ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เจ้าหญิงตัวร้ายกับโรงเรียนมหาเวทย์ ตอน แก้วเวทมนตร์

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 5 เม.ย. 49


    กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วในช่วงยุคสมัยที่ยังมีนครต่างๆซึ่งปกครองไปด้วย เทพ ภูต ปิศาจ และมนุษย์ที่ต่ำต้อย เกิดเหตุวิปโยคขึ้น ณ ใจกลางของเมจิกแลนด์ นครเวทมนตร์ที่รุ่งเรือง และมั่งคั่งอุดมสมบูรณ์ ผืนดินที่เคยเขียวชอุ่มชุ่มน้ำกลับแห้งแล้งแม้ต้นหญ้าก็มิอาจขึ้นได้ สายธารเย็นใสกลายเป็นน้ำเดือดสีแดงดุจโลหิต เมฆสีดำที่ปกคลุมทั่วทั้งท้องนภาพร้อมกันกับเสียงหวีดร้องก้องผืนป่าของเหล่าสัตว์ต่างๆนานา

    คำทำนายจากบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์คือความหวังสุดท้ายของผู้รอดชีวิต แต่ก็อีกไม่นาน ที่ความตายจะมาเยือน ทุกอณูแห่งชีวิตล้วนมีระเบิดเวลาติดตั้งอยู่ สายน้ำและอากาศเป็นพิษ พื้นดินเพาะปลูกไม่ได้ ฝูงหนูและแมลงวันพาหะนำโรคกรูกันเข้ามา ดังเช่นว่ามนุษย์ได้ถึงจุดจบแล้ว

    หากเพียงแต่คำทำนายนั้นได้ออกมาว่า บัดนี้แก้วมนตร์ตราแห่งอำนาจเปรียบเสมือนประตูกั้นมนุษย์กับปิศาจออกจากกันได้แตกสลายด้วยพลังความชั่วร้ายและกระจัดกระจายตกลงสู่นครต่างๆ

    หากเพียงแต่คำทำนายนั้นได้ออกมาว่า บัดนี้แก้วมนตร์ตราแห่งอำนาจเปรียบเสมือนประตูกั้นมนุษย์กับปิศาจออกจากกันได้แตกสลายด้วยพลังความชั่วร้ายและกระจัดกระจายตกลงสู่นครต่างๆ

    บัดนี้แก้วมนตร์ตราแห่งอำนาจเปรียบเสมือนประตูกั้นมนุษย์กับปิศาจออกจากกันได้แตกสลายด้วยพลังความชั่วร้ายและกระจัดกระจายตกลงสู่นครต่างๆ

    ธิดาเทพ โอรสปิศาจ ธิดาภูตวารี และโอรสภูตอัคคี จะถูกเลือกให้เป็นผู้รวบรวบเศษแก้วมนตร์ตรา โอรสปิศาจ ธิดาภูตวารี และโอรสภูตอัคคี จะถูกเลือกให้เป็นผู้รวบรวบเศษแก้วมนตร์ตรา

    แต่หากพวกเขารวบรวมไม่สำเร็จก่อนคืนพระจันทร์เต็มดวงคืนสุดท้ายก่อนสิ้นปี โลกทั้งโลกจะตกอยู่ใต้เงามืดของปิศาจไปชั่วกัปชั่วกาล

