ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SNSD&EXO] Chaotic !! - "Part 32" - 100% (ครบละจ้า เม้น์ๆ)

    ลำดับตอนที่ #25 : [KRISYOON] SF...MY SASSY GIRL !! P.3 END

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 922
      2
      5 ม.ค. 56



     

                   “รีพัลส์ เบย์ เยี่ยมที่สุด!!”เสียงตะโกนที่ดังมาจากเรือสปีดโบ๊ทท่ามกลางฝูงนกที่บินว่อนอยู่เหนือทะเล ณ รีพัลส์เบย์ หาดทรายรูปจันทร์เสี้ยวที่สวยที่สุดในฮ่องกง

     

                    ระวังหน่อยยุนอาชายหนุ่มผู้มีหน้าที่เป็นคนขับเอ่ยเตือนหญิงสาวที่ยืนรับลมจนตัวโยน

     

                    ก็คนมันดีใจนี่หน่า

     

                    หลังจากเหตุการณ์วันนั้นยุนอาก็เริ่มทำตัวดี ไม่ก่อเรื่อง ไม่อาละวาด ถึงแม้จะลืมตัวโวยวายไปบ้างจนสาวใช้บางคนถึงกับลาออกชายหนุ่มก็ไม่ได้ทำโทษหรือว่ากล่าวแต่อย่างใดตรงกันข้าม ผ่านมาสองวันเขากลับพาเธอมาเที่ยวที่ทะเลซึ่งเป็นสถานที่ที่เธอโปรดปรานมากที่สุด การที่ได้ชมวิว เล่นน้ำ กินอาหารทะเล และเดินเล่นบนหาดทรายช่างเป็นอะไรที่มีความสุขสำหรับเด็กสาวอย่างเธอ และพอมาถึงเขาก็พาเดินขึ้นเรือท่องไปตามทะเลสีฟ้าอันกว้างขวางรับลมเย็นสบายกับอากาศที่บริสุทธิ์ปราศจากชายชุดดำที่คอยเดินตามทุกฝีก้าว

     

                    สวรรค์ของเธอเลยล่ะ!!

     

                    เดี๋ยวนะ ทำไมที่นี่ไม่มีคนเลยล่ะหญิงสาวรู้สึกแปลกใจเมื่อไม่เห็นมีใครสักคน ณ ที่แห่งนี้ มีเพียงก็แต่เธอ นายคริส และบอดี้การ์ด ไม่เห็นมีนักท่องเที่ยวหรือคนอื่นๆ

     

                    บริเวณนี้คือที่ส่วนตัวของฉันเอง

     

                    จริงเหรอ? ดีเลย ฉันไม่ชอบคนเยอะ มันทำอะไรไม่สะดวกพูดจบก็กระโดดโลดเต้น

     

                    อี๋ฟานส่ายหัวให้กับอาการดีใจของเธอ ยังไงก็เป็นเด็กอยู่วันยังค่ำ ดีใจนิดดีใจหน่อยก็กระโดดโลดเต้นไปทั่ว แต่ยังไงเด็กตัวแสบก็ทำให้เขาสนใจมองจนมิอาจละสายตาไปไหนได้

     

                    ท่านอี๋ฟานครับ โทรศัพท์จากท่านหญิงซูยองบอดี้การ์ดร่างสูงยื่นโทรศัพท์ให้กับผู้เป็นนาย

     

                    ครับแม่ชายหนุ่มเดินออกมาไกลจากที่เดิมพอสมควรก่อนจะกรอกเสียงลงไปในโทรศัพท์อย่างสุภาพ

     

                    (เป็นไงบ้างจ๊ะลูก) เสียงของผู้เป็นเอ่ยถามความเป็นอยู่ของลูกชายสุดที่รัก

     

                    สบายดีครับ

     

                    (แล้วหนูยุนอาเป็นยังไงบ้าง ก่อเรื่องบ้างไหม) อี๋ฟานหัวเราะเบาๆพร้อมกับตอบไปตามความเป็นจริงเพียงนิดเดียว

     

                    ดื้อนิดหน่อยครับแม่ แต่น่ารักดีประโยคสุดท้ายเผลอพูดออกไปอย่างไม่รู้ตัว

     

                    (งั้นหรอจ๊ะ อ่อ ที่แม่โทรมาหาก็เพราะว่าพรุ่งนี้อาลู่จะมารับหนูยุนที่บ้านลูกนะ)

