ตอนที่ 27 : บทที่ ๒๗
วันนี้คุณพีชตื่นสายกว่าทุกวัน นานๆครั้งจะได้หยุดพักอยู่กับบ้านให้สบายตัว วันนี้เธอตั้งใจจะพอกหน้า ขัดตัว เล่นโยคะ และนั่งสมาธิเพื่อให้จิตใจสงบ ก่อนหน้านี้มีเรื่องวุ่นวายมากมายทำให้จิตใจร้อนรุ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ถ้ามีเวลามากกว่านี้อีกหน่อยเธอคงต้องเข้าคอร์สปฎิบัติธรรมสักอาทิตย์ คุณพีชแต่งตัวลวกๆเดินลงมาชั้นล่างแต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อครูเทืองและแม่แขแต่งตัวเสียดูดีเหมือนจะออกไปข้างนอก
“จะไปไหนกันหรือคะ”
“เปล่านี่ คุณแม่ก็แต่งตัวอยู่บ้านแบบนี้ทุกวัน” หญิงสาวทำหน้างงแต่ก็ไม่ได้คัดค้าน เธอเดินหายเข้าไปหลังบ้านเพื่อหาสมุนไพรมาประทินผิว เช้านี้เริ่มด้วยการขัดตัวท่าจะดี ช่วงหลังๆมานี่ตีนกาและริ้วรอยเพิ่มมากขึ้นจนสังเกตได้ชัด
รุ่งรุจขับรถมาจอดสนิทที่หน้าบ้านครูเทือง วันนี้เขามาพร้อมพ่อและแม่รวมถึงผู้การเผด็จที่โดนลากมาในฐานะผู้บังคับบัญชา เขาแต่งตัวปกติเรียบร้อย ขืนแต่งเครื่องแบบตำรวจมาทั้งบ้านคงจะโกลาหล
“นั่นใครมาหน้าบ้านคะคุณแม่”
“ไม่รู้สิ เออ...คุณพีช ไปแต่งตัวให้มันเรียบร้อยกว่านี้หน่อยสิ เกิดเป็นแขกของคุณพ่อมาหา มันจะน่าเกลียด” แม่แขแอบอมยิ้ม รุ่งรุจแอบมานัดครูเทืองและแม่แขไว้หลายวันว่าวันนี้เขาจะเข้ามาหาพร้อมผู้ใหญ่เพื่อขอขมาที่หลอกลวงครอบครัวของครูเทืองจนทำให้เดือดร้อน แต่สิ่งที่แฝงไว้พวกผู้ใหญ่เขารู้กันดี รุ่งรุจคงจะพาผู้ใหญ่ฝ่ายเขามาดูตัวว่าที่สะใภ้ว่าหน้าตาเป็นอย่างไร
ชายหนุ่มยืนถือธูปเทียนแพเหงื่อแตกพลั่ก เขาไม่รู้ว่าการขอขมาครูเทืองจะต้องทำอะไรให้ใหญ่โตขนาดนี้ แต่เรื่องนี้พ่อและแม่ของเขาเห็นสมควร เขาก็เลยต้องทำตาม
“เอ้า...ไม่เข้าไปล่ะรุจ”
“ผมกลัวครับอาเด็จ เกิดครูเขายังโกรธผมอยู่จะทำยังไง”
“ปัดโธ่ มาจนถึงหน้าบ้านเขาแล้วเพิ่งมากลัว ไป...เข้าไปได้แล้ว” ผู้การเผด็จรุนหลังหลานชายเข้าไปด้านใน มีผู้ใหญ่มาด้วยหลายคนอย่างนี้ ต่อให้ครูเทืองยังโกรธเคืองรุ่งรุจอยู่ก็คงไม่กล้าไล่ตะเพิดกันแน่ๆ
รุ่งรุจนั่งเจี๋ยมเจี้ยมอยู่ที่พื้นโดยมีผู้การเผด็จ พ่อและแม่ของเขานั่งอยู่บนโซฟากำลังเจรจากับครูเทืองและแม่แข ทั้งสองให้การต้อนรับครอบครัวของรุ่งรุจเป็นอย่างดีทำให้รุ่งรุจใจชื้นขึ้นเยอะ
