คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #37 : - "Part 25" -
เป็นครั้งแรกที่ยุนอารู้สึกว่าเวลาของการพักเที่ยงในวันนี้มันช่างยาวนานต่างจากทุกวันที่มักจะหมดลงอย่างรวดเร็ว เธออยากจะทึ่งหัวตัวเองที่ดันเลือกที่นั่งตรงข้ามกับคริสและเซฮุน ซึ่งเธอกำลังมีคดีกับพวกเขาทั้งสองอยู่
สำหรับเซฮุนเขาก็ไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรตั้งแต่ส่งข้อความมายิ่งทำให้เธอวิตกกังวลมากเป็นพิเศษ ถึงบางทีเขาจะยิ้มให้เธอบ้างแต่รอยยิ้มนั้นกลับมีแต่ความเจ้าเล่ห์ที่ทำให้เธอเดาไม่ออกเลยว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
ส่วนคริสนี่ก็อีกคนที่ทำให้เธอรู้สึกผิดเต็มประดา ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขามันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป แม้กระทั่งคำว่าเพื่อนเธอเองก็ไม่รู้ว่าเขาจะให้เธอได้หรือเปล่า นับวันเขายิ่งทำตัวเหินห่างวันหนึ่งคุยกันก็นับคำได้เลย
“คริสลองกินนี่สิ”ยุนอาคีบคิมบับวางไว้ในจานของคริส
“ขอบคุณ”ไม่ผิดกับที่เธอคิดไว้เลย คริสพูดแค่คำว่าขอบคุณจากนั้นเขาก็เงียบไป
ยุนอาเริ่มจะเหนื่อยใจที่เห็นเขาเป็นแบบนี้ถึงเมื่อก่อนคริสจะชอบทำตัวหื่นชอบกวนเธออยู่บ่อยๆแต่เธอก็ชอบแบบนั้นมากกว่าที่เป็นอยู่ในตอนนี้ เขามีแต่เย็นชาใส่เธอ ไม่สนใจเธอ และยังไม่ยอมเข้าใกล้เธอด้วย
“ซอ ลองกินนี่ดูสิ”
“ขอบคุณจ่ะฮุน”
ร่างบางหันขวับให้กับบทสนทนาของคนสองคนที่ทำให้เธอพักเรื่องเอาใจคริสไว้ก่อน เธอลืมไปเสียสนิทว่าซอฮยอนก็มานั่งร่วมโต๊ะกับพวกเธอด้วยหลังจากที่เซฮุนเป็นคนชวนมา เขาคอยดูแลเอาอกเอาใจซอฮยอนมากเป็นพิเศษ ทั้งตักอาหารให้พร้อมกับชวนคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้ และดูเหมือนเจสสิก้ากับแทยอนก็เริ่มจะสนิทกับผู้หญิงคนนี้มากขึ้น อันที่จริงซอฮยอนก็เป็นคนดีมีน้ำใจแต่เพราะอะไรไม่รู้ถึงได้ทำให้ยุนอาไม่ค่อยจะถูกชะตากับเธอคนนี้สักเท่าไหร่
“นี่เซฮุน ข้ามหน้าข้ามตาพวกฉันไปหรือเปล่า”แทยอนแอบมีแซวเล็กน้อย
“นั่นสิ ขนาดยุนอานั่งอยู่ตรงหน้านายยังไม่เห็นจะตักอะไรให้เลย”เจสสิก้าเองก็อยากมีส่วนร่วมเลยพูดขำๆ
แต่มีบางคนขำไม่ออก…
