ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    fic-baramos ฟิคบารามอส เรื่อง ขอสับบทกันมั่งนะคาโล

    ลำดับตอนที่ #2 : เจ้าหญิงน้ำแข็ง

    • อัปเดตล่าสุด 14 เม.ย. 48


    “เฟริน ตื่นได้แล......” น้ำเสียงกลืนหายไปในลำคอนักฆ่าเมื่อเดินมาที่เตียงและพบว่ามันกำลังจัดกระเป๋าเรียนอยู่ ด้วยความเป็นห่วงจึงเดินเข้าไปใกล้กว่าเดิมก่อนยกมือขึ้นทาบหน้าผากตนเองกับสาวน้อยผมสีน้ำตาล



    “ทำบ้าอะไร คิล” คนนานๆจะตื่นเช้าถามด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ ก่อนจะปัดมือเพื่อนรักออกไป



    “แกไม่สบายรึเปล่า เฟริน เมื่อวานก็ท่าทางแกแปลกๆ” คำทักที่คนร้อนตัวสะดุ้งเล็กน้อยก่อนหยิบหน้ากากาฟาโรห์มาสวมแบบไม่ทิ้งเชื้อสายนักต้มชั้นเซียน



    “แข็งแรงดีโว้ย” สาวน้อยตอบด้วยเสียงดังหวังกลบเกลื่อน เรียกนัยน์ตาสีฟ้าหันมามองแว่บหนึ่งก่อนที่เจ้าของจะอ่านสมุดบันทึกทบทวนก่อนเรียน



    …………………………………..



    เหมือนวันปกติธรรมดาที่น่าเบื่อหน่ายของเฟริน เดอเบอโรว์ ผู้เปลี่ยนชื่อเป็นเฟลิโอน่าตั้งนานแล้ว แต่เจ้าตัวก็ยังเหมือนเฟริน หัวขโมยตัวแสบเสียมากกว่า ด้วยท่าทีไม่มีความเป็นสาวเป็นนางเลยซักนิด



    เฟรินก้มหน้ายิ้มให้กับขวดแก้วใสขนาดกำมิดในมือ แล้วแสยะยิ้มไม่น่าดู



    เจ้ากระดาษนั่นมันแนะนำว่า ให้ใช้ภายใน 2ชั่วโมง แต่เธอใช้หลังจากนั้น ประมาณ 10ชั่วโมงคงไม่เป็นอะไรมาก อีกอย่างที่น่าเป็นหวงกว่าคือ น้ำลาย หล่อนใช้น้ำลายนกนางแอ่นที่ได้รับการขนานนามเป็นยาอายุวัฒนะแทนน้ำลายกิ้งก่าน่าเกลียดนั่น แต่คาโลมันเก่งจะตาย แค่นี้มัน(คง)ไม่ตายหรอก และถึงจะป่วยยังไงมันก็รักษาตัวเองได้ แล้วมันยังบอกอีกว่าถ้ากินจะดีกว่าป้าย แปลว่าถึงป้ายก็ได้ผล เพราะฉะนั้นก็สาดมันไปเลยก็สิ้นเรื่อง นี่เธอหวังดีอยากให้นิสัยมันดีขึ้นเพื่อนๆจะได้รักมันหน่อย เธอไม่ผิดหรอก...เนอะ



    ของเหลวสีมะเมื่อม กระฉอกไปมาภายในขวด ก่อนจะถูกเทออกมาผสมกับน้ำในแก้ว ก่อนจะถูกยกไปวางข้างตัวคนผสม



    คิลยังใช้ดวงตาสีม่วงมองเฟรินด้วยความคิดที่บอกว่ามันแปลกขึ้นทุกวัน เนื่องจาก ปกติ มันไม่เคยมีแก้วน้ำวางข้างตัว หลังจากเขมือบอาหารเสร็จถึงจะดื่มน้ำตามเท่านั้น



    “แกไม่เป็นไรจริงๆนะ” น้ำเสียงห่วงใยที่หาได้ยากเพราะคนถูกห่วงมันก็ป่วยยาก



    “แกซิเป็นอะไรรึเปล่า คิล ถามชั้นมาอย่างนี้ สองสามวันแล้วนะ” เมื่อถูกย้อนเข้าให้คิลก็ซึ้งในรสพระธรรมว่า ห่วงหมาหมามันจะกัดตอบแทน ฉะนั้นปล่อยมันไปตามยถากรรมดีกว่า



