ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    fic-baramos ฟิคบารามอส เรื่อง ขอสับบทกันมั่งนะคาโล

    ลำดับตอนที่ #3 : ทัศนศึกษา

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 167
      0
      15 เม.ย. 48

    บทที่ 3 ทัศนศึกษา



        แสงแดดยามเช้าส่องผ่านช่องว่าระหว่างม่านเข้ามาพาดโดนดวงหน้าขาวๆ นัยน์ตาสีฟ้าค่อยๆขยับปิดขึ้น ในห้องประจำชั้นปีที่นานๆจะเงียบสงบซักที  เสียงจิ๊บๆของวิกหคคุยกันอยู่นอกหน้าต่างคลอให้บรรยากาศสดชื่นต้อนรับวันใหม่ แต่. . .ถึงขนาดมีแดดดส่งอเข้ามามันก็แปลว่า. . .ต้อง8-10โมงแล้วไม่ใช่รึ  คิดได้แค่นั้นสาวน้อยก็ลุกออกจากเตียงทันที



        ดวงตาปราดมองไปยังที่สถิตของเพื่อนทั้งสอง ก็พบว่ามันหายออกไปจากเตียงแล้ว  ไม่จริงใช่มั้ยที่คนอย่างคาโล วาเนบลีจะตื่นสาย เรื่องแบบนี้เปอร์เซ็นต์การเกิดมีไม่ถึง 1 ด้วยซ้ำ แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่เนี่ย



        แล้วอยู่ๆภาพที่เห็นก็มัวลง การทรงตัวเริ่มผิดเพี้ยนก่อนลำตัวจะเซจนเกือบล้ม แล้วร่างสาวน้อยก็ได้รับการประคองไว้  จากคนที่พึ่งเข้ามาในห้องโดยไม่ต้องเคาะ ก็มันเป็นเจ้าของห้องเหมือนกันนี่นะ



        คาโลพยายามดันตัวยืนขึ้นแล้วเขี่ยๆมือของคนช่วยออกไป



        “เป็นอะไรของนาย  คาโล  ความดันต่ำตอนตื่นสายรึไง”  หัวขโมยถามเสียงสดชื่น  วันนี้มันโดนคิลปลุกแต่เช้าตรู่  เพืออะไรก็ไม่ทราบ  แต่ตัวมันก็ดันบ้าจี้ตื่นตามได้ซะอย่างนั้น ทั้งที่ปกติหลับแทบไม่ตื่นแท้ๆ



        ไม่มีคำตอบจากก้อนน้ำแข็งตรงหน้า  ยังความหมั่นไส้ในการขี้เก็กของมัน ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าเป็นผู้หญิงอยู่  ให้ตายสิ  ดีแต่ว่าเขาว่าให้ทำตัวสมเป็นผู้หญิง มันก็ไม่ได้ดีเด่มากกว่าเท่าไหร่นี่หว่า



        เฟรินขยับยิ้มกับความคิดตัวเอง  แล้วถอยออกห่างจากสตรีถือตัว  เดินตรงไปยังเตียงของตัวเองแล้วจัดของที่หอบมาวางไว้  เหตุการณ์วันนี้มันดูพิลึกชอบกล ให้พ่อมดแห่งคาโนวาลใจไม่ดี มันตื่นเช้า เขาตื่นสาย  รับไม่ได้อย่างแรง  แล้วความสนใจของห้องก็ถูกเรียกไปยังประตูเมื่อเจ้าของร่างนัยน์ตาสีม่วงเดินเข้ามา  ในมือหอบของคล้ายที่หัวขโมยตัวแสบแบกมาแล้วเมื่อกี้  แต่เยอะกว่า



        “ช้าจริงเลย คิล”



