คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #41 : - "Part 28" - 120 % (ไคซอ + แบคแท +ยุนสิก)
“ยุนอาระวัง!!”
คนถูกเตือนหันไปมองด้านหลังของตนเองก่อนจะพบว่าหนึ่งในกลุ่มอินฟินิทวิ่งพุ่งตรงมาที่ตัวเธอในมือมีเก้าอี้ไม้ที่ถูกยกสูงขึ้นเหนือหัวที่พร้อมจะกระหน่ำฟาดลงที่หัวหรือไม่ก็ตัว
ยุนอาเองก็เบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อมันกำลังวิ่งเข้ามาใกล้เต็มที่ มือบางจับชายกระโปรงของตัวเองทั้งสองข้างไว้แน่นพลางเลิกขึ้นจนถึงต้นขาเผยให้เห็นแล๊คกิ้งขาสั้นสีดำ ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันพร้อมกับหัวใจที่เต้นรัว
เอาวะ...
“อั๊กกกก !!”ก่อนที่ชายคนนั้นจะได้ยกเก้าอี้เตรียมที่จะทุ่มลงบนหัวของยุนอา เรียวขาเล็กของเธอก็ยกขึ้นสูง เท้าเล็กที่มีรองเท้านักเรียนห่อหุ้มยื่นไปจรดกับปลายคางของคนตรงหน้าพร้อมกับออกแรงเตะจนคนถูกกระทำหงายหลังล้มลงไปนอนกับพื้นและสลบเหมือดคาที่
“อยากลองของเองช่วยไม่ได้”ยุนอายกยิ้มพลางยกเท้าข้างที่ใช้เตะขึ้นมาปัดเศษสวะที่อาจจะติดรองเท้าคู่สวยของเธอ
เมื่อจัดการกับรองเท้าของตัวเองเสร็จร่างบางก็หันกลับมายิ้มให้กับหนุ่มๆที่มีบางคนถึงกับอ้าปากค้างรวมไปถึงเจสสิก้าที่กลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอมองเพื่อนรักของตัวเองที่เห็นอยู่ทุกวันว่าเรียบร้อยแต่พอตอนนี้เธอเพิ่งเห็นกับตาตัวเองว่าเธอเสยคางผู้ชายจนเงิบสลบกลับขึ้นไปเฝ้าพระอินทร์
“ยะ ยุนแค่ป้องกันตัว”ยุนอายิ้มแหย่ๆเพราะเพิ่งจะรู้ตัวว่าทำอะไรลงไป
“ไม่ทันแล้วละ”ทุกคนพูดขึ้นพร้อมกัน
“เจ็บตรงไหนไหม”เซฮุนที่เลิกสู้กับหัวหน้ากลุ่มอินฟินิทเพราะฝ่ายตรงข้ามหมดแรงก็รีบวิ่งเข้ามาดูยุนอาด้วยความเป็นห่วง
ร่างของยุนอาถูกหมุนไปหมุนมาเพราะฝีมือของเซฮุนที่กำลังใช้สายตาไล่มองตามส่วนต่างๆของร่างกายเพื่อหารอยฟกช้ำต่างๆ และเมื่อไม่เจอเขาก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะดึงร่างบางเข้ามาไว้ในอ้อมกอดโดยไม่สนว่าพวกเพื่อนกำลังมองอยู่
“ฮุนเป็นห่วงยุนจังจนแทบบ้าเลยรู้ไหม”อ้อมแขนแกร่งกระชับกอดคนในอ้อมแขนแน่นเพื่อบอกให้เธอรู้ว่าสิ่งที่พูดไปคือความจริง
“ขอบคุณนะที่เป็นห่วง”ยุนอาสวมกอดเซฮุนไว้แน่น
ทุกคนที่มองอยู่ต่างไม่พูดอะไรออกมาเพราะไม่อยากจะขัดจังหวะและเกรงว่าจะโดนยุนอาโชว์เสยคางอีกรอบจึงเลือกที่จะเงียบแล้วหันไปดูพวกที่นอนร้องโอดครวญว่าจะจัดการสำเร็จโทษอย่างไรดี
ครืดดดดดดด
ประตูโรงยิมถูกเปิดออกโดยสารวัตนักเรียนหลายสิบคนที่มาพร้อมกับสองสาวซึ่งได้ถูกไหว้วานให้ไปตรวจกล้องวงจรปิด แทยอนและซอฮยอนวิ่งเข้ามาหาเจสสิก้าที่ยังคงอยู่ในอ้อมกอดของคริสก่อนจะหันไปมองพวกหนุ่มๆที่กำลังจัดการกับพวกอินฟินิท สุดท้ายสายตาของคนทั้งคู่ก็ไปสะดุดกับยุนอาและเซฮุนที่ยังคงกอดกันแน่นก่อนที่ทั้งคู่จะรีบผละออกจากกันเพราะเสียงของพวกสารวัตนักเรียน
