ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 1
ตอนที่1
“เห้ย มึงงไปสอบตรงที่มหาลัย XXXX เมื่อไรว่ะ”
เสียงเรียกจากปากเพื่อนสนิทผมทำให้ผมเงยหน้าขึ้นจากกระดาษเอสี่ที่เต็มไปด้วยรอยขีดเขียน คิ้วสองข้างขมวดเข้าหากันอย่างใช้ความคิด มองหน้าไอ้คนถาม มันคือเพื่อนสนิทผมเองครับ มันชื่อไอ้อิม เป็นเพื่อนกันมาก็ตั้งแต่อนุบาลโน่น เรียนด้วยกันมาตลอด จนมันแม่ง ป2 เสือกย้ายโรงเรียน ด้วยความเป็นเด็กผมไม่ได้คิดอะไรมากมาย แต่พอโตมาเรื่องนี้กลับเป็นประเด็นซะงั้น ตลกดีไหมละครับ ผมจะเอาเรื่องนี้ไว้พูดให้มันรู้สึกผิดที่ทิ้งพวกผมไป ตอน ป.2 และผมมีเพื่อนสนิทอีกคนนึงครับ ชื่อไอ้มิก นิสัยมันก็ปัญญาอ่อนครับ ชอบพูดจาเลอะเทอะ ผมกับไอ้มิกชอบรวมหัวกันแกล้งไอ้อิมก็บุคคลิกมันน่าแกล้งซะขนาดนั้น ฮ่าๆๆ แต่ว่าวันนี้ผมไม่เห็นไอ้มิกมันอยู่กับไอ้อิม ปกติเห็นตัวติดกันตลอด
“เออกูจำไม่ได้ว่ะ เร็วๆนี้แหละ” ผมตอบมันไปส่งๆ
“แล้ว มึงจะเอาเลยป่ะวะ ถ้าติดที่นี่” ไอ้อิมยังถามต่อพลางแย่งกระดาษในมือผมไปดู
“เอาสิวะ มึงถามโง่ๆ กูเครียดฉิบหาย”
“เอาน่ามึงเก่งทำได้อยู่แล้วล่ะ” ไอ้อิมมันตบบ่าผมเบาๆอย่างให้กำลังใจ
“กูเก่งแต่ก็ยังมีอีกหลายล้านคนเก่งกว่ากู” ผมตอบมันเซ็งๆ
“เอออ อ่านไปมึง กูไม่กวนละ เห้ยยย ยยยยยยไอ้มิก ซื้อซาลาเปามาให้กูป่ะ” คุยกับผมยังไม่ทันจบ แม่งก็ไปสนใจไอ้มิกที่เดินถือไอติมเข้ามาในห้องเลยครับ เห้อดูมัน ไอ้มิกยักคิ้วให้ผมทีหนึ่งแต่ไม่พูดอะไร นั่งลงกินไอติมของมันอย่างเมามันส์
อ่าๆ ผมลืมแนะนำตัวไปเลยครับบ ผมชื่อ รูท ครับ ตอนนี้ก็อยู่ ม 6 แล้ว ผมเรียนที่โรงเรียนแทบชานเมือง ผมก็มีชีวิตเหมือนเด็กมอปลายทั่วไปแหละครับ ตอนมอสี่ก็ดีใจดีด้าได้ขึ้นมอปลายย เรียนไม่หนัก กิจกรรมไม่เยอะ มีเวลาเที่ยวเล่น กับเพื่อน มีสังคมที่พ่อแม่ตามใจและปล่อยอิสระมากกว่าเดิม แต่พอขึ้นมอห้า ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปครับ ผมเรียกมันว่าช่วงนรกของมอปลายครับ ฮ่าๆๆ มันหนักทุกๆเรื่องครับ ทั้งเรียน ทั้งกิจกรรม บางครั้งมีกิจกรรมหนักถึงขนาดนอนค้างที่โรงเรียนเลยทีเดียว แต่ช่วงนรกของมอห้านี่ยังไม่นรกเท่ามอหกนะครับ สิ่งที่ผมเผชิญอยู่ตอนนี้มันทั้งกดดันและอึดอัด เพื่อนๆผมทุกคน ผมรู้ว่ามันก็เครียด ช่วงนี้เป็นเวลาที่ทุกคนเข้าใจกัน คอยให้กำลังใจกัน ผมไม่สงสัยเลยว่าทำไมคนอื่นถึงพูดกันว่า เพื่อนสมัยมอปลายนี่แหละ สนิทกันมากที่สุด
“รูทคาบบ่ายเรียนไรวะ” เสียงไอ้มิกถามผมครับ
“ไม่รู้ว่ะ เห้ยมึง ไอ้โจทย์ข้อนี้กูเทคล็อกแล้วแก้ไม่ออกว่ะ”
“ไหนเอามาดูดิ๊ ” มันหยิบกระดาษจากมือผมไปดู
“อ๋อข้อนี่กูรู้ว่าทำยังไง” มันยิ้มกวนๆให้ผม
“ยังไงวะ”
“มึงเอาไปให้พ่อมึงทำไงสัส!”
“เหี้ยย !! ขึ้นพ่อกูเลยนะ”ผมด่ามันไป จริงๆผมไม่น่าถามมันด้วยช้ำ ไอ้มิกนี่เกลียดเลขอย่างห่าอะไรดี ไอ้อิมนั่งหัวเราะคิกคักที่ผัวมันได้หลอกด่าผม ผมเลยถีบมันไปทีนึง ส่วนไอ้มิกนี่ก็ยืนทำหน้าอ้อนตีนผมครับ มันหน้าตาดีนะครับ แต่ชอบทำตัวปัญญาอ่อนจนบางทีเดินๆอยู่ผมอยากจะถีบมันอัดกับกำแพงโรงเรียน มันเป็นมือกีต้าของโรงเรียนแน่นอนมีแต่สาวๆกรี๊ดมันครับ ลูกเล็กเด็กแดง เป็นแฟนครับมันทั้งนั้น
“เห้ยยย พวกมึงยังไม่ไปเรียนหรอวะเลยคาบมา 10 นาทีแล้วนะโว้ย” เสียงตะโกนเรียกจากเพื่อนห้องเดียวกันเรียกให้พวกผมรีบโกยตัวเองขึ้นห้องเรียนกันอย่างไวว่อง
“เห้ยเรียนไรวะ” ไม่ใช่เสียงผมเสียงไอ้มิก
“ไบโอ” เสียงไอ้อิมตอบครับ
พวกเราก็เลยใส่เกียร์หมาวิ่งขึ้นอาคารกันด้วยอารมณ์หอบแดกแต่ปรากฏว่าอาจารย์ยังไม่ขึ้น ผมนี่อยากจะจับหัวไอ้อิมเหวี่ยงใส่กำแพงให้หายแค้นนนนน สลัดดดดดดดด
“โอ้ยยยยยย ให้กูรีบบบบบเพื่อ” สิ่งมีชีวิตที่เรียกตัวเองว่ามิกโอดครวญ
บผมนั่งหมดแรงอยู่ข้างๆแม่งนี่แหละ รออาจารย์มา สักสิบนาทีอาจารย์ก็มาครับอย่างนี้แหละครับ ครูไทย นักเรียนมาสายโดนทำโทษแต่อาจารย์มาสายนักเรียนทำอะไรไม่ได้ พออาจารย์เปิดห้อง ก็วิ่งกรูกันไปนั่งตามโต๊ะประจำทันที
เข้ามาถึงอาจารย์ก็สอนเลยไม่มีอารัมบทอะไรทั้งนั้น ผมไม่ชอบเรียนครับวิชานี้ เกลียดจริงๆเรียนยังไงก็ไม่รู้เรื่องสักที ส่วนเพื่อนๆก็ตั้งงใจเรียนกันไป กลุ่มผมทั้งกันหกคนครับ เพื่อนผู้หญิงอีกสาม ก็มี น้ำ ด้า หนอน จริงๆแล้วเราก็สนิทกันหมดนั้นล้ะครับ เห็นอย่างนี้กลุ่มผมเด็กเรียนทั้งโต๊ะนะครับไม่อยากจะคุยฮ่าๆๆ อาจารย์สอนไปเรื่อยๆผมก็เริ่มลาลับเข้าเฝ้าพระอินทร์ทันที เจอกันหมดคาบนะครับ ฮ่าๆๆ
..............