        นักฆ่าไหวไหล่แทนคำตอบ  ไม่รู้ว่าเพราะไม่อยากเถียงหรือเถียงชนะคนตรงหน้าไม่ได้เลยเลือกที่จะเงียบตามแบบเจ้าชายน้ำแข็งแทน นิ่งสงบสยบความเคลื่อนไหว  แต่ดูเหมือนจะใช้ไม่ได้ เมื่อคนที่ต่อกรอยู่เป็น เฟริน เดอเบอโรว์ หัวขโมยแห่งบารามอสที่ควรเปลี่ยนฉายาเป็นเดอะสปีกเกอร์มากกว่า



        “ได้มาเท่าไหร่หละ” สปีกเกอร์ออฟบารามอสในความคิดของคิลถามต่อ



        “เยอะกว่านายแล้วกัน” คิลพูดจบ เฟรินก็หัวเราะแหะๆให้ “ขี้โกงนี่หว่า เล่นหนีขึ้นมาก่อน ไม่เคยจะเรียกแอบอยู่ในห้องสบายคนเดียว”  คิลกล่าวต่อแต่ดูเหมือนจะลืมนับคาโลที่ยังอยู่ในห้องเพราะตื่นสายไปคน



        เป็นบทสนทนาที่ทำให้คนตื่นสายงุนงงยิ่งนัก  เมื่อไม่รู้ว่ามันกำลังพูดเรื่องอะไรอยู่  บางทีเขาพอจะเข้าใจจิตใจของเฟรินมันแล้วก็ได้ว่าตอนที่เขาพูดอะไรกับคิลแล้วมันไม่รู้หนะเป็นยังไง



        เหมือนเพื่อนนักฆ่าจะรู้ว่าเขางง  เลยอธิบายให้ฟังแบบสมองอิ่มไปเลย  



        “วันนี้เป็นวันหยุด  แต่เค้าเรียกปี 3 ไปทำกิจกรรมข้างล่าง เล่นเกมส์อะไรไม่รู้  เค้ากักตัวไม่ให้ขึ้นหอ  ก็เลยเล่นแล้วได้ไอ้นี่มา”  คิลยกของในมือให้เห็น



        ของในมือคือแอปเปิ้ลสีแดง ขนาดเล็ก ใช่   มันไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าการเป็นแอปเปิ้ล



         หัวขโมยแห่งบารามอสกัดกร้วมลงไปก่อนเอ่ย “อร่อย”



    ..............................................................................................................



        ณ ห้องรวมพล  หรือเรียกว่าๆว่าลานกว้างๆที่มีไว้ประชุม เสียงบรรยายของเสธฯฝ่ายซ้ายดำเนินไปอย่างคึกคัก แต่อีกคนกลับไม่มีอารมณ์ร่วมเลยซักนิด



        “หาววว~”  เสียงหาวไม่เกรงใจใครเรียกให้มากกว่าครึ่งห้องหันไปมองที่มา  เฟรินหัวเราะแหะๆกับยิ้มแหยๆให้

    วันนี้วันหยุดทั้งที ไหงเรียกประชุมซะอย่างนั้น กะจะหลบไปนอนให้เต็มที่ซักหน่อย  เสียดายเวลาจริงๆ



        “โรเวนเค้าพูดอะไรวะ คิล ง่วงงงจะตายอยู่แล้ว”  คนก่อกวนการปะชุมหันไปถามคนข้างขวา สะกิดให้มันตอบ



        “ไปทัศนศึกษา”



        เฟรินชะงักสนใจเล็กน้อย



        “ที่ไหน?”  เจ้าตัวถามพลางยกแขนขึ้นมือประสานกันวางลงที่ท้ายทอย  แล้วคำตอบที่ได้รับก็ทำให้แทบเป็นหินกลางฝูงชน



        “คาโนวาล”





        เวรกรรมมันช่างถาโถมเข้าใส่  นายไปทำบาปอะไรที่ไหนไว้  นึกให้ออกเซ่ จะได้ไปล้างบาป เหนือซวยยังมีซวยกว่า เหนือซวยกว่ายังมีซวยที่สุด นี่ถ้าพ่อมันมาเจอลูกชายกลายเป็นผู้หญิงจะทำยังไงดีว้า