“ทุกคนปลอดภัยกันดีใช่ไหม”ซอฮยอนเอ่ยถามทุกคนด้วยความเป็นห่วง
“สบายมาก”ไคตอบกลับซอฮยอนด้วยรอยยิ้มทั้งที่มือยังคงทำหน้าที่ล๊อคแขนคนของอินฟินิทเอาไว้
“เธอสองคนล่ะ พวกมันทำอะไรหรือเปล่า หน๊อยยยย แกทำเพื่อนฉันหรอ”แทยอนกำมัดแน่นพร้อมกับเตรียมที่จะพุ่งหาใครสักคนในกลุ่มอินฟินิทเพื่อระบายอามรณ์ที่บังอาจมาทำร้ายเพื่อนรักของตน
แบคฮยอนที่เห็นว่ายัยตัวเล็กของตัวเองกำลังโกรธก็ทิ้งร่างของชายคนหนึ่งลงกับพื้นอย่างไม่ใยดีพลางวิ่งเข้าไปหาเธอพร้อมกับใช้สองแขนคว้าเอวเธอเอาไว้เพื่อกันไม่ให้เธอใช้มืออันสะอาดสะอ้านของตัวเองไปตบตีร่างกายอันสกปรกของพวกเศษสวะ
“ปล่อยเขานะเบค่อนเขาจะฆ่ามันที่บังอาจมาจับตัวเพื่อนรักของเขาไป”ยัยตัวเล็กดิ้นไม่ยอมหยุดพร้อมกับพยายามจะใช้เล็บของตัวเองข่วนหน้าของหัวหน้ากลุ่มอินฟินิท
“ใจเย็นๆนะตัวเล็ก ยังไงซะไอ้พวกนี้ก็ต้องโดนอยู่แล้ว”สิ้นเสียงของแบคฮยอนคนตัวเล็กก็หยุดดิ้น
พวกอินฟินิทกับลูกน้องถูกพวกสารวัตพาตัวไปยังห้องฝ่ายปกครองเพื่อรอพบกับอาจารย์ที่โคตรโหดสุดๆในโรงเรียน ส่วนพวกผู้นำก็ถูกพาตัวไปยังห้องพยาบาลซึ่งมีสี่สาวตามไปดูแลไม่ห่างเพราะแต่ละคนก็มีแผลเล็กแผลน้อยตามตัวหรือใบหน้า
ห้องพยาบาลอันกว้างใหญ่ดูเล็กลงในทันทีเมื่อชายหนุ่มทั้งสิบสองคนถูกสี่สาวบังคบให้ไปปฐมพยาบาลในห้อง ใบหน้าหล่อของแต่ละคนที่มีรอยฟกช้ำกลับมีสีหน้าบูดบึ้งเมื่อไม่มีใครเต็มใจอยากจะมาแต่ด้วยความเกรงใจในตัวของยุนอาซึ่งได้เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือจึงพร้อมใจเดินคอตกไปตามๆกัน
เจสสิก้า แทยอน และซอฮยอนรับหน้าที่ทำแผลกับทายาให้หนุ่มๆยกเว้นยุนอาที่ยืนยิ้มหวานคอยเป็นกำลังใจเพราะเธอไม่ถนัดเรื่องอย่างนี้จริงๆ อีกอย่างตอนนี้เธอก็พอรอดตัวจากการที่จะต้องคอยมาตอบคำถามของเพื่อนสาวทั้งสามคน
“ยุนอาเธอมีอะไรจะบอกพวกเราไหม”
“เอ่อ ก็ นิดหน่อย แฮ่ๆ”
จากที่เคยคิดว่ารอดมันคงไม่ใช่ ถึงสามสาวจะไม่ถามแต่ไอ้แพนด้าขอบตาดำที่เจสสิก้าเพิ่งทายาให้เสร็จก็เป็นฝ่ายเปิดปากถามขึ้นมาทำให้ซิ่วหมิน เฉิน ลู่ฮาน เลย์ รวมถึงคริสหันมามองที่ยุนอาเกือบจะพร้อมกัน คนถูกมองก็หันหน้าไปหาเพื่อนรักเก่าแก่ที่กำลังนั่งทำแผลก่อนจะหันไปหาเซฮุนพลางขอความเห็น
“ความจริงแล้วยุนไม่ใช่ผู้หญิงเรียบร้อยอย่างที่พวกนายเห็นแค่โดนบังคับให้ต้องเปลี่ยนนิสัย”เมื่อเห็นสายตาขอความช่วยเหลือเซฮุนจึงอาสาเป็นอธิบายเรื่องราวทั้งหมดเพราะเขาเองที่รู้ดี
“ไอ้เหม่งมันเข้าโรงเรียนไหนก็มีแต่เรื่องถูกเชิญออกเป็นว่าเล่นคุณลุง เอ่อ พ่อยุนอาทนไม่ไหวเลยสั่งย้ายให้กลับมาเรียนที่นี่ โอ๊ยยย เบาสิๆ”แบคฮยอนที่กำลังนั่งให้แทยอนทำแผลก็พูดขึ้นมาก่อนจะร้องโอดโอยเพราะคนตรงหน้ากดสำลีย้ำที่แผลด้วยความหมั่นไส้
“ยุนโดนสั่งให้ต้องใส่แว่นหนาๆแต่งตัวเรียบร้อยและที่สำคัญห้ามมีเรื่องจนถึงขั้นต้องโดนเชิญออกเพราะไม่อย่างนั้นยุนจะต้องไปเรียนที่อียิปห์ ยุนไม่ได้อยากหลอกทุกคนเลยนะ อย่าโกรธกันเลยนะ ยุนขอโทษ!!”ยุนอาก้มหน้าสำนึกผิดต่อเพื่อนหลายๆคนที่เธอโกหกเรื่องของตัวเองมานาน
