คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : chapter 1
เกรียนมินโฮ
1
หลังจากคนตัวเล็กที่พึ่งเดียวของเขาได้หนีไป มินโฮก็โบกแท็กซี่สื่อสารด้วยภาษามือเยสโนโอเค พร้อมโชว์รูปวัดพระแก้วให้ดู พี่โชเฟอร์ผู้โชคร้ายจึงหลับตาภาวนาให้ตัวเองไม่โดนข้อหาร่วมมือกับไอ้อนาจารเกาหลีแล้วรีบบึ่งไปส่งที่วัดพระแก้วด้วยความเร็วชนิดที่ไม่เกรงกลัวจะโดนลิมิต
เมื่อมาถึงปลายทางที่ใฝ่ฝันร่างสูงก็หอบสัมภาระออกจากแท๊กซี่แล้วยืนอึ้งอ้าปากข้างหันซ้ายขวามองไปมารอบๆหน้าบริเวณวัดพระแก้วที่เต็มไปด้วยผู้คนหลากหลายเชื้อชาติ
“แม่ม..ไอเตี้ยนั่นก็ไปแล้ว แล้วกูจะไปไหนต่อดีวะเนี่ย ภาษาไทยก็พูดไมได้ อังกฤษนี้เข้าขั้นแอนดรูบิ๊กยังปวดกบาล T^T” มินโฮบ่นพร้อมกับทึ้งหัวเกรียนของตัวเองอย่างหมดหนทาง ก่อนจะเดินวนไปวนมาอย่างไร้จุดหมาย ‘เหยดเขร้ ทางเข้าแมร่งอยู่ไหนวะ = =’ ‘
“น้องคะๆ” เหมือนเสียงสวรรค์มาโปรดคนหน้าตาดี ภาษาเกาหลีที่เค้าไมได้ยินมานานหลายชั่วโมงที่ดังมาจากด้านหลังของเขา โอ๊ะ!! O.o หรือว่า...
จะมีคนจำได้ว่ะ ว่าเรากำลังจะเดบิวท์ใหม่ในนามวงชายนี่ว่าที่ศิลปินแดนซ์ไฮโซจากแดนกิมจิ แหม..เรานี่ดังใช่ย่อยเลยนะเนี้ย ก็เงี้ย คนหน้าตาดี ไปอยู่ไหนก็มีคนเห็นออร่า คึคึ -.,-
“ว่าไงครับผม สุดหล่อมินโฮอยู่นี้แล้ว” ไม่รอช้าผมหันหน้าไปเก๊กหล่อให้หนึ่งทีพร้อมกับขยิบตาอีกที ฉีกยิ้มหวานปล่อยรังสีคาริสม่ากระจายแผ่รอบกายให้เหล่านูน่าป้าหน้าบานทียืนยิ้มแฉ่งตาหยี ในมือถือกล้องโปรกระบอกลำเท่าแขนอยู่
“น้องคนเกาหลีใช่มั้ย?” นูน่าถามย้ำอีกครั้ง
“ใช่แล้วครับ ผม ชเว มินโฮ ว่าที่ศิลปินวงชายนี่ ผู้ที่หน้าตาดี หล่อแมนแฮนซั่ม หน้าปล้ำ สูงล่ำ กระชากใจที่สุดในวงครับ นี่นูน่าจำผมได้ด้วยหรอเนี่ย? อ๋อจะขอถ่ายรูปหรอครับ? แหม่ผมไม่ได้แต่งหน้ามาซะด้วย..แต่ก็โอเคครับ หนังหน้าผมมันเมพขริงๆอยู่แล้ว ผมไม่หยิ่งๆ” คนหัวเกรียนพูดเองเออเองเสร็จสรรพก่อนจะยืนหรา เก๊กท่าชูสองนิ้วเพื่อให้เหล่านูน่าได้ถ่ายภาพ
“เอ่อ..” นูน่าหน้าบานที่มีโบอันใหญ่แปะอยู่บนหัวคนหนึ่งทำท่าอึ้งๆก่อนจะหันไปปรึกษากับเพื่อนๆอีกสองสามคน
“ยัยนัมจีฉันบอกแล้วไงว่าเขาไม่ปกติ ดูการแต่งตัวสิ ยังจะไปใช้เขาให้ถ่ายรูปให้พวกเราอีก T^T”
“อ้าวยัยจียอนก็ฉันไม่รู้หนิเห็นหล่อๆไม่คิดว่าจะประสาทขนาดนี้ -..-”
“แล้วจะเอาไงดีอะ ดูสิคนมองกันหมดแล้ว .__.”
