ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พันธนาการ(กอล์ฟ-ไมค์)

    ลำดับตอนที่ #9 : จะตามหาสิ่งที่หายไป 1

    • อัปเดตล่าสุด 16 ธ.ค. 49


     
    che ery 



                       
    แสงแดดยามบ่ายกระทบร่างเด็กสาวแบบบางที่ยืนอยู่ท่ามกลางความสวยงามของดงดอกกล้วยไม้ที่เธอเองชื่นชอบยิ่งนัก ดอกกล้วยไม้หลากหลายสีสัน หลากหลายขนาด กำลังแข่งกันชูช่ออวดเด็กสาวที่กำลังรื่นรมย์อยู่ ณ ขณะนี้แต่แล้วก็มีเสียงเรียกจากคนที่คุ้นเคยดังขึ้นมา

       "นี่ยัยอิง เร็ว ๆ หน่อยซิ" เสียงพี่ชายเรียกอย่างอ่อนใจ ก็น้องสาวช่างโอ้เอ้เสียจริง ๆ
                      "พี่โอบอ่ะ จะรีบไปไหน ยังลาเจ้าพวกนี้ยังไม่หมดเลย"  พี่ชายมองตามมือของน้องสาวซึ่ง ลูบ ๆ คลำ ๆ ปากก็บ่นคำร่ำลาทำยังกับพวกดอกไม้พวกนี้จะรับรู้ยังงั้นแหละ แต่ก็เพราะน้องสาวและผู้หญิงอีกคนที่เขาและป๊ารักนี่แหละ จึงทำให้มีแปลงกล้วยไม้ที่ชื่อ "ดุจตะวัน" ซึ่งเป็นชื่อของมารดาของเขาเองและยังพ้องกับชื่อน้องสาวของเขาอีกด้วย
                       "ไปเหอะ ป๊ารอแล้ว" พี่ชายดึงแขนน้องสาวที่ขืนตัวไว้ ไม่มีทีท่าว่าจะยอมอ่อนข้อให้ง่ายแต่พอเอาป๊ามาอ้างก็ต้องรามือ แต่ไม่วายแจกค้อนให้พี่ชายเสียทีนึง จนผมที่ถูกรวบหางม้าที่เป็นทรงผมประจำตัวของน้องสาวแกว่งมาอยู่อีกด้านของไหล่ ด้วยแรงสะบัด
                       "จะรีบขับไสไล่ส่งอิงไปถึงไหน ไม่รักอิงแล้วใช่มั้ย" น้องสาวช่างหาคำมาเฉือดเฉือนหัวใจพี่ชายได้ดีเสียจริง ด้วยไม่มีสักครั้งที่จะไม่ยอมน้องสาวเมื่อน้องสาวต้องการ
                       "น้อย ๆ หน่อยยัยอิง แค่ไปแป๊ปเดียวแค่นี้ เดี๋ยวก็กลับมา" พี่ชายส่ายหน้า ระอากับคำพูดช่างเปรียบช่างเปรยของน้องสาวที่ทำเป็นประจำ
                      "ไม่คุยกับพี่โอบด้วยแล้ว อิงไปหาป๊าดีกว่า" เด็กสาวเคลื่อนกายอย่างรวดเร็ว โดยไม่รอพี่ชายให้เสียเวลา พูดอีกทีน้องสาวคนนี้ก็เหมือนม้าดีดกะโหลกดีดีนี่เองเพียงแต่มันก็ถูกซ่อนไว้ภายใต้ใบหน้าหวานและร่างที่แบบบางของเด็กสาว ใครบ้างนะจะรู้ว่าจริง ๆ แล้วอิงตะวันน้องสาวเค้า พยศยังกะอะไรดี พี่ชายส่ายหน้าไปมา เมื่อมองเห็นหลังไว ๆ ของน้องสาวที่มุ่งตรงเข้าสู่ตัวบ้าน
                      "อ้าวอิงลูก เก็บเสื้อผ้าเสร็จรึยัง  เดี๋ยวเครื่องก็ออกตอน 1 ทุ่มนะลูก" เสียงทุ้มแต่แฝงด้วยอำนาจและความอบอุ่นแห่งบ้าน  "ดุจตะวัน" ดังขึ้นเมื่อเห็นเด็กสาวเดินหน้าง้ำเข้ามา