แต่นึกถึง ‘อียิปห์’ ขึ้นมาอิมยุนอาก็อยากจะร้องไห้ ... T^T
เจสสิก้าลุกจากเก้าอี้เดินเข้าไปหายุนอาที่ยืนก้มหน้าอยู่ตรงข้างเตียงก่อนที่ร่างเล็กจะโผเข้ากอดเพื่อนรัก ตามด้วยแทยอนที่วิ่งโร่เข้ามากอดด้วยเช่นเดียวกัน คนถูกกอดดูตกใจเล็กน้อยแต่ก็ใช้สองมือโอบกอดทั้งสองสาวไว้
“ไม่มีใครโกรธหรอกที่ยุนทำไปเพราะมีเหตุผล”เจสสิก้าว่าพลางส่งยิ้มให้กับยุนอา
“ใช่ๆ ไม่มีใครโกรธหรอก หรือว่ามี ใคร??”แทยอนหันไปมองหน้าลู่ฮาน เทา เลย์ ซิวหมิ่น และเฉิน พร้อมกับยกกำปั้นเล็กๆขึ้นมาข่มขู่
“พวกเราไม่กล้าโกรธยุนหรอกน่า ... กลัวโดนเสยตรงนี้เหมือนไอ้โฮย่า”เฉินใช้นิ้วชี้ไปที่คางของตัวเองซึ่งก็ทำให้ทุกคนหัวเราะไปตามๆกัน
ยุนอาหัวเราะเบาๆพลางพ้นลมหายใจออกมาอย่างโล่งอกที่ทุกอย่างจบลงด้วยดี ทุกคนเข้าใจในตัวเธอและเธอเองก็ซาบซึ้งใจเพื่อนทุกคนที่ไม่ถือโทษโกรธ ดวงตากวางหยุดมองอยู่ที่เซฮุนอยู่นานจนเมื่อเจ้าตัวหันมาจ้องเธอกลับ ใบหน้าหวานก็แดงซ่านพร้อมกับมุ่ยหน้าอย่างไม่รู้สาเหตุ
เล่นใช้สายตาเจ้าเล่ห์จ้องมาอย่างนี้จะไม่ให้เขินได้ยังไง >///<
ถึงทุกคนจะรู้ความจริงเรื่องของยุนอากันหมดแต่ใช่ว่าเธอจะสามารถกลับมาเป็นตัวของตัวเองได้อีกเพราะคนที่รู้ก็แค่กลุ่มพวกเธอเท่านั้น นอกเหนือจากนั้นยังไม่มีใครรู้ฉะนั้นเธอก็ต้องอยู่ในร่างของสาวเฉิ่มต่อไปและก็ต้องทำตัวเรียบร้อยให้เหมือนเดิมทุกประการ
ส่วนเรื่องที่พวกอินฟินิทอาจจะปากโป้งเกี่ยวกับเรื่องของเธอก็สบายใจหายห่วงเนื่องจากคนพวกนั้นถูกจัดการขั้นเด็ดดาดโดยสภานักเรียนที่ได้เรียนผู้อำนวยการของโรงเรียนที่อินฟินิทได้เรียนอยู่นั้นให้มารับทราบความประพฤติและบทลงโทษซึ่งได้ถูกปิดเป็นความลับ
วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ยุนอาต้องแต่งตัวเนิร์ดหอบหนังสือพะรุงพะรังอยู่ในห้องสมุดที่เธอเกลียดแสนเกลียดแต่ก็ต้องจำใจมาเพราะ เจสสิก้า แทยอน ซอฮยอน และกลุ่มผู้นำทั้งสิบสองคนต่างก็มารวมตัวร่วมด้วยช่วยกันติววิชาที่ใช้สอบในวันจันทร์หน้าซึ่งก็เหลือเวลาอีกสี่วันเท่านั้นที่จะมีเวลาอ่านหนังสือเตรียมตัวสอบปลายภาค
“ฮุนช่วย”เซฮุนรีบลุกขึ้นไปช่วยรับหนังสือเล่มหนามาจากมือหญิงสาวที่หน้าตาเริ่มบึ้งตึงขึ้นมาทุกที
“ขอบคุณนะ ไม่รู้ไอ้บ้าคิงคองซูจะหาอะไรมาเยอะแยะนักหนา หนักก็หนัก เล่มก็หนา ใครจะไปอ่านไหวกัน”ยุนอาทิ้งตัวลงนั่งข้างเจสสิก้าพลางบ่นขึ้นมาอย่างหัวเสีย
เธออยากจะบอกกับทุกคนที่ในที่นี่เลยว่าสิ่งที่เกลียดที่สุดของอิมยุนอาคืออ่านหนังสือจำพวกที่มีสาระเพราะมันบรรยายมากเกินไปแล้วไหนจะแนววิชาการที่บางครั้งเธอเองก็ไม่เข้าใจเนื้อหาอะไรเลยทั้งที่อ่านมาตั้งนาน
“ก็ดีแล้วที่ไอ้มันหามาได้ขนาดนี้ เอาเป็นว่าเริ่มติววิทยาศาสตร์ก่อนเลยแล้วกัน”
“ห๊ะ วิทย์เนี้ยนะ?”
