ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อยากให้เวลาหยุดอยู่แค่วันนี้

    ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1 พระเอกเข้าบ้าน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 132
      0
      12 ต.ค. 50

    ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูหน้าบ้านดังขึ้น ฉันรีบวิ่งไปเปิดประตูอย่างเคย

    แต่ภาพที่อยู่ตรงหน้าทำให้ฉันแทบหยุดหายใจ ผู้ชายของฉัน ผู้ชายคนที่ฉันรักหนักหนามายืนเคาะประตู ใช่สิ พอเปิดปุ๊ป หน้าเค้าก็ลอยเด่นอยู่ไม่ไกลนัก ใบหน้าร้อนชาวาบ แล้วก็ค่อยปรับเปลี่ยนให้เป็นปกติ

    สีหน้าของคนที่มาเคาะนี่สิ เศร้าหมองจนฉันอยากจะกอดไว้ในอ้อมแขนของฉัน อยากถามว่าเป็นอะไรหรือ แต่ที่ฉันทำได้นะ ฉันลืมแม้กระทั่งจะเชิญเขาเข้าบ้าน จนเขาต้องเอ่ยปาก

    ราณี ขอเข้าไปได้ไหม น้ำเสียงที่แหบแห้ง ผมยุ่งรุงรัง ดวงตาที่แห้งผาก ราวกับผ่านการร้องไห้มาแทบทั้งคืน เอ่ยขึ้น

    นั่นเพิ่งทำให้ฉันรู้สึกตัว ฉันคงดูเหมือนคนไม่มีน้ำใจเท่าไร

    ยินดีต้อนรับจ๊ะ เข้ามาข้างในก่อน โทษทีนะ ฉัน...เอ่อ น้ำเสียงเริ่มตะกุกตะกักเพราะคิดคำพูดไม่ออก กลัวจะบอกความจริงออกไปว่าฉันคิดยังไงกับเธอ

    แต่เธอก็ตัดบทพูดขึ้นก่อน

    ขอบใจ

    ฉันเบี่ยงตัวหลบให้เธอเข้ามาข้างในบ้าน กลิ่นเหล้าคละคลุ้งอบอวล

    นี่นายกินเหล้ายันเช้าเลยเหรอนี่ ฉันทักตามวิสัยของความห่วงใยตามปกติ ที่มันเกินปกติทุกครั้งนั่นแหละน่า

    อืม มันตอบสั้น ได้ใจความมาก

    ไปอาบน้ำก่อนเลย กินข้าวก่อนแล้วค่อยนอน เริ่มบทร่ายยาว ก่อนจะยาวก็ถูกตัดทอนด้วย.....ด้วย

    พายัพหันกลับมาตอนที่ฉันยังร่ายไม่จบเลย มันกอดฉันอ่ะเด่ะ กอดแบบคนที่กำลังรู้สึกสูญเสีย เฮ้อ ฉันเข้าใจนะ ว่าแต่แฟนมันหายไปไหน หรือว่าคนที่บ้านมันเป็นอะไรล่ะเนี่ย ฉันนึกไม่ออกเลย แต่ว่ามือทั้งสองข้างที่ตกอยู่ข้างลำตัว เริ่มทำหน้าที่โดยอัตโนมัติ

     

    คืออ้อมกอดนี้ไม่ใช่หรือที่ฉันรอคอย

    คืออ้อมกอดนี้ที่ฉันเองนอนฝันใฝ่หา

    คืออ้อมกอดนี่ที่ฉันฝันทุกคืนนิทรา

    คืออ้อมกอดนี้ที่ฉันไขว่คว้าในความเป็นจริง

     

    บัดนี้ความเป็นจริงอยู่ตรงหน้า ฉันสวมกอดกลับด้วยความรู้สึกรัก รักอย่างที่ไม่เคยรักใครมาก่อน รักด้วยหัวใจที่ท่วมท้น จนกระทั่ง มีมารร้ายมาขัดขวาง