    คาโลเงยหน้ามองตัวป่วนประจำป้อม ก่อนจะสรุปในใจว่าวันนี้มันกินเร็วผิดปกติไป 2 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ด้วยความเร่ง 17กิโลเมตรต่อวินาทีกำลังสอง



    “เฮ้อ” นักกินทีมชาติประเภทมาราธอนรวบจานช้อนส้อมอย่างเรียบร้อยก่อนลุกขึ้นแล้วทำตามแผนที่คำนวณด้วยสูตรของไอสไตน์แล้วเป็นอย่างดี แผนการที่ว่าก็เป็นอะไรที่เบๆสำหรับจอมกะล่อน



    เมื่อลุกขึ้นเจ้าตัวก็คว้าแก้วไปได้ และความสามารถทางด้านการแสดงเป็นเลิศ เจ้าหล่อนก็แกล้งสะดุดขาตัวเองเข้าแล้วน้ำที่หกจากแก้วก็เข้าปะทะเจ้าชายคนสำคัญให้ผมหล่อเสียทรงทันตาเห็น



    “เฟริน...” คาโลเรียกด้วยเสียงเย็นๆ คล้ายจะดุ ส่วนคนที่ราวกับดารามาเกิดก็แอคติ้งต่อไป



    “โทษที” เจ้าหล่อนว่าพลางยกมือขึ้นพนมเหนือศีรษะพยายามพิสูจน์ตนเองว่าไม่ได้ตั้งใจ. . .จริงๆนะ



    คิลที่ไม่ได้รับผลกระทบอะไรด้วยกับการแกล้งหกล้มของเฟรินก็ทานข้าวต่อไปด้วยท่าทีปกติ ขณะที่คนแสร้งซุ่มซ่ามเดินไปเก็บจานและทิ้งแก้วใบนั้น. . .



    ...................................................................



    โบราณว่าไว้ ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย แต่ถ้าสารภาพออกไปเฟริน เดอเบอโรว์จะต้องตายเพราะความจริงแน่ๆ



    เจ้าชายคนสำคัญแห่งคาโนวาลจ้องเขม็งมายังตัวต้นเรื่อง คล้ายรู้หมดแล้วแม้เจ้าหล่อนจะไม่ได้ปริปากซักคำเดียว



    “ง่า. . .คาโลยิ้มหน่อยสิ” ตัวแสบยังคงหาทางสร้างรอยยิ้มให้กับเจ้าชายน้ำแข็งที่ตอนนี้ไอรอบๆตัวมันร้อนเหมือนกระทะพร้อมน้ำมันเดือด



    คิลมัส ฟิลมัส นักฆ่าจากซาเรสกำลังกลั้นหัวเราะแบบฉุดไม่อยู่บนเตียงของตัวเอง



    “แกรู้รึเปล่าหือ คาโล การทำหน้าบึ้งมันจะทำให้เกิดรอยตีนกา”



    นักฆ่าผู้พยายามอุดปากตัวเองหลุดก๊ากออกมาก่อนจะเงียบเสียงไปเพราะไอร้อนๆมันแผ่มาโดนให้สะดุ้งโหยง ถึงเขาจะเป็นนักฆ่าก็จริงแต่เขาก็ไม่เผชิญกับอะไรที่เสี่ยงเกิน 50% ตามตำราตระกูลหรอก



    “เฮ้ย ยิ้มหน่อยเซ่ รู้เปล่า ผู้หญิงหนะเค้าจะมัดใจชายได้มันต้องยิ้มนะเว้ย”



    คราวนี้เสียงหัวเราะดังลั่น จนคนหัวเราะหายใจแทบไม่ทัน น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาสีม่วงให้ต้องเช็ดออกไป



    เจ้าชายคนสำคัญแห่งคาโนวาล...เจ้าชายน้ำแข็ง....บัดนี้ได้กลายเป็นเจ้าหญิงไปเสียแล้ว เมื่อทันทีที่พระอาทิตย์พักงาน หลังจากโดนน้ำหกใส่เต็มหน้า โดยที่คนที่โดนน้ำนั่นหกใส่มีเขาและ. . .ตัวการคนนี้เท่านั้น



    ดวงหน้าขาวนุ่มนวล ใส ต่างจากหัวขโมยที่ยืนข้างๆที่มันกลายเป็นผู้ชายแทน ดูไม่แปลกอะไรนักเพราะมันก็แค่กลับไปเหมือนสมัยก่อนแค่นั้น. .

