คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : you got mail II (the end)
แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตามหลังจากนั้นอีก 3 วัน นุชก็ออกเดินทางตามที่ได้บอกไว้กับทุกคนและเมื่อส่งหญิงสาวขึ้นรถไฟไปแล้ว ทั้งสามสาวก็มานั่งคุยกันที่ร้านอาหารเล็กๆด้วยความค้างคาใจว่าทำไมจู่ๆนุชถึงได้คิดจะเดินทางอีกครั้ง
" ไม่เข้าใจ .. ไม่เข้าใจจริงๆนะ " เนย่าเอาหลอดทิ่มน้ำแข็งในแก้วด้วยความหงุดหงิดในขณะที่แนทตี้เองก็ตักเค้กในจานกินแก้เซ็งจนหมดเป็นชิ้นที่ 2
" อะไรจะขนาดนั้นพวกเธอ " แอ๋วหัวเราะคิกกับอาการของเพื่อนทั้งสองที่กลัดกลุ้มจนยามกินไม่ได้นอนยามนอนไม่ได้กินขนาดนี้
" แอ๋ว เธอรู้อะไรใช่ป่ะ บอกเรามาเลยนะว่าทำไมพี่นุชถึงจะไปที่นั่นอีก ไหนเจ๊แกบอกว่าจะไม่ไปเที่ยวแบบนี้อีกแล้วไง " เนย่าหันมาเค้นคอถามแอ๋วที่ดูเหมือนว่าจะรู้อะไรมากกว่าที่ตนรู้
" ชั้นก็แค่เดาๆเอา " แอ๋วบอกแล้วถอนหายใจเมื่อเห็นว่าเพื่อนมองเธออยู่ นี่ถ้าไม่บอกทั้งหมดคงไม่ได้กลับแน่ๆ
" โอเค พวกเธอรู้ไหม ใครส่ง E-mail มาให้พี่นุชในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา " แอ๋วตั้งประเด็นถาม แต่ก็ไม่มีใครตอบ เธอจึงตั้งประเด็นใหม่
" เธอจำได้ไหมว่า พี่นุชบอกพวกเราเรื่องภาพที่ส่งมาจาก E-mail นั้นยังไง " คราวนี้เนย่ายกมือแล้วตอบ
" จำได้ พี่นุชบอกว่าเป็นภาพท้องฟ้า ทุ่งหญ้าที่ล้อตามลม ฝนสีทอง แล้วก็ .... " ใบหน้าสวยทำท่าคิดแล้วหันไปหาแนทตี้ที่นั่งคาบช้อนอยู่
" แล้วรูปอะไรอ่ะ "
" หัวใจมั้ง หัวใจที่ไม่มีสี ว่าแต่มันเกี่ยวอะไรเหรอแอ๋ว " แนทตี้ตอบแล้วหันมาถามแอ๋วที่นั่งยิ้มอยู่
" แล้วรู้หรือเปล่าว่า เมลสุดท้ายคืออะไร "
สองสาวส่ายหน้าไม่รู้ แอ๋วยิ้มแล้วหยิบการ์ดใบหนึ่งออกจากกระเป๋าของเธอส่งให้เพื่อนๆดู
" การ์ดนี่ไง "
" แล้วรู้มั้ยว่า ใครคือ Mountain " ไม่มีคำตอบจากปากสองสาวอีกครั้ง
" คนนั้นของพี่นุชชื่ออะไร " แอ๋วใบ้ปริศนาคำ เนย่าและแนทตี้ทำท่าคิดก่อนที่จะทำตาโต อ้าปากค้าง ทำท่าชี้หน้าเหมือนพิธีกรรายการชื่อดัง แอ๋วหัวเราะคิกกับท่าทางขำๆนั้น