     

                    “ยังไม่ถึงสองอาทิตย์เลยนิครับชายหนุ่มรู้สึกใจหายเมื่อได้ยินคำพูดของผู้เป็นแม่ เท่าที่นับเด็กตัวแสบเพิ่งมาอยู่ได้แค่เจ็ดวันยังไม่ครบสิบสี่วันเลยด้วยซ้ำ

     

                    (ทางโรงเรียนของหนูยุนเรียกตัวให้ไปพบด่วนนะจ้ะ อาลู่ก็เลยแวบมาจากอเมริกาเพื่อมารับหนูยุนกลับเกาหลีนะ ทำไมหรอคริส มีอะไรหรือเปล่าลูก) ปลายสายถามด้วยความสงสัย

     

                    ไม่มีอะไรครับแม่

     

                    (งั้นแค่นี้ก่อนนะคริส ดูแลรักษาสุขภาพบ้างนะ)

     

                    แม่กับพ่อก็เช่นกันครับพูดจบผู้เป็นแม่ก็วางสายไป

     

                    อี๋ฟานทิ้งตัวลงบนเปลเชือกถักที่เขาผูกไว้สำหรับนอนพักผ่อนในยามที่มาที่แห่งนี้พลางคิดถึงเรื่องที่เธอกำลังจะกลับไปยังที่ของเธอ เขาน่าจะดีใจที่ชีวิตสงบสุขกำลังจะกลับมา ไม่มีคนก่อเรื่องให้ต้องปวดหัว ไม่มีเสียงโวยวายคอยรบกวน และไม่มีคนทำให้หัวใจต้องสั่นไหว

     

                    เขาสมควรจะดีใจไม่ใช่หรอ?

     

                    …. แต่ทำไมถึงรู้สึกไม่อยากให้เด็กตัวแสบนั้นไปจากเขา อยากเห็นหน้าเวลาโมโห อยากเห็นท่าทางเวลาไม่พอใจ อยากเห็นรอยยิ้มเวลาที่เธอมีความสุข และอยากอยู่เคียงข้างในทุกที่...ที่มีเธอ ยุนอา

     

    นายคริส มานั่งทำอะไรที่นี่เสียงเจื้อยแจ้วของเธอปลุกให้เขาตื่นจากห้วงความคิด

     

    ฉันออกมาคุยกับแม่นะมองไปยังร่างบางที่ยืนอ้าแขนรับลม

     

                    ดีใจที่เห็นเธอมีความสุขถึงแม้เวลามันจะสั้นก็ตาม ยังอยากจะอยู่เพื่อชดเชยเวลาที่ผ่านมาทดแทนในเวลาที่เขาปล่อยปละละเลยไม่สนใจเธอ

     

    คุณน้าซูยองว่าไงบ้าง ถามถึงฉันบ้างไหมวิ่งมาถามราวกับเด็กสามขวบที่อยากรู้อยากเห็น

     

    แม่ฉันบอกว่าคนที่ชื่ออาลู่จะมารับเธอพรุ่งนี้

     

    ลู่ฮานจะมารับหรอ เย้!!! ดีใจทีสุดเลยพอได้ยินชื่ออาลู่หญิงสาวก็ดีใจจนออกนอกหน้าวิ่งหน้าตั้งเข้าไปในบ้านทันที

     

                    ผู้ชายที่ชื่ออาลู่หรือลู่ฮานคงเป็นคนสำคัญของเธอสินะเด็กตัวแสบ ถึงได้ดีใจยิ้มหน้าบานขนาดนั้น ต่างจากฉันที่ทำหน้าบึ้งใส่ตลอดเวลาไม่บ่อยนักที่ผู้นำแก๊งค์มาเฟียจะรู้สึกน้อยใจ

     

                    ตั้งแต่ที่เธอเข้ามาสิ่งที่เขาไม่เคยเป็นก็เกิดขึ้น ไม่ว่าจะยิ้ม หัวเราะ ห่วงหา รู้สึกผิด น้อยใจ ความรัก มันกลับผุดขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว และสิ่งเหล่านี้มันก็คงจะเกิดกับเขาคนเดียวสินะ...