    นัยน์ตาสีฟ้าถูกใช้ปรามเพื่อนหลุด ฮาจนเกือบขาดใจเพราะหัวเราะมากไปแต่มันไม่ได้ผลเมื่อดวงหน้าเข็มๆดุๆนั่นถูกแปรเปลี่ยนเป็นหวานซึ้ง เยิ้มยิ่งกว่าคาราเมล ผมสีเงินสวยยาวถึงกลางหลังโดนรวบไว้ สัดส่วนอื่นๆตามร่างกายก็กลายเป็นผู้หญิงไปหมด รวมทั้ง. . . เล็บกับส่วนสูง



    “. . .ง่า” เฟรินหัวเราะไม่ออกเหมือนเพื่อนซี้ เพราะเธอ ที่ตอนนี้ควรจะเรียกว่า เขา กำลังจะถูกสำเร็จโทษในไม่ช้า



    “นายทำใช่มั้ย เฟริน” เสียงยะเยียบจากสาวน้อยคาโล ทำเอาเจ้าของชื่อสะดุ้งเฮือก ก่อนยิ้มแหยๆไปให้ อย่างหมดข้อแก้ตัว



    “ง่า นายต้องเข้าใจนะคาโล มันเป็นอุบัติเหตุ” เฟรินกล่าวอุบอิบ แล้วแจกยิ้มแยกเขี้ยวให้เพื่อนนักฆ่าที่ขำจนกลิ้งตกเตียงดังตุบ



    “น้ำนั่น นายใส่อะไรลงไปเฟริน”



    “ง่า ก็ยาอะไรนิดหน่อย ชั้นกะว่าจะลองทำเฉยๆแต่ดันทำหกใส่นาย ขอโทษนะ” หางคิ้วของคาโลกระตุกขึ้นเล็กน้อย คล้ายกับฟิวส์ขาด แต่น้ำแข็งก็ยังคงเป็นน้ำแข็ง สาวน้อยถอนหายใจแล้วดึงเจ้าตัวยุ่งสู่บทสนทนาแก้ปัญหา



    “ยาอะไร” เสียงหวานๆของหญิงสาวผมเงินเอ่ยถาม



    คำถามจากคาโลไม่มีคำตอบเมื่อเฟรินปั้นหน้าเจี๋ยมเจี้ยมเงียบอยู่อย่างนั้น



    “ยา-อะไร” เจ้าหญิงน้ำแข็งปรับเสียงให้หนักขึ้นกว่าเดิม ให้คนถูกคาดคั้นล้วงกระดาษยับๆขึ้นมาส่งให้

    ทันทีที่โพยเจ้าปัญหาถึงมือก็ถูกคลี่ออกทันที ก่อนที่สีหน้าผู้อ่านจะซีดเหมือนไก่ต้ม



    “เอ่อ ไม่ร้ายแรงหรอก. . .” เฟรินเว้นช่วงเพราะเดาอารมณ์คนตรงหน้าไม่ถูก “ใช่มั้ย...ง่า” น้ำเสียงต่อมาอ่อนลง ส่วนคิลที่ตกเตียงเมื่อกี้ลุกขั้นมานั่งดีๆตั้งใจฟังการแก้ปัญหาที่พร้อมจะเสนอทางแก้สนุกๆด้วยคน



    แต่ยังไม่ทันที่การอภิปรายใดๆจะเริ่ม คนมีปัญหาก็พรวดไปที่เตียงแล้วเอนตัวลงพร้อมคว้าผ้าห่มมาคลุมนอนทันที โดยไม่ฟังเสียงเรียกจากหัวขโมยและนักฆ่าเลยสักนิดเดียว

    ……………………………………………



    “คิล คาโลมันจะโกรธอะไรนักหนาวะ ถึงขนาดโดดเรียนเลยนะ” เฟรินกระซิบบอกคิล ในเวลาพักเที่ยง โดยยัดข้อหา ‘โดดเรียน’ ให้มันเนื่องจากตั้งแต่เช้ามันก็หายไปจากห้องและตลอดเวลาทั้งช่วงเช้า แม้แต่เวลาเรียนมันก็ไม่ย่างกรายมาให้เห็นแม้แต่เส้นผม สงสัยมันจะโกรธของจริงแฮะ ไม่งั้นมันก็ไม่น่าโดดเรียนได้ ยิ่งเป็นเด็กดีด้วยแล้ว



