คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #25 : [KRISYOON] SF...MY SASSY GIRL !! P.3 END
“รีพัลส์ เบย์ เยี่ยมที่สุด!!”เสียงตะโกนที่ดังมาจากเรือสปีดโบ๊ทท่ามกลางฝูงนกที่บินว่อนอยู่เหนือทะเล ณ รีพัลส์เบย์ หาดทรายรูปจันทร์เสี้ยวที่สวยที่สุดในฮ่องกง
“ระวังหน่อยยุนอา”ชายหนุ่มผู้มีหน้าที่เป็นคนขับเอ่ยเตือนหญิงสาวที่ยืนรับลมจนตัวโยน
“ก็คนมันดีใจนี่หน่า”
หลังจากเหตุการณ์วันนั้นยุนอาก็เริ่มทำตัวดี ไม่ก่อเรื่อง ไม่อาละวาด ถึงแม้จะลืมตัวโวยวายไปบ้างจนสาวใช้บางคนถึงกับลาออกชายหนุ่มก็ไม่ได้ทำโทษหรือว่ากล่าวแต่อย่างใดตรงกันข้าม ผ่านมาสองวันเขากลับพาเธอมาเที่ยวที่ทะเลซึ่งเป็นสถานที่ที่เธอโปรดปรานมากที่สุด การที่ได้ชมวิว เล่นน้ำ กินอาหารทะเล และเดินเล่นบนหาดทรายช่างเป็นอะไรที่มีความสุขสำหรับเด็กสาวอย่างเธอ และพอมาถึงเขาก็พาเดินขึ้นเรือท่องไปตามทะเลสีฟ้าอันกว้างขวางรับลมเย็นสบายกับอากาศที่บริสุทธิ์ปราศจากชายชุดดำที่คอยเดินตามทุกฝีก้าว
สวรรค์ของเธอเลยล่ะ!!
“เดี๋ยวนะ ทำไมที่นี่ไม่มีคนเลยล่ะ”หญิงสาวรู้สึกแปลกใจเมื่อไม่เห็นมีใครสักคน ณ ที่แห่งนี้ มีเพียงก็แต่เธอ นายคริส และบอดี้การ์ด ไม่เห็นมีนักท่องเที่ยวหรือคนอื่นๆ
“บริเวณนี้คือที่ส่วนตัวของฉันเอง”
“จริงเหรอ? ดีเลย ฉันไม่ชอบคนเยอะ มันทำอะไรไม่สะดวก”พูดจบก็กระโดดโลดเต้น
อี๋ฟานส่ายหัวให้กับอาการดีใจของเธอ ยังไงก็เป็นเด็กอยู่วันยังค่ำ ดีใจนิดดีใจหน่อยก็กระโดดโลดเต้นไปทั่ว แต่ยังไงเด็กตัวแสบก็ทำให้เขาสนใจมองจนมิอาจละสายตาไปไหนได้
“ท่านอี๋ฟานครับ โทรศัพท์จากท่านหญิงซูยอง”บอดี้การ์ดร่างสูงยื่นโทรศัพท์ให้กับผู้เป็นนาย
“ครับแม่”ชายหนุ่มเดินออกมาไกลจากที่เดิมพอสมควรก่อนจะกรอกเสียงลงไปในโทรศัพท์อย่างสุภาพ
(เป็นไงบ้างจ๊ะลูก) เสียงของผู้เป็นเอ่ยถามความเป็นอยู่ของลูกชายสุดที่รัก
“สบายดีครับ”
(แล้วหนูยุนอาเป็นยังไงบ้าง ก่อเรื่องบ้างไหม) อี๋ฟานหัวเราะเบาๆพร้อมกับตอบไปตามความเป็นจริงเพียงนิดเดียว
“ดื้อนิดหน่อยครับแม่ แต่น่ารักดี” ประโยคสุดท้ายเผลอพูดออกไปอย่างไม่รู้ตัว
(งั้นหรอจ๊ะ อ่อ ที่แม่โทรมาหาก็เพราะว่าพรุ่งนี้อาลู่จะมารับหนูยุนที่บ้านลูกนะ)