                       "เรียบร้อยแล้วค่ะป๊า แหม! ตอนนี้เพิ่งจะสี่โมงเย็นเองนะป๊า จะรีบให้อิงไปไหน" เด็กสาวยืนกอดอกหันหลังให้ผู้เป็นบิดา ด้วยน้อยใจที่มีแต่คนอยากให้เธอไปเร็ว ๆ เสียจริง
                       "อิงลูก ป๊าไม่ได้ไล่หนูหรอกนะ แต่ป๊ามีบางอย่างที่จะให้หนูกับพี่โอบช่วย" ผู้เป็นบิดาเดินมาลูบเรือนผมยาวดำขลับของลูกสาวอย่างทะนุถนอมราวเป็นแก้วที่เปราะบาง ที่ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะได้รับแม้รอยขีดข่วนเพียงบางเบา คนนึงที่เค้าสามารถดูแลอย่างทะนุถนอมได้ ในขณะที่อีกคนต้องถูกปล่อยให้หลุดจากอ้อมกอดและสายตาไปนานแสนนาน
                      "อะไรเหรอค่ะป๊า อะไรที่จะให้อิงกับพี่โอบช่วย" เด็กสาวเอียงหน้ามองผู้เป็นบิดา พร้อมดวงตาฉายแววสงสัยอย่างไม่ปิดบัง  ต้องมีอะไรแน่แต่ทำไมไม่ยอมบอกกันสักทีนะ
                      "แล้วลูกก็จะรู้เองนะอิง ไม่ว่ามันจะเป็นอะไร  ป๊าอยากให้อิงเป็นลูกที่เข้มแข็งของป๊าเหมือนเดิมนะลูก  เข้มแข็งที่จะปกป้องตัวเอง และเข้มแข็งพอที่จะปกป้องคนอื่นด้วย" เด็กสาวพยักหน้ารับ แต่ไม่ค่อยพอใจกับคำตอบที่ได้รับมากนัก จะต้องปกป้องใครอีกในเมื่อป๊ากับพี่โอบก็เป็นผู้ชายออกจะแข็งแรงด้วยซ้ำ ยิ่งพี่โอบเองไม่ต้องพูดถึงตัวก็โต๊โตออกขนาดนั้น  ป๊าต้องบอกพี่โอบให้ดูแลเธอมากกว่าสาวน้อยคิด
                    "เห้อ ป๊ากับพี่โอบอ่ะ ก็ยังงี้ทุกที " เด็กสาวถอนหายใจกับคำตอบที่ได้รับ สิ้นคำพูดก็กระทืบเท้าเข้าบ้าน เป็นอาการที่บ่งบอกว่าไม่ได้บางสิ่งอย่างใจที่ต้องการ ผู้อาวุโสของบ้านมองตามด้วยแววตาห่วงใย กลัวว่าสิ่งที่ตั้งใจให้ลูกทั้งสองกลับไปเจอะเจอนี้ จะเป็นการทำร้ายลูกรึเปล่า แต่ถึงอย่างไรก็มั่นใจว่า ไม่ว่าสิ่งใดจะเกิดขึ้นลูกที่เป็นหน่อเนื้อของเค้ากับหญิงที่รัก จะต้องเข้มแข็งเหมือนกัน ในเมื่ออดีตและที่ผ่าน ๆ มาเค้าก็เห็นลูกเข้มแข็งมาตลอดสำหรับอาทิตย์ไม่มีอะไรต้องห่วงอยู่แล้ว เพราะอาทิตย์หรือโอบมีความเป็นสุภาพบุรุษเต็มตัว แถมมีน้อง ๆ ต้องดูแลทำให้เค้าดูเข้มแข็งและอ่อนโยนอยู่ในตัวเองอยู่แล้ว ส่วนลูกสาวแต่ก็เฉพาะสำหรับอิงตะวันหรอกนะที่ไม่ยอมแพ้และดูแลตัวเองได้ ส่วนสาวน้อยอีกคน........
                    ภาพเด็กหญิงตัวน้อยสองคนที่วิ่งเล่นกับเพื่อน ๆ คนอื่นได้ไม่นาน เสียงร้องไห้โยเยถูกส่งมาจากเด็กหญิงที่ผูกแกละไว้สองข้างในชุดสีชมพูหวาน ทำให้ผู้เป็นพ่อปรี่ไปหาเสียงร้องนั้นทันทีด้วยความเป็นห่วง