“ผมเป็นผู้บังคับบัญชาของเจ้ารุจครับ แล้วก็นี่...พ่อกับแม่ของเขา ผมก็สนิทกับครอบครัวนี้ เจ้ารุจนี่ผมก็ถือเป็นหลาน แต่วันนี้ผมมาในฐานะผู้บังคับบัญชาของผู้กองรุ่งรุจ เพราะการที่เขาเข้ามาทำให้ครอบครัวของครูเดือดร้อน อย่างหนึ่งก็มาจากคำสั่งของผม แต่ผู้กองรุ่งรุจทำเกินหน้าที่เพราะต้องการให้งานสำเร็จโดยไม่คิดถึงความรู้สึกของครูเทือง ดังนั้นวันนี้ผมเลยพาเขามาขอขมาในสิ่งที่ได้ทำผิดพลาดไป” รุ่งรุจคลานเข่าเข้าไปยื่นพานธูปเทียนให้ครูเทือง
“ผมขอโทษครูด้วยนะครับสำหรับเรื่องทุกอย่างที่ผ่านมา” ครูเทืองรับพานนั้นแล้ววางไว้ข้างหน้า
“ครูเข้าใจว่าที่รุจทำไปก็เพราะหน้าที่การงานบังคับ ไม่เป็นไรหรอก...ครูยกโทษให้” ครูเทืองลูบหัวรุ่งรุจเบาๆด้วยความเมตตา เป็นอันว่าขั้นตอนที่รุ่งรุจหนักใจที่สุดได้ผ่านพ้นไป
“เขาเป็นคนใจร้อน บางทีทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลังให้ดี ตอนอยู่ที่นี่คงทำให้ครูเดือดเนื้อร้อนใจบ้าง
ผมกับภรรยาก็ต้องขอโทษแทนลูกชายด้วยนะครับ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ดิฉันเข้าใจ แต่ตอนอยู่ที่นี่เขาก็ทำเรื่องดีๆไว้มาก ใช่ไหมรุจ” แม่แขเย้าจนรุ่งรุจยิ้มเขินๆ เรื่องดีก็มีแต่เรื่องแย่ก็มากเช่นกัน ตลอดเวลาที่อยู่ในห้องรับแขก รุ่งรุจมองหาใครคนหนึ่งอยู่ตลอดเวลา แม่แขที่รู้ใจหนุ่มสาวเป็นอย่างดีจึงเรียกเด็กในบ้านให้ไปตามคุณพีชลงมา
“ไปบอกคุณแม่ทีได้ไหมว่าฉันไม่อยากลงไป กำลังพอกหน้าอยู่” คุณพีชเอี้ยวตัวมาบอกเด็กคนนั้นแล้วหันไปยืดตัวเพื่อเล่นโยคะต่อไป พอกหน้าไปด้วยโยคะไปด้วยดีจะตาย
“แต่แม่แขสั่งให้คุณพีชลงไปนะคะ ไม่ลงไม่ได้”
“จะให้ฉันลงไปหาแขกของคุณพ่อทำไมกัน ฉันไม่ไปหรอก”
“จะว่าเป็นแขกของครูก็ได้...แต่ จะว่าเป็นแขกของคุณพีชด้วยก็ได้นะคะ” คุณพีชเริ่มอารมณ์เสียที่ถูกคะยั้นคะยออยู่นั่นแล้ว
“ตกลงแขกของใครกันแน่”
“คือ...พี่รุจพาผู้ใหญ่มาค่ะ มาขอโทษครู แม่แขก็เลยอยากให้คุณพีชลงไป” คุณพีชตาเบิกโพลงด้วยความตกใจ หญิงสาวเดินวนอยู่ในห้องชั่วครู่จึงได้หยิบผ้าขนหนูแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำไป
เพียงชั่วครู่คุณพีชก็เดินเฉิดฉายลงมาข้างล่าง เธอแต่งตัวเรียบร้อยแต่งหน้าบางๆ ดูแล้วเหมือนเด็กสาววัยใสมากกว่าผู้หญิงอายุใกล้สี่สิบ ไม่น่าเชื่อว่าคุณพีชใช้เวลาไม่ถึงห้านาทีแปลงโฉมจากยัยเพิ้งเมื่อเช้าจนสวยได้ขนาดนี้
“พีชต้องขอโทษด้วยนะคะที่ไม่ได้ลงมาแต่ทีแรก” หญิงสาวยิ้มหวานหยด
“รุจ...ขอโทษคุณพีชเขาด้วยสิลูก” แม่ของรุ่งรุจบอกลูกชาย