“นั่นสิ ชั้นล่ะอายจนแทบจะมุดดินหนีบินกลับเกาหลีตอนนี้เลย ; A;”
“ซุบซิบแซบซับซุบแซบ!@#$%^&*()”
เหล่านูน่าซุบซิบสลับหันกลับมามองร่างล่ำพร้อมสมองที่ทำหน้าที่คิดไม่ตกคำนวณค่าสมการความหล่อและโรคจิตประมวณผลผ่าน CPU จนตีนกาแทบจะงอกมาอีกเส้น -.- สายตาของคนรอบๆทั้งไทยเทศน์เขมรลาวเวียดนามญี่ปุ่นอเมริกาอังกฤษต่างมองจ้องมาที่จุดๆเดียวกัน
‘กลางถนน’ ที่มีชายร่างล่ำกล้ามเป็นมัดในชุดบ๊อกเซอร์ตัวเดียวโพสท่าประหนึ่งว่าตัวเองพระเอกหนังเกย์โก้เก๋ไฮโซก็ไม่ปาน
“ฉันว่าเผ่นกันเหอะแก!” นูน่าคนนึงเสนอความเห็นขึ้น และไม่ต้องรอให้เสียเวลานูน่าทั้งหลายต่างพยักหน้าพร้อมกันอย่างมิได้นัดหมาย ก่อนที่เหล่าป้าจะรีบย้ายสะโพกเทอะทะของตัวเองหายไปจากตรงนั้นด้วยความเร็วสุดชีวิต ทิ้งให้นายแบบหนุ่ม(?)ยืนโพสท่าต่อไปไม่รู้อิโหน่อิเหน่ =__=
ทางด้านนายแบบหนุ่มหน้าบางสุดหล่อ(?)
“เสร็จยังครับนูน่า? ผมว่าหลังผมเริ่มไหม้แล้วนะ” พูดด้วยเสียงที่พยายามเก๊กหล่อก่อนจะหันกลับไปมองที่เดิมที่’เคย’เจอเหล่านูน่า แต่บัดนี้มันว่างเปล่า ไร้วี่แววแม้เศษเงา -.-
‘อ้าวเชี่ยไปไหนกันหมดแล้ววะ แม่มเอ้ย รู้รึเปล่าถ้ากูเดบิวท์แล้วจะได้ดูร่างกายกูยากขึ้นแค่ไหนน่ะ พลาดโอกาสไปซะแล้ววว อีป้า -.-’ คิดในใจได้เพียงห้าวิ ก่อนจะสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินเสียงบีบแตรมาจากทุกสารทิศรอบตัว
“ปี๊ดดดดด”
“ปี๊ดๆ”
“ปี๊ดปี๊ปิ๊ด ปี๊ดดดด”
‘แม่มบีมแตรกันไมวะเนี้ย ถ้าหูหนวกไปจะมารับผิดชอบมั้ย กูต้องใช้หูฟังจังหวะนะเว้ย =.= ตกลงนี่มัน ประเทศไทยหรืออินเดียเนี่ย บีบกันอยู่ได้ โดร่ววว ไม่รู้หรือไงคนเขาถ่ายรูปผมอยู่ คนหล่อหงุดหงิด’
“เห้ยยย” ยังไม่ทันหายหงุดหงิดจากเสียงแตรสนั่นลั่น ก็มาเจอกับลุงร่างอ้วนตัวดำในชุดกากีสีเขียวแน่นเปรี๊ยะกระดุมบริเวณพุงแทบหลุดมากระเด้งใส่เบ้าตาสองคนที่กำลังจับแขนอยู่ทั้งสองข้าง