                    แต่ภาพที่เห็นเบื้องหน้ากลับเป็น เด็กชายแก้มยุ้ยลงไปกองกับพื้น โดยบนร่างมีเด็กหญิงตัวน้อยอีกคนที่แต่งตัวเหมือนกันแต่อยู่ในชุดสีฟ้า นั่งคร่อมตัวเด็กชายแก้มยุ้ยอยู่พร้อมกำปั้นเล็ก ๆ ที่ถูกปล่อยใส่หน้าเด็กชายที่ใหญ่กว่าตัวเองเป็น 2 เท่า อย่างไม่กลัวใด ๆ ทั้งสิ้น ก็พอเดาได้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น  ผู้เป็นพ่อรีบวิ่งไปแยกทั้งคู่ออกทันที 
                     " อิง พอแล้วลูกผู้เป็นพ่ออุ้มเด็กหญิงออกจากร่างเด็กชายตัวอ้วน  พอร่างเป็นอิสระเด็กชายตัวอ้วนคู่กรณีวิ่งหนีหายไปทันที  เหลือแต่เด็กหญิงที่ยืนร้องไห้ กับเด็กหญิงอีกคนที่กำหมัดแน่นไม่ยอมคลาย
                     "ป๊า เฟิร์สหาเรื่องน้องก่อน อิงไม่ยอมหรอก" เสียงใสเล็กยังคงสั่นด้วยความโกรธมิใช่ความกลัวเอ่ยขึ้น เด็กน้อยในชุดสีชมพูวิ่งเข้ามาหาทั้งที่ม่านน้ำตายังเกาะพราวเต็มหน่วยตา  เสียงสะอื้นฮัก ทำให้ผู้เป็นพี่รีบอ้าแขนรับและกอดไว้ทันที
                    "ไม่ร้องแล้วนะ มันไปแล้ว ไม่ต้องกลัวมัน พี่อยู่นี่แล้วภาพเด็กสาวตัวเล็กที่ยังพูดไม่ค่อยชัดทุกถ้อยคำ ปัดแขนปัดขาที่เปื้อนฝุ่นให้น้องน้อยทั้งที่ทั้งสองคนเองจริง ๆ มีอะไรเหมือนกันทุกอย่างทางด้านสรีระ ทำให้ผู้เป็นพ่อเชื่อได้ว่าในความเป็นอิงตะวันนี้ ถึงอย่างไรแล้วเด็กสาวก็เข้มแข็งพอ แต่เด็กน้อยอีกคนล่ะ อีกคนที่ต้องคอยมีคนปกป้อง ณ ตอนนี้จะเป็นอย่างไร ใครจะปกป้อง รออีกหน่อยนะ พ่อจะส่งพี่สาวและพี่ชายไปปกป้องและยืนเคียงข้างกันเหมือนเดิมนะลูก
                     "ป๊าครับ" เสียงลูกชายคนโตปลุกออกจากภวังค์ที่ดำดิ่งสู่อดีตตอนที่ครอบครัวยังคงอยู่ด้วยความรักและความผูกพันที่เข้มแข็ง ก่อนที่ทุกอย่างจะสูญสลายไป
                     "มีอะไรเหรอโอบ" ผู้เป็นพ่อถามชายหนุ่มที่เป็นเหมือนภาพพิมพ์ของตัวเองสายเลือดอีกคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า
                    "ก็ยัยอิงนะสิป๊า ยิ่งโตยิ่งเอาแต่ใจ" ฟ้องผู้เป็นพ่อแต่แววตาไม่จริงจังนัก
                   "นั่นนะสิ ป๊าถึงต้องให้โอบไปด้วย เผื่อบางทีหากน้องรู้ความจริง อาจจะทำอะไรไปโดยไม่คิดก็ได้" เมื่อผู้เป็นบิดามีแววตากังวลฉายชัด ชายหนุ่มก็ไม่ลังเลที่จะตอบรับคำ ทั้งที่ยังกังวลอยู่บ้าง