“คุณพีชครับ ผมขอโทษในทุกเรื่องที่ผ่านมา ทุกเรื่องที่ผมทำให้คุณพีชเดือดร้อน ไม่สบายใจ” คุณพีชรับไหว้อย่างแกนๆ ดีนะที่ลงมาช้า..ไม่อย่างนั้นคงต้องรับพานธูปเทียนจากเขา
ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายคุยกันอย่างเป็นมิตร พ่อของรุ่งรุจออกตัวว่าเป็นแฟนเพลงของครูเทืองตั้งแต่หนุ่มๆทำให้ยิ่งคุยกันสนุกขึ้น รุ่งรุจที่นั่งอ้ำอึ้งอยู่นานพอเห็นว่าทั้งสองฝ่ายเข้ากันได้ดี เขาจึงตัดสินใจพูดในสิ่งที่หัวใจเรียกร้อง
“ครูครับ คือ...ผมมีเรื่องจะขอ”
“ว่ามาสิรุจ เรื่องอะไรล่ะ” ทุกคนในห้องนั้นหันมามองรุ่งรุจเป็นตาเดียว ชายหนุ่มสูดหายใจเข้าหน่อยหนึ่งเพื่อเรียกความมั่นใจ
“ผมอยากจะขอ....คบกับลูกสาวครูครับ” คราวนี้ในห้องเงียบกริบไม่มีแม้แต่เสียงหายใจ ครูเทืองเหลียวมองคุณพีชที่นั่งข้างกัน ก็เห็นว่าลูกสาวนั่งตะลึงไปเหมือนกัน หลังจากมองหน้ากันไปมาอยู่ครู่หนึ่งครูเทืองจึงกระแอมเพื่อทำลายความเงียบ
“จะเอาอย่างนั้นรึ แน่ใจแล้วหรือเราน่ะ”
“แน่ใจครับครู ผมรักคุณพีช และผมคิดว่าจะไม่ทำให้คุณพีชเสียใจหรือผิดหวังครับ พ่อ แม่และอาเด็จเป็นพยานให้ผมได้” ฝ่ายผู้ใหญ่ของรุ่งรุจหน้าเหวอเพราะไม่ได้ตกลงว่าจะทำแบบนี้แต่แรก
“จะว่ายังไงดีล่ะ ครูไม่ขัดข้องหรอก แต่...” ทุกคนกลั้นหายใจเพราะลุ้นไปกับคำตอบของครูเทือง “ครูขอพูดตรงๆนะ ลูกสาวครูน่ะ...อายุไม่ใช่น้อยๆแล้ว จะขอแค่ลองคบดูเห็นทีจะไม่ไหว ครูว่าเอางี้...แต่งเลยไหม”
“คุณพ่อ!!!” คุณพีชร้องเสียงหลง
“หรือว่าไง รังเกียจลูกครูหรือเปล่า” ครูเทืองย้ำและมองไปที่พ่อกับแม่ของรุ่งรุจ ทั้งสองนั่งยิ้มเฉยๆเพราะเรื่องนี้คงต้องปล่อยให้ลูกชายตัดสินใจเอง
“ไม่ครับ ไม่รังเกียจอะไรเลย ขอบ...” ชายหนุ่มละล่ำละลักตอบด้วยความดีใจ แต่ไม่ทันพูดจบคุณพีชก็ขัดขึ้นมา
“แต่พีชขอค้านค่ะ ยังไม่รู้จักนิสัยใจคอเขาเลยสักนิด คุณพ่อจะมาเที่ยวยกพีชให้ใครก็ไม่รู้ไม่ได้นะคะ” คุณพีชใจเต้นไม่เป็นระส่ำ ทั้งตกใจ ทั้งดีใจและปลื้มใจไปพร้อมกัน ที่รุ่งรุจทำแบบนี้ก็เพื่อให้ครูเทืองเห็นว่าเขาจริงใจกับคุณพีช และต้องการทำให้เกียรติกับครูเทืองและครอบครัว โดยไม่คบหากับคุณพีชแบบหลบๆซ่อนๆ
คราวนี้เป็นรุ่งรุจที่หน้าเสีย เขาไม่คิดว่าคุณพีชจะปฏิเสธ บางทีคุณพีชอาจจะยังโกรธเขาอยู่ เธอเกลียดคนโกหกหนักหนา และเขาก็โกหกเธอมาตลอดจนเธอไว้ใจแถมยังทำให้เธอเดือดร้อนจนถึงขึ้นโรงขึ้นศาล
