ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เมื่อไหร่ใจก็ตามหารัก

    ลำดับตอนที่ #3 : ก้อนหินบนผืนทราย - ก็แค่ก้อนหินก้อนหนึ่ง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 36
      0
      18 ต.ค. 49

    หญิงสาว 

    เปรียบเสมือนความอ่อนนุ่มอ่อนไหว ของผืนทรายที่เปียกชุ่มน้ำตามชายหาด  ที่อ่อนนุ่มและละเอียดอ่อนยามได้สัมผัส

    ความรัก  

    เปรียบดั่งผืนน้ำที่ที่คอยชะล้างผืนทรายให้สะอาดและกัดกร่อนเม็ดทรายที่ยังแหลมคมทีละน้อยให้เล็กลงจนเป็นเม็ดทรายละเอียด

    แต่บางครั้ง 

    บนผืนทรายนั้นก็อาจจะมีก้อนหินที่ใหญ่เกินกว่าที่จะได้รับการขัดเกลาจากเม็ดทรายที่อยู่เคียงข้างและผืนน้ำให้เล็กละเอียดในเวลาสั้นๆ

    บางครั้ง

    คนที่ได้สัมผัสก้อนหินนั้นก็จะหยิบมันขึ้นมา  แล้วโยนทิ้งไป   แต่กับบางคน   กลับเก็บหินก้อนนั้นไว้

    แล้วเมื่อไหร่กันนะ  

    ก้อนหินก้อนนี้จะถูกเก็บเสียที ...

     

    นุช  ++   " นี่ยายโฟม  ไหว้ละนะ  เลิกทำตัวเป็นแม่แก่เสียทีเหอะ"

    โฟม !!     " ตรงไหนยะ  ชั้นก็แค่ไม่สนใจไอ้เรื่องความรักอย่างหล่อนก็เท่านั้น "

    นุช  ++   " ชั้นจะบ้าตายกับหล่อนจริงๆ  ตกลงจะไม่ยอมรับรู้ความรู้สึกชาวบ้านว่างั้น  เฮ้อ แม่หินแกรนิตพันปี "

    โฟม !!     " ใครจะเหมือนหล่อนล้ะ  แม่หาดทรายขาวยามเย็น  แหม  ตั้งแต่คืนดีกับหมอนั่นทำมาเป็นอ่อนไหวนะยะ  ที่เมื่อก่อนล่ะ .."

    นุช  ++    " อะไร  ชั้นทำไม  พูดให้ดีนะยะ  "

    ....

    .....

                     " เจ๊ ... เถียงกับเจ๊นุชทางเอ็มนี่มันสนุกมากหรือไง  เห็นนั่งกัดกันแต่เช้าละนะ "    เสียงถามจากด้านหลังทำเอาโฟมที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาเถียงเพื่อนรักสะดุ้งเฮือก  เธอรีบหันมาน้องชายที่ยืนทำหน้าซังกะตายอยู่แล้วทำหน้าเครียด 

                    " เจ้าปาร์ค  บอกตั้งแต่ชาติก่อนแล้วนะว่าอย่ามาข้างหลังแบบนี้  อยากเจอหลังแหวนหรือไง " เสียงแหวดังลั่นบ้านก่อนจะเงื้อมือหมายจะเขกกะโหลกน้องชายตัวแสบที่ทำหน้าลิงหลอกเจ้าอยู่ไกล

                    " โห่เจ๊  แก่ปานนี้ละอย่าออกแรงมากน่ะ  เดี๋ยวกระดูกหักไม่รู้ด้วย  ไปดีกว่าอ้อ เย็นแล้วนะรีบไปทำกับข้าวได้แล้ว  ปาร์คหิว เข้าใจ๋ "  น้องชายตัวดีทำหน้าล่อหลอกก่อนจะวิ่งลงชั้นล่างด้วยความรวดเร็ว