ยุนอาจากจะสลบซักสิบรอบเมื่อเซฮุนเลือกวิทยาศาสตร์ขึ้นมาวางไว้ด้านหน้าของเธอ ใบหน้าหวานภายใต้แว่นหนาเริ่มไม่พอใจจนถึงขั้นต้องมุ่ยหน้าแต่คนที่จะช่วยติวกลับไม่สนใจอีกทั้งยังเปิดเรื่องพลังงานขึ้นมาแล้วเริ่มอธิบายในสิ่งที่คนฟังแทบจะไม่เข้าใจ
‘ไหนว่าโรงเรียนนี้สอนดนตรีไงฟร่ะ! แล้วไอ้พวกวิทย์ คณิต มาได้ไง’
“แล้วใครจะติวคณิตให้ฉันวะ”ไคที่นั่งหน้ามึนและงุนงงในมือถือหนังสือคณิตศาสตร์กำลังโวยวายแต่เสียงเบาอยู่อีกโต๊ะ
“เดี๋ยวซอช่วยเอง”เมื่อเห็นว่าโต๊ะที่ไคนั่งอยู่นั้นไม่มีใครเลยซอฮยอนจึงอาสาตัวเองพร้อมกับลุกออกจากโต๊ะเดิมซึ่งมีเจสสิก้า คริส ยุนอาและเซฮุนนั่งอยู่ แล้วเดินไปยังอีกโต๊ะที่อยู่ถัดไป
ซอฮยอนนั่งลงข้างไคก่อนจะหยิบหนังสือคณิตศาสตร์ที่อยู่ในมือของเขาลงมาวางไว้บนโต๊ะจากนั้นก็เปิดบทเรียนแรกพร้อมกับอธิบายสูตรต่างๆ วิธีการคิด และบังคับให้ชายหนุ่มทำโจทย์ที่เธอได้ตั้งไว้เพื่อทดสอบความเข้าใจ
“ทะ ทำหมดเลยหรอซอ”คนเอ่ยถามลากปากกาน้ำเงินไปตามโจทย์คณิตศาสตร์ในสมุดโน๊ตเล่มใหญ่ที่มีตัวเลขและภาษาอังกฤษเกือบเต็มหน้า
“ใช่จ้ะ ทำให้หมดและต้องทำให้เหมือนกับที่ซอสอนด้วยนะ”
ไคลอบกลืนน้ำลายอึกใหญ่เมื่อเห็นโจทย์ที่หญิงสาวคิดขึ้นมานั้นมันดูยากกว่าในหนังสือเสียอีก เขาหันหน้าไปมองหญิงสาวที่ทำมือไฟตท์ติ้งให้กำลังใจก่อนจะสูดลมหายใจลึกๆแล้วเริ่มลงมือทำข้อแรก แต่พอทำได้ไม่เท่าไหร่สมองเขาก็เริ่มสับสนจึงตัดสินใจที่จะลองถามซอฮยอน
“ซอช่วยอธิบายหน่อยว่าฉันต้องทำยังไงต่อ”
“...”
“ซอ เธอ ...”ชายหนุ่มตั้งใจจะหันไปขอความช่วยเหลือจากคนข้างกายแต่เขากลับต้องมาเห็นน้ำใสๆที่เอ่อคลอเบ้าตาของซอฮยอนแทน
เซฮุนกำลังหยอกล้อกลั่นแกล้งยุนอาที่นั่งทำแบบทดสอบด้วยท่าทางเคร่งเครียด นั่นคือสิ่งที่สายตาของซอฮยอนจับจ้องมองดูด้วยความเจ็บปวด ไครู้ว่าซอฮยอนแอบชอบเซฮุนมานานแล้วแต่เขาก็ไม่สามารถช่วยอะไรเธอได้เพราะรู้ว่าเซฮุนชอบยุนอาไม่สิต้องเรียกว่ารักมากรักจนไม่มองไม่สนใจผู้หญิงคนไหนเลยแม้กระทั่งซอฮยอนที่ดีกับพวกเขามาตลอดเซฮุนยังให้ความสำคัญกับเธอแค่เพื่อน
ทุกคนก็คิดกับซอฮยอนแค่เพื่อนยกเว้นเขา ...