    ใครมาแต่เช้าวะ ไอ้ณี ชะอุ๋ย มันยังอุตส่าห์ตกใจ

    เราสองคนผละออกจากกันในทันทีทันใดเลยหล่ะ แก้มขึ้นสีเข้มทั้งคู่ เรามองหน้ากันแว่บนึงก่อนที่ฉันจะเริ่มร่ายยาวอีกครั้ง (ซ่อนความรู้สึกเอาไว้)

    ไอ้เก็ก เอ็งไปจัดการคุณพายัพอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วลงมากินข้าวเช้าด้วยกัน ให้ไวนะโว้ย หมดกันมาดอันอ่อนหวานของฉัน

    แต่มันก็ทำให้เขาหัวเราะน้อยๆออกมาได้นิดนึง แค่นี้ฉันก็ชื่นใจแล้วละ

    คร้าบ คุณแม่รอง สรรพนามที่มันเรียกฉันอยู่เป็นประจำ จนเพื่อนๆในกลุ่มบางคนก็เริ่มที่จะเรียกตามมันบ้างแล้ว ไอ้เก็กเวรเอ๋ย

    รีบไปดีกว่านะครับ เดี๋ยวคุณแม่รองจะตีก้นลาย มันไม่ว่าเปล่า แถมรีบดันตัวพายัพให้ออกไปอยู่นอกสายตาของคนอย่างฉันไปได้ ไอ้เก็กเวร ฉันได้แต่ก่นด่าในใจ

    ไม่ว่าเขาจะทุกข์เรื่องอะไรมา ถ้าเขาเลือกที่จะมาที่นี่ ฉันก็ดีใจจนสุดๆแล้วล่ะนะ

     

                    ฉันนี่คงมารยาทแย่มากเลย ลืมแนะนำตัวเองกับเพื่อนๆ

     

                    ฉัน นางสาวราณี  สุริยเทพ คุณแม่รองของกลุ่มก๊วนเพื่อนที่มีอยู่กันไม่มากนัก แน่ละหน้าตาของคนไม่ค่อยสวยแต่เด่นด้วยบุคลิกท่าทางที่ดูเหมือนทอมบอย ทั้งที่จริงฉันก็เป็นผู้หญิงที่อ่อนหวานนะจะบอกให้ (แต่ว่าไม่ค่อยปรากฏมากนักในฝูงกวนเมืองกลุ่มนี้) รูปร่างไม่สูงมาก มาตรฐานหญิงไทยทั่วไป (คงไม่ต้องลงรายละเอียดให้ชัดเจนหรอกนะว่าเท่าไร) การแต่งกายก็ อย่างว่าอ่ะนะ อยู่ในกลุ่มลิงจะให้ใส่กระโปรงก็คงไม่เหมาะหรอก หน้าที่การงานอีก เอาว่าปีนึงฉันใส่กระโปรงแค่ครั้งนึงก็มากพอแล้ว (ข้ออ้างในการแต่งกาย)

     

                    คนต่อไปก็ คุณพายัพ  บดินทรเดชา ผู้ชายคนที่ฉันมอง ม๊อง มอง อ้าวจะแนะนำนี่หว่า ไหงเผลอตัวไปบอกเขากันละ รูปร่างสูงชลูดตูดขุนพล เหวอ นี่ฉันมองอะไรเนี่ย การแต่งกายค่อนข้างเป็นคุณหนู (ไม่น่าเชื่อว่าจะมาอยู่กลุ่มเดียวกัน) เอาเป็นว่าเนี๊ยบแล้วกัน ให้บอกมากกว่านี้ พวกคุณจะรู้หมดว่าฉันคิดอะไร ......