“รูทๆๆๆๆๆๆๆไอ้รูทททตื่นนนหมดคาบแล้ว” เสียงดังแปดหลอกบวกแรงเขย่าอย่างกับเปรตมาเองของเจ๊โหดประจำกลุ่มอย่างไอ้ด้า เรียกผมตื่นจากฝันกลางวันแสนหวาน
“มึงนิ อาจารย์ด่ายังไม่ลุกนะหน้าด้านจริงๆ” เขาด่ากูตอนไหนวะกูไม่ได้ยิน
“เออ เรียนไรต่อว่ะ” ผมถามพลางตบแก้มตัวเองไปมา
“กลับบ้านล่ะค่ะมึง” ไอ้หนอนที่เพิ่งเงยหน้ามาจากฟุบหลับตอบแบบง่วงๆ ห่าว่าแต่กู ก็หลับกันทั้งนั้น
“ไอ้รูทมึงกลับบ้านเลยหรอวะ กูจะชวนไอ้แฟร์ตีปิงปอง” ไอ้อิมมันตะโกนถามผม
“มึงไปส่งมันที่บ้านด้วยแล้วกัน กูอยากกลับบ้านว่ะ อยากอ่านหนังสือ ใกล้สอบแล้ว” ผมตอบมันไป ไอ้แฟร์นี่น้องชายผมครับ ด้วยความที่ผมสนิทกับไอ้อิมไอ้มิกมาแต่เด็กๆครอบครัวเราเลยสนิทกันด้วยครับ ไอ้อิมนี่แทบจะเป็นลูกบ้านผมอีกคน
“เออ ขยันนะมึงอ่ะ ติดชัวร์”
“ให้ติดเหอะมึง กูจะตายแล้วเนี่ย” ผมตอบมันเพลียๆ
ช่วงนี้ผมอ่านหนังสือค่อนข้างหนักครับ ผมกำลังจะสอบตรงเข้าคณะวิศวกรรมศาสตร์สาขาเครื่องกลของมหาลัยชื่อดังของไทยเลยก็ว่าได้ ผมเลยมีอาการเครียดหน่วงๆอยู่ตลอด กินข้าวก็ไม่ค่อยเต็มคำอะไรประมานนี้ ทุกคนย่อมมีความหวังใช่ไหมล่ะครับ ผมก็คนนึง ผมอยากสอบติดเหมือนกัน
“เออแล้วพวกมึงสมัครสอบที่ มอ SSS กันป่ะวะ” ไอ้มิกถามครับ
“เราสมัครมนุษศาสตร์ไปนะ” ไอ้หนอนตอบครับมันเป็นผู้หญิงคนเดียวในกลุ่มที่ผมว่าแม่งเรียบร้อยสุดและ
“กูกับน้ำไม่ได้สมัครว่ะ กูรอแอดมิชั่นเลยทีเดียว” ไอ้ด้าครับ ใจถึงเหี้ยๆมันมีจุดยื่นที่ชัดเจนครับ เพราะมหาลัยที่มันจะเข้านั้นแอดอย่างเดียว ผมละสงสารมันจับใจ
“กูสมัครดนตรีศึกษาไปไอ้อิมเภสัช มึงอ่ะรูทสมัครไรวะ” มันพยักหน้ามาทางผม
“กูให้มึงเดา” ผมยักคิ้วกวนตีนไปให้พวกมันทีนึง
“หน้าอย่างมึง อืม อื้มม” ไอ้อิมพูดพลางก้มหน้ามาจองหน้าผมกวนๆ
“จิตวิทยา”
“สัสน้ำ!!”
เสียงไอ้น้ำครับ มันเป็นคนไม่ค่อยพูดแต่พูดไรแล้วจุกเลยครับ กูว่ามึงน่าจะไปเรียนมากกว่ากูอีกนะคณะนี้อ่ะ
ไอ้พวกนี้ก็ปล่อยหัวเราะกันกร๊ากเลยครับหลังจากไอ้น้ำมันเปล่งเสียงเย็นๆๆออกมา แม้แต่ตัวมันเองยังแอบขำน้อยๆที่มุมปาก
“พวกมึงนิ ชอบว่ากูโรคจิตส่องกระจกดูตัวเองบ้างนะ โดยเฉพาะมึงน้ำ” ไอ้น้ำยักไหล่แบบประมานว่ากูหาแคร์ไม่ผมนี้อยากเอาตีนถีบให้หน้าหงาย
“บอกมาสิ เล่นตัวนะมึงอะ” ไอ้อิมโรคขี้เสือกกำเริบครับ
“กูลงฟิสิกส์ประยุกต์ไปว่ะ”
“เหยดดดดดดดดดดดด ดดดดดด” ไอ้พวกเหี้ยเปล่งเสียงพร้อมกัน
“มึงคิดว่ามึงเป็นท่านเซอร์ไอแซก หรอวะ”
“กูไม่ได้คิดว่ากูเป็นเหี้ยไรทั้งนั้นแหละ แต่กูลงผิดไป” ผมไม่ได้อยากได้ที่นี่อยู่เเล้วสอบตามกระเเส ฮ่าๆ
“โห้ยควายเผือกมากมึง” ไอ้ด้าด่าและผลักหัวผมแทบทิ่มโต๊ะ
"โอ้ย แรงควายนะมึงอ่ะ แดกฟางแทนข้าวไงวะ" ผมหันไปตวาดมันครับไม่ได้โกรธเเต่เราพูดจาแบบนี้เป็นปกติอยู่เเล้ว
“อีเผือกมึงหุบปากไปเลยมึง ถ้ากูแดกฟางมึงก็แดกหญ้าเหมือนกันแหละว่ะ กูไปละชิ มองหน้าเผือกๆของมึงนานๆแล้วกูเสียอารมณ์” มันผลักหัวผมอีกครั้งก็สบัดตูดไป ไอ้น้ำไอ้หนอนก็ลุกขึ้นเก็บข้าวของและตามไอ้ด้าออกไป
“รูท” เสียงเรียกเย็นๆของไอ้น้ำมาอีกแล้วครับ
“ว่า”
มันสั้นผมต้องสั้นครับ หึ!