    - + - + - + - + - + - + -

    แสงแดดรำไรมาพร้อมกับไออุ่นยามเช้าทีฉายลอดผ่านหน้าต่างบานสวยเข้ามากระทบกับดวงหน้ารูปไข่เนียนขาวอมชมพู คิ้วเรียวยาวได้รูปกับแพขนตางอนที่ปิดสนิท จมูกโด่ง และริมผีปากรูปกระจับอวบอิ่มสีชมพูอ่อน เส้นผมนุ่มละมุนดุจเส้นไหมสีน้ำตาลไหม้ดูยุ่งเหยิงไม่เล็กน้อยจากการนอนดิ้นไปมา แต่ใครจะรู้ล่ะว่าสาวน้อยรูปร่างอ้อนแอ้นอรชรที่จมอยู่ในฟูกจนตะวันส่องหน้าคนนี้ คือ เชน่า กาเซีย เจ้าหญิงสุดกวนระบบประสาทแห่งมหานครลอยฟ้าสถานที่สถิตของเหล่าเทพทั้งหลาย มีราชาเชน่า ชาลอต ผู้เป็นที่เกรงขามและนับถือของคนทั่วหล้า และพระราชินีเชน่า รอลิน สตรีผู้เพียบพร้อมในทุกด้านจนเป็นขวัญใจของหญิงทุกวัย ซึ่งไม่ตรงกับสาวน้อยคนนี้เสียเลย....

    ก็อกๆๆ

    เจ้าหญิงกาเซียเพคะ ตื่นบรรทมได้แล้ว นมยกอาหารเช้ามาถวายเพคะ” น้ำเสียงของหญิงวัยกลางคนบ่งบอกถึงความเมตตา และความเอ็นดูต่อเด็กสาวที่เคยเลี้ยงมาแต้เด็ก

    ก่อนแพขนตางอนจะเปิดออกเผยให้เห็นดวงตาสี*เพริโดต์สดใส ความรู้สึกเดิมๆจะเขามา โครม!!!

    สตรีผู้เพียบพร้อมในทุกด้านจนเป็นขวัญใจของหญิงทุกวัย ซึ่งไม่ตรงกับสาวน้อยคนนี้เสียเลย....

    ก็อกๆๆ

    เจ้าหญิงกาเซียเพคะ ตื่นบรรทมได้แล้ว นมยกอาหารเช้ามาถวายเพคะ” น้ำเสียงของหญิงวัยกลางคนบ่งบอกถึงความเมตตา และความเอ็นดูต่อเด็กสาวที่เคยเลี้ยงมาแต้เด็ก

    ก่อนแพขนตางอนจะเปิดออกเผยให้เห็นดวงตาสี*เพริโดต์สดใส ความรู้สึกเดิมๆจะเขามา โครม!!!

    เจ้าหญิงกาเซียเพคะ ตื่นบรรทมได้แล้ว นมยกอาหารเช้ามาถวายเพคะ” น้ำเสียงของหญิงวัยกลางคนบ่งบอกถึงความเมตตา และความเอ็นดูต่อเด็กสาวที่เคยเลี้ยงมาแต้เด็ก

    ก่อนแพขนตางอนจะเปิดออกเผยให้เห็นดวงตาสี*เพริโดต์สดใส ความรู้สึกเดิมๆจะเขามา โครม!!!

    ก่อนแพขนตางอนจะเปิดออกเผยให้เห็นดวงตาสี*เพริโดต์สดใส ความรู้สึกเดิมๆจะเขามา โครม!!!

    เจ้าหญิงกาเซียเพคะ!! เป็นอะไรรึเปล่าเพคะ!!” เสียงของแม่นมมีท่าทีตกใจ

    “ไม่เป็นไรแม่นม ฉันแค่ตกเตียง ไม่เจ็บอะไรด้วย” เสียงเล็กๆหวานๆลอดออกมาจากริมฝีปากอวบอิ่ม วีรกรรมทุกเช้าที่มักเกิดขึ้นตอนตื่นนอนกลายเป็นเรื่องชินบั้นท้ายซะแล้ว (สำหรับใครบ้างคนนะ อิอิ)

    ประตูบานใหญ่สูงจรดเพดานถูกเปิดออกรับแม่นมเข้าไปในห้อง บนผนังมีจิตกรรมแต่ง

    แต้มอย่างวิจิตรพิสดาร เตียงทำจากไม้โอ๊ค 5,000 ปี ฉลุเป็นลายเถาวัลย์พันรอบขาเตียง สิ่งของทุกอย่างถูกจัดอย่างเป็นระเบียบ แต่ที่น่าแปลกใจที่สุดในห้องนอนของเจ้าหญิงกาเซียคนนี้ก็คือ ไม่มีโต๊ะเครื่องแป้ง!!! ไม่มีเสื้อผ้าของผู้หญิงที่จะสวมใส่!!! และที่สำคัญห้องนี้ไม่มีกระจกสักบาน!!!

