ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พันธนาการ(กอล์ฟ-ไมค์)

    ลำดับตอนที่ #3 : การกลับมาของพี่ชาย

    • อัปเดตล่าสุด 16 ธ.ค. 49


        
    che ery


                       
    ณ อีกมุมหนึ่ง
                 

                       ในสวนสวย เด็กสาวนั่งเหม่อมองผ่านขุนเขาไกลตาไปข้างหน้า ปล่อยให้สายลมเย็นพัดเคลียคลอแก้มใส  นานเท่าไหร่แล้วนะที่ต้องจากคนที่รัก พร้อมกับความสงสัยหลายอย่าง ดวงตาคมหวานหมองลงกับเรื่องที่คิด
                     "อิง  คิดอะไรอยู่ลูก" เสียงนุ่มทุ้มเรียกให้ตื่นจากห้วงลึกแห่งภวังค์ ใบหน้าคมเข้มแต่ดูอบอุ่นส่งยิ้มมาให้ แต่สายตากลับสื่อถึงความห่วงใยที่สามารถรับรู้ได้ทุกครั้งในยามที่ต้องนั่งเหงาอยู่คนเดียว
                     "เปล่านี่จ๊ะป๊า" ผู้เป็นพ่อลูบหัวลูกรัก วันนี้เป็นอีกวันที่ลูกสาวของเขานั่งเหม่ออยู่อย่างนี้ เหมือนมีอะไรสักอย่างในใจของสาวน้อย ที่เขาไม่อาจสามารถสัมผัสได้ แต่ถ้าสิ่งที่เขาคิดมันไม่ผิด ก็คงไม่พ้นเรื่องของผู้หญิงอีกคนที่มีความสำคัญกับเขามากเช่นกัน แต่เขาก็ไม่สามารถรักษาเธอไว้ได้ หลายครั้งที่ลูกสาวเขาถามถึง มันจึงเป็นคำถามที่บีบหัวใจเขาเสมอจนตอนนี้ลูกสาวของเขาย่างเข้า 17 ปีแล้ว  โตขึ้นมากแล้ว......... แล้วอีกคนล่ะ
                     "ป๊าค่ะ กลับบ้านกันเถอะค่ะ น้ำค้างเริ่มลงแล้ว เดี๋ยวจะไม่สบาย"เสียงใสดังขึ้นทำลายความเงียบที่ดูเหมือนจะดูดกลืนเอาสิ่งที่อยู่ในเบื้องลึกแห่งจิตใจออกมา
                     "อืม   ไปกันเถอะลูก" ว่าแล้วก็โอบกอดลูกสาวที่แสนรักกลับบ้าน วันนี้เหนื่อยกับการทำงานในสวนกล้วยไม้มาทั้งวันแล้ว ดวงตะวันเริ่มจะลับแนวโค้งฟ้า บรรยากาศรอบกายเริ่มหนาวแต่ในอ้อมกอดของผู้เป็นพ่อก็อบอุ่นเสมอ ถึงแม้ว่าจะขาดในบางสิ่งไป
                    "นอนเถอะลูก พรุ่งนี้วันเสาร์ ป๊าจะพาหนูไปเที่ยว แล้วมีก็เรื่องจะคุยด้วย"
