ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พันธนาการ(กอล์ฟ-ไมค์)

    ลำดับตอนที่ #8 : ตามตะวัน.....ที่ปลายฟ้า

    • อัปเดตล่าสุด 16 ธ.ค. 49


     
    che ery


           "ผมรู้สึกเหมือนเจอใครบางคนที่รอคอย รอคอยเพื่อที่จะได้แบ่งเบาความเจ็บปวดในใจผมออกไปบ้าง เหมือนผมกำลังเดินตามหาแสงของดวงตะวัน ที่จะทำให้ค่ำคืนที่มืดมนและหนาวเหน็บของผม ได้สัมผัสกับแสงสว่างและไออุ่นของดวงตะวันบ้าง"
                               เด็กหนุ่มผมทองแววตาเศร้า ระบายความรู้สึกที่เจอะเจอผ่านหน้าจอสี่เหลี่ยมของโลกไซเบอร์ เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ไดอารี่อิเล็คทรอนิกส์ส่วนตัวที่ถูกถ่ายทอดความรู้สึกบางสิ่งไว้ มันเป็นทางออกอีกทางที่ช่วยให้หัวใจชุ่มชื้นขึ้นเพราะมักจะมีคนเข้ามาให้กำลังและปลุกปลอบด้วยคำพูดต่าง ๆ นา นา  ซึ่งทำให้ดีขึ้นมาบ้าง  โดยไม่ต้องเจอหน้า และถึงแม้บางคนอยู่ไกลแสนไกลก็ยังส่งกำลังใจมาให้เค้าได้
                               "ด้วยความทรงจำแห่งความเจ็บปวด ที่ทำให้หัวใจพิศุทธิ์ ถูกปนเปื้อนสารแห่งความเปลี่ยนแปลงซึ่งนำพาร่างกายและหัวใจจมดิ่งสู่ดินแดงแห่งความมืดมน ผมจะพยายามตามหาเธอ ผมคิดว่าเธอคือแสงสว่างที่จะทำให้ผมสามารถป่ายปีนขึ้นจากเหวลึกแห่งความทรงจำนี้ได้แล้ววันนี้ ผมรับความรู้สึกบางอย่างได้ ซึ่งผมเองก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน ว่าทำไมผมถึงรู้สึกแบบนี้หรือว่าเธอคือคนที่ผมตามหากันนะ....ตามตะวัน..."

            นิ้วขาวของเด็กหนุ่มทำหน้าที่ไปเรื่อย ๆ  พร้อมลงชื่อนามแฝงที่ใช้ในโลกไซเบอร์ไว้  เมื่อพอใจแล้วก็หันไปอ่านความคิดเห็นของคนอื่นที่ส่งเข้ามาบ้าง
                               "..... คุณตามตะวัน.....อดีตมันทำให้เรารู้ว่าจะก้าวไปข้างหน้าทางไหน ไม่เหมือนคนที่ไม่ลงเหลืออดีตให้จดจำ ช่างล่องลอยโดยไร้จุดหมาย ไม่รู้หรอกนะว่า สิ่งที่เป็นอดีตเกาะกินคุณคืออะไร แต่รู้สึกดีในความรับผิดชอบของคุณ และคิดว่าคุณจะผ่านกำแพงแห่งพันธนาการที่ยึดติดคุณไว้กับโลกแห่งความมืดมนนี้ได้  ขอเป็นหนึ่งกำลังใจให้คุณเสมอนะค่ะ ....ตะวันที่ปลายฟ้า...."
                                เด็กหนุ่มนั่งยิ้มให้กับข้อความอิเล็คทรอนิกส์ที่ถูกส่งมาให้ บ่อย ๆ ที่ได้รับกำลังใจจากคนที่ใช้นามแฝงมา ....ตะวันที่ปลายฟ้า..... สักวันนึงผมจะเจอตะวันที่ปลายฟ้าที่จะทอแสงสุดท้ายให้มีความหวังก่อนที่ความมืดแห่งค่ำคืนจะปกคลุมฟ้ากว้าง 
                                 "ผมอยากคุยกับคุณ…..ตะวันที่ปลายฟ้า....จังเลยครับ นี่เมล์ผม@#$%%%^@hotmail.com เผื่อเราจะแลกเปลี่ยนความเห็นซึ่งกันและกัน หากคุณตามหาความทรงจำในอดีตที่หายไป ผมขออวยพรให้คุณเจอคำตอบนั้นเร็ว ๆ นะครับ  อย่าลืม add  mail  ผมไว้นะครับ ยังรอคอยให้ตะวันทอแสงครับ
    "  สมองสั่งการทำงานของมือให้ทำไปเรื่อย ๆ ซึ่งตอนนี้ก็รู้สึกดีขึ้นแล้ว ตะวันที่ปลายฟ้าชื่อนี้ทำให้จินตนาการถึงเจ้าของนามว่า คงเป็นหญิงสาวที่มีความอบอุ่นดุจแสงตะวัน อ่อนหวาน น่ารัก ดั่งปีกบางน่าทะนุถนอมของผีเสื้อ รอยยิ้มผุดปรายกระจายทั่วใบหน้าเด็กหนุ่มตาเศร้าที่นั่งจินตนาการไปต่าง ๆ นา ๆ