        คิลมองเพื่อนผู้โชคร้ายเพราะกรรมที่ตนก่อ  แล้วยิ้มชอบใจ  มันเพี้ยนขึ้นทุกวันวุ้ย ไอ้นี่ ตลกชะมัด



        สาวผมเงินข้างๆที่โดนล็อคตัวให้มาเรียนตามปกติสร้างความอือฮาให้เพื่อนๆไม่น้อย  แล้วมันก็กลายเป็นข่าวอื้อฉาวเมื่อหนุ่มจากป้อมอื่นมาจีบ( คาโลหน้าซีดทันที การโดยผู้ชายมาชอบมันช่างเป็นอะไรที่น่าประทับใจยิ่งนัก ) แล้วหัวขโมยตัวแสบมันอยากจะรับผิดชอบหรือมันหึงของมันก็ไม่ทราบ ถึงได้เข้าไปโอบไหล่แล้วประกาศออกไปเสียงดังว่า มันเป็นแฟนกัน  ป่านนี้. . .ข่าวมันจะโดดดัดแปลงปรุงแต่งให้มีรสชาติไปขนาดไหนแล้ว?



    …………………………………………………….



        เช้าวันต่อมาในกำหนดการ  บนเกวียนขนส่งนักเรียนแห่งเอดินเบิร์ก  เสียงคุยกันมีเป็นกลุ่มๆ แต่ก็ไม่ดังหนวกหูนัก เฟรินมองไปยังกระดานหมากเบื้องหน้า  มันช่างเป็นการเดินทางที่น่าเบื่อสุดจะทนเมื่ออาจารย์ที่รักสั่งให้จับกลุ่มกัน 4 คน แล้วทำไมคุณชายโรมันจะต้องตามติดเขา ซึ่งความจริงก็ไม่เลวร้ายเท่ากับการหาเรื่องมาให้เขาอยากรู้แล้วท้าเดินหมากกัน



        “นายรู้รึเปล่าเฟริน  ว่าที่ๆเราจะไปกันหนะมันเป็นที่แบบไหน”  คำถามแรกที่ส่งมายั่วต่อมอยากรู้



        “ว่ากันว่าคิงคนที่13ของคาโนวาลเป็นปีศาจจำแลงมา”  ข่าวลอยๆในครั้งที่ 2



        “มีผลไม้ชนิดหนึ่งของคาโนวาลช่วยรักษาโรคริดสีดวงได้” กระตุ้นในรอบที่ 3



        “แล้วนายจะรู้ว่าประวัติศาสตร์คาโนวาลมันสนุกแค่ไหน” และสุดท้าย. . .ชวนให้สงสัยว่ามันเป็นคนจากทริสทอร์, เวนอล หรือ คาโนวาลกันแน่ เล่นโฆษณาคาโนวาลแบบไม่ยั้งอย่างนี้



        เมื่อขบวนเกวียนจำนวนหลายคันเดินทางมาถึงสถานที่ปลายทาง  นักเรียนจำนวนหลายร้อยคนก็ทยอยกันลงมาจากแต่ละเกวียน แล้วมาจัดแถวกลางลานซึ่งกว้างพอๆกับลานรวมพลที่ป้อม ให้บรรยากาศคุ้นเคยเดิมๆ ลดความตื่นเต้นไปได้เยอะ



        “เฮ้ย คิล ที่นี่มันที่ไหน”  เฟรินเอียงคอถามเพื่อนข้างขวาคนเดิม  ก็ถึงมันจะถามคนด้านซ้ายมันก็คงตอบเป็นภาษาน้ำแข็งที่มีแต่เหล่าน้ำแข็งด้วยกันเท่านั้นถึงจะรู้  สู้ถามคิลมันทีเดียวเลยดีกว่า



        “แกก็หัดฟังๆตอนโรเวนเค้าพูดหน่อยสิ(โว้ย)” คิลด่ากลับ “พิพิธภัณฑ์อาวุธในตำนาน อีกที่ก็สถานฝึกนักรบ”