“ยังไม่ถึงสองอาทิตย์เลยนิครับ”ชายหนุ่มรู้สึกใจหายเมื่อได้ยินคำพูดของผู้เป็นแม่ เท่าที่นับเด็กตัวแสบเพิ่งมาอยู่ได้แค่เจ็ดวันยังไม่ครบสิบสี่วันเลยด้วยซ้ำ
(ทางโรงเรียนของหนูยุนเรียกตัวให้ไปพบด่วนนะจ้ะ อาลู่ก็เลยแวบมาจากอเมริกาเพื่อมารับหนูยุนกลับเกาหลีนะ ทำไมหรอคริส มีอะไรหรือเปล่าลูก) ปลายสายถามด้วยความสงสัย
“ไม่มีอะไรครับแม่”
(งั้นแค่นี้ก่อนนะคริส ดูแลรักษาสุขภาพบ้างนะ)
“แม่กับพ่อก็เช่นกันครับ”พูดจบผู้เป็นแม่ก็วางสายไป
อี๋ฟานทิ้งตัวลงบนเปลเชือกถักที่เขาผูกไว้สำหรับนอนพักผ่อนในยามที่มาที่แห่งนี้พลางคิดถึงเรื่องที่เธอกำลังจะกลับไปยังที่ของเธอ เขาน่าจะดีใจที่ชีวิตสงบสุขกำลังจะกลับมา ไม่มีคนก่อเรื่องให้ต้องปวดหัว ไม่มีเสียงโวยวายคอยรบกวน และไม่มีคนทำให้หัวใจต้องสั่นไหว
เขาสมควรจะดีใจไม่ใช่หรอ?
…. แต่ทำไมถึงรู้สึกไม่อยากให้เด็กตัวแสบนั้นไปจากเขา อยากเห็นหน้าเวลาโมโห อยากเห็นท่าทางเวลาไม่พอใจ อยากเห็นรอยยิ้มเวลาที่เธอมีความสุข และอยากอยู่เคียงข้างในทุกที่...’ที่มีเธอ ยุนอา’
“นายคริส มานั่งทำอะไรที่นี่”เสียงเจื้อยแจ้วของเธอปลุกให้เขาตื่นจากห้วงความคิด
“ฉันออกมาคุยกับแม่นะ”มองไปยังร่างบางที่ยืนอ้าแขนรับลม
ดีใจที่เห็นเธอมีความสุขถึงแม้เวลามันจะสั้นก็ตาม ยังอยากจะอยู่เพื่อชดเชยเวลาที่ผ่านมาทดแทนในเวลาที่เขาปล่อยปละละเลยไม่สนใจเธอ
“คุณน้าซูยองว่าไงบ้าง ถามถึงฉันบ้างไหม”วิ่งมาถามราวกับเด็กสามขวบที่อยากรู้อยากเห็น
“แม่ฉันบอกว่าคนที่ชื่ออาลู่จะมารับเธอพรุ่งนี้”
“ลู่ฮานจะมารับหรอ เย้!!! ดีใจทีสุดเลย”พอได้ยินชื่ออาลู่หญิงสาวก็ดีใจจนออกนอกหน้าวิ่งหน้าตั้งเข้าไปในบ้านทันที
“ผู้ชายที่ชื่ออาลู่หรือลู่ฮานคงเป็นคนสำคัญของเธอสินะเด็กตัวแสบ ถึงได้ดีใจยิ้มหน้าบานขนาดนั้น ต่างจากฉันที่ทำหน้าบึ้งใส่ตลอดเวลา”ไม่บ่อยนักที่ผู้นำแก๊งค์มาเฟียจะรู้สึกน้อยใจ
ตั้งแต่ที่เธอเข้ามาสิ่งที่เขาไม่เคยเป็นก็เกิดขึ้น ไม่ว่าจะยิ้ม หัวเราะ ห่วงหา รู้สึกผิด น้อยใจ ความรัก มันกลับผุดขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว และสิ่งเหล่านี้มันก็คงจะเกิดกับเขาคนเดียวสินะ...