                    " ไอ้น้องบ้า  อย่าให้จับได้นะแม่จะตื๊บให้ อ้าวจะ 5 โมงแล้วเหรอเนี่ย " โฟมทำตาโตเมื่อเงยหน้ามองนาฬิกาข้างฝา  มิน่าเจ้าตัวแสบถึงได้ขึ้นมาก่อกวนแบบนี้  โฟมหันกลับไปนั่งหน้าจออีกครั้งก่อนจะพิมพ์ข้อความลาเพื่อน 

     

    โฟม !!    " ชั้นไปทำกับข้าวก่อนนะ  เจ้าปาร์คมันโวยวายแล้วรำคาญ "

    นุช  ++   " ไปเหอะ  น้องเธอนี่ยังแสบเหมือนเดิมเลยนะ  แต่ก็เป็นเด็กดีนี่  เอาเหอะ  ซนตามประสาเด็ก "

    โฟม !!    " มั้ง  บางทีมันก็ทำท่าเป็นผู้ใหญ่ซะจนชั้นนึกว่าผีเข้า  แต่บางทีมันเหมือนลิงเลยแหละ "

    นุช  ++   " บ่นเข้าไป  เห็นมันไม่สบายทีไร  หล่อนแหละวิ่งหน้าตาตื่นร้องไห้ยังกะน้องจะตายวันตายพรุ่งทุกที "

    โฟม !!   " อ้าว  แล้วจะให้หัวเราะเหรอไงล่ะ  ชั้นเหลือน้องคนเดียวนี่นา  ไม่เอาละ  ไปทำกับข้าวก่อน  เจอกันใหม่จ้ะ  ฝากหวัดดีน้อง

    แอ๋วด้วยล่ะ พักนี้ไม่เจอเลย "

    นุช  ++   " อ๋อ  ได้ๆ  ก็อยู่แถวนี้แหละ  อยู่ครบเลย แล้วเจอกัน  บายจ้ะ "

    โฟม !!   " บายๆ  เจอกันๆ "

                    " โหยเจ๊อ่ะ  เร็วเด่ะ  เดี่ยวตลาดก็วายหรอก "  ปาร์คที่นั่งรออยู่ทำหน้างอโวยวายในมือมีกุญแจมอเตอร์ไซค์คันเก่งกับหมวกกันน็อครออยู่

                    " เออน่ะ  ช้านิดหน่อยทำบ่น ไปได้แล้ว "  โฟมโคลงศรีษะไปมาจนผมปลิว  นึกขำน้องชายที่ทำตัวเหมือนเด็ก 

                    " ปาร์คอยากกินหมูทอดกระเทียม  ผัดคะน้าปลาเค็ม  แล้วก็ ... " 

                    " พอๆเจ้าปาร์ค  กินหรือยัด " 

                    " โหย  พี่โฟมอ่ะ "  ปาร์คทำหน้างอแงเป็นเด็กเมื่อโดนขัดคอ  แต่แล้วก็หัวเราะออกมาเมื่อพี่หัวเราะ  เขาชอบเห็นพี่หัวเราะมากกว่าทำหน้าบึ้ง 

                    " เอาเป็นว่าแถมแกงจืดให้แล้วกัน "  โฟมทำหน้าหน่ายแต่ก็ยอมตามใจจนได้   ปาร์คยิ้มกว้างก่อนจะรีบคว้ามือพี่สาวให้ตามไปทันที

                    " เย้  ป่ะๆ  เดี๋ยวตลาดวาย  อดกิน  เร็วๆ "  

                    " โอ้ย  ช้าๆสิ "

