ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    fanfic-baramos ฟิคบารามอส ยังไม่มีชื่อเรื่องครับ

    ลำดับตอนที่ #3 : วงกตใต้ดิน

    • อัปเดตล่าสุด 28 เม.ย. 48


    บทที่ 3 วงกตใต้ดิน



        “โร”





        นัยน์ตาสีเขียวหันมาสบ  รอคำถามที่จะยิงมาของคนข้างๆ





        “สโนแลนด์มีที่แบบนี้ด้วยเรอะ”





        ผู้ถูกถามขยับยิ้มกับตลกฝืดของคนดวงซวย . . . ณ ตอนนี้ มองไปรอบๆมีแต่สีขาวกั้นเป็นแนวๆ  พอสัมผัส  สีขาวนั้นก็หลุดออกมองเห็นภายในเป็นสีเขียว  มันคือต้นไม้ที่ถูกสร้างเป็นเขาวงกตขนาดใหญ่  ส่วนสาเหตุที่เธอมาอยู่ที่นี่ก็เพราะ. . .ตกหลุมข้างบนหล่นลงมา  เรียกแบบนี้คงจะถูก





        เจ้าหล่อนยืนเท้าเอวหาทางออก ผู้ใดมันเป็นคนขุดหลุมไว้  ที่สำคัญคือมันมาทำเขาวงกตเล่นอะไรใต้ดินแบบนี้  ความคิดมันจะสร้างสรรค์เกินไปแล้ว  แทนที่จะได้ส่งของให้มันจบๆก็ต้องมาหล่นเผละอยู่ในนี้ด้วยความไม่ระวัง  ใครมันจะไปนึกว่ามีหลุมอยู่หน้าวัง  แล้วอีก 2 คน มันไปหล่นอยู่ส่วนไหนของที่นี่หละ  ปวดเฮดจริงๆ

        



        “แกรู้ทางออกรึเปล่า”  เฟรินเปรยถาม  ความเงียบเป็นคำตอบ “ถ้ารู้ไม่ต้องทำเป็นเงียบนะเว้ย  รีบๆออก  ไม่ชอบที่นี่เลยให้ตายสิ”







        “ทางออกหนะมี(ข่าวสารของทริสทอร์ไม่เป็นรองใครอยู่แล้ว) แต่หิมะขวางทางอยู่”  โรเดินไปที่กองหิมะสูง “คงหล่นมาพร้อมกับพวกเรา”





        ผู้ฟังเดินเข้ามาสมทบ





        “งั้นจะทำยังไง”  เฟรินเปรยถามกวาดตามองไปทั่ว  ก่อนจะดึงคนรอบรู้ไปโดยไม่รอคำตอบเมื่อไปพบกับอีกทางใกล้ๆ  พลิกจากคนถามมาเป็นคนนำ  เดินเร็วไปตามช่องทางสีขาวโพลน





    ...................................................................





        การทรงตัวที่เสียสมดุลทำเอานักฆ่าหน้าซีด  ก่อนจะโล่งออกไปเมื่อคนข้างๆมันเรียกลมหิมะมารองรับไว้กันก้นเขียว  ร่างแข็งแรงลุกขึ้นทันทีที่ถึงพื้น  มือกร้านปัดหิมะออกจากเสื้อ นัยน์ตาสีม่วงกวาดไปทั่วก่อนกลับมาหยุดที่คาโล      





        เจ้าชายน้ำแข็งที่ถ้าไม่สังเกตให้ดีมันอาจจะถูกบรรยากาศกลืนไปมิด  ผมสีเงินนัยหนึ่งคือขาวถ้าไม่มีแสงมากระทบ  ตาสีฟ้า มองผ่านๆเป็นสีขาว  ผิว . . . ขาวอีก  อืม  นอกจากนี้  เสื้อมันก็ขาว  โอ้  มันเป็นอะไรมากรึเปล่า  แต่งขาวทั้งตัว  หลงกันทีไม่ต้องหาเลย





        คิลส่ายหน้าช้าๆ  เขาติดนิสัยวิพากษ์วิจารณ์คนอื่นมาจากตัวแสบนั่นรึเปล่า  แต่มันก็ชวนให้น่าคิดจริงๆหนะแหละ  ว่าเพื่อนแต่ละคนมันผิดปกติกันหมด  ไม่ต้องให้สาธยายในใจเพราะมันคงยาวไปหลายสิบโยชน์  มิน่าพ่อถึงบอกว่าอย่าคบเพื่อน. . . .แต่มันสนุก. . .ดีกว่าไม่มีเยอะ