เธอเคยคิดเหมือนฉันบ้างไหม...ยุนอา
“นายคริส ฉันหิวแล้ว”เสียงตะโกนของเด็กตัวแสบดังมาจากข้างในบ้าน
“อาหารทะเลเป็นไง”เขาตะโกนตอบกลับไป
“เยี่ยม”หญิงสาวโผล่หน้าออกมาทางหน้าต่างและชูนิ้วโป้งขึ้น
ชายหนุ่มยิ้มเล็กน้อยให้กับความขี้เล่นของเธอ ยังไงซะอย่างน้อยก็ขอให้ได้ใช้เวลาที่มีอยู่ให้คุ้มค่าก่อนที่เด็กตัวแสบจะต้องเดินทางกลับในวันพรุ่งนี้
อี๋ฟานรับหน้าที่เป็นคนขับรถให้กับคุณหนูยุนอาผู้แสนเอาแต่ใจ เธอไม่ยอมให้พวกบอดี้การ์ดตามมาด้วยสักคนเนื่องจากต้องการความเป็นส่วนตัวซึ่งมันก็ทำให้เขานั้นเผลอคิดไปไกลว่าเธอคงอยากอยู่ด้วยกันเพียงลำพัง แต่มันดันไม่ใช่อย่างที่คิด เด็กตัวแสบแค่ไม่อยากเป็นจุดสนใจ เธออยากเดินเที่ยวเหมือนกับคนธรรมดาทั่วๆไป...เท่านั้น
“จอดตรงนี้ๆ ไม่ค่อยมีคนดี”นิ้วเรียวชี้ไปยังร้านอาหารทะเลที่มีคนนั่งแค่ไม่กี่คน
“ครับคุณหนู”ชายหนุ่มทำตามที่เธอสั่งพร้อมกับพูดหยอกล้อจนถูกมือเรียวเล็กฟาดไปที่ต้นแขน
“เดี๋ยวยุนไปรอที่เปลแรกเลยนะ ตามมาล่ะ”เขานึกแปลกใจที่จู่ๆเธอก็พูดจาดีขึ้นมา เป็นครั้งแรกที่เด็กตัวแสบใช้สรรพนามแทนตัวเองว่ายุนทั้งที่ปกติจะพูดแค่คำว่าฉันเท่านั้น
อาหารทะเลหลายอย่างถูกวางไว้บนโต๊ะจนไม่มีที่เหลือพอให้วางอย่างอื่นได้อีก คนที่สั่งคงจะเป็นใครไม่ได้นอกจากเด็กตัวแสบที่นั่งกินไม่ยอมพูดจาจนอี๋ฟานต้องรีบหาน้ำไว้ให้เธอดื่ม เห็นตัวผอมแห้งแต่กินจุใช่ย่อยเห็นคนอื่นสั่งอะไรเธอก็สั่งมากินด้วยหรือเห็นอะไรน่ากินเธอก็จะสั่งมา และสุดท้ายทั้งโต๊ะก็เหลือเพียงเศษซากที่กินไม่ได้รวมไปถึงจานเปล่า
“อิ่มมาก”มือบางลูบท้องตัวเองไปมา
“กินเก่งจริงๆเธอนี่”เขานับถือเด็กคนนี้จริงๆ อาหารตั้งมากมายกินคนเดียวจนเกลี้ยง
“หนังทองตึงหนังตาก็หย่อน ขอนอนก่อนนะ ห้ามไปไหน”พูดจบก็เอนตัวลงนอนโดยไม่สนใจชายหนุ่มว่าเขาจะตกลงหรือเปล่า
มือหนาเท้าค้างตัวเองพร้อมกับจ้องไปยังร่างบางที่นอนหลับตาพริ้มไม่สนใจว่าแสงแดดจะสะท้อนส่องใบหน้าเนียน อี๋ฟานส่ายหัวเล็กน้อยก่อนจะยืนขึ้นสุดตัว เขาเดินออกมาจากที่นั่ง สายตาสอดส่องมองหาร้านค้าที่ขายพวกผ้าพันคอกับแว่นกันแดด
“นั้นไง”ชายหนุ่มเดินไปยังร้านแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลนัก
“ท่านอี๋ฟาน”พ่อค้าในร้านชะโงกหน้าเอ่ยเรียกชายหนุ่มที่กำลังเลือกผ้าพันคอ
“เถา”เขาตกใจเล็กน้อยที่เห็นลูกน้องตัวเองปลอมตัวมาซะเต็มยศ ทั้งหนวด แว่นตา เสื้อผ้าหน้าผม เป๊ะทุกอย่าง ยกเว้นขอบตาดำคล้ำที่เป็นเอกลักษณ์
“ขอโทษครับท่านอี๋ฟานที่ผมตามมา แต่ผมต้องทำหน้าที่รักษาความปลอดภัย”อี๋ฟานเข้าใจในความหวังดีของลูกน้องจึงไม่ถือโทษโกรธแต่อย่างใด
“ฉันจำเป็นต้องจ่ายเงินไหม”มือหนาชูผ้าพันคอสีครามน้ำทะเลกับแว่นกันแดดสีดำสองอันขึ้นมาและคำตอบที่ได้คือการพยักหน้าจากลูกน้อง
“ผมอาสามาเฝ้าให้เฉยๆครับนายท่าน”หนึ่งหมื่นดอลลาร์ฮ่องกงถูกยื่นไปให้ลูกน้องพร้อมกับรีบเดินหนีเพื่อไม่ให้เป็นที่สงสัย
เพราะแสงแดดที่สาดส่องกระทบเปลือกตาได้สร้างความรำคาญให้กับยุนอาเป็นอย่างมาก เธอจึงล้มเลิกความตั้งใจที่จะนอนแต่พอลืมตาขึ้นมากลับไม่พบชายหนุ่มที่เธอสั่งนักหนาว่าห้ามไปไหน สองแขนยกขึ้นกอดอกด้วยความไม่พอใจ คิดเพียงแต่ว่าถ้ากลับมาเมื่อไหร่คงต้องบ่นสักหน่อยแล้วบังอาจทิ้งเราไว้คนเดียว
“หายไปไหนมานายคริส”เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มเดินเข้ามาเธอก็รีบพ่นคำถามใส่ทันที
“ก็ไม่ได้ไปไหน”ยุนอามองคนตรงหน้าที่ถืออะไรบางอย่างไว้ด้านหลัง นี่คงหนีเราไปจีบสาวแล้วเขาให้ของขวัญกลับมาสินะ ผู้ชายบ้า บ้า บ้า บ้า!!
ร่างบางเดินจ้ำอ้าวไปยังหาดทรายเพราะไม่อยากเจอหน้าผู้ชายนิสัยไม่ดี ไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงต้องโกรธเอาเป็นเอาตายขนาดนี้ มันเป็นสิทธิ์ของเขาที่จะไปจีบใครก็ได้ไม่เห็นจะเกี่ยวกับเราสักหน่อย แต่ทำไมถึงรู้สึกไม่พอใจมากมายเช่นนี้ ยุนอาบ่นในใจพร้อมกับกระทืบเท้าลงบนทรายให้หายโมโห
“ออกมาตากแดดอย่างนี้เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก”ผ้าพันคอพื้นบางถูกคลุมไปที่ศีรษะของยุนอาตามมาด้วยแว่นกันแดดที่ใส่เข้าไปบนใบหน้าของเธอ
“อะไร”ถามออกมาด้วยความสงสัย เขาเอาของพวกนี้มาจากไหน หรือว่า...
“ก็เห็นว่าแดดมันส่องตอนที่เธอนอนหลับอยู่ฉันก็เลยเดินไปซื้อมาให้ ชอบไหม?”ยุนอาพยักหน้าเล็กน้อย
“ขอบคุณค่ะ”ครั้งที่สองของวันที่เธอพูดจาไพเราะ
“ไม่เป็นไร”ได้แค่นี้เขาก็พอใจแล้ว
“ไปเดินเล่นกันเถอะ”อี๋ฟานมองไปยังมือเล็กที่จับมือของเขาไว้แน่น’อยากอยู่อย่างนี้นานๆ’