     

                    เธอเคยคิดเหมือนฉันบ้างไหม...ยุนอา

     

                    นายคริส ฉันหิวแล้วเสียงตะโกนของเด็กตัวแสบดังมาจากข้างในบ้าน

     

                    อาหารทะเลเป็นไงเขาตะโกนตอบกลับไป

     

                    เยี่ยมหญิงสาวโผล่หน้าออกมาทางหน้าต่างและชูนิ้วโป้งขึ้น

     

                    ชายหนุ่มยิ้มเล็กน้อยให้กับความขี้เล่นของเธอ ยังไงซะอย่างน้อยก็ขอให้ได้ใช้เวลาที่มีอยู่ให้คุ้มค่าก่อนที่เด็กตัวแสบจะต้องเดินทางกลับในวันพรุ่งนี้

     

                    อี๋ฟานรับหน้าที่เป็นคนขับรถให้กับคุณหนูยุนอาผู้แสนเอาแต่ใจ เธอไม่ยอมให้พวกบอดี้การ์ดตามมาด้วยสักคนเนื่องจากต้องการความเป็นส่วนตัวซึ่งมันก็ทำให้เขานั้นเผลอคิดไปไกลว่าเธอคงอยากอยู่ด้วยกันเพียงลำพัง แต่มันดันไม่ใช่อย่างที่คิด  เด็กตัวแสบแค่ไม่อยากเป็นจุดสนใจ เธออยากเดินเที่ยวเหมือนกับคนธรรมดาทั่วๆไป...เท่านั้น

     

                    จอดตรงนี้ๆ ไม่ค่อยมีคนดีนิ้วเรียวชี้ไปยังร้านอาหารทะเลที่มีคนนั่งแค่ไม่กี่คน

     

    ครับคุณหนูชายหนุ่มทำตามที่เธอสั่งพร้อมกับพูดหยอกล้อจนถูกมือเรียวเล็กฟาดไปที่ต้นแขน

     

    เดี๋ยวยุนไปรอที่เปลแรกเลยนะ ตามมาล่ะเขานึกแปลกใจที่จู่ๆเธอก็พูดจาดีขึ้นมา เป็นครั้งแรกที่เด็กตัวแสบใช้สรรพนามแทนตัวเองว่ายุนทั้งที่ปกติจะพูดแค่คำว่าฉันเท่านั้น

     

                    อาหารทะเลหลายอย่างถูกวางไว้บนโต๊ะจนไม่มีที่เหลือพอให้วางอย่างอื่นได้อีก คนที่สั่งคงจะเป็นใครไม่ได้นอกจากเด็กตัวแสบที่นั่งกินไม่ยอมพูดจาจนอี๋ฟานต้องรีบหาน้ำไว้ให้เธอดื่ม เห็นตัวผอมแห้งแต่กินจุใช่ย่อยเห็นคนอื่นสั่งอะไรเธอก็สั่งมากินด้วยหรือเห็นอะไรน่ากินเธอก็จะสั่งมา และสุดท้ายทั้งโต๊ะก็เหลือเพียงเศษซากที่กินไม่ได้รวมไปถึงจานเปล่า

     

                    อิ่มมากมือบางลูบท้องตัวเองไปมา

     

                    กินเก่งจริงๆเธอนี่เขานับถือเด็กคนนี้จริงๆ อาหารตั้งมากมายกินคนเดียวจนเกลี้ยง

     

                    หนังทองตึงหนังตาก็หย่อน ขอนอนก่อนนะ ห้ามไปไหนพูดจบก็เอนตัวลงนอนโดยไม่สนใจชายหนุ่มว่าเขาจะตกลงหรือเปล่า

     

                    มือหนาเท้าค้างตัวเองพร้อมกับจ้องไปยังร่างบางที่นอนหลับตาพริ้มไม่สนใจว่าแสงแดดจะสะท้อนส่องใบหน้าเนียน อี๋ฟานส่ายหัวเล็กน้อยก่อนจะยืนขึ้นสุดตัว เขาเดินออกมาจากที่นั่ง สายตาสอดส่องมองหาร้านค้าที่ขายพวกผ้าพันคอกับแว่นกันแดด

     

                    นั้นไงชายหนุ่มเดินไปยังร้านแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลนัก

     

                    ท่านอี๋ฟานพ่อค้าในร้านชะโงกหน้าเอ่ยเรียกชายหนุ่มที่กำลังเลือกผ้าพันคอ

     

                    เถาเขาตกใจเล็กน้อยที่เห็นลูกน้องตัวเองปลอมตัวมาซะเต็มยศ ทั้งหนวด แว่นตา เสื้อผ้าหน้าผม เป๊ะทุกอย่าง ยกเว้นขอบตาดำคล้ำที่เป็นเอกลักษณ์

