ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Vanguard]พ่อหนุ่มน่ารัก x คุณจิ้งจอกเย็นชา

    ลำดับตอนที่ #3 : จิ้งจอกตัวที่ 3 ความหวังดี

    • อัปเดตล่าสุด 14 ก.ค. 58


    บทที่3 ความหวังดี
     
     
    "อรุณสวัสดิ์ครับ"ผมเดินเข้ามาในห้องครัวด้วยท่าทางงัวเงีย
    "อรุณสวัสดิ์นะไอจิ"เอมิที่มานั่งทานข้าวก่อนผมได้พูดขึ้น ผมนั่งลงตรงเก้าอี้แล้วตักอาหารเข้าปาก แล้วผมก็รู้สึกเหมือนมีบางอย่างหายไป ใช่แล้วเขาไม่อยู่ตอนผมตื่นนอนมาก็ไม่เห็นเขาเหมือนกัน ผมก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรนึกว่าเขาลงมาที่ห้องครัวแล้วซะอีก แต่ไม่อยู่ผมจึงลองถามคุณแม่ดู
    "แม่ครับ ไคคุงไปไหนหรอครับ"
    "หือ...แม่ไม่เห็นตั้งแต่เช้าแล้วนะนึกว่ายังนอนอยู่ในห้องลูกซะอีก"
    "หรอครับ..."แล้วผมก็ไม่ได้พูดอะไรอีกจนกระทั่งทานช้าวเสร็จ แต่ดูเหมือนผมอาจจะกินเร็วไปหน่อยทำให้กินเสร็จก่อนเอมิซะอีก
    "งั้นผมไปก่อนนะครับ"ผมลุกจากเก้าหยิบกระเป๋านักเรียนแล้วเดินไปที่ประตูบ้าน
    "ไปดีมาดีนะไอจิ"คุณแม่ตะโกนบอกผมเหมือนทุกๆวัน
     
      ผมเดินไปโรงเรียนตามปกติแต่ ไม่รู้ทำไมผมถึงนึกแต่ไคคุงตลอดทางไปโรงเรียนหรือเป็นเพราะว่าผมไม่ได้เห็นใบหน้าที่ไร้ทั้งอารมณ์และความรู้สึกของเขานะ คิดไปคิดมาผมก็มีเรื่องที่สงสัยเกี่ยวกับตัวไคคุงอยู่เต็มหัวไปหมด จนกระทั่งจนกระทั่งผมเดินไปเจอกันคถณมิซากิที่กพลังเดินไปโรงเรียนเหมือนกัน ผมรีบวิ่งไปหาคุณมิซากิทันทีพร้อมตะโกนเรียก
    "คุณมิซากิ!?!"คุณมิซากิหันมามองผม
    "อรุณสวัสดิ์ครับคุณมิซากิ"ผมกล่าวทักทายพร้อมยิ้มน้อยๆ
    "อรุณสวัสดิ์ไอจิ"คุณมิซากิเองก็ยิ้มน้อยๆให้ผมเช่นกัน แล้วเราสองคนก็เดินไปโรงเรียนด้วยกัน
    "อ่ะ...จริงสิไอจิ"จู่ๆคุณมิซากิก็พูดอะไรบางอย่างแล้วหันมาทางผม
    "วันอาทิตย์นี้นายว่างมั้ย?"
    "อืม...น่าจะว่างนะครับ"
    "งั้นไปซื้อของเป็นชั้นหน่อยได้รึเปล่า?"
    "เอ๋...ซื้อของหรอ..."
    "อืมได้มั้ย?"คุณมิซากิถามย้ำอีกรอบ
    "ได้สิครับ"ผมตอบพร้อมยิ้มให้คุณมิซากิ
    "จริงหรอ!!ขอบคุณนะดีจังไม่มีคนถือของคงจะแย่"คุณมิซากิพอได้ยินคำตอบจากผมก็ยิ้มน้อยๆออกมา แต่เอ๊ะ...เออเดี๋ยวนะ...
    "คนถือของหรอ..."ไม่รู้ทำไมจู่ๆผมถึงหน้าซีด
    "อ๊ะ...เปล่าๆไม่ได้ให้ถือหมดหรอกนะแค่บางอันเท่านั้นแหละ"พอผมได้ยินคำตอบผมก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทัน ตั้งแต่ที่ผมเป็นเพื่อนกับคุณมิซากิมาในบางครั้งผมคิดว่าคุณมิซากิดูเย็นชาแต่จะเย็นชาแค่ไหนก็ไม่เท่าไคคุงหรอก(มั่ง)
     
