ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ต้นเหตุของเรื่องวุ่นๆ
ชื่อเรื่อง: ขอสับบทกันมั่งนะคาโล
ประเภท: หวาน+ตลก+แอคชั่น(เล็กน้อย)
ช่วงเวลา: หลังเล่ม4(จบศึกกลับมาเรียนต่อปี3)
Note: โอ้= =a ข้าน้อยกำลังสงสัยว่าวาดทั้งรูปแต่งทั้งฟิคจะไปกันรอดมั้ย หากผิดพลาดประการใดขออภัย ณ ที่นี้ด้วยครับ (ทำไมคำพูดนี้มันคุ้นๆ= =a) เอ่อ เนื่องด้วยเรื่องแรก คำ-สำนวนอาจจะยังไม่ดีนัก ขอบคุณที่เข้ามาอ่านครับผม
ปล ครับ(หลังจากใส่เสร็จก็มานั่งเคาะเว้นวรรค) คือว่าการเว้นวรรควันอาจจะแปลกๆไปนิดนะครับ ตอนพิมพ์ก็เว้นแล้ว แต่พอกรอกลงไปมันเละเลยครับ= =aเลยต้องแก้ไปแก้มา ถ้าเกิดมันไม่เท่ากันก็อภัยให้ผมด้วยนะครับ
.................................................................
บทที่ 1 ต้นเหตุของเรื่องวุ่นๆ
ณ ดินแดนห่างไกล ซึ่งถูกปกคลุมด้วยกลิ่นอายแห่งเวทย์มนต์ ตำนานหลากหลายถูกขับขานรุ่นต่อรุ่น บรรพบุรุษสู่ทายาท ความเชื่อที่แผ่นดินถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน...เอเดนและเดมอส...ความลึกลับของพลังยังคงอำนาจอยู่จนถึงทุกวันนี้รอให้คนรุ่นใหม่ได้ค้นพบ
เอดินเบิร์ก โรงเรียนพระราชา...โรงเรียนที่เหล่าเจ้าหญิงเจ้าชาย ขุนนาง ผู้ดีทั้งหลายแหล่ มาร่ำเรียนเพื่อเป็นกษัตริย์ที่ดี และแม้จะไม่ได้เป็นกษัตริย์ ความเชื่อถือต่อคุณภาพของการสอนก็เป็นที่ยอมรับนับเป็นใบเบิกทางสู่อนาคตอันสดใส หากแต่มิได้มีเพียงพวกเขาเท่านั้น แม้ว่าจะเป็นอาชีพใดก็สามารถเข้าเรียนได้หากว่าผ่านการทดสอบของโรงเรียน(ง่ายๆคือสอบเข้านั่นแลท่าน) รวมทั้งอาชีพ. . .หัวขโมยด้วย
“เฟริน” น้ำเสียงบ่งอารมณ์กรุ่นๆของผู้มีนัยน์ตาสีม่วงกำลังปลุกเพื่อนตัวแสบที่มันตื่นยากตื่นเย็น เหมือนเป็นปลาตาย นอนก็ดึกตื่นก็สาย สุดท้ายคือปลุกด้วยวิธีสารพัดก็ยังไม่ค่อยจะได้ผลกับการแงะมันออกมาจากเตียง
“ตื่นซักทีสิโว้ย เฟริน” คราวนี้น้ำเสียงหนักกว่าเดิม พร้อมเปลี่ยนจากเขย่ามาเป็นหาของปาใส่ เผื่อความเจ็บจะปลุกมันได้ แต่เปล่าเลย...มันยังนิ่งอยู่. . . ชิ ยิ่งขี้เกียจไปเอากะละมังมาสาดน้ำใส่มันอยู่. . .