     

                    ขอโทษครับท่านอี๋ฟานที่ผมตามมา แต่ผมต้องทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยอี๋ฟานเข้าใจในความหวังดีของลูกน้องจึงไม่ถือโทษโกรธแต่อย่างใด

     

                    ฉันจำเป็นต้องจ่ายเงินไหมมือหนาชูผ้าพันคอสีครามน้ำทะเลกับแว่นกันแดดสีดำสองอันขึ้นมาและคำตอบที่ได้คือการพยักหน้าจากลูกน้อง

     

                    ผมอาสามาเฝ้าให้เฉยๆครับนายท่านหนึ่งหมื่นดอลลาร์ฮ่องกงถูกยื่นไปให้ลูกน้องพร้อมกับรีบเดินหนีเพื่อไม่ให้เป็นที่สงสัย






                   เพราะแสงแดดที่สาดส่องกระทบเปลือกตาได้สร้างความรำคาญให้กับยุนอาเป็นอย่างมาก เธอจึงล้มเลิกความตั้งใจที่จะนอนแต่พอลืมตาขึ้นมากลับไม่พบชายหนุ่มที่เธอสั่งนักหนาว่าห้ามไปไหน สองแขนยกขึ้นกอดอกด้วยความไม่พอใจ คิดเพียงแต่ว่าถ้ากลับมาเมื่อไหร่คงต้องบ่นสักหน่อยแล้วบังอาจทิ้งเราไว้คนเดียว

     

                    หายไปไหนมานายคริสเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มเดินเข้ามาเธอก็รีบพ่นคำถามใส่ทันที

     

                    ก็ไม่ได้ไปไหนยุนอามองคนตรงหน้าที่ถืออะไรบางอย่างไว้ด้านหลัง นี่คงหนีเราไปจีบสาวแล้วเขาให้ของขวัญกลับมาสินะ ผู้ชายบ้า บ้า บ้า บ้า!!

     

                    ร่างบางเดินจ้ำอ้าวไปยังหาดทรายเพราะไม่อยากเจอหน้าผู้ชายนิสัยไม่ดี ไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงต้องโกรธเอาเป็นเอาตายขนาดนี้ มันเป็นสิทธิ์ของเขาที่จะไปจีบใครก็ได้ไม่เห็นจะเกี่ยวกับเราสักหน่อย แต่ทำไมถึงรู้สึกไม่พอใจมากมายเช่นนี้ ยุนอาบ่นในใจพร้อมกับกระทืบเท้าลงบนทรายให้หายโมโห

     

                    “ออกมาตากแดดอย่างนี้เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอกผ้าพันคอพื้นบางถูกคลุมไปที่ศีรษะของยุนอาตามมาด้วยแว่นกันแดดที่ใส่เข้าไปบนใบหน้าของเธอ

     

                    อะไรถามออกมาด้วยความสงสัย เขาเอาของพวกนี้มาจากไหน หรือว่า...

     

                    ก็เห็นว่าแดดมันส่องตอนที่เธอนอนหลับอยู่ฉันก็เลยเดินไปซื้อมาให้ ชอบไหม?”ยุนอาพยักหน้าเล็กน้อย

     

                    ขอบคุณค่ะครั้งที่สองของวันที่เธอพูดจาไพเราะ

     

                    ไม่เป็นไรได้แค่นี้เขาก็พอใจแล้ว

     

                    ไปเดินเล่นกันเถอะอี๋ฟานมองไปยังมือเล็กที่จับมือของเขาไว้แน่นอยากอยู่อย่างนี้นานๆ

     

                    ทั้งสองเดินจับมือเคียงข้างกันริมทะเลท่ามกลางฝูงนกพิราบที่บินร่อนลงมานับร้อยตัว ยุนอาลากอี๋ฟานให้วิ่งตามเข้าไปกลางฝูงนกทำให้พวกมันแตกตื่นพากันบินขึ้นไปบนท้องฟ้า แต่มันช่างดูสวยงามเมื่อหนุ่มสาวยื่นอยู่กลางฝูงนกพิราบที่ร่อนขึ้นไปบนฟ้า มันจะโรแมนติกมาถ้าเกิดทั้งคู่นั้นเป็นคู่รักกัน

     

