ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : พิชิตสิบทิศทั่วหล้า...ดาบแห่งราชันย์
"สำหรับคนธรรมดา ดาบเล่มนี้ย่อมวิเศษ แต่สำหรับผู้วิเศษ ดาบเล่มนี้ย่อมธรรมดา"
---------------------------------------------------------------------------------------------------
"แต่นี้ไปเจ้าคือผู้พิทักษ์ราชันย์ และราชบุตรเขยแห่งอาณาจักรจามร จักอวยยศให้สูงกว่าเหล่าขุนนางเสนาอำมาตย์ข้าราชบริพารทั้งปวงและเหนือกว่าองค์มหาอุปราช รับคำสั่งเพียงจากองค์ราชันย์เท่านั้น!"
"ขอบพระทัย ฝ่าบาท " จิตกาธารเองยังคงนิ่ง ในขณะที่องค์หญิงรุ้งรวีตกใจจนสิ้นสติไปแต่เมื่อครู่
อง์ราชันย์เผยอยิ้มเล็กน้อยก่อนจะกล่าวคำ
"ไยมิเรียกคำเสด็จพ่อ!"
"ขอบพระทัยเสด็จพ่อ!"
"ลุกขึ้นสิ..." ดาบถูกเก็บเข้าฝักอีกครั้ง จิตกาธารลุกขึ้นยืนอย่างแช่มช้า ราชันย์ทักษิณยื่นดาบให้กับจิตกาธารพร้อมกับกล่าวว่า
"ดาบแห่งราชันย์!" จิตกาธารจ้องมองไปยังอักขระโบราณบนฝักดาบ ใจความว่า "พิชิต 10 ทิศทั่วหล้า ดาบแห่งราชันย์ "
ตัวดาบที่เบาแทบจะไร้น้ำหนักยามถูกยื่นส่งให้กลับกลายเป็นหนักอึ้งเมื่อเปลี่ยนมือ
วูบ!
จิตกาธารเสียหลักแทบล้มลงกับพื้นแต่ยังคงจับดาบไว้แน่นมิได้ปล่อยให้มันตกลงไป เขาพยายามดึงรั้งมันขึ้นมาอย่างยากลำบาก
"....หนัก!... "เขาคิดในใจ...
"ข้ากะคร่าวๆว่ามันคงหนักเกือบๆ 50 กิโลกรัมได้...ลองชักมันออกมาสิ...ถ้าเจ้าทำได้นะ...มันเป็นดาบวิเศษที่จะตอบสนองต่อทายาทแห่งบัลลังค์เท่านั้น"
องค์ราชันย์เดินไปนั่งบนเก้าอี้ด้านข้างของห้อง รินชาออกจากพวยกา ยกจอกขึ้นจิบเบาๆ พลางจ้องมองสภาพที่ทุลักทุเลของจิตกาธารด้วยรอยยิ้มที่ฉีกกว้าง
หลังจากพยายามอยู่นานในที่สุดจิตกาธารก็ดึงมันออกได้อย่างแช่มช้า มันไม่ได้ฝืดแน่นแต่มันหนักอึ้งมากๆ จนต้องเกร็งพลังมหาศาลเพื่อดึงมันออกมา เขาพยามยามเค้นพลังที่มีทั้งหมดร่วมกับเวทมนตร์เพื่อดึงมันออกจาก
ฝัก ตัวดาบเริ่มเปล่งแสงสีขาวสว่างจ้ายามที่มันเป็นอิสระ จิตกาธารแม้เริ่มรู้จักวิธีควบคุมแต่มันก็ยังคงหนักอึ้งอยู่เช่นเดิม
"ดาบวิเศษ....ตอบรับกับพลังเวทย์ทุกชนิด ความหนักของมันขึ้นอยู่กับพลังอำนาจของผู้ใช้...หนักพอดีมือ ถ้าผู้ถือพอมีฝีมืออยู่บ้าง...
สุดหนัก สำหรับยอดฝีมือ...เบาดังกิ่งไผ่ หากมีฝีมือถึงขั้นไร้พ่าย...แต่ถ้าหาก เบาจนไม่รู้สึกถึงน้ำหนักของมัน เวลานั้นผู้ใช้คงต้องแสวงหาความพ่ายแพ้แล้ว"
ราชันย์ทักษิณลุกขึ้นอีกครั้งจิตกาธารสอดดาบกลับเข้าฝักแล้วยื่นคืนให้องค์ราชันย์หยิบดาบแล้วชักออกด้วยท่าทีที่ไม่กินแรงเลยแม้แต่น้อยเห็นได้ชัดว่า ฝีมือขององค์ราชันย์และจิตกาธารทิ้งห่างกันอย่างไกลลิบ
ยามดาบออกจากฝัก ดาบเริ่มเปล่งแสงสีต่างๆออกมาตามคาถาที่ร่าย
"แดง-เตโช น้ำเงิน-อาโป เหลือง-ปถวี ฟ้า-วาโย เขียว-อฎวี ม่วง-อณุภา ดำ-อัทธา ขาว-ตมนา"
"ปรกติดาบนี่ก็สามารถตัดได้ทุกอย่างอยู่แล้ว...แต่เมื่อร่ายเวทกำกับจะสามารถตัดสิ่งนั้นและทำลายสิ่งที่อยู่ตรงกันข้ามได้ด้วย...และถ้าหากรวมมันเข้าด้วยกัน..."