                    "ครับป๊า โอบจะดูแลน้อง ไม่ทิ้งน้องหรอกฮะ และอีกอย่าง โอบก็อยากได้น้องอีกคนกลับมา" ผู้เป็นพ่อยืนมือหนาที่ผ่านการตรากตรำเพื่อแปลงดอกกล้วยไม้ "ดุจตะวัน" นี้มาอย่างยาวนานขึ้นตบบ่าลูกชาย อย่างฝากฝังในเรื่องที่จะเกิดขึ้นต่อไป

                    "เอาน้องกลับมานะโอบ หาน้องให้เจอ" ดวงตาที่เริ่มจะแดงก่ำของผู้เป็นบิดาทำให้ชายหนุ่มเอามือที่วางอยู่บนบ่านั้นมากุมไว้และกระชับแน่น เพื่อเป็นการให้คำมั่นกับบิดาว่า อย่ากังวลอีกเลย เค้าจะรับหน้าที่นี้เอง           

                      เด็กสาวหลีกหนีจากการหาคำตอบมาที่ห้องนอนซึ่งบัดนี้ ดูบางสิ่งจะว่างเปล่าเพราะถูกเก็บลงกระเป๋าไปแล้ว สายตากวาดมองรอบ ๆ ห้องจนสะดุดกับหน้าจอสี่เหลี่ยม ความคิดจึงสั่งให้สองมือน้อย ค่อย ๆ เปิดมันขึ้นมา เพื่อต้องการติดต่อกับใครสักคนที่จะช่วยให้คลายอาการหงุดหงิดยามนี้ลงได้  

                        ตึ้งงงงงงงงง เสียงสัญญาณบอกว่ามีคนเข้ามาในโลกไซเบอร์แล้ว

                        จะไปไหน เพื่อนเกลอ say :  ดีอิง

                        ตะวันที่ปลายฟ้า say:  ดีหมอก นึกว่าใคร

                        จะไปไหน เพื่อนเกลอ say :  เดินทางกี่โมงเนี่ย

                        ตะวันที่ปลายฟ้า say :  เครื่องออก 1 ทุ่มอ่ะ จะไปแล้วพวกแกอย่าลืมคิดถึงฉันนะ

                        จะไปไหน เพื่อนเกลอ say :  เออน่า ไม่ลืมหรอก แต่ไม่มีใครว่างไปส่งแกเลยนะ

    ฉันเองต้องไปทำธุระให้แม่ก่อนไปแล้วนะ บาย

                        "โธ่เอ๊ย!  ไอ้เพื่อนบ้า นี่เหรอรักกัน" เด็กสาวบ่นพึมพำเมื่อเพื่อนสนิททำท่าไม่สนใจกับการไปของเธอ วันนี้ฉันจะต้อหงุดหงิดสักกี่เรื่องกันเนี่ย

                        ตึ้งงงงงงงงงงง  เสียงสัญญาณดังอีกครั้งหันเหความสนใจของเด็กสาวจากความคิดน้อยใจปนหงุดหงิดไปชั่วขณะ แต่พอมองอีกทีเด็กสาวก็ลืมเรื่องอื่นทิ้งไปหมด เมื่อคนที่ออนไลน์ตรงหน้าคือ