ทั้งสองเดินจับมือเคียงข้างกันริมทะเลท่ามกลางฝูงนกพิราบที่บินร่อนลงมานับร้อยตัว ยุนอาลากอี๋ฟานให้วิ่งตามเข้าไปกลางฝูงนกทำให้พวกมันแตกตื่นพากันบินขึ้นไปบนท้องฟ้า แต่มันช่างดูสวยงามเมื่อหนุ่มสาวยื่นอยู่กลางฝูงนกพิราบที่ร่อนขึ้นไปบนฟ้า มันจะโรแมนติกมาถ้าเกิดทั้งคู่นั้นเป็นคู่รักกัน
อี๋ฟานรับรู้ถึงความสุขที่ได้อยู่กับเธอทั้งวันในวันนี้รวมไปถึงภาพความทรงจำที่เขาแอบถ่ายรูปตอนที่ร่างบางกำลังเล่นน้ำทะเลอย่างมีความสุข แต่ที่ลืมไม่ได้คือรูปถ่ายโพลารอยด์ที่เขากับยุนอาทำท่าซารางเฮโยเหมือนอย่างที่คู่รักเขาทำกัน เธออาจจะไม่ได้คิดอะไรแต่สำหรับเขานั้นคิดไปไกลจนถอยกลับไม่ได้อีกแล้ว
“ถึงบ้านซะที อยากอาบน้ำแล้วซิ”ทันทีที่ลงมาจากรถยุนอาก็บิดขี้เกียจยืดเส้นยืดสายหลังจากที่นั่งรถเกือบสองชั่วโมงเพื่อกลับมายังบ้านของอี๋ฟาน
“งั้นก็รีบไปอาบและเข้านอนได้แล้ว พรุ่งนี้ต้องเดินทางแต่เช้าไม่ใช่เหรอ”
“รับทราบครับ ท่านคริส”ร่างบางทำท่าเหมือนพวกทหารรับคำสั่งจากผู้บัญชาการพร้อมกับวิ่งเข้าบ้านไปแต่มิวายแกล้งเถาด้วยการใช้เท้าขัดไปที่ขาของเขาจนเกือบล้ม
“อีกแล้วนะครับคุณหนูยุน ถ้าผมล้มหน้าเสียโฉมทำยังไงกับครับ”
“ก็ให้นายคริสพาไปศัลยกรรมที่เกาหลีสิแล้วก็แวะมาหาฉันด้วยนะ คิคิ”หันหลังกลับมาหัวเราะคิกคัก
ชายหนุ่มมองเด็กตัวแสบขี้แกล้งก็นึกขำในใจ ถ้าเกิดได้มาเป็นแฟนจริงๆเขาคงต้องยอมสละตำแหน่งหัวหน้าแก๊งค์ให้เธอขึ้นเป็นแทนส่วนตัวเขาเองก็คงต้องยอมเป็นลูกน้องคอยรับใช้เธอ แค่นี้เด็กตัวแสบก็สั่งนู้นสั่งนี่ไม่หยุดแถมยังโวยวายในยามที่ไม่ได้ดั่งใจจนลูกน้องบางคนที่สนิทจริงๆกล้าหัวเราะเขาอย่างเช่น เถา ที่หลุดหัวเราะบ่อยครั้งเวลาที่เขายอมยุนอาเสมอ
“นายคริส”เสียงหวายเอ่ยเรียกขึ้นเมื่อเขาล้มตัวลงนอนข้างเธอ
“อะไร”หันหน้าไปถามเด็กตัวแสบที่ไม่ยอมนอนเสียที
“นายจะไปหาฉันไหมที่เกาหลี”ใบหน้าหวานดูเศร้าลงเล็กน้อย
ยุนอาหวังว่าอย่างน้อยเขาคงจะไปเยี่ยมเธอสักครั้งหลังจากที่เธอกลับไปที่เกาหลีทั้งที่รู้ว่าคงเขาคงไม่สนใจเด็กเอาแต่ใจอย่างเธอ
“ไม่รู้สิ ถ้าเธอเป็นเด็กดีฉันอาจจะไป”รอยยิ้มบางๆปรากฏอยู่บนใบหน้าหวาน อาจจะไปก็หมายถึงเขาต้องไปหาเธอแน่นอน แค่คิดก็ดีใจแล้ว!!
