ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Pound 1: Tell me that it's not true
"อึ่ก!...อ๊าห์..."เขาไม่ค่อยเข้าใจเท่าไรว่าทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ ทำไมเขามาอยู่ที่นี้ ทำไมเขาถึงรู้สึกไร้เรี่ยวแรงเมื่ออยู่ตรงหน้าผู้ชายคนนี้ และ ทำไมเขา...ถึงถูกแวมไพร์อย่างผู้ชายคนนี้กัด...เขาไม่เข้าใจเลยจริงๆ
"อ่าาา ทั้งกลิ่น ทั้งเลือด ทั้งร่างกายของเธอ...มันทำให้แทบจะคุมสติตัวเองไว้ไม่อยู่เลยล่ะ:)"ผู้ชายคนนั้นผละออกจากลำคอของเขาแล้วเอาใบหน้าที่เต็มไปด้วยแรงอารมณ์นั้นมองเขาเหมือนเป็นสัตว์เลี้ยงที่รอเจ้าของโปรดปราน ทั้งที่คนตรงหน้าบังคับเขา ส่วนสภาพของเขาตอนนี้นะหรอ?โดนฝามือใหญ่ทั้งสองของอีกฝ่ายจับขึงไว้เหนือหัวนะสิ...ไม่ชอบเลย...สภาพที่ดูไม่ได้แบบนี้...ฮ---
"อยู่กับฉันอย่าคิดถึงคนอื่นสิ:)"พูดจบคนที่คร่อมเขาอยู่ก็ใช้ใบหน้านั้นคลอเคลียกับใบหูและลำคอของเขาต่ออย่างสนุก...ก่อนจะมาอยู่ตรงนี้เขาชอบเห็นคนรอบข้างมีความสุขและยิ้มได้...แต่ต้องไม่ใช่กับผู้ชายตรงหน้าเขา! เขาอยากจะกลับไปกลับไปก่อนนี้ที่มีทุกคนอยู่กลับไปสวนย่อแห่งนั้นที่เต็มไปด้วยพวกพ้อง...ในตอนนั้น ถ้าในตอนนั้นผมเชื่อพวกเพื่อนของผม ผมคงไม่ต้องมาอยู่ในสภาพแบบนี้ สภาพอัปยศนี้!
"อ๊าห์...อ๊ะ..." ฮิ...คา...ริ..ขอโทษ
ก่อนหน้านั้นไม่นานอิซาโยอิกับเพื่อนๆได้เข้าไปในเขตป่าที่ใช้บูชายัญเพื่อสำรวจโดยรอบว่าปลอดภัยหรือไม่
"อิซาโยอิ!นั้นนายจะไปไหนนะ?!ตรงนั้นมันเขตต้องห้ามนะ!!"เหมือนตรงนี้ไม่ใช่เขตต้องงั้นแหละ อิซาโยอิคิดอย่างขำๆกับคำพูดของเพื่อนอย่าง คุณหนู คุโด อาซึกะ ที่ตะโกนใส่อิซาโยอิที่กำลังเดินไปใจกลางของป่าที่มีแท่นบูชายัญ
"สำรวจน่ะ สำรวจ(^+++^)"พูดจบก็หัวเราะออกมาพร้อมกับฉีกยิ้มกว้างตบท้ายให้ ก่อนจะเดินไปต่อปล่อยให้ทั้งสองคนที่มองอยู่รู้สึกใจโหว่งๆ
"รู้สึกไม่เลยค่ะ"คาซึคาเบะ โยด้วยสีหน้าและแววตาที่เป็นกังวล
"อืม"อาสึกะตอบกลับไปแล้วยืนมองอิซาโยอิเดินเข้าไปในป่าจนลับตาอย่างช่วยไม่ได้ คงต้องรอคุโรซากิมาก่อนสินะ ทั้งสองคิดพร้อมกัน
"ทุกคนค่ะ กลับกั--แล้วคุณอิซาโยอิไปไหนแล้วคะเนี่ย?!"คุโรซากิพูดขึ้นอย่างร้อนรนเมื่อไม่พบอิซาโยอิอยู่ในกลุ่มด้วย..คงไม่ใย่ว่าไปก่อเรื่องหรอกนะค่ะ และดูเหมือนความคิดของคุโรซากิจะถูกสะด้วย
"ไปทางนั้น"x2 ทั้งสองพูดตอบพร้อมกับชี้ทิศทางที่อิซาโยอิเดินไป
"เอ๊!!"คุโรซากิ ร้องเสียงหลงเมื่อหันไปตามทิศทางที่ทั้งสองชี้...วันๆหนึ่งจะไม่สร้างปัญหากันไม่ได้เลยใช่ไหมค่ะ Y^Y
"ฉันจะไปรับอิซะเอง..เธอกลับไปก่อนเถอะทุกคนรออยู่"ผู้หญิงที่มีนัยน์ตาและผมสีทองอร่าม พูดขึ้นทำให้คุโรซากิโล่งใจเป็นอย่างมาก
"ฝากด้วยนะค่ะ คุณไอ!" ผู้หญิงตรงหน้าไม่ตอบอะไรแค่ยิ้มให้เท่านั้น..และเป็นรอยยิ้มที่ทุกคนวางใจ ฮิคาริ ไอ คือชื่อของเธอ เธอผู้เป็นดั่งแสงสว่างให้อิซาโยอิมาตลอดตั้งแต่จำความได้และเป็นแสงสว่างของพวกเราเหล่า โนเนม
10 วิ ก่อนหายไป
อิซาโยอิที่มาถึงใจกลางของป่าก็เดินเข้าไปสำรวจแท่นบูชายัญทันที
"นี้นะหรอ แท่นบูชายัญที่เล่าลือกัน สวยสมกับที่แหกกฎมาดู"อิซาโยอิพูดพร้อมกับลากนิ้วมือไปตามสันของแท่นบูชายัญที่ทำจากหินอย่างเบามือ
5 วิ ก่อนหายไป
แต่จู่ๆก็มีแสงสว่างเกิดขึ้นอย่างกะทันหันโดยที่อิซาโยอิยังไม่ทันตัว แต่ภาพและเสียงสุดท้ายที่เขาได้ยินทำให้เขาเป็นกังวล...
"อิซะ!!!"เสียงของไอตะโกนเรียกดังลั่นในจังหวะที่อิซาโยอิจะหายไปกับแสงสีขาวนั้น แต่ใครเล่าจะคาดคิดว่า...ลืมตาขึ้นมาอีกทีเขากำลังจะโดนแวมไพร์ดูดเลือด!!