                    สองพี่น้องโวยวายกันขณะออกจากบ้าน  เป็นภาพปกติที่บ้านข้างเคียงจะได้เห็น  บ้านหลังน้อยน่ารักมรดกชิ้นสุดท้ายของพ่อแม่ที่ทิ้งไว้ให้กับสองพี่น้องที่อยู่ด้วยกันตามลำพังท่ามกลางการต่อสู้แย่งชิงสมบัติของหมู่ญาติเมื่อสิ้นบิดามารดา   โฟมต้องต่อสู้กับบรรดาฝูงแร้งกาที่ต้องการเข้ามาอุปการะเธอและน้องเพื่อหวังมรดกที่พ่อแม่เหลือไว้อย่างลำบากยากเข็ญกว่าที่จะได้อยู่อย่างสงบ   โฟมเลี้ยงน้องด้วยตัวเองและทำงานอย่างหนักเพื่อไม่ให้ทรัพย์สมบัติของพ่อแม่สูญเสียโดยสิ้นเปลือง   ส่วนปาร์คเอง  ถึงจะดื้อจะซนแต่ก็รักและเชื่อฟังพี่สาวเสมอทำให้รอยยิ้มและเสียงหัวเราะยังคงหลงเหลือในบ้านหลังนี้แม้จะมีกันแค่สองคนพี่น้องก็ตาม

                    " เฮ้  พี่โฟม ดูเด่ะมีคลีนิคมาเปิดแถวซอยเราด้วยแหละ "  ปาร์คชี้ให้พี่สาวดูคลีนิคที่กำลังจะเปิดทำการในอีกไม่กี่วันข้างหน้าขณะที่กำลังเดินกลับไปยังที่จอดรถข้างตลาดทำให้โฟมต้องหยุดยืนมอง

                    " หือ  อืม  ก็ดีนะ  เวลาไม่ปาร์คไม่สบายจะได้ไม่ต้องไปหาหมอไกลๆ  แต่จะรักษาดีหรือเปล่าไม่รู้ " โฟมมองตามมือน้องชาย  สมองก็คิดไปเรื่อย  ปาร์คนั้นถึงจะดูแข็งแรง  แต่แท้จริงแล้วเด็กหนุ่มร่างกายไม่แข็งแรงแต่เด็กทำให้โฟมต้องดูแลอย่างใกล้ชิดมาตลอด

                    " โห  นี่เจ๊ไม่คิดจะเป็นไข้เหมือนชาวบ้านมั่งหรือไง "  ปาร์คบ่น  แต่ก็รู้ดีว่าอย่างพี่สาวของตนนั้นคงยาก

                    " ไม่มีทาง คนอย่างชั้นมันพันธุ์อึดย่ะ " โฟมทำหน้าหยิ่งยะโสแล้วก็หัวเราะออกมาเมื่อเห็นน้องทำหน้าเจื่อนๆ  มือเรียวยกขึ้นเสยผมของน้องชายเบาๆ

                    " ขืนพี่ไม่สบาย  ใครจะทำกับข้าวให้ปาร์คกินล่ะ "  น้ำเสียงนุ่มบ่งบอกถึงความรักและห่วงใยชัดเจนทำให้ปาร์คยิ้มออกมา  พี่สาวไม่เคยคิดเรื่องตัวเองแม้แต่ครั้งเดียว

                    " นั่นสิเนาะ  อีกอย่างนะ  คนที่จะทนกินกับข้าวเจ๊ได้ก็มีแต่ปาร์คแหละ " 

                    " หนอย  เจ้าปาร์คกลับมานี่นะมาให้เขกหัวซะดีๆ  "

                    โฟมวิ่งไล่น้องชายไปอย่างรวดเร็ว  ปาร์คหัวเราะร่าหิ้วถุงผักและเครื่องปรุงอาหารเย็นนี้วิ่งหนีพี่สาวอย่างรวดเร็วโดยมีร่างบางของพี่วิ่งตามมาพร้อมเสียงด่า  ทำให้คนที่เห็นอดยิ้มกับความน่ารักของสองพี่น้องไม่ได้ 

                    " ตามมาเลยๆ  ชักช้าเดินกลับน๊า "

                    " หนอย  เจ้าปาร์ค  เอาเซ่  วันนี้กินข้าวคลุกน้ำปลาแน่ "  โฟมโวยวายวิ่งไล่ตามน้องจนถึงที่จอดรถก่อนจะจับน้องเขกหัวจนได้  สองพี่น้องไม่รู้เลยว่าสงครามย่อยๆของตนนั้นกำลังอยู่ในสายตาคมของใครคนหนึ่งอยู่ 