แล้วเพื่อนรักนักฆ่าก็เดินเข้าไปในห้องน้ำคว้าของในความคิดมากรองน้ำแล้วจึงเดินอาดๆออกมาด้วยสีหน้าบูดๆ เพราะวันนี้ต้องปลุกมันคนเดียวอีก
น้ำเย็นๆสาดโครมลงไป เปียกทั้งตัวตื่นยากและที่นอน คงต้องให้มันเอาฟูกไปตากอีกแล้ว หลังจากยังไม่ถึงอาทิตย์ก็ตากมาทีหนึ่งเพราะวิธีการปลุกนี้
นิ้วสีน้ำตาลขมวดเข้าหากันก่อนจะลุกขึ้นแบบสะลึมสะลือ มือขยับเสยผมอิ่มด้วยหยดน้ำ
“คิล แกจะปลุกให้มันดีกว่านี้ไม่ได้รึไง” ตื่นปุปหัวขโมยตัวแสบก็โซโล่สรรเสริญเพื่อนรักทันที มันปลุกทีไรเปียกทุกที ต้องเอาฟูกไปตากอีกแล้ว เซ็งชะมัด. . .แล้วคนตื่นยากก็ค่อยๆเยื้องยุคคลบาทออกจากที่นอนแฉะๆ เดินเตาะแตะโต๋เต๋ไปหาห้องน้ำแต่งตัวก่อนที่เพื่อนคนปลุกจะหมดความอดทน
ความจริงตัวเธอเองน่าจะต้องโดนเด้งไปอยู่หอนอนของฝ่ายหญิงแต่ด้วยการขอร้องสุดชีวิต ทุ่มทั้งหยาดเหงื่อแรงกาย(ในการตามตื้อทุกแห่งหนแม้จะเป็นห้องน้ำ ห้องอาหาร ห้องสมุดและอีกหลายๆห้องที่มิได้รวม ณ ที่นี้)และเวลาอันมีค่า(ในการนอน)กับท่านมหาปราชญ์ เลโมธี ซึ่งหลังจากวนเวียนอยู่ประมาณ 1 สัปดาห์ ท่านก็(ทนไม่ได้)เลยยินยอม ด้วยเหตุผลที่ว่า ผู้ร่วมห้องเชื่อถือได้(แน่นอนว่ามันคงไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรอก แม้จะนอนด้วยกัน เพราะเฟรินฮุคเข้าทีเดียว เพื่อนร่วมห้องทั้ง2ก็คงต้องไปห้องพยาบาลขอยาแก้จุกมาอมก่อนนอนทุกวัน)
“การปกครองสมัยจักรพรรดิวิลเลี่ยม โบแด็งที่หนึ่งแห่งเวนอลนั้น ใช้ระบอบการปกครองแบบธรรมราชา(???) มีกษัตริย์เป็นประมุขสูงสุด. . .” เสียงกล่อมเด็กหลับของอาจารย์เจ้าชายชามัลที่เคารพเว้นวรรคการบรรยายเป็นช่วง ให้คนง่วงหาวแล้วหาวอีกจนศีรษะโดนโต๊ะดึงดูดให้ลงมาแนบ เหมือนมีคาถา...ฟุบลงมาหาชั้นสิจ๊ะ นอนเลยจ๊ะนอนเลย นอนกันเถอะนะ. . .เสียงเรียกจากโต๊ะที่รักร้องเรียกให้เฟรินโน้มหน้าเข้าใกล้ทุกทีๆและในที่สุดก็หาหนังสือมาบังก่อนจะทำตามคำขอของมัน
เจ้าชายสูงศักดิ์แห่งคาโนวาลมองเพื่อนซี้ร่วมห้อง(นอน)ทั้งสองก็ถอนหายใจเบาๆก่อนจะตั้งหน้าตั้งเรียนต่อไปพร้อมจดบันทึกไว้สำหรับทบทวน
“ตุ่ง ตุง ตุง ตุ๊ง(เสียงเหมือนตอนก่อนประชาสัมพันธ์ตามห้างจะประกาศครับ)” เสียงกริ๊ง(???)สั้นๆเรียกคนขี้เซาที่ตื่นก็สายให้ลุกพรวดขึ้นมาทันที เพราะคาบต่อไปมัน...พักเที่ยง โอ้มายเลิฟ...ข้าวเที่ยงจ๋า ฉันมาแล้ว
...................................................................