    “ไม่เป็นไรแม่นม ฉันแค่ตกเตียง ไม่เจ็บอะไรด้วย” เสียงเล็กๆหวานๆลอดออกมาจากริมฝีปากอวบอิ่ม วีรกรรมทุกเช้าที่มักเกิดขึ้นตอนตื่นนอนกลายเป็นเรื่องชินบั้นท้ายซะแล้ว (สำหรับใครบ้างคนนะ อิอิ)

    ประตูบานใหญ่สูงจรดเพดานถูกเปิดออกรับแม่นมเข้าไปในห้อง บนผนังมีจิตกรรมแต่ง

    แต้มอย่างวิจิตรพิสดาร เตียงทำจากไม้โอ๊ค 5,000 ปี ฉลุเป็นลายเถาวัลย์พันรอบขาเตียง สิ่งของทุกอย่างถูกจัดอย่างเป็นระเบียบ แต่ที่น่าแปลกใจที่สุดในห้องนอนของเจ้าหญิงกาเซียคนนี้ก็คือ ไม่มีโต๊ะเครื่องแป้ง!!! ไม่มีเสื้อผ้าของผู้หญิงที่จะสวมใส่!!! และที่สำคัญห้องนี้ไม่มีกระจกสักบาน!!!

    ประตูบานใหญ่สูงจรดเพดานถูกเปิดออกรับแม่นมเข้าไปในห้อง บนผนังมีจิตกรรมแต่ง

    แต้มอย่างวิจิตรพิสดาร เตียงทำจากไม้โอ๊ค 5,000 ปี ฉลุเป็นลายเถาวัลย์พันรอบขาเตียง สิ่งของทุกอย่างถูกจัดอย่างเป็นระเบียบ แต่ที่น่าแปลกใจที่สุดในห้องนอนของเจ้าหญิงกาเซียคนนี้ก็คือ ไม่มีโต๊ะเครื่องแป้ง!!! ไม่มีเสื้อผ้าของผู้หญิงที่จะสวมใส่!!! และที่สำคัญห้องนี้ไม่มีกระจกสักบาน!!!

    เจ้าหญิงกาเซียเพคะเสวยก่อนนะเพคะ เดี๋ยวหม่อมฉันจะแจ้งพระประสงค์ของพระราชาให้ทราบ” แต่ก่อนแม่นมจะพูดจบไปเพียงเสี้ยววินาทีอาหารบนโต๊ะก็อันตรธานหายแว้บ....ไปอยู่ในท้องของกาเซียเรียบร้อยแล้ว OoO’

    เมื่อกี้นมพูดอะไรนะ ฉันไม่ได้ฟังเลยอ่ะ เอื้อก = ^.^ = ” สาวน้อยผู้อิ่มแปร้ลงไปนอนตีพุง ปุ้งๆ อยู่ในฟูกต่อ

    “เอ่อ....ไม่มีอะไรเพคะ งั้นนมขอเข้าเรื่องเลยละกัน พระราชาทรงมีพระราชประสงค์ให้ส่งตัวเจ้าหญิงไปศึกษาต่อที่โรงเรียนมหาเวททางตอนเหนือของเมจิกแลนด์เพคะ” พอสาวน้อยที่ตั้งหน้าตั้งตาฟัง (มั้ง) ได้ยินคำว่าส่งไปเรียนที่เมจิกแลนด์ก็โดดโหย่งขึ้น ก่อนจะรีบจัดการกิจวัตรประจำวันอย่างรวดเร็วและไม่กี่นาทีต่อมาเธอก็พร้อมจะเปิดสงครามน้ำลายกับผู้เป็น “เสด็จพ่อ”