        



        นักฆ่านัยน์ตาม่วงเดินเข้ามาใกล้  รอให้อีกคนนำไปด้วยไม่คิดจะถาม  เขาไม่ใช่คนช่างพูดเหมือนใครบางคนที่ไม่รู้มันไปหล่นอยู่ส่วนไหน  แต่เขาก็ไม่โง่พอที่จะไม่ทำอะไรเลย



        

        เนตรสีฟ้าหันมาสบ  พลันเจ้าของร่างก็เดินนำอย่างรู้หน้าที่  คิลขยับยิ้ม  ก่อนจะขนลุกซู่เมื่อนึกถึงคำพูดผล่อยๆคำนึง. . . . . . สื่อตาภาษาใจ. . . .

        



        คทาพิพากษาอยู่ในมือเจ้าของแล้ว  หัวลูกแก้วขาวส่องแสงถูกใช้นำทางไปหาเด็กหลงทางอีก 2  คน  น่าสงสัยว่าทำไมมันจะบังเอิญกันไปมั้ยที่ตอนหล่นมาต้องแยะเป็น 2 กลุ่ม  กลุ่มละ 2 คนอีก  ท่าทางวันนี้เลขสองจะนำโชค(ร้าย)ให้





        ผมสีเงินโดนหิมะกลบเล็กน้อยเมื่อมันหล่นมาติดตอนต้นไม้ไหวลมหนาว  เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วในแดนเหมันต์  แสงจากข้างบนมืดลง  ภายในอุโมงค์ขนาดใหญ่ใต้ดินนี้จึงมืดหนักกว่า ถ้าไม่มีคาโล  เขาก็ต้องเดินไปเงียบๆท่ามกลางความมืดที่หนาวเย็น  นึกๆแล้วก็เห็นใจอีกฟากหนึ่ง  ถ้าเกิดตัวแสบนั่นมันหล่นอยู่คนเดียว  มันมิกลัวตายรึ  เอาเป็นว่าภาวนาให้มันหล่นไปเจอโรด้วยเถอะ สาธุ  ดีกว่าให้มันแหกปากลั่นตอนดึกแล้วหิมะตกมาทับเพราะทนเสียงอุบาทว์ไม่ไหว  คิลคิดแล้วก็ขันในใจ  ยิ้มที่มุมปาก

        



        ความมืดค่อยๆแผ่ขยายอาณาเขตขึ้นเรื่อยๆ  การที่พวกเขาหายตัวไปพร้อมกัน  4 คนมันดูไม่แปลกไปหน่อยหรือ  ทำไมไม่มีวี่แววคนตามหาเลยสักนิด  ราวกับคนนำทางจะรู้คำถาม คาโลจึงเปรยขึ้นลอยๆ

        



        “ที่นี่เป็นเขาวงกตใต้วังหลวง  ปกติไม่มีคนเข้ามาสำรวจ  ถูกปิดตาย  ถ้าจะออกคงต้องอาศัยทางเชื่อมใต้ดินกับตัวปราสาท”

        



        คำอธิบายที่บอกชัดว่ามันรู้ทางออกไม่ต้องเป็นห่วง  ทีนี้จะทำยังไงกับการตามหาอีก 2 คน  ให้โรนำน่าจะเจอกันง่าย  หมอนั่นมันรู้ไปหมด  ตั้งแต่เรื่องอะตอมยันอวกาศ  กลัวแต่ว่าไอ้บ้านั่นมันจะชิงนำทางไปซะก่อน  ทีนี้หละได้หลงกันสนุกสนานสำราญใจ  ต้องตามหาด้วยดาวเทียม ถึงจะเจอ

        



        แล้วเสียงหนึ่งก็วูบผ่าน  ที่พุ่มไม้หนาด้านขวา  หิมะซึ่งเกาะอยู่หล่นลง  คิลตัดสินใจเดินไปสมทบกับคาโลหลังจากที่เดินตามหลังมานาน





        “ได้ยินมั้ย”  นักฆ่าเปรยเสียงแผ่ว



        

        คนตอบพยักหน้ารับรู้  นัยน์ตาสีม่วงมองไปข้างๆด้วยความระแวดระวัง  ประสาทสัมผัสตื่นตัว  ทางข้างหน้ามืดสนิทแต่เห็นได้ด้วยแสงจากคทาพิพากษา  พื้นหิมะนุ่มๆดูไม่ชอบมาพากลแล้วในยามนี้ สีดำกลบกลืนทุกอย่างให้มองไม่เห็น  บดบังการรับรู้ด้วยดวงตา  