มันเริ่มมาจากความรู้สึกดีที่มีต่อซอฮยอนซึ่งเธอคอยแนะนำช่วยเหลือเรื่องต่างๆ จนนานวันเข้าความรู้สึกมันก็เพิ่มมากขึ้นทุกวันจนมารู้ตัวอีกทีก็ชอบเธอซะแล้ว แต่เขาก็ขอเลือกที่อยู่มองดูอยู่ห่างๆไม่ทำตัวสนิทสนมหรือเอาใจใส่เธอเกินไป
ขอแค่ได้มองเธออยู่ตรงนี้ก็พอใจแล้ว
“ไม่มีสมาธิเลยแหะ ไปที่อื่นดีกว่านะซอ”เขาแค่ไม่อยากให้ซอฮยอนต้องเจ็บปวด
“คะ ไค ...”ซอฮยอนแอบใช้มือปาดน้ำตาก่อนจะหันมามองไคที่หยิบหนังสือมาถือไว้ในมือพร้อมกับใช้มืออีกข้างคว้าเข้าที่ข้อมือของเธอเอง
“ฉันกับซอจะไปที่สวนหลังห้องสมุดนะเว้ย ในนี้เสียงดังเกินไปไม่มีสมาธิคำนวณ”
“จัดหนักเลยนะซอถ้ามันเรื่องมากก็ใช้หนังสือทุบหัวให้ตัวดำเลย โอ๊ยยย โอเซฮุน!!”ยุนอาละสายตาจากบททดสอบสุดหินพลางพุดหยอกล้อเพื่อนรักอย่างคิมจงดำที่หัวสมองก็อยู่ในระดับเดียวกับเธอ พอพูดจบแก้มเนียนใสของตัวเองก็ถูกเซฮุนหยิกเข้าให้จนถึงขั้นต้องร้องชื่อจริงเขาออกมา
ไคไม่ตอบโต้มีแต่ยกยิ้มกวนๆส่งไปให้ยุนอาจากนั้นก็เขาก็พาซอฮยอนออกมาจากห้องสมุดโดยที่เธอยังไม่ได้ตอบตกลงว่าจะไปกับเขา ร่างบางมองแผ่นหลังของคนตรงหน้าที่ลากเธอออกมายังสวนดอกไม้ด้านหลังของห้องสมุดซึ่งมีโต๊ะเก้าอี้วางตามมุมต่างๆเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศให้กับนักเรียนบางคนที่ไม่ชอบนั่งอุดอู้อยู่ในห้องสมุด
“ตรงนี้แหละ”ชายหนุ่มเลือกโต๊ะที่อยู่ใกล้กับชิงช้าไม้เพราะบางทีซอฮยอนอาจจะอยากนั่งเล่นฆ่าเวลาระหว่างที่รอเขาจัดการกับโจทย์เลขในมือและเชื่อเลยว่ามันต้องกินเวลานานหลายชั่วโมง
“ไม่นั่งกับพวกเพื่อนๆแล้วหรอ”ซอฮยอนเอ่ยถามชายหนุ่มด้วยความสงสัยว่าเหตุใดเขาถึงได้พาเธอออกมาแทนที่จะนั่งอยู่กับเพื่อนๆ
“บอกแล้วไงว่าไม่มีสมาธิ เธอไปนั่งที่ชิงช้าตัวนั้นก่อนได้ไหมถ้าฉันทำไอ้นี่เสร็จแล้วจะเรียก”ไคปล่อยมือซอฮยอนก่อนจะยกโจทย์เลขขึ้นมาโชว์
ซอฮยอนพยักหน้าก่อนจะเดินไปนั่งลงบนชิงช้าไม้ที่มีดอกไม้พันล้อมรอบดูสวยงาม ชิงช้าแกว่งไปตามแรงดันของคนนั่งที่ตั้งใจจะทำให้มันแกว่งช้าๆ เธอเหม่อมองออกไปยังสวนดอกไม้กว้างพลางปล่อยจิตใจให้ล่องลอยไปไกลแสนไกล
‘ทั้งที่รู้ว่าไม่มีความหวังตั้งแต่แรกแล้วทำไมเธอถึงยังไม่ยอมตัดใจ ซอฮยอนเธอมันบ้า บ้า!!’
ไคพักสมองจากโจทย์ข้อที่สามด้วยการยืนขึ้นยืดเส้นยืดสายก่อนจะลอบมองร่างบางที่นั่งเหม่อบนชิงช้าไม้ตรงหน้า แขนแกร่งยกขึ้นกอดอกของตัวเองก่อนจะพาร่างของตนไปยืนอยู่ตรงหน้าของเธอพร้อมกับใช้มือหยุดชิงช้าให้นิ่ง
“ไค มายืนตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่หรือว่ามีอะไรอยากให้ซอช่วยงั้นหรอ”เพราะมัวแต่เหม่อและคิดอะไรคนเดียวเรื่อยเปื่อยทำให้ซอฮยอนไม่ทันสังเกตว่าไคได้มายืนอยู่ตรงหน้า
“ถ้าฉันแก้โจทย์ได้ทั้งหมดวันเสาร์นี้เธอต้องไปกินข้าวเป็นเพื่อนฉันเพื่อเป็นรางวัลสำหรับคนเก่ง”ไคพูดพร้อมกับจ้องไปที่ใบหน้าของซอฮยอนซึ่งมีอาการตกใจเล็กน้อย
“เอ่อ...”ซอฮยอนอึกอักเล็กน้อยเพราะไม่รู้ว่าเขาพูดจริงหรือพูดเล่น
“ฉันพูดจริงแล้วเธอก็ห้ามปฎิเสธ”พูดเสร็จไคก็กลับไปจดจ่ออยู่กับตัวเลขบนหน้ากระดาษที่ยังคงเหลืออีกหลายข้อกว่าจะเสร็จ