    ส่วนทางด้านพระราชาชอลอตเองก็กำลังรบรากับกองเอกสารที่หลั่งไหลมาเหมือนดั่งน้ำฝน แต่ถึงกระนั้นแม้งานหนักเพียงไรก็ยังเสียเวลามาเสวนากับพระธิดาจอมซนที่โผล่มาได้ทุกเมื่อ พูดถึงก็มา ประตูบานใหญ่ถูกเปิดออกแล้วปิดลงพร้อมกับการย่างก้าวเข้ามาที่ไม่สมกับเป็นหญิงเท่าไรนักของเจ้าหญิงกาเซีย

    “เสด็จพ่อ…!!! จริงหรือที่จะให้ลูกไปอยู่โรงเรียนหมาเวทอะไรนั้นน่ะ!!!” กาเซียเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจ

    “มหาเวทลูก…” พระราชาเงยพระพักตร์ขึ้นมาสบกับพระธิดาแสนซน ดวงตาสีเพริโดต์ที่บ่งบอกถึงความขบขันเล็กน้อย กับผมสีบรอนทองซึ่งแตกต่างกับกาเซียโดยสิ้นเชิง ข้างๆโต๊ะทรงงานมีหญิงสาวผู้หนึ่งยืนยิ้มอย่างเมตตาและเอ็นดู นางเพรียบพร้อมไปเสียหมดทุกอย่าง ทั้งความงาม กิริยา วาจา และน้ำใจพระราชินีรอลิน ต่างกับธิดาของนางที่เป็นม้าดีดกะโหลกมาแต่เด็ก ได้แผลประจำจากการเล่นซน แต่คนคนนี้ก็จะดูแลเอาใจใส่เสมอมา

    “ลูกคงรู้เรื่องแก้วมนตร์ตราแล้วใช่ไหมจ้ะ?” น้ำเสียงอ่อนนุ่มจากผู้เป็นแม่เอ่ยถาม

    “ค่ะรู้แล้ว……..เดี๋ยว!!! แล้วมันเกี่ยวยังไงกับลูกล่ะ!!!” กาเซียถาม

    “ลูกเป็นลูกของพ่อกับแม่….ลูกเป็นธิดาเทพและในคำทำนายนั้นก็ออกมาเช่นนี้…..พ่อจึงต้องส่งลูกไปอยู่ที่โรงเรียนมหาเวท…” พระราชาอธิบาย

    “เพราะที่นั่นเป็นจุดนัดพบของผู้ถูกเลือกงั้นเหรอ?” กาเซียว่าพลางกุมขมับตัวเอง พระราชาและพระราชินีผงกพักตร์พร้อมกัน

    “ไม่ต้องห่วงจ่ะลูกที่นั่นน่ะเขามีเวทมนตร์ป้องกันตัวเองจากหายนะเป็นบริเวณกว้างเลย อาหารการกินก็สมบูรณ์ ไม่มีโรคภัยด้วย” พระราชินีรอลินเอ่ยและส่งยิ้มให้ธิดาของตน

    “ค่อยยังชั่วหน่อย….งั้นลูกออกเดินทางเลยนะคะ” สาวน้อยที่ตอนแรกไม่ยังกะชอบโรงเรียนนี้เอาเท่าไหร่เลยแต่บัดนี้อาหารอันอุดมสมบูรณ์รออยู่ รู้อย่างเดียวคือต้องรีบไป (อะไรกันเนี่ย)

    “เหมือนตอนเด็กๆเลยนะ ไม่เคยกลัวอะไรโตมาก็ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนสักนิด เฮ้อ…แล้วอย่างนี้แม่กับพ่อจะได้ลูกเขยไหมเนี่ย…?” พระราชินีเดินเข้าไปสวมกอดเด็กสาวก่อนจะอวยพรให้

    “ขอให้ลูกประสบความสำเร็จ คิดสิ่งใดประการใดก็ขอให้สมปรารถนา ดูแลตัวเองดีๆด้วยล่ะ แล้วอย่าชกหน้าผู้ชายอีกล่ะ” กาเซียยิ้มแห้งๆก่อนจะเตรียมตัวออกเดินทาง