     

                    " ดูอะไรเหรอคะพี่ดิศ "  เสียงใสถามขณะเอื้อมมือมาจับแขนแกร่ง  ดวงตาใสเงยขึ้นมองพี่ชายพราวระยับสดใส

                    " ไม่มีอะไรหรอก  ดาซื้ออะไรมา " ชายหนุ่มร่างสูงก้มมองของในมือร่างบางแล้วดึงมาถือเอง  สาวน้อยในชุดขาวของนักศึกษาพยาบาลยิ้มจนตาหยีก่อนจะเดินคล้องแขนชายร่างสูงในชุดสะอาดตาเคียงกันไป

                    ชายหนุ่มหันมามองสองพี่น้องที่ยังเล่นกันอยู่อีกครั้ง   แต่ครั้งนี้โฟมซึ่งอยู่ในจังหวะหันมาทางเขาพอดีทำให้หยุดชะงักสายตาทั้งสองคู่ประสานกันนิ่ง  ราวกับจะหยั่งความรู้สึก  ดวงตาคมภายใต้แว่นกรอบหนาดูเคร่งขรึมประสานเข้ากับดวงตาคู่สวยที่แปรเปลี่ยนเป็นวาววับทันทีที่เห็นเขาก่อนจะสะบัดหน้าไปคุยกับเด็กหนุ่มข้างๆก่อนจะรีบซ้อนท้ายกันออกไป

                    " พี่ดิศคะ  ดาหิวแล้วนะ  รีบไปเถอะ "  เสียงใสร้องบอก  มือเรียวกระตุกแขนของร่างสูงให้เดินตาม   กันดิศหันมามองสาวน้อยที่ทำหน้างอแล้วหัวเราะเบาๆก่อนจะยอมเดินตามแรงดึงจากมือน้อยนั้นเข้าไปยังตึกที่กำลังตกแต่งใหม่   ด้านบนนั้นกำลังติดป้ายตัวใหญ่เพื่อมองเห็นได้ชัดเจน

                    ....  กันดิศคลีนิค ...

     

                                                    ****************************************************

     

                    " นี่เจ๊  รมณ์เสียไรเหรอ ไม่พูดไม่จาตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนะ "  ปาร์คเดินทำหน้างงตามพี่สาวที่ไม่พูดไม่จาเข้าบ้านมา

                    " โกรธปาร์คเหรอ "  เสียงละห้อยถาม  ทำให้โฟมรู้สึกตัวรีบหันมาหาน้องชายทันที

                    " เปล่าหรอก  ไม่ใช่  พี่แค่ไม่ถูกใจคนที่เราเจอที่ตลาด "  โฟมรีบบอกทันที  ปาร์คนิ่วหน้านึกไม่ออกว่าพี่สาวหมายถึงใคร

                    " ใครเหรอ  คนที่เราเจอก็คนคุ้นๆกันทั้งนั้นนี่นา " ปาร์คบ่นพลางทบทวนว่าเมื่อครู่พวกเขาเจอใครบ้าง  แต่ก็ไม่เห็นว่าจะมีใครที่น่าจะทำให้พี่สาวอารมณ์เสียได้เลย

                    " ไม่ต้องคิดหรอก  ปาร์คไม่เห็นหรอกน่ะ ช่างเหอะไปอาบน้ำซะ พี่จะทำกับข้าว " โฟมบอกพลางหิ้งถุงกับข้าวเข้าครัว ปาร์ค มองตามหลังพี่สาวไปแต่ก็ตัดใจขึ้นไปอาบน้ำตามคำสั่ง  อย่างน้อย  การทำตัวว่าง่ายตอนที่พี่อารมณ์ไม่ดีก็ถือว่าเป็นหน้าที่ของน้องที่ดีเหมือนกันนะ

                    " หวาวว  หมูทอดๆ "  ปาร์คที่อาบน้ำเสร็จแล้ววิ่งลงมาจากชั้นบน  กลิ่นหอมของกับข้าวลอยมาแตะจมูกเรียกน้ำลายได้ชะงัด 