                    "ค่ะป๊า" หลังจากประตูปิดลงป๋ากลับไป ฉันก็กลับมานั่งมองรูปตอนเด็ก ๆ แต่ความทรงจำในวัยเด็กมันจะมีซักกี่เรื่องกันที่ฉันจำได้และมันก็เหมือนมีภาพบางอย่างที่ลางเลือนในความทรงจำที่ไม่ชัดเจนนัก   มีเรื่องจะคุยด้วย เอ....เรื่องอะไรนะ ไม่บ่อยนักที่ผู้เป็นพ่อจะมีเวลาว่างพาไปเที่ยว จนบางครั้งยังนึกน้อยใจแต่ยังไงพ่อกับพี่โอบก็สอนให้เข้มแข็ง ให้ทำอะไรด้วยตัวเอง  ทิ้งความคิดทุกอย่างแล้วมองออกไปภายนอกหน้าต่างที่กั้นระหว่างห้องสี่เหลี่ยมกับภาพของดวงจันทร์ลอยอยู่บนฟ้า ไกลจังแต่สวยงามและอบอุ่น เด็กสาวแหงนหน้ามองอย่างอ้างว้าง
                    "แม่ค่ะ มองหนูอยู่บนนั้นรึเปล่าค่ะแม่" น้ำตาแห่งความโหยหาร่วงริน ยัยคนไม่มีแม่ เด็กกำพร้าแม่ เสียงเพื่อนเมื่อครั้งเก่าก่อนยังก้องเข้ามาในโสตประสาท อิงตะวันหลับตาซะนะ ได้แต่ปลอบตัวเอง  มือเรียวค่อย ๆ เอื้อมไปที่หัวเตียงแล้วไฟในห้องก็ดับลง
                    "เธอไปด้วยกันมั้ย"
                    "เธอเป็นใคร"    ฉันถามออกไป แต่สิ่งที่ฉันตกใจยิ่งกว่าการเจอคนแปลกหน้า นั่นคือตาคมหวาน ปากบางส่งยิ้มนั่น ใบหน้านี้ฉันเคยเห็นที่ไหนนะ
                    "เธอเป็นใครกัน"    ฉันถามออกไปอีกที แต่ไม่มีเสียงตอบใด ๆ มีแต่รอยยิ้มที่ส่งผ่านมาและมือที่ยื่นออกมาเพื่อให้สัมผัส ถึงแม้จะลังเลแต่ฉันเองก็ยื่นมือออกไป
                    "เราไปด้วยกันนะ เราคือกันและกัน" ฉันกำลังจะถามกลับไป
    ก๊อก ก๊อก ก๊อก...!!!..
                    "อิง  ตื่นรึยังลูก"
                    "ค่ะป๊า  ตื่นแล้วค่ะ เดี๋ยวอิงอาบน้ำก่อนนะค่ะป๊า"
                    "เร็วนะลูก สายแล้ว"
                    "ค่ะป๊า ลุกแล้วค่ะฝันเหรอทำไมรู้สึกอบอุ่นจัง เหมือนรอยสัมผัสยังอยู่ที่มือคู่นี้ เธอคือใครกันนะ ใบหน้านั้นคุ้นเคยมาก เหมือนใครสักคน
                     "อิง   ป๊าให้พี่ปิ่นเอาข้าวไปตั้งที่โต๊ะหน้าบ้านนะลูก"
                     "ค่ะป๊า"   เสียงป๊าทำให้ต้องหยุดความคิดทุกอย่างอยู่ชั่วขณะ ป๊ามีอะไรจะบอกนะ....ใช่สิยังมีปริศนาจากป๊าให้ขบคิดอีก ว่าแล้วร่างบางระหงแต่ดูแข็งแรงก็เดินเข้าห้องน้ำไป  ออกมาจากห้องน้ำอีกทีด้วยชุดทะมัดทะแมงตามสไตล์ของสาวลูกทุ่งเสื้อเชิ๊ตสีฟ้าใส่ทับเสื้อกล้ามสีชมพูหวาน ขับผิวใสกระจ่างกางเกงยีนส์ตัวเก่งที่พี่ชายซื้อให้  ผมถูกรวบหางม้าเผยใบหน้าใส หวาน  ไร้การแต่งแต้มจากเครื่องสำอางค์ใดใด