"จะทำอะไร?!ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!!"อิซาโยอิบอกอีกฝ่ายแล้วออกแรงดิ้นแต่กับไร้ประโยชน์...มันไม่น่าจะเป็นได้...มีแวมไพร์ที่แข็งแกร่งขนาดนี้ด้วยหรอ?แถมยังไม่ขยับเลยชักนิด พลังของเขา...ไร้ผลกับชายตรงหน้า...พอคิดมาถึงตรงนี้อิซาโยอิก็หน้าซีดทันที
"หอม" เฮือก!!อิซาโยอิสะดุ้งสุดตัวเมื่อเสียงของอีกฝ่ายดังอยู่ข้างๆหูเขาในจังหวะที่เขาหยุดขัดขืนไปชั่วขณะหนึ่ง
"...ม...ไ...ม่...น...่ะ..." อิซาโยอิที่รู้สึกว่าเสียงหายไปชั่วขณะก็ใช้แรงทั้งหมดที่มีผลักอีกคนที่คร่อมตนอยู่ แล้วรีบวิ่งไปที่ประตูที่ใกล้ที่สุดทันทีโดยไม่รู้ว่ามันใช่ประตูทางออกหรือไม่
แต่ในจังหวะที่มือของอิซาโยอิจะถึงลูกบิดประตูก็มีมือจับข้อแขนเขาไว้พร้อมกับกระชากเขาอย่างแรง
"อ๊ะส์...อึ่ก!"ในจังหวะที่อิซาโยอิเสียหลักเข้าปะทะกับแผ่นอกแกร่งของอีกฝ่ายนั้น อีกฝ่ายก็กัดเข้าที่คออิซาโยอิทันทีทำให้อิซาโยหลุดเสียงที่หน้าอายออกมาก่อนจะกัดริมฝีปากเพื่อข่มเสียงของตนเองและความเจ็บที่เหมือนจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆทุกครั้งที่อีกฝ่ายแตะต้องตัวเขา
จากนั้น อีกฝ่ายก็ผละออกจากการดูดเลือดเขาแล้วอุ้มเขาที่หมดแรงจากการเสียเลือดทั้งที่ไม่ควรมีไปที่เตียงที่เขาวิ่งหนีออกมาอีกฝ่ายวางเขาที่หายใจแรงลงบนเตียงอย่างอ่อนโยน
"เรามา...สนุกกันเถอะ:)"อีกฝ่ายพูดแล้วยิ้ม ยิ้มที่อิซาโยอิรู้สึกขนลุกและหวาดกลัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน"จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ"อีกฝ่ายพรมจูบตั้งแต่ลำคอจนถึงหัวไหล่ของเขาและมันเป็นข้างที่อีกฝ่ายกัดเขาเพื่อดูดเลือด
"อึ่ก--!ฮึ่ก!"อิซาโยอิพยายามกลั้นเสียงอย่างเต็มที่เมื่อแวมไพร์ตรงหน้ากัดเขาอีกครั้งพร้อมกับมือข้างหนึ่งของอีกฝ่ายที่เลื้อยเข้ามาในเสื้อของเขาแต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้เพราะมือทั้งสองถูกอีกฝ่ายพันธนาการไว้เหนือหัวด้วยมือข้างเดียว และ ตอนนี้เขาก็รู้สึกไร้เรี่ยวแรงเป็นอย่างมากคล้ายเป็นอัมพาตอย่างไงอย่างงั้น
" คาร์ลไฮนซ์...เรียกชื่อของฉันสิ"อีกฝ่ายกระซิบข้างหูเขาด้วยน้ำเสียงแหบพร่าที่เต็มไปด้วยแรงอารมณ์พร้อมกับที่ค่อยๆปลดเข็มขัดกางเกงเขาเมื่อเห็นว่าเขาไม่มีทีท่าจะเรียกชื่ออีกฝ่ายก็บีบข้อมือทั้งสองเขาอย่างแรงจนเหมือนมันจะหักเขาตกใจมากจนร้องออกมาแต่มันกับไร้เสียงเพราะจุกอยู่ที่ลำคอ
"...ค...าร์...ล...ไฮน...ซ์..."อิซาโยอิเรียกเสียงอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงกระท่อนกระแท่น และ ดูเหมือนอีกฝ่ายจะพอใจเป็นอย่างมากที่เขาเรียกชื่อแต่ทำไม...
"อ๊ะ...อ๊า!"...ต้องทำอย่างนี้
อีกด้านหนึ่งในมุมมืดมีร่างของหญิงสาวผมสีทองนั่งมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่โดยมีผู้ชายทั้งสองนั่งดูอยู่เป็นเพื่อนตั้งแต่ต้น
"งั้นฉันขอตัวก่อนแล้วกันนะ พอดีมีธุระ"ผู้ชายผมสีทองพูดขึ้นอย่างอารมณ์ดีแล้วลุกขึ้นยืนทำให้ผู้ชายอีกคนลุกขึ้นตาม
"ฉันก็เหมือนกัน"ผู้ชายผมสีดำที่ลุกขึ้นตามหลังผู้ชายผมทองพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบตามแบบฉบับของตนเอง พวกเขามองผู้หญิงผมสีทองที่มองไปที่ห้องนั้นอยู่อย่างไม่ละสายตา
"พวกเราไปก่อนนะ..."ทั้งสองพูดพร้อมกันทำให้ผู้หญิงผมสีทองค่อยๆหันมา"...ไอ"พูดจบร่างของผู้ชายทั้งสองก็หายไป
"ไม่คิดอยากจะฟังฉันพูดก่อนเลยรึไง...ใจร้ายจริงนะพวกนาย"ผู้หญิงผมสีทองพูดขึ้นหลังจากที่ผู้ชายทั้งสองหายไปแล้ว ฮิคาริ ไอ คือชื่อของเธอ เธอผู้มาจากอีกโลกและคิดว่านี้เป็นอนิเมะและเธอก็ยังจะคิดแบบนั้นต่อไปตราบใดที่เธอยังอยู่ ถึงแม้ถ้าตายก็คือตายก็ตามที
เช้าของอีกวันแต่ท้องฟ้าก็ยังมืดสมแล้วที่เป็นที่ของแวมไพร์ไร้แสงสว่างสิ้นดี ถ้าจะต้องทนอยู่สภาพตายเสียยังดีกว่า อิซาโยอิคิดอย่างเลื่อนลอยแต่ก็ถูกขัดความคิดด้วยเสียงเคาะประตู
ก๊อก ก๊อก
"มีคนต้องการพบท่านขอรับ ท่านอิซาโยอิ"เสียงที่เขาไม่คุ้นเคยดังขึ้นหน้าประตูห้องที่เขานอนเมื่อคืนแถมชื่อของเขาที่ไม่ควรใครรู้นอกจากคนที่นอนกับเขาเมื่อคืนและหายไปในตอนเช้าแต่ทำไมคนหน้าห้องถึงรู้ชื่อเขา คาร์ลไฮนซ์บอกงั้นหรอ//หน้าซีด "....ท่านอิซาโยอิขอรับ?"
"ข--เข้ามา"อิซาโยอิพูดด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกักด้วยความร้อนรนไปวูปหนึ่งก่อนจะกลับมาเป็นปกติเมื่อตั้งสติได้
ประตูห้องเปิดออกพร้อมกับร่างของผู้หญิงที่เขาคุ้นเคยเป็นอย่างดี ประตูค่อยๆปิดลงจนสนิทในห้องเหลือแค่เขากับเธอแสงสว่างของเขา
"ฮ--ฮิคาริ?"อิซาโยอิเรียกชื่ออีกฝ่ายด้วยความตกใจและมึนงงปนดีใจที่ได้เจอ
"เป็นไงบ้าง?"คำถามของไอทำให้อิซาโยอิชะงักอย่างตกใจ"...ขอโทษนะที่ช่วยอะไรไม่ได้"อิซาโยอิอยากจะหัวเราะทั้งน้ำตาเมื่อได้ฟังคำนี้ ตกลงคือ...ทุกคนไม่สิ...แวมไพร์ทุกตน...รู้เรื่องเขากับคาร์ลไฮนซ์หมดแล้วสินะ รู้สึกรังเกียจตัวเองสุดๆเลยตอนนี้
"รู้หมดแล้ว...สินะ"ที่พูดไปเขาไม่ได้หวังคำตอบแต่ฮิคาริกับพยักหน้าตอบเขาชะงั้น"สภาพฉันตอนนี้น่าสมเพชมากเลยว่าไหม?"เขาถามพร้อมกับเค้นยิ้มสมเพชตัวเอง...
