คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : :: CHAPTER 3 ::
ณ ผับแห่งนึงย่านฮงอิเป็นที่รู้จักกันทั่วในนาม NB PUB ที่ใครต่างก็พากันมาแสวงหาความบังเทิงและความสนุกสนานกันไม่เว้นแต่ละวัน พนักงานต่างก็ดูวุ่นวายกับการต้อนรับบริการลูกค้า.. ใครบางคนที่หลบมุมในสุดของร้านที่คิดว่าจะหลบออกมาพักเพราะตั้งแต่เปิดร้านมาเธอเองก็ยังไม่ได้หยุดพักเลยสักนิด มือเล็กกำแน่นอยู่ที่สร้อยล็อคเก็ตรูปหัวใจที่คล้องไว้ที่คอดูยังไงก็รู้ว่าจะต้องเป็นของรักของหวงของเธอแน่..
..กริ๊ก..
เมื่อล็อคเก็ตถูกเปิดออก รอยยิ้มเบาบางก็ปรากฎขึ้นอย่างเลือนลอย ดวงตาเศร้าสร้อยซึ่งกำลังคิดคำนึงถึงมารดา แม้ใบหน้าที่ดูเหนื่อยก็ยังดูมีเสน่ห์ ชายหนุ่มผอมบางยืนจ้องมองจากที่ไกลๆ ทุกวัน..เขาจะแอบมองดูเธออยู่ในที่ไกลแสนไกล เขาได้เห็นทุกอิริยาบทของเธอ แต่เธอกลับไม่เคยเห็นเขาในสายตา..
รูปครอบครัวสุขสันต์ถูกใส่ไว้ในสร้อยล็อคเก็ต..พ่อ แม่ เธอ....และพี่ชาย สิ่งเดียวที่ผู้เป็นมารดาหลงเหลือไว้ให้กลับเป็นสิ่งที่ตอกย้ำรอยแผลที่อยู่ในใจทุกครั้งที่สัมผัสหรือได้เห็น ครั้งนึงเธอเคยเป็นเด็กที่สดใสร่าเริง แต่หลังจากวันนั้น...
วันที่พ่อกับแม่ของเธอทะเลาะกันอย่างรุนแรง เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเพียงแต่ถูกผู้เป็นแม่ไล่ตะเพิดเข้าห้องไป เมื่อทุกอย่างสงบลง... สายตาที่เคยอ่อนโยนของพี่ชายกลับกลายเป็นสายตาที่เย็นชา เธอรู้สึกและสัมผัสได้ถึงความชิงชัง ไม่นานพ่อของเธอก็ได้จากไป...
ตั้งแต่นั้นมาเธอก็ต้องทนอยู่กับความเจ็บปวดกับการกระทำที่แสดงออกถึงความเกลียดชังที่พี่ชายมีต่อเธอ และนั่นก็เป็นเหตุผลว่าทำไมเธอถึงต้องมาทนลำบากลำบนเป็นพนักงานในผับแบบนี้ในเมื่อเธอมีพี่ชายที่กำลังจะเป็นดาราดัง...