" ไม่แน่นะ กลับมาคราวนี้ เราอาจจะได้พี่นุชคนเดิมมาก็ได้ " แอ๋วบอกด้วยดวงตาที่พราวระยับในขณะที่สองสาวมองหน้ากัน ก่อนที่จะหัวเราะออกมาเมื่อเนย่าเอ่ยขึ้น
" งั้นก็น่ากลัวนา ถ้าเจ๊นุชกลับมาเป็นคนเดิม โหดเรียกแม่เชียวนะ "
เสียงหัวเราะของทั้งสามคนดังลั่นร้านก่อนจะรีบปิดปากเมื่อเห็นคนในร้านมองมา แนทตี้ทำท่าเหมือนจะลำลักขนมเมื่อประสานสายตาเข้ากับใครคนหนึ่งที่นั่งห่างออกไปแต่แล้วก็รีบกลบเกลื่อนด้วยการดึงขนมอีกชิ้นมาตักกิน แล้วไม่ยอมมองไปทางนั้นอีกครั้ง เนย่าเองก็สะดุ้งเฮือกเมื่อเสียงโทรศัพท์ดังเจ้าหล่อนรีบกดรับแล้วขอตัวออกไปข้างนอกเช่นกัน ทำให้แอ๋วที่เฝ้ามองอากัปกิริยาแปลกนั้นๆได้แต่หัวเราะคิก อีกไม่นานเธอจะได้พี่สาวคนเดิมกลับมา แต่เพื่อนทั้งสองของเธออาจจะเปลี่ยนไปแทนก็ได้กระมัง
แอ๋วเหม่อมองออกไปนอกกระจกอีกครั้ง วันนี้ท้องฟ้าสดใส เหมาะแก่การเดินทางจริงๆ หวังว่าพี่สาวของเธอคงจะปลอดภัยและได้พบกับชีวิตใหม่และประตูทางออกจากวังวนของความเศร้าเสียที
************************************************************
เสียงจอแจของผู้คนที่สถานีรถไฟเริ่มซาลงหลังจากที่ทุกคนเริ่มทยอยกลับบ้าน แต่หญิงสาวคนหนึ่งก็ยังคงนั่งอยู่ที่นั่งพักของผู้โดยสาร ราวกับกำลังชั่งใจ ในมือของเธอมีการ์ดที่ถูกปรินส์ออกมาจากคอมพิวเตอร์ การ์ดที่ถูกส่งมากับ
การ์ดสีขาว ที่มีภาพและข้อความใต้ภาพเรียงตามยาวลงมาเหมือนกับหัวข้อภาพของ E-mail ที่ส่งมาให้เธอ
ภาพท้องฟ้าอันงดงาม กับข้อความใต้ภาพว่า ... ท้องฟ้าสีคราม ....
ภาพทุ่งหญ้ากว้างที่เอนลู่ตามลม กับข้อความกำกับ ... สายลมสีเขียว ...
ภาพสายฝนที่ตกปรอยๆมองผ่านกรอบหน้าต่างเห็นเป็นสีทองด้วยสะท้อนแสงแดดที่ส่องผ่านลงมา กับคำว่า ... สายฝนสีทอง ...
และ .... รูปหัวใจ ที่ภายในไร้สีสรร นอกจากกรอบสีชมพูเท่านั้น และถ้อยคำของภาพนั้นก็คือ .... แล้วหัวใจสีอะไร ...
ดวงตาคู่สวยกวาดมองลงด้านล่างใกล้ขอบกระดาษอีกครั้ง ข้อความที่ทำให้เธอรู้ว่าใครส่งภาพและการ์ดมาให้ และมันก็เป็นเหตุผลที่ทำให้เธอตัดสินใจเดินทางมาที่นี่ มายังสถานที่ที่เป็นความทรงจำอันเจ็บปวด ความทรงจำของการลาจากในวันนั้น
... ดอยอินทนนท์ 20 ต.ค. 2547 ....