ยุนอาเบือนหน้าหนีทำเป็นไม่สนใจก่อนจะยกจานข้าวของตัวเองขึ้นมาถือไว้จากนั้นก็เดินไปนั่งเบียดกับพวกชานยอลที่แยกไปอีกโต๊ะหนึ่ง ซึ่งโต๊ะนี้ก็มีแต่ผู้ชายคือ เทา ซิ่วหมิน เฉิน คยองซู ซูโฮ ไคและชานยอล
“ยุนอาเป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมย้ายไปนั่งโต๊ะนั่นล่ะ”แทยอนร้องถามเพื่อนสาวด้วยความแปลกใจทั้งที่ยังนั่งกินข้าวด้วยกันอยู่ดีๆ
“เปล่าจ้า ยุนแค่อยากกินแกงเนื้อวัวหน่ะ เห็นว่าโต๊ะเราไม่มีเลยย้ายมาแย่งพวกนี้กิน”พูดเสร็จก็ตักเนื้อวัวชิ้นโตเข้าปาก
แค่กๆ แค่กๆ
“ไอ้ เอ่อ ยุน ค่อยๆกินสิฟร่ะ”ชานยอลที่นั่งใกล้ยุนอาสุดรีบยื่นแก้วน้ำเปล่าให้กับเพื่อนรัก
ตอนนี้หน้าหวานๆภายใต้แว่นหนาเตอะนั้นแดงเถือกเพราะเกิดจากการอาการสำลักน้ำแกงที่ตัวเองกินเข้าไป ร่างบางรีบลุกขึ้นจากโต๊ะกินข้าวก่อนจะวิ่งออกไปโดยที่ไม่บอกใครสักคน แต่ทุกคนก็เข้าใจเพราะคิดว่าเธออาจจะไปเข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตา
“จะไปไหนวะไอ้ฮุน”ลู่ฮานถามเซฮุนทันทีเมื่อเห็นว่าเขากำลังจะลุกออกจากโต๊ะ
“ห้องน้ำ”เซฮุนพูดจบก็รีบร้อนวิ่งออกไป
แบคฮยอน ชานยอล ไค คยองซู และซูโฮต่างรู้ดีว่าเซฮุนคงจะไปหายุนอาแน่นอนเพราะเมื่อครู่สองคนนี้ดูเหมือนจะงอลกันอยู่ และไม่ใช่พวกเขาเท่านั้นที่รู้ คริสเองก็เป็นอีกคนที่รู้ว่าความสัมพันธ์ของสองคนนั้นมันเกินเพื่อนไปแล้ว
]
“เบื่อ เบื่อ เบื่อ หงุดหงิด หงุดหงิด ฮึ๊ยยย!!”ยุนอาวิ่งมาที่สวนหลังโรงเรียนพร้อมกับบ่นออกมาอย่างหัวเสีย
มือบางถอดแว่นตาที่สวมอยู่บนหน้าออกก่อนจะคลายยางที่มัดผมทั้งสองข้างออกเช่นเดียวกัน เธอโยนมันลงพื้นอย่างไม่ใส่ใจเพื่อเป็นการระบายอารมณ์หงุดหงิดที่เพิ่งจะเกิดขึ้น สองขาเรียวก้าวฉับๆไปยังเก้าอี้ไม้เก่าๆที่ถูกวางทิ้งไว้ก่อนจะยกเท้าถีบมันจนหงายท้องจากนั้นก็ทิ้งตัวลงนั่งแทนที่ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว
“เซฮุนคนบ้าเห็นคนอื่นสำคัญกว่าอิมยุนอางั้นหรอ ไอ้บ้า ไอ้บ้า เกลียดที่สุดเลย”น้ำเสียงตัดพ้อของร่างบางดังระงมไปทั่วสวน
ยุนอาดึงหญ้าที่อยู่รอบตัวพลางโยนมันไปข้างหน้าพร้อมกับบ่นถึงโอเซฮุนที่บังอาจเห็นคนอื่นสำคัญกว่าเธอแถมคนนั้นยังเป็นผู้หญิงที่ชื่อ ‘ซอฮยอน’
“ไอ้บ้าเซฮุน คอยดูนะฉันจะไม่คุยกับนายอีกต่อไปแล้ว”
“ทำไมล่ะ?”