                    อี๋ฟานรับรู้ถึงความสุขที่ได้อยู่กับเธอทั้งวันในวันนี้รวมไปถึงภาพความทรงจำที่เขาแอบถ่ายรูปตอนที่ร่างบางกำลังเล่นน้ำทะเลอย่างมีความสุข แต่ที่ลืมไม่ได้คือรูปถ่ายโพลารอยด์ที่เขากับยุนอาทำท่าซารางเฮโยเหมือนอย่างที่คู่รักเขาทำกัน เธออาจจะไม่ได้คิดอะไรแต่สำหรับเขานั้นคิดไปไกลจนถอยกลับไม่ได้อีกแล้ว

     

                    ถึงบ้านซะที อยากอาบน้ำแล้วซิทันทีที่ลงมาจากรถยุนอาก็บิดขี้เกียจยืดเส้นยืดสายหลังจากที่นั่งรถเกือบสองชั่วโมงเพื่อกลับมายังบ้านของอี๋ฟาน

     

                    งั้นก็รีบไปอาบและเข้านอนได้แล้ว พรุ่งนี้ต้องเดินทางแต่เช้าไม่ใช่เหรอ

     

                    “รับทราบครับ ท่านคริสร่างบางทำท่าเหมือนพวกทหารรับคำสั่งจากผู้บัญชาการพร้อมกับวิ่งเข้าบ้านไปแต่มิวายแกล้งเถาด้วยการใช้เท้าขัดไปที่ขาของเขาจนเกือบล้ม

     

                    อีกแล้วนะครับคุณหนูยุน ถ้าผมล้มหน้าเสียโฉมทำยังไงกับครับ

     

                    ก็ให้นายคริสพาไปศัลยกรรมที่เกาหลีสิแล้วก็แวะมาหาฉันด้วยนะ คิคิหันหลังกลับมาหัวเราะคิกคัก

     

                    ชายหนุ่มมองเด็กตัวแสบขี้แกล้งก็นึกขำในใจ ถ้าเกิดได้มาเป็นแฟนจริงๆเขาคงต้องยอมสละตำแหน่งหัวหน้าแก๊งค์ให้เธอขึ้นเป็นแทนส่วนตัวเขาเองก็คงต้องยอมเป็นลูกน้องคอยรับใช้เธอ แค่นี้เด็กตัวแสบก็สั่งนู้นสั่งนี่ไม่หยุดแถมยังโวยวายในยามที่ไม่ได้ดั่งใจจนลูกน้องบางคนที่สนิทจริงๆกล้าหัวเราะเขาอย่างเช่น เถา ที่หลุดหัวเราะบ่อยครั้งเวลาที่เขายอมยุนอาเสมอ

     

                    นายคริสเสียงหวายเอ่ยเรียกขึ้นเมื่อเขาล้มตัวลงนอนข้างเธอ

     

                    อะไรหันหน้าไปถามเด็กตัวแสบที่ไม่ยอมนอนเสียที

     

                    นายจะไปหาฉันไหมที่เกาหลีใบหน้าหวานดูเศร้าลงเล็กน้อย

     

                    ยุนอาหวังว่าอย่างน้อยเขาคงจะไปเยี่ยมเธอสักครั้งหลังจากที่เธอกลับไปที่เกาหลีทั้งที่รู้ว่าคงเขาคงไม่สนใจเด็กเอาแต่ใจอย่างเธอ

     

                    ไม่รู้สิ ถ้าเธอเป็นเด็กดีฉันอาจจะไปรอยยิ้มบางๆปรากฏอยู่บนใบหน้าหวาน อาจจะไปก็หมายถึงเขาต้องไปหาเธอแน่นอน แค่คิดก็ดีใจแล้ว!!

     

                    “จริงนะถามเพื่อความแน่ใจ

     

                    คนอย่างฉันเคยโกหกเธอด้วยหรออี๋ฟานถามกลับ ร่างบางทำหน้ามุ่ยพร้อมกับพยักหน้ามำให้เขาอดที่ยิ้มออกมาไม่ได้

     

                    นายไม่ได้โกหก แต่หลอกเลยตะหาก พาไปงานนั้นที งานนี่ที น่าเบื่อมากก!! รวมไปถึงหน้านายด้วย ไม่รู้จะเก๊กไปไหน คิคิยุนอาบ่นไปเรื่อยเปื่อยตั้งแต่วันแรกที่เธอมาจนถึงวันนี้เธอก็ยังบ่นให้กับนิสัยของอี๋ฟานที่ยังหน้านิ่งเป็นรูปปั้นตั้งแต่เจอครั้งแรกจนเดี๋ยวนี้ก็ยังคงทำอยู่