"...ไม่เลย...นายก็ยังเป็นนาย...แค่ลุกขึ้นเริ่มใหม่...ง่ายนิดเดียว^^"ฮิคาริพูดแล้วยิ้มให้เขาดูก็รู้ว่ากำลังฝืนยิ้มอยู่...นี้เขาทำให้เธอเป็นห่วงอีกแล้วหรอ?
"ขอกำลังใจที่ดิ"เมื่อได้ยินแบบนั้นไอก็ยิ้มออกมาแล้วเดินไปหาอิซาโยอิที่เตียง
"โอ๋ๆนะ"ไอกอดอิซาโยอิไว้แล้วลูบหัวอีกฝ่ายอย่างอ่อนโยน อิซาโยอิกอดไอแน่นอย่างหวงแหนก่อนน้ำตาที่พยายามกลั้นไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้ ไอลูบหัวอิซาโยอิต่อไปเหมือนไม่รู้ว่าอิซาโยอิกำลังร้องไห้ แต่ในใจนั้นต่างจากที่เห็นภายนอกโดยสิ้นเชิง...เราจะได้เห็นดีกันแน่ คาร์ลไฮนซ์...ไอคิดอย่างเคียดแค้นแต่ภายนอกกับยังลูบหัวอิซาโยอิอย่างอ่อนโยน
"ฮึ่ก!...ฮึก--!ฮือ"เสียงสะอื้นของอิซาโยอิร้องให้ไอได้ยินเกือบชั่วโมงก่อนจะค่อยๆแผ่วแล้วพร้อมกับร่างของอิซาโยอิที่นอนในอ้อมกอดของเธอ
"ถ้าถึงเวลาข้าวเย็นฉันจะมาปลุกนะ"ไอที่ประคองอิซาโยอินอนบนเตียงอย่างอ่อนโยนพูดขึ้นพร้อมกับปัดผมที่ปิดหน้าอิซาโยอิออก
จากนั้น ไอก็เดินออกมาจากห้องแล้วเดินไปในห้องๆหนึ่งอย่างอุกอาจโดยที่ไม่มีใครคิดจะเข้ามาห้ามเพราะรู้ดีว่าถ้าห้ามจะโดนอะไร..คนที่แม้แต่นายท่านก็ยังแพ้อย่างหมดรูป แล้วพวกตนจะไปทำอะไรได้
"ว่าไง...ไอจัง^^?"คาร์ลไฮนซ์ที่นั่งอยู่บนโต๊ะทำงานพูดขึ้นเมื่อเห็นคนมาใหม่เข้ามาโดยไม่เคาะประตู...จากกลิ่นอายก็รู้แล้วว่าเป็นใคร
"นายทำอิซะร้องไห้...จะรับผิดชอบยังไง?"ไอปิดประตูห้องแล้วยืนพรึงมันอย่างอารมณ์เสีย
"นั้นสิ...เธอคิดว่าไงละไอจัง"
"ขอบอกไว้ก่อนนะว่าอย่าเมียของนายมายุ่งมากเกินไป ถ้าตายขึ้นมาจะไม่มีใครรับผิดชอบ"
"ฮึฮึฮึ แน่นอน^^" มองรอยยิ้มที่ประดับบนใบหน้านั้นก็รู้ว่าอีกฝ่ายอารมณ์ดีแค่ไหน...เธอคิดผิดหรือคิดถูกกันที่ให้อิซาโยอิเป็นเมียราชาของเหล่าแวมไพร์อย่างคาร์ลไฮนซ์
เวลาล่วงเลยมาถึงตอนเย็นทุกคนในคฤหาสน์มาร่วมตัวกันที่ห้องอาหารอย่างพร้มเพียง โดยมี คอร์เดเลีย ภรรยาคนแรกของคาร์ลไฮนซ์ และลูกของเธอที่เป็นแฝดกันอีก3อย่าง อายาโตะ คานาโตะ และ ไรโตะ ต่อมาเป็นภรรยาคนที่2ของคาร์ลไฮนซ์อย่างเบียทริซ และ ลูกอีก2อย่าง ชู และ เรย์จิ สุดท้ายผู้ที่นั่งร่วมโต๊ะอาหารอีก1ก็คือ สึบารุ ลูกคนเล็กของคาร์ลไฮนซ์ที่เกิดจากภรรยาคนที3อย่าง คริสต้าที่ไม่ยินยอมและตอนนี้ก็ถูกขังไว้ในหอคอย
"ทำไมวันนี้คาร์ลไฮนซ์ถึงต้องเรียกมาพร้อมหน้ากันด้วย"บ่นกับตัวเองแต่พูดเสียงดังด้วยความไม่พอใจก่อนจะเหลือบตาเป็นเห็นเด็กผมขาว ชึ่งก็คือ สึบารุ "...ไม่สิ ไม่พร้อมหน้ากัน ยังเหลืออีกหนึ่ง"พูดแล้วยิ้มเยาะใส่สึบารุที่นั่งเงียบอย่างอดกลั้นแต่มือนี้กำไว้แน่น
แต่ก่อนจะมีการโต้เถียงกันมากกว่านี้ คาร์ลไฮนซ์ก็เปิดประตูเข้ามาก่อนพร้อมกับร่างทั้ง2ที่ยืนอยู่ด้านหลังคาร์ลไฮนซ์และนั้นก็ทำให้ทุกอย่างกระจ่าง...คาร์ลไฮนซ์เรียกมาพบภรรยาคนใหม่...ที่เป็นผู้ชาย ใช่พวกเธอรู้ เพราะเสียงเมื่อคืนมันชัดมาก
"ตั้งแต่นี้ต่อไป อิซาโยอิจะมาอยู่ที่นี้เคารพเธอเหมือนที่เคารพฉัน ส่วนอีกคนฮิคาริ ไอ ไม่ต้องไปคิดอะไรมากแค่อย่าทำให้เธอไม่พอใจ"ดูจากคำสั่งใครบ้างจะไม่รู้ว่าทั้งสองเป็นคนสำคัญของนายท่าน โดยเฉพาะผู้ชายผมทอง ที่ดูท่าจะเป็นภรรยาของนายท่านจากเสียงที่พวกตนได้ยินเกือบตลอดทั้งคืน
จากนั้นคาร์ลไฮนซ์ก็ออกไปจากห้องอาหารเพื่อไปทำธุระบางอย่างซึ่งยังบอกอีกว่าอีก10นาทีจะกลับมาทานข้าวด้วยให้รอ ทำให้ไอกับอิซาโยอิมองหน้ากันก่อนจะเอ่ยแนะนำตัวอีกครั้ง