“พรุ่งนี้ 60 บาทค่าธนาคาร” และมันก็เดินจากไป
“-____-”
คือเห็นงี้มันเป็นหัวหน้าห้องครับ ทวงหยิกเลยๆๆ ไม่ใช่ผมไม่มีจ่ายนะครับแต่ผมลืมขอแม่มาครับ ตังฝากธนาคารโรงเรียนผมจะไม่เอาเงินค่าขนมมาจ่ายเด็ดขาด ผมจะขอแม่ใหม่เพราะมันคนละส่วนกันอยู่แล้วใช่ไหมครับ ฮ่าๆ ผมฉลาดดดดด แต่พอได้เงินคืนผมมั่นใจว่าแม่ผมจำไม่ได้หรอกว่ามีเงินฝากธนาคารโรงเรียน เป็นไงจีเนียสสุดๆๆ
“เห้ยมึงสองคนกูกลับก่อนนะ” ผมหันไปบอกสองผัวเมียที่นั่งขายข้าวขายถั่วกันอยู่ ครอบครัวเฮเดย์นะครับเล่นกันไหมครับ ฮ่าๆ มันพยักหน้าส่งๆเป็นสัญญานให้ผมรู้ว่ามึงไปเหอะ กูหาได้รั้งมึงไว้ไม่ ผมส่ายหัวอย่างระอากับมันสองคน สงสัยกันใช่ไหมครับว่าทำไมผมเรียกมันว่าคู่ผัวเมีย ไอ้สองคนนี้ชอบทำตัวเหมือนแฟนกันครับ มีมิกที่ไหนมีอิมที่นั่น จนไอ้ด้ามันบอกว่าไอ้มิกกับไอ้อิมเป็นผัวเมียกัน ส่วนผมเป็นชู้ของพวกมัน เออเจริญดีนะครับ ผู้หญิงสมัยนี้มีความสุขที่ได้เห็นผู้ชายรักกัน ผมเองไม่ขอออกความเห็นเกี่ยวกับคำพูดไอ้ด้ามาก เพราะกลัวว่าสักวันมันจะเข้าตัว ฮ่าๆๆ
ผมเดินลงบันไดมาก็เจอรุ่นน้องที่รู้จักทักทายตามประสาคนเฟรนลี่อ่านะ จนเสียงสัญญานบอกให้กลับบ้านได้ดังขึ้นผมเลยเดินไปที่โรงจอดรถสำหรับนักเรียนและขับรถกลับบ้าน
......................................................
“ที่รักกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”
“เห้ยยยยยยยยยยย มาได้ไงงวะ” ผมร้องด้วยความตกใจอยู่ๆก็มีผู้ชายตัวควายๆวิ่งพรวดออกมาจากบ้านเรียกผมเสียงดังพลางดึงผมไปกอดจะแทบจะรวมร่างเป็นร่างเดียวกัน
ไอ้เวย์ พี่เวย์ ไอ้เหี้ยเวย์ พี่ชายผมเองครับ เราอายุห่างกันแค่สองปีเลยค่อนข้างสนิทกันที่สุดในบรรดาพี่น้อง มันเป็นคนตัวสูง ผิวสีแทนแต่ถ้าอยู่กับผมมันดำครับดำ ฮ่าๆๆ มันเรียนวิศวะโยธาปี 2 แล้วครับ มหาลัยที่มันเรียนค่อนข้างเด่นในด้านนี้ครับ
“ขับรถมาดิ” มันปล่อยผมออกจะแขนมัน เชี่ยกอดมาได้กระดูกแทบหัก
“ห๊ะ มึงขับรถไรมา”
“มอไซร์ไอ้แมน” แมนเพื่อนซี้มันครับ
“โห้ยยมึงจะเฮ้าแก๊ส ไปละ ระยะทางไม่ใช่ใกล้ๆๆ มันอันตรายนะโว้ย” โมโหครับโมโหไอ้นี่ชอบทำตัวอินดี้ มหาลัยมันห่างกับบ้านผมประมาน 70 กิโลได้ แม่งขับมอเตอร์ไซร์มา ไม่บ้าทำไม่ได้ครับ
“เออบ่นกูอยู่ได้ แม่ยังไม่บ่นเลย มึงนี่เป็นน้องหรือเป็นแม่” มันทำหน้าเอื้อมๆ
“แม่เขาเห็นมึง เขาก็ลืมบ่นนะสิ เพิ่งหาแผนที่กลับบ้านเจอไง”
“เออดิหาตั้งนาน กูกระวนกระวายใจนอนไม่หลับกระสับกระส่ายคิดถึงครอบครัวแทบบ้า” มันยักคิ้วให้ผมกวนๆ
“พี่เราก็ทำปากดีไปงั้นแหละ ถ้าตังไม่หมดไม่มีวันกลับบ้านหรอก” เสียงแม่ของผมดังขึ้น แม่นั่งดูทีวีอยู่กลางบ้านคงได้ยินบทสนทนาที่ไอ้เวย์มันตอแหลใส่ผม
“โห้ยยย แม่ก็พูดเกินไปปปปปปปปปปปปป” ไอ้เวย์แก้ตัวเสียงหลงวิ่งไปกอดเอวแม่แบบอ้อนๆ เป็นภาพที่เกือบจะน่ารักแล้วครับ
“ถ้าคิดถึง คืนนี้ก็นอนบ้านคืนหนึ่งแล้วค่อยกลับมอ” แม่พูดเสียงงอนๆ
“แม่อ่ะ เวย์ค้างไม่ได้จริงๆพรุ่งนี้มีเรียนเช้า อีกอย่างเวย์ทนนอนห้องสกปรกๆของไอ้รูทมันไม่ได้อ่ะแม่ เข้าไปงูแทบฉกตาย” ไอ้เวย์ ได้โอกาสฟ้องแม่ งานเข้าเลยครับ
“อย่ามาใส่ร้ายให้แม่ด่ารูทเลยนะ แม่อย่าไปเชื่อมันไม่รกขนาดนั้น” ผมส่งสายตาพิฆาตไปให้ไอ้เวย์ พลางยิ้มแหย่ๆให้แม่ แม่ผมเป็นแม่บ้านแม่เรือนครับไม่ชอบความสกปรก บ่อยครั้งผมทะเลาะกับแม่เรื่องห้องสกปรก แต่แม่ไม่เคยทำความสะอาดให้ผมนะครับ นางอ้างว่า ห้องใครใครอยู่คนนั้นก็ต้องทำความสะอาดเอง