“จริงนะ”ถามเพื่อความแน่ใจ
“คนอย่างฉันเคยโกหกเธอด้วยหรอ”อี๋ฟานถามกลับ ร่างบางทำหน้ามุ่ยพร้อมกับพยักหน้ามำให้เขาอดที่ยิ้มออกมาไม่ได้
“นายไม่ได้โกหก แต่หลอกเลยตะหาก พาไปงานนั้นที งานนี่ที น่าเบื่อมากก!! รวมไปถึงหน้านายด้วย ไม่รู้จะเก๊กไปไหน คิคิ”ยุนอาบ่นไปเรื่อยเปื่อยตั้งแต่วันแรกที่เธอมาจนถึงวันนี้เธอก็ยังบ่นให้กับนิสัยของอี๋ฟานที่ยังหน้านิ่งเป็นรูปปั้นตั้งแต่เจอครั้งแรกจนเดี๋ยวนี้ก็ยังคงทำอยู่
และไม่นานเธอก็หลับไปโดยรู้ตัวทิ้งไว้เพียงชายหนุ่มที่ยังคงนอนมองเธอทุกวัน อี๋ฟานลุกขึ้นมาจากเตียงให้เบาที่สุดก่อนจะเดินไปหยิบกล่องอัญมณีที่ถูกยุนอาประมูลเขาจับมันใส่เข้าไปในกระเป๋าสะพายใบเล็กที่เธอชอบพายเป็นประจำ
“เธอเคยบอกฉันใช่ไหมว่าให้เอาไอ้นี้เก็บไว้ให้กับคนที่รัก และตอนนี้มันก็อยู่กับเธอแล้วยัยเด็กตัวแสบ”
“โธ่เอ้ยลู่ฮานนานมาชะมัด”
อี๋ฟานมองคนที่ตัวเล็กที่เอาแต่เดินไปเดินมา เสียงบ่นของเธอก็ดังอยู่เป็นระยะเมื่อชายหนุ่มที่ชื่อลู่ฮานยังไม่มาเสียที จนวันสุดท้ายเธอก็ยังสร้างเรื่องปวดหัวให้เขาอีกตามเคยทั้งที่รู้ว่าตัวเองจะกลับวันนี้แท้ๆกลับลืมจัดกระเป๋าพร้อมกับโวยวายว่าเขาไม่ยอมเตือนเธอ นึกว่าจะเปลี่ยนนิสัยแล้วซะอีก แต่ดีได้ไม่ถึงสองวันก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม
“ท่านอี๋ฟานครับ มีโทรศัพท์จากคนที่ชื่อลู่ฮานครับ”ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะคว้าเอาโทรศัพท์นั้นมาคุย ยุนอาก็ไวกว่าคว้ามันมาพร้อมกับตะโกนใส่คนปลายสายด้วยท่าทีหงุดหงิด
“ลู่ฮาน อยู่ที่ไหน ทำไมไม่มาซักที”
(พี่เพิ่งลงเครื่องเมื่อกี๊เอง ไฟท์ที่พี่มามันดีเลย์ ว่าแต่พี่จะคุยกับคุณอี๋ฟานไม่ใช่เธอยัยเหม่ง) ร่างบางหน้ามุ่ยก่อนจะส่งโทรศัพท์ไปให้กับอีกคนที่พี่ชายเธอต้องการพูดด้วย
“นายคริส พี่ชายฉันจะคุยกับนาย”พอได้ยินคำว่าพี่ชายจากปากของยุนอาชายหนุ่มก็เผลอยิ้มออกมาในทันทีทำเอาร่างบางคิ้วขมวดด้วยความสงสัยแต่เขาก็รับหุบยิ้มและกลับมาทำหน้านิ่งเหมือนเดิม
...ที่แท้ก็พี่ชาย
“อี๋ฟานพูดครับ”
(ผมลู่ฮานพี่ชายของยุนอาครับ คือผมอยากให้คุณอี๋ฟานช่วยมาส่งยัยตัวแสบเอ้ยยุนอาที่สนามบินน่ะครับ ถ้าผมไปรับเกรงว่าจะไม่ทันเครื่องออก ต้องขอรบกวนอีกครั้งนะครับ)
“ได้ครับ”ชายหนุ่มตอบรับที่จะไปส่งเด็กตัวแสบอย่างง่ายดาย
ดีซะอีกที่เขาจะได้อยู่กับเธออีกสักหน่อยก่อนที่จะจากกันเพราะไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้เจอกันอีก ด้านเขางานก็ยุ่งมากจนไม่มีเวลาปลีกตัวไปไหนส่วนยุนอาเองก็ไม่รู้ว่าอยากจะมาที่นี่อีกหรือเปล่า
“เถาเตรียมเอารถออก ฉันจะไปส่งยุนอา”เขาหันไปสั่งลูกน้องพร้อมกับลุกขึ้นยืนเพื่อเตรียมตัวไปส่งหญิงสาวที่สนามบิน
“อ้าว แล้วลู่ฮานไม่มารับฉันแล้วหรอ”