หลังจากต้องยอมรับสภาพของเพื่อนทั้งสองมาเป็นเวลา2 เกือบจะ 3ปี แล้ว เขาก็เริ่มชินกันการเห็นเพื่อนหลับในคาบเรียนและทานอาหารอย่างเอาจริงเอาจัง แต่ไม่ต้องเทียบระหว่างนักฆ่าจอมโดดกับหัวขโมยแอบหลับเพราะมันรับประทานอาหารด้วยท่าทางที่ต่างกันเยอะ เยอะมากเลยด้วย
“โฮ้ยยยย อันนี้อร่อยสุดยอดเลย ไอ้คิลเอ๊ย” หญิงสาวน่าตาน่ารักบอกเพื่อนซี้ข้างๆ ขณะที่ปากก็กำลังเคี้ยวตุ้ยๆ ถ้ามันจะต้องไปคาโนวาลจริงๆหละก็ ต้องจับมันเข้าคอร์สอบรมมารยาทหญิงไทยในการกินฉบับเร่งด่วน โดยอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญการสอน พี่ผีสาวแห่งคทาพิพากษา
“เฟริน แกกินให้มันหมดปากก่อนจะดี...” พูดไม่ทันขาดคำ นัยน์ตาสีม่วงก็เบิกกว้างเมื่อเพื่อนซี้เริ่มออกอาการไอค่อกแค่กชนิดหน้าม่วงๆ เพราะอาหารลงหลอดลม ความจริงก็สมน้ำหน้ามันอยู่หรอกแต่ไม่ช่วยก็เดี๋ยวจะเสียเพื่อนไปหนึ่งคนชัวร์ๆ เนื่องจากมันหน้าสีม่วงเข้มขึ้นเรื่อยๆ
มือกร้านหยิบแก้วน้ำส่งให้เพื่อนทันที แต่ไม่ทันที่คนติดคอจะยกมันดื่ม มือหนักๆก็ฟาดผัวะเข้ากลางหลังจนต้องเซมาด้านหน้า ก่อนอาการติดคอจะหายเป็นปลิดทิ้ง . . .มือหนักเป็นบ้า. . . เฟรินคิดก่อนจะขอบคุณผู้หวังดีที่อุตส่าห์เดินอ้อมโต๊ะยาวมาตบหลังให้
“คาโล แกจะช่วยให้มันนุ่มนวลกว่านี้ไม่ได้รึไงกัน คนนะไม่ใช่หมา” งูเห่าตอบแทนคุณชาวนาผู้ช่วยชีวิตทันที
“แต่เมื่อก่อนนายเคยเป็น” คำพูดของคนไม่นิยมพูดกัดเจ็บ ให้คนฟังหนึ่งคนพยายามกลั้นหัวเราะ ไม่ว่าจะเพราะกลัวติดคอเหมือนเพื่อน หรือจะด้วยกลัวเพื่อนบีบคอ กับอีกหนึ่งผู้ฟังที่สีหน้าดูจากมุมไหน ก็สรุปได้คำเดียวว่า โกรธ
“งั้นคงต้องขอบพระทัย ฝ่าบาทมากที่ทรงกรุณาช่วยหมาอย่างหม่อมฉันนะพะยะค่ะ” คนเคยเป็นหมากระแทกเสียงกับคำท้าย พะยะค่ะ เต็มที่ ก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาเสวยอาหารร่วมกับเจ้าชายน้ำแข็งและนักฆ่าจากซาเรสต่อไป
ผู้เฒ่าผู้แก่มักพูดกันว่าถ้าแมวมันอาฆาตหละก็ มันจะตามล้างแค้นไปถึง 9 ชั่วโคตร แต่พี่หมาก็ไม่ได้น้อยหน้าไปกว่านั้นเลย เมื่ออารมณ์เดือดๆมันปะทุขึ้น สมองที่เคยอวดกับพ่อว่าตนเองหนะไบรท์ที่สุดแล้วในกลุ่มกำลังคิดหาแผนการแก้เผ็ดเจ้าน้ำแข็งเดินได้นั่น
นัยน์ตาสีม่วงจับจ้องเพื่อนหัวขโมยที่มันมาแปลกพิกล เมื่อคนพูดมากปาก...(หมา)อย่างมันสงบคำเงียบกริบ แทนที่ด้วยการกอดอกนั่งคิดคำนวณอะไรอยู่คนเดียว
“เฟริน แกเป็นอะไรรึเปล่าวันนี้” ปากคิลก็ทักไป ส่วนมือก็พลิกกระดาษสีเหลืองมากอายุ หาข้อมูลทำรายงานส่งท่านอาจารย์ผู้เมตตายิ่งในห้องสมุด
“เปล่า...” คนผิดปกติตอบ ก่อนเหลือบมองเป้าหมายที่นั่งอ่านอะไรเงียบๆอยู่ด้านขวาของคิล
ชิ หมั่นไส้จริงโว้ย...อารมณ์ร้อนๆแม้จะบรรเทาไปมากเมื่ออยู่ในบรรยากาศเย็นๆของห้องสมุด แต่มันก็ยังส่งผลให้สมองหาวิธีแกล้งเจ้าชายหอคอยงาช้างตลอดเวลา หน้าที่ 23 ถูกเปิดข้ามไปเป็นหน้า 40ทันที ก่อนจะค่อยๆถูกพลิกไปเรื่อยๆ
หน้า 41 ชนวนสงครามแห่งคาโนวาลและโคมาน
หน้า 42 สรุปผลสงคราม
หน้า 43 วิเคราะห์การวางแผนสงคราม
หน้า 44 สงคราจบลงด้วย. . .