"สวัสดี ชื่อของฉันคือ ฮิคาริ ไอ ต้องการหายนะเมื่อไรให้เรียกฉัน"ดูท่าการแนะนำตัวของไอจะทำให้ทุกคนที่ได้ฟังรู้นิสัยของเธอบางส่วนเสียแล้ว
"ซาคามากิ อิซาโยอิ อยากอยู่แบบสงบอย่ารบกวนฉัน"ส่วนอีกคนก็ไม่ต่างแล้วยังดูเย็นชาอีกต่างหาก แตกต่างจากอีกคนโดยสิ้นเชิง
"ฉันเป็นภรรยาคนที2ของท่านคาร์ลไฮนซ์มีชื่อว่า เบียทริซ และนี้คือลูกชายของฉัน คนผมทองเป็นพี่คนโต ชื่อชูส่วนอีกคนผมสีดำมีชื่อว่าเรย์จิ"เบียทริซพูดอย่างไหลลื่นเหมือนไม่มีอะไร แต่กับไอนั้นไม่ใช่เพราะเธอสามารถอ่านใจได้ ซึ่งเบียทริซนั้นเป็นจำพวกเก็บอารมณ์ได้ดีเยี่ยมต้องขอชมในความสามารถของเบียทริซจริงๆซึ่งอีกไม่นานภรรยาทั้ง3ก็จะต้องตาย
"หึ!ฉันมีชื่อว่า คอร์เดเลีย เป็นภรรยาคนแรกของคาร์ลไฮนซ์ อย่าเริงให้มากนักล่ะ"พูดแล้วมองอย่างเหยียดหยามรู้สึกมือไม้มันกระตุกยังไงไม่รู้"และนี้คือลูกชายของฉันเป็นฝาแฝดคนโตอายาโตะ คนรองคานาโตะ คนสุดท้องไรโตะ จำไว้ให้ดีชะล่ะ"
"แล้วนายละ มีชื่อว่าอะไร?"อิซาโยอิเลือกที่จะเมินคอร์เดเลยแล้วหันไปถามสึบารุที่นั่งเงียบมาตลอดนั้นทำให้คอร์เดเลียไม่พอใจเป็นอย่างมากแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ส่วนเบียทริซดูจะสะใจเป็นอย่างมากที่มีคนกล้าเมินคอร์เดเลียโดยที่เจ้าตัวทำอะไรในตอนนี้ไม่ได้
"ผม...ชื่อ สึบารุ"สึบารุเงียหน้าตอบอิซาโยอิทำให้ตาของสึบารุปะทะเข้ากับตาของอิซาโยอิและมันทำให้อิซาโยอิเบิกตากว้างอย่างตกใจที่อยู่ๆความทรงจำของสึบารุก็ไหลเข้ามาในหัวเป็นฉากๆทำให้อิซาโยอิหันไปมองไอที่มองอยู่ก่อนแล้วและเป็นอันรู้กันว่าทั้ง2คนได้รับพลังใหม่มาเสริมกับพลังที่มีอยู่ก่อนแล้ว
"ยินดีที่ได้รู้จัก...ต่อจากนี้พวกเรา2คนก็ขอฝากตัวด้วยนะสึบารุ ชู เรย์จิ อายาโตะ คานาโตะ และ ไรโตะ"อิซาโยอิพูดจบก็ยิ้มอ่อนให้ทั้ง6ซึ่งไอเกือบกรอกตามองบนเมื่อรู้สึกเหมือนอิซาโยอิจะปักธงเรี่ยราดถึงแม้เจ้าตัวจะไม่รู้ตัวก็เถอะ
"ครับ"พอได้ฟังคำตอบจากทั้ง6ไอก็ถึงเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ...ในเรื่องที่พวกมันพูดเพราะอ่ะนะ
จากนั้นอิซาโยอิกับไอก็พากันนั่งลงเก้าอี้ที่ว่างเพื่อรอเจ้าของคฤหาสน์ ซึ่งทำให้ไอไม่พอใจเป็นอย่างมากที่ต้องมานั่งรอใครแบบนี้แตกต่างจากอิซาโยอิที่ทำตัวเย็นชาไม่ค่อยพูดและดูเหม่อลอยเกือบตลอด ดูเหมือนจะยังทำใจไม่ได้ แต่คงไม่เป็นไร...ไอเชื่อว่าอย่างนั้น
วันต่อมาดูเหมือนอิซาโยอิจะหายจากอาการบาดเจ็บแล้วเพราะเจ้าตัวออกมาเดินเล่นอยู่ด้านนอกคนเดียว...โดยไม่มีใครรู้
"อิซ๊าาาาาาาา!!!!!นายอยู่หน๊ายยยยย!!!"
และนั่นเป็นเหตุให้เกิดเรื่องวุ่นวายตั้งแต่เช้าทั้งที่โลกปีศาจไม่มีพระอาทิตย์ทุกตนต่างพากันตามหาอิซาโยอิแทบจะทั่วทุกมุมของปราสาทแต่ก็ไม่มีใครหาพบจนเมื่อคาร์ลไฮนซ์มาถึงและเจอตัวอิซาโยอิอย่างรวจเร็ว...บางครั้งก็สงสัยนะว่ามันติดGPSให้ทุกตนในปราสาทรึเปล่า?
คาร์ลไฮนซ์พาตัวอิซาโยอิเข้ามาในห้องทำงานเพื่อเป็นการลงโทษ แต่สำหรับอิซาโยอิแล้ว...มันเป็นการทรมาน
"...เจ็บ!..."อิซาโยอิพูดขึ้นเมื่อโดนคาร์ลไฮนซ์กัดลงที่คอเพื่อดื่มเลือดของเขาอีกครั้งและอีกครั้งนั้นทำให้เขารู้ว่าตัวเขา สามารถสร้างเลือดเองได้อย่างรวจเร็วโดยไม่ต้องกลัวว่าจะเป็นโลหิตจาง...แต่เขาไม่ต้องการ!
แผ่บ!งับ!เฮือก!