แต่ก่อนที่จะลงมือทำไคก็ยังแอบชำเลืองปฏิกิริยาของหญิงสาวซึ่งก็มันก็ทำให้เขาอดที่จะยิ้มกับตัวเองไม่ได้ เพราะตอนที่เขาเงยหน้าขึ้นมาจากสมุดแล้วใช้สายตามองไปที่ซอฮยอนเป็นจังหวะเดียวกันที่ดวงตาคู่สวยกำลังจ้องเขาอยู่เช่นกันก่อนที่เธอจะรีบหลุบตาลงต่ำแล้วหันกลับไปมองเบื้องหน้าดั่งเดิม
“ถะ ถ้าอยากให้ไปกินข้าวเป็นเพื่อนก็รีบทำซะสิ”
“ครับ”ไคยิ้มกว้างเมื่อมีกำลังใจมากระตุ้นสมองให้คำนวณสูตรต่างๆได้อย่างคล่องแคล่วแม้จะสะดุดอยู่บ้างแต่พอมองไปที่ซอฮยอนเขาก็คิดออกขึ้นมาทันที
ซอฮยอนอาจจะต้องใช้เวลาเพื่อที่จะลบความรู้สึกที่มีต่อเซฮุนซึ่งเขานี่แหละจะเป็นคนช่วยเธอเองและก็จะเป็นอาสาสมัครดามหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้กลับมีชีวิตชีวาอีกครั้ง
คิมจงดำไฟท์ติ้ง!!! (ติดมาจากยุนอาซะงั้น)
อีกด้านหนึ่งในห้องสมุดที่ไร้ผู้คนแต่ก็ยังมีชายหญิงคู่หนึ่งแอบนั่งหลบมุมอยู่ระหว่างชั้นหนังสือหมวดฟิสิกส์ชีวะเคมี หญิงสาวร่างเล็กเอียงคอซบลงตรงไหล่หนาของคนข้างกายก่อนจะหยิบหนังสือการ์ตูนที่เพิ่งจะแอบไปหยิบมาจากหมวดบันเทิงชั้นหนึ่งขึ้นมาอ่าน ส่วนชายหนุ่มที่นั่งนิ่งให้คนตัวเล็กซบไหล่ก็ใช้นิ้วม้วนผมของเธอเล่น
“เบค่อนอ่า ทุกคนเขาจะสงสัยเรื่องของเรากันไหม”แทยอนเอ่ยถามคนรัก(ลับๆ)ก่อนจะตัดสินใจวางหนังสือลงแล้วเงยหน้าขึ้นไปมองเขาแทน
“ไม่รู้สิ อาจจะสงสัยมั้ง”มือหนาของแบคฮยอนละออกจากผมสวยของคนตัวเล็กแล้วเปลี่ยนเป้าหมายเป็นการกอบกุมมือของเธอแทน
“เขาว่าบอกกับทุกคนไปเถอะเรื่องที่เรากำลังคบกันอยู่ คิคิ”คนพูดอ้ายม้วนพลางหัวเราะคิดคัก
แบคฮยอนทำหน้าครุ่นคิดก่อนจะหันไปมองแฟนสาวของตัวเองที่เธอติดสินใจแล้วว่าจะบอกเรื่องที่เขากับเธอแอบคบกันอย่างลับๆให้พวกเพื่อนๆรู้
ในความเป็นจริงเรื่องที่เขากับแทยอนคบกันนั้นไม่จำเป็นที่จะต้องปิดบังเป็นความลับก็ได้แต่เนื่องจากทั้งเขาและคนตัวเล็กนั้นเพิ่งเริ่มพูดคุยกันได้ไม่ถึงเดือนเลยด้วยซ้ำแต่กลับมาคบกันเป็นแฟนในเวลาอันรวดเร็วเขาจึงเกรงว่าเพื่อนทุกคนจะว่าเอาได้โดยเฉพาะยุนอาที่อาจจะกระโจนทึ่งหัวเพรากลัวว่าเขาจะคิดเล่นๆกับแทยอนเท่านั้น
แต่สำหรับแทยอนแล้วเขาคิดกับเธอจริงจังและก็รักจริง!!
“ตกลง !! เขาจะบอกเรื่องนี้กับทุกคน อ่า แต่ตัวเล็กต้องช่วยอะไรเขาอย่างหนึ่งนะ”
“ช่วยหรอ เบค่อนจะให้ตัวเล็กช่วยอะไรอ่ะ?”
แบคฮยอนใช้แขนตัวเองโอบเข้าที่บ่าของคนตัวเล็กพร้อมกับดึงเธอมาไว้ในอ้อมแขนจากนั้นก็ใช้มืออีกข้างจับที่ปลายคางเล็กนั้นพลางบีบเบาๆ แทยอนสบตากับคนรักของตัวเองก่อนจะยิ้มอายๆเพราะคิดว่าเขาอาจจะโน้มลงมาจูบเธอก็ได้
“ช่วยห้ามยัยยุนไม่ให้มาทำร้ายเขาได้ไหม เก๊ากลัวไอ้เหม่งยุนมากมาย ๆ ๆ ๆ”น้ำเสียงที่ดัดให้น่ารักยังไม่น่าหมั่นไส้เท่ากับท่าทางของแบคฮยอนที่ยู่ปากออดอ้อนแฟนสาวพร้อมกับเชยคางมนส่ายไปมา
“ย๊าห์ นึกว่าเรื่องอะไร ชิส์ ไม่คุยด้วยแล้ว”ชายหนุ่มหงายหลังไปตามแรงผลักของหญิงสาวคนรักที่ไม่รู้ว่าอยู่ในอารมณ์ไหนถึงได้โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงมิหนำซ้ำยังเบือนหน้าหนีและยังเขยิบถอยห่างจากตัวเขาอีกด้วย
“ตัวเล็กงอนอะไรเขาอ่า เขาทำอะไรผิด”ชายหนุ่มเกาหัวตัวเองเพราะไม่เข้าใจว่ายัยตัวเล็กของเขาเป็นอะไรถึงได้งอลโดยไม่มีสาเหตุ
แทยอนมุ่ยหน้าพลางหายใจฟืดฟาดด้วยความโมโห โกรธ และงอลที่แบคฮยอนไม่ได้ทำเหมือนกับที่เธอคาดหวังไว้ในใจ ที่จับคางแล้วจ้องหน้ามันก็เป็นสเต็ปแรกของการจูบแต่นี่อะไร ...