“ก็เพราะว่านายมันบ้าที่ไปสนใจคนอื่นมากกว่าฉันไงละ ซะ เซฮุน!!!”ร่างบางเบิกตากว้างเมื่อหันไปตามเสียงปริศนาที่ดังมาจากด้านหลังพร้อมกับทำเนียนเอ่ยถามจนเธอเผลอพูดออกไป เมื่อเห็นว่าเป็นใครเธอก็มุ่ยหน้าทำเป็นไม่สนใจ
“ที่แท้ก็งอลนี่เอง ยุนจัง”เซฮุนหัวเราะเบาๆก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ
เขาวิ่งตามเธอมาตั้งแต่ที่ห้องอาหารเห็นหมดทุกอย่างได้ยินทุกคำตัดพ้อที่เธอเอ่ยบ่นตลอดทางซึ่งเขาเองก็ไม่ได้เครียดกับอาการงอลของยุนอาเลยเพราะเขามีวิธีง้ออยู่ในใจแล้ว เซฮุนแกล้งเขยิบเข้าไปใกล้ยุนอาแล้วก็ตามคาดเมื่อเธอเขยิบตัวออกห่างด้วยความไม่พอใจ ตัวเขาเองรู้ดีว่าหากเข้าไปใกล้อีกเธอก็คงต้องเขยิบหนีไปอีกเขาจึงยอมนั่งอยู่เฉยๆ
“’งอลฮุนเรื่องอะไรบอกได้ไหม”แกล้งถามไปอย่างงั้น
“...”
“อย่าบอกนะว่างอลที่เห็นฮุนเอาใจซออ่ะ แบบนี้ไม่เรียกว่างอลแล้วมั้ง เขาเรียกว่า ‘หึง’ ”
ขวับบบ!!
เพราะคำว่า ‘หึง’ ที่เซฮุนพูดออกมาทำให้ร่างบางรีบหันมาเผชิญหน้ากับเขาพร้อมกับถลึงตาใส่ มือบางกำหมัดแน่นก่อนจะรัวทุบไปที่ต้นแขนของเขา พูดมาได้ไงว่าหึง คนอย่างเธอน่ะหรอจะหึงไม่มีทางซะหรอก คำๆนี้ห่างไกลกับตัวเธอเยอะ
“นี่แน่ะ พูดบ้าอะไรใครหึง โอเซฮุนบ้า”
“เจ็บนะยัยตัวแสบ”เซฮุนรวบข้อมือบางที่กำลังตีเขาอย่างบ้าคลั่งก่อนจะดึงเธอเข้ามากอด
“ปล่อยนะโอเซฮุน ไอ้บ้า”ยิ่งเธอดิ้นมากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งกอดรัดเธอแน่นขึ้น
ยุนอาไม่สามารถทำอย่างอื่นได้เลยนอกจากดิ้นคลุกคลักอยู่ในอ้อมกอดที่แน่นหนาของเขา เธอพยายามยกมือขึ้นมาเพื่อที่จะดันตัวเขาแต่ก็ไม่สามารถทำได้เพราะเซฮุนกอดรัดร่างกายเธอแน่นจนมือทั้งสองข้างแนบชิดติดกับลำตัว และเหมือนกับว่ายิ่งดิ้นมากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งรัดเธอแน่นมากขึ้น