     

                    และไม่นานเธอก็หลับไปโดยรู้ตัวทิ้งไว้เพียงชายหนุ่มที่ยังคงนอนมองเธอทุกวัน อี๋ฟานลุกขึ้นมาจากเตียงให้เบาที่สุดก่อนจะเดินไปหยิบกล่องอัญมณีที่ถูกยุนอาประมูลเขาจับมันใส่เข้าไปในกระเป๋าสะพายใบเล็กที่เธอชอบพายเป็นประจำ

     

                    เธอเคยบอกฉันใช่ไหมว่าให้เอาไอ้นี้เก็บไว้ให้กับคนที่รัก และตอนนี้มันก็อยู่กับเธอแล้วยัยเด็กตัวแสบ
     




     

    โธ่เอ้ยลู่ฮานนานมาชะมัด

     

                    อี๋ฟานมองคนที่ตัวเล็กที่เอาแต่เดินไปเดินมา เสียงบ่นของเธอก็ดังอยู่เป็นระยะเมื่อชายหนุ่มที่ชื่อลู่ฮานยังไม่มาเสียที จนวันสุดท้ายเธอก็ยังสร้างเรื่องปวดหัวให้เขาอีกตามเคยทั้งที่รู้ว่าตัวเองจะกลับวันนี้แท้ๆกลับลืมจัดกระเป๋าพร้อมกับโวยวายว่าเขาไม่ยอมเตือนเธอ นึกว่าจะเปลี่ยนนิสัยแล้วซะอีก แต่ดีได้ไม่ถึงสองวันก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม

     

                    ท่านอี๋ฟานครับ มีโทรศัพท์จากคนที่ชื่อลู่ฮานครับยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะคว้าเอาโทรศัพท์นั้นมาคุย ยุนอาก็ไวกว่าคว้ามันมาพร้อมกับตะโกนใส่คนปลายสายด้วยท่าทีหงุดหงิด

     

                    ลู่ฮาน อยู่ที่ไหน ทำไมไม่มาซักที

     

                    (พี่เพิ่งลงเครื่องเมื่อกี๊เอง ไฟท์ที่พี่มามันดีเลย์ ว่าแต่พี่จะคุยกับคุณอี๋ฟานไม่ใช่เธอยัยเหม่ง) ร่างบางหน้ามุ่ยก่อนจะส่งโทรศัพท์ไปให้กับอีกคนที่พี่ชายเธอต้องการพูดด้วย

     

                    นายคริส พี่ชายฉันจะคุยกับนายพอได้ยินคำว่าพี่ชายจากปากของยุนอาชายหนุ่มก็เผลอยิ้มออกมาในทันทีทำเอาร่างบางคิ้วขมวดด้วยความสงสัยแต่เขาก็รับหุบยิ้มและกลับมาทำหน้านิ่งเหมือนเดิม

     

                    ...ที่แท้ก็พี่ชาย

     

                    อี๋ฟานพูดครับ

     

                    (ผมลู่ฮานพี่ชายของยุนอาครับ คือผมอยากให้คุณอี๋ฟานช่วยมาส่งยัยตัวแสบเอ้ยยุนอาที่สนามบินน่ะครับ ถ้าผมไปรับเกรงว่าจะไม่ทันเครื่องออก ต้องขอรบกวนอีกครั้งนะครับ)

     

                    ได้ครับชายหนุ่มตอบรับที่จะไปส่งเด็กตัวแสบอย่างง่ายดาย

     

                    ดีซะอีกที่เขาจะได้อยู่กับเธออีกสักหน่อยก่อนที่จะจากกันเพราะไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้เจอกันอีก ด้านเขางานก็ยุ่งมากจนไม่มีเวลาปลีกตัวไปไหนส่วนยุนอาเองก็ไม่รู้ว่าอยากจะมาที่นี่อีกหรือเปล่า

     

                    เถาเตรียมเอารถออก ฉันจะไปส่งยุนอาเขาหันไปสั่งลูกน้องพร้อมกับลุกขึ้นยืนเพื่อเตรียมตัวไปส่งหญิงสาวที่สนามบิน

     

                    อ้าว แล้วลู่ฮานไม่มารับฉันแล้วหรอ

     