“รูทเก็บห้องได้แล้วนะ แม่เห็นซากกระดาษกับถ้วยจานที่ขนขึ้นไปกินตอนดึกวางเต็มห้องเลยนะ” แม่บ่นผมให้ไอ้เวย์สะใจเล่น
“อ่าครับบ สอบเสร็จนะแม่ ไม่มีอารมณ์ทำตอนนี้”
“งั้นสอบเสร็จทำเลยนะ” แม่ย้ำอีกรอบ
“คร้าบบบบบบบบบบบบบ แม่ผมไปนอนพักก่อนนะ”
“เดี๋ยว ลูกแฟร์ล่ะ ไม่กลับมาพร้อมกันหรอ” ถามหาลูกรักแล้วครับ ไอ้แฟร์เป็นลูกคนสุดท้องครับแม่รักแม่หลง
“มันไปตีปิงปองกับไอ้อิมครับบบ” ผมตอบพลางเดินขึ้นห้องนอนเลย ได้ยินเสียงได้ยินเสียงไอ้เวย์อ้อนแม่คิกคัก ประเลาะเอาค่าขนมเพิ่มอีกตามเคย แม่ก็ทำเป็นงอนมันไปงั้นแหละครับเอาเข้าจริงแม่รักไอ้เวย์มันจะตาย ห่วงมันอย่างนู่นอย่างนี้ ถ้าเจ๊นัท ไม่ห้ามแม่เรื่องโอนตังให้ไอ้เวย์นะมันไม่มีทางโพล่หัวกลับบ้านมาเด็ดขาด เจ๊นัทนี่พี่สาวคนเดียวของผมครับ ครอบครัวผมมีลูก 5 คนครับ มีเฮียดีนคนโตเรียนจบแล้วครับตอนนี้เป็นวิศวกรบริษัทเดียวกับพ่อของผม เฮียดีนกับผมอายุห่างกัน6 ปี เราเลยไม่ค่อยสนิทกันเท่าไร ส่วนเจ๊นัทเรียนจบแล้วเหมือนกันครับ มันเป็นคนเดียวที่เรียนแพทย์ครับ ตอนนี้เป็นแพทย์ประจำอนามัยแถวๆหมู่บ้าน มันบอกขี้เกียจไปอยู่ไหนไกลๆ พอมันกลับอยู่บ้านเท่านั้น ผมเหมือนมีแม่อีกคนเลยทีเดียว พี่อีกคนก็ไอ้เวย์นี่แหละครับข้ามมันไปรำคาญจะพูดถึง ส่วนผมก็คลานตามไอ้เวย์ออกมา และไอ้แฟร์นี่ลูกหลงครับ อย่างว่าแหละน๊า พ่อแม่ผมยังสวีทวี้ดวิ้วกันอยู่เลยยไม่มีหลงคลานตามไอ้แฟร์ออกมาก็บุญแค่ไหนแล้วคร้าบบบ ฮ่าๆๆๆๆ พอถึงห้องก็จัดการกลับตัวเอง อาบน้ำอาบท่าก่อนจะมานั่งอ่านหนังสือต่อ
“ที่รักกกกกกก แม่เรียกกินข้าวววววววครับบบบบบบ”
ผมเงยหน้ามองไอ้เวย์ที่เปิดประตูพรวดเข้ามาอย่างไร้มารยาทททท
“เออแปปนึงงเดี๋ยวตามไป” ผมโบกมือไล่ให้มันออกไปก่อน
“มึงนี่จริงจังไปป่ะว่ะ จะเอาให้ติดตั้งแต่รอบแรกเลยหรือไง” มันถามพลางกระแทกตูดลงบนโต๊ะอ่านหนังสือผม ไอ้สัสตูดมึงกับกำลังจูบอยู่กับหนังสือแคลคูลัสเบื้องต้นของกูเลยนะ มึงลุกเดี๋ยวนี้เลยไอ้ห่า
“เวย์มึงนั่งทับหนังสือเดี๋ยวก็โง่หรอก” มันล้วงมือไปหยิบหนังสือใต้ตูดมันมาเปิดไปมา
“โห้แคล กระจอก กูสอนเอาปะ” มันยิ้มอย่างมีเลศนัย ไม่ค่อยอยากจะเชื่อรอยยิ้มมันเท่าไร แต่สนใจข้อเสนอมันอยู่นะครับ เห็นงี้มันก็เรียนเก่งนะครับแต่มันเสือก ถือคติ เวย์ผู้ยิ่งใหญ่ กินนอนออนเฟสบุ๊ค เกรดมันแต่ละเทอมเลยเฉียดๆโดนรีไทร์ตลอดด
“กูจะไปสอบอาทิตย์นี้แล้วมึงคิดว่าทันไหม” ผมถามมัน
“ทันดิ เดี๋ยวให้ไอ้แมน สอนแปปเดียวรู้เรื่อง” เออชื่อติวเตอร์น่าสนใจดี
“ได้งั้นวันเสาร์เดี๋ยวกูไปหา มึงที่มอ”
“อื้ม งั้นตอนนี้มึงเลิกอ่านแล้วไปกินข้าวได้แล้วไป โทรมว่ะมึงอ่ะ จะทรมานตัวเองไปทำไมวะ” มันลูบหัวผมไปมา อย่างเอ็นดู ผมรู้ว่ามันก็ห่วงผมครับถึงจะกวนตีนผมทุกครั้งที่เห็นหน้าก็เหอะ
“กูอยากสอบติดจริงๆนะ” ผมมองหน้ามันเหนื่อยๆ
“เออกูรู้แต่มึงต้องเผื่อใจไว้บ้าง ไม่ติดก็ไม่เป็นไรไม่ต้องเสียใจทำให้เต็มที่ก็พอแล้วเข้าใจป่ะ”
มันพูดซะน้ำตาผมจะไหลเลยครับบบ มันมองหน้าผม สายตาที่ส่งมาเต็มไปด้วยกำลังใจ
“ไอ้นี่ไม่ต้องทำหน้าซึ้งในคำพูดกู ไปๆๆกินข้าวว กูหิวละ ถ้ามึงตามลงไปช้านะกูแดกไข่ปลามึงหมดแน่ๆๆๆ” มันขยี้หัวผมจนฟูก่อนจะวิ่งออกจากห้องไป
“ไอ้เหี้ยยยยเวย์ มึงอย่าแดกไข่ปลากู!!!!!!!!!!!!!!!” รีบวางปากกาวิ่งตามมันลงไปทันทีเลยครับ ฮ่าๆๆ
"TBC"
...............................................