ร่างบางแอบคิดในว่าเซฮุนนั้นเป็นคนหรืองูเหลือมกันแน่ถึงได้รัดแน่นไม่ยอมปล่อยส่วนเธอเองก็เหมือนกับลูกกวางตัวน้อยที่กลายเป็นเหยื่อรอโดนเขมือบ และพอคิดแบบนั้นก็ชักเป็นกังวลในสวัสดิ์ภาพของตัวเองกลัวว่าเขาจะทำเหมือนกับตอนที่อยู่ในห้องนอน ช่วงนี้เซฮุนเปลี่ยนไปเยอะกลายเป็นแบดบอยชอบลวนลามเธออยู่เรื่อย
“หายใจไม่ออกแล้วนะ”ไม่รู้ว่าจะใช้วิธีไหนยุนอาจึงแกล้งพูดเหมือนกับคนไร่เรี่ยวแรงพลางหายใจหอบและถี่ ทำตัวให้เหมือนกับคนหายใจไม่ออกจริงๆ
“มุกแบบนี้ใช้กับฮุนไม่ได้หรอกนะ”เขารู้จักเธอดีว่ากอดแค่นี้ยัยตัวร้ายไม่สิ้นฤทธิ์ง่ายๆ
“ยุนหายใจไม่ออกจริงๆนะฮุนจัง”ยุนอาพูดเสียงอ่อนพลางซบลงกับอกของชายหนุ่ม
เซฮุนนึกขำที่ยัยตัวร้ายยังเนียนไม่เลิกคงจะหมดหนทางแล้วจริงๆถึงได้กล้าใช้วิธีที่ไม่เหมาะกับตัวเองเอาเสียเลย อย่างยุนอามีเรื่องกับคนอื่นไปทั่วเจ็บแค่ไหนก็ไม่ร้องออกมาสักนิด และนี่เขาก็แค่กอดมันจะทำให้เธอหมดแรงได้ยังไง
หึ...แต่ในเมื่อยุนอาเล่นมาแบบนี้เขาเองก็ต้องตามน้ำเล่นตามเธอแล้วกัน
“เป็นอะไรมากไหม ฮุนขอโทษ”เซฮุนคลายอ้อมกอดออกเปลี่ยนเป็นกอดหลวมๆแทน
“ยุนก็แค่...แกล้งทำเท่านั้นเอง ฮ่าๆ”ยุนอายกยิ้มด้วยความพอใจที่แผนของตัวเองสำเร็จก่อนจะใช้มือทั้งสองข้างผลักเซฮุนล้มลงไปนอนกับพื้น
ร่างบางหัวเราะออกมาพลางวิ่งไปหลบหลังต้นไม้ทันทีเมื่อเห็นว่าเซฮุนใช้มือยันตัวเองให้ลุกขึ้นยืนพร้อมกับใช้นิ้วชี้มาที่เธออย่างเอาเรื่อง แต่กระนั้นยุนอาก็ยังทำเป็นไม่รู้เรื่องแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ก่อนจะหัวเราะคิกคัก
“แกล้งฮุนหรอ”ถึงตอนนี้เขาก็ยังแกล้งทำเป็นเคืองหญิงสาว
“ไม่ต้องมาโกรธเลยนะ ไม่ง้อหรอก”
“ใช่สิ ถึงฮุนจะโกรธมากแค่ไหนยุนก็ไม่เคยง้อหรอก ฮุนไม่ใช่คนสำคัญอะไรนิ”เซฮุนฝืนยิ้มก่อนจะเดินเลี่ยงไปทางเดิมเพื่อกลับไปยังห้องอาหาร
ไม่ได้ดราม่านะ ... เขาแค่แกล้งเธอคืนและก็อยากจะรู้ด้วยว่าเธอจะง้อยังไง
ยุนอาอ้าปากค้างนึกไม่ถึงเลยว่าเขาจะโกรธจริงๆ ทั้งที่เธอเองก็แค่พูดเล่นเฉยๆและคิดว่าเขาเองก็คงจะไม่คิดอะไรมากเพราะส่วนใหญ่ถ้าเธอพูดประมาณนี้เขาก็จะตอบเธอกลับแบบกวนๆหรือไม่ก็เดินมาตีเหม่งเธอเบาๆ