    ตะวันบ่ายคล่อยของวันนั้นม้าหนุ่มลูกผสมระหว่างเพกาซัสกับยูนิคอนก็ทะยานออกจากนครลอยฟ้าสู่โรงเรียนมหาเวทเลื่องชื่อสถานที่ที่การผจญภัยอันแสนสนุกจะเริ่มต้นขึ้น

    ______________________________________________________________________________

    *เพริโดต์ = เป็นอัญมณีสีเชียว เขียวแกมเหลือง เขียวส้ม

    มีความวาวแบบแก้ว

    เพริโดต์ = เป็นอัญมณีสีเชียว เขียวแกมเหลือง เขียวส้ม

    มีความวาวแบบแก้ว

    ส่วนทางด้านพระราชาชอลอตเองก็กำลังรบรากับกองเอกสารที่หลั่งไหลมาเหมือนดั่งน้ำฝน แต่ถึงกระนั้นแม้งานหนักเพียงไรก็ยังเสียเวลามาเสวนากับพระธิดาจอมซนที่โผล่มาได้ทุกเมื่อ พูดถึงก็มา ประตูบานใหญ่ถูกเปิดออกแล้วปิดลงพร้อมกับการย่างก้าวเข้ามาที่ไม่สมกับเป็นหญิงเท่าไรนักของเจ้าหญิงกาเซีย

    “เสด็จพ่อ…!!! จริงหรือที่จะให้ลูกไปอยู่โรงเรียนหมาเวทอะไรนั้นน่ะ!!!” กาเซียเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจ

    “มหาเวทลูก…” พระราชาเงยพระพักตร์ขึ้นมาสบกับพระธิดาแสนซน ดวงตาสีเพริโดต์ที่บ่งบอกถึงความขบขันเล็กน้อย กับผมสีบรอนทองซึ่งแตกต่างกับกาเซียโดยสิ้นเชิง ข้างๆโต๊ะทรงงานมีหญิงสาวผู้หนึ่งยืนยิ้มอย่างเมตตาและเอ็นดู นางเพรียบพร้อมไปเสียหมดทุกอย่าง ทั้งความงาม กิริยา วาจา และน้ำใจพระราชินีรอลิน ต่างกับธิดาของนางที่เป็นม้าดีดกะโหลกมาแต่เด็ก ได้แผลประจำจากการเล่นซน แต่คนคนนี้ก็จะดูแลเอาใจใส่เสมอมา

    “ลูกคงรู้เรื่องแก้วมนตร์ตราแล้วใช่ไหมจ้ะ?” น้ำเสียงอ่อนนุ่มจากผู้เป็นแม่เอ่ยถาม

    “ค่ะรู้แล้ว……..เดี๋ยว!!! แล้วมันเกี่ยวยังไงกับลูกล่ะ!!!” กาเซียถาม

    “ลูกเป็นลูกของพ่อกับแม่….ลูกเป็นธิดาเทพและในคำทำนายนั้นก็ออกมาเช่นนี้…..พ่อจึงต้องส่งลูกไปอยู่ที่โรงเรียนมหาเวท…” พระราชาอธิบาย

    “เพราะที่นั่นเป็นจุดนัดพบของผู้ถูกเลือกงั้นเหรอ?” กาเซียว่าพลางกุมขมับตัวเอง พระราชาและพระราชินีผงกพักตร์พร้อมกัน

    “ไม่ต้องห่วงจ่ะลูกที่นั่นน่ะเขามีเวทมนตร์ป้องกันตัวเองจากหายนะเป็นบริเวณกว้างเลย อาหารการกินก็สมบูรณ์ ไม่มีโรคภัยด้วย” พระราชินีรอลินเอ่ยและส่งยิ้มให้ธิดาของตน