        คนถามหูผึ่งทันที  ลืมเรื่องทุกข์ร้อนของพ่อลูกน้ำแข็งไปจนหมดสิ้น



        น่าสน! เจ้าตัวสรุปในใจ  ดาบในตำนานจะขายดีกี่ตังค์เนี่ย  คล้องกับความคิดมือก็ขยับถูกันมา  ก่อนจะชะงักว่าตนเองเหมือนพ่อมาดัสมากไปแล้ว

        

        “คาโลๆ” ทีนี้คนถูกถามเป็นสาวน้อยผมเงิน  เมื่อถูกเรียกแม้ไม่อยากหันไปหามันก็ต้องทำ ไม่งั้นมันอาจจะหาเรื่องเรียกร้องความสนใจแบบที่คาดไม่ถึงก็ได้



        “อะไร”  คาโลรับการเรียกด้วยคำถาม  ให้คนเรียกถามต่อด้วยเสียงเครียดผิดวิสัยหัวขโมยตัวแสบ



        “คิงปี...พ่อแกอะ”  เฟรินเปลี่ยนสรรพนามกระทันหัน “ออกมาเล่นเดินแทบๆนี้มั่งรึเปล่า”  เมื่อถามแล้วก็รอคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ สีหน้าเคร่งจนน่าขัน ไม่เหมาะกับมันขั้นโคม่า



        “ตรวจราชกาล”  คาโลแก้คำ ด้วยเสียงของผู้หญิงคล้ายจะปราม



        “ฮื้อ นั่นแหละ”  เฟรินว่า



        “ถ้าไม่มีงานประจำในวังก็คง. . .” สาวน้อยนัยน์ตาสีฟ้าตอบเนิบๆ คนใจร้อนทนไม่ได้เลยโพล่งออกไป



        “มาสินะ เฮ้อ  เสี่ยงเป็นบ้า”

        โดยไม่ได้รู้เลยว่าเจ้าหญิงน้ำแข็งแอบยิ้มอยู่  มันด่วนสรุปเอาเองแบบนี้  เขาไม่ผิดนะ



        แล้วทุกคนก็เดินแถวเข้าไปในปราสาทหลังใหญ่ที่ถูกปรับปรุงให้เป็นพิพิธภัณฑ์    



        ทางเดินภายในพิพิธภัณฑ์โล่งกว้างปูด้วยพรมสีแดงขลิบทอง สมเป็นพิพิธภัณฑ์ของมีค่า แม้ภายในจะออกมืดๆไปหน่อยด้วยแสงไฟสลัวๆคล้ายหนังผีชอบกล  คนกลัวผีเลยเกาะติดกลุ่มหนึบหนับไม่กล้าสำรวจไปไหนมาไหนคนเดียวให้เสียวเล่น



        “นี่คือดาบของคิงรุ่นที่ 7 ของคาโนวาล  ชื่อดาบเขี้ยวมังกรฟ้า(คล้ายหนังจีนดีมั้ยครับ= =a) ท่านทรงใช้ดาบเล่มนี้ในการ. . .”  แน่นอนว่าคำบรรยายของเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเรียกความสนใจจากเฟรินได้แม้แต่น้อย แถมการหาวหวอดๆให้เป็นการชมว่าที่ บรรยายมาหนะ ยอดเยี่ยมมาก เยี่ยมจนจะหลับทั้งยืนแล้วเนี่ย



        ต่างกับคนที่เคยสูงกว่าข้างๆ ที่จดยิกๆลงบนสมุดเล่มเล็กๆที่เฟรินเคยเห็นเขาเอามาจดอ่านทบทวนบ่อยๆ ความอยากแกล้งก่อตัวขึ้นทันที



        “ขยันมากไปแล้วมั้ง บ้านแกเองแท้ๆ ไม่ต้องจดก็ได้”  คำเย้าเรียกนัยน์ตาสีฟ้าให้เบือนมาสบ  ก่อนจะกลับไปสนใจกับการบรรยายต่อ