ตอนแรกของฟิคนะครับ ผมพยายามจะเอาตัวละครออกมาให้หมดก่อนยังไงอย่าเพิ่งเบื่อกันนะครับ เเหะๆ
ส่วนคำผิดเสียงต่ำเสียงสูงผมแก้ให้เเล้วนะครับ เเต่ถ้าไม่หมดยังไงก็รบกวนเเจ้งผมด้วยนะครับ
บางทีผมชินกับการพิมแบบนี้เกินไปหน่อย ติชมได้ตามสบายครับบ กำลังใจของผมคือคอมเม้นนะครับบ
เเล้วผมจะปรับปรุงตัวเองเรื่อยๆนะครับ
Twitter : @Rooskieee ฟอลผมได้นะครับ 55
“เห้ย มึงงไปสอบตรงที่มหาลัย XXXX เมื่อไรว่ะ”
เสียงเรียกจากปากเพื่อนสนิทผมทำให้ผมเงยหน้าขึ้นจากกระดาษเอสี่ที่เต็มไปด้วยรอยขีดเขียน คิ้วสองข้างขมวดเข้าหากันอย่างใช้ความคิด มองหน้าไอ้คนถาม มันคือเพื่อนสนิทผมเองครับ มันชื่อไอ้อิม เป็นเพื่อนกันมาก็ตั้งแต่อนุบาลโน่น เรียนด้วยกันมาตลอด จนมันแม่ง ป2 เสือกย้ายโรงเรียน ด้วยความเป็นเด็กผมไม่ได้คิดอะไรมากมาย แต่พอโตมาเรื่องนี้กลับเป็นประเด็นซะงั้น ตลกดีไหมละครับ ผมจะเอาเรื่องนี้ไว้พูดให้มันรู้สึกผิดที่ทิ้งพวกผมไป ตอน ป.2 และผมมีเพื่อนสนิทอีกคนนึงครับ ชื่อไอ้มิก นิสัยมันก็ปัญญาอ่อนครับ ชอบพูดจาเลอะเทอะ ผมกับไอ้มิกชอบรวมหัวกันแกล้งไอ้อิมก็บุคคลิกมันน่าแกล้งซะขนาดนั้น ฮ่าๆๆ แต่ว่าวันนี้ผมไม่เห็นไอ้มิกมันอยู่กับไอ้อิม ปกติเห็นตัวติดกันตลอด
“เออกูจำไม่ได้ว่ะ เร็วๆนี้แหละ” ผมตอบมันไปส่งๆ
“แล้ว มึงจะเอาเลยป่ะวะ ถ้าติดที่นี่” ไอ้อิมยังถามต่อพลางแย่งกระดาษในมือผมไปดู
“เอาสิวะ มึงถามโง่ๆ กูเครียดฉิบหาย”
“เอาน่ามึงเก่งทำได้อยู่แล้วล่ะ” ไอ้อิมมันตบบ่าผมเบาๆอย่างให้กำลังใจ
“กูเก่งแต่ก็ยังมีอีกหลายล้านคนเก่งกว่ากู” ผมตอบมันเซ็งๆ
“เอออ อ่านไปมึง กูไม่กวนละ เห้ยยย ยยยยยยไอ้มิก ซื้อซาลาเปามาให้กูป่ะ” คุยกับผมยังไม่ทันจบ แม่งก็ไปสนใจไอ้มิกที่เดินถือไอติมเข้ามาในห้องเลยครับ เห้อดูมัน ไอ้มิกยักคิ้วให้ผมทีหนึ่งแต่ไม่พูดอะไร นั่งลงกินไอติมของมันอย่างเมามันส์
อ่าๆ ผมลืมแนะนำตัวไปเลยครับบ ผมชื่อ รูท ครับ ตอนนี้ก็อยู่ ม 6 แล้ว ผมเรียนที่โรงเรียนแทบชานเมือง ผมก็มีชีวิตเหมือนเด็กมอปลายทั่วไปแหละครับ ตอนมอสี่ก็ดีใจดีด้าได้ขึ้นมอปลายย เรียนไม่หนัก กิจกรรมไม่เยอะ มีเวลาเที่ยวเล่น กับเพื่อน มีสังคมที่พ่อแม่ตามใจและปล่อยอิสระมากกว่าเดิม แต่พอขึ้นมอห้า ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปครับ ผมเรียกมันว่าช่วงนรกของมอปลายครับ ฮ่าๆๆ มันหนักทุกๆเรื่องครับ ทั้งเรียน ทั้งกิจกรรม บางครั้งมีกิจกรรมหนักถึงขนาดนอนค้างที่โรงเรียนเลยทีเดียว แต่ช่วงนรกของมอห้านี่ยังไม่นรกเท่ามอหกนะครับ สิ่งที่ผมเผชิญอยู่ตอนนี้มันทั้งกดดันและอึดอัด เพื่อนๆผมทุกคน ผมรู้ว่ามันก็เครียด ช่วงนี้เป็นเวลาที่ทุกคนเข้าใจกัน คอยให้กำลังใจกัน ผมไม่สงสัยเลยว่าทำไมคนอื่นถึงพูดกันว่า เพื่อนสมัยมอปลายนี่แหละ สนิทกันมากที่สุด
“รูทคาบบ่ายเรียนไรวะ” เสียงไอ้มิกถามผมครับ
“ไม่รู้ว่ะ เห้ยมึง ไอ้โจทย์ข้อนี้กูเทคล็อกแล้วแก้ไม่ออกว่ะ”
“ไหนเอามาดูดิ๊ ” มันหยิบกระดาษจากมือผมไปดู
“อ๋อข้อนี่กูรู้ว่าทำยังไง” มันยิ้มกวนๆให้ผม
“ยังไงวะ”
“มึงเอาไปให้พ่อมึงทำไงสัส!”
“เหี้ยย !! ขึ้นพ่อกูเลยนะ”ผมด่ามันไป จริงๆผมไม่น่าถามมันด้วยช้ำ ไอ้มิกนี่เกลียดเลขอย่างห่าอะไรดี ไอ้อิมนั่งหัวเราะคิกคักที่ผัวมันได้หลอกด่าผม ผมเลยถีบมันไปทีนึง ส่วนไอ้มิกนี่ก็ยืนทำหน้าอ้อนตีนผมครับ มันหน้าตาดีนะครับ แต่ชอบทำตัวปัญญาอ่อนจนบางทีเดินๆอยู่ผมอยากจะถีบมันอัดกับกำแพงโรงเรียน มันเป็นมือกีต้าของโรงเรียนแน่นอนมีแต่สาวๆกรี๊ดมันครับ ลูกเล็กเด็กแดง เป็นแฟนครับมันทั้งนั้น
“เห้ยยย พวกมึงยังไม่ไปเรียนหรอวะเลยคาบมา 10 นาทีแล้วนะโว้ย” เสียงตะโกนเรียกจากเพื่อนห้องเดียวกันเรียกให้พวกผมรีบโกยตัวเองขึ้นห้องเรียนกันอย่างไวว่อง
“เห้ยเรียนไรวะ” ไม่ใช่เสียงผมเสียงไอ้มิก
“ไบโอ” เสียงไอ้อิมตอบครับ
พวกเราก็เลยใส่เกียร์หมาวิ่งขึ้นอาคารกันด้วยอารมณ์หอบแดกแต่ปรากฏว่าอาจารย์ยังไม่ขึ้น ผมนี่อยากจะจับหัวไอ้อิมเหวี่ยงใส่กำแพงให้หายแค้นนนนน สลัดดดดดดดด
“โอ้ยยยยยย ให้กูรีบบบบบเพื่อ” สิ่งมีชีวิตที่เรียกตัวเองว่ามิกโอดครวญ
บผมนั่งหมดแรงอยู่ข้างๆแม่งนี่แหละ รออาจารย์มา สักสิบนาทีอาจารย์ก็มาครับอย่างนี้แหละครับ ครูไทย นักเรียนมาสายโดนทำโทษแต่อาจารย์มาสายนักเรียนทำอะไรไม่ได้ พออาจารย์เปิดห้อง ก็วิ่งกรูกันไปนั่งตามโต๊ะประจำทันที
เข้ามาถึงอาจารย์ก็สอนเลยไม่มีอารัมบทอะไรทั้งนั้น ผมไม่ชอบเรียนครับวิชานี้ เกลียดจริงๆเรียนยังไงก็ไม่รู้เรื่องสักที ส่วนเพื่อนๆก็ตั้งงใจเรียนกันไป กลุ่มผมทั้งกันหกคนครับ เพื่อนผู้หญิงอีกสาม ก็มี น้ำ ด้า หนอน จริงๆแล้วเราก็สนิทกันหมดนั้นล้ะครับ เห็นอย่างนี้กลุ่มผมเด็กเรียนทั้งโต๊ะนะครับไม่อยากจะคุยฮ่าๆๆ อาจารย์สอนไปเรื่อยๆผมก็เริ่มลาลับเข้าเฝ้าพระอินทร์ทันที เจอกันหมดคาบนะครับ ฮ่าๆๆ
..............