เขารู้สึกขนลุกเป็นอย่างมากที่คาร์ลไฮนซ์เลียใบหูของเขาและขบกัดมันอย่างสนุก
"...อ่ะ..!" เสียงที่หลุดออกมาจากปากเขาดูเหมือนจะทำให้ราชันย์แวมไพร์พอใจเป็นอย่างมาก..พอใจจนน่าอ้วกใส่เลยล่ะ
"เธอเนี่ย...ชอบทำให้คนอื่นเป็นห่วงสินะ"คาร์ลไฮนซ์ที่คร่อมผมอยู่ก่อนแล้วผละหน้าออกจากลำคอผมแล้วพูดขขึ้นพร้อมกับมองลงมาที่ผมที่กำลังหอบหายใจอยู่"จากนี้ต่อไป...ฉันขอสั่ง...เธอจะไม่สามารถออกไปนอกเขตรั้วของปราสาทนี้ได้ ถ้าฉันไม่อนุญาต"ตอนที่คาร์ลไฮนซ์ออกคำสั่งนี้ตาของอีกฝ่ายเขารู้สึกเหมือนมันจะมีสีแดงวาดผ่านไป และ เขาเชื่อว่าอีกฝ่ายสามารถทำได้เพราะตอนฮิคาริสั่งเขาตาของอีกฝ่ายก็เป็นแบบนี้
"มันจะมากไปแล้วนะ!!นายไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับฉันด้วยช้ำ!อย่ามาออกคำสั่---!อึ่ก--!อ๊าส์!" ในจังหวะที่อิซาโยอิพูดพร้อมกับใช้แขนทั้งสองยันตัวเพื่อถอยห่างจากคาร์ลไฮนซ์อีกฝ่ายก็ใช้มือข้างซ้ายกดที่หัวไหล่เขาอย่างแรงทำให้เขารู้สึกเจ็บแว๊ปหนึ่งก่อนจะเจ็บมากกว่านี้เพราะคาร์ลไฮนซ์กัดลงมาที่คอเขาช้ำรอยเดิม
แต่ในขณะที่อิซาโยอิเหมือนตกนรกทั้งเป็นคอร์เดเลียที่ไม่รู้เรื่องอะไรก็เอาแต่อิจฉา ริษยาเพราะถูกแย่งความสนใจอีกครั้ง...แต่สำหรับคนในปราสาทรู้ดี
ิ คอร์เดเลียสำหรับคาร์ลไฮนซ์เป็นได้แค่หมากที่ใช้แล้วทิ้งไม่เหมือนกับคริสต้าที่คาร์ลไฮนซ์มอบความรักให้และยกให้เป็นกุหลาบขาวแห่งสวนเอเดนถึงแม้คริสต้าจะไม่ยินยอมและรู้สึกทั้งรักทั้งเกลียดในตัวคาร์ลไฮนซ์ก็ตาม แต่กับอิซาโยอิแล้วคาร์ลไฮนซ์มอบทั้งความรักและความเอาใจที่มากกว่า มากกว่าใครๆที่เคยได้มันมาครอบครอง ในความรู้สึกของคาร์ลไฮนซ์แล้วอิซาโยอิสำคัญกว่าโลกปีศาจที่ตนครอบครองยอมให้ได้ทุกอย่าง...ยกเว้นการปล่อยให้อีกฝ่ายเป็นอิสระแล้วบินหนีออกจากกรงที่ตนสร้างให้ แต่สำหรับอิซาโยอิแล้วมีแต่ความรู้สึกขยะแขยงและรังเกียจ ให้กับผู้ชายที่มีชื่อว่า คาร์ลไฮนซ์
"ทุกอย่างมันเป็นเพราะพวกแก!!ทั้งเด็กที่ชื่อ อิซาโยอิ!และก็แกคริสต้า!ทุกอย่างมันเป็นเพราะพวกแก!!!กริ๊ดดดดด!!!!!!!"
เพล้ง!เคร้ง!!!ตุ๊บ!!กริ๊ดดดด!!!!
"......"แฝดทั้ง3อย่าง อายาโตะ คานาโตะ และ ไรโตะ ได้แต่ยืนมองแม่ตัวเองอาละวาดทำลายข้าวของอย่างบ้าคลั่ง
ส่วนด้านของเบียทริซนั้นเจ้าตัวยังนั่งนิ่งอย่างสงบทำเป็นไม่ได้ยินเสียงอะไรที่ดังไปทั่วปราสาททั้งที่อยากจะอาละวาดออกมาอย่างคอร์เดเลียแต่ก็ต้องนั่งนิ่งอย่างอดทนในห้องของตัวเอง ถึงแม้จะรู้ว่าอิซาโยอิไม่เต็มใจจะอยู่ที่นี้อยู่เคียงข้างราชันย์แวมไพร์อย่างคาร์ลไฮนซ์และถึงแม้ อิซาโยอิจะน่าสงสารและน่าเห็นใจมากกว่าคริสต้าก็ตามแต่มันก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอิจฉา อิจฉาที่คาร์ลไฮนซ์มอบความรักให้
"ท่านแม่?เป็นอะไรครับ?"เรย์จิถามคำถามที่ตัวเองรู้อยู่แล้วขึ้นเมื่อเห็นแม่ของตนนั่งกำมือตัวเองแน่นอย่างสะกดอารมณ์ตนเองไว้โดยมีชูนั่งมองอย่างนิ่งๆ
"เรย์จิ ชู...ลูกจะเป็นศัตรูก็ได้แต่ต้องไม่ใช่กับผู้หญิงที่ชื่อ ฮิคาริ ไอ เข้าใจที่แม่พูดไหม"เบียทริซพูดกับลูกตนเสียงเครียดแค่มองแววตานั้นก็รู้แล้ว ฮิคาริ ไอ เป็นคนอันตราย ถ้าต้องการเป็นศัตรูคือเตรียมที่จะตาย และ ยัง ซาคามากิ อิซาโยอิ อีกเด็กสองคนนี้อันตลายเกินไป ถึงแม้ซาคามากิ อิซาโยอิ จะไม่สามารถเอาชนะคาร์ลไฮนซ์ได้ก็ตาม แต่มันก็ไม่ใช่กับ ฮิคาริ ไอ
"ครับ"ชู และ เรย์จิตอบรับคำของมารดาอย่างงุนงงว่าเพราะอะไร ฮิคาริ ไอ ที่พวกเขาคุยด้วยตอนทานอาหารก็ดูเป็นคนดีและยิ้มง่ายถึงแม้พอเจอท่านพ่อฮิคาริ ไอจะปล่อยจิตสังหารออกมาก็ตาม
เวลาล่วงเลยมาถึงตอนเย็นอิซาโยอิและไอก็เจอผู้มาใหม่อย่างไม่คาดคิดและดูเหมือนสีหน้าของคอร์เดเลียจะดูสะใจเป็นอย่างมากที่ผู้มาใหม่นั้นเล็งเป้าโจมดีอิซาโยอิแต่คอร์เดเลียคิดง่ายไป
"อย่านึกว่าเป็นคนโปรดของท่านพี่แล้วจะผยองได้ตลอดแกมันก็เป็นเหมือนกับคริสต้า!"อิซาโยอิมองอีกฝ่ยนิ่งๆทั้งที่ในใจไม่นิ่งตาม..สึบารุยังไม่มา ดีจริงๆ
"เรื่องของ'ผัวเมีย ชู้เมียพี่'ย่างนายยุ่งอะไรด้วย"พูดถูกใจมากเลยอิซาโยอิไอรู้สึกช
ชอบความสามารถนี้ของอิซาโยอิเป็นอย่างมากแต่ดูจากสีหน้าของอิซาโยอิแล้วคงจะรู้สึกรังเกียจพี่น้องคู่นี้เสียยิ่งกว่าอะไรซะแล้วสิจะทำยังไงต่อไปนะคาร์ลไฮนซ์~
"แก---!!"
ผลั๊วะ!!!