‘เซฮุนหัดเป็นผู้ชายขี้น้อยใจตั้งแต่เมื่อไหร่เนี้ย’ ถึงจะคิดแบบนี้แต่ร่างบางก็วิ่งไปขว้างหน้าเซฮุนเอาไว้
“อะไรกัน พูดแค่นี้ก็โกรธซะแล้ว”ทั้งที่คิดไว้ว่าจะมาง้อแต่ปากเธอมันไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลยกลายเป็นว่ามาหาเรื่องเขาซะงั้น
“นั่นสินะ ฮุนนี่เป็นผู้ชายที่ไม่ได้เรื่องเอาซะเลย”
“โอ๊ยย เซฮุนนะเซฮุน ยุนไม่ได้หมายความแบบนั้นซักหน่อย ที่บอกว่าไม่ง้อหน่ะยุนพูดเล่นต่างหาก ฮุนนะเป็นคนสำคัญสำหรับยุนเลยนะ แต่ฮุนนั่นแหละที่เห็นคนอื่นสำคัญกว่ายุน”เริ่มแรกก็เหมือนจะดีแต่พอนึกถึงตอนที่เซฮุนเอาใจซอฮยอนจนออกนอกหน้าก็ทำให้เธอเริ่มจะโกรธเขาอีกแล้ว
เซฮุนพ่นลมหายใจออกมาเบาๆเมื่อยัยตัวแสบทำเหมือนจะมาง้อเขาแต่ไหง๋กลับมางอลเหมือนเดิม และเขาเองก็คงต้องเป็นฝ่ายง้อเธอสินะมิเช่นนั้นเรื่องคงไม่จบแน่ นี่แหละน่ายุนอาก็คือยุนอา ง้อใครไม่จะค่อยเป็นส่วนมากจะถนัดแต่หาเรื่องมากกว่า
“เฮ่ออ ฮุนไม่เคยเห็นใครสำคัญไปกว่ายุนจังเลยนะ”มือหนาจับไปที่ไหล่บางทั้งสองข้างพร้อมกับก้มหน้าให้ใบหน้าอยู่ในระดับเดียวกันกับเธอ
“ไม่จริงอ่ะ ซอฮยอนนั่นไง ชิส์ เอาอกเอาใจกันดีเหลือเกินไม่เป็นแฟนกันไปเลยล่ะ”ร่างบางยู่ปากงอลๆ
เซฮุนดีใจจนเนื้อเต้นเมื่อคำพูดของยุนอาบ่งบอกได้เลยว่ากำลัง ‘หึง’ เขากับซอฮยอน ถ้าหากเป็นเรื่องในห้องอาหารตอนที่เขาตักโน้นตักนี่ให้ซอฮยอนแล้วล่ะก็ เขาก็แค่ทำในฐานะเพื่อนเท่านั้นเอง ซอฮยอนเองก็เพิ่งจะเคยร่วมโต๊ะอาหารกับพวกยุนอาเป็นครั้งแรกเลยไม่กล้ากระดิกตัวไปไหนเขาก็เลยช่วยทำให้เธอผ่อนคลายเท่านั้นเอง แต่ไม่คิดเลยว่ายัยตัวแสบจะออกอาการมากขนาดนี้
“จะเป็นแฟนได้ยังไงในเมื่อฮุนคิดกับซอแค่เพื่อน อืมม แต่กับบางคนฮุนเริ่มไม่คิดจะเป็นแค่เพื่อนแล้วสิ”พูดจบก็ยื่นหน้าเข้าไปใกล้จนจมูกของเธอกับเขาชิดกัน
“อะ เอาหน้าออกไปห่างๆเลยนะ”มือบางยกขึ้นมาดันหน้าผากของชายหนุ่มเอาไว้ก่อนที่เขาจะทำอะไรเธอไปมากกว่านี้
“ทำไม? เขิลหรอยุนจัง แล้วไม่อยากรู้หรอว่าบางคนที่ว่านั้นหมายถึงใคร หืมม??”