" จะนั่งที่ไหนดีเนี่ย? เอาหน้าฟอลล์เลยมั้ย? " คยูฮยอนตะโกนถามฮีเจงแข่งกับเสียงเพลงที่ดังกระหึ่มแบบไม่เกรงใจใคร คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน ปากบางเชิ่ดขึ้นดูเหมือนเธอจะไม่ค่อยชอบหรือพอใจกับสถานที่แบบนี้เลย
" ไม่เอา เลือกที่นั่งให้มันไกลจากผู้คนหน่อย ฉันไม่ชอบ " หญิงสาวหน้าบูดไม่พอใจพูดเสียงเฉียบขาดทำเอาคยูฮยอนสะอึกไปเล็กน้อย และแน่นอนว่าเขายอมทำตามสิ่งที่ฮีเจงบอกแต่โดยดี
เมื่อเห็นว่ามีลูกค้าเดินมา ปาร์ค อีซึล รีบปิดสร้อยล็อคเก็ตแล้วปั้นสีหน้ายิ้มแย้มสดใสให้กับผู้มาเยือนสองคน คยูฮยอนเดินตรงเข้าไปที่โต๊ะในสุดตั้งแต่แรกแล้ว จึงทำให้อีซึลเดินตามฮีเจงไปทีหลัง
" จะรับอะไรดีค่ะ? "
" ขอเป็นวอดก้าก็แล้วกัน..หรือโซจูดี? " คำถามสุดท้ายดูเหมือนคยูฮยอนจะจงใจหันไปถามฮีเจงมากกว่า
" ปัญญาอ่อนหรือไง? ถ้าอยากดื่มโซจูก็ไม่เห็นต้องหอบสังขารมาถึงในผับเลย " เสียงหัวเราะคิกคักดังขึ้นเบาๆจากอีซึล แต่เมื่อรู้ว่าเป็นการเสียมารยาทเธอจึงหยุดทันที ถึงแม้ว่าทั้งคยูฮยอนและฮีเจงไม่ได้ถือสาหาความเลยก็ตาม
" งั้นวอดก้าก็ได้ เอาเป็นค็อกเทลบรัดดีแมรีนะ " อีซึลพยักหน้ารับยิ้มๆ ก่อนที่จะหันหน้ามาทางฮีเจงเพื่อรอรับออเดอร์แล้วเธอก็ต้องชะงักไปเล็กน้อย เมื่อกี้ไม่ค่อยเห็นใบหน้าของลูกค้าคนนี้ได้ชัดเจนนัก แต่เมื่อได้เห็นจริงๆเธอก็รู้สึกตะลึงเหมือนกัน.. ผู้หญิงคนนี้ดูเป็นคนที่มีเสน่ห์จริงๆ ใบหน้าที่สละสวยแต่ก็เป็นใบหน้าที่หล่อเหลามากเช่นกัน เมื่อได้มองครั้งแรกก็ยากที่จะละสายตาจากไปได้..
" ฉันขอ...แค่น้ำพั้นซ์ก็พอ "
" ถ้าอยากดื่มน้ำพั้นซ์ก็ไม่เห็นต้องหอบสังขารมาถึงในผับเลย~ " แน่นอนว่านั่นเป็นคำพูดล้อเลียนของคยูฮยอน และเขาก็ต้องหยุดเมื่อรู้สึกได้ถึงรังสีความอำมหิตที่แผ่ซ่านมาจากด้านข้าง
" ที่มาเนี่ยเพราะนายบอกให้ฉันมาเป็นเพื่อนนายไม่ใช่หรอไง " สาวหน้าสวย(หล่อ)ตอบกลับเสียงเย็น ปรายตามองเพื่อนรัก(หักเหลี่ยมโหด?) ปฎิกิริยาของคยูฮยอนก็ดูจะลุกลี้ลุกลนขึ้นมาทันที
" งั้นสรุปว่าเป็นวอดก้าค็อกเทลบรัดดีแมรีกับน้ำพั้นซ์นะคะ " อีซึลพูดสรุปกับออเดอร์อีกครั้งอย่างยิ้มๆ เมื่อคยูฮยอนขานรับกิบรายการที่สั่งอีซึลจึงขอตัวแยกจากไป..
...ชายหนุ่มรูปงามใบหน้าที่ขาวดุจดั่งงาช้างเมื่อได้มาอยู่ภายใต้แสงสีในที่แห่งนี้ดูเหมือนจะเป็นที่สนใจของคนในร้านได้ดี แต่ใบหน้าของเขากลับนิ่งเฉยไร้อารมณ์ราวกับว่าผู้คนเป็นเพียงอากาศที่มองไม่เห็นเท่านั้น
' เฮอะ เจ้าพวกกระจอก มีปัญญามาผับห่วยๆแค่นี้น่ะหรอ '
สองเท้ายาวก้าวเร็วขึ้นเมื่อเห็นเป้าหมายก่อนที่จะลากไปยังประตูทางออกด้านหลัง...
" เดี๋ยวฉันไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ " ฮีเจงเอ่ยขอตัวกับเพื่อนรักเพื่อที่จะไปทำธุระ เมื่อมาถึงทางที่จะผ่านเข้าห้องน้ำจู่ๆก็เกิดไดยินเสียงของคนพูดคุยกัน..