    ก๊อก ก๊อก ก๊อก!!!

                               "พี่กอล์ฟทำอะไรอยู่ ไม่ยอมกินข้าวกินปลา
    " สิ้นเสียงเคาะประตูน้องชายเดินผมทองถอดแบบจากพี่ชายก็เดินหน้าง้ำเข้ามา แต่ก็ปลายเสียงยังติดอารมณ์ดีอยู่ แต่ผมว่าจะอารมณ์ดีผิดปกติไปรึเปล่านะ            

         "พี่ไม่หิวน่ะ แล้วไมค์กินหรือยัง" หันไปสนใจน้องชายผมทองหน้าสวย ที่นอนร้องเพลงกลิ้งไปกลิ้งมาเหมือนเป็นเจ้าของเตียงนอนซึ่งมันเป็นของผม
                           "ไมค์ก็ไม่หิวเหมือนกันพี่กอล์ฟ
    " เสียงตอบออกมาพร้อมสายตากรุ้มกริ่ม น่าหมั่นไส้นัก ผมเลยเดินเข้าไปนั่งใกล้ ๆ ด้วยมีบางสิ่งบอกว่าน้องชายของผมไม่ปกติ  มือของผมเลยแปะเข้าที่หน้าผาก
                          "เอ.....หัวก็ไม่ร้อนนี่นาไมค์ ปกติเรื่องกินเรื่องใหญ่ไม่ใช่เหรอ
    " ผมละมือลงมา

    กอดอกแล้วหันไปจ้องหน้าจับผิดน้องชายหน้าหวาน ซึ่งยังยิ้มเฉ่งเป็นบ้าเป็นหลังหรือว่าอารมณ์ดีที่เจอรอยนะ
                         "เอ่อ.....คือไมค์
    " เด็กหนุ่มอ่อนวัยกว่าอ้ำอึ้ง เมื่อภาพในอากาศที่วาดไว้เป็นภาพเด็กสาวหน้าคมหวานนั้น แต่ต้องสะดุ้งเมื่อเจอคำพูดของพี่ชาย
                         "หรือว่าเจอรอยแล้วอารมณ์ดีขนาดนี้
    " แกล้งพูดออกไปทั้งที่เห็นอยู่ว่าสายตาของไมค์จับจ้องอยู่ที่เด็กสาวแปลกหน้าผู้มาใหม่ด้วยความรู้สึกบางอย่าง  คำถามของพี่ชายทำให้แววตาของเด็กหนุ่มหม่นแสงลงวูบหนึ่ง ก่อนที่จะหันไปแกล้งพี่ชาย โดยไม่ตอบคำถาม แต่ตอนนี้เด็กหนุ่มก็รู้ตัวดีว่าคำตอบที่ให้แก่ตัวเองนั้นคืออะไร
                         "พี่กอล์ฟแซวไมค์เหรอ นี่แนะ
    " ร่างใหญ่โถมทับเข้าใส่พี่ชายพร้อมเสียงขู่ฟ่อ เสียงหัวเราะของสองพี่น้องประสานกัน ทำให้ลืมทุกอย่างที่อยู่ในใจไปสิ้นนี่แหละนะความผูกพันระหว่างครอบครัว ระหว่างความเป็นพี่เป็นน้อง ถ้าได้มอบให้แก่กันแล้ว ก็ทำให้ลืมความทุกข็ในใจไปได้ ถึงแม้จะเป็นแค่ชั่วขณะก็ตาม สักวันมันคงจะมาเติมเต็มให้ลืมเลือน
                         "พี่กอล์ฟ ต้องเป็นของไมค์ มามะ มามะ
    "  น้องชายพูดพร้อมทำหน้าตาทะเล้น พร้อมกางมือสองข้างขวางพี่ชายไม่ให้วิ่งหนี
                         "เฮ้ยไมค์อย่านะ ไม่เอา พี่ยังไม่อยากเสียความบริสุทธิ์
    " ชายหนุ่มตัวเล็กกว่าวิ่งไปรอบห้อง พร้อมตะโกนโหวกเหวกโดยมีร่างสูงของน้องชายไล่ตามจนเหนื่อยอ่อน แล้วต่างคนก็ต่างทิ้งตัวแผ่หราลงบนที่นอน เพราะวิ่งไล่กันจนหมดแรง
                        "พี่กอล์ฟ ไมค์หิวแล้ว ทำข้าวผ้ดสตอเบอร์รี่ให้กินหน่อยนะ นะ นะ
    " เสียงน้องชายตัวดีอ้อน ด้วยเสียงที่เจอปนอาการหอบจากการหยอกล้อกัน
                        "อืม.....ก็ได้ แต่ต้องมานั่งเป็นเพื่อนตอนพี่อาบน้ำนะ
    " ข้อต่อรองที่ใช้ประจำแก้อาการกลัวผีขึ้นสมองของพี่ชายผมทอง ทำให้น้องชายยิ้มอย่างเห็นใจ(หรือตลกพี่ชายตัวเองกันแน่เนี่ย)
                         "ก็ได้ " น้องชายยินยอมแต่โดยดีแลกกับอาหารมื้อเย็น
                         "งั้น Let go" พี่ชายกล่าวก่อนจะวิ่งออกไปจากห้องโดยมีน้องชายวิ่งตามส่งเสียงดังสนั่นก้องบ้านหลังสวยนั้น