“จะเอายังไงก็บอกรุจเขาไปซะ เห็นไหม...หน้าซีดหมดแล้ว” คุณพีชขยับตัวหน่อยหนึ่งเพื่อเรียกความมั่นใจ เพราะเธอแน่ใจว่าแม่ของรุ่งรุจกำลังจับตาดูเธออยู่ทุกขณะ บางทีแม่ของเขาอาจคิดว่าเธอคงดีใจจนเนื้อเต้นที่ได้ผู้ชายอายุน้อยกว่าเกือบรอบมาเป็นแฟน แต่แม่ของรุ่งรุจคิดผิดถนัด...คนอย่างคุณพีชเหนือชั้นกว่านั้นมาก
“เอาเป็นว่า ดูๆกันไปก่อนดีกว่าค่ะ ถ้าเข้ากันได้ค่อยว่ากันต่อ” รุ่งรุจถอนหายใจโล่งอก อย่างน้อยเขาก็ไม่หมดหวังไปเสียทีเดียว
หลังจากวันนั้น รุ่งรุจก็ไปมาหาสู่กับคุณพีชอย่างเปิดเผย ทำเอาสาวๆในวงมองค้อนกันยกใหญ่ ชายหนุ่มทำหน้าที่แฟนได้เป็นอย่างดี ทุกครั้งที่เขาว่าง เขาจะมาขับรถให้คุณพีชไปทำงานที่โน่นที่นี่เพราะไม่อยากให้คุณพีชเหนื่อย เขายอมไปนั่งรอเป็นชั่วโมงในขณะที่คุณพีชไปทำสปาหรือเสริมสวย
ส่วนแม่ของรุ่งรุจ...แม้ตอนแรกจะขวางและตั้งแง่กับว่าที่ลูกสะใภ้ แต่พอนานเข้าคุณพีชกลายเป็นคนโปรดไปเสียนี่ คุณพีชมักชวนแม่ของเขาไปสปาบ้าง ไปเลือกซื้อของใช้กระจุกกระจิกและเครื่องสำอางบ้าง ไม่น่าเชื่อว่ารสนิยมของทั้งสองคนเข้ากันได้ดี จนบ้างครั้งแอบไปซื้อของกันเองโดยไม่พารุ่งรุจไปด้วย และที่สำคัญทั้งคุณพีชและแม่ของรุ่งรุจชอบปฏิบัติธรรม นั่นยิ่งทำให้ทั้งสองคนเข้าอกเข้าใจกันมากขึ้นไปอีก เห็นอย่างนี้รุ่งรุจก็เบาใจ บางทีแม่ของเขาอาจได้ลูกสะใภ้และเพื่อนในเวลาเดียวกัน
“ที่จริงนายไม่ต้องขับรถให้ฉันก็ได้นะ พรุ่งนี้นายมีประชุมเช้าไม่ใช่รึ”
“ไม่เห็นเป็นไรนี่ครับ คุณพีชก็ไม่ได้กลับจนดึกดื่นนี่นา ดีเสียอีก...วันนี้ผมจะได้ฟังพี่น้อยร้องเพลง”
ทั้งสองขับรถจนมาถึงที่เวทีการแสดง เวทีเตรียมพร้อมแล้วส่วนนักร้องและแดนเซอร์เตรียมตัวอยู่ด้านหลัง รุ่งรุจปล่อยให้คุณพีชไปพบเจ้าภาพเพียงลำพัง ส่วนเขาเดินเข้าไปหาน้อยที่ด้านหลังเวที
“อ้าวรุจ มาด้วยหรือนี่ อ้อ...มากับคุณพีชสินะ”
“เป็นไงพี่น้อย วันนี้ผมตั้งใจมาดูพี่ร้องเพลงเลยนะ” น้อยยิ้มเขินๆ ชุดนักร้องสวยๆอย่างนี้อยู่ในความฝันของเขามาตั้งนานแล้ว ผมเผ้าผิวพรรณคุณพีชก็จัดการขัดสีฉวีวรรณเสียใหม่จนแทบจำไม่ได้ แต่ถึงอย่างไรเขาก็ยังไม่มั่นใจอยู่ดี