        ชิ  มันจะทิ้งไอ้นิสัยแบบนี้ไม่ได้รึไงเนี่ย  ไอ้ตานั่นหนะ  กวนจริงๆ







        หลังจากทัศนศึกษาที่พิพิธภัณฑ์อาวุธในตำนานของคาโนวาลเสร็จ ขบวนนักเรียนเอดินเบิร์กก็เดินทางต่อไปตลาดประจำเมืองใหญ่ภายในคาโนวาล เพื่อให้นักเรียนได้เลือกซื้อของฝากของกินกลับไป (ของฝากนี่จะให้คนอื่นได้ไงในเมื่อกลับไปก็ยังเรียนอยู่= =a)



        เป็นบรรยากาศที่เฟรินแย้งหัวชนฟูก ชนหมอน ชนเบาะ เลยว่า  มันไม่เข้ากับ รร พระราชาเลยสักนิด  เมื่อร้านอาหารที่เปิดมันมีแต่ก๋วยเตี๋ยว ข้าวราดแกง  อาหารตามสั่ง และเหมือนจำทำใจได้ในที่สุด ก็เลยมาทานข้าวเที่ยงที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ดในซอยย่อยของตลาด



        “เฟริน. . .นายกินช้าๆ. . .ก็ได้”  โร ผู้น้อยครั้งที่จะร่วมโต๊ะอาหารเดียวกัน  เตือนหัวขโมยที่มันพึ่งบ่นไปเมื่อกี้ว่าไม่น่าอร่อย แต่ตอนนี้กลับโซ้ยแหลกไม่บันยะบันยังและทำท่าจะต่ออีก(หลาย)ชาม  คาโลกับคิลที่ชินกับเรื่องนี้ซะแล้วยังคงทานก๋วยเตี๋ยวในชามตัวเองอย่างปกติสุข (ตรงนี้โรแปลกใจมากว่าคาโลมันรับได้ได้ยังไง)



        “ไอ้นี่อร่อยสุดๆเลย โร  ลองชิมสิ”  ตอนนี้เดอะทีฟที่โรคาดว่ามันน่าจะเป็นเดอะคอมเพททิเตอร์ออฟอีทติ้ง(competitor of eating : นักแข่งกิน) ออฟบารามอสต่อจากคิลที่เคยคิดว่าน่าจะเป็นเดอะสปีกเกอร์ จะว่าไปหมอนี่มันคงเป็นหลายอาชีพแหงมๆ ด้วยความสามารถ(แน่ใจรึ)หลากหลาย(แบบไม่มีประโยชน์)



        โรปฏิเสธความหวังดีด้วยการส่ายหน้า ขณะที่ยังคงยิ้มอยู่แม้ว่ารอยยิ้มนั้นจะมีเม็ดเหงื่ออยู่ข้างๆเหมือนคนหวาดๆกลัวๆ ส่วนคนหวังดีก็ไม่ทันมองกลับมาตั้งหน้าตั้งตาเขมือบต่ออย่างเมามันส์



        “โอ้ กินเก่งจริงนะเรา  เดี๋ยวป้าลดให้”  คุณป้าเจ้าของร้านทักด้วยใบหน้าใจดี ที่เปี่ยมด้วยเหงื่อจากการอยู่หน้าหม้อต้มน้ำแกงร้อนๆ

        “ออบอุนอั๊บ”  เฟรินรับ ในปากยังเต็มไปด้วยลูกชิ้นและเส้นใหญ่ ดีที่มันไม่กระเด็นมาประดับหน้าสวยๆของเจ้าหญิงน้ำแข็งกับนักฆ่านัยน์ตาม่วง



        ขณะที่ทุกคน(รวมทั้งจอมเขมือบแห่งบารามอส)ทานก๋วยเตี๋ยวของป้าใจดีเสร็จแล้วก็ได้เวลาช็อปปิ้ง ซึ่งแน่นอนเป็นที่สุดว่าป้อมอัศวินช็อปกันไม่เป็นเนื่องด้วยมีแต่ผู้ชาย ผู้ชาย และผู้ชาย เป็นส่วนมาก