    “ค่อยยังชั่วหน่อย….งั้นลูกออกเดินทางเลยนะคะ” สาวน้อยที่ตอนแรกไม่ยังกะชอบโรงเรียนนี้เอาเท่าไหร่เลยแต่บัดนี้อาหารอันอุดมสมบูรณ์รออยู่ รู้อย่างเดียวคือต้องรีบไป (อะไรกันเนี่ย)

    “เหมือนตอนเด็กๆเลยนะ ไม่เคยกลัวอะไรโตมาก็ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนสักนิด เฮ้อ…แล้วอย่างนี้แม่กับพ่อจะได้ลูกเขยไหมเนี่ย…?” พระราชินีเดินเข้าไปสวมกอดเด็กสาวก่อนจะอวยพรให้

    “ขอให้ลูกประสบความสำเร็จ คิดสิ่งใดประการใดก็ขอให้สมปรารถนา ดูแลตัวเองดีๆด้วยล่ะ แล้วอย่าชกหน้าผู้ชายอีกล่ะ” กาเซียยิ้มแห้งๆก่อนจะเตรียมตัวออกเดินทาง

    ตะวันบ่ายคล่อยของวันนั้นม้าหนุ่มลูกผสมระหว่างเพกาซัสกับยูนิคอนก็ทะยานออกจากนครลอยฟ้าสู่โรงเรียนมหาเวทเลื่องชื่อสถานที่ที่การผจญภัยอันแสนสนุกจะเริ่มต้นขึ้น

    ______________________________________________________________________________

    *เพริโดต์ = เป็นอัญมณีสีเชียว เขียวแกมเหลือง เขียวส้ม

    มีความวาวแบบแก้ว

    มีความวาวแบบแก้ว

    “เอ่อ....ไม่มีอะไรเพคะ งั้นนมขอเข้าเรื่องเลยละกัน พระราชาทรงมีพระราชประสงค์ให้ส่งตัวเจ้าหญิงไปศึกษาต่อที่โรงเรียนมหาเวททางตอนเหนือของเมจิกแลนด์เพคะ” พอสาวน้อยที่ตั้งหน้าตั้งตาฟัง (มั้ง) ได้ยินคำว่าส่งไปเรียนที่เมจิกแลนด์ก็โดดโหย่งขึ้น ก่อนจะรีบจัดการกิจวัตรประจำวันอย่างรวดเร็วและไม่กี่นาทีต่อมาเธอก็พร้อมจะเปิดสงครามน้ำลายกับผู้เป็น “เสด็จพ่อ”

    ส่วนทางด้านพระราชาชอลอตเองก็กำลังรบรากับกองเอกสารที่หลั่งไหลมาเหมือนดั่งน้ำฝน แต่ถึงกระนั้นแม้งานหนักเพียงไรก็ยังเสียเวลามาเสวนากับพระธิดาจอมซนที่โผล่มาได้ทุกเมื่อ พูดถึงก็มา ประตูบานใหญ่ถูกเปิดออกแล้วปิดลงพร้อมกับการย่างก้าวเข้ามาที่ไม่สมกับเป็นหญิงเท่าไรนักของเจ้าหญิงกาเซีย

    “เสด็จพ่อ…!!! จริงหรือที่จะให้ลูกไปอยู่โรงเรียนหมาเวทอะไรนั้นน่ะ!!!” กาเซียเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจ

    “มหาเวทลูก…” พระราชาเงยพระพักตร์ขึ้นมาสบกับพระธิดาแสนซน ดวงตาสีเพริโดต์ที่บ่งบอกถึงความขบขันเล็กน้อย กับผมสีบรอนทองซึ่งแตกต่างกับกาเซียโดยสิ้นเชิง ข้างๆโต๊ะทรงงานมีหญิงสาวผู้หนึ่งยืนยิ้มอย่างเมตตาและเอ็นดู นางเพรียบพร้อมไปเสียหมดทุกอย่าง ทั้งความงาม กิริยา วาจา และน้ำใจพระราชินีรอลิน ต่างกับธิดาของนางที่เป็นม้าดีดกะโหลกมาแต่เด็ก ได้แผลประจำจากการเล่นซน แต่คนคนนี้ก็จะดูแลเอาใจใส่เสมอมา