                    พี่ชายเธอรออยู่ที่สนามบินมือหนาเอื้อมไปหยิบกระเป๋าเดินทางใบใหญ่มาถือเอาไว้

     

                    อันที่จริงอี๋ฟานไม่จำเป็นต้องยกกระเป๋าใบใหญ่นี่เองก็ได้แต่โอกาสสุดท้ายแล้วที่เขาจะได้ทำดีต่อเธอ ยังไงซะก็ขอให้ได้ทำอะไรให้กับคนที่รักเท่านั้นก็พอ

     

                    ระหว่างทางที่นั่งรถไปสนามบินทั้งอี๋ฟานกับยุนอาต่างไม่ยอมพูดจากันเลย พี่เพียงเสียงเกมส์จากไอแพตที่ร่างบางเล่นฆ่าเวลาจนกว่าจะถึงสนามบิน ส่วนชายหนุ่มก็เอาแต่มองสองข้างทางที่ไม่มีอะไรน่าสนใจแต่เขาก็ยังมองเพราะไม่รู้จะชวนคนข้างกายคุยอะไร เขาเองก็คุยไม่เก่งอีกทั้งเด็กตัวแสบก็เอาแต่เล่นเกมส์ไม่ยอมพูดจา

     

                    นั้นลู่ฮานนิทันทีที่ก้าวเข้ามาในสนามบินยุนอาก็ร้องขึ้นมาเมื่อเห็นว่าพี่ชายตนเองนั้นยืนรออยู่แล้ว

     

                    พี่ชายกับน้องสาวหน้าตาเหมือนกันเลยนะครับท่านอี๋ฟานเถาพูดขึ้นมาเมื่อเห็นว่ายุนอากับพี่ชายนั้นหน้าตาเหมือนกัน ใบหน้าหวาน รอยยิ้มดูสดใส แต่ไม่รู้ว่านิสัยจะเหมือนกันหรือเปล่า

     

                    อี๋ฟานไม่พูดอะไรพร้อมกับเดินตรงไปหาสองพี่น้องที่กำลังหยอกล้อกันอยู่ เมื่อเห็นว่าลู่ฮานนั้นยิ้มให้อย่างเป็นมิตรเขาเองก็นิ่งเฉยไม่ได้ยิ้มตอบกลับเช่นกัน มือหนายกขึ้นมาทักทายในแบบสไตล์ยุโรป

     

                    ผมลู่ฮาน ยินที่ได้รู้จักครับหนุ่มหน้าหวานก็จับมือทักทายเช่นกัน

     

                    ผมอี๋ฟานหรือคริสครับเขาแนะนำตัวเองรวมไปถึงบอกชื่อเล่นที่น้อยคนจะได้เรียก แต่ก็อย่างว่าและผู้ชายคนนี้คือว่าที่พี่ชายของเขาในอนาคต

     

                    ผมต้องขอบคุณคุณคริสมากนะครับที่ดูแลยุนอาตลอดเวลาที่เธอมาอยู่ฮ่องกงลู่ฮานโค้งให้กับคนตรงหน้าซึ่งมันเป็นมารยาทของคนเกาหลีที่ต้องกระทำ

     

                    ไปขอบคุณทำไมกันลู่ฮาน นายคริสนะไม่พายุนไปเที่ยวเลยเอาแต่แกล้งตลอด โอ๊ยยยุนอาร้องโอดครวญเมื่อพี่ชายสุดหล่อเขกหัวเธอกลางสนามบิน

     

                    ทำไมไม่เรียกคุณคริสว่าพี่ ห๊ะยัยเหม่ง เอ่อต้องขอโทษแทนยุนอาด้วยนะครับ สงสัยเธอคงติดเรียกผมก็เลยไม่ยอมเรียกคุณว่าพี่หนุ่มหน้าหวานหันไปเอ็ดน้องก่อนจะขอโทษขอโพยชายหนุ่มร่างสูง

     

    อี๋ฟานหัวเราะเบาๆเมื่อเห็นยุนอาแลบลิ้นอยู่ข้างหลังพี่ชายตัวเอง เขายืนคุยอยู่กับลู่ฮานอยู่ครู่หนึ่งเสียงบอกผู้โดยสารที่ใช้บริการไฟท์บินฮ่องกง-เกาหลี ให้ไปเตรียมตัวขึ้นเครื่องก็ดังขึ้น ถึงเวลาแล้วที่จะต้องจากกับเธอจริงๆทั้งที่ยังไม่ได้บอกความรู้สึกที่มีให้เธอได้ฟัง ใจมันไม่กล้าบอกเพราะกลัวว่าเธอนั้นจะไม่คิดเหมือนกับที่เขาคิด