คงไม่มีความหมายอะไรกับข้อความนั้น ถ้าหากวันเวลาและสถานที่นั้นไม่ใช่วันที่เธอต้องร้างลาจากคนรัก วันที่เธอตัดสินใจถอยห่างจากเขาทั้งที่ยังผูกพันกัน และเธอก็เลิกท่องเที่ยวไปโดยสิ้นเชิง
" คุณจะรอชั้นอยู่ที่นั่นใช่ไหม " เธอถามฝากลมไปหาเจ้าของการ์ด ก่อนที่จะลุกขึ้นเพื่อหารถรับจ้างที่จะพาเธอไปยังจุดหมายที่รออยู่ เธออาจตัดสินใจผิดที่มาที่นี่ แต่นี่อาจจะเป็นทางเดียวที่จะทำให้เธอปัดเป่าหมอกควันที่ปกคลุมหัวใจมาเนิ่นนานก็เป็นได้
และในที่สุดหญิงสาวก็ได้กลับมาเหยี่ยบลงบนแผ่นดินของภูเขาสูง ส่วนที่สูงสุดของประเทศอีกครั้ง หากแต่ครั้งนี้เธอกลับมาอย่างเดียวดาย ผิดจากครั้งก่อนที่มา หญิงสาวเดินสำรวจไปตามเชิงเขาอย่างเพลิดเพลินกับธรรมชาติจนกระทั่งถึงจุดชมวิว ที่ศาลาพักนั้น ชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังยืนหันหลังให้เธอ และเหม่อมองออกไปยังเบื้องหน้า หัวใจของนุชเต้นไม่เป็นส่ำ สองมือกำแน่นด้วยความตื่นเต้น พยายามบอกให้ตัวเองใจเย็นๆ แต่จริงๆแล้วเธอแทบจะกรีดร้องเพื่อระงับความรู้สึกด้วยซ้ำ
เนิ่นนานแค่ไหนเธอไม่รู้ แต่เมื่อรู้สึกตัวอีกที ชายหนุ่มร่างสูงเบื้องหน้าก็หันกลับมาประจันหน้ากับเธอแล้ว พร้อมกับรอยยิ้มอบอุ่นที่คุ้นเคยนั้น เพียงเท่านั้น น้ำตาที่อุ่นจัดก็ไหลลงอาบแก้มที่เย็นเฉียบอย่างไม่อาจกลั้นและเธอก็ปล่อยให้มันไหลอย่างนั้นโดยไม่คิดจะเช็ดออก จนกระทั่งร่างสูงขยับเข้ามาใกล้และเป็นฝ่ายเช็ดน้ำตานั้นให้
" ขี้แยเหมือนเดิมนะ " น้ำเสียงทุ้มอันแสนคิดถึงดังแผ่วยิ่งทำให้น้ำตาไหลทะลักมากขึ้นราวกับมันถูกกักเก็บไว้มานานแสนนาน ร่างบางสั่นด้วยแรงสะอื้นจนคนร่างสูงต้องดึงคนขี้แยเข้ามาประคองกอดไว้แนบแน่น ไม่ต้องมีคำพูดอื่นใด ไม่ต้องมีคำปลอบโยนใดๆ ไม่ต้องอธิบายอะไรอีก เพียงเท่านี้ก็พอแล้วสำหรับคนสองคนที่รักกัน
" ผมดีใจที่คุณมา อย่าห่างกันอีกเลยนะ " อ้อมกอดแกร่งที่โอบรัดแนบแน่นและน้ำเสียงทุ้มสั่นเครือ เจ็บปวดและทุกข์ทนกับการจากลามานานทำให้ร่างในอ้อมกอดยิ่งสั่นสะอื้น แขนเรียวยกขึ้นโอบกอดแผ่นหลังกว้างแน่นเท่าที่จะมีแรงทำได้ สัมผัสอบอุ่นแทนคำตอบได้ชัดเจน การลากจากทั้งที่รักช่างแสนทรมาน จบสิ้นกันเสียที เมื่อรักแล้วทำไมต้องแยกทางกัน เมื่อรักแล้วทำไมต้องเจ็บปวด นานเกินพอแล้วกับความรู้สึกอันแสนทุกข์ทน จบสิ้นกันได้แล้ว
" แล้วงานของคุณ .. " ใบหน้าสวยเงยขึ้น น้ำตายังเปรอะแก้ม
" ผมยื่นข้อเสนอไปแล้ว ว่าผมจะทำงานที่นี่ ผมจะอยู่ที่นี่กับคุณ อยู่กับหัวใจและวิญญาณของผม ผมดีใจที่คุณรู้ว่าเป็นผมที่ส่งเมลมาให้ " ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆเมื่อร่างในอ้อมกอดทำท่าฮึดฮัด
