คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #48 : ข้าวหน้าปลาทอด Sakanadon ซากานะดง
ซากานะก็แปลว่าปลาอ่ะครับ วันนี้ขอใช้ปลาแช่แข็งนะครับ เนื่องจากสะดวกและชิ้นปลาสวยงามกว่ามานั่งแล่เองน่ะครับ มาดูวัตถุดิบกันก่อนนะครับ
ส่วนผสมและวัตถุดิบที่ใช้ก็มีดังนี้ครับ
ปลา ก็เป็นปลาแช่แข็งครับ เลือกเอาปลาอะไรก็ได้ที่เนื้อไม่เปื่อย อย่างเช่นปลาเก๋า ปลากะพง จะใช้ปลาแซลมอนก้อไม่ว่ากันครับ สำหรับผมใช้ปลาดอรี่แช่แข็งครับ ไม่แพงด้วยกิโลล่ะ 135 เอามาใช้แค่สองชิ้นใหญ่ๆ
เกล็ดขนมปัง ใช้แบบเกล็ดเล็กหน่อยนะครับ เวลาทอดจะได้ไม่หลุดร่วงไปซะหมด เกล็กเล็กจะเกาะเนื้อปลาได้ดีกว่า
แป้งสาลี สำหรับใช้คลุกเนื้อปลาก่อนที่จะชุบไข่แล้วชุบเกล็ดขนมปัง ใช้พอคลุกชิ้นปลาให้ทั่วก็พอแล้วครับ
ผงซุปดาชิสำเร็จรูป ไอ้ที่เห็นเป็นกล่องๆภาษาญี่ปุ่นนั่นแหละครับ ข้างในมี 5 ซอง หรือจะใช้ปลาโอแห้งที่เป็นห่อๆก็ได้นะครับ ต้มแล้วกรองเอาแต่น้ำซุป แต่ผมว่าแบบผงจะสะดวกกว่า 1 ซอง ต่อน้ำ 1.5 ลิตร จะให้เข้มหน่อยก็ลดน้ำลง ใช้แค่ 1-1.2 ลิตรก็ได้ครับ
ซีอิ๊วญี่ปุ่น นี่ขาดไม่ได้เลย จะเอาซีอิ๊วขาวแบบจีนมาแทนก็ไม่ได้นะ เดี๋ยวนี้มียี่ห้อที่ทำในเมืองไทย ไม่แพงแล้วล่ะครับ ติดบ้านไว้ซักขวด ไม่ทำอาหารญี่ปุ่น เอาไว้เหยาะจิ้ม หรือทำปลานึ่งซีอิ๊วก็ไม่เลวเลยครับ
มิริน มิรินคืออิหยัง????? มิรินคือไวน์ที่ทำจากข้าวเหนียวของญี่ปุ่น ต่างจังหวัดค่อนข้างหายากหน่อย เอ...ถ้าไม่มีจะใช้อะไรที่ใกล้เคียงนะ อืมมม...ใช้ไวน์ขาว หรือ เหล้าจีนก้อได้นะครับ แต่อย่าใส่มากแล้วกัน เพราะไวน์ขาวและเหล้าจีน กลิ่นจะแรงกว่ามิรินมาก หากว่าพอจะหาเหล้าสาเกได้ ก็จะดีกว่าไวน์ขาวนะครับ
หอมใหญ่ เอามาหั่นเป็นเสี้ยวๆเลยครับ ซัก 1 ลูกก็พอสำหรับสองคนทานแล้วล่ะครับ
ไข่ไก่ ฟองนึงสำหรับชุบปลาทอด อีกฟองนึงเอาไว้ใส่ในกระทะก่อนจะยกราดข้าวนะครับ
ต้นหอมซอย ไว้โรยหน้า แล้วถ้าอยากให้เป็นญี่ปุ๊น ญี่ปุ่น ล่ะก็จะซอยสาหร่ายโนริแห้งเอาไว้โรยหน้าอีก ก็ไม่ว่ากันครับ