        หูนักฆ่าได้ยินเสียงนั่นอีกครั้ง  มันใกล้เข้ามาเรื่อยๆ  เสียงซวบๆ ผ่านต้นไม้ดังขึ้นจนเกือบถึงตัว  แล้วจู่ๆมันก็เงียบไป





        คาโลหยุดอยู่กับที่เป็นสัญญาณให้นักฆ่า  เตรียมตัว. . .





        ร่างในเงามือกระโดดวูบออกมา  โถมเข้าใส่คิล  แรงและหนักจนเซล้ม  มือกร้านขยับหมายเรียกอาวุธรัดคอ  พลันนัยน์ตาสีม่วงก็เบิกกว้าง  เรตินาขยายตัว  สิ่งที่อยู่บนตัวเขาตอนนี้  ทับเขาอยู่  แถบมันยังเอามือกอดตัวซะเต็มที่  ผมสีน้ำตาลพันกันมั่วเต็มใบหน้า  เฟริน!

        



        “คิล”  เพื่อนรัก ตะโกนทัก   ทั้งที่อยู่ในระยะใกล้  แต่มันเสียงดังจนขี้หูเต้นระบำไปถึงไหนต่อไหน  พอคุมสติได้หน่อยคิลก็หันไปมองคาโล  มันก็ยืนตื่นๆเหมือนกัน  เมื่อไอ้ตัวที่ระวังนักหนาว่าจะเป็นตัวอะไรร้ายกาจน่ากลัวกลับเป็นตัวแสบไร้พิษสง



        

        เสียงซวบสุดท้ายดังขึ้นพร้อมๆกับร่างของโร เซวาเรส  บุรุษที่สีหน้าเปื้อนรอยยิ้มเสมอ  ผิดไปนิดตรงที่มันเปื้อนอะไนขาวๆด้วยเล็กน้อย  ยังความสงสัยให้ปากขยับ





        “แก้มนายไปโดนอะไร”  คิลถามก่อนดันตัวแสบให้ออกไปได้แล้ว  เขาไม่พิศวาสมันหรอกจะบอกให้  กอดผิดคนแล้วพวก





        ผู้ถูกถามชี้นิ้วไปที่หัวขโมยผมยุ่ง คิลสบถอุบ  ในเวลาแบบนี้มันยังมีหน้ามาเล่นปาหิมะอีก  เชื่อมันเลย





    …………………………………………………





        “อีกนิดเดียว เฟริน  พยายามหน่อย”  น้ำเสียงหอบฮั่กของเพื่อนซี้กระตุ้น





        “ไม่ไหวแล้ว”  เสียงจากด้านบนตะโกนตอบ  มันก็หอบเหมือนกัน





        “เฮ้ย  อีกนิดเดียว  อย่าเชียวนะ”  นักฆ่าเร่งทันที  เมื่อคนข้างบนที่มันกำลังก่ายสุดชีวิต ดูคล้ายแมงมุมปั่นใย ตะเกียดตะกายขาให้ขึ้นไปสู่ด้านบน  มือกร้านพยายามช่วยๆดันมัน  ด้วยกริยามารยาทนิสัยกิจวัตรของมันทำให้ลืมสนิทไปว่ามันเป็นผู้หญิง  คิลเลยไม่ต้องคิดอะไรมาก  ถีบมันขึ้นไปอย่างสบายใจแกมรำคาญ



        หัวขโมยร้องเสียงหลง  หน้าทิ่มกับพื้น  พอลุกขึ้นมาก็นวดจมูกกลัวดั้งยุบ  ก่อนจะแหกปากกล่าวขอบคุณนักฆ่าผู้อุตส่าห์ส่งมันขึ้นมาถึงช่องทางออก  โดยมีเจ้าหล่อนอยู่คนเดียวที่ออกไปได้แล้ว  เหลือแต่อีก 3 คนข้างล่าง  นัยน์ตาสีน้ำตาลหาของมาช่วยดึงมันขึ้นมา  แล้วก็เป็นอันยกเลิก  เมื่อมันปีนกันกระโดดขึ้นมาหน้าตาเฉย   ทำเอาคนมองหมั่นไส้อย่างบอกไม่ถูก