ยุนอาหน้าแดงไปถึงหูเพราะรู้ว่า ‘บางคน’ ที่เซฮุนว่านั้นหมายถึงใคร
อาจจะเป็นแบคฮยอนเพราะสองคนนี้ตัวติดกัน
อาจจะเป็นชานยอลเพราะชอบดีดกีตาร์จีบกันบ่อยๆ
อาจจะเป็นคยองซูเพราะทำอาหารอร่อย
อาจจะเป็นซูโฮเพราะดูแลกันดี
อาจจะเป็นไคเพราะทะเลาะกันบ่อย
เอ๋ ... หรือไม่ก็พวกคริสเพราะหลังๆชอบออกไปเที่ยวด้วยกัน
“ทำหน้าอย่างนี้หมายความว่าไง คงไม่ได้คิดอะไรประหลาดๆหรอกใช่ไหม”เซฮุนคิดไว้แล้วไม่มีผิดว่ายัยตัวแสบต้องคิดอะไรบ้าๆบอๆอยู่แน่ๆถึงได้ยิ้มอยู่คนเดียว
ยุนอาคงไม่ได้คิดว่าเขาหมายถึงเจ้าพวกนั้นหรอกนะ ...
“ป่าวนะ นี่ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องเลย งอลอยู่เห็นไหมๆ เชอะๆ”ร่างบางกอดอกพลางเชิดหน้าแล้วเดินนำออกไป
“งอลใช่ไหม เดี๋ยวฮุนจะง้อให้ดู”เขารีบเดินไปให้ทันเธอก่อนจะเร่งฝีเท้าให้ตัวเองเป็นฝ่ายเดินนำหน้า
ร่างสูงเปลี่ยนเป็นเดินถอยหลังพร้อมกับใช้สายตาจับจ้องไปยังใบหน้าหวานที่เริ่มขมวดคิ้วด้วยความสงสัยแต่ก็ยังเชิดหน้าเดินต่อไป เธอคงจะสงสัยว่าเขาจะง้อเธอแบบไหน และสำหรับโอเซฮุนคนนี้วิธีการง้อของเขาก็ไม่ใช่ธรรมดาอย่างที่คิด
เซฮุนหยุดเดินพร้อมกับใช้มือรั้งทายทอยให้เธอหันมาเผชิญหน้าซึ่งยุนอาเองก็ดูตกใจมากเหมือนกัน แต่ก่อนที่เธอจะได้พูดอะไรเขาก็รีบประกบปากลงไปทันที ในตอนแรกร่างบางดูจะขัดขืนเล็กน้อยแต่พอนานไปก็กลับยอมรับจูบพร้อมกับใช้สองมือโอบรอบคอชายหนุ่มเอาไว้
“หายงอลยัง หรือว่าอยาจะให้ง้อต่อ”เซฮุนเอ่ยถามเมื่อผละออกจากร่างบางที่ยืนกระพริบตาถี่ และเมื่อไม่ได้คำตอบเขาก็เตรียมที่จะใช้วิธีง้อเหมือนเมื่อสักครู่นี้
“ไม่ต้อง!! หายแล้ว หายงอลแล้ว”ยุนอาร้องห้าม
“นึกว่ายังไม่หายงอล ฮ่าๆ ก่อนจะไปหาเพื่อนใส่นี่ไว้ซะ”แว่นกรอบหนาที่เธอเพิ่งโยนมันทิ้งอยู่ในมือของเซฮุนและตอนนี้มันก็ถูกสวมลงบนใบหน้าที่แดงก่ำของเธอเรียบร้อย
ถ้าไม่ใช่ผู้หญิงตรงหน้าเขาก็คงไม่ทำแบบนี้กับใครหรอกนะ ... โดยเฉพาะวิธีง้อ
สำหรับอิมยุนอา ‘จูบ’ นี่แหละคือวิธการง้อที่ดีที่สุดของโอเซฮุน