        ยังไม่ทันจะลุกจากโต๊ะร้าน  เสียงครึกโครมก็ดังขึ้นพร้อมๆกับร่างๆหนึ่งหล่นตุบลงข้างๆขาเฟรินจนหลบเกือบไม่ทัน(เป็นคนดี หลบทันที่เลย)  ใครหว่า  เฟรินที่ขยับหลบแบบกางมือกางไม้มองคนล้มอย่างระแวดระวัง



        “ต้องให้เหนื่อยนะ  ไอ้เด็กงี่เง่า”  ชายร่างบึกบึนสูงใหญ่ ญาติๆกับยักษ์ ที่หน้ามีรอยแผลเป็นมากมาย จนเฟรินคิดว่ามันโรคจิตทำร้ายตัวเองรึเปล่า  กับไม้หน้าสามดุ้นเบ้อเร้อในมือ  มือใหญ่กระชากคอเสื้อของคนล้มให้ขึ้นสูงระดับหน้า  เห็นถนัดว่าคนล้มนั่นเป็นเด็กผู้ชายวัยเดียวกันกับพวกเขา



        นัยน์ตาที่เปี่ยมด้วยไฟโทสะสุมอยู่จ้องเขม็งไปในดวงตาทอประกายกล้าไม่ได้มีความหวาดกลัวเลยราวท้าทายให้ลงมือ กับการดิ้นกลางอากาศที่เพิ่มความรำคาญและความรุนแรงเป็นลำดับ



        “อยู่นิ่งดีๆ  แกจะได้ไปสบาย” ชายร่างยักษ์คำราม  แล้วเหวี่ยงหนุ่มต้องโทษลงกระแทกกับพื้น  ไม้หน้าสามในมือฟาดลงมา  น่ากลัวว่าครั้งเดียวก็อาจถึงตายได้



        หนุ่มผู้ถูกเหวี่ยงลงประแทกพื้นกลั้นใจกับความแรงที่จะมากระทบ  แต่รอแล้วรออีกมันก็ยังมาไม่ถึงซักที จนต้องเงยขึ้นมองหลังจากกึ่งค้างในท่าคลานกับท่านั่ง มือกุมแผลที่ท้อง เลือดไหลซึมออกมาข้างนอก



        ภาพเบื้องหน้าทำให้เบิกตากว้าง  เมื่อคนไม่เกี่ยวข้องผมเข้มชี้ไปชี้มา ยื่นมือเข้ามาช่วย หยุดไม้ท่อนโตด้วยมือข้างเดียว  เลือดซิบนิดๆ  เฟรินก้าวเร็วเป็นสเต็ปอย่างชำนาญเข้าประชิดฮุคเข้าทีท้อง  ต่อด้วยหมัดอีกข้างที่หน้า  ฟันใหญ่ของคนตัวใหญ่กระเด็นออก  และโรที่เข้ามาพยุงคนเจ็บพร้อมคาโลที่ตกบทฮีโร่กับเขาในคราวนี้



        “แก  เสือกอะไรด้วย”  เสียงคำรามก้อง  ให้ป้าเจ้าของร้านสะดุ้งพร้อมๆกับคนเดินไปเดินทางแถวนั้นทั้งแถบ



        “อ๊ะๆ พวกผมไม่ได้เสือก  แค่ช่วยเหลือคนถูกทำร้ายจากชายหน้าตาไม่เอาอ่าวที่ดูแล้วเป็นโจรแน่ๆ”  เป็นการคิดผิดอย่างรุนแรงที่ไม่แย่งคนปากไวตอบ  แล้วคิลก็ได้รับสัญญาณจากคาโลก่อนจะพุ่งเข้าไปถีบเข้าที่หน้าแข็งแล้วลากหัวขโมยลืมบทหนี ไปกับคนเจ็บ

        