การแสดงเริ่มขึ้นแล้ว นักร้องใหม่ก้าวขึ้นยืนบนเวทีพร้อมกับเสียงปรบมือ แสงไฟหน้าเวทีสาดจ้าทำให้น้อยมั่นใจขึ้นอย่างประหลาด หรือนี่คือที่ของเขาจริงๆ ดนตรีอินโทรเริ่มบรรเลงพร้อมเสียงขลุ่ยที่เป็นเอกลักษณ์ ไม่รู้ว่าใครไปกระซิบบอกครูเทืองเรื่องชีวิตของน้อย ครูเทืองจึงเลือกเพลงนี้ให้เขาร้อง เพราะตอนที่อยู่บ้านนอก ไม่ว่าจะมีเวทีประกวดร้องเพลงลูกทุ่งในงานวัดที่ไหน น้อยก็มักจะเข้าประกวดทุกครั้ง แม้จะได้รับคำชมเชยแต่ก็ไม่เคยได้รางวัล ชีวิตของน้อยตอนนั้นคิดอยู่แต่ว่ารักการร้องเพลงและอยากเป็นนักร้องโดยเฉพาะเพลงลูกทุ่งที่เขารัก นานเข้าไฟในการตามฝันก็หมดลง แต่วันนี้...ไฟนั้นลุกโชนขึ้นอีกครั้ง น้อยถ่ายทอดเพลงนี้ผ่านเสียงหวานเหน่อเป็นเอกลักษณ์ได้เพราะจับใจ และจบลงด้วยเสียงปรบมือกึกก้องเป็นการต้อนรับนักร้องเสียงทองคนใหม่ของวงการลูกทุ่ง
“ไม่คิดว่าน้อยจะร้องได้เพราะอย่างนี้นะ” คุณพีชเดินเข้ามาฟังเพลงข้างๆรุ่งรุจ
“นั่นสิครับ เสียดายที่ไม่ยอมออกมาร้องเพลง ต้องคาดคั้นกันตั้งนาน”
“ฉันจะกลับแล้วล่ะ”
ทั้งสองขับรถออกจากงานแสดงไปตามถนนที่ไฟสาดส่องตลอดทาง คุณพีชมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างสบายอารมณ์ เธอถวิลหาการเอาใจใส่อย่างนี้มานานหนักหนา และก็อดปลื้มใจไม่ได้ที่ได้รับการเอาอกเอาใจจากผู้ชายที่เธอรัก ไปพูดกับใครเขาก็มีแต่คนอิจฉาโดยเฉพาะเหล่าเพื่อนสาวที่พากันลงความเห็นว่าต่อไปนี้คุณพีชจะสวยอมตะไม่แก่เฒ่าเพราะคบหากับหนุ่มหล่ออ่อนเยาว์กว่าเธอเกือบรอบ บางคนก็มองอย่างเหยียดๆแต่เธอก็ไม่สนใจ ความสุขของเธอคือรุ่งรุจ เรื่องอื่นจะแคร์ทำไม
“นี่ไม่ใช่ทางกลับบ้านนี่นา นายจะพาฉันไปไหนรึ” รุ่งรุจอมยิ้มและไม่ตอบอะไร ทำให้คุณพีชคิดไปต่างๆนาๆ หลังจากเรื่องคราวนั้นรุ่งรุจไม่เคยมีอะไรปิดบังเธอสักครั้ง แต่ทำไมเขาถึงไม่ยอมบอกว่าจะพาเธอไปไหน หรือว่าเขาเกิดใจร้อนแล้ว... คุณพีชหน้าร้อนผ่าว อะไรกัน...บ้าจริง
รุ่งรุจเลี้ยวรถเข้ามาจอดหน้าโรงแรมหรูทำให้คุณพีชยิ่งคิดหนัก จะยอมดีหรือไม่ยอมดี ถ้าไม่ยอมเขาจะคิดว่าเธอเล่นตัวมากไปหรือเปล่า แต่ถ้ายอมเขาจะเห็นว่าเธอเป็นผู้หญิงง่ายๆไหม...
“คุณพีชครับ ลงมาสิครับ” คุณพีชเดินตามเขาไปโดยดี เธอแน่ใจแล้วว่าพร้อมรับทุกสถานการณ์
ในขณะที่อยู่ในลิฟต์...คุณพีชอยากจะถามเขาว่าจะทำอย่างนี้จริงๆหรือ มันจะกะทันหันไปไหมเพราะเธอก็ไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจมาเลย แต่คุณพีชก็ไม่มั่นใจว่าเรื่องอย่างนี้ต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง รุ่งรุจพาคุณพีชขึ้นมาที่ร้านอาหารสุดหรูชั้นบนสุด หรือว่าพอหลังจากอาหารมื้อนี้แล้วเขาจะ...