" เป็นยังไงล่ะลำบากดีมั้ยที่นี้? "
" ไม่เท่าไหร่หรอกค่ะ สำหรับพี่.... "
" หุบปาก กล้าดียังไงที่เอาฉันไปนับเป็นญาติกับเลือดชั่วๆอย่างเธอ "
ฮีเจงเลิกคิ้วมองหาต้นเสียง.. ' ใครกันนะ? '
" ฮึก... "
" คิดว่าร้องไห้ออกมาแบบนี้มันจะลบล้างความผิดให้กับตัวเองได้หรือไง? ต่อให้ร้องไห้ไปตลอดชีวิตก็ไม่มีทางชดใช้ได้หรอก.. เห่อะ ฉันจะบอกอะไรให้เธอมันก็เป็นเพียงแค่เรื่องผิดพลาด... ไม่สิ เป็นเพียงแค่ตราบาปของผู้หญิงคนที่ชื่อว่า คิม ฮานึล เท่านั้นแหละ "
ฮีเจงที่เจอต้นเสียงได้แล้วก็แอบดูอยู่ตรงมุมหลืบ รอยยิ้มที่น่ารังเกียจของผู้ชายคนนั้น ใบหน้าที่ดูคุ้นเคย... รู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นว่าคนที่พูดด่าด้วยถ้อยคำเสียดสีใส่อีกคนจะเป็นนายแบบคนใหม่ คิม ฮีชอล แล้วเธอก็ต้องสะดุดเมื่อเห็นว่าผู้หญิงคนนั้นก็คือพนักงานที่มารับออเดอร์เมื่อกี้นั่นเอง...
' สองคนนี้เขาเป็นอะไรกัน? '
" อีกไม่กี่วันฉันก็จะได้กลายเป็น คิม ฮีชอล คนใหม่.. นักแสดงหน้าใหม่ดาวรุ่งอย่างฉันไม่รู้จักกับคนอย่างเธอ เพราะฉะนั้นอย่าได้เที่ยวเอาความดังของฉันไปพูดให้ใครต่อใครฟังเพื่ออวดตัวเอง เหอะ ถึงพูดไปก็ไม่มีใครเชื่ออยู่ดี ฉันกับเธอมันต่างกัน... อย่างน้อยเลือดฉันก็ไม่ใช่เลือดชั่วแบบพวกเธอ หึ แล้วถ้าหากว่าเรื่องนี้เล็ดลอดออกไปเมื่อไหร่ฉันจะส่งเธอไปหาเสี่ยหน้าโง่แทนการมาทำงานในผับนี้ซะ "
...เมื่อพูดเสร็จเขาก็ตีตัวเดินจากไปทันทีทิ้งให้เด็กผู้หญิงน่าสงสารยืนร้องไห้กับการกดขี่ข่มแหงจากผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็น พี่ ส่วนใครอีกคนเมื่อเห็นการเคลื่อนไหวก็รีบหลบเข้าไปอยู่ในห้องน้ำหญิงทันที แต่เธอก็ได้ทำบางอย่างพลาดไป...
นามบัตรสีขาวสะอาดตกหล่น..ฮีชอลชำเลืองมองผู้ที่ไม่ได้รับเชิญจากด้านนอกของประตู ก่อนที่จะก้มลงหยิบนามบัตรของคนนิรนาม เมื่อมองดูชื่อก็เผยรอยยิ้มแห่งชัยชนะออกมา ก่อนที่จะทิ้งเพียงคำพูดปริศนาเอาไว้...
" อยากจะได้ข่าวของฉันมากสินะ เจ้าพวกสอดรู้สอดเห็น... ฉันจะเล่นงานให้แกไม่ได้กลับไปทำงานได้อีกต่อไป "
ฮีเจงเลิกคิ้วสงสัยกับคำพูดนั้น.. แต่ยังไงซะเธอก็ต้องสืบรู้ให้ได้ว่าพนักงานคนนั้นเป็นอะไรกับฮีชอล ด้วยสัญชาตญานการเอาตัวรอด เมื่อรู้สึกถึงความปลอดคนด้านนอกเธอจึงออกมาและพุ่งเข้าหาเด็กสาวที่ยังคงยืนร้องไห้อยู่
" ฮึก! ค..คุณ!! " การจู่โจมของฮีเจงแน่นอนว่านั่นมันทำให้อีซึลตกใจมาก เธอมองฮีเจงด้วยสายตาไม่ไว้ใจ..