“เห้ย ปล่อยโว้ย เชี่ยแม่ม ไอ้อ้วน ดำ ดึก ถึก ถึย ปล่อยกูววววววววววววส์” ตะโกนภาษาบ้านเกิดตัวเองออกไปด้วยความตกใจพร้อมพยายามดีดสะบัดตัวฉุดกระชากลากถูไม่ให้โดนลุงอ้วนลักพาตัว ; A; ชิบหายล่ะ กูจะโดนลักพาตัวเหรอ ฮึกกก TT___TT ฮืออออออ
ณ ป้อมตำรวจแถวๆนั้น
ร่างสูงโปร่งนั่งนิ่งหน้าบึ้งเท้าคางในป้อมตำรวจด้วยความจำใจระหว่างรอลุงอ้วนสองคนเขียนอะไรยุกยิกๆกันอยู่สองคน -__- เวลากูมีค่านะเว้ย! ถ้าผมมันเสือกร่วงกว่าเดิมจะรับผิดชอบมั้ย -….-
“เออ..ยู” ด้วยความอยากรู้อยากเห็นหรือเรียกง่ายๆว่าเสือก - -* มันมีมากจนทนไม่ไหว ร่างสูงจึงต้องพยายามงัดความรู้งูๆปลาๆเอาภาษาอังกฤษที่แทบจะไม่ติดสมองออกมาใช้งาน -___- อะไรวะ? อยู่ดีๆก็มาจับ เขาทำอะไรผิดเหรอ ประเทศไทยแม่มอันแฟร์!! เขาเป็นนักท่องเที่ยวนะเฟร้ยย มาทำกับเขาแบบนี้ทำไม ทำแบบนี้เกรียนรับด๊ายยย ; A;
“จับไอมาวายวะยู กูไปเมคซัมติงรองเหรอ?” -..- อ้าว อุตส่าห์ถามยังหันมาทำหน้าขมวดคิ้วส้นตีนใส่อีก แมร่งมองหน้ากูงี้ไม่รู้เรื่องชัว ชิบหายแล้วไง -__- กูจะพึงใครดีวะครับ
ถึงร่างสูงจะรู้ชะตากรรมอาภัพของตัวเองดี แต่ความพยายามของตนก็ยังไม่ลดลง ร่างสูงเกิดอาการปิ๊งไอเดียเด็ดๆที่น้องชายหัวเห็ดเคยสอนไว้ ประโยคหลอกหลอนที่ไอ้น้องคนดีกรอกหูเอาไว้รีเพลย์กลับมาในสมอง
‘พี่ถ้าพูดอะไรม่ถูกทำท่าให้เค้าดูเลย แม่งเวิกร์ชัวร์!!!’
มินโฮยิ้มกริ่มกับความฉลาดของตัวเองก่อนจะเริ่มปฎิบัติการ
“เฮ้ๆ ยูอะ” ชี้ไปที่ลุงอ้วน
“จับๆ” ร่างสูงเดินเข้าไปล็อกแขนของลุงร่างอ้วนคนนึงเพื่อแสดงท่าทางอาการจับที่เขาเพิ่งโดน
“เห้ย! สารวัตครับมันสู้ครับ!! ” นายตำรวจร่างอ้วนพูดด้วยอาการตกใจเมื่อเห็นไอ้โรคจิตเข้ามาล๊อกแขนเจ้านาย
“เห้ยปล่อยสารวัตเดี๋ยวนี้เลยนะเว้ย อย่าตุกติก” พูดพลางยกปืนขึ้นขู่พร้อมเก๊กหน้าดุ
“แม่งเป็นญาติกับไอ้ตัวประหลาดที่กูเจอที่สนามบินเมื่อเช้าปะวะ เหี้ยโหดเหมือนกันเลย ; A; แค่นี้ต้องใช้ปืนมาขู่ โดร่วเอ้ยยยย” ร่างสูงบ่นพึมพำกับตัวเองเซ็งๆ ถ้าแม่งไม่จำเป็นต้องมารักษาหัว กูจะไม่มาแม่งแล้ว ไอ้ไทยแลนด์เนี้ย!!!
