ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พันธนาการ(กอล์ฟ-ไมค์)

    ลำดับตอนที่ #5 : ซากุระแห่งมิตรภาพ

    • อัปเดตล่าสุด 16 ธ.ค. 49


      
       
    che ery 



                        

                       "ฮัดเช้ย!! ใครนินทาฉันเนี่ย" เด็กสาวคิดขณะที่เครื่องบินลำโตกำลังเหินเข้าเขตน่านฟ้าของเมืองไทย   เด็กสาวลืมตาขึ้นด้วยเสียงจามของตัวเองหลังจากที่อยู่ในนิทรามาหลายชั่วโมงแล้ว  มือเรียวค่อย ๆ ยกขึ้นขยี้ตา เจ้าของแพขนตางอนค่อย ๆ  พยายามปรับสายตาให้ชินกับแสงสลัว   มือเล็ก ๆ กอดตุ๊กตาคิดตี้สีชมพูอย่างรักใคร่
                      "จี้จี้ใกล้ถึงแล้วนะเด็กสาวเอ่ยบอกกับเพื่อนที่ไม่มีชีวิตแต่ผูกพันกว่าสิ่งใดนั้นด้วยท่าทางงัวเงียแต่เสียงที่ออกมากลับสดใสเต็มที่  พร้อมกับกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น เพื่อนในมือเด็กสาวดูจะกระจ่อยร่อยลงกว่าเดิมจากวันวาน นั่นเพราะความเติบโตขึ้นของเธอนั่นเอง  ดวงตากลมโตแต่หวานซึ้งมองออกไปนอกกระจกหน้าต่าง  เห็นแสงเล็ก ๆ  มากมายด้านล่าง ดูต่างกันมากมายสำหรับระยะเวลาที่ผ่านมา 10 ปีนั้น ดูจุดเล็ก ๆ ที่เคยมองเมื่อตอนครั้งยังเยาว์เพิ่มขึ้นจนแน่นขนัดสายตา
                        เปลี่ยนไป.....จริงซินะทุกอย่างดูเปลี่ยนไป แล้วเธอล่ะ จะเปลี่ยนไปมากมั้ย จะยังจำกันได้รึเปล่านะ?       ด้วยความทรงจำที่สัญญาว่าจะหวนกลับมาหา ร่างระหงจึงไม่ลังเลเลยเมื่อได้ยินผู้เป็นพ่อและแม่ปรึกษากันเรื่องการที่ต้องย้ายกลับมาประเทศไทย 
                       "ป๊าจ๊ะ อีก เดือนก็ต้องไปประจำที่ประเทศไทยแล้ว เรื่องเรียนของลูกอิ๊งค์จะว่ายังไงจ๊ะ"   หญิงสาวผู้เป็นแม่เอ่ยปรึกษา ร่างของเด็กสาวเฝ้ามองผู้เป็นพ่อและแม่สลับกันไปความคิดของสาวน้อยเริ่มทำงานทันทีด้วยว่าหาโอกาสที่จะกลับมายังประเทศเกิดนานแล้วแต่ยังไม่มีโอกาสเท่านั้นเอง จึงนั่งกอดเพื่อนรักหย่อนกายลงกับโซฟาสีฟ้าตัวนุ่มและตั้งใจฟังทุกถ้อยคำ
                       "ป๊าว่าคงต้องย้ายลูกอิ๊งค์ไปเรียนที่โน่นเลยล่ะผู้เป็นพ่อกล่าวทำให้เด็กสาวแทบลุกขึ้นเต้นแต่ต้องระงับอาการเอาไว้ ใบหน้าเต็มไปด้วยความสุขนี้ช่างหน้าหลงไหลเหลือเกินยามนี้
                      "งั้นเดี๋ยวแม่ ต้องติดต่อเพื่อนที่อยู่ที่โน่นให้หาโรงเรียนให้ลูกอิ๊งค์ก่อนนะ"  ผู้เป็นแม่เสนอซึ่งผู้เป็นพ่อก็พยักหน้ารับ เป็นการเห็นด้วย
                      "อิ๊งค์ ว่าไงล่ะลูก อยากอยู่ที่นี่หรือว่ากลับไป" ผู้เป็นพ่อหันมาถามสาวน้อยด้วยสายตาอบอุ่น แกมขอความเห็น
                     "อิ๊งค์อยากกลับไปจ๊ะป๊า กลับไปบ้านเกิดของเรา" เด็กสาวตอบน้ำเสียงมั่นคงและหนักแน่นนั่นแสดงถึงความต้องการที่แน่ชัด  ทำให้อีก 1 เดือนให้หลังสาวน้อยก็ได้นั่งอยู่ที่ตรงนี้และกำลังจะได้ทำสิ่งที่ตัวเองตั้งใจ แต่ก็ยังอดคิดถึงเพื่อนที่น่ารักไม่ได้ สายตาคู่สวยเหม่อออกสู่ท้องฟ้าที่มีดาวระยับเหมือนพรมที่ปูผืนฟ้าอยู่ ก่อนปากบางจะคลี่ยิ้มโปรยสู่ผืนฟ้าอย่างหวนคำนึง