     
    -วันไปซื้อของ-
     
    "เอ่อ..."
    "ขอโทษนะไอจิ แต่คนนั้นใครหรอ?"คุณมิซากิหันมาถามผมพร้อมชี้ไปที่ไคคุงที่ยืนอยู่ข้างๆผมและแน่นอนว่ามาในเวอร์ชั่นคนธรรมดา(ร่างมนุษย์)
    "เอ่อ...คุณมิซากิครับนี่ไคคุงครับเขาบอกว่าอยูบ้านผมไม่มีอะไรให้ทำเลยขอออกมาซื้อของด้วย..."ผมพูดพลางถอนหายใจและเหงื่อตก
    "หรอ...งั้นก็โอเค เอ๊ะ..เดี๋ยวนะ..."คุณมิซากิทำหน้าเหมือนคาใจอะไรบางอย่างแล้วจ้องมาที่ผม
    "ที่ว่าอยู่บ้านนายเนี่ยหมายความว่ายังไงน่ะ..."
    "เอ่อ...ก็เขาอาศัยอยู่บ้านผมไงล่ะครับ..."ผมตอบพลางเอามือเกาหัว
    "แล้วทำไมถึงไป..."คุณมิซากิยังถามผมไม่ทันจบจู่ๆไคคุงก็พูดแทรกขึ้นมา
    "จะไปได้รึยัง..."ไคคุงยังคงพูดด้วยใบหน้าที่ไร้ความรู้สึกเหมือนเดิม
    "อะ...อื้ม..."ผมตอบแล้วเดินตามไคคุงที่เดินนำหน้าไป แล้วผมก็หันไปกระซิบกับคุณมิซากิ
    "ขอโทษนะครับคุณมิซากิ เรื่องมันยาวไว้ผมจะเล่าให้ฟังทีหลังนะครับ"
    "อืม...เข้าใจแล้วแต่ตอนนี้ชั้นสงสัยอยู่อย่างหนึ่งนะ..."คุณมิซากิพูดพร้อมจ้องไปที่เอวไคคุง 
    "ทำไมหมอนั่นต้องพกดาบไว้ด้วยล่ะ..."
    "เอ่อ...ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ..."
     