                    " เอ้ายกไปได้แล้ว "  โฟมยกชามแกงจืดยื่นให้น้องที่ทำตาวาวมองหมูทอดชิ้นโตอยู่   ปาร์คทำแก้มตุ่ยแต่ก็ยอมยกชามไปตั้งโต๊ะแต่โดยดี 

                    " เจ๊  ว่าแต่ช่วงนี้ไม่เห็นพวกพเจ๊นุชมาเที่ยวบ้านเราเลยล่ะ "  ปาร์คถามขึ้นขณะที่เอื้อมไปหยิบหมูชิ้นโต

                    " คงยุ่งมั้ง  ร้านกำลังไปได้ดี  คิดถึงหรือไง " 

                    " ก็นะ ไม่ได้เจอกันนานเลย "  ปาร์คโคลงศรีษะไปมาแล้วหัวเราะ  เมื่อนึกถึงเพื่อนๆของพี่สาว

                    " นั่นสินะ เอาเหอะไว้ว่างๆเราค่อยไปเยี่ยมเค้ากัน  รีบกินเถอะ  จะได้พักพรุ่งนี้พี่มีงานแต่เช้าด้วย "  โฟมว่าก่อนจะกินข้าวต่อทำให้ปาร์คต้องเงียบเสียงลงบ้าง   ตัวเขาเองพรุ่งนี้ก็มีเรียนเหมือนกันนี่นา

                    " เจ๊  เย็นนี้ปาร์คกลับค่ะหน่อยนะ  จะเร่งทำงานกลุ่มกับเพื่อน "  ปาร์คบอกโฟมที่กำลังปิดประตูบ้าน  โฟมหันมามองหน้าน้องชายอย่างเป็นห่วงทันที

                    " เจ๊  ปาร์คทำงานกลุ่มกับเพื่อน  ไม่ได้ไปเกเร  ดูทำหน้าเข้าสิ "  ปาร์คล้อเลียนพี่สาวเข้าใจดีว่าพี่ห่วงเขา

                    " อืม  ก็อย่ากลับดึกนะ แล้วพักนี้เวียนหัวอีกไหม "  โฟมพยักหน้าพลางยิ้มแต่ก็อดถามไม่ได้

                    " ไม่แล้วฮะ งั้นปาร์คไปนะ"  เด็กหนุ่มโบกมือให้พี่สาวก่อนจะสตาร์ทรถแล้วเคลื่อนตัวออกไป  โฟมมองตามน้องชายไปก่อนที่จะเดินไปยังรถที่จอดไว้ในโรงรถ 

                    รถยนต์สีขาวคันเล็กดูเก่าคร่ำคร่าแต่ก็ยังสภาพดีเพราะได้รับการดูแลและการใช้งานอย่างถนอมจอดนิ่งอยู่   เจ้าปู่ขาวคันนี้อยู่กับเธอและครอบครัวมานานจนทิ้งไม่ลง  หลายครั้งที่นุชเพื่อนรักของเธอบอกให้เอาไปปลูกผักแทนที่จะเอามาขับแต่เธอก็มักจะให้เหตุผลว่ามันยังขับได้แถมสะดวกเวลาไปไหนเพราะคันเล็ก  ทำเอานุชค้อนตากลับไปหลายรอบ

                    ..  ย่ะ  แม่คนประหยัด ...

     

                    โฟมหัวเราะคิก  เมื่อคิดถึงคำประชดของเพื่อน  เปล่า  เธอไม่ได้ประหยัดหรอก  แต่เจ้าปู่ขาวคันนี้เปรียบเสมือนญาติที่อยู่กันมานานจะให้ทิ้งได้ยังไงกัน  ถึงเงินที่มีอยู่จะพอซื้อรถคันใหม่มาใช้ก็เถอะนะ  ยังไงก็ขอใช้ปู่ขาวดีกว่า  อุ่นใจดี