แล้วคนหงุดหงิดก็พลิกผ่านไปถึงหน้าที่ 49 เลขอาถรรพ์แห่งเอเดน. . .เฟรินกวาดสายตาอ่านแบบผ่านๆก่อนจะหยุดกึกกับกระดาษโน๊ตที่หนีบอยู่ในหน้านั้น
ยาเปลี่ยนนิสัย
ส่วนผสมสำคัญ
-เล็บเคลอเบรอส
-น้ำลายกิ้งก่าโคโมโด
-น้ำเปล่า
-น้ำตาลทราย
-สารละลายทิงเจอร์ไอโอดีน
-สารละลายเบเนดิกซ์
ขั้นตอนการผสม
-ต้มน้ำเปล่าให้เดือดที่อุณหภูมิ 99 องศา เซลเซียส จากนั้นหยดสารละลายทิงเจอร์ไอโอดีนลงไป 2 หยดด้วยหลอดทดลอง
-เติมน้ำตาลทราย 1 ช้อนชา กวนให้เข้ากันก่อนเติมน้ำลายกิ้งก่าโคโมโดลงไป 3 ช้อนโต๊ะ
-ต้มต่อจนเดือดแล้วใส่สารละลายเบเนดิกซ์ กวนให้เข้ากัน
ข้อแนะนำ
-ถ้าจะใช้ให้ได้ผล ควรนำไปใช้ภายใน 2 ชั่วโมง มิฉะนั้นผลที่ได้อาจผิดเพี้ยนออกไปจนอันตรายถึงชีวิตได้
-สามารถซึมผ่านผิวหนังได้ แต่จะได้ผลดีกว่าหากรับประทานเข้าไปเลย
ไอ้เมนูนี่มันอะไรกันหว่า จอมแสบประจำป้อมทวนข้อความอย่างสนใจ ก่อนจะพับมันใส่กระเป๋าโดยที่เพื่อนทั้งสองไม่ทันสังเกตเห็นแม้แต่น้อย
...............................................
ป้อมอัศวิน เวลา 00.23 น
เหล่านักเรียนประจำป้อมได้เข้าสู่ห้วงนิทรากันหมดแล้ว ยกเว้นคนคนหนึ่งที่ลอบเดินตามระเบียงในยามวิกาล ผ่านไปสู่ห้องครัวประจำป้อม ก่อนจะล็อคประตูห้องครัวอย่างรวดเร็ว
สิ่งของหน้าตาประหลาดจำนวน 2 อย่าง และขวดเล็กๆ 2ขวด ถูกนำมาวางเรียงที่เคานเตอร์เตรียมอาหาร โดยสิ่งของหน้าตาประหลาดนั้น อันหนึ่งคล้ายเล็บสัตว์ร้าย กับอีกอันที่เป็นของเหลวหนืดๆสีขุ่น ส่วนอีกสองขวดเป็นของเหลวสีฟ้าและสีน้ำตาลแดงๆ
“เล็บเคลอเบรอส น้ำลาย ไอโอดีน เบเนดิกซ์” เฟรินชี้นิ้วไปยังสิ่งของเหล่านั้นเป็นการไล่ลำดับตามโน้ตที่แอบพับเก็บไว้
“ถ้าแค่น้ำตาลทรายธรรมดากับน้ำเปล่า ที่นี่มีแน่อยู่แล้ว. . .” นัยน์ตาสีน้ำตาลกวาดมองไปรอบๆก่อนจะเดินไปหยิบของเหล่านั้นแล้วเริ่มขั้นตอนตามโพยที่ไม่น่าไว้ใจ
...................................................................