                     "เอริ จะไปจริง ๆ เหรอ" ซาโยจังเพื่อนตาหยีของเธอเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงหม่น
                     "อืม ต้องไปจริง ๆ แต่จะคิดถึงซาโยและริกะกับและเพื่อน ๆ ทุกคนนะแล้วจะ add มาหานะจ๊ะ"   สาวน้อยหน้าคมหวานตอบกลับไปพร้อมกับจับมือเพื่อนสาวมากุมไว้ เหมือนกับสัญญาว่าจะรักษาความผูกพันนี้ไว้แม้ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตาม
                     "ไม่เป็นไรหรอกซาโย เดี๋ยวเราก็ไปเที่ยวประเทศของเอริก็ได้"   ริกะเพื่อนสาวที่ดูกระฉับกระเฉงกว่าซาโยกล่าวขึ้น แล้วสามสาวก็กอดกันกลม น้ำตาเริ่มปริ่มที่ขอบตาด้วยระยะเวลาร่วมสุขร่วมทุกข์กันมาก็ไม่ใช่น้อย วีรกรรมทำเพื่อเพื่อนก่อนที่ออกเดินทางของสาวน้อยก็เป็นตอนที่ซาโยอกหักจากชายหนุ่มของเธอ
                     "ฮือ....ฮือ" เสียงสะอื้นของเพื่อนสาวที่ทำใ ห้ทั้งเด็กสาวและริกะเป็นเดือดเป็นร้อนมากมาย
                     "เราบอกซาโยแล้วนะว่า ชินจินะเจ้าชู้" เสียงใสเอ่ยอย่างเคียดแค้นแทนเพื่อนสาวเนื่องจากเกลียดผู้ชายประเภทนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
                     "ลุยเลยมั้ย" ริกะเพื่อนสาวขาลุยเอ่ยขึ้นหน้าตาเอาเรื่อง
                     "อย่าเลย เค้าคงเบื่อเราแล้วล่ะ" ซาโยเอ่ยทั้งที่น้ำตาอาบแก้ม ด้วยหัวใจร้าว
                     "เราไม่ยอมหรอกนะเนอะริกะ เราเห็นชินจิควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า แล้วยังมาให้ความหวังซาโยอีกสาวน้อยพยักเพยิดขอความคิดเห็นจากเพื่อน
                     "ใช่  เราต้องเอาคืนให้เข็ดเลย" เด็กสาวมาดเข้มหมายมาดไว้ พร้อมทำหน้าครุ่นคิดหาวิธีการ
                     "งั้นเอาอย่างนี้แล้วกัน"   สาวน้อยตาคมพูดขึ้นพร้อมดึงเพื่อนรักเข้ามารวมหัวกันเป็นวงกลมเหตุการณ์หลังจากนั้นเหรอ  ฮ่า ฮ่า ฮ่า
                     " ฮานะคุง  มีคนส่งจดหมายมาให้แน่ะ"   จดหมายฉบับสีชมพูถูกยื่นให้เด็กหนุ่มหน้าใสที่ดูอย่างไรแล้วก็ไม่นิยมที่จะชอบเพื่อนต่างเพศ
                    "ของใครอ่ะ" เด็กหนุ่มแอบแหววทำหน้างวยงง ยื่นมือไปรับซองสีชมพูมาพิเคราะห์ดู 
                    "ไม่รู้ ดูเองแล้วกัน" สิ้นคำพูดเด็กสาวร่างตุ้ยนุ้ยก็วิ่งหายไปทันที แต่ใครจะรู้ว่ามีอีกสามสาวยืนแอบอยู่ตรงมุมตึก และยิ้มให้กับผลงานเมื่อเห็นเด็กหนุ่มหน้าสวยยืนอมยิ้มเหมือนกำลังฝันหวานอยู่
                   "ชินจิเสียงใสปนห้าวเล็กน้อยเอ่ยเรียกชื่อทำตาลอยชวนฝัน  พร้อมแนบซองสีชมพูเข้ากับอก  แล้วจดหมายแบบนี้ก็มิใช่ฉบับเดียวที่อยู่ในมือเพศเดียวกับชินจิ แล้วอะไรจะเกิดขึ้นเมื่อสาวแรกรุ่นที่เข้ามาเกี่ยวพันกับชินจิต้องต่อสู้กับสาวอีกประเภทเรื่องราววุ่นวายเกิดขึ้นจนชินจิต้องหลบหลีกวุ่นวาย จนอยู่ไม่เป็นสุขเลยสักวันเมื่อมีสาวประเภทที่สามตามราวีเพราะคิดว่าชินจิส่งจดหมายบอกรักไปให้
                    "สะใจนัก"  สาวน้อยเชื้อสายสยามยิ้มเยาะอย่างดีใจในความสำเร็จ 