     

    พวกเราต้องไปแล้วนะครับคุณคริส ขอบคุณมากเลยนะครับลู่ฮานโค้งตัวให้อี๋ฟานอีกครั้ง

     

    ฉันต้องไปแล้วนะนายคริส อย่าลืมมาเยี่ยมกันบ้างล่ะยุนอาเมินหน้าไปทางอื่นขณะที่พูด

     

    ไม่ลืมหรอกและฉันก็จะไม่ลืมเธอด้วยคำพูดของเขาที่ออกมาจากใจทำให้คนฟังนั้นถึงยิ้มไม่หุบ

     

    อยากจะเขาไปกอดเพื่อบอกลาแต่ไม่กล้า ... อยากจะตะโกนบอกรักก็ทำไม่ได้

     

    มีเพียงสายตาที่สื่อความหมายออกไป ... แต่เธอคงไม่รู้ !!

     

    ไปกันเถอะยัยเหม่ง ลาก่อนครับเสียงสุดท้ายจากชายหนุ่มหน้าหวานก่อนที่เขาจะเดินจับมือกับร่างบางไปยังทางเข้าเพื่อขึ้นเครื่อง

     

    ชายหนุ่มได้แต่มองตามหลังเธอไปไม่วางตา ไม่มีคำบอกลาใดๆออกมาจาปากของเธอแม้แต่คำเดียว มีเพียงรอยยิ้มสุดท้ายที่เธอมอบให้มาก่อนจะจากกัน ต่อไปเขาคงจะต้องอยู่คนเดียวเหมือนอย่างเคยแต่มันอาจจะเหงาเพราะไม่มีเธอคนนั้นอีกแล้ว

     

    ไปกันเถอะเมื่อเห็นว่ายุนอานั้นเดินหายไปแล้วเขาก็หันไปสั่งลูกน้องให้เตรียมตัวกลับบ้านทันที แต่ยังไม่ทันที่จะได้ก้าวเดินน้ำเสียงที่แสนคุ้นเคยก็ดังขึ้นมาทำให้ชายหนุ่มนั้นรีบหันกลับไปยังต้นเสียง

     

    เดี๋ยวก่อนนายคริสยุนอาวิ่งออกมาจากทางเข้าพร้อมกับรีบวิ่งมาหาชายหนุ่มทันที

     

    เธอ...

     

    ลาก่อนค่ะพี่คริส จุ๊บ!!” เธอเขย่งปลายเท้าพร้อมกับจุ๊บไปที่ปากของชายหนุ่มเร็วๆหนึ่งทีก่อนจะวิ่งกลับไปที่เดิมด้วยความเขินอาย

     

    อี๋ฟานได้แต่ยืนอึ้งทำอะไรไม่ถูกเมื่อโดนจู่โจมแบบไม่ทันตั้งตัว มือหนายกขึ้นมาจับริมฝีปากตัวเองก่อนที่จะยิ้มออกมาเหมือนคนบ้า เขารู้แล้วว่าจะทำยังไงกับชีวิตและหัวใจของตัวเอง ในเมื่อเด็กตัวแสบกล้ามาทำให้หัวใจของมาเฟียผู้ยิ่งใหญ่ต้องสั่นไหว เขาก็คงจะปล่อยเธอไว้ไม่ได้เหมือนกัน

     

    เตรียมตั๋วเครื่องบินไปเกาหลีให้ฉันเดี๋ยวนี้สิ้นเสียงเขาก็เดินไปยังทางเข้าเพื่อขึ้นเครื่องลำเดียวกันกับยุนอาทันที

     

    ฉันคงต้องปราบเด็กตัวแสบด้วยวิธีของผู้ใหญ่แล้วสินะ


     





    ที่หายหน้าไปเพราะแอบแต่งเรื่องนี้ ... คิคิ
    เห็นรูปเหม่งแล้วเรื่องนี้มันแว๊บเข้ามาในหัว *---*+
    ไม่สนุกยังไงก็ติชมกันได้ >"<
    ปล. เม้นท์มาเยอะๆ


    Sweet Kind Spinning Floating Heart Pointer
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×