แทแทเซง!!
“ช่างเหอะ ไม่มีไร”พูดเสียงแหลมใช้มือกอดอก
“จริงหรอตัวเล็ก?”คำถามของแบคฮยอนทำให้หญิงสาวหันมามองหน้าก่อนที่เธอจะสะบัดหน้าหนีอีกรอบ ‘นี่นะไม่มีอะไร’
“จริง ชิส์ ไปหาเจสกับยุนดีกว่า”ว่าแล้วก็เตรียมตัวเดินไปหากลุ่มเพื่อนที่นั่งรวมกัยอยู่อีกฝากหนึ่งของห้องสมุด
แบคฮยอนที่ยังไม่เคลียร์ว่าคนตัวเล็กโกรธเรื่องอะไรจึงไม่ยอมปล่อยให้เธอเดินไปง่ายๆ มือหนาเอื้อมไปคว้าข้อมือของเธอเอาไว้จากนั้นก็เข้าไปประชิดตัวแล้วจัดการใช้มืออีกข้างจับที่ศีรษะของเธอเอาไว้แล้วตรงเข้าไปกระกบกลีบปากบางนั้นทันที่ก่อนจะรีบผละออกเพราะกลัวว่าเธอจะโกรธยิ่งกว่าเดิม
“บะ เบ คะ ค่อน...”แทยอนยืนนิ่งพลางเบิกตากว้างตามแบบฉบับของผู้หญิงที่ถูกจูบกระทันหัน
“ตัวเล็ก คือ เขา เอ่ออ”ชายหนุ่มทำตัวไม่ถูกเมื่อเห็นท่าทีของคนรัก
“เขา เขา เขา หายโกรธแล้ว คิคิ รีบไปหาเพื่อนๆกันเถอะอยากจะบอกเรื่องของเราจะแย่แล้ว”
คนตัวเล็กที่หายจากอาการตกใจกับจูบเมื่อครู่ก็มีท่าทางเปลี่ยนคือยิ้มหน้าบานจนตาขีดเป็นเส้นตรงก่อนจะรีบจับมือของแฟนหนุ่มให้เดินตามก้นไปอย่างอารมณ์ดีเช่นเดียวกับชายหนุ่มที่เดินตามแฟนสุดที่รักพลางยิ้มแฉ่งอยู่คนเดียว
และแล้วผู้ชายอย่างแบคฮยอนก็เข้าใจแล้วว่าทำไมแทยอนถึงได้โกรธขึ้นมากะทันหันเพราะสาเหตุนี้นี่เอง อยากจูบก็ไม่บอกเขาจะได้จัดให้สักสองสามสี่ห้าที แต่ก็ได้คิดเท่านั้นเนื่องจากเขาไม่กล้าล่วงเกินแทยอนไปมากกว่านี้
ไม่ใช่กลัวว่าเธอจะโกรธแต่เพราะอำนาจมืดของอิมยุนอาที่อาจจะฆ่าเขาได้ในทุกสถานการณ์
ช่วงเวลาอันแสนยากลำบากของอิมยุนอากำลังจะหมดลงเมื่อหนุ่มๆทั้งหลายรวมตัวกันไปหาของกินที่ห้องอาหารแต่กว่าที่คนบางคนจะยอมไปก็เล่นเอาตาเธอเกือบบอดเพราะไอ้หยอยจอมพาโบที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยว่าเธอได้ขยิบตาส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือให้เอาตัวอาจารย์(โหด)ลงไปด้วยแต่ไอ้เพื่อนบ้าดันทำหน้างงจนเธอทนไม่ไหวลุกเข้าไปตบหัวสักป๊าบถึงจะเข้าใจ
คนบางคนที่ว่าก็คือ ‘โอเซฮุน’ จอมกวนประสาท
เป็นคนบอกเธอเองแท้ๆว่าให้มีสมาธิในการทำข้อสอบในหนังสือห้ามวอกแวกเพราะอาจจะทำให้เสียสมาธิและทำผิดได้ แต่นี่เขากลับเอาแต่นั่งจ้องหน้าไม่ก็แอบเอามือมาโอบรอบเอวเธอไว้จนสติกับสมองของเธอเตลิดไปคนละทิศละทาง
แล้วเธอจะมีสมาธิทำได้ยังไงกัน ... เฮ่อออ!!
