้าคะ สำหรับคำตอบนั้นอยู่ที่การผันท้ายคำกริยาตามแต่ละบุรุษเจ้าค่ะ ข้างล่างนี้เป็นวิธีการผันท้ายคำกริยาที่ว่านั้นเจ้าค่ะ
|
ประธาน |
ท้ายคำกริยา |
lernen |
sagen |
เอกพจน์ |
ich |
-e |
lerne |
sage |
du |
-st |
lernst |
sagst |
|
er* |
-t |
lernt |
sagt |
|
พหูพจน์ |
wir |
-en |
lernen |
sagen |
ihr |
-t |
lernt |
sagt |
|
sie |
-en |
lernen |
sagen |
|
|
Sie** |
-en |
lernen |
sagen |
* จากนี้ไป บุคคลที่สามเอกพจน์จะเขียนแทนด้วย er
** บุรุษที่ 2 รูปสุภาพนั้นผันเหมือนกับบุรุษที่ 3 พหูพจน์เสมอ
(ตอบคำถามเมื่อครู่จากผู้เขียน ไม่อยู่ในไฟล์เสียง) สมมติว่ามีสามประโยคที่ขึ้นต้นด้วย Sie มาแบบต่อไปนี้ (Deutsch = ภาษาเยอรมัน)
(1) Sie lernt Deutsch.
(2) Sie lernen Deutsch.
ดูจากท้ายคำกริยาแล้วอย่างน้อยก็รู้ว่า (1) นั้น Sie หมายถึง “เธอ” (บุรุษที่ 3 เอกพจน์) ส่วน (2) นั้น Sie อาจจะเป็น บุรุษที่ 3 พหูพจน์หรือบุรุษที่ 2 รูปสุภาพก็ได้เจ้าคะ ต้องดูจากบริบทอีกที แต่อย่างน้อยก็สามารถแยกสองกรณีนี้ออกจากกันได้ล่ะเจ้าค่ะ
ต่อไปเป็นกฎเพิ่มเติมอีกเล็กน้อยเจ้าค่ะ
· กริยาที่ส่วนแกนลงท้ายด้วย t หรือ d อย่างเช่น arbeiten หรือ finden (ค้นหา) นั้นเพื่อให้ออกเสียงสะดวกจึงมีการเติมตัว e ลงไปด้านหน้าการผัน -st หรือ -t ของ du, er (sie, es) กับ ihr
du arbeitest, er arbeitet, ihr arbeitet
· กริยาที่ส่วนแกนลงท้ายด้วย ß, s, tz หรือ z อย่างเช่น heißen, reisen (ท่องเที่ยว), sitzen (กำลังนั่งอยู่) นั้นเพื่อให้ออกเสียงสะดวก กรณีของ du นั้นจึงเปลี่ยนจากการผัน -st เป็น -t
du heißt, du reist, du sitzt
(โจทยฝึกซ้อม) จงผันรูปกริยาต่อไปนี้ตามแต่ละบุรุษ
1. lieben (รัก) |
2. spielen (เล่น) |
3. bleiben (พักแรม) |
4. reisen (ท่องเที่ยว) |
5. finden (ค้นหา) |
6. warten (รอ) |
7. sitzen (กำลังนั่งอยู่) |
|
2. จากกริยารูปไม่กำหนดสู่ประโยค
วลีที่ประกอบด้วยกริยารูปไม่กำหนด กรรม และคำขยายต่างๆ มาประกอบกันนั้นจะเรียกว่าวลีรูปไม่กำหนด ซึ่งโดยมากแล้ววลีเหล่านี้จะวางกริยาไว้ที่ตำแหน่งท้ายสุด รูปนี้จะเป็นรูปที่เปิดเจอในพจนานุกรมเจ้าค่ะ ตัวอย่างเช่น
Deutsch lernen |
เรียนภาษาเยอรมัน learn German |
fleißig Deutsch lernen |
เรียนภาษาเยอรมันอย่างขยันขันแข็ง learn German diligently |
immer fleißig Deutsch lernen |
เรียนภาษาเยอรมันอย่างขมันขันแข็งอยู่ตลอด always learn German diligently |
แล้วเมื่อระบุประธานลงไป วลีรูปไม่กำหนดก็จะกลายเป็นประโยคดังนี้
Deutsch lernern |
→ |
Ich lerne Deutsch. |
fleißig Deutsch lernen |
→ |
Er lernt fleißig Deutsch. |
immer fleißig Deutsch lernen |
→ |
Sie lernt immer fleißig Deutsch. |
3. ชนิดของประโยคกับตำแหน่งของกริยารูปถูกกำหนด
เราเรียกกริยาที่ผันหางคำตามประธานแล้วว่ากริยารูปถูกกำหนด แล้วตำแหน่งของเจ้ากริยารูปถูกกำหนดที่ว่านี่ก็จะแตกต่างไปตามชนิดของประโยคเจ้าค่ะ
ประโยคบอกเล่า
ในประโยคบอกเล่านั้น กริยารูปถูกกำหนดจะเป็นองค์ประกอบของประโยค (คำหรือกลุ่มคำ) ที่วางเอา ณ ตำแหน่งที่สอง ของประโยค แต่ต้นประโยค (องค์ประกอบแรกสุด) นั้นไม่จำเป็นต้องเป็นประธานก็ได้