                       "มาแล้วค่ะป๊า" เสียงใสส่งมาก่อนที่เจ้าตัวจะมาถึงทำให้ชายหนุ่มต่างวัยสองคนที่นั่งสนทนากันอยู่หันมายิ้มให้อย่างเอ็นดู
                        "ตะโกนเข้าไป โน่นให้ได้ยินกันทั้งอำเภอ" ชายหนุ่มผู้มาใหม่ส่งยิ้มหยอกล้อให้น้องสาวของตัวเองที่ดูเติบโตขึ้นจากวันวานมากนัก
                        "พี่โอบ" สาวน้อยตะโกนออกไปด้วยความดีใจ โผเข้ากอดพี่ชายนานแล้วที่พี่ชายต้องไปเรียนต่อที่ออสเตรีย เพื่อมารับช่วงต่อจากพ่อที่กรำงานหนักในแปลงเพาะกล้วยไม้นี้มาพอสมควร
                          "โห...ยัยอิง โตเป็นสาวขนาดนี้ยังไม่ทิ้งนิสัยทะโมนอีกเหรอฮึ" พี่ชายทำเสียงขึ้นจมูกพร้อมยื่นมือแข็งแรงบีบจมูกโด่งได้รูปของน้องสาว
                         "แหม.....พี่โอบอ่ะ จะนานแค่ไหนอิงก็ยังเป็นอิงนะแหละน้องสาวเอ่ยออกมาพร้อมย่นจมูกเล็กนั้นใส่พี่ชาย
                         "พี่โอบหล่อขึ้นจมเลย โห...กล้ามโตเป็นมัด ๆ ด้วย สาวคนไหนจะได้มาอยู่ในอ้อมกอดบึกบึนนี้น้าน้องสาวแหย่พี่ชายพร้อมหยิกเบา ๆ ที่ต้นแขนแข็งแรง
                          "นี่หนุ่มสาวทักกันเสร็จรึยังลูก กินข้าวกันก่อนเถอะลูก" เสียงผู้สูงวัยขัดจังหวะขึ้นก่อนที่ลูกทั้งสองคนจะกินลูกยอกันจนอิ่มแทนข้าว
                          "ค่ะป๊า ครับป๊า" สองเสียงประสานพร้อมกัน พี่ชายแบะแขนออกเล็กน้อยเพื่อให้น้องสาวเกี่ยวเกาะเดินเหมือนตอนวัยเยาว์ สาวน้อยเกี่ยวแขนพี่ชายเดินมาที่โต๊ะอาหารอย่างมีความสุข
                         "อิ่มแล้ว  ป๊าค่ะอิงอยากไปเล่นน้ำตกอ่ะ ป๊ากับพี่โอบพาอิงไปหน่อยนะ" ช่วงเวลาแห่งความสุขนี้ เด็กสาวรู้สึกว่าต้องเก็บเกี่ยวไว้ให้เต็มที่ เพราะเวลาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาอย่างนี้มีไม่บ่อยนัก จะมีความสุขกว่านี้ถ้า....
                        "อิง....อิง...