      คำถามของคุณมิซากิตรงกับคำถามที่ผมอยากรู้มานาน เพราะไม่ว่าตอนไหนผมก็เห็นไคคุงก็พกดาบไว้ที่ตัวเสมอทั้งตอนกินข้าว ตอนนอนก็เอาไว้ข้างๆตัว แม้แต่ตอนอาบน้ำก็ยังเอาไปวางไว้หน้าห้องน้ำ ขนาดออกมาซื้อของก็ยังเอามาด้วยไม่อายใครเลย ไม่รู้คิดจะอยู่กินกับดาบเลยมั้ยไปไหนก็เอาไปด้วยตลอดแทบไม่ยอมให้ห่างตัวเลย แถมพอคนที่เดินผ่านเห็นดาบที่เอวไคคุงก็กลัวกันหมดแล้ว ที่จริงผมก็อยากถามนะว่าพกไว้ทำไมแต่ผมคิดว่าถ้าถามออกไปคงโดนทำเย็นชาใส่แน่ๆเลยไม่กล้าถาม
    "อ่ะ...นั่นร้านนั้นล่ะไอจิ"ผมคงจะคิดเพลินไปหน่อยจนมาถึงร้านขายของแล้วผมยังไม่รู้ตัวเลย
    "ร้านนี้หรอครับคุณมิซากิ..."ผมมองไปที่หน้าร้าน สีของร้านก็ไม่ได้อะไรมากก็แค่ร้านขายเสื้อผ้าสีครีมปกติในร้านก็มีแต่เสื้อผ้าของผู้หญิงคนเข้าร้านนี้เยอะพอสมควรเหมือนกัน
    "เอ่อ...คุณมิซากิมาซื้อเสื้อหรอครับ..."
    "อืม...แต่แค่2-3ตัวแหละ ยังมีของที่อาคาริฝากซื้อด้วยน่ะ"คุณมิซากิพูดพลางหยิบเสื้อมาดู
    "ไอจิจะซื้ออะไรหน่อยมั้ยไปซื้อได้นะ"คุณมิซากิหันมาถามผม
    "เอ่อ..ผมว่าไม่..."ผมหยุดพูดแล้วนึกบางอย่างขึ้นมาได้...
    "งั้นผมขอไปซื้ออะไรหน่อยนะครับ"
    "อื้อได้สิ ถ้าชั้นซื้อเสร็จแล้วจะโทรไปหานะ"คุณมิซากิพูดแล้วยิ้มให้
    "ครับ"ผมยิ้มตอบก่อนที่จะเดินออกจากร้านพร้อมกับลากไคคุงไปด้วย
    "นี่นายจะพาชั้นไปไหน..."ไคคุงถามด้วยสีหน้าเรียบเฉย
    "เถอะน่า"ผมตอบไปแบบนั้นแล้วพาไคคุงเข้าไปที่ร้านเสื้อผ้าผู้ชาย
    "นายพาชั้นมาทำไม..."ไคคุงยังคงสีหน้าเรียบเฉยเหมือนเดิม
    "เห็นใส่แต่ชุดเดิมๆนี่นา หาเสื้อใหม่ๆใส่มั่งสิ"ผมพูดแล้วชี้ไปที่หน้าไคคุง ตั้งแต่ที่ไคคุงมาอยู่บ้านผมผมก็ไม่เห็นเข้าจะใส่ชุดอย่างอื่นเลยนอกจากชุดฮากามะสีเขียว จนผมคิดว่าไคคุงคงไม่มีอย่างอื่นใส่แล้วสินะนอกจากชุดนี้
    "....."ไคคุงนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งแต่เขาจ้องหน้าผมเขม็งแต่แน่นอนว่าใบหน้าของเขาก็ไม่เปลี่ยนไปเลย จนจู่ๆเขาก็พูดขึ้นมาว่า
    "นายคงคิดว่าชั้นไม่มีเสื้อใส่ถึงใส่แต่ชุดเดิมๆสินะ..."รู้ความคิดของผมอีกต่างหาก
    "ก็ใช่น่ะสิ"ผมพูดเสียงเข้ม แล้วไคคุงก็ถอนหายใจออกมาแล้วพูดว่า
    "ชั้นไม่ต้องการหรอก..."แล้วไคคุงก็เดินออกจากร้านไป คำตอบของเขาชั่งฟังดูเย็นชาทั้งที่ผมอุตส่าห์หวังดีแท้ๆดันมาทำเย็นชาใส่แบบนี้ คนแบบนี้ตั้งแต่เกิดมาผมพึ่งเคยเจอเป็นครั้งแรก แล้วจู่ๆโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้น ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูแล้วกดรับสาย
    "ฮัลโหลครับคุณมิซากิ"
    "ไอจิชั้นซื้อของเสร็จแล้วนะ ตอนนี้อยู่ไหนน่ะ"
    "อ่ออยู่ตรงร้านขายเสื้อผ้าผู้ชายน่ะครับไม่ไกลมากหรอกไคคุงยืนอยู่ที่หน้าร้านด้วยลองมองหาเอานะครับ..."
    "อื้มเข้าใจแล้ว"แล้วคุณมิซากิก็วางสายไป ผมเก็นโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกงแล้วมองไปที่ไคคุงที่ยืนอยู่หน้าร้าน...
     