" เช็ดซะ " ฮีเจงยื่นผ้าเช็ดหน้าของตัวเองให้กับอีซึล และอีซึลเองก็รับผ้ามาเช็ดคราบน้ำตาอย่างว่าง่าย ' คงจะไม่ได้ยินเรื่องที่คุยกับพี่ฮีชอลเมื่อกี้นะ.. ' ความเศร้าเสียใจเมื่อกี้แปรเปลี่ยนมาเป็นความกังวลแทนกลัวว่าจะทำให้พี่ชายตัวเองเดือดร้อน...
" รู้จักกับผู้ชายคนเมื่อกี้หรอ? " และคำถามที่อีซึลกลัวมากที่สุดก็มา...
" ป...เปล่า "
" ถ้าอย่างนั้นทำไมเธอถึงร้องไห้ล่ะ? "
" ขอตัวก่อนะค่ะ! ฉันต้องไปทำงานแล้ว! ขอบคุณสำหรับผ้าเช็ดหน้านะ " อีซึลส่งคืนผ้าเช็ดหน้าให้กับฮีเจง แต่ฮีเจงกลับนิ่งเฉย แววตาที่มุ่งมั่นจดจ้องอยู่กับใบหน้าที่พยายามหลบสายตาเธออยู่ตรงหน้า
" ก็ดี.. ฉันจะไปเอาเรื่องกับหมอนั่น เพราะเธอบอกว่าไม่รู้จักกับเขา แต่เขากลับพูดจาเพ้อเจ้อจนทำให้เธอต้องร้องไห้... "
" คุณได้ยินเรื่องทั้งหมดเลยหรอ! " อีซึลตาโต..ตกใจสุดขีด สิ่งที่เธอกลัวกลับกลายเป็นจริงขึ้นมา ความเงียบเกิดขึ้นชั่วคณะทั้งเธอและฮีเจงต่างปิดปากเงียบเพื่อรออีกฝ่ายปริปากเป็นฝ่ายพูดออกมาก่อน
" เฮ้ เธอหายไปไหนมา... อ้าว!!? นี่เธอทำเด็กร้องไห้หรอ " คยูฮยอนที่นั่งรอเพื่อนรักซึ่งบอกจะไปเข้าห้องน้ำตั้งแต่เมื่อกี้แล้วยังไม่ออกมา นึกเป็นห่วงจึงได้พาตัวเองไปยังห้องน้ำหญิง และเมื่อไปถึงก็บังเอิญเห็นหลังของฮีเจงแว่บๆจึงได้เดินตรงหรี่เข้าไปทันที
พนักงานสาวส่ายหน้าไปมาทันที เธอเหลือบขึ้นมองหญิงสาวคนที่สูงกว่าตรงหน้าสายตาวิงวอนขออย่าให้บอกเรื่องเมื่อกี้กับใคร
" เมื่อกี้เธอคนนี้...พอดีหกล้มฉันก็เลยเข้ามาช่วย " ฮีเจงเบือนหน้าออกจากอีซึลหันไปตอบคยูฮยอนแทน
" ไปกันเถอะ " และลากคยูฮยอนออกจากตรงนั้นก่อนที่เขาจะถามอะไรมากไปกว่านี้ ทิ้งให้เด็กสาวมองตามในมือยังคงถือผ้าเช็ดหน้าของฮีเจง ไม่รู้เพราะอะไร...ทำไมเธอถึงได้รู้สึกไว้ใจผู้หญิงคนนั้น... อีซึลคิดพลางจัดการเช็ดหน้าเช็ดตาอีกครั้งแล้วออกไปทำงานตามปกติ
--------------------------------------------------------------------------
" อะไรนะ!!! "
" .............. "
" โดนไล่ออก!? "
เป็นครั้งแรกที่คยูฮยอนเห็นเพื่อนรักของเขาดูจะเป็นเดือดเป็นร้อนแทนเขา คิ้วหนาขมวดเข้าหากัน มือทั้งสองข้างพยายามฉุดดึงให้อีกคนนั่งลง