    .อิงงงงงง" พี่ชายส่งเสียงเรียกราบเรียบ จนกลายเป็นตะโกน
                        "อุ๊ย !!!  ....พี่โอบตะโกนทำไม แก้วหูจะแตกแล้ว" เด็กสาวเอาสองมือปิดหูไว้ ท่าทางกลัวหูจะแตกไปจริงๆ
                       "ก็พี่เรียกเราตั้งนาน ไม่ได้ยินรึไง เป็นอะไรรึเปล่าเนี่ยชายหนุ่มเอียงหน้ามองน้องสาวด้วยท่าทางสงสัย
                    " เปล่าซักหน่อย ไปกันรึยังล่ะ อิงพร้อมแล้ว" เด็กสาวพูดพร้อมกับสวมหมวกใบเก่งเข้ากับศรีษะได้รูป เมื่อมาถึงที่เป้าหมายของเด็กสาว ก็ไม่รีรอที่จะหาความสุขจากสิ่งที่ชอบ ดำผุดดำว่ายด้วยความดีใจในสายน้ำนั้น
                    "โอบ...."ผู้เป็นพ่อเรียกด้วยน้ำเสียงราบเรียบแสดงถึงความกังวล
                    "ครับป๊า" ชายหนุ่มผละจากการมองน้องสาวเล่นน้ำหันมาทางต้นเสียงที่เรียก รอฟังสิ่งที่พ่อกำลังจะพูด เพราะพ่อเรียกให้กลับมานี่ ต้องมีอะไรแน่
                    "โอบ..ว่าน้องโตพอที่จะรับรู้เรื่องราวต่าง ๆ ได้รึยังลูกสายตากังวลของผู้เป็นบิดาเริ่มฉายชัดมากขึ้น เมื่อนึกถึงเรื่องที่กำลังจะพูด
                    "ยังไงน้องก็ต้องรู้ฮะป๊า แต่เราจะบอกไปหมดเลยก็คงไม่ได้ ต้องค่อยเป็นค่อยไป" ชายหนุ่มเองก็กังวลเช่นกันกับเรื่องนี้
                    "งั้นโอบ..ไปอยู่เป็นเพื่อนน้องนะลูก ป๊าได้ข่าวมาว่าเขาอยู่ที่นั่น" ผู้เป็นบิดาเสนอทางเลือกที่คิดว่าดีแล้วให้กับชีวิตของลูก ซึ่งเป็นสัญญาที่ให้ไว้กับคนสำคัญคนหนึ่งในชีวิตของเขาเช่นกัน
                  "ครับป๊า ผมเองก็อยากรู้เหมือนกัน" สิ่งที่โหยหามาตลอดจะได้เจอกันมั้ย สิ่งที่หายไปจากความทรงจำของอิงจะคืนมาหรือเปล่า ผู้เป็นพี่ชายคิด
                  " งั้นป๊าจะให้น้องไปเรียนติว ตอนช่วงปิดเทอม ไปอยู่บ้านหลังเดิมของเรานะลูก" บ้านหลังนั้นที่ทำให้ทุกคนต้องหนีอดีตอย่างไม่เหลียวหลัง แต่มีแต่ลูกสาวคนนี้ของเขาเท่านั้นที่เฝ้าตามหาและมีคำถามกับเขาตลอด และเขาสัญญาไว้แล้วว่าจะให้สิ่งที่หายไปของลูกสาวกลับมา เมื่อถึงเวลานั้น
                   "มันคงถึงเวลาแล้วละครับป๊า"
                   "ใช่ลูก  ความลับไม่มีในโลกหรอก และน้องก็ควรรู้สิ่งที่ตามหาและคาใจเค้ามาตลอด" ในขณะที่ชายหนุ่มต่างวัยสนทนากันอยู่นั้น ไม่มีใครได้สังเกตุเลยว่าสาวน้อยเจ้าของหัวข้อสนทนาขึ้นมาจากการเล่นน้ำตั้งแต่เมื่อไหร่ และสิ่งที่คนที่เป็นที่รักทั้งสองคนคุยกัน เธอรับรู้
                         ..........อะไรนะที่หายไป อะไรนะที่เป็นความลับ......
    ....................................................................................................................................
      ...(- _-)... ฮือฮือ...ขอบคุณทุกกำลังใจมากเลยนะจ๊ะ ซึ้งใจจริง ๆ ไม่น่าเชื่อจากที่ท้อแล้ว  แต่พอได้อ่านข้อความของทุกคน เจ้ากำลังใจจะทำหน้าที่ให้ฮึดขึ้นมาได้ขนาดนี้  ขอบคุณมากนะจ๊ะ  จะพยามต่อไปนะจ๊ะ ใครมีข้อเสนอแนะดีดี คำติชม ยินดีรับไว้นะจ๊ะ  แล้วเจอกันตอนต่อไปจ๊ะ(^^)..
    - -

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×