        “เฮ้อ  ออกกำลังกายแบบนี้เหนื่อยเกินไป”  เฟรินพูดเสียงดังในซอยแคบๆที่หลบมุมจากโจรใจร้ายที่เฟรินถือสิทธิ์ขนานนามให้  คิลหัวเราะเสียงดังทั้งๆที่หอบอยู่ ในขณะที่โรเดินไปดูอาการคนเจ็บผู้ได้รับการรักษาจากเจ้าหญิงคนสวย



        “ช่วงนี้อย่าขยับมาก อยู่เฉยๆจะได้หายเร็ว”  คาโลเอ่ยเสียงเย็นๆซึ่งฟังดูน่าเอ็นดูในความคิดคนมองทั้งสาม  ยกเว้นคิลคนหนึ่ง



        สาวน้อยตรงหน้าดูเหมือนเป็นสตรีสูงศักดิ์  ด้วยท่าทางที่ถือตัวและใบหน้าที่สงบเรียบ ดวงหน้าขาวนวลถูกปรกด้วยผมสีเงินสวยซึ่งส่วนหนุ่งโดนรวบอยู่ข้างหลัง



        “เอ่อ ขะ ขอบคุณครับ”  คนเจ็บขอบคุณด้วยความประหม่า เกิดมาพึ่งเคยเจอสาวสวยขนาดนี้



        คิลที่เห็นภาพปิ๊งๆของหนุ่มตรงหน้ากับเจ้าหญิงน้ำแข็งทนไม่ได้หันไปหาหัวขโมยข้างๆ แล้วทำหน้าแหยๆใส่  เฟรินขยับยิ้มเผล่ พูดเบาๆให้ได้ยินแค่สองคน “คาโลมันเสน่ห์แรงกับผู้ชายจริงๆหวะ คิล  ไอ้บ้าคนละป้อมนั่นก็ทีหนึ่งแล้ว”  เฟรินว่าพลางถอยหานใจยาว  คราวนี้เขาก็ต้องออกโรงอีกแล้ว แต่มันก็สนุกคุ้มค่าตอนเห็นหน้าประหลาดๆของคนเคยเป็นน้ำแข็ง



        “เฮ้ นายหนะ”  เฟรินวางมือลงบนไหล่คนเจ็บ ปลุกให้ตื่นจากโลกส่วนตัวที่คาโลไม่ได้รู้เลยว่ามันโดนเสน่ห์เขาในร่างผู้หญิงเข้าให้แล้ว



        “ผู้หญิงคนนี้เป็นคนของชั้นนะ  ไม่ต้องทำตาหวานใส่ขนาดนั้นหรอก”  เฟรินพูดพร้อมโอบเอวสาวน้อย ตีสีหน้าจริงจังขึงขัง  คาโลทำหน้าเหวอกับบทบาทต้มไก่สมจริงเกินไปของคาสโนว่านามเฟริน  ก่อนดวงหน้าจะเริ่มขึ้นสี



        “ปล่อย  เฟริน”  เจ้าหญิงน้ำแข็งออกคำสั่ง



        “หืม ว่าไงนะ คาล่า”  คนถูกออกคำสั่งแสร้งถามย้อนด้วยชื่อที่พึ่งคิดได้แปป๊ปเดียว แล้วกุมมือสาวเจ้าขึ้นมาเหมือนฉากสารภาพรักหวานปุเลี่ยน ทำบรรยากาศเหมือนรอบข้างมีกลีบกุหลาบโรยประดับ โดยมีโรกับคิลกลั้นหัวเราะประกอบซีนหวานๆ



        ดวงหน้าขาวของคาโลมีเหงื่อผุดเป็นเม็ดๆอย่างตามไม่ทัน จะเรียกว่าหน้าซีดก็ไม่เชิง(ไม่ถนัดโดนผู้ชายจีบ)



        แล้วคนเจ็บผู้เผลอหลงใหลเจ้าหญิงน้ำแข็งก็รักษาระยะห่าง 5 ก้าว กระเถิบออกไป เพราะทนรัศมีแสง

    โอเวอร์ที่ไม่รู้ผุดมาจากไหนไม่ได้

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×