“พี่ชายเธอรออยู่ที่สนามบิน”มือหนาเอื้อมไปหยิบกระเป๋าเดินทางใบใหญ่มาถือเอาไว้
อันที่จริงอี๋ฟานไม่จำเป็นต้องยกกระเป๋าใบใหญ่นี่เองก็ได้แต่โอกาสสุดท้ายแล้วที่เขาจะได้ทำดีต่อเธอ ยังไงซะก็ขอให้ได้ทำอะไรให้กับคนที่รักเท่านั้นก็พอ
ระหว่างทางที่นั่งรถไปสนามบินทั้งอี๋ฟานกับยุนอาต่างไม่ยอมพูดจากันเลย พี่เพียงเสียงเกมส์จากไอแพตที่ร่างบางเล่นฆ่าเวลาจนกว่าจะถึงสนามบิน ส่วนชายหนุ่มก็เอาแต่มองสองข้างทางที่ไม่มีอะไรน่าสนใจแต่เขาก็ยังมองเพราะไม่รู้จะชวนคนข้างกายคุยอะไร เขาเองก็คุยไม่เก่งอีกทั้งเด็กตัวแสบก็เอาแต่เล่นเกมส์ไม่ยอมพูดจา
“นั้นลู่ฮานนิ”ทันทีที่ก้าวเข้ามาในสนามบินยุนอาก็ร้องขึ้นมาเมื่อเห็นว่าพี่ชายตนเองนั้นยืนรออยู่แล้ว
“พี่ชายกับน้องสาวหน้าตาเหมือนกันเลยนะครับท่านอี๋ฟาน”เถาพูดขึ้นมาเมื่อเห็นว่ายุนอากับพี่ชายนั้นหน้าตาเหมือนกัน ใบหน้าหวาน รอยยิ้มดูสดใส แต่ไม่รู้ว่านิสัยจะเหมือนกันหรือเปล่า
อี๋ฟานไม่พูดอะไรพร้อมกับเดินตรงไปหาสองพี่น้องที่กำลังหยอกล้อกันอยู่ เมื่อเห็นว่าลู่ฮานนั้นยิ้มให้อย่างเป็นมิตรเขาเองก็นิ่งเฉยไม่ได้ยิ้มตอบกลับเช่นกัน มือหนายกขึ้นมาทักทายในแบบสไตล์ยุโรป
“ผมลู่ฮาน ยินที่ได้รู้จักครับ”หนุ่มหน้าหวานก็จับมือทักทายเช่นกัน
“ผมอี๋ฟานหรือคริสครับ”เขาแนะนำตัวเองรวมไปถึงบอกชื่อเล่นที่น้อยคนจะได้เรียก แต่ก็อย่างว่าและผู้ชายคนนี้คือว่าที่พี่ชายของเขาในอนาคต
“ผมต้องขอบคุณคุณคริสมากนะครับที่ดูแลยุนอาตลอดเวลาที่เธอมาอยู่ฮ่องกง”ลู่ฮานโค้งให้กับคนตรงหน้าซึ่งมันเป็นมารยาทของคนเกาหลีที่ต้องกระทำ
“ไปขอบคุณทำไมกันลู่ฮาน นายคริสนะไม่พายุนไปเที่ยวเลยเอาแต่แกล้งตลอด โอ๊ยย”ยุนอาร้องโอดครวญเมื่อพี่ชายสุดหล่อเขกหัวเธอกลางสนามบิน
“ทำไมไม่เรียกคุณคริสว่าพี่ ห๊ะยัยเหม่ง เอ่อต้องขอโทษแทนยุนอาด้วยนะครับ สงสัยเธอคงติดเรียกผมก็เลยไม่ยอมเรียกคุณว่าพี่”หนุ่มหน้าหวานหันไปเอ็ดน้องก่อนจะขอโทษขอโพยชายหนุ่มร่างสูง
อี๋ฟานหัวเราะเบาๆเมื่อเห็นยุนอาแลบลิ้นอยู่ข้างหลังพี่ชายตัวเอง เขายืนคุยอยู่กับลู่ฮานอยู่ครู่หนึ่งเสียงบอกผู้โดยสารที่ใช้บริการไฟท์บินฮ่องกง-เกาหลี ให้ไปเตรียมตัวขึ้นเครื่องก็ดังขึ้น ถึงเวลาแล้วที่จะต้องจากกับเธอจริงๆทั้งที่ยังไม่ได้บอกความรู้สึกที่มีให้เธอได้ฟัง ใจมันไม่กล้าบอกเพราะกลัวว่าเธอนั้นจะไม่คิดเหมือนกับที่เขาคิด
“พวกเราต้องไปแล้วนะครับคุณคริส ขอบคุณมากเลยนะครับ”ลู่ฮานโค้งตัวให้อี๋ฟานอีกครั้ง
“ฉันต้องไปแล้วนะนายคริส อย่าลืมมาเยี่ยมกันบ้างล่ะ”ยุนอาเมินหน้าไปทางอื่นขณะที่พูด
“ไม่ลืมหรอกและฉันก็จะไม่ลืมเธอด้วย”คำพูดของเขาที่ออกมาจากใจทำให้คนฟังนั้นถึงยิ้มไม่หุบ
อยากจะเขาไปกอดเพื่อบอกลาแต่ไม่กล้า ... อยากจะตะโกนบอกรักก็ทำไม่ได้
มีเพียงสายตาที่สื่อความหมายออกไป ... แต่เธอคงไม่รู้ !!