                    "นี่ใครจะคิดว่า สาวหวานเรียบร้อยอย่างเอริทำเรื่องแสบขนาดนี้เนี่ยริกะที่ว่าแสบแล้วยังต้องยอมรับความเจ้าเล่ห์ที่ซ่อนอยู่ของเพื่อนหน้าหวาน
                    "ขอบใจนะเอริ ริกะ" เสียงที่ยังเจือความเศร้าแต่แจ่มใสขึ้นมากเอ่ยอย่างขอบคุณในความเป็นเดือดเป็นร้อนแทนกันของเพื่อนรัก
                    "ถึงซาโยจะไม่มีชินจิ แต่เรายังมีกันนะ" เสียงใสเอ่ยขึ้นพร้อมอ้อมแขนที่กางโอบไหล่เพื่อนสาวตาหยี และอีกข้างก็กางรับเพื่อนอีกคนเข้าสู่อ้อมแขนแห่งความผูกพัน  แล้วรอยยิ้มใสก็ผุดขึ้นบนใบหน้าสามสาว รอยยิ้มแห่งความผูกพัน เด็กสาวนั่งยิ้มเมื่อนึกถึงเพื่อนของตัวเอง และยิ้มเยาะผู้ชายเจ้าชู้ ที่สุดก็หมดลายเพราะความเจ้าชู้ของตัวเองนะแหละ
                     "เชอะ"  เสียงลงคอค่อนข้างหนักลอดเล็ดออกมา เมื่อนึกถึงชายหนุ่มเจ้าของเรื่อง
                     แต่ก่อนที่จะเดินทางนอกจากซาโยและริกะแล้ว อิ๊งค์หรือเอริของเพื่อนก็ได้รับของขวัญมากมายจากเพื่อนคนอื่น ๆ ด้วย แต่ของขวัญที่ดูมีค่าและตราตรึงที่สุดคงเป็นต้นซากุระที่อยู่ตรงกับหน้าต่างห้องเรียน บัดนี้มีริบบิ้นสีเหลืองที่บ่งบอกถึงความผูกพันที่ไม่มีวันลืมเลือนผูกอยู่เต็มต้นตัดกับสีของดอกซากุระสีชมพู  สายลหนาวพัดโบกจนริบบิ้นสะบัดไหวไปมาเหมือนกับการกวักมือเรียก เป็นสัญญาณจากเพื่อน ๆ ว่าพร้อมจะรอคอยวันที่ได้เจอกันใหม่ อากาศหนาวยามนี้ไม่สามารถซึมซับเข้าสู่กายเด็กสาวได้เลย ในเมื่อความอบอุ่นแห่งมิตรภาพถูกทักทอแทนที่ในจิตใจ เด็กสาวใช้สองแขนเรียวกอดตัวเองยามนึกถึง ใช่สิก็เป็นที่รักของเพื่อนๆ นี่นา เด็กสาวนั่งคิดถึงตรงนี้ก็อดอมยิ้มอย่างภาคภูมิใจไม่ได้ นั่นคือความทรงจำดีดีอีกเรื่องที่เธอจะไม่ลืมเลือน แต่กลับมาคราวนี้ก็เพื่อจะตามหาความทรงจำที่ดีอีกเรื่องตะหาก คิดแล้วก็ยกเจ้าจี้จี้ขึ้นมาเพ่งมอง อย่างกับจะส่งใจไปถึงเจ้าของให้รับรู้การมาของเธอ
                      "จี้จี้ อยากเจอไมค์มั้ยจ๊ะ"   เอ่ยปากถามไปทั้งที่รู้ดีว่าไม่มีเสียงตอบมาหรอก แต่คิดเอาเองว่าเจ้าจี้จี้ก็ต้องอยากเจอเหมือนกัน
    อีกไม่กี่ชั่วโมงเธอก็จะได้เหยียบสู่ความหลังครั้งเยาว์วัยแล้ว ดวงตาเปล่งประกายแข่งกับดาวบนท้องฟ้ายามนี้ 

                     "จะถึงแล้วนะ จี้จี้" เสียงเด็กสาวเอ่ยขึ้นขณะที่สายตายังทอดออกไปสู่เวิ้งฟ้าอย่างวาดหวัง



     ฉันเข้มแข็งไม่พอที่ฉันที่จะคิดกับเธอเหมือนเดิม เมื่อในความรู้สึกที่มีมันเกินเพื่อนไป
    !!!มือใหญ่ของคนตัวโตควานหาที่มาของเสียง

     "อัลโหล....หา!   อีก 2 ชั่วโมงจะถึงแล้วเหรอ  โอเค โอเค"
    .......................................................................................................................................................

    ดีจ้าทุกคน เข้ามาแล้วช่วยเม้นท์ความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้หน่อยนะจ๊ะ ถ้าถูกใจก็โหวตให้หน่อย อยากรู้ระดับความทับใจของทุกคนนะจ๊ะ  จะได้มาอัพตอนต่อไปน้า
    บายจ๊ะ
    - -

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×