    “ไม่รู้ดิ มันคงไปหาวิธีคืนสภาพหละมั้ง ก็ยาแกมันได้ผลเกินคาดนี่หว่า จากเปลี่ยนนิสัยอะไรนั่นกลายมาเป็นเปลี่ยนเพศได้หน้าตาเฉย” คำกึ่งย้อนกึ่งตอบของนักฆ่าทำให้ต้นเหตุยิ้มเผล่



    “ก็ใครจะไปนึกว่าแค่เลยเวลาไม่กี่ชั่วโมง ผลมันจะเปลี่ยนไปขนาดนี้” หัวขโมยตัวดีแก้ตัวพร้อมไหวไหล่ขณะ ยกช้อนตักอาหารจานที่เท่าไหร่ก็ไม่สามารถนับได้เข้าปาก



    “แล้วเป็นไง” คิลเปรยถามให้คนสนแต่กินพักยกก่อน



    “ก็ดี โคตรคิดถึงเลยแกเอ๊ย ได้กลับมาเป็นชายชาติทหารอีกครั้ง โอ้ สวรรค์แท้ๆ” เฟรินตอบ ยกแขนขึ้นเหยียดกว้างให้รู้ว่าสบายแค่ไหน แล้วแขนแข็งแรงในร่างผู้ชายก็ไปโดนคนที่ยืนค้ำหัวเพื่อนร่วมรุ่น

    ผู้ที่ยืนค้ำหัวอยู่มีผมหน้าม้าสีทองน้ำตาล ดวงตาสีเขียวรอบรู้ และรอยยิ้มตามแบบฉบับ ที่แปลความได้ว่า รู้หมดทุกอย่าง อยากจะถามอะไรมั้ยพวก



    “โร!” เฟรินร้องทัก ส่วนคิลยักคิ้วให้แล้วกลับไปทานข้าวของตัวเองต่อ



    “ไงเฟริน ทำไมนายถึงอยู่ในร่างนี้ได้หละ” โรยิงคำถามแต่หน้าทำเหมือนรู้คำตอบแล้ว ก่อนจะถามคำถามต่อไปที่คนถูกถามเองก็อยากรู้เหมือนกัน “แล้วคาโลไปไหนหละ”



    “มันหายไปตั้งแต่เช้าแล้ว ชั้นจะถามนายพอดีว่าเห็นมันมั่งมั้ย ขืนไม่กินข้าวเที่ยงเดี๋ยวไปเป็นลมเป็นแล้งที่ไหนไม่รู้ด้วย ยิ่งอยู่ในร่างนั้น...อุ๊บ” เฟรินตระครุบปากตัวเองแทบไม่ทัน เผลอพูดเรื่องใหญ่ๆไม่เล็กของคนโดดเรียนไปซะแล้ว



    โรเลิกคิ้วเป็นเชิงถามแต่เมื่อคนตรงหน้ามันไม่ยอมตอบก็เลยต้องออกเสียง “อย่าบอกนะว่าคาโลก็เปลี่ยนร่างเหมือนนาย” ขอทานแห่งทริสทอร์ ถอนหายใจคล้ายสงสารเจ้าชายคนสำคัญ “แล้วนี่ใช้ยาอะไรรึเปล่า?”



    “แสนรู้จริงๆให้ตายเถอะรู้ได้อีกว่าเป็นยา ชั้นใช้ยา.....เอ่อ ยาอะไรหว่า.......ยา ยา ยา ยาเปลี่ยนนิสัย” หัวขโมยในร่างผู้ชายตอบพร้อมทุบกำปั้นลงบนฝ่ามืออีกข้างเมื่อนึกออก



    “หืมม์” โรเลิกคิ้วอีกครั้ง “ใช่ที่มีน้ำลายกิ้งก่าโคโมโด สารละลายสองตัวสามตัวกับเล็บเคลอเบรอสรึเปล่า”



    “นั่นแหละๆ ไอ้นั่นเลย” คำตอบของเฟรินทำให้โรถอนหายใจอีกครั้ง ด้วยความสงสารเจ้าชายคาโลหนักกว่าเก่า



    “เฟริน ยานั่นหนะ . . .” โรเบาเสียงลงจนหายไปก่อนจะมีหนังสือเล่มใหญ่ฝุ่นเขรอะในมือที่ไม่รู้พี่แกเสกมันมาจากไหน เปิดพั่บๆ แล้วยื่นให้หัวขโมยกับนักฆ่าอ่านเอาเอง