“ไปกันเถอะยัยเหม่ง ลาก่อนครับ”เสียงสุดท้ายจากชายหนุ่มหน้าหวานก่อนที่เขาจะเดินจับมือกับร่างบางไปยังทางเข้าเพื่อขึ้นเครื่อง
ชายหนุ่มได้แต่มองตามหลังเธอไปไม่วางตา ไม่มีคำบอกลาใดๆออกมาจาปากของเธอแม้แต่คำเดียว มีเพียงรอยยิ้มสุดท้ายที่เธอมอบให้มาก่อนจะจากกัน ต่อไปเขาคงจะต้องอยู่คนเดียวเหมือนอย่างเคยแต่มันอาจจะเหงาเพราะไม่มีเธอคนนั้นอีกแล้ว
“ไปกันเถอะ”เมื่อเห็นว่ายุนอานั้นเดินหายไปแล้วเขาก็หันไปสั่งลูกน้องให้เตรียมตัวกลับบ้านทันที แต่ยังไม่ทันที่จะได้ก้าวเดินน้ำเสียงที่แสนคุ้นเคยก็ดังขึ้นมาทำให้ชายหนุ่มนั้นรีบหันกลับไปยังต้นเสียง
“เดี๋ยวก่อนนายคริส”ยุนอาวิ่งออกมาจากทางเข้าพร้อมกับรีบวิ่งมาหาชายหนุ่มทันที
“เธอ...”
“ลาก่อนค่ะพี่คริส จุ๊บ!!” เธอเขย่งปลายเท้าพร้อมกับจุ๊บไปที่ปากของชายหนุ่มเร็วๆหนึ่งทีก่อนจะวิ่งกลับไปที่เดิมด้วยความเขินอาย
อี๋ฟานได้แต่ยืนอึ้งทำอะไรไม่ถูกเมื่อโดนจู่โจมแบบไม่ทันตั้งตัว มือหนายกขึ้นมาจับริมฝีปากตัวเองก่อนที่จะยิ้มออกมาเหมือนคนบ้า เขารู้แล้วว่าจะทำยังไงกับชีวิตและหัวใจของตัวเอง ในเมื่อเด็กตัวแสบกล้ามาทำให้หัวใจของมาเฟียผู้ยิ่งใหญ่ต้องสั่นไหว เขาก็คงจะปล่อยเธอไว้ไม่ได้เหมือนกัน
“เตรียมตั๋วเครื่องบินไปเกาหลีให้ฉันเดี๋ยวนี้”สิ้นเสียงเขาก็เดินไปยังทางเข้าเพื่อขึ้นเครื่องลำเดียวกันกับยุนอาทันที
‘ฉันคงต้องปราบเด็กตัวแสบด้วยวิธีของผู้ใหญ่แล้วสินะ’
ที่หายหน้าไปเพราะแอบแต่งเรื่องนี้ ... คิคิ
เห็นรูปเหม่งแล้วเรื่องนี้มันแว๊บเข้ามาในหัว *---*+
ไม่สนุกยังไงก็ติชมกันได้ >"<
ปล. เม้นท์มาเยอะๆ
ความคิดเห็น