    “ลูกคงรู้เรื่องแก้วมนตร์ตราแล้วใช่ไหมจ้ะ?” น้ำเสียงอ่อนนุ่มจากผู้เป็นแม่เอ่ยถาม

    “ค่ะรู้แล้ว……..เดี๋ยว!!! แล้วมันเกี่ยวยังไงกับลูกล่ะ!!!” กาเซียถาม

    “ลูกเป็นลูกของพ่อกับแม่….ลูกเป็นธิดาเทพและในคำทำนายนั้นก็ออกมาเช่นนี้…..พ่อจึงต้องส่งลูกไปอยู่ที่โรงเรียนมหาเวท…” พระราชาอธิบาย

    “เพราะที่นั่นเป็นจุดนัดพบของผู้ถูกเลือกงั้นเหรอ?” กาเซียว่าพลางกุมขมับตัวเอง พระราชาและพระราชินีผงกพักตร์พร้อมกัน

    “ไม่ต้องห่วงจ่ะลูกที่นั่นน่ะเขามีเวทมนตร์ป้องกันตัวเองจากหายนะเป็นบริเวณกว้างเลย อาหารการกินก็สมบูรณ์ ไม่มีโรคภัยด้วย” พระราชินีรอลินเอ่ยและส่งยิ้มให้ธิดาของตน

    “ค่อยยังชั่วหน่อย….งั้นลูกออกเดินทางเลยนะคะ” สาวน้อยที่ตอนแรกไม่ยังกะชอบโรงเรียนนี้เอาเท่าไหร่เลยแต่บัดนี้อาหารอันอุดมสมบูรณ์รออยู่ รู้อย่างเดียวคือต้องรีบไป (อะไรกันเนี่ย)

    “เหมือนตอนเด็กๆเลยนะ ไม่เคยกลัวอะไรโตมาก็ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนสักนิด เฮ้อ…แล้วอย่างนี้แม่กับพ่อจะได้ลูกเขยไหมเนี่ย…?” พระราชินีเดินเข้าไปสวมกอดเด็กสาวก่อนจะอวยพรให้

    “ขอให้ลูกประสบความสำเร็จ คิดสิ่งใดประการใดก็ขอให้สมปรารถนา ดูแลตัวเองดีๆด้วยล่ะ แล้วอย่าชกหน้าผู้ชายอีกล่ะ” กาเซียยิ้มแห้งๆก่อนจะเตรียมตัวออกเดินทาง

    ตะวันบ่ายคล่อยของวันนั้นม้าหนุ่มลูกผสมระหว่างเพกาซัสกับยูนิคอนก็ทะยานออกจากนครลอยฟ้าสู่โรงเรียนมหาเวทเลื่องชื่อสถานที่ที่การผจญภัยอันแสนสนุกจะเริ่มต้นขึ้น

    ______________________________________________________________________________

    *เพริโดต์ = เป็นอัญมณีสีเชียว เขียวแกมเหลือง เขียวส้ม

    มีความวาวแบบแก้ว

    เพริโดต์ = เป็นอัญมณีสีเชียว เขียวแกมเหลือง เขียวส้ม

    มีความวาวแบบแก้ว

    ส่วนทางด้านพระราชาชอลอตเองก็กำลังรบรากับกองเอกสารที่หลั่งไหลมาเหมือนดั่งน้ำฝน แต่ถึงกระนั้นแม้งานหนักเพียงไรก็ยังเสียเวลามาเสวนากับพระธิดาจอมซนที่โผล่มาได้ทุกเมื่อ พูดถึงก็มา ประตูบานใหญ่ถูกเปิดออกแล้วปิดลงพร้อมกับการย่างก้าวเข้ามาที่ไม่สมกับเป็นหญิงเท่าไรนักของเจ้าหญิงกาเซีย

    “เสด็จพ่อ…!!! จริงหรือที่จะให้ลูกไปอยู่โรงเรียนหมาเวทอะไรนั้นน่ะ!!!” กาเซียเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจ

    “มหาเวทลูก…” พระราชาเงยพระพักตร์ขึ้นมาสบกับพระธิดาแสนซน ดวงตาสีเพริโดต์ที่บ่งบอกถึงความขบขันเล็กน้อย กับผมสีบรอนทองซึ่งแตกต่างกับกาเซียโดยสิ้นเชิง ข้างๆโต๊ะทรงงานมีหญิงสาวผู้หนึ่งยืนยิ้มอย่างเมตตาและเอ็นดู นางเพรียบพร้อมไปเสียหมดทุกอย่าง ทั้งความงาม กิริยา วาจา และน้ำใจพระราชินีรอลิน ต่างกับธิดาของนางที่เป็นม้าดีดกะโหลกมาแต่เด็ก ได้แผลประจำจากการเล่นซน แต่คนคนนี้ก็จะดูแลเอาใจใส่เสมอมา

    “ลูกคงรู้เรื่องแก้วมนตร์ตราแล้วใช่ไหมจ้ะ?” น้ำเสียงอ่อนนุ่มจากผู้เป็นแม่เอ่ยถาม

    “ค่ะรู้แล้ว……..เดี๋ยว!!! แล้วมันเกี่ยวยังไงกับลูกล่ะ!!!” กาเซียถาม

    “ลูกเป็นลูกของพ่อกับแม่….ลูกเป็นธิดาเทพและในคำทำนายนั้นก็ออกมาเช่นนี้…..พ่อจึงต้องส่งลูกไปอยู่ที่โรงเรียนมหาเวท…” พระราชาอธิบาย

    “เพราะที่นั่นเป็นจุดนัดพบของผู้ถูกเลือกงั้นเหรอ?” กาเซียว่าพลางกุมขมับตัวเอง พระราชาและพระราชินีผงกพักตร์พร้อมกัน

    “ไม่ต้องห่วงจ่ะลูกที่นั่นน่ะเขามีเวทมนตร์ป้องกันตัวเองจากหายนะเป็นบริเวณกว้างเลย อาหารการกินก็สมบูรณ์ ไม่มีโรคภัยด้วย” พระราชินีรอลินเอ่ยและส่งยิ้มให้ธิดาของตน

    “ค่อยยังชั่วหน่อย….งั้นลูกออกเดินทางเลยนะคะ” สาวน้อยที่ตอนแรกไม่ยังกะชอบโรงเรียนนี้เอาเท่าไหร่เลยแต่บัดนี้อาหารอันอุดมสมบูรณ์รออยู่ รู้อย่างเดียวคือต้องรีบไป (อะไรกันเนี่ย)

    “เหมือนตอนเด็กๆเลยนะ ไม่เคยกลัวอะไรโตมาก็ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนสักนิด เฮ้อ…แล้วอย่างนี้แม่กับพ่อจะได้ลูกเขยไหมเนี่ย…?” พระราชินีเดินเข้าไปสวมกอดเด็กสาวก่อนจะอวยพรให้

    “ขอให้ลูกประสบความสำเร็จ คิดสิ่งใดประการใดก็ขอให้สมปรารถนา ดูแลตัวเองดีๆด้วยล่ะ แล้วอย่าชกหน้าผู้ชายอีกล่ะ” กาเซียยิ้มแห้งๆก่อนจะเตรียมตัวออกเดินทาง

    ตะวันบ่ายคล่อยของวันนั้นม้าหนุ่มลูกผสมระหว่างเพกาซัสกับยูนิคอนก็ทะยานออกจากนครลอยฟ้าสู่โรงเรียนมหาเวทเลื่องชื่อสถานที่ที่การผจญภัยอันแสนสนุกจะเริ่มต้นขึ้น

    ______________________________________________________________________________

    *เพริโดต์ = เป็นอัญมณีสีเชียว เขียวแกมเหลือง เขียวส้ม

    มีความวาวแบบแก้ว

    มีความวาวแบบแก้ว

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×