ริทเตอร์ที่จะเข้ามาทำร้ายอิซาโยอิก็โดนอิซาโยอิต่อยก่อนสุดแรงที่มี ย้ำ สุดแรงจริงๆจนอีกฝ่ายกระเด็นออกไปเขตรั้วปราสาท ไปหาเรื่องใครไม่หาดันไปหาเรื่องอิซาโยอิแต่ถ้ามาหาเรื่องไอนี้ไม่กระเด็นแต่จะตายไม่ก็พิการ
"พวกเธอกำลังทำอะไร"อยากจะกรอกตามองบนแต่จะมาทำอะไรตอนนี้!คาร์ลไฮนซ์?!!
"ตาบอดรึไง?ว่าฉันกำลังกระทืบน้องชายนายอยู่"อิซาโยอิก็กวนเสมอต้นเสมอปลายจริงๆกับแวมไพร์อย่างคาร์ลไฮซ์นะนายไม่ควรไปกวนมัน ไอได้แต่คิดอย่างปลงๆว่ายังไงอิซาโยอิต้องโดนคาร์ลไฮนซ์ใช้พลังนั้นแน่ๆ
"หืม?งั้นก็ต่อสิ^^"คาร์ลไฮนซ์พูดตอบอิซาโยอิอย่างยิ้มแย้มทำให้อิซาโยอิกับคอร์เดเลียถึงกับชะงักไปแป๊บหนึ่ง
"พูดอะไรนะคาร์ลไฮนซ์!?!"คาร์ลไฮนซ์เมินเสียงของคอร์เดเลียแล้วหันไปมองอิซาโยอิที่กำลังไล่กระทืบน้องชายของตนอยู่อย่างสนุก ใบหน้าที่มีความสุขของอีกฝ่ายเขาก็ชอบนะแต่ถ้าเป็นใบหน้าแห่งความทรมานเขาคงจะชอบมากกว่านี้ คิดแล้วก็เผลอยิ้มเลวๆออกมา
"กำลังคิดอะไรเลวๆอยู่สินะ.. นายนะ"หรี่ตามองอย่างจับผิดแต่ที่ได้มาคือรอยยิ้มกว้างของอีกฝ่ายทำให้ไอถึงกับกรอกตามองบนอย่างปลงๆ
ส่วนทางด้านอิซาโยอินั้นก็ไล่กระทืบริทเตอร์ที่ทำได้แค่หนีอย่างสนุกคล้ายระบายอารมณ์ที่อัดอั้นในการทำอะไรคาร์ลไฮนซ์มาที่ริทเตอร์แทนแต่พอริทเตอร์หนีออกจากเขตรั้วปราสาทอิซาโยอิก็ชะวักเท้าที่วิ่งตามกระทืบริทเตอร์อยู่ตลอดแล้วเปลี่ยนเป็นเดินอย่างช้าๆแทน
"......."อิซาโยอิทำหน้าเศร้าทันทีเมื่อรู้สึกว่ามีกำแพงที่มองไม่เห็นอยู่ตรงหน้าทั้งที่รั้วของปราสาทพังไปแล้วด้วยฝีมือเขาอิซาโยอิยกมือจับไปที่กำแพงล่องหนนั้นอย่างช้าๆก่อนจะค่อยๆผละมือออกแล้วเดินออกห่างจากกำแพงเล็กน้อยก่อนจะพุ่งเข้าไปแล้วชกกำแพงนั้นสุดแรง
ครืน!ครืน!
เสียงกำแพงอากาศสั่นสะเทือนอย่างแรงจากนั้นร่างของอิซาโยอิก็กระเด็นออกห่างจากเขตนั้นอย่างแรงจนอิซาโยอิสำลักเลือดออกมากและมันทำให้อิซาโยอิรู้ว่าคำสั่งตอนนั้นของคาร์ลไฮนซ์เป็นจริงเขาไม่มีทางออกไปจากเขตนอกรั้วที่กลั้นได้ถ้าอีกฝ่ายไม่อนุญาตเขาที่มีอิสระมาโดยตลอดจะต้องถูกขังเป็นเหมือนสัตว์เลี้ยงอยู่ที่นี้งั้นหรือ?ไม่ทางอื่นแล้วหรอ?คำถามพวกนี้วนเวียนอยู่ในหัวของอิซาโยอิก่อนจะลืมซึ่งทุกอย่างที่คิดก่อนหน้านี้เมื่อร่างของเขาไปปะทะกับร่างแกร่งทำให้อิซาโยอิตอนนี้อยู่ในอ้อมกอดของคาร์ลไฮนซ์อย่างช่วยไม่ได้
"แก---!!หมับ!"แต่เหมือนทั้ง2จะลืมไปว่าไม่ได้มีเพียงพวกเขาทั้ง2ซึ่งอยู่ในที่นี้แต่ยังมีภรรยาคนแรกของคาร์ลไฮนซ์และผู้ปกครองของอิซาโยอิอย่างไอที่เข้าไปจับแขนคอร์เดเลียไว้อย่างแรงเมื่อคอร์เดเลียเดินเข้าไปหาอิซาโยอิที่ถูกคาร์ลไฮนซ์กอดจากด้านหลังอยู่แล้วยกมือขึ้นจะตบอิซาโยอิที่กำลังอยู่ในลักษณะมึนงงเพราะยังประมวลผลไม่ทัน
ความฉลาดนายหายไปไหนหมดห๊ะ?!ไอคิดอย่างอารมณ์เสียแล้วเผลอบีบข้อมือของคอร์เดเลียแรงขึ้นอย่างไม่รู้ตัวทำให้คอร์เดเลียนิ้วหน้าด้วยความจบแต่พอจะโวยวายก็ต้องชะงักเมื่อเผลอไปเห็นแววตาของคาร์ลไฮนซ์กับไอที่มองกันแว๊ปหนึ่งแววตาที่เหมือนกันของทั้ง2ทำให้คอร์เดเลียกลัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
คาร์ลไฮนซ์พาอิซาโยอิออกไปจากตรงนี้เหลือไว้เพียงคอร์เดเลียกับไอและเด็กชายทั้ง6ที่แอบดูอยู่และเห็นทุกอย่างตั้งแต่แรกยกเว้นน้องเล็กที่พึ่งมาถึงทีหลังไม่นานแต่ก็มาทันฉากต่อสู้ฝ่ายเดียว
การต่อสู้ที่พวกเขาทั้ง6เห็นมันทำให้รู้สึกตื่นเต้นและกระหายในเวลาเดียวกันใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มเวลาต่อสู้นั้นทำให้ทั้ง6ปลื้มและชื่นชมอิซาโยอิเป็นอย่างมากแต่ที่ก่าวมาทั้งหมดมันจะไม่มีทางเป็นเรื่องทางชู้สาวแน่เพราะดูจากที่ท่านพ่อหวงแล้วคงไม่มีทางเข้าใกล้ได้ถ้าคิดแบบนั้นและพวกเขาทั้ง6ก็ไม่อยากเสี่ยงเป็นกระสอบทรายให้อีกฝ่ายไล่อัดเหมือนท่านน้าเพราะงั้น...มาเป็นพี่ชายของพวกเราเถอะ*^*ส่วนไอก็ให้เป็นพี่สาวทั้ง6คิดอย่างตื่นเต้นแล้วแอบมองต่อว่าไอจะทำยังไง