                        @#$%%%^@hotmail.com ตามตะวัน.....ที่ปลายฟ้า    เด็กสาวคุ้นเคยกับชื่อนี้ดีเลยรีบทักทายด้วยความดีใจ

                        ตะวันที่ปลายฟ้า say:  สวัสดีคุณตามตะวัน วันนี้มองหาดวงตะวันเจอมั้ย

                        ตามตะวัน say:  ใครมองหาตะวัน ดวงตะวันมันก็ขึ้นอยู่ทุกวันแล้วนี่คร๊าบบบบ

                        เด็กสาวแปลกใจแกมโมโหในการใช้คำพูดของคนที่หล่อนแอบปลื้มในความเป็นไปของเจ้าของนามตามตะวัน มือเรียวไม่รีรอที่จะตอบกลับด้วยถ้วยคำเผ็ดร้อนเช่นกัน
     

                        ตะวันที่ปลายฟ้า say: เชอะ จริงด้วยซินะ มันขึ้นของมันอยู่ทุกวัน มัวงี่เง่าไปตามมันอยู่ได้

                        ตามตะวัน say: เฮ้ย.... คุณว่าใครงี่เง่าเนี่ย อยู่ดีดีมาว่าคนอื่นได้ไง

                        ตะวันที่ปลายฟ้า say: คนอย่างคุณมันงี่เง่า เหมาะกับคำนี้นิ

                        คนบ้าหลอกให้อ่านไดอารี่อยู่ได้ตั้งนานที่จริงเป็นคนแบบนี้เองรึไงเนี่ย เด็กสาวสับสนกับคนที่อยู่อีกฝั่งของหน้าจอสี่เหลี่ยมเสียจริง ๆ นี่เขาเป็นคนยังไงกันแน่นะ อบอุ่น อ่อนไหว  น่าเห็นใจ แข็งแกร่ง หรือ ปากร้าย ใจร้อน ไม่ให้เกียรติผู้หญิงกันแน่

                        ตามตะวัน say : นี่คุณผู้หญิง ยินดีที่ได้รู้จักนะ  แต่ผมไม่มีเวลาเล่นกับคุณแล้ว เจอกันตรงที่ปลายฟ้านะ 555

                        ตะวันที่ปลายฟ้า say : หึยยยยยย ไปไหนก็ไปเลย ไม่เห็นยินดีที่ได้รู้จัก

                        เด็กสาวรัวมือใส่แป้นพิมพ์ไม่ยั้ง พร้อมกับพูดใส่หน้าจอสี่เหลี่ยมตรงหน้า หวังให้มันสะท้อนถึงคนที่อยู่อีกด้าน

                        "เอ้ย!..ไมค์เล่นอะไรของพี่อ่ะ" เสียงทุ่มนุ้มที่ส่งมาทำให้คนที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้รุกล้ำ ณ ตอนนี้หยุดจะชักวาจากวนโทสะทางหน้าจอสี่เหลี่ยมทันที

                        "เปล่านี่พี่กอล์ฟไมค์ออกไปหาไรกินรองท้องก่อนนะ" ว่าแล้วก็วิ่งฉิวออกไปแต่ดันลืมปิดหน้าจอนี่สิ พี่ชายรีบประจำที่ทันทีด้วยเกรงว่าน้องชายตัวแสบจะสร้างเรื่องให้ปวดหัวอีกเพราะทำเป็นประจำเสมอ ๆ อยู่แล้ว ทุกวันนี้ แล้วก็จริง ๆ ด้วย เมื่ออ่านตัวอักษรที่หน้าจอที่น้องชายลืมปิด แต่อีกฝั่ง offline ไปแล้ว

                        เจ้าไมค์คคคคคคคคคคคคคคคคคคคค!!!!!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×