องค์ราชันย์ร่ายเวทย์อีกครั้งด้วยคาถาที่ยาวกว่าเดิม ตัวดาบเริ่มเปล่งแสงสีต่างๆสลับกันไปมา ในที่สุด แสงทั้ง 8 สีก็พันเป็นเกลียวรอบตัวดาบไว้แล้วแสงสีทองสว่างจ้าก็พวยพุ่งออกมาแทน
"พิชิตมาร ผนึกเทพ...นี่คือที่มาของคำว่า...พิชิต 10 ทิศทั่วหล้าดาบแห่งราชันย์!"
จิตกาธารจ้องมองดาบวิเศษด้วยสายตาที่ตื่นตะลึง ตอนนี้เขารู้แล้วว่า ความสามารถขององค์ราชันย์ ไม่ใช่ชื่อจอมปลอม...
ส่งผลความเลื่อมใสในตัวราชันย์ทักษิณมีมากขึนกว่าเดิมจนเรียกได้ว่าเขายอมรับใช้แบบถวายหัวเลยทีเดียว
ก่อนจากไปราชันย์ทักษิณได้กล่าวทิ้งท้ายไว้ให้จิตกาธารได้ขบคิดว่าว่า
"ลูกเอ๋ย...อย่าได้ตื่นตะลึงในพลังอำนาจของดาบเลย...ดาบเล่มนี้นั้นเมื่ออยู่ในมือคนธรรมดาย่อมวิเศษ แต่หากอยู่ในมือผู้วิเศษดาบเล่มนี้ย่อมเป็นดาบธรรมดา "
แล้วราชันย์แห่งแดนได้ก็เดินย่างออกจากห้องไป จิตกาธารโอบอุ้มองค์หญิงรุ้งรวีขึ้นมานอนพักบนเตียงพร้อมกับขบคิดตามคำพดนั้นอย่างเหม่อลอย
น่าเสียดายที่เหตุการณ์นี้ไม่ได้รู้กันเพียงสามคนยังคงมีสายตาที่อาฆาตแค้นของบุคคลที่4ซึ่งเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างจ้องมองมาจากเงามืด ก่อนที่เจ้าของสายตาคู่นั้นจะจากไปพร้อมกับความคิดทิ้งท้ายว่า
"ข้าต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว!"
---------------------------------------------------------------------------------------------------
"แต่นี้ไปเจ้าคือผู้พิทักษ์ราชันย์ และราชบุตรเขยแห่งอาณาจักรจามร จักอวยยศให้สูงกว่าเหล่าขุนนางเสนาอำมาตย์ข้าราชบริพารทั้งปวงและเหนือกว่าองค์มหาอุปราช รับคำสั่งเพียงจากองค์ราชันย์เท่านั้น!"
"ขอบพระทัย ฝ่าบาท " จิตกาธารเองยังคงนิ่ง ในขณะที่องค์หญิงรุ้งรวีตกใจจนสิ้นสติไปแต่เมื่อครู่
อง์ราชันย์เผยอยิ้มเล็กน้อยก่อนจะกล่าวคำ
"ไยมิเรียกคำเสด็จพ่อ!"
"ขอบพระทัยเสด็จพ่อ!"
"ลุกขึ้นสิ..." ดาบถูกเก็บเข้าฝักอีกครั้ง จิตกาธารลุกขึ้นยืนอย่างแช่มช้า ราชันย์ทักษิณยื่นดาบให้กับจิตกาธารพร้อมกับกล่าวว่า
"ดาบแห่งราชันย์!" จิตกาธารจ้องมองไปยังอักขระโบราณบนฝักดาบ ใจความว่า "พิชิต 10 ทิศทั่วหล้า ดาบแห่งราชันย์ "
ตัวดาบที่เบาแทบจะไร้น้ำหนักยามถูกยื่นส่งให้กลับกลายเป็นหนักอึ้งเมื่อเปลี่ยนมือ
วูบ!
จิตกาธารเสียหลักแทบล้มลงกับพื้นแต่ยังคงจับดาบไว้แน่นมิได้ปล่อยให้มันตกลงไป เขาพยายามดึงรั้งมันขึ้นมาอย่างยากลำบาก
"....หนัก!... "เขาคิดในใจ...