“รูทๆๆๆๆๆๆๆไอ้รูทททตื่นนนหมดคาบแล้ว” เสียงดังแปดหลอกบวกแรงเขย่าอย่างกับเปรตมาเองของเจ๊โหดประจำกลุ่มอย่างไอ้ด้า เรียกผมตื่นจากฝันกลางวันแสนหวาน
“มึงนิ อาจารย์ด่ายังไม่ลุกนะหน้าด้านจริงๆ” เขาด่ากูตอนไหนวะกูไม่ได้ยิน
“เออ เรียนไรต่อว่ะ” ผมถามพลางตบแก้มตัวเองไปมา
“กลับบ้านล่ะค่ะมึง” ไอ้หนอนที่เพิ่งเงยหน้ามาจากฟุบหลับตอบแบบง่วงๆ ห่าว่าแต่กู ก็หลับกันทั้งนั้น
“ไอ้รูทมึงกลับบ้านเลยหรอวะ กูจะชวนไอ้แฟร์ตีปิงปอง” ไอ้อิมมันตะโกนถามผม
“มึงไปส่งมันที่บ้านด้วยแล้วกัน กูอยากกลับบ้านว่ะ อยากอ่านหนังสือ ใกล้สอบแล้ว” ผมตอบมันไป ไอ้แฟร์นี่น้องชายผมครับ ด้วยความที่ผมสนิทกับไอ้อิมไอ้มิกมาแต่เด็กๆครอบครัวเราเลยสนิทกันด้วยครับ ไอ้อิมนี่แทบจะเป็นลูกบ้านผมอีกคน
“เออ ขยันนะมึงอ่ะ ติดชัวร์”
“ให้ติดเหอะมึง กูจะตายแล้วเนี่ย” ผมตอบมันเพลียๆ
ช่วงนี้ผมอ่านหนังสือค่อนข้างหนักครับ ผมกำลังจะสอบตรงเข้าคณะวิศวกรรมศาสตร์สาขาเครื่องกลของมหาลัยชื่อดังของไทยเลยก็ว่าได้ ผมเลยมีอาการเครียดหน่วงๆอยู่ตลอด กินข้าวก็ไม่ค่อยเต็มคำอะไรประมานนี้ ทุกคนย่อมมีความหวังใช่ไหมล่ะครับ ผมก็คนนึง ผมอยากสอบติดเหมือนกัน
“เออแล้วพวกมึงสมัครสอบที่ มอ SSS กันป่ะวะ” ไอ้มิกถามครับ
“เราสมัครมนุษศาสตร์ไปนะ” ไอ้หนอนตอบครับมันเป็นผู้หญิงคนเดียวในกลุ่มที่ผมว่าแม่งเรียบร้อยสุดและ
“กูกับน้ำไม่ได้สมัครว่ะ กูรอแอดมิชั่นเลยทีเดียว” ไอ้ด้าครับ ใจถึงเหี้ยๆมันมีจุดยื่นที่ชัดเจนครับ เพราะมหาลัยที่มันจะเข้านั้นแอดอย่างเดียว ผมละสงสารมันจับใจ
“กูสมัครดนตรีศึกษาไปไอ้อิมเภสัช มึงอ่ะรูทสมัครไรวะ” มันพยักหน้ามาทางผม
“กูให้มึงเดา” ผมยักคิ้วกวนตีนไปให้พวกมันทีนึง
“หน้าอย่างมึง อืม อื้มม” ไอ้อิมพูดพลางก้มหน้ามาจองหน้าผมกวนๆ
“จิตวิทยา”
“สัสน้ำ!!”
เสียงไอ้น้ำครับ มันเป็นคนไม่ค่อยพูดแต่พูดไรแล้วจุกเลยครับ กูว่ามึงน่าจะไปเรียนมากกว่ากูอีกนะคณะนี้อ่ะ
ไอ้พวกนี้ก็ปล่อยหัวเราะกันกร๊ากเลยครับหลังจากไอ้น้ำมันเปล่งเสียงเย็นๆๆออกมา แม้แต่ตัวมันเองยังแอบขำน้อยๆที่มุมปาก
“พวกมึงนิ ชอบว่ากูโรคจิตส่องกระจกดูตัวเองบ้างนะ โดยเฉพาะมึงน้ำ” ไอ้น้ำยักไหล่แบบประมานว่ากูหาแคร์ไม่ผมนี้อยากเอาตีนถีบให้หน้าหงาย
“บอกมาสิ เล่นตัวนะมึงอะ” ไอ้อิมโรคขี้เสือกกำเริบครับ
“กูลงฟิสิกส์ประยุกต์ไปว่ะ”
“เหยดดดดดดดดดดดด ดดดดดด” ไอ้พวกเหี้ยเปล่งเสียงพร้อมกัน
“มึงคิดว่ามึงเป็นท่านเซอร์ไอแซก หรอวะ”
“กูไม่ได้คิดว่ากูเป็นเหี้ยไรทั้งนั้นแหละ แต่กูลงผิดไป” ผมไม่ได้อยากได้ที่นี่อยู่เเล้วสอบตามกระเเส ฮ่าๆ
“โห้ยควายเผือกมากมึง” ไอ้ด้าด่าและผลักหัวผมแทบทิ่มโต๊ะ
"โอ้ย แรงควายนะมึงอ่ะ แดกฟางแทนข้าวไงวะ" ผมหันไปตวาดมันครับไม่ได้โกรธเเต่เราพูดจาแบบนี้เป็นปกติอยู่เเล้ว
“อีเผือกมึงหุบปากไปเลยมึง ถ้ากูแดกฟางมึงก็แดกหญ้าเหมือนกันแหละว่ะ กูไปละชิ มองหน้าเผือกๆของมึงนานๆแล้วกูเสียอารมณ์” มันผลักหัวผมอีกครั้งก็สบัดตูดไป ไอ้น้ำไอ้หนอนก็ลุกขึ้นเก็บข้าวของและตามไอ้ด้าออกไป
“รูท” เสียงเรียกเย็นๆของไอ้น้ำมาอีกแล้วครับ
“ว่า”
มันสั้นผมต้องสั้นครับ หึ!