ประเภท: หวาน+ตลก+แอคชั่น(เล็กน้อย)
ช่วงเวลา: หลังเล่ม4(จบศึกกลับมาเรียนต่อปี3)
Note: โอ้= =a ข้าน้อยกำลังสงสัยว่าวาดทั้งรูปแต่งทั้งฟิคจะไปกันรอดมั้ย หากผิดพลาดประการใดขออภัย ณ ที่นี้ด้วยครับ (ทำไมคำพูดนี้มันคุ้นๆ= =a) เอ่อ เนื่องด้วยเรื่องแรก คำ-สำนวนอาจจะยังไม่ดีนัก ขอบคุณที่เข้ามาอ่านครับผม
ปล ครับ(หลังจากใส่เสร็จก็มานั่งเคาะเว้นวรรค) คือว่าการเว้นวรรควันอาจจะแปลกๆไปนิดนะครับ ตอนพิมพ์ก็เว้นแล้ว แต่พอกรอกลงไปมันเละเลยครับ= =aเลยต้องแก้ไปแก้มา ถ้าเกิดมันไม่เท่ากันก็อภัยให้ผมด้วยนะครับ
.................................................................
บทที่ 1 ต้นเหตุของเรื่องวุ่นๆ
ณ ดินแดนห่างไกล ซึ่งถูกปกคลุมด้วยกลิ่นอายแห่งเวทย์มนต์ ตำนานหลากหลายถูกขับขานรุ่นต่อรุ่น บรรพบุรุษสู่ทายาท ความเชื่อที่แผ่นดินถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน...เอเดนและเดมอส...ความลึกลับของพลังยังคงอำนาจอยู่จนถึงทุกวันนี้รอให้คนรุ่นใหม่ได้ค้นพบ
เอดินเบิร์ก โรงเรียนพระราชา...โรงเรียนที่เหล่าเจ้าหญิงเจ้าชาย ขุนนาง ผู้ดีทั้งหลายแหล่ มาร่ำเรียนเพื่อเป็นกษัตริย์ที่ดี และแม้จะไม่ได้เป็นกษัตริย์ ความเชื่อถือต่อคุณภาพของการสอนก็เป็นที่ยอมรับนับเป็นใบเบิกทางสู่อนาคตอันสดใส หากแต่มิได้มีเพียงพวกเขาเท่านั้น แม้ว่าจะเป็นอาชีพใดก็สามารถเข้าเรียนได้หากว่าผ่านการทดสอบของโรงเรียน(ง่ายๆคือสอบเข้านั่นแลท่าน) รวมทั้งอาชีพ. . .หัวขโมยด้วย
“เฟริน” น้ำเสียงบ่งอารมณ์กรุ่นๆของผู้มีนัยน์ตาสีม่วงกำลังปลุกเพื่อนตัวแสบที่มันตื่นยากตื่นเย็น เหมือนเป็นปลาตาย นอนก็ดึกตื่นก็สาย สุดท้ายคือปลุกด้วยวิธีสารพัดก็ยังไม่ค่อยจะได้ผลกับการแงะมันออกมาจากเตียง
“ตื่นซักทีสิโว้ย เฟริน” คราวนี้น้ำเสียงหนักกว่าเดิม พร้อมเปลี่ยนจากเขย่ามาเป็นหาของปาใส่ เผื่อความเจ็บจะปลุกมันได้ แต่เปล่าเลย...มันยังนิ่งอยู่. . . ชิ ยิ่งขี้เกียจไปเอากะละมังมาสาดน้ำใส่มันอยู่. . .