                    " เอ้า  ไปทำงานกันเถอะปู่ขาว  สายแล้วล่ะ "  โฟมยิ้มกับรถคันเก่งของตนก่อนจะเปิดประตูเข้าไปนั่ง   หวังว่าวันนี้จะเป็นวันที่ดีของเธอนะ

     

                    " ปาร์ค การบ้านอาจารย์วินัยเสร็จยัง "  รุ่งเดินเข้ามาเพื่อนทันทีที่เห็นหน้า  ปาร์คมองหน้าเพื่อนอย่างรู้ทันแล้วยื่นสมุดให้

                    " อ่ะ หัดทำเองมั่งสิวะ เดี่ยวตอนสอบได้ตก "  ปาร์คบ่น  รุ่งหัวเราะกลบเกลื่อนแล้วรับสมุดมาจดอย่างรวดเร็ว

                    " น่า  ถึงตอนนั้นค่อยว่ากัน  ว่าแต่เย็นนี้เตรียมของแล้วนะอยู่ได้ใช่ป่ะ " รุ่งจดไปก็ถามไป 

                    " อื้อ  บอกพี่โฟมแล้วว่าแต่คงเสร็จไม่ดึกนะ  วันนี้เหมือนฝนจะตกด้วยสิ "  ปาร์คเงยหน้ามองท้องฟ้าที่มืดครึ้มแต่เช้า

                    " เป็นกรมอุตุหรือไงแก  นี่มันพึ่งเช้าเอง  บางทีบ่ายๆอาจจะไม่มีก็ได้ "  รุ่งว่าแต่พอเงยหน้ามองฟ้าก็ชักไม่แน่ใจเช่นกัน

                    แล้วสิ่งที่คาดไว้ก็เป็นจริงเมื่อเย็นนั้นฝนก็เทกระหน่ำลงมาไม่ลืมหูลืมตา   แต่ปาร์คและเพื่อนๆในกลุ่มก็ยังนอนใจต่างช่วยกันจัดบอร์ดงานส่งอาจารย์ไปจนเสร็จเพราะคิดว่าเดี๋ยวคงหยุดตก  แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่หยุดสักทีกระทั่งทุกคนทยอยกลับ 

                    " ปาร์ค  เอามอ'ไซค์ไว้นี่เหอะ  ไปกับชั้นดีกว่า "  รุ่งเข้ามาหาเมื่อแม่ของเขามารับแต่ฝนยังไม่หยุดตกทำให้ห่วงว่าปาร์คทำกลับอย่างไร  เพราะรู้ดีว่าเพื่อนร่างกายไม่แข็งแรงเท่าไหร่

                    " อย่าเลย  เดี่ยวชั้นกลับเองได้  ฝนก็ซาไปมากแล้ว  ไม่ต้องห่วงหรอก  ปาร์คกลับนะครับแม่ "  เด็กหนุ่มปฏิเสธเพื่อนเสียงนุ่มก่อนจะหันไปไหว้ลาแม่เพื่อนที่มองมาอย่างเป็นห่วง

                    " ขี่รถระวังนะลูก "

                    " ฮะ "

                    แต่แม้จะระวังแค่ไหน  สายฝนก็ยังสาดซัดจนเด็กหนุ่มเปียกโชกกลับบ้านจนได้  โฟมแทบร้องไห้เมื่อเธอเห็นน้องขี่รถฝ่าสายฝนเข้าบ้านมาตัวเปียกโชกแม้จะมีผ้าคลุมฝนก็ช่วยได้ไม่มากนัก 

                    " ปาร์ค  เข้ามาเร็ว "  โฟมรีบกางร่มเข้าไปรับน้องชายที่หนาวจนตัวสั่นก่อนจะผลักให้ไปอาบน้ำ

                    " อาบน้ำร้อนเลยนะปาร์คเดี๋ยวพี่จะไปเตรียมโอวัลตินร้อนๆให้ "  โฟมบอกเสียงสั่น  ปาร์คพยักหน้าไม่พูดอะไรเดินเข้าห้องน้ำไป  สายน้ำอุ่นที่สาดลงร่างทำให้รู้สึกดีขึ้นมาก 