"ข้ากะคร่าวๆว่ามันคงหนักเกือบๆ 50 กิโลกรัมได้...ลองชักมันออกมาสิ...ถ้าเจ้าทำได้นะ...มันเป็นดาบวิเศษที่จะตอบสนองต่อทายาทแห่งบัลลังค์เท่านั้น"
องค์ราชันย์เดินไปนั่งบนเก้าอี้ด้านข้างของห้อง รินชาออกจากพวยกา ยกจอกขึ้นจิบเบาๆ พลางจ้องมองสภาพที่ทุลักทุเลของจิตกาธารด้วยรอยยิ้มที่ฉีกกว้าง
หลังจากพยายามอยู่นานในที่สุดจิตกาธารก็ดึงมันออกได้อย่างแช่มช้า มันไม่ได้ฝืดแน่นแต่มันหนักอึ้งมากๆ จนต้องเกร็งพลังมหาศาลเพื่อดึงมันออกมา เขาพยามยามเค้นพลังที่มีทั้งหมดร่วมกับเวทมนตร์เพื่อดึงมันออกจาก
ฝัก ตัวดาบเริ่มเปล่งแสงสีขาวสว่างจ้ายามที่มันเป็นอิสระ จิตกาธารแม้เริ่มรู้จักวิธีควบคุมแต่มันก็ยังคงหนักอึ้งอยู่เช่นเดิม
"ดาบวิเศษ....ตอบรับกับพลังเวทย์ทุกชนิด ความหนักของมันขึ้นอยู่กับพลังอำนาจของผู้ใช้...หนักพอดีมือ ถ้าผู้ถือพอมีฝีมืออยู่บ้าง...
สุดหนัก สำหรับยอดฝีมือ...เบาดังกิ่งไผ่ หากมีฝีมือถึงขั้นไร้พ่าย...แต่ถ้าหาก เบาจนไม่รู้สึกถึงน้ำหนักของมัน เวลานั้นผู้ใช้คงต้องแสวงหาความพ่ายแพ้แล้ว"
ราชันย์ทักษิณลุกขึ้นอีกครั้งจิตกาธารสอดดาบกลับเข้าฝักแล้วยื่นคืนให้องค์ราชันย์หยิบดาบแล้วชักออกด้วยท่าทีที่ไม่กินแรงเลยแม้แต่น้อยเห็นได้ชัดว่า ฝีมือขององค์ราชันย์และจิตกาธารทิ้งห่างกันอย่างไกลลิบ
ยามดาบออกจากฝัก ดาบเริ่มเปล่งแสงสีต่างๆออกมาตามคาถาที่ร่าย
"แดง-เตโช น้ำเงิน-อาโป เหลือง-ปถวี ฟ้า-วาโย เขียว-อฎวี ม่วง-อณุภา ดำ-อัทธา ขาว-ตมนา"
"ปรกติดาบนี่ก็สามารถตัดได้ทุกอย่างอยู่แล้ว...แต่เมื่อร่ายเวทกำกับจะสามารถตัดสิ่งนั้นและทำลายสิ่งที่อยู่ตรงกันข้ามได้ด้วย...และถ้าหากรวมมันเข้าด้วยกัน..."
องค์ราชันย์ร่ายเวทย์อีกครั้งด้วยคาถาที่ยาวกว่าเดิม ตัวดาบเริ่มเปล่งแสงสีต่างๆสลับกันไปมา ในที่สุด แสงทั้ง 8 สีก็พันเป็นเกลียวรอบตัวดาบไว้แล้วแสงสีทองสว่างจ้าก็พวยพุ่งออกมาแทน
"พิชิตมาร ผนึกเทพ...นี่คือที่มาของคำว่า...พิชิต 10 ทิศทั่วหล้าดาบแห่งราชันย์!"
จิตกาธารจ้องมองดาบวิเศษด้วยสายตาที่ตื่นตะลึง ตอนนี้เขารู้แล้วว่า ความสามารถขององค์ราชันย์ ไม่ใช่ชื่อจอมปลอม...
ส่งผลความเลื่อมใสในตัวราชันย์ทักษิณมีมากขึนกว่าเดิมจนเรียกได้ว่าเขายอมรับใช้แบบถวายหัวเลยทีเดียว
ก่อนจากไปราชันย์ทักษิณได้กล่าวทิ้งท้ายไว้ให้จิตกาธารได้ขบคิดว่าว่า
"ลูกเอ๋ย...อย่าได้ตื่นตะลึงในพลังอำนาจของดาบเลย...ดาบเล่มนี้นั้นเมื่ออยู่ในมือคนธรรมดาย่อมวิเศษ แต่หากอยู่ในมือผู้วิเศษดาบเล่มนี้ย่อมเป็นดาบธรรมดา "
แล้วราชันย์แห่งแดนได้ก็เดินย่างออกจากห้องไป จิตกาธารโอบอุ้มองค์หญิงรุ้งรวีขึ้นมานอนพักบนเตียงพร้อมกับขบคิดตามคำพดนั้นอย่างเหม่อลอย
น่าเสียดายที่เหตุการณ์นี้ไม่ได้รู้กันเพียงสามคนยังคงมีสายตาที่อาฆาตแค้นของบุคคลที่4ซึ่งเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างจ้องมองมาจากเงามืด ก่อนที่เจ้าของสายตาคู่นั้นจะจากไปพร้อมกับความคิดทิ้งท้ายว่า
"ข้าต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว!"
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น