      "ผมอยากคุยกับคุณ  ตะวันที่ปลายฟ้า จังเลยครับ นี่เมล์ผม @#$%%%hotmail.com เผื่อเราจะแลกเปลี่ยนความเห็นซึ่งกันและกัน หากคุณตามหาความทรงจำในอดีตที่หายไป ผมขออวยพรให้คุณเจอคำตอบนั้นเร็ว ๆ นะครับ  อย่าลืม add  mail  ผมไว้นะครับ ยังรอคอยให้ตะวันทอแสงครับ"
                          เด็กสาวชะงักกับข้อความที่เห็นในไดอารี่ที่ตัวเองมักจะเข้ามาทุกครั้งที่มีโอกาสเชื่อมต่อสู่โลกไซเบอร์ เนื่องด้วยข้อความในไดอารี่หน้านี้ ผู้เป็นเจ้าของช่างบรรยายได้เศร้าสร้อยและน่าเห็นใจยิ่ง เค้าตรงข้ามกับเด็กสาวที่ความทรงจำหายไป เค้าผู้ถูกฉุดไว้กับความทรงจำในอดีตจนความเป็นไปของทุกวันหนีไม่พ้นสิ่งตอกย้ำให้ปวดใจ
                          "อยากรู้จักฉันเหรอ คุณตามตะวัน
    " ใช้ชื่อว่าตามตะวัน แล้วจะตามดวงตะวันทันมั้ยเนี่ยไม่เคยมีใครวิ่งไล่ตามดวงตะวันทันหรอกนะ เด็กสาวคิด แต่ถือว่าคุณยังมีความหวังแม้มันจะยากเย็น ว่าแล้วเด็กสาวก็ตัดสินใจ add mail ตามความต้องการของเจ้าของไดอารี่ไว้ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม
                          "อิง นอนรึยัง
    " พี่ชายคนเดียวส่งเสียงเรียกอยู่หน้าห้องของเด็กสาวน้ำเสียงเจือความอบอุ่นเหมือนทุกครั้ง
                          ยังค่ะพี่โอบ เข้ามาเลยค่ะ
    " เด็กสาวตอบกลับแล้วเอื้อมมือปิดโลกการสื่อสารตรงหน้าลงพร้อมกับเดินไปหาพี่ชาย
                         "มีอะไรรึเปล่าค่ะพี่โอบ
    " ถามพี่ชายทั้งที่รู้อยู่คร่าว ๆ ว่าคงเป็นเรื่องที่เคยได้ยินพี่ชายคุยไว้กับป๊าแน่ ๆ
                         "ป๊าอยากให้เราไปเรียนกวดวิชาน่ะ ที่กรุงเทพ
    " พี่ชายเริ่มหัวข้อสนทนาอย่างไม่อ้อมค้อม
                        "เรียนที่นี่ก็ได้นี่พี่โอบ ที่นี่ก็มีที่เรียนตั้งเยอะแยะ
    "  พี่ชายมองหน้าคมหวานของน้องสาวอย่างไม่รู้จะอธิบายยังไงดี ถึงการที่ต้องเดินทางในครั้งนี้ 
                        "อย่าขัดใจป๊าเลยน่า เดี๋ยวอิงก็จะได้รู้สิ่งที่ป๊าต้องการเองแหละ