                    " โห  อะไรเนี่ย  "  ปาร์คยิ้มเดินเช็ดผมที่เชียกชุ่มลงมา  พร้อมกับมองกับข้าวบนโต๊ะ

                    " รีบกินซะ  แล้วกินยา  จะได้นอน "  โฟมบอกพลางเดินมาซ้อนหลังแล้วเช็ดผมให้น้องชายอย่างเบามือ ปาร์คยิ้มนั่งนิ่งให้พี่สาวเช็ดผมให้  แต่ดูเหมือนจะไม่พอใจโฟมจึงไปคว้าไดรเป่าผมมาเป่าแทน

                    " โห  เจ๊ ไม่เอาไฟมาจุดเลยล่ะ "   ปาร์คหัวเราะแต่โฟมทำหน้าเครียดบ่นงึมงำ

                    " เดี่ยวเหอะ  จับราดน้ำมันจุดไฟเป็นไก่ย่างเลย "

                    " ฮะๆๆ  กลัวแล้วฮะกลัวแล้ว "  ปาร์คหัวเราะลั่นในขณะที่โฟมขมักเขม้นกับการเป่าผมน้องให้แห้ง

                    " เฮ้อ  ชักอยากรู้แล้วสิ  ว่าพี่เขยปาร์คจะเป็นแบบไหน  ท่าทางจะกลัวเจ๊หงอไปเลย "  โฟมชะงักไปเล็กน้อยเมื่อได้ยิน  แต่ก็เป่าผมน้องต่อไป  ปากก็ว่า

                    " พี่ไม่สนหรอกน่ะ  ไอ้เรื่องฟงแฟนน่ะ  ความรักมันก็แค่นั้น  เปลี่ยนแปลงง่าย พี่ไม่ชอบ ไร้สาระ " 

                    " ก็เป็นซะงี้  เจ๊นุชถึงได้บอกว่าเจ๊อ่ะ เป็นพวกก้อนหินในพื้นทราย   แบบนี้ใครมาเหยียบเข้าก็คงไม่ชอบมีแต่จะหยิบไปขว้างทิ้ง "  ปาร์คบ่น

                    " แล้วไง  ก็ก้อนหินมันหนักแน่นกว่าไม่ใช่เหรอไง เป็นทรายเม็ดเล็กๆก็โดนน้ำทะเลพัดไปมาตามใจทะเล  ไม่เอาล่ะ  ใครอยากหยิบทิ้งก็หยิบ  จะขว้างไปทางไหนก็ช่าง "  โฟมบ่นอย่างไม่สนใจ   นับตั้งแต่เสียพ่อและแม่ไป  เธอก็ยุ่งกับการดูแลน้องจนไม่มีเวลาไปสนใจเรื่องของความรัก แถมยังออกจะอคติเสียด้วยซ้ำ

                    " แล้วถ้ามีคนเก็บขึ้นมาล่ะเจ๊จะว่าไง "  ปาร์คถามเสียงขรึมทำให้โฟมนิ่งไป  มือเรียววางไดรเป่าผมลงก่อนจะดึงปลั๊กออกแล้วยีผมที่แห้งแล้วของน้องให้เข้าที่

                    " ก็ให้มีคนเก็บก่อนก็แล้วกันค่อยคิด  กินซะจะเอาไดรไปเก็บ "  โฟมบอกก่อนจะคว้าไดรออกไป  ปาร์คมองตามพี่สาวไปเงียบๆ  เขารู้ดีว่าเพราะต้องดูแลเขาทำให้พี่สาวกลายเป็นคนแข็งกระด้าง  ไหนจะต้องต่อสู้กับพวกญาติๆหน้าเงินอีก ทำให้พี่โฟมไม่เชื่อในความรักและความผูกพันของใคร  แต่เขาก็ยังหวังว่าสักวัน  จะมีใครสักคนมาดูแลพี่สาวเขาและมองเห็นความน่ารักของพี่เขาโดยไม่มองความแข็งกร้าวภายนอก

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×