“เอ๊ายังไม่ปล่อยอีกบอกให้ปล่อยไง ใครจ้างแกมาหรือเปล่าเนี่ย ทำไมไม่พูดวะ! อย่าบอกนะว่าแกเป็นสายสืบขอมดำดินน่ะ!!!” ตำรวจร่างอ้วนคนเดิมยังคงคาดคั้นเอาความหน้าเครียดคิ้วผูกกันเป็นโบว์
“โนว์ๆไอพูดไทยบ่ได้ ไอเป็นคนโคเรียย ยูโน๊ว?”
“ไม่ต้องพูดมากดีกว่า กูคุยอิ๊งไม่ได้ -__-* ไปเคลียกันที่โรงพักเลยดีกว่า ข้อหาอนาจารข้อหาเดียวคงไม่พอ สงสัยอยากได้ข้อหาพยายามทำร้ายเจ้าหน้าที่ด้วย”
‘เว้ยอะไรวะแมร่ง นอกจากจะไม่ฟังที่พูดแล้วยังจะจับเขายัดใส่ในรถกะบะกากๆสีหม่นๆป้ายทะเบียนจะหลุดแหลไม่หลุดแหลนี่อีก โอ้ยย กูไม่ไปเว้ยยย กูจะไปวัดพระแก้ววว ; A;
“ปล่อยกูดิวะเห้ยๆ” ร่างสูงไม่สนใจอะไรต่อไปแล้วทั้งสิ้นพ่นภาษาบ้านเกิดรัวแรพออกมาออกมาอย่างไม่แคร์ใคร หลากหลายสายตาต่างจ้องมองมาที่รถกะบะกากๆคันนี้
สภาพตอนนี้เป็นอะไรที่นักท่องเที่ยวทุกคนคงอยากจะตะโกนดังๆว่า ‘OH-MY-GOD’ ตำรวจตัวอ้วนตุ๊ต๊ะสองคนพยายามจับนักท่องเที่ยวเปลือยยัดใส่รถเก่าๆกากๆ อาจจะเป็นเพราะภาพที่หาดูได้ยากตามยูทูป คนไทยที่ชอบเสรือกจึงต่างพยายามแย่งกันเข้ามามุงดูพร้อมยกมือถือตั้งแต่ไอโฟน บีบี ไปถึงจีเนต ไอโมบายขึ้นมาบันทึกภาพถ่าย
“ต๊ายหล่อๆไม่น่าโรคจิตเลยนะ” เสียงสาวอ้วนตุ้ยวัยกลางคนเอ่ยเมาส์มอยกับเพื่อนสาววัยเดียวกัน
“นั่นสิๆ…ไม่น่าเลยเนอะฉันละเสียดาย แหมมม ถ้าจิตสมบูรณ์หน่อยล่ะก็ ป้าจะหม่ำซะให้เข็ด คิคิ”
ทางด้านคนร่างเตี้ยล่ำตันในเสื้อสีเขียวจี๊ดสะท้อนแสงที่เพิ่งไปสอยจากวังหลังเดินพึมพำบ่นกับตัวเองอย่างหัวเสียเมื่อนึกขึ้นได้ว่าลืมถ่ายรูปกับยักษ์วัดพระแก้วเพราะมัวแต่คิดถึงเรื่องไอ้โรคจิตที่เพิ่งเจอกันที่แอร์พอร์ตตลอดการเยี่ยมชมวัดแสนสวยอินไทยแลนด์
“เพราะไอโรคจิตนั่นแท้ๆเลยว่ะ แม่งเอ้ยยย”
“แกฉันบอกแล้วว่าหมอนั่นสติไม่ดี ไม่น่าเลยนะ” ร่างเล็กได้ยินคนพูดคุยกันในภาษาบ้านเกิด ต่อมเสือกจึงเริ่มทำงาน แอบเงี่ยหูไปฟังกลุ่มป้าซุบซิบนินทาคนด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“คิดแล้วก็เสียดายหล่อๆ ไม่น่าประสาทเลยใส่บ๊อกเซอร์ตัวเดียวมาเดินเร่ร่อนเลยนะแก”