     

    คนที่กวนพระบาทาที่สุดก็ไอ้เก็กเวร มันก็เป็นคุณหนู บ้านรวยแต่มาแอบขออยู่ที่บ้านฉันเนี่ย คุณกวินทร์  ภัทรโชคชัย คนที่ฉันบอกว่ามันมาช่วยดูแลให้อยู่ในพระเนตร พระกรรณ ไม่ค่อยให้ห่างสายตา จนคนเขาแอบคิดกันหมดก๊วนแล้วว่า เราเป็นอะไรๆกัน ว่าไปหน้าตามันก็หล่อเข้าที แต่หลังจากที่มันอกหักครั้งเดียว มันก็เกาะฉันแน่นเป็นตุ๊กแก จนชายเทียมหญิงแท้โบกมือลาบ๊ายบายไปตามๆกัน

     

    ส่วนคนที่ซวยก็คือฉัน เพราะหาใครไม่ได้เลย

    บุคลิกที่เด่นมากๆเลยของฉันคือ การต้อนรับเพื่อนทุกคนที่ทุกข์มากๆ ให้เข้ามารับการบำบัดด้วยการร่ายยาว มหาโหด การดูแลที่น่าทนุถนอม (มันขัดกันเปล่าว๊ะ) นั่นแหละน่า แบบว่า ถ้าไม่สบายใจ เชิญมาทางนี้ และนี่คงเป็นสาเหตุที่มีใครบางคนเลือกมาที่นี่เหมือนกับไอ้เก๊ก

    แล้วถ้ามีใครโผล่มาอีก จะแนะนำผ่านไปเรื่อยๆแล้วกันนะคะ

     

    ยามเธอเดินกอดคอ หยอกล้อกันอยู่ทุกวัน หัวใจมันสั่น ฝันละเมอคิดไปไกล.....อยากจะดีใจ ที่ได้เป็นคนสำคัญของเธอ สุดท้ายก็ยังคงทุกข์ใจเสมอ เพราะรักเธอข้างเดียว

    ฉันร้องเพลงไปด้วยทำกับข้าวไปด้วยความเคยชิน

    ร้องเพลงในครัว ไม่กลัวได้....แก่เหรอเสียงพายัพลอยเข้าหู

    เสียงนุ่มๆทักทายขึ้น น้ำเสียงดี แต่ฉันเขิน

    กินข้าวได้แล้วล่ะ จะได้ไปพักผ่อน แล้วนายเก็ก รีบหน่อย เดี๋ยวจะสายทั้งคู่

    คร้าบ คุณแม่รอง แล้วเก็กก็เริ่มปฏิบัติการอย่างรวดเร็ว

    พายัพยังกินได้ไม่มากนัก ก็อิ่ม ฉันเลยบอกว่าให้ไปพักผ่อน กลางวันมีกับข้าวอยู่ในตู้ ให้จัดการได้เลย แล้วเย็นนี้เราค่อยเจอกัน

    นายอยู่คนเดียวได้ใช่ไหม ฉันถามด้วยความเป็นห่วง

    ได้ ไปทำงานเถอะ แล้วเย็นนี้เจอกัน

     

    ทุกคนออกไปแล้ว พายัพเดินขึ้นไปบนบ้าน เขาเดินผ่านห้องแรกซึ่งเป็นห้องของราณี แต่อะไรไม่รู้ดลใจให้เขาเดินกลับมา ในคราแรก เขากล้าๆกลัวๆที่จะเดินเข้าไป จนในที่สุด เขาก็เปิดประตูเข้าไป ห้องสีชมพูลอยเด่น พายัพครางในใจ ไม่น่าเชื่อว่า ราณีจะแต่งห้องได้หวานขนาดนี้ หรือว่าคนอย่างเราไม่เคยสังเกตเห็นความเป็นผู้หญิงของเขา

    ทุกครั้งเขาก็เป็นคนทำกับข้าว งานบ้าน งานเรือน หรือแม้แต่งานเย็บปักถักร้อยก็เป็นราณีนี่นา พวกเรามองข้ามอะไรกันไปเยอะเชียว