     
    -หลังจากนั้น-
     
    "วันนี้ขอบคุณมากเลยนะไอจิที่มาซื้อของเป็นเพื่อนน่ะ"คุณมิซากิยิ้มน้อยๆ
    "ไม่เป็นไรหรอกครับ"ผมพูดพลางยิ้มตอบ
    "งั้นไปนะไว้เจอกันพรุ่งนี้"คุณมิซากิพูดแล้วก็เดินไป
    "ครับ"
    "รีบกลับกันเถอะ..."จู่ๆไคคุงก็พูดขึ้นมา แล้วเดินกลับบ้าน
    "ทำไมต้องรีบด้วยล่ะ"ผมเดินตามไปพลางถามไปด้วย
    "ชั้นหิวแล้ว..."ไคคุงพูดออกมาด้วยใบหน้าเรียบเฉย
    "อ่อ...เข้าใจละ"ผมถอนหายใจออกมาก่อนะจะยื่นถุงบางอย่างให้ไคคุง
    "นี่มันอะไร..."ไคคุงหันมาถามผม
    "ก็เสื้อผ้าไงล่ะถึงจะแค่2-3ตัวแต่ผมซื้อมาให้เอาไปสิ"ถึงไปหน้าจะเรียบเฉยแต่สายตาของำคคุงที่มองผมบ่งบอกได้เลยว่าไม่เอา
    "ชั้นบอกแล้วนี่ว่าไม่ต้องการ..."ไคคุงพูดย้ำคำนั้นอีกครั้ง ทำให้ผมเริ่มรู้สึกหงุดหงิดนิดหน่อย
    "เอาไปเถอะน่า!!"ผมไม่ยอมรับคำตอบของไคคุงแล้วเอาถุงใส่เสื้อผ้ายัดใส่มือไคคุงทันที
    "หัดรับความหวังดีจากคนอื่นมั่งสิ!!"ผมพูดเสียงเข้ม
    "ความหวังดี..."ไคคุงพูดออกมาเบาๆ 
    "ใช่แล้วความหวังดีแล้วก็ห้ามเอาไปทิ้งด้วยผมอุตส่าห์ซื้อมาให้"ผมพูดแล้วชี้ไปที่ถุงเสื้อผ้า
    "งั้นเผาได้มั้ย..."ไคคุงพูดออกมาพร้อมกับมีเปลวไฟสีแดงออกมาที่นิ้วชี้
    "ไม่ได้ครับ!?!"ผมรีบบอกทันทีก่อนที่ไคคุงจะเอาไฟมาเผา
    "มะ...ไม่ว่าจะยังไงก็ตามห้ามเผาหรืออะไรทั้งนั้นเอาเสื้อผ้าที่ผมให้ไปใส่ซะเข้าใจรึเปล่า"ผมพูดแล้วชี้ไปที่หน้าไคคุง ไคคุงยืนนิ่งไม่มีปฏิกิริยาเหมือนกับก้อนหินยังไงยังงั้น
    "เฮ้อชั่งเถอะ หิวข้าวไม่ใช่หรอรีบกลับกันเถอะผมเองก็ชักจะหิวแล้ว"ผมถอนหายใจออกมา ตอนนี้ผมรู้สึกเหนื่อยใจกับไคคุงจริงๆ
    "อืม..."ไคคุงตอบออกมาสั้นๆ แล้วจู่ๆร่างของผมก็โดนยกขึ้นมาอยู่ในท่าเจ้าหญิงเหมือนตอนที่ไคคุงไปส่งที่โรงเรียน
    "จับแน่นๆนะ..."ไคคุงพูดแล้วเตรียมท่าเหมือนจะกระโดด
    "อะ..เอ๋..ดะ..เดี๋ยวสิจะทำอะไรน่ะ"ผมตั้งแต่แทบไม่ทันแต่มือของผมก็ไปคล้องคอไคคุงไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