‘ใส่บ๊อกเซอร์ตัวเดียวมาเดินเร่ร่อน ใส่บ๊อกเซอร์ตัวเดียวมาเดินเร่ร่อน’ ประโยคนี้วนเวียนไปวนเวียนมาในหัวเขา ไม่ผิดแน่ ต้องเป็นไอ้โรคจิตนั้นแน่ๆ สายตาไปไวกว่าความคิดเมื่อร่างเล็กเหลือบไปเห็นคนมุงดูอะไรกันสักอย่างอยู่หน้าวัด
“ปล่อยดิวะ ไออ้วน แมร่งปล่อยกูเลยนะ โอ้ยยย ปล่อยปล่อยปล่อย ปล่อยกรูววววววว” สำเนียงเกาหลีชัดขนาดนี้ ไม่ผิดแน่นอนไอหล่อโรคจิตคนเมื่อเช้าชัวร์ๆ ; A; ไม่รีรอด้วยความอยากรู้จึงรีบแทรกตัว เอากล้ามล่ำๆดันคนอื่นยื่นหน้าเข้าไปดูเหตุการณ์
“เห้ย! นั่นๆเพื่อนไอๆ มายเฟรนนนนน” ร่างเล็กเบิกตากว้างเมื่อไอ้เอเลี่ยนโรคจิตชี้ตรงมาที่เขา วอทดูยูว้อนฟอร์มมี ไอ้เชี่ยโรคจิต T^T
“ยูว่าไงนะ” ตำรวจร่างอ้วนชะงักก่อนจะมองตามไปที่ปลายนิ้วของไอ้หนุ่มโรคจิตบ๊อกเซอร์ตัวเดียว
มินโฮไม่รู้หรอกว่าตำรวจร่างอ้วนทั้งสองพูดอะไรกับเขา แต่จากการใช้สมองฉลาดๆเดาจากท่าทางแล้วคงกำลังถามอะไรสักอย่าง ไม่รอช้ามินโฮรีบเข้าไปลากตัวร่างเล็กที่ไม่รู้เรื่องราวเข้ามาในทันที
“นี่ๆๆ นายช่วยผมหน่อยดิ นะๆ ไออ้วนนี้แมร่งจะจับผมไปไหนก็ไม่รู้ ผมฟังมันไม่รู้เรื่องอ่ะ ไหนๆเราก็คนเกาหลีเหมือนกัน ช่วยผมหน่อยนะ”ร่างสูงพยายามออดอ้อนทำสีหน้าท่าทางเหมือนลูกหมาน่าสงสารใส่ร่างบาง ไม่ช้าไม่นานคนตัวเล็กก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่หันไปคุยกับตำรวจให้
อาจจะเป็นโชคเข้าข้างมินโฮ ร่างเล็กตรงหน้าพูดภาษาไทยได้ค่อนข้างดี พูดคุยอะไรไม่รู้สักพักไอ้อ้วนสองคนก็พยักหน้ายอมปล่อยมือจากแขนเขาให้เป็นอิสระ
“เฮ้อ! นายน่ะมานี่เลยนะ”ร่างเล็กดึงแขนร่างสูงออกมาจากวงล้อมไทยมุงด้วยสีหน้าเซ็งๆ หน้าเป็ดๆของคนตัวเล็กบูดบึ้งด้วยความไม่พอใจที่ต้องมารับผิดชอบเรื่องไร้สาระทั้งๆที่ไม่เกี่ยวข้อง ยังดีที่เขาพูดไทยเป็นเลยตอแหลแถไปว่าเป็นไอ้ล่ำนี่เป็นเพื่อนแถมไม่สบายทางจิตจึงพ้นข้อหาอนาจารมาอย่างหวุดหวิด