    “เฮ้ย!?” ผู้อ่านทั้งสองร้องเสียงหลงพร้อมกัน



    “มิน่ามันถึงหายไปเลย . . .” นักฆ่านัยน์ตาม่วงเปรย



    “ทำไมไอ้ยานี่มันสุดยอดอย่างนี้” เฟรินว่าบ้างแล้วเอามือก่ายหน้าผาก โดยพยายามคุมสมองไม่ให้ไปนึกถึงข้อความที่ว่าไว้ในคู่มือเล่มหนานั่น แต่มันก็ผุดขึ้นมาเหมือนเรื่องสนุก













    หากท่านมิได้นำยาตัวนี้ไปใช้ภายใน 2 ชั่วโมงตามที่กำหนด ผลที่เกิดจะเปลี่ยนไปดังนี้

    1.นำไปใช้หลังทำยา 3 ชั่วโมง - ไม่ทราบกำหนดนิสัยของผู้ดื่มยานี้ได้ และเสี่ยงต่อการป่วยเป็นโรคแทรกซ้อนอื่นๆตามมา

    2. นำไปใช้หลังทำยา 5 ชั่วโมง – สิ่งที่เปลี่ยนไปนอกจากนิสัยแล้ว (ไม่สามารถกำหนดนิสัยได้เหมือนข้อ1) อาจรวมไปถึงร่างกายเล็กน้อย เช่น มีนิ้วที่ 6 เพิ่มขึ้นมา

    3. นำไปใช้หลังทำยา 7 ชั่วโมง – ร่างกายจะมีการเปลี่ยนแปลงด้วย ซึ่งไม่เคยระบุว่าเปลี่ยนไปในแบบไหน จากตัวอย่างของหนูทดลองแล้วเปลี่ยนร่างเป็นค้างคาวได้ แต่ไม่มีผลกระทบต่อนิสัย

    4. นำไปใช้หลังทำยา หลังจาก7ชั่วโมง(เกินมา 1 วินาทีก็นับว่าหลัง 7ชั่วโมงเช่นกัน – ไม่สามารระบุได้

    ***ยานี้จะมีฤทธิ์อยู่ประมาณ 7 วัน จึงจะกลับสู่สภาพปกติ แต่หากเป็นไปตามข้อ 4 ยังไม่สามารระบุได้ว่าจะกลับสู่ปกติเมื่อใด

    ***หากพบปัญหาโปรดปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางด้านเวทย์มนต์ระดับสูง









    …แล้วแบบนี้ คาโลมันมิต้องเป็นไอซ์ปริ๊นเซสไปตลอดกาลรึ

    ……………………………………………………………………..



    เจ้าของห้องที่เหลืออยู่สองคนอยู่บนเตียงของตน หนึ่งคนหลับไปแล้วเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หนำซ้ำอาจจะเป็นเรื่องสนุกมากกว่าเสียอีก ส่วนอีกคน. . .นอนแทบไม่หลับ ปวดหัวตุบๆกับเรื่องที่ตัวเองทำ



    คาโลมันงอนไปหลบอยู่มุมไหนของโรงเรียนวะ งี่เง่าจริงๆเป็นผู้หญิงแค่นี้ทำเป็นรับไม่ได้



    โธ่ แล้วถ้าเกิดคิงหน้าบากนั่นมาเห็นสภาพลูกชายคนเดียวของตัวเองหละ มิเปิดสงครามกับบารามอสฐานทำให้คาโนวาลเสียโอรสสุดรักว่าที่คิงรึ แล้วถ้าเกิดมันเป็นผู้หญิงไปจริงๆ ก็ต้องแต่งงานออกจากบ้านอีก ใครจะรับผิดชอบมันเนี่ย โอย ตาย ตาย ตาย นายตายแน่ๆ ตายอย่างไม่ต้องสงสัย ตายสนิทไม่ต้องพิสูจน์ด้วยทฤษฎีปีทากอรัส (ตกลงพี่แกไม่คิดรับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น)



    เฟรินนอนกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียงเหมือนคนเครียดบริษัทล้มละลายจนนอนไม่หลับ



    เดี๋ยวก่อนใจเย็นๆ มันต้องมีวิธีแก้ชัวร์ๆ จากหนังสือเก่าเหลาเหย่ของโรมันบอกว่าให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเวทย์ . . .งี้ก็คงไม่พ้นมหาปราชญ์เลโมธีกับเจ้าแม่อาจารย์วิงกี้หนะสิ เอาเถอะ ก็ยังดีกว่าโดนลากไปขึ้นเขียงที่คาโนวาลหละน่า