    "งั้นไปนะ..."พูดแค่นั้นแล้วไคคุงก็โดนขึ้นหลังคาบ้านไปเรื่อยๆ ผมรู้สึกกลัวมากกลัวสุดๆเลยไม่รู้ว่าเป็นเพราะความสูงรึว่ากลัวตกจากมือของไคคุงที่อุ้มผมอยู่กันแน่ แต่ในที่สุดก็มาถึงบ้านอย่างปลอดภัยล่ะนะ ไคคุงวางผมลงที่หน้าประตูบ้านผมแทบจะยืนไม่ไหวขาของผมสั่นไปหมด ผมขอรับประกันเลยว่าผมจะไม่ให้ไคคุงพาผมกระโดดขึ้นหลังคาบ้านแบบนั้นอีกแล้ว ผมเดินเข้าไปในบ้านแล้ว แต่ดูเหมือนไม่มีใครอยู่เพราะไฟปิดทั่วบ้านเลย
    "เอ..คุณแม่กับเอมิไม่อยู่หรอ..."ผมเดินเข้าไปที่ห้องครัวพร้อมกับไคคุง แล้วเห็นแผ่นกระดาษแผ่นหนึ่งวางไว้บนโต๊ะ ผมเดินไปเปิดไฟห้องครัวแล้วหยิบกระดาษขึ้นมาอ่าน ในกระดาษเขียนว่า'แม่ไปทำธุระกับเอมิอาจจะกลับค่ำหน่อยนะ'
    "งั้นก็ไม่อยู่กันสินะ ต้องทำอาหารเองแล้วสิ"ผมเดินไปหยิบผ้ากันเปื้อนมาใส่แล้วเดินไปเปิดตู้เย็นดูว่ามีอะไรบ้าง ส่วนไคคุงก็กลับเป็นไปเป็นร่างจิ้งจอกเหมือนเดิมแล้วเปิดทีวีดูรอผมทำอาหารเสร็จ ผมหยิบไข่ไก่ออกมากะจะทำข้าวผัดในขณะที่ผมกำลังทำข้าวผัดอยู่ผมก็ลองชวนไคคุงคุยดู
    "เออ...นี่ไคคุงขอถามอะไรหน่อยนะทำไมต้องพกดาบไว้ด้วยล่ะ"ผมเผลอถามคำถามที่อบากรู้ที่สุดออกไปซะแล้วสิแบบนี้โดนทำเย็นชาใส่แน่ๆเลย ไคคุงหันมามองผมที่กำลังผัดข้าวอยู่แล้วพูดว่า
    "ชั้นไม่จำเป็นต้องบอกนาย..."คำตอบของไคคุงไม่ได้ต่างจากที่ผมคิดไว้เท่าไหร่ ก็...คิดเอาไว้แล้วล่ะนะว่าต้องโดนทำเย็นชาใส่
    "งั้นไคคุง...ทำไมถึงไม่ยิ้มล่ะ..."คราวนี้ผมถามอีกคำถามนึงที่คาใจผมมานาน แต่คราวนี้ไคคุงเงียบไม่พูดอะไรเลย รึว่ามีเหตุผลบางอย่างที่ยิ้มไม่ได้กันนะ... ผมคิดแบบนี้ในใจแล้วยกข้าวที่ผัดเสร็จแล้วไปให้ไคคุงแล้วผมก็พูดว่า
    "ชั่งเถอะลืมคำถามเมื่อกี้ไปเถอะนะ"ผมวางข้าวผัดไว้บนโต๊ะ
    "ขอโทษนะที่ถาม งั้นผมไปอาบน้ำก่อนนะ"ผมถอดผ้ากันเปื้อนวางไว้ที่เก้าอี้อีกตัว แล้วเดินไปที่ห้องอาบน้ำถึงจะแค่แวบเดียวแต่ผมรู้สึกเหมือนผมเห็นดวงตาของไคคุงดูเศร้าสร้อยจนเหมือนจะมีน้ำตาไหลออกจากใบหน้าอันไร้ความรู้สึกนั่นของไคคุง...
    "ยิ้มหรอ..."เสียงอันแผ่วเบาออกมาจากปากของไคหลังจากที่ไอจิเข้าไปอาบน้ำ ใบหน้านั่นยังคงเรียบเฉยราวกับน้ำแข็งแต่ดวงตาสีเขียวมรกตที่ชวนให้หลงใหลกลับดูเศร้าสร้อยราวกับจะมีน้ำตาไหลออกมา
     
     
    รอยยิ้ม...งั้นหรอ...

    #และก็จบไปอีกหนึ่งตอนล่ะค่าท่านผู้อ่านทุกท่าน

     
    CR.SHL
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×