แล้วเพื่อนรักนักฆ่าก็เดินเข้าไปในห้องน้ำคว้าของในความคิดมากรองน้ำแล้วจึงเดินอาดๆออกมาด้วยสีหน้าบูดๆ เพราะวันนี้ต้องปลุกมันคนเดียวอีก
น้ำเย็นๆสาดโครมลงไป เปียกทั้งตัวตื่นยากและที่นอน คงต้องให้มันเอาฟูกไปตากอีกแล้ว หลังจากยังไม่ถึงอาทิตย์ก็ตากมาทีหนึ่งเพราะวิธีการปลุกนี้
นิ้วสีน้ำตาลขมวดเข้าหากันก่อนจะลุกขึ้นแบบสะลึมสะลือ มือขยับเสยผมอิ่มด้วยหยดน้ำ
“คิล แกจะปลุกให้มันดีกว่านี้ไม่ได้รึไง” ตื่นปุปหัวขโมยตัวแสบก็โซโล่สรรเสริญเพื่อนรักทันที มันปลุกทีไรเปียกทุกที ต้องเอาฟูกไปตากอีกแล้ว เซ็งชะมัด. . .แล้วคนตื่นยากก็ค่อยๆเยื้องยุคคลบาทออกจากที่นอนแฉะๆ เดินเตาะแตะโต๋เต๋ไปหาห้องน้ำแต่งตัวก่อนที่เพื่อนคนปลุกจะหมดความอดทน
ความจริงตัวเธอเองน่าจะต้องโดนเด้งไปอยู่หอนอนของฝ่ายหญิงแต่ด้วยการขอร้องสุดชีวิต ทุ่มทั้งหยาดเหงื่อแรงกาย(ในการตามตื้อทุกแห่งหนแม้จะเป็นห้องน้ำ ห้องอาหาร ห้องสมุดและอีกหลายๆห้องที่มิได้รวม ณ ที่นี้)และเวลาอันมีค่า(ในการนอน)กับท่านมหาปราชญ์ เลโมธี ซึ่งหลังจากวนเวียนอยู่ประมาณ 1 สัปดาห์ ท่านก็(ทนไม่ได้)เลยยินยอม ด้วยเหตุผลที่ว่า ผู้ร่วมห้องเชื่อถือได้(แน่นอนว่ามันคงไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรอก แม้จะนอนด้วยกัน เพราะเฟรินฮุคเข้าทีเดียว เพื่อนร่วมห้องทั้ง2ก็คงต้องไปห้องพยาบาลขอยาแก้จุกมาอมก่อนนอนทุกวัน)
“การปกครองสมัยจักรพรรดิวิลเลี่ยม โบแด็งที่หนึ่งแห่งเวนอลนั้น ใช้ระบอบการปกครองแบบธรรมราชา(???) มีกษัตริย์เป็นประมุขสูงสุด. . .” เสียงกล่อมเด็กหลับของอาจารย์เจ้าชายชามัลที่เคารพเว้นวรรคการบรรยายเป็นช่วง ให้คนง่วงหาวแล้วหาวอีกจนศีรษะโดนโต๊ะดึงดูดให้ลงมาแนบ เหมือนมีคาถา...ฟุบลงมาหาชั้นสิจ๊ะ นอนเลยจ๊ะนอนเลย นอนกันเถอะนะ. . .เสียงเรียกจากโต๊ะที่รักร้องเรียกให้เฟรินโน้มหน้าเข้าใกล้ทุกทีๆและในที่สุดก็หาหนังสือมาบังก่อนจะทำตามคำขอของมัน
เจ้าชายสูงศักดิ์แห่งคาโนวาลมองเพื่อนซี้ร่วมห้อง(นอน)ทั้งสองก็ถอนหายใจเบาๆก่อนจะตั้งหน้าตั้งเรียนต่อไปพร้อมจดบันทึกไว้สำหรับทบทวน
“ตุ่ง ตุง ตุง ตุ๊ง(เสียงเหมือนตอนก่อนประชาสัมพันธ์ตามห้างจะประกาศครับ)” เสียงกริ๊ง(???)สั้นๆเรียกคนขี้เซาที่ตื่นก็สายให้ลุกพรวดขึ้นมาทันที เพราะคาบต่อไปมัน...พักเที่ยง โอ้มายเลิฟ...ข้าวเที่ยงจ๋า ฉันมาแล้ว
...................................................................