“เฮ้ออออ ปล่อยซะที ดีใจจริงวุ้ย! เออ ขอบคุณนายมากนะนายเป็ด”มินโฮถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ก่อนจะหันไปขอบคุณร่างเล็กที่กำลังมองเขาตาขวาง
“อะ อ้าวว เป็นอะไรไปอ่ะนาย โกรธอะไรผมเหรอ”
“เออ โกรธเว้ย! นี่คิดว่าตัวเองเป็นพระเอกหล่อเหมือนณเดชณ์หรือไงถึงมาเปลือยกายโชว์ชาวบ้านเนี้ยยยย แล้วถ้าชั้นไม่เสือกมาเจอนาย นายจะทำให้เกาหลีเสียชื่อเสียงไปแค่ไหนกันหา!! รู้มั้ยเค้าคิดว่าชั้นเป็นเพื่อนกับคนบ้ากันหมดแล้ว ไอ้ห่าเอ้ย!!!”ชายหน้าเป็ดเหวี่ยงระเบิดอารมณ์ใส่ร่างสูงเสียงดังพร้อมกับชกอกแกร่งไปแรงๆหนึ่งที
เว้ย!!! ทำไมกูจะมาเที่ยวแล้วต้องเจอไอ้จิตนี้ด้วยวะ แม่ง ซวย ซวย ซวย!!!!!!!!
“อ่า..มีอันเฮ.. ขอโทษนะครับ ตัวเล็กครับ.. น้องเป็ดอย่าโกรธผมน้า.. อย่าโกรธนะนะนะ”อาจเป็นเพราะชอบอ่านฟิคมากเกินไป ร่างสูงจึงแงะเอาแม่ไม้การง้อแบบพระเอกฟิคมาใช้กับร่างเล็กที่เพิ่งเคยเจอหน้ากันไม่นาน มือหนาชูนิ้วก้อยแล้วไปเกี่ยวกับนิ้วก้อยอีกคนอย่างถือวิสาสะ ทำหน้าตอแหลเล็กๆน้อยๆใส่เผื่อว่าคนใจร้อนจะใจเย็นลง
“พ่อมึง -__- กูโตแล้ว เล่นอะไรปัญญาอ่อนมากครับ”
“....ขอโทษคร้าบบบบ”มินโฮสะอึกไปสามวิ ก่อนจะรีบตั้งสติแล้วละตัวออกห่างจากอีกร่าง โค้งก้มหัวให้อีกคนอย่างรู้สึกผิด สำนึกสำเหนียกได้ว่าไอ้น้องเป็ดที่เขาเรียกอยู่เนี้ยมันเพิ่งจะเจอกัน พลางแอบคิดโทษนู่นนี่ในใจไปว่า ‘ไอ้ห่า ความเกรียนมันไม่เข้าใครออกใครจริงๆ -..-’
“เออๆ ไม่ต้องทำแบบนั้นก็ได้ -__- เลิกทำอะไรเวอร์ๆได้ละ ไปหาเสื้อผ้ามาใส่ซะ จะได้หมดเรื่องซะที อย่าไปก่อเรื่องอะไรอีกล่ะ”ร่างเล็กว่าก่อนจะรีบหันหลังเดินหนีอีกร่าง มือบางกระชับกล้องที่ห้อยอยู่ที่คอเตรียมจะเดินเข้าไปในบริเวณวัดพระแก้วใหม่อีกครั้งเพื่อทำตามจุดประสงค์ที่ตั้งเอาไว้
“เดี๋ยวสิ แหะๆ”ไอ้หน้าด้านฉีกยิ้มแหยพร้อมวิ่งมากางแขนกั้นหน้าคนตัวเล็กเอาไว้
“อะไร”ตอบกลับด้วยความเย็นชา น้ำเสียงเบื่อหน่าย โว้ย กูเซ็ง -__- หงุดหงิดยังไม่หายแถมยังมากวนตีนอะไรอีกเนี้ย
“ขอไปเที่ยวด้วยคน”
“พ่อมึงดิ =__= มึงเป็นใคร ทำไมกูต้องพาไป?”