    คนคิดมากขยับผ้าห่มคลุมตัวอีกครั้งเนื่องจากมันไปกองอยู่ข้างตัวตอนกลิ้งไปกลิ้งมาเมื่อครู่



    แล้วความคิดทั้งมวลก็หยุดลงเมื่อเสียงเปิดประตูดังขึ้น ให้คนกลุ้มผู้ตัดใจกำลังจะนอนสะดุ้งโหยง หัวใจเต้นรัวและดังจนได้ยิน ก่อนจะขยับผ้าห่มที่คลุมมิดศีรษะลงให้สายตามองออกไปได้



    สาวคนงาม ผมเงิน เดินด้วยท่าทีสง่า แต่ท่านั้นมันเหมือนเจ้าชายมากกว่าเจ้าหญิงให้คนนอนไม่หลับขำเบาๆ



    “หัวเราะอะไร เฟริน เดอเบอโรว์ เดอะทีฟออฟบารามอส” คาโลในร่างสาวน้อยถามเสียงเรียบ จากที่ขำอยู่ก็กลายเป็นขำไม่ค่อยจะออกเพราะมันเข้าโหมดช่องฟรีซซะแล้ว



    “เปล๊า ไม่มีอะไร” เฟรินบอกปัดเสียงแปร่งๆ ก่อนจะลุกเข้ามาประชิดตัวสตรีคนเดียวในห้อง ก่อนตบ ปัป ลงบนไหล่มน รู้ว่ามันอยู่ในร่างผู้หญิงเลยต้องเบาๆมือหน่อย เดี๋ยวของสวยๆงามๆจะเสียหาย



    “วันนี้โดดหายไปไหนมาหละ? ไม่นึกว่านายจะกลายมาเป็นเด็กเก(เกเรนะครับ ไม่ใช่เกย์= =a)แบบชั้น”



    คาโลปัดมือคนอุกอาจออก แล้วมองกลับมาปรามแทน



    “แค่นี้แตะไม่ได้รึ คุณผู้หญิง” คนถูกปัดกล่าวกลั้วหัวเราะ ก่อนจะขยับตัวเข้าไปใกล้ หากแต่คาโลกลับเดินห่างไปยังเตียงนอนของตน



    “ชั้นจะนอน” พูดจบเจ้าหญิงน้ำแข็งก็โน้มตัวลงจะนอน แล้วก็ต้องเบิกตากว้าง



    หัวขโมยตัวแสบที่ควรจะเดินกลับไปที่เตียงของตัวเองมันโน้มหน้าเข้ามาใกล้จนน่าหวาดเสียว แต่ก่อนที่จะทำอะไรได้ปากงามๆของคนเคยเป็นเจ้าชายก็ถูกปิดสนิทด้วยลมหายใจอุ่นๆของหัวขโมยไม่เจียมตัว แม้ว่าตอนนี้มันจะมีศักดิ์เท่ากับเขาแล้วก็ตาม แต่กริยามารยาทของมันยังอีกห่างไกล(โพ้น)



    ร่างนุ่มๆสงบในตอนแรก แต่เมื่อไอ้คนจูบมันยังไม่ยอมถอนปากหมาๆ ที่หมาทั้งคนทั้งปากออกไป ก็เริ่มดิ้นให้รู้ตัว. . . มันสับบทกันแล้ว



    และคนจูบก็สนองการเตือนของเจ้าหญิงน้ำแข็งด้วยการขยับปากไปใกล้ใบหูขาวๆ. . .กระซิบเบาๆ



    “หายไปได้ทั้งวัน คิดถึงนายจะตาย . . .ราตรีสวัสดิ์ คาโล. . .”



    เสียงนุ่มๆกับคำพูดแสนหวานที่คนควรพูดต้องไม่ใช่มัน ดวงหน้าขาวๆขึ้นสีกับใจที่ตอนนี้ไม่เหลือคราบน้ำแข็งเกาะ หลุดมาดทั้งมวลที่เคยมี เฟรินถอยออกห่างช้าๆ เดินไปหาที่นอน แล้วพลิกผ้าห่มคลุมเป็นรอบที่ 7 ของวันซึ่งนับต่อจากตอนกลิ้งคิดมาก ทิ้งให้คนถูกกระทำนั่งแข็งอยู่บนเตียง กว่าจะรู้ตัวก็ต้องรีบล้มตัวนอนเพราะซึ้งใจแล้วว่าเสียท่ามัน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×