    สีในโทนห้องเป็นสีชมพู แทรกด้วยสีฟ้า สีที่พายัพชอบมาก รูปถ่ายเพื่อนๆในกลุ่ม ติดอยู่ที่ข้างฝา แต่มีภาพหนึ่งที่สะดุดตามาก พายัพเองก็ลืมไปแล้วว่า เขาเคยถ่ายรูปคู่กับราณีเพียงสองคน

    วันจบการศึกษา พวกเราทั้งกลุ่มตกลงกันว่าจะไปเที่ยวก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับบ้าน เพราะไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้พบกันอีก

    สถานที่ที่ตกลงกันได้โดยสันติคือให้ราณี ผู้หญิงในกลุ่มเพียงคนเดียวเป็นคนเลือก ซึ่งแน่นอน สำหรับราณีแล้วไม่มีที่ไหนน่าไปมากกว่าทะเล

    ทั้งๆที่มหาวิทยาลัยของเราก็ติดกับทะเล

    รูปราณีผมยาวสยาย รูปนี้ราณีเพิ่งสระผมเสร็จก็เลยต้องปล่อยผม ราณีในชุดเสื้อยืด กางเกงขาสั้นสีขาวนั่งอยู่บนเก้าอี้ แล้วเขายืนอยู่ด้านหลังกำลังจะเข้าไปแกล้งคนที่หวีผมให้เข้ารูปหลังสระผมทั้งที่ยังไม่แห้งดีนัก พอดีชยันต์เดินผ่านมา ถือกล้องถ่ายรูปมาด้วย พายัพเลยบอกให้ถ่ายรูปไว้ เขาเดินมาด้านหลัง ทำท่าโอบเก้าอี้ที่ราณีนั่งอยู่ ใบหน้าอยู่ห่างกันไม่มากนัก เหมือนราณีจะเขิน แต่เขากำลังยิ้มน้อยๆ เหมือนคนเป็นคู่รักกัน เอ....เขาเพ้ออะไรอยู่นี่

    พายัพหยิบรูปนี้ออกมาถือไว้ ก่อนที่จะเดินไปที่เตียง ถือวิสาสะหยิบหนังสือที่อยู่บนหัวนอนมาอ่าน สถานที่ท่องเที่ยว อืม เข้าท่า ก่อนที่จะผลอยหลับไป

     

    แนะนำนายชยันต์ก่อนนะ นายคนนี้ชอบถ่ายรูปมากเป็นชีวิตจิตใจ จนมันเรียนคณะศึกษาศาสตร์ เอกเทคโนสมใจมันละ แต่ดันก้าวพลาดมาเป็นหนึ่งในกลุ่มก๊วนของพวกเรา แต่ก็ดีนะ เพราะจะมีช่างภาพติดตัวพวกเราไปด้วยทุกหนทุกแห่งเลย ชยันต์เป็นผู้ชายที่ไม่สูงมาก ประมาณ 165 ซม. ฐานะที่บ้านค่อนข้างดี ไม่งั้นมันคงแย่ เพราะว่าตอนนี้มันเปิดร้านตามแบบฉบับที่มันชอบได้เรียบร้อยแล้ว อนาคตก็คงจะรุ่ง แต่ยังไม่มีสาวเป็นตัวเป็นตน เพราะคนมันแห้วประจำ แต่ดูท่าแล้วคนอย่างมัน มีกล้องเป็นแฟนก็คงเข้าท่ากว่า

    เพราะเวลาไปไหน มันขาดกล้องไม่ได้เสียที

    ไอ้ความแห้วของมันก็เรื่องมองแต่คนสวยๆนี่แหละน้า บอกกี่ทีก็ไม่รู้จักฟัง หวังสูง เวลาตกมาก็เจ็บเป็นธรรมดา

                    เอ แล้วคนอย่างฉันล่ะ หวังสูงเกินไปหรือไงนะ ว่าแต่ฉันตกลงไปหรือยังล่ะ ยังไม่รู้ตัวเลย จะไปสอนคนอื่นเขา เหอ เหอ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×