    " พี่ชายพูดพร้อมโอบไหล่บางของน้องสาวไว้
                       "อิง คงคิดถึงแปลงกล้วยไม้แย่เลย กำลังออกนอกบานสะพรั่งแล้ว ดอกแคทลียากลิ่นหอมอ่อน ๆ ต้นโปรดอีกล่ะพี่โอบ
    " เด็กสาวเง้างอดมือน้อยเขย่าแขนชายเบา ๆ หวังให้สายตาอ้อนวอนจะทำให้พี่ชายใจอ่อน เพระไม่เคยคิดอยากไปอยู่กรุงเทพฯ เมืองแห่งความวุ่นวายสักที
                       "เหอะน่า พี่ก็ไปด้วย ไม่เป็นไรหรอก รู้มั้ย
    "  พี่ชายพูดพร้อมขยี้จมูกที่เชิดรั้นของน้องสาวเบา ๆ เค้ารู้ถ้าน้องสาวเค้าจะดื้อขึ้นมาจริง ๆ ใครก็เอาไม่อยู่ แต่ตอนนี้เด็กสาวยังอ่อนอยู่บ้าง
                       "พี่จองตั๋วไว้แล้วอีก 3 วันเราจะเดินทางกันนะ
    "  พี่ชายแจ้งข่าวที่คิดว่าจะบอกน้องสาวเป็นเรื่องสุดท้ายของคืนนี้ให้น้องน้อยได้รู้
                        "โห.....เร็วจัง
    " เด็กสาวพูดพร้อมเด้งตัวขึ้นยืนอัติโนมัติ ทำให้พี่ชายตกใจอยู่บ้างกลัวน้องสาวจะไม่ยอม เพราะถ้าน้องไม่ยอมจริง ๆ เค้าจะทำยังไงยิ่งไม่ค่อยชอบขัดใจน้องอยู่ด้วย
                        "งั้น อีก 3 วันคงต้องลาเจ้าเพื่อนเกลอให้ครบก่อนนะพี่โอบ พี่โอบต้องเป็นเจ้ามือเลี้ยงเพื่อนอิงเป็นขโยงด้วยแหละ
    " น้องสาวพูดขู่พี่ชายเพราะเพื่อนหล่อนแต่ละคนล้วนแต่ตัวแสบทั้งนั้น
                        "เรื่องแค่นี้เอง พี่เลี้ยงเพื่อนเราทั้งห้องเลยยังได้ ฮ่า ฮ่า
    " พี่ชายส่งเสียงหัวเราะออกมาด้วยโล่งใจ
                        "งั้นคืนนี้ฝันดีนะจ้ะ
    " ก้มลงจูบหน้าผากน้องสาวหน้าหวานแต่ซ่อนแววรั้นก่อนจะเดินออกจากห้องไปเด็กสาวทิ้งตัวลงบนเตียงนอน พร้อมความคิดถึงเรื่องที่พี่ชายกับป๊าของเธอคุยกันที่น้ำตก นี่เองเป็นสาเหตุที่ทำให้สาวน้อยยอมละพยศลง ด้วยความอยากรู้อยากเห็นและเรื่องราวที่เป็นปริศนาของตัวเธอเองที่ไม่มีใครยอมเฉลยให้ฟังเลย เด็กสาวดึงฟ้าห่มสีฟ้าประจำกายขึ้นมาคลุมร่างบางก่อนจะเอื้อมมือไปปิดไฟที่หัวเตียง  

     ฝันดีนะ คุณตามตะวัน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×