" จะไม่รู้ได้ไง ตั้งชื่อซะตรง ตาบ้า หัดทำอะไรให้มันโรแมนติกหน่อยสิ " เสียงกระเง้ากระงอดทำเอาชายหนุ่มหัวเราะลั่น นั่นสินะ แต่มันก็เป็นนิสัยของเขา ที่ตรงไปตรงมาเหมือนกับธรรมชาติ ที่ไม่ยอมเจือแต่งอะไรทั้งสิ้น
"
*****************************************************************************
" โอ้ย คนเรานะ น่าอิจฉา พอคืนดีกับแฟนได้ก็ทำตัวหน่อมแน้มเชียว " เนย่าเอ่ยแซวหญิงสาวที่นับวันก็สดชื่นมากขึ้น คุยมากขึ้น และสวยมากขึ้นด้วย
" แน่นอนสิยะ ยายเน ใครจะเหมือนเราล่ะ ป่วนไปวันๆ เอ้าไปเก็บทางนู้นด้วย แอ๋ว มาเก็บแก้วทางนี้ด้วยนะ " นุชเขกหัวกลมๆของเนย่าไปหนึ่งทีก่อนจะตะโกนเรียกแอ๋วที่ยังอยู่อีกด้านของร้าน
" อู๊ยยย เจ็บ เจ๊มือหนักกว่าเดิมอ่ะ " เนย่าโวยวาย พร้อมกับเอียงหัวให้แนทตี้ดูว่าปูดมากแค่ไหน
" เจ๊ ว่าแต่เฮียภูผาจะกลับมาอีกเมื่อไหร่อ่ะ " แนทตี้เอานิ้วจิ้มรอยปูดบนหัวเนย่าจนร้องจ๊าก หันไปถามนุชที่กำลังเช็คเครื่องคอมพิวเตอร์อยู่
" ปีหน้าจ้ะ เห็นว่าจะกลับไปเคลียร์งานก่อน " นุชยิ้มตอบ ตอนนี้เธอทำใจได้แล้วกับการที่คนรักจะต้องไปทำงานต่างประเทศแบบนี้ ทั้งที่ตอนแรกเธอต่อต้านจนกระทั่งต้องเลิกรากันไปแม้ว่าจะยังรักกัน แต่เธอก็ยังโชคดีที่ยังมีโอกาสได้กลับมาแก้ตัวอีกครั้ง
" นี่ละน๊า คนเราคู่กันแล้วก็ไม่แคล้วกันขนาดว่าเลิกกันไปตั้ง 2 ปีกว่าแล้วยังกลับมาหากันได้ เฮียภูผาเองใช่ว่าจะขี้เหร่ทำไมไม่มีใครสนหว่า หรือว่า .... " เนย่าทำตาเหล่มาทางนุช
" หรือว่าอะไร " สามเสียงประสานถาม เนย่าหัวเราะก่อนจะถอยกรูดไปอยู่ไกลๆเพื่อป้องกันอันตราย
" หรือว่าเจ๊จะเล่นคุณไสย์น้ะสิ อ๊าาาา " เสียงแหลมร้องกรี๊ด เมื่อโดนปาด้วยยางลบก่อนจะวิ่งหนีโดยมีนุชวิ่งไล่ แอ๋วกับแนทตี้ได้แต่หัวเราะกับการวิ่งไล่จับยามดึกของสองสาว แต่เหนือสิ่งอื่นใดนั้นสิ่งที่น่ายินดีกว่าที่นุชคืนดีกับคนรักได้นั้นสำหรับแอ๋วก็คือ การที่ได้เห็นรอยยิ้มของนุชอีกครั้ง และครั้งนี้เธอมั่นใจว่า รอยยิ้มนั้นจะไม่หายไปเหมือนสองปีก่อนแน่ๆ
" แล้วตกลงพีนุชได้คำตอบหรือยังว่า หัวใจของพี่นุช สีอะไร " แอ๋วเอ่ยถามทำให้นุชที่จับเนย่าได้แล้วต้องชะงัก ทำให้เนย่าหลุดไปได้ หญิงสาวทำท่าคิดแต่ไม่ยอมตอบ
" ไม่บอกหรอก ความลับ " นุชยิ้มก่อนจะหันไปวิ่งไล่เด็กซนต่อแต่แล้วเสียงสัญญาณบางอย่างก็ดังขึ้น ทำให้เธอต้องรีบวิ่งกลับไปที่คอมพิวเตอร์
ติ๊ดดด
...... You got mail ...