Wolfgang wohnt jetzt in Berlin. |
Wolfgang อาศัยอยู่ตอนนี้ที่เบอร์ลิน Wolfgang lives now in Berlin. |
Jetzt wohnt Wolfgang in Berlin. |
ตอนนี้ Wolfgang อาศัยอยู่ในเบอร์ลิน Now Wolfgang lives in Berlin. |
ประโยคคำถามแบบถูก/ผิด
ประโยคคำถามแบบถูก/ผิด (Yes-no question) คือประโยคคำถามที่ไม่ใช้คำตั้งคำถาม (ปฤจฉาสรรพนาม) กริยารูปถูกกำหนดจะวางไว้ ณ หัวประโยค (องค์ประกอบแรก) และคำตอบจะเป็น ja “ถูก” หรือ nein “ผิด” เท่านั้น
Wohnt Wolfgang in Berlin? |
Wolfgang อาศัยอยู่ในเบอร์ลินใช่มั้ย? Does Wolfgang live in Berlin? |
- Ja, er wohnt in Berlin. |
ใช่ เขาอาศัยอยู่ในเบอร์ลิน Yes, he lives in Berlin. |
- Nein, er wohnt nicht in Berlin. |
ไม่ใช่ เขาไม่ได้อาศัยอยู่ในเบอร์ลิน No, he doesn’t live (=lives not) in Berlin. |
คำว่า nicht แปลว่า “ไม่” จะวางเอาไว้หน้าสิ่งที่จะปฏิเสธ
ในกรณีที่ถามคำถามเป็นเชิงปฏิเสธตั้งแต่ต้น ประโยคตอบรับว่าสิ่งนั้นเป็นจริง (คือที่ถามมานั้นผิด) จะใช้คำว่า doch แทน ja (เป็นการหักล้างคู่สนทนาอย่างสุภาพ)
Wohnt Wolfgang nicht in Berlin? |
Wolfgang ไม่ได้อาศัยอยู่ในเบอร์ลินใช่มั้ย? Doesn’t Wolfgang live in Berlin? |
- Doch, er wohnt in Berlin. |
เปล่านะ เขาอาศัยอยู่ในเบอร์ลิน Yes, he lives in Berlin. |
- Nein, er wohnt nicht in Berlin. |
ไม่ เขาไม่ได้อาศัยอยู่ในเบอร์ลิน No, he doesn’t live (=lives not) in Berlin. |
ประโยคคำถามแบบไม่เจาะจง
ประโยคคำถามแบบไม่เจาะจง (Wh- question) คือประโยคคำถามที่ใช้คำตั้งคำถาม (ปฤจฉาสรรพนาม) แล้วต้องการคำตอบเป็นชื่อ สถานที่ ลักษณะ เวลา ฯลฯ กริยารูปถูกกำหนดนั้นจะวางไว้ ณ ตำแหน่งที่สอง
Was lernt Wolfgang? |
Wolfgang เรียนอะไรอยู่ What is Wolfgang learning? |
- Er lernt Japanisch. |
Wolfgang กำลังเรียนภาษาญี่ปุ่น Wolfgang is learning Japanese. |
4. การผันกริยาไม่ตรงตามกฎ sein, haben และ werden ตามแต่ละบุรุษ
กริยา sein, haben และ werden นั้นเป็นกริยาช่วยที่มีความสำคัญซึ่งมีรูปแบบการผันไม่เป็นไปตามรูปแบบ ตรงนี้ขอให้จำด้วยเจ้าค่ะ
|
sein (be) |
haben (have) |
werden (become*) |
ich |
bin |
habe |
werde |
du |
bist |
hast |
wirst |
er |
ist |
hat |
wird |
wir |
sind |
haben |
werden |
ihr |
seid |
habt |
werdet |
sie |
sind |
haben |
werden |
Sie |
sind |
haben |
werden |
ส่วนที่พิมพ์ตัวหนาคือจุดที่ไม่เป็นไปตามกฎเจ้าค่ะ
* werden นั้นจริงแล้วมีหลายความหมาย หากเป็นกริยาหลักจะหมายถึง “กลายเป็น” ส่วนความหมายอื่นๆ นั้นจะแนะนำหลังจากนี้ เพียงแต่ว่าไม่ว่าจะความหมายไหนก็ผันรูปเดียวกันเจ้าค่ะ
Was bist du von Beruf*? |
เธอทำอาชีพอะไรเหรอ? What do you do? |
- Ich bin Student / Studentin**. |
(ผม, ดิฉัน) เป็นนักศึกษา I am a student. |
* von Beruf แปลว่า “เกี่ยวกับอาชีพ” เพราะฉะนั้นจริงๆ แล้วกำลังถามว่า “สิ่งที่เกี่ยวกับอาชีพของเธอคืออะไร?” = “เธอทำอาชีพอะไร?”