“พรุ่งนี้ 60 บาทค่าธนาคาร” และมันก็เดินจากไป
“-____-”
คือเห็นงี้มันเป็นหัวหน้าห้องครับ ทวงหยิกเลยๆๆ ไม่ใช่ผมไม่มีจ่ายนะครับแต่ผมลืมขอแม่มาครับ ตังฝากธนาคารโรงเรียนผมจะไม่เอาเงินค่าขนมมาจ่ายเด็ดขาด ผมจะขอแม่ใหม่เพราะมันคนละส่วนกันอยู่แล้วใช่ไหมครับ ฮ่าๆ ผมฉลาดดดดด แต่พอได้เงินคืนผมมั่นใจว่าแม่ผมจำไม่ได้หรอกว่ามีเงินฝากธนาคารโรงเรียน เป็นไงจีเนียสสุดๆๆ
“เห้ยมึงสองคนกูกลับก่อนนะ” ผมหันไปบอกสองผัวเมียที่นั่งขายข้าวขายถั่วกันอยู่ ครอบครัวเฮเดย์นะครับเล่นกันไหมครับ ฮ่าๆ มันพยักหน้าส่งๆเป็นสัญญานให้ผมรู้ว่ามึงไปเหอะ กูหาได้รั้งมึงไว้ไม่ ผมส่ายหัวอย่างระอากับมันสองคน สงสัยกันใช่ไหมครับว่าทำไมผมเรียกมันว่าคู่ผัวเมีย ไอ้สองคนนี้ชอบทำตัวเหมือนแฟนกันครับ มีมิกที่ไหนมีอิมที่นั่น จนไอ้ด้ามันบอกว่าไอ้มิกกับไอ้อิมเป็นผัวเมียกัน ส่วนผมเป็นชู้ของพวกมัน เออเจริญดีนะครับ ผู้หญิงสมัยนี้มีความสุขที่ได้เห็นผู้ชายรักกัน ผมเองไม่ขอออกความเห็นเกี่ยวกับคำพูดไอ้ด้ามาก เพราะกลัวว่าสักวันมันจะเข้าตัว ฮ่าๆๆ
ผมเดินลงบันไดมาก็เจอรุ่นน้องที่รู้จักทักทายตามประสาคนเฟรนลี่อ่านะ จนเสียงสัญญานบอกให้กลับบ้านได้ดังขึ้นผมเลยเดินไปที่โรงจอดรถสำหรับนักเรียนและขับรถกลับบ้าน
......................................................
“ที่รักกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”
“เห้ยยยยยยยยยยย มาได้ไงงวะ” ผมร้องด้วยความตกใจอยู่ๆก็มีผู้ชายตัวควายๆวิ่งพรวดออกมาจากบ้านเรียกผมเสียงดังพลางดึงผมไปกอดจะแทบจะรวมร่างเป็นร่างเดียวกัน
ไอ้เวย์ พี่เวย์ ไอ้เหี้ยเวย์ พี่ชายผมเองครับ เราอายุห่างกันแค่สองปีเลยค่อนข้างสนิทกันที่สุดในบรรดาพี่น้อง มันเป็นคนตัวสูง ผิวสีแทนแต่ถ้าอยู่กับผมมันดำครับดำ ฮ่าๆๆ มันเรียนวิศวะโยธาปี 2 แล้วครับ มหาลัยที่มันเรียนค่อนข้างเด่นในด้านนี้ครับ
“ขับรถมาดิ” มันปล่อยผมออกจะแขนมัน เชี่ยกอดมาได้กระดูกแทบหัก
“ห๊ะ มึงขับรถไรมา”
“มอไซร์ไอ้แมน” แมนเพื่อนซี้มันครับ
“โห้ยยมึงจะเฮ้าแก๊ส ไปละ ระยะทางไม่ใช่ใกล้ๆๆ มันอันตรายนะโว้ย” โมโหครับโมโหไอ้นี่ชอบทำตัวอินดี้ มหาลัยมันห่างกับบ้านผมประมาน 70 กิโลได้ แม่งขับมอเตอร์ไซร์มา ไม่บ้าทำไม่ได้ครับ
“เออบ่นกูอยู่ได้ แม่ยังไม่บ่นเลย มึงนี่เป็นน้องหรือเป็นแม่” มันทำหน้าเอื้อมๆ
“แม่เขาเห็นมึง เขาก็ลืมบ่นนะสิ เพิ่งหาแผนที่กลับบ้านเจอไง”
“เออดิหาตั้งนาน กูกระวนกระวายใจนอนไม่หลับกระสับกระส่ายคิดถึงครอบครัวแทบบ้า” มันยักคิ้วให้ผมกวนๆ
“พี่เราก็ทำปากดีไปงั้นแหละ ถ้าตังไม่หมดไม่มีวันกลับบ้านหรอก” เสียงแม่ของผมดังขึ้น แม่นั่งดูทีวีอยู่กลางบ้านคงได้ยินบทสนทนาที่ไอ้เวย์มันตอแหลใส่ผม
“โห้ยยย แม่ก็พูดเกินไปปปปปปปปปปปปป” ไอ้เวย์แก้ตัวเสียงหลงวิ่งไปกอดเอวแม่แบบอ้อนๆ เป็นภาพที่เกือบจะน่ารักแล้วครับ
“ถ้าคิดถึง คืนนี้ก็นอนบ้านคืนหนึ่งแล้วค่อยกลับมอ” แม่พูดเสียงงอนๆ
“แม่อ่ะ เวย์ค้างไม่ได้จริงๆพรุ่งนี้มีเรียนเช้า อีกอย่างเวย์ทนนอนห้องสกปรกๆของไอ้รูทมันไม่ได้อ่ะแม่ เข้าไปงูแทบฉกตาย” ไอ้เวย์ ได้โอกาสฟ้องแม่ งานเข้าเลยครับ
“อย่ามาใส่ร้ายให้แม่ด่ารูทเลยนะ แม่อย่าไปเชื่อมันไม่รกขนาดนั้น” ผมส่งสายตาพิฆาตไปให้ไอ้เวย์ พลางยิ้มแหย่ๆให้แม่ แม่ผมเป็นแม่บ้านแม่เรือนครับไม่ชอบความสกปรก บ่อยครั้งผมทะเลาะกับแม่เรื่องห้องสกปรก แต่แม่ไม่เคยทำความสะอาดให้ผมนะครับ นางอ้างว่า ห้องใครใครอยู่คนนั้นก็ต้องทำความสะอาดเอง
“รูทเก็บห้องได้แล้วนะ แม่เห็นซากกระดาษกับถ้วยจานที่ขนขึ้นไปกินตอนดึกวางเต็มห้องเลยนะ” แม่บ่นผมให้ไอ้เวย์สะใจเล่น
“อ่าครับบ สอบเสร็จนะแม่ ไม่มีอารมณ์ทำตอนนี้”