แก้มเนียนใสแดงเรือ ทำให้สามสาวทำตาโตยิ้มกริ่ม รู้ทันทีว่าใครส่งมา แต่เมื่อทำท่าจะมาขอมีส่วนร่วมด้วยก็โดนสายตาสวยดุมองจ้องมาเสียก่อนทำให้ต้องทำไม่รู้ไม่ชี้ทำงานไป แต่ก็ไม่วายเลียบๆเคียงๆมาใกล้ให้โดนดุกันอีกจนได้
นุชถอนหายใจเหนื่อยๆเมื่อไล่แม่สาวซ่าส์ทั้งหลายกลับไปได้ หญิงสาวปิดร้านก่อนจะเดินมาที่คอมพิวเตอร์ แล้วยิ้มเมื่อนึกถึงคำถามของแอ๋ว
.... ตกลงได้คำตอบหรือยังว่า หัวใจของพี่นุช สีอะไร ....
" นั่นสินะ สีอะไรน๊า " หญิงสาวรำพึงกับตัวเองก่อนจะคลิกเมาส์เข้าไปอ่านเมลล์อย่างมีความสุข หัวใจของเธอสีอะไรอย่างนั้นเหรอ นั่นสินะ หญิงสาวคิดเล่นๆ ก่อนจะยิ้มเมื่อเห็นข้อความในเมลจากคนรัก
" ตาบ้า !! " นุชบ่นคนรักก่อนจะพิมพ์ข้อความตอบกลับไป สำหรับคนอื่น อาจต้องการได้ยินเสียงคนรักตลอดเวลา หรืออยากอยู่กับคนรักตลอดเวลาเหมือนเธอเมื่อสองปีก่อน แต่วันนี้ ตอนนี้ ขอแค่ได้อ่านข้อความจาก E-mail ของเขาทุกวัน เพียงแค่นี้ก็มีความสุขแล้ว ขอเพียงทุกวันได้ยินสัญญาณนี้ และข้อความนี้ เธอก็เต็มตื้นในหัวใจ ขอแค่นี้ก็มีกำลังใจที่จะเฝ้ารอคนรักกลับมาเคียงใกล้ และกับคำถามที่ว่า หัวใจของเธอนั้นสีอะไร ก็ยังเป็นคำถามที่เธอเองก็ยังค้นหาคำตอบอยู่เหมือนกัน เพราะความรักก็เปรียบเหมือนสีสรรที่มาแต่งแต้มหัวใจ บางครั้งก็สีสดใส แต่บางครั้งก็สีออกทึม แล้วแบบนี้จะให้บอกได้ยังไงว่าหัวใจของเธอสีอะไร รู้แต่ว่า นับวันๆ หัวใจของเธอจะยิ่งดวงโตและสดใสมากขึ้นๆ ทุกครั้งที่ได้ยินเสียงสัญญาณจากเครื่องคอมพิวเตอร์ และข้อความแจ้งเตือน
ติ๊ดดด
...... You got mail ...
แค่นี้ ก็แทบอยากจะหาสีอะไรก็ได้ที่ทั้งสวย สดใสและสว่างอบอุ่นมาเทระบายให้เต็มดวงใจดวงนี้เลยทีเดียว
ความคิดเห็น