“ได้พักซะที หึ๊ยยย เพราะไอ้บ้าฮุนคนเดียวเลย”ยุนอาฟุบหน้าลงกับหนังสือเล่มหนาพลางหลับตาลงช้าๆเพื่อผ่อนคลายสายตาและความเหนื่อยล้าหลังจากที่ต้องใช้มันสมองอันเกือบฉลาดของตนเองทำข้อสอบวิทย์ฯที่เซฮุนบังคับให้ทำทั้งหมดนี้ภายในหนึ่งชั่วโมง
“เอาน่า เซฮุนเขาหวังดีอยากให้ยุนทำข้อสอบได้ก็เลยต้องเคี้ยวเข็ญกันหน่อย”เจสสิก้าวางหนังสือเล่มหนาลงพร้อมกับหันไปยิ้มให้เพื่อนสาวที่ตอนนี้นิสัยได้เปลี่ยนไปแล้ว จากที่เคยเรียบร้อยบ่นน้อยบัดนี้กลับเอาแต่ใจปนโหดนิดๆจนหนุ่มๆเริ่มกลัวและเธอเองก็ชอบนิสัยในตอนนี้ของยุนอามากซะด้วย
“เจสอ่า ไม่เห็นหรอว่าฮุนแกล้งยุนตลอด เนี้ยย ไม่รู้ว่าทำผิดหรือทำถูกมั่วไปหมด”สมุดเล่มหนาที่มีตัวอักษรมากมายเพราะฝีมือของยุนอาถูกคว่ำหน้าลงกับโต๊ะ
เจสสิก้าเองก็ปิดหนังสือของตัวเองเช่นเดียวกันพร้อมกับใช้มือเท้าคางมองดูรอบห้องสมุดที่ไม่เหลือใครเลยนอกจากตัวเธอกับยุนอาไม่นับรวมกับพวกหนุ่มๆที่อีกไม่นานก็คงจะกลับมาและแทยอนที่หายไปไหนก็ไม่รู้ตั้งแต่มาถึงก็หายหน้าไปเลย
มีแค่เธอกับยุนอาและความเงียบที่ต่างฝ่ายต่างก็หยุดพูดเสียดื้อๆ
และแล้วความนึกคิดที่เธอได้แต่เก็บไว้ในใจก็โลดแล่นขึ้นมา ‘อยากรู้เรื่องของยุนอากับคริส’ นั่นคือสิ่งที่เจสสิก้าคิดขึ้นได้ระหว่างที่จ้องไปยังร่างบอบบางข้างกายที่ยังคงนอนฟุบลงกับโต๊ะ
“ยุน...”
“ขา ว่าไงเจส”เมื่อได้ยินเพื่อนเอ่ยเรียกชื่อยุนอาจึงหันหน้ามองเจสสิก้าช้าๆก่อนจะลุกขึ้นยืนพลางบิดขี้เกียจแล้วจึงนั่งลงกับเก้าอี้ดังเดิม
“เจสมีเรื่องอยากจะถามยุน เอ่อ เกี่ยวกับคริส ตะ แต่ ถ้าไม่อยากตอบก็ไม่เป็นไรนะ”เจสสิก้ารีบโบกไม้โบกมือเป็นพัลวันเมื่อสิ่งที่เธอพูดทำให้อีกฝ่ายเริ่มขมวดคิ้วบางเข้าหากัน
“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ แต่เจสต้องตอบคำถามยุนก่อนนะ คิคิ”ยุนอาหัวเราะร่าก่อนจะขยับเก้าอี้ของตัวเองให้ชิดกับเก้าอี้ของเจสสิก้า เรียวแขนยาวยกขึ้นกอดคอเพื่อนรักหลวมๆพร้อมกับยื่นหน้าเข้าไปกระซิบที่ใบหูของคนข้างๆ
เจสสิก้าเอียงหูไปใกล้กับยุนอาเพื่อตั้งใจฟังคำถามที่เพื่อนรักอยากจะรู้ และเพียงไม่กี่อึดใจดวงตาใสก็เบิกกว้างขึ้นมาอย่างตกใจเมื่อคำถามทีได้ยินนั้นทำให้หัวใจของเธอเต้นแรง ต่างจากอีกคนที่ถามเสร็จก็ยิ้มหน้าบานพลางหัวเพราะคิกคักอยู่คนเดียว
คำถามของอิมยุนอาก็ไม่ได้ยากอะไรมากมาย (มั้ง !!)
ก็แค่ ...
“เจสรักคริส ใช่ไหม?”
มีใครคาดหวังอะไรกับ ยุนสิก หรือเปล่าจ๊ะ ... อิอิ !!
มาเพิ่มให้เป็น 120 % ... (ไรท์น่ารักอ่ะเปล่า??)
ตอนหน้ามารออ่านกันว่า สิก้าแม่ยาหยีจะตอบไอ้หม่งยุนของไรท์ยังไง
อ๋อ แล้วมีรีดเดอร์คนไหนอยากรู้บ้างว่าบนดาดฟ้ายุนกับคริสคุยอะไรกัน (ใน Part - 22)
เม้นท์มาเยอะๆ ถ้าเป็นที่น่าพอใจไรท์จะลงตอนหน้าแน่นอน >”<
ปล. ขอโทษที่ช่วงนี้อัพช้าเพราะสมองไม่แล่นเลยจริงๆ T^T
ความคิดเห็น