“งั้นสอบเสร็จทำเลยนะ” แม่ย้ำอีกรอบ
“คร้าบบบบบบบบบบบบบ แม่ผมไปนอนพักก่อนนะ”
“เดี๋ยว ลูกแฟร์ล่ะ ไม่กลับมาพร้อมกันหรอ” ถามหาลูกรักแล้วครับ ไอ้แฟร์เป็นลูกคนสุดท้องครับแม่รักแม่หลง
“มันไปตีปิงปองกับไอ้อิมครับบบ” ผมตอบพลางเดินขึ้นห้องนอนเลย ได้ยินเสียงได้ยินเสียงไอ้เวย์อ้อนแม่คิกคัก ประเลาะเอาค่าขนมเพิ่มอีกตามเคย แม่ก็ทำเป็นงอนมันไปงั้นแหละครับเอาเข้าจริงแม่รักไอ้เวย์มันจะตาย ห่วงมันอย่างนู่นอย่างนี้ ถ้าเจ๊นัท ไม่ห้ามแม่เรื่องโอนตังให้ไอ้เวย์นะมันไม่มีทางโพล่หัวกลับบ้านมาเด็ดขาด เจ๊นัทนี่พี่สาวคนเดียวของผมครับ ครอบครัวผมมีลูก 5 คนครับ มีเฮียดีนคนโตเรียนจบแล้วครับตอนนี้เป็นวิศวกรบริษัทเดียวกับพ่อของผม เฮียดีนกับผมอายุห่างกัน6 ปี เราเลยไม่ค่อยสนิทกันเท่าไร ส่วนเจ๊นัทเรียนจบแล้วเหมือนกันครับ มันเป็นคนเดียวที่เรียนแพทย์ครับ ตอนนี้เป็นแพทย์ประจำอนามัยแถวๆหมู่บ้าน มันบอกขี้เกียจไปอยู่ไหนไกลๆ พอมันกลับอยู่บ้านเท่านั้น ผมเหมือนมีแม่อีกคนเลยทีเดียว พี่อีกคนก็ไอ้เวย์นี่แหละครับข้ามมันไปรำคาญจะพูดถึง ส่วนผมก็คลานตามไอ้เวย์ออกมา และไอ้แฟร์นี่ลูกหลงครับ อย่างว่าแหละน๊า พ่อแม่ผมยังสวีทวี้ดวิ้วกันอยู่เลยยไม่มีหลงคลานตามไอ้แฟร์ออกมาก็บุญแค่ไหนแล้วคร้าบบบ ฮ่าๆๆๆๆ พอถึงห้องก็จัดการกลับตัวเอง อาบน้ำอาบท่าก่อนจะมานั่งอ่านหนังสือต่อ
“ที่รักกกกกกก แม่เรียกกินข้าวววววววครับบบบบบบ”
ผมเงยหน้ามองไอ้เวย์ที่เปิดประตูพรวดเข้ามาอย่างไร้มารยาทททท
“เออแปปนึงงเดี๋ยวตามไป” ผมโบกมือไล่ให้มันออกไปก่อน
“มึงนี่จริงจังไปป่ะว่ะ จะเอาให้ติดตั้งแต่รอบแรกเลยหรือไง” มันถามพลางกระแทกตูดลงบนโต๊ะอ่านหนังสือผม ไอ้สัสตูดมึงกับกำลังจูบอยู่กับหนังสือแคลคูลัสเบื้องต้นของกูเลยนะ มึงลุกเดี๋ยวนี้เลยไอ้ห่า
“เวย์มึงนั่งทับหนังสือเดี๋ยวก็โง่หรอก” มันล้วงมือไปหยิบหนังสือใต้ตูดมันมาเปิดไปมา
“โห้แคล กระจอก กูสอนเอาปะ” มันยิ้มอย่างมีเลศนัย ไม่ค่อยอยากจะเชื่อรอยยิ้มมันเท่าไร แต่สนใจข้อเสนอมันอยู่นะครับ เห็นงี้มันก็เรียนเก่งนะครับแต่มันเสือก ถือคติ เวย์ผู้ยิ่งใหญ่ กินนอนออนเฟสบุ๊ค เกรดมันแต่ละเทอมเลยเฉียดๆโดนรีไทร์ตลอดด
“กูจะไปสอบอาทิตย์นี้แล้วมึงคิดว่าทันไหม” ผมถามมัน
“ทันดิ เดี๋ยวให้ไอ้แมน สอนแปปเดียวรู้เรื่อง” เออชื่อติวเตอร์น่าสนใจดี
“ได้งั้นวันเสาร์เดี๋ยวกูไปหา มึงที่มอ”
“อื้ม งั้นตอนนี้มึงเลิกอ่านแล้วไปกินข้าวได้แล้วไป โทรมว่ะมึงอ่ะ จะทรมานตัวเองไปทำไมวะ” มันลูบหัวผมไปมา อย่างเอ็นดู ผมรู้ว่ามันก็ห่วงผมครับถึงจะกวนตีนผมทุกครั้งที่เห็นหน้าก็เหอะ
“กูอยากสอบติดจริงๆนะ” ผมมองหน้ามันเหนื่อยๆ
“เออกูรู้แต่มึงต้องเผื่อใจไว้บ้าง ไม่ติดก็ไม่เป็นไรไม่ต้องเสียใจทำให้เต็มที่ก็พอแล้วเข้าใจป่ะ”
มันพูดซะน้ำตาผมจะไหลเลยครับบบ มันมองหน้าผม สายตาที่ส่งมาเต็มไปด้วยกำลังใจ
“ไอ้นี่ไม่ต้องทำหน้าซึ้งในคำพูดกู ไปๆๆกินข้าวว กูหิวละ ถ้ามึงตามลงไปช้านะกูแดกไข่ปลามึงหมดแน่ๆๆๆ” มันขยี้หัวผมจนฟูก่อนจะวิ่งออกจากห้องไป
“ไอ้เหี้ยยยยเวย์ มึงอย่าแดกไข่ปลากู!!!!!!!!!!!!!!!” รีบวางปากกาวิ่งตามมันลงไปทันทีเลยครับ ฮ่าๆๆ
"TBC"
...............................................
ตอนแรกของฟิคนะครับ ผมพยายามจะเอาตัวละครออกมาให้หมดก่อนยังไงอย่าเพิ่งเบื่อกันนะครับ เเหะๆ
ส่วนคำผิดเสียงต่ำเสียงสูงผมแก้ให้เเล้วนะครับ เเต่ถ้าไม่หมดยังไงก็รบกวนเเจ้งผมด้วยนะครับ
บางทีผมชินกับการพิมแบบนี้เกินไปหน่อย ติชมได้ตามสบายครับบ กำลังใจของผมคือคอมเม้นนะครับบ
เเล้วผมจะปรับปรุงตัวเองเรื่อยๆนะครับ
Twitter : @Rooskieee ฟอลผมได้นะครับ 55
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น