“โรงแรมนี้เป็นของเพื่อนผมเองครับ ร้านนี้เป็นความภูมิใจของเขาเลยนะ วันนี้เขาเลยให้สิทธิพิเศษกับผมให้พาคุณพีชมาดินเนอร์” คุณพีชยิ้มเจื่อนๆ ที่แท้ก็แค่พามากินข้าวเองหรอกหรือ
หลังจากอาหารมื้อพิเศษชายหนุ่มพาคุณพีชออกมารับลมด้านนอกอาคาร แสงไฟยามราตรีของกรุงเทพสวยงามยามมองลงมาจากตึกสูง ดาวบนฟ้ายังพอมีให้เห็นอยู่บ้าง หญิงสาวอยากมองให้เต็มตาก่อนจะเมามายด้วยไวน์ชั้นเลิศที่รุ่งรุจสั่งมาให้เธอโดยเฉพาะ
“มีอะไรเป็นพิเศษหรือไงถึงได้พาฉันมาที่นี่”
“แหม..ผมปิดบังอะไรคุณพีชไม่ได้สักอย่างเลยนะครับ” ชายหนุ่มยิ้มเก้อแล้วหยิบกล่องแหวนออกมาจากด้านในเสื้อสูท แค่นั้นคุณพีชก็ใจเต้นแทบจะยืนไม่อยู่ แต่เธอก็ต้องฝืนไว้เพราะมีแต่คนแก่เท่านั้นแหละที่ไม่ว่าเรื่องอะไรดีหรือร้ายก็ต้องเป็นลม
“ผมไม่อยากเสียเวลาไปมากกว่านี้อีกแล้ว ให้ผมได้ดูแลคุณพีชนะครับ” คุณพีชรู้สึกหูอื้อแต่ก็ได้ยินถนัดว่าเขากำลังขอเธอแต่งงาน แต่พลันหญิงสาวก็ชักมือกลับก่อนที่รุ่งรุจจะบรรจงสวมแหวนให้
“นาย...คิดดีแล้วหรือว่าจะแต่งงานกับฉัน” ชายหนุ่มทำหน้างง เขาแน่ใจว่าวันนี้เขาไม่ได้ทำอะไรผิดพลาดสักอย่าง เดินออกจากบ้านก็ไม่มีจิ้งจกร้องทักสักตัว
“คิดดีแล้วสิครับ หรือว่าคุณพีช...รังเกียจผม” คุณพีชอยากจะตะโกนบอกเขาจริงๆว่ารังเกียจก็บ้าแล้ว ผู้ชายอย่างเขาจะหาได้จากที่ไหนอีก
“ไม่ใช่อย่างนั้น นายก็รู้นี่...ฉันแก่กว่านายตั้งหลายปี”
“แล้วยังไงล่ะครับ เดี๋ยวผมก็แก่เหมือนกัน แค่คุณพีชนำไปก่อน...” คุณพีชฟาดแขนรุ่งรุจเสียงดังเพี๊ยะ แต่เขาไม่สะทกสะท้านกลับโอบกอดเธอไว้ นั่นยิ่งทำให้คุณพีชเขินหนักเข้าไปอีก
“แต่...พอฉันแก่ ฉันก็จะอ้วน แล้วก็จะเหี่ยว ไม่สวยเลยนะ นายจะทนได้รึ” หญิงสาวพูดอ้อมแอ้ม
“ถ้าอย่างนั้นผมจะอ้วนเป็นเพื่อนคุณก็ได้ ดีเหมือนกันจะได้ไม่ต้องเข้าฟิตเนสให้เหนื่อย” คุณพีชเงยหน้ามองชายหนุ่มด้วยความซึ้งใจ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะใช้นิ้วมือจิ้มๆไปตามกล้ามเนื้อแน่นบนท่อนแขนและแผงอก
“ไม่ต้องทำถึงขนาดนั้นหรอก เสียดายออก” รุ่งรุจอดขำไม่ได้ เขายังกอดคุณพีชไว้ไม่ยอมปล่อย เขาสัญญาไว้แล้วว่าจะดูแลเธอไปชั่วชีวิตและจะทำตามทุกคำพูด ไม่มีการโกหก ไม่มีเรื่องหลอกลวงอีกต่อไป มีแต่ความจริงใจและหัวใจของเขาที่จะมอบให้แด่เธอเพียงผู้เดียว
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