“นะนะนะนะ ผมไม่มีเสื้อผ้าใส่อ่ะ ตังก็ไม่มีติดตัว ไปไหนก็ไปไม่เป็น นายพูดไทยได้ ก็ช่วยกันหน่อยสิ คนเกาหลีด้วยกัน น่านะ”
“ไม่”
“โห่วว นะคร้าบบ ไหนๆก็ช่วยผมมาขนาดนี้แล้ว ให้ผมติดไปด้วยสักนิด ไว้ผมหาโรงพยาบาลรักษาหัวเจอแล้วจะไม่มากวนอีกนะคร้าบบบบ นะ”มินโฮพยายามตื้อ
“โธ่เว้ย!”จงฮยอนสบถอย่างหัวเสีย
“นะครับเป็ดน้อย ^^ ให้ผมไปด้วยนะ”ฉีกยิ้มกว้างเปล่งคาริสม่าใส่ร่างบางตรงหน้าวิ้งๆ
“เออๆ ก็ได้เว้ย!!!!”ร่างเล็กตอบปัดๆก่อนจะรีบก้าวจ้ำๆเดินนำอีกคนไป โดยที่ร่างล่ำที่เดินตามหลังก็ทำหน้าที่แสนดี เอามือเกี่ยวสายกล้องที่คล้องคอคนตัวเล็กแล้วเดินตามต้อยๆ
“โอ้ยยย มันรัดคอชั้น!!!”คนตัวเล็กแว้ดใส่เสียงดัง เพราะเวลาที่เขาเร่งเดินเร็วๆไอ้สายคล้องคอเจ้ากรรมมันก็รั้งไปด้านหลังจนรัดคอ แถมไอ้ล่ำหน้าหนาก็ยังยืนยิ้มแฉ่งไม่รู้ร้อนรู้หนาว สำนึกผิดอะไรทั้งนั้น
“แหะๆ ก็เดินเร็วๆสิครับเป็ดน้อย”
“เลิกเรียกกูเป็ดน้อยซะ จะเรียกเป็ดก็เป็ดโว้ย!!”
“อ่า..ครับน้องเป็ด ^^”
“โว้ย กูปวดกระบาล -__- เชี่ยเอเลี่ยนแม่งงง”
คนตัวเล็กพึมพำอย่างไม่ชอบใจ มือบางทึ้งหัวตัวเองแรงด้วยความสับสนระคนหน่าย ทำไมวะครับ ทำไมกูต้องเกินมาเป็นคนดี?!?!?!? ทำไมต้องเสร่อสงสารกลัวมันจะเป็นตายร้ายดีคาเมืองไทย ทำไมวะ ทำไม๊ ทำไม ทำไม ‘คิมจงฮยอน’ ถึงโคตรรรร ซวยแบบนี้ ; A;
______________________-
มาลงก่อนเดี๋ยวมาทอคคะ
ความคิดเห็น