บรรยากาศของโต๊ะอาหารที่พวกกลุ่มผู้นำกับสี่สาวนั่งอยู่นั้นเริ่มมีเสียงพูดคุยและเสียงหัวเราะดังขึ้นมาไม่หยุด ส่งผลให้นักเรียนที่นั่งอยู่ในห้องอาหารต่างพากันรีบถ่ายรูปเมนตัวเองที่ชื่นชอบเพราะเวลาแบบนี้หาได้ยากส่วนมากพวกกลุ่มผู้นำจะชอบอยู่ในห้องส่วนตัวมากกว่าที่จะออกมานั่งอยู่ในที่แบบนี้ แตกต่างจากโต๊ะของคนอีกกลุ่มหนึ่งที่นั่งมองพวกเขาด้วยความไม่พอใจ
“ฉันเกลียดยัยพวกนั้นที่ทำตัวสนิทสนมกับพวกผู้นำโดยเฉพาะนังเจสสิก้ากับนังเด็กใหม่นั้น ดูคริสจะให้ความสำคัญกับสองคนนั้นมาก”ดาซมกำหมัดแน่นพลางส่งสายตาอิจฉาและแค้นใจไปให้กับสองสาวที่เธอพูดถึง
“ที่ตรงนั้นควรจะเป็นของพวกเรามากกว่า”โซยูตบโต๊ะเสียงดังลั่นแต่กลับไม่มีใครสนใจ
ตอนนี้พวกเธอทั้งสี่คนกลายเป็นคนที่ไม่มีตัวตนในโรงเรียนนี้ไปแล้ว ทุกคนกำลังให้ความสำคัญกับผู้หญิงสี่คนที่นั่งร่วมโต๊ะกับพวกผู้นำ บางคนก็แอบอิจฉา บางคนก็แอบไม่ชอบ แต่ไม่มีใครกล้าที่จะพูดออกมาเพราะทุกคนรู้ดีว่าพวกผู้นำไม่ยอมแน่ถ้าหากมีใครมาทำร้ายผู้หญิงของพวกเขา
“ถ้าไม่มียัยพวกนั้นกลุ่มผู้นำต้องหันมาสนใจเรา”โบราพูดเสียงแหลม
“ใช่แล้วล่ะโบรา ถ้าไม่มียัยพวกนั้นเราสี่คนก็คงจะต้องเป็นคนสำคัญของกลุ่มผู้นำแน่ หึ และมันก็ถึงเวลาแล้วที่ฉันจะกำจัดยัยพวกนั้นออกไปพ้น”ดาซมยิ้มเหยียดพร้อมกับมองไปที่สองสาวคนสำคัญที่เธอจะกำจัดออกไปให้พ้นจากโรงเรียน
แทนที่เธอจะเลือกกำจัดออกไปให้หมดแต่มันจะดีกว่าถ้ากำจัดสองคนสำคัญออกจากกลุ่ม เจสสิก้ากับยุนอา คือเป้าหมายของเธอเพราะสองคนนี้สนิทกับ ‘คริส’ มากที่สุด ส่วนแทยอนกับซอฮยอนก็ปล่อยให้สองคนนี้คอยเป็นทาสรับใช้พวกเธอก็แล้วกัน
“ถึงเวลาที่ฉันจะต้องพึ่งพวกอินฟินิทแล้วสินะ หึ โรงเรียนเรายิ่งอ่อนไหวเรื่องชู้สาวซะด้วยสิ”
ปลื้มปริ่มที่มีคนรออ่านตอนนี้กันเยอะ >"<
แต่อาจจะผิดหวังกันนิดๆเพราะมันไม่ค่อยสนุก
(เก๊าขอโต๊ดน๊า T^T)
แต่พยายามอย่างมากเลยนะสำหรับตอนนี้อ่ะ ... แหะๆ
โปรดติดตามตอนต่อไปด้วยนะคะเพราะ อินฟินิทจะมาตอนหน้า
มาทำอะไร? มาเพื่ออะไร? ติดตามด้วยน๊า
ความคิดเห็น