** Student คือนักศึกษาชาย ส่วน Studentin คือนักศึกษาหญิง คำว่า Student กับ Studentin ในภาษาเยอรมันนั้นต่างจากภาษาอังกฤษตรงที่เจาะจงไปที่นักศึกษาระดับมหาวิทยาลัย
*** ข้อสังเกตทางไวยกรณ์: ประโยคบอกว่าตนเองทำอาชีพอะไรนั้นในภาษาเยอรมันไม่จำเป็นต้องมี article นำหน้าเหมือนในภาษาอังกฤษ (Ich bin Student. กับ I am a student.)
(หมายเหตุจากอาจารย์ของผู้เขียน) ในความเป็นจริงแล้วการแทนคู่สนทนาด้วย du แสดงว่าสนิทกันในระดับหนึ่งแล้ว เพราะฉะนั้นย่อมต้องรู้อาชีพของอีกฝ่าย ดังนั้นจริงๆ แล้วคำถามนี้น่าจะแทนคู่สนทนาด้วย Sie ซะมากกว่า นั่นคือควรจะถามว่า Was sind Sie von Beruf?
Hast du heute Zeit? |
วันนี้เธอมีเวลามั้ย? Do you have time today? |
- Ja, ich habe heute Zeit. |
ครับ ผมมีเวลา Yes, I have time today. |
heute = วันนี้ today, Zeit = เวลา time
Irene wird bald gesund. |
อีกไม่นาน Irene ก็จะกลับมาสบายดีแล้ว Irene will get (=become) well soon. |
bald = อีกไม่นาน soon, gesund = สบายดี well, fine
5. วิธีการใช้รูปปัจจุบัน (Präsens)
· รูปปัจจุบัน (Präsens) นั้นสามารถแสดงความหมายในเชิงกำลังดำเนินต่อเนื่องในปัจจุบัน หรือเหตุการณ์ที่ต่อเนื่องมาจากอดีตจนกระทั่งปัจจุบันได้ด้วย นั่นคือประโยค Present continuous tense หรือ Present perfect continuous tense จะเขียนเป็นภาษาเยอรมันด้วยรูปปัจจุบัน (Präsens)
Ich lerne seit April Deutsch |
ฉันเรียนภาษาเยอรมันมาตั้งแต่เดือนเมษายน I have been learning German since April. |
Julia kocht gerade Kartoffeln. |
Julia กำลังต้มมันฝรั่งอยู่เลย Julia is just boiling the potatoes. |
siet = ตั้งแต่ since
kochen = ต้ม ปรุง cook, boil
gerade = พอดี just
Kartoffeln = มันฝรั่ง (พหูพจน์) potatoes
· มีความหมายถึงเรื่องราวในอนาคตหรือเรื่องที่ต่อเนื่องตั้งแต่ปัจจุบันไปยังอนาคตก็ได้
Morgen fliege ich nach Deutschland. |
พรุ่งนี้ฉันจะบินไปเยอรมัน Tomorrow I’ll fly to Germany. |
morgen = พรุ่งนี้ tomorrow
fliegen = บิน fly
nach = ไปสู่ to (somewhere)
Deutschland = ประเทศเยอรมัน Germany
· ข้อเท็จจริงต่างๆ ก็ใช้รูปปัจจุบัน
Japan liegt in Asien. |
ญี่ปุ่นตั้งอยู่ในทวีปเอเชีย Japan lies in Asia. |
Eins plus eins ist zwei. |
1 บวก1 ได้ 2 1 plus 1 is 2. |
liegen = นอนลง ตั้งอยู่ lie, locate
Asien = ทวีปเอเชีย Asia
เฉลยโจทย์ฝึกซ้อม
|
lieben |
spielen |
bleiben |
reisen |
finden |
warten |
sitzen |
ich |
liebe |
spiele |
bleibe |
reise |
finde |
warte |
sitze |
du |
liebst |
spielst |
bleibst |
reist |
findest |
wartest |
sitzt |
er |
liebt |
spielt |
bliebt |
reist |
findet |
wartet |
sitzt |
wir |
lieben |
spielen |
bleiben |
reisen |
finden |
warten |
sitzen |
ihr |
liebt |
spielt |
bliebt |
reist |
findet |
wartet |
sitzt |
sie |
lieben |
spielen |
bleiben |
reisen |
finden |
warten |
sitzen |
ความคิดเห็น