"โทษที"ไอปล่อยข้อมือของคอร์เดเลียทันทีเมื่อรู้ตัวคอร์เดเลียทำหน้าไม่พอใจและอารมณ์เสียให้ไอเห็นก่อนจะเดินกระทืบเท้าเข้าไปในปราสาทจนไอกลัวว่าอีกฝ่ายอาจจะดุดพื้นล้มแต่ถ้าเป็นแบบนั้นคงจะสะใจน่าดู"เอาล่ะ!บอกฉันมาทีสิว่าใครเป็นคนต้นคิดให้แอบฟังที่ผู้ใหญ่คุยกัน^^"
"ค--ครับ!"ทั้ง6ขานรับอย่างตกใจเมื่ออยู่ๆไอที่ควรอยู่ตรงหน้าพวกเขากับมาอยู่ด้านหลังพวกเขาภายในไม่กี่วิหลังจากพูดคำแรกและรอยยิ้มไอที่ทั้ง6เหลือบไปมองก็ทำให้ถึงกับชะงักไปครู่หนึ่ง สวยคำนี้คงจะเป็นคำแรกที่ทั้ง6คิดเมื่อมองรอยยิ้มของไอ
เช้าอีกวันสภาพของอิซาโยอิก็ยังดูยั่--แค่ก!ดูไม่ได้เหมือนเดิมจนไอต้องไปกระทืบคาร์ลไฮนซ์สักเปรี้ยงก่อนจะมาหาอิซาโยอิแล้วยิ้มหวานเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แต่กับพวกที่รับใช้เห็นรอยยิ้มนั้นแล้วก็ขนลุกเพราะภาพที่อีกคนสู้กับองค์ราชันย์นั้นยังติดตาไม่จาง
"อิซะ ฉันจะทำของหวานอยากทานอะไรเป็นพิเศษไหม?: )"ยิ้มแล้วเอียงคอถามอย่างน่ารัก"พวกเธอด้วย...อยากทานของหวานอะไรบอกมาได้เลย^^"
"ฉันขอเค้กช็อกโกแลตลาวา"อิซาโยอิ
"ผมขอมาการองก็ได้ครับ"เรย์จิ
"อะไรก็ได้ครับ"นี้คือพวกนี้นึกไม่ออกหรอ?ไม่แปลกก็นี้มันไม่ใช่ยุคปัจจุบัน
"....ไม่เกิน1ชั่วโมง"พูดจบไอก็เดินเข้าไปในครัว
เวลาผ่านไปจนอิซาโยอิขี้เกียจนับว่ามันผ่านมากี่ร้อยกี่พันปีแล้ว ชีวิตประจำวันของอิซาโยอิก็เหมือนเดิม ต่างก็ตรงที่คาร์ลไฮนซ์ไม่ได้มาหาเขาแล้วรู้สึกปลอดโปร่งและสบายใจเป็นอย่างมากถึงแม้เขาจะออกจากปราสาทนี้ไม่ได้ก็ตาม
"ฮิคาริ ฉันคิดถึงพวกนั้นอยากกลับไปเที่ยวเล่นอย่างอิสระอีกครั้ง...ทำให้ฉันได้ไหม?"ไอหรี่ตามองคนในอ้อมแขนที่พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าๆก่อนจะยิ้มออกมาเมื่ออิซาโยอิเงยหน้ามามอง
"ถึงแม้จะเป็นแค่ความฝันหนึ่งตื่นงั้นหรอ?"อิซาโยอิชะงักกึกเมื่อได้ฟังที่ไอพูด"ถ้าแบบนั้นฉันก็จะทำให้...นอนลงชะสิ"
อิซาโยอิลังเลเล็กน้อยก่อนจะนอนลงบนเตียงอย่างว่าง่ายจากนั้นอิซาโยอิก็หลับตาลงก่อนจะไม่รับรู้อะไรอีก
"ราตรีสวัสดิ์...อิซะ"จากนั้นไอก็จุ๊บลงที่หน้าผากของอิซาโยอิก่อนจะวางซองจดหมายสีดำไว้ข้างหัวอิซาโยอิแล้วเดินออกจากห้องไป
ทางด้านอิซาโยอินั้นก็ได้กลับมาในที่เดิมที่ๆมีพวกพร้องของตนอยู่แต่ไม่คบ...ขอโทษๆขอโทษ นะฮิคาริที่ทิ้งมา
"อิซาโยอิ!ไปกันได้แล้ว!"อาซึกะ โย คุโรซากิ จิน ทุกคน
"^^รู้แล้วน่า"ขอบคุณนะฮิคาริ แล้วจะรีบกลับไปขอใช้ชีวิตในโลกแห่งความฝันนี้ก่อน
.
.
.
.
.
"พี่สาว พี่ชายล่ะครับ?"คานาโตะที่ตัวโตขึ้นจากเดิมมากแล้วถามขึ้น
"นั้นสิ คงจะหลับ...อีกนานเลยล่ะ"จากนั้นไอก็เดินจากไปปล่อยให้ทั้ง6มองตามอย่างงุนงง
ไอเดินไปเดินมาทั่วคฤหาสน์ก่อนจะหยุดตรงหน้าห้องๆหนึ่งที่คุ้นเคยกันดีนั้นก็คือ...
"คิดจะทำอะไรกันแน่ ไอจัง"....ห้องของราชันแวมไพร์ไงล่ะ ไออยากจะกรอกตามองบนคุยกับคนอื่นแบบนี้ไม่มีมารยาทสุดๆอย่างน้อยก็ต้องเชิญเข้าห้องก่อนสิ
"เสือก"...แต่พูดแบบนี้เขาเรียกว่ามีมารยาทหรอ?
คาร์ลไฮนซ์ที่ได้ยินก็ถึงกับคิ้วกระตุกเพราะไม่เคยมีใครพูดกับตนแบบนี้ทั้งที่เวลาอยู่กับคนอื่น(ยกเว้นคอร์เดเลีย เบียทริซและตนเอง)ออกจะใจดีแท้ๆ
ไอที่เห็นอีกฝ่ายเงียบไปก็พูดสิ่งที่ต้องการออกไปทันที
"อย่าให้ใครเข้าห้องนั้นเด็ด-ขาด!"
"ได้"
เมื่อได้ฟังคำตอบที่ต้องการไอก็หายไปจากคฤหาสน์ หายไปโดยไม่มีใครรู้ว่าหายไปไหนยกเว้นเจ้าตัว
เวลาผ่านไปหลายปีจนโลกในโลกทางฝั่งมนุษยนั้นได้มีการเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างมากนั้นก็คือ...ยุคปัจจุบัน ปัจจุบันที่เหมือนกับโลกก่อนของอิซาโยอิและเหมือนโลกก่อนๆของไอ
ทุกสิ่งทุกอย่างเติบโตขึ้นตามกาลเวลาไม่เว้นแม้แต่แวมไพร์อย่างตระกูลซาคามากิที่ลูกๆทั้ง6คงโตกันมากเกือบร้อย หรือ พันปีแล้วและได้ถูกส่งไปโลกมนุษยเพื่อหาเจ้าสาว(?)ผู้สืยทอดบัลลังก์(?)จะอะไรก็ช่าง เพราะที่ทำให้ไอกลับที่นี่ไม่ใช่เรื่องนี้...ส่วนหนึ่ง
"นายกล้าดียังไง!ถึงกล้าย้ายอิซะไปที่โลกมนุษย!อยากเป็นอาหารยมทูตใช่ไหม?!...ห๊ะ!?"