หลังจากต้องยอมรับสภาพของเพื่อนทั้งสองมาเป็นเวลา2 เกือบจะ 3ปี แล้ว เขาก็เริ่มชินกันการเห็นเพื่อนหลับในคาบเรียนและทานอาหารอย่างเอาจริงเอาจัง แต่ไม่ต้องเทียบระหว่างนักฆ่าจอมโดดกับหัวขโมยแอบหลับเพราะมันรับประทานอาหารด้วยท่าทางที่ต่างกันเยอะ เยอะมากเลยด้วย
“โฮ้ยยยย อันนี้อร่อยสุดยอดเลย ไอ้คิลเอ๊ย” หญิงสาวน่าตาน่ารักบอกเพื่อนซี้ข้างๆ ขณะที่ปากก็กำลังเคี้ยวตุ้ยๆ ถ้ามันจะต้องไปคาโนวาลจริงๆหละก็ ต้องจับมันเข้าคอร์สอบรมมารยาทหญิงไทยในการกินฉบับเร่งด่วน โดยอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญการสอน พี่ผีสาวแห่งคทาพิพากษา
“เฟริน แกกินให้มันหมดปากก่อนจะดี...” พูดไม่ทันขาดคำ นัยน์ตาสีม่วงก็เบิกกว้างเมื่อเพื่อนซี้เริ่มออกอาการไอค่อกแค่กชนิดหน้าม่วงๆ เพราะอาหารลงหลอดลม ความจริงก็สมน้ำหน้ามันอยู่หรอกแต่ไม่ช่วยก็เดี๋ยวจะเสียเพื่อนไปหนึ่งคนชัวร์ๆ เนื่องจากมันหน้าสีม่วงเข้มขึ้นเรื่อยๆ
มือกร้านหยิบแก้วน้ำส่งให้เพื่อนทันที แต่ไม่ทันที่คนติดคอจะยกมันดื่ม มือหนักๆก็ฟาดผัวะเข้ากลางหลังจนต้องเซมาด้านหน้า ก่อนอาการติดคอจะหายเป็นปลิดทิ้ง . . .มือหนักเป็นบ้า. . . เฟรินคิดก่อนจะขอบคุณผู้หวังดีที่อุตส่าห์เดินอ้อมโต๊ะยาวมาตบหลังให้
“คาโล แกจะช่วยให้มันนุ่มนวลกว่านี้ไม่ได้รึไงกัน คนนะไม่ใช่หมา” งูเห่าตอบแทนคุณชาวนาผู้ช่วยชีวิตทันที
“แต่เมื่อก่อนนายเคยเป็น” คำพูดของคนไม่นิยมพูดกัดเจ็บ ให้คนฟังหนึ่งคนพยายามกลั้นหัวเราะ ไม่ว่าจะเพราะกลัวติดคอเหมือนเพื่อน หรือจะด้วยกลัวเพื่อนบีบคอ กับอีกหนึ่งผู้ฟังที่สีหน้าดูจากมุมไหน ก็สรุปได้คำเดียวว่า โกรธ
“งั้นคงต้องขอบพระทัย ฝ่าบาทมากที่ทรงกรุณาช่วยหมาอย่างหม่อมฉันนะพะยะค่ะ” คนเคยเป็นหมากระแทกเสียงกับคำท้าย พะยะค่ะ เต็มที่ ก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาเสวยอาหารร่วมกับเจ้าชายน้ำแข็งและนักฆ่าจากซาเรสต่อไป
ผู้เฒ่าผู้แก่มักพูดกันว่าถ้าแมวมันอาฆาตหละก็ มันจะตามล้างแค้นไปถึง 9 ชั่วโคตร แต่พี่หมาก็ไม่ได้น้อยหน้าไปกว่านั้นเลย เมื่ออารมณ์เดือดๆมันปะทุขึ้น สมองที่เคยอวดกับพ่อว่าตนเองหนะไบรท์ที่สุดแล้วในกลุ่มกำลังคิดหาแผนการแก้เผ็ดเจ้าน้ำแข็งเดินได้นั่น
นัยน์ตาสีม่วงจับจ้องเพื่อนหัวขโมยที่มันมาแปลกพิกล เมื่อคนพูดมากปาก...(หมา)อย่างมันสงบคำเงียบกริบ แทนที่ด้วยการกอดอกนั่งคิดคำนวณอะไรอยู่คนเดียว
“เฟริน แกเป็นอะไรรึเปล่าวันนี้” ปากคิลก็ทักไป ส่วนมือก็พลิกกระดาษสีเหลืองมากอายุ หาข้อมูลทำรายงานส่งท่านอาจารย์ผู้เมตตายิ่งในห้องสมุด
“เปล่า...” คนผิดปกติตอบ ก่อนเหลือบมองเป้าหมายที่นั่งอ่านอะไรเงียบๆอยู่ด้านขวาของคิล
ชิ หมั่นไส้จริงโว้ย...อารมณ์ร้อนๆแม้จะบรรเทาไปมากเมื่ออยู่ในบรรยากาศเย็นๆของห้องสมุด แต่มันก็ยังส่งผลให้สมองหาวิธีแกล้งเจ้าชายหอคอยงาช้างตลอดเวลา หน้าที่ 23 ถูกเปิดข้ามไปเป็นหน้า 40ทันที ก่อนจะค่อยๆถูกพลิกไปเรื่อยๆ
หน้า 41 ชนวนสงครามแห่งคาโนวาลและโคมาน
หน้า 42 สรุปผลสงคราม
หน้า 43 วิเคราะห์การวางแผนสงคราม
หน้า 44 สงคราจบลงด้วย. . .