" อืม เมื่อเช้าฉันเข้าบริษัท มีคนบอกว่าบอสเรียกฉันให้เข้าไปหา ตอนแรกฉันก็นึกว่าจะเรียกเข้าไปชมเรื่องข่าวของดาราคู่รักอะไรนั่นซะอีก แต่ผิดคาด เขาบอกว่าฉันจะต้องออกจากบริษัทไม่อย่างนั้นบริษัทก็จะไม่สามารถอยู่ต่อไปได้ " คยูฮยอนอธิบายอย่างยาวเหยียด แต่คนที่ฟังก็ยิ่งทำหน้าไม่เข้าใจ อะไรกัน ตั้งแต่ที่รู้ว่าคยูฮยอนได้เข้าทำงานเป็นนักข่าว ดูเหมือนจะไม่เคยทำเรื่องอะไรเสียหายนอกจากจะรับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองได้ดี แล้วทำไมจู่ๆถึงได้โดนไล่ออกมาแบบนี้ละ
" ตอนนั้นฉันก็ไม่ค่อยจะตกใจเท่าไหร่หรอก แต่..เธอรู้อะไรมั้ย? บอสยื่นนามบัตรใบนึงมาให้ฉัน " ชายหนุ่มพูดพลางควักเอานามบัตรใบเดียวกันกับที่เขากำลังพูดถึงออกมาจากกระเป๋ากางเกงและส่งให้กับฮีเจง
" เมื่อวานนายก็เพิ่งให้นามบัตรแบบนี้มากับฉันนี่ แล้วมัน..ยังไงล่ะ? "
" ฉันมีนามบัตรแค่ใบเดียว ตอนแรกก็คิดว่าจะเอามาให้เธอดูก่อนว่าแบบนี้ดีมั้ย... "
" ใช่ แล้วนายก็บอกว่าให้ฉันเก็บไว้เพราะฉันจะเป็นคนแรกที่ได้นามบัตรจากนาย "
" เพราะฉะนั้นใบนั้นที่เธอถืออยู่ก็เป็นใบเดียวกับเมื่อสองวันก่อน "
' อยากจะได้ข่าวของฉันมากสินะ เจ้าพวกสอดรู้สอดเห็น... ฉันจะเล่นงานให้แกไม่ได้กลับไปทำงานได้อีกต่อไป '
แล้วคำพูดปริศนาของฮีชอลก็ผุดขึ้นมาให้ได้ยินอีกครั้ง เข้าใจแล้ว..เขาจะต้องเป็นคนทำนามบัตรใบนี้ตกตอนที่แอบดูฮีชอลกับพนักงานคนนั้นแน่ๆ ถ้าบอกว่าเป็นสองวันก่อนมันก็เข้าล็อคพอดี เพราะเมื่อสองวันก่อนก็เป็นวันที่คยูฮยอนพาไปผับ
" ไอ้เจ้าเลวนี่.. ใช้วิธีสกปรกหรอ " คนหน้าสวยนั่งพึมพำกำนามบัตรแน่นจนยับ คนที่มองดูอยู่ก็รู้สึกประหลาดใจ
" เฮ้ ฉันโดนไล่ออกนะ ไม่ใช่เธอสักหน่อย " คยูฮยอนพูดแซว ความจริงแล้วเขาก็ไม่ได้ซีเรียสเรื่องโดนไล่ออกสักเท่าไหร่หรอก งานแบบนี้ยังไงซะเดี๋ยวเขาก็ต้องหาใหม่ได้อีก
--------------------------------------------------------------------------
ตอนสามมาแล้ว ดูเหมือนจะยาว
แต่เป็นแค่เรื่องของไม่กี่คนเอง เรียวพยายามจะมาแต่งต่อ
แต่รู้สึกว่าคนจะเข้ามาอ่านเรื่องนี้น้อยนะ
เลิกแต่งเลยดีมั้ย T_____T
ความคิดเห็น