ส่วนไอ้ชามที่สีแดงๆนั่น เป็นกิมจิครับ ซื้อสำเร็จรูปมาทานแก้เลี่ยน แล้วที่เห็นเป็นถุงเต้าเจี้ยวญี่ปุ่น ( มิโซะ) ผมเอามาทำซุปมิโซะ ทานคู่กับข้าวกันติดคอ อิอิ วิธีทำก็ไม่ยาก พอน้ำซุปดาชิ ที่เหลือจากการทำซากานะดงแล้วก็ใส่เต้าเจี้ยวลงไป คนให้ละลาย เข้มมากน้อยก็ใส่ตามใจชอบครับ แล้วค่อยใส่สาหร่ายวากาเมะและเต้าหู้อ่อนหั่นลงไปก็ได้ซุปเต้าเจี้ยวแล้วล่ะครับ มาทำกันเลยดีกว่าครับ
เริ่มจากนำเนื้อปลามาปรุงรสด้วยเกลือพริกไทย แล้วคลุกกับแป้งสาลีให้แป้งติดเนื้อปลาทั้งหมด เขย่าให้แป้งหลุดออก ( อย่าให้เนื้อปลาแฉะมากล่ะครับ จะทำให้แป้งติดเป็นก้อน)
เสร็จแล้วก็ชุบไข่ให้ทั่วเลยครับ
แล้วนำมาคลุกแป้งขนมปังอีกทีครับ
ลงทอดซะให้เหลืองแบบเนี้ย.....เสร็จแล้วพักไว้นะครับ
นำกระทะแบนตั้งไฟปานกลาง แล้วใส่น้ำซุปดาชิทีเตรียมไว้ จากนั้นก็ใส่หอมใหญ่ที่หั่นเป็นเสี้ยวลงไปเลยนะครับ (จะเห็นว่ากระทะของผมผ่านสงครามมาอย่างโชกโชน แหะแหะ )
ใส่ซีอิ๊วญี่ปุ่นลงไป 3 ช้อนโต๊ะ หรือ กว่านิดหน่อย ตามด้วย มิรินอีก 1 ช้อนโต๊ะครับ
เร่งไฟหน่อยนะครับ ให้น้ำซุปเดือด จนหัวหอมเริ่มสลด
ใส่เนื้อปลาลงไป ตักน้ำซอสและหัวหอม มาราดบนปลาทอด แล้วก็ตอกไข่ใส่ได้เลยครับ
สังเกตว่าหัวหอมเริ่มเปลี่ยนสีเป็นสีน้ำตาลแล้ว แสดงว่าซอสเริ่มเข้มข้นแล้ว อย่าให้ไข่ไก่สุกมากนะคับ เดี๋ยวจะไม่อร่อย ให้มีน้ำซอสขลุกขลิกเอาไว้คลุกข้าวด้วยล่ะ
ตักราดข้าวเลยครับ ไหนๆก็ทำอาหารญี่ปุ่นแล้ว หุงข้าวญี่ปุ่นทานด้วยก็ดีครับ ข้าวเค้าจะเหนียวๆหน่อย ใส่น้ำไม่ต่างจากข้าวไทยหรอกครับ อย่าใส่น้ำเยอะแล้วกันจะแฉะเอาง่ายๆ
เสริฟเคียงกัน สามอย่าง Perfect!!!!!!
ง่ายมั้ยครับ สำหรับข้าวหน้าปลาทอด ผมก็เรียกง่ายๆอ่ะนะ ถ้าจะเรียกให้ครบคงต้องเรียกว่า ข้าวราดหน้าปลาทอดซอสหัวหอมไข่ขลุกขลิกประมาณนั้น ถ้าเป็นในญี่ปุ่นเค้าจะใส่ข้าวเยอะมาก ( ไม่อยากบอกเลยว่ากรรมกรญี่ปุ่นนิยมทาน เพราะเยอะและเสริฟได้รวดเร็ว ชามเบ้งอย่างนี้อิ่มไปนาน)
ใครจะว่ากรรมกรญี่ปุ่นกินก็ช่างเถอะ แต่มื้อนี้ผมเองทำทานได้จนถึงมื้อเย็นแน่ะ..
ขอให้มีความสุขกับการทำอาหารและ ทานอาหารอย่างอร่อยถูกปากครับ !!!
ความคิดเห็น