แล้วคนหงุดหงิดก็พลิกผ่านไปถึงหน้าที่ 49 เลขอาถรรพ์แห่งเอเดน. . .เฟรินกวาดสายตาอ่านแบบผ่านๆก่อนจะหยุดกึกกับกระดาษโน๊ตที่หนีบอยู่ในหน้านั้น
ยาเปลี่ยนนิสัย
ส่วนผสมสำคัญ
-เล็บเคลอเบรอส
-น้ำลายกิ้งก่าโคโมโด
-น้ำเปล่า
-น้ำตาลทราย
-สารละลายทิงเจอร์ไอโอดีน
-สารละลายเบเนดิกซ์
ขั้นตอนการผสม
-ต้มน้ำเปล่าให้เดือดที่อุณหภูมิ 99 องศา เซลเซียส จากนั้นหยดสารละลายทิงเจอร์ไอโอดีนลงไป 2 หยดด้วยหลอดทดลอง
-เติมน้ำตาลทราย 1 ช้อนชา กวนให้เข้ากันก่อนเติมน้ำลายกิ้งก่าโคโมโดลงไป 3 ช้อนโต๊ะ
-ต้มต่อจนเดือดแล้วใส่สารละลายเบเนดิกซ์ กวนให้เข้ากัน
ข้อแนะนำ
-ถ้าจะใช้ให้ได้ผล ควรนำไปใช้ภายใน 2 ชั่วโมง มิฉะนั้นผลที่ได้อาจผิดเพี้ยนออกไปจนอันตรายถึงชีวิตได้
-สามารถซึมผ่านผิวหนังได้ แต่จะได้ผลดีกว่าหากรับประทานเข้าไปเลย
ไอ้เมนูนี่มันอะไรกันหว่า จอมแสบประจำป้อมทวนข้อความอย่างสนใจ ก่อนจะพับมันใส่กระเป๋าโดยที่เพื่อนทั้งสองไม่ทันสังเกตเห็นแม้แต่น้อย
...............................................
ป้อมอัศวิน เวลา 00.23 น
เหล่านักเรียนประจำป้อมได้เข้าสู่ห้วงนิทรากันหมดแล้ว ยกเว้นคนคนหนึ่งที่ลอบเดินตามระเบียงในยามวิกาล ผ่านไปสู่ห้องครัวประจำป้อม ก่อนจะล็อคประตูห้องครัวอย่างรวดเร็ว
สิ่งของหน้าตาประหลาดจำนวน 2 อย่าง และขวดเล็กๆ 2ขวด ถูกนำมาวางเรียงที่เคานเตอร์เตรียมอาหาร โดยสิ่งของหน้าตาประหลาดนั้น อันหนึ่งคล้ายเล็บสัตว์ร้าย กับอีกอันที่เป็นของเหลวหนืดๆสีขุ่น ส่วนอีกสองขวดเป็นของเหลวสีฟ้าและสีน้ำตาลแดงๆ
“เล็บเคลอเบรอส น้ำลาย ไอโอดีน เบเนดิกซ์” เฟรินชี้นิ้วไปยังสิ่งของเหล่านั้นเป็นการไล่ลำดับตามโน้ตที่แอบพับเก็บไว้
“ถ้าแค่น้ำตาลทรายธรรมดากับน้ำเปล่า ที่นี่มีแน่อยู่แล้ว. . .” นัยน์ตาสีน้ำตาลกวาดมองไปรอบๆก่อนจะเดินไปหยิบของเหล่านั้นแล้วเริ่มขั้นตอนตามโพยที่ไม่น่าไว้ใจ
...................................................................
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น