คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : แก้เผ็ดยัยตัวแสบ
นภามองหานรินทร์ไม่พบ ไม่รู้เดินหายไปทางไหนซะแล้ว เขา“กล้า”ทิ้งเธอหรือนี่!
‘คอยดูนะ! พี่ต้องคิดผิดที่ทำแบบนี้กับฉัน!’
เด็กสาวเริ่มใจหาย หลังจากพยายามเดินตามเขาไปข้างหน้า จนเดินทะลุออกมาจากอีกซอยหนึ่ง แต่ยังไม่มีวี่แววว่าจะเห็นเพื่อนของพี่ชายเอาซะเลย เธอจึงหยุดเดิน
‘นึกว่า ฉันต้องพึ่งพี่เหรอ!’
เด็กสาวเริ่มหงุดหงิด ว่าแล้วจึงหยิบมือถือจากกระเป๋ากระโปรงขึ้นมา โชคดีที่เธอไม่ได้ลืมมือถือด้วย ไม่งั้นคงจะแย่แน่ ๆ กดเลื่อนเปิดหน้าจอขึ้นมา ได้ยินเสียงเตือนของแบตกำลังจะหมด ไอคอนของแบตเตอร์รี่ลดลงจนกลายเป็นสีแดง เหลืออยู่แค่สี่เปอร์เซ็นต์เธอไม่ได้พกเอาแบตสำรองมาซะด้วยสิ มันเป็นข้อเสียของโทรศัพท์สมาร