        “ทางนี่จะนำไปสู่ข้างในวังโดยตรง  อีกเดี๋ยวคงถึง”  โรเปรยอธิบาย  คนฟังพยักหน้าหงึกๆ   เว้นแต่คาโลที่เหมือนรู้ดีอยู่แล้ว  ความเงียบโรยตัวชั่วหนึ่ง





        เฟรินแสร้งถอยหายใจเสียงดัง  แล้วเปรยขึ้น





        “สรุปก็เลยต้องเข้าวังโดยทางลัด  เท่ไปคนละแบบ  แล้วพวกคนในวังจะไม่ตกใจเหรอ  ถ้าเราโผล่ขึ้นไปแบบนี้”





        “เดี๋ยวขึ้นไปนายก็จะรู้เอง”  โรตอบ





        วันนี้มันดวงคู่กับเลขสองยังไม่พอ  ผลบุญอันใดบันดลให้ต้องเดินในอุโมงค์ค์ทั้งเช้าทั้งเย็นด้วยหละเนี่ย  หินเก่ามีละอองหิมะคลุมบางๆ  พอเดินไปสุดทาง  ก็ปรากฏหินก้อนใหญ่  แต่เมื่อคาโลเอามือไปแตะ มันก็หายวับไปราวกับเวทมนต์  น่าพิศวงจนหัวขโมยอดแซวไม่ได้





        “นายเล่นมายากลเก่งแบบนี้  ทำไมไม่เอาไปใช้หาตังค์”  เจ้าหล่อนว่า  โคลงหัวไปมา “ลืมไป  นายเป็นเจ้าชาย  รวยอยู่แล้ว”  คนพูดกอดอกขึงขังแล้วนำหน้า ฉายเดี่ยว  





        เป็นอย่างที่คนปากไวคิด  ชาววังทั้งหลายมีท่าทีตกใจเล็กน้อยกับการมาของอาคันตุกะผู้มอมแมม  แต่คนหนึ่งยังคงมาดมากไว้เป็นลักษณะเด่น   หลงนึกว่าเศรษฐีตกยากหลงเข้ามาในแรกเห็น





        ครั้นเมื่อถามไถ่กันเรียบร้อย  ด้วยฝีปากวาทะอันยอดเยี่ยมของ โร เซวาเรส  ทุกคนก็ได้รับการต้อนรับอย่างดี  พวกเขาถูกส่งไปที่ห้องรับรอง  วันแรกก็เต็มที่แล้วกับการเดินหลงและมอมแมม





        เสียงประตูดเปิดแอ้ดขึ้น  เรียกความสนใจจากคณะเดินทางทั้งสี่ให้หันไปมองก่อนจะกลับมาทำอะไรเล่นตรงหน้าอย่างไม่ใส่นักเมื่อคนที่เข้ามาเป็นสาวน้อยในชุดแม่บ้าน  ผู้ที่เฟรินมองไม่วางตาตั้งแต่เจ้าหล่อนเข้ามา



        

        มือบอบบางวางแก้วน้ำลงช้าๆ  ไม่พ้นสายตาไวดุจระบบถ่ายภาพดิจิตอล ผู้สังเกตเห็นอาการสั่น  จึงขยับรอยยิ้มกว้างเป็นมิตรขณะรับแก้วน้ำ  แล้วแว่บหายไปจากห้องกับเจ้าหล่อนอย่างเงียบๆ. . .สมกับฉายาหัวขโมยแห่งบารามอส



        

        คิลเงยหน้าขึ้นมาจากมีดในมือ  ขณะที่มืออีกข้างถือหินก้อนเล็กไว้ลับอยู่  นัยน์ตาสีม่วงมองหาเพื่อนรักที่มันเผ่นไปไหนต่อไปแล้ว  อีกสองคนนั่งตรงข้าม  คนหนึ่งอ่านหนังสือเล่มหนากับอีกคนอ่านเล่มหนากว่า  หนอนหนังสือชัดๆ  สองคนนี้  คิลขยับยิ้มกับตัวเอง  รู้สึกวันนี้จะคิดมากพูดมากตามใครบางคนเข้าแล้ว

        



    ...............................

    อ่า ภาพเรือในตอนที่ 1ครับผม http://ritz.exteen.comขอบคุณที่เข้ามาอ่านคร้าบ= =a(ฟิคร่อแร่มากครับ ตอนนี้  สมองไม่แล่น อ๊าก  มึน)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×