"ใจเย็นก่อน"ขอฉันเรียบเรียงข้อแก้ตั--คำพูดก่อน"ที่ฉันย้ายอิซะ--"
"อิ-ซา-โย-อิ!"=_=
"...ที่ฉันย้ายอิซาโยอิไปที่โลกมนุษยก็เพราะฉันต้องการให้อิซาโยอิมีชีวิตแบบมนุษย...ก่อนจะเป็นคู่ชีวิตฉันในโลกปีศาจ"
ไอฟังแล้วอยากจะกรอกตามองบนที่มันพูดนี้ตอแหลชัดๆคงวางแผนอะไรไว้ล่ะสิท่า ถึงยอมปล่อยให้อิซะไป
"งั้นฉันก็จะไปอยู่ด้วย...แน่นอนว่านายปฏิเสธไม่ได้:)"
คาร์ลไฮนซ์ที่โดนไอพูดดักคอก็ได้แต่ส่งยิ้มให้อีกฝ่ายที่ยิ้มมา...อย่างเป็นมิตร ถึงพอจะคาดเดาได้ว่าว่าไอจะต้องโวยวาย แต่คิดไม่ถึงว่าคนแบบไอจะยอมไปที่โลกมนุษยที่ตนเองเคยถล่มมาจนประเทศพัง เขาไม่มีทางเชื่อคำพูดที่ไอเคยพูดกับอิซะเด็ดขาด
'ฉันออกจะรักมนุษย'
คนที่ฆ่ามนุษยเกือบล้านพูดแบบนี้ใครจะเชื่อ...ยกเว้นอิซะไว้คนหนึ่งแล้วกันที่เชื่อไอทุกอย่าง
"อยากทำอะไรก็ตามใจ"เพราะถึงห้ามก็คงไม่คิดจะฟัง
":)"
รอยยิ้มของเธอเวลานี้มันดูน่ากลัวนะไอ ถ้าจะยิ้มขอยิ้มที่ดูจริงใจกว่านี้เถอะ
คาร์ลไฮนซ์คิดในใจพร้อมกับยิ้มขื่นขมในใจอย่างหมดปัญญา ทั้งที่คิดว่าตนฉลาดแต่ทำไมเอาชนะผู้หญิงตรงหน้าไม่ได้
ทางด้านโลกมนุษย
ณ บ้านซาคามากิ
"ผมมีเรื่องจะแจ้งพวกคุณ"เสียงของเรย์จิพี่คนรองของบ้านที่พูดตรงทางเดินบันไดไม่ได้เป็นที่สนใจของพี่น้องอีก5คนแม้แต่นิด
ชู พี่คนโตของบ้านนอนเลื้อยลงเก้าอี้อย่างคนเกียจคร้านพร้อมกับฟังเพลงอย่างไม่สนใจโลกภายนอก
อายาโตะ แฝดพี่คนโตลูกคนที่3ของบ้านก็กำลังทะเลาะกับสึบารุ น้องคนเล็กของบ้านอย่างเมามันโดยไม่สนหัวใคร
คานาโตะ แฝดคนรองลูกคนที่4ของบ้านกำลังพูดคุยกับตุ๊กตาตัวโปรดที่ชื่อ'เท็ดดี้'พร้อมกับทานของไปด้วย
ไรโตะ แฝดคนสุดท้องลูกคนที่5ของบ้านก็กำลังเอ่ยห้าม(หยอกล้อ)พี่น้องของตนเองด้วยใบหน้าหล่อเหลาอย่างมีความสุข(และ จิตไม่ปกติ)
เรย์จิที่เห็นว่าไม่มีใครฟังตนก็ไม่คิดจะสนใจแล้วเดินขึ้นห้องตนแต่ทว่า...ก่อนที่เรย์จิจะเปิดประตูเข้าห้องตนพวกพี่น้องทั้ง5ก็ได้ยินเสียงเรย์จิพูดที่ลอบมาตามลมและมันเป็นทั้งข่าวดีและข่าวร้าย
'พี่สาวจะมาอยู่ที่นี้และจะมาถึงในอีก30วิ'
ถ้าเป็นเรื่องนี้แกควรบอกให้เร็วกว่านี้!!อ๊ากกกก!!!อีก10วิ
ปึง!(เสียงเปิดประตู)
"ไง~~คิดถึงฉันรึเปล่าเอ่ย^^"
"ค--ครับ"x5
"แล้วเรย์จิไปไหนชะล่ะ?"
"มาถึงแล้วหรอครับพี่สาว ผมเตรียมอาหารไว้เยอะแยะเลยละครับ^^"แกไปเตรียมอะไร ตอนไหน ไอ้สี่ตา
"จริงหรอ...งั้นพี่ไปทำธุระแป๊บนะเดี๊ยวมาทานก่อนเลยก็ได้^^"
"ครับ"x6
ทั้ง6ตอบรับอย่างไม่อิดออดเพราะรู้ดีว่าธุระพี่สาวตนนั่นคืออะไร
ไอเดินมาจนถึงห้องๆหนึ่งที่อยู่ลึกที่สุดและมืดที่สุดของชั้นในคฤหาสน์ห้องนี้เป็นห้องที่ดูแค่ประตูก็รู้ว่าต้องกว้างและใหญ่มากแน่แต่สำหรับคนในห้องนี้แล้วมันคงจะแคบเกินไป
ไอมองโซ่ขนาดใหญ่ปานกลางที่ค้องล็อกประตูอย่างแน่นหนาโดนใช้คำสั่งบางอย่างที่จะไม่มีใครเปิดประตูนี้ได้แต่ไม่ใช่ว่าจะย้าย(ห้อง)ไม่ได้
โซ่ที่ค้องประตูอยู่ค่อยๆคลายออกจนหลุดในที่สุดและประตูก็เปิดออก
เคร้ง! ครื่นนน!
ไอก้าวเดินเข้าไปในห้องอย่างเชื่องช้าและพอเดินพ้นเขตของประตู ประตูห้องก็ทำการปิดลงอย่างแผ่วเบา
ไอเดินเข้าไปใกล้เตียงที่มีร่างของคนคุ้นเคยนอนอยู่โดยที่สภาพไม่มีอะไรเปลี่ยนไปจากร้อยกว่าปีที่ผ่านมาเลย ไอนั่งลงบนเตียงข้างอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบาและลูปหัวอีกฝ่ายเล็กน้อยก่อนจะเอาหน้าเข้าไปใกล้จนหน้าผากของทั้ง2ชนกัน
"กลับมาหาแล้วนะ...อิซะ"
ไอพูดขึ้นอย่างแผ่วเบาก่อนจะจุ๊บลงที่หน้าผากของอิซาโยอิแล้วเดินออกจากห้องไป
======================
ตอนแรกของเรื่องนี้ก็ออกจะสั้นไปนิ๊ด และย้ำอีกครั้งอัพตามอารมณ์(เอาง่ายๆก็แต่งเสร็จตอนไหนก็อัพตอนนั้นแหละ ซึ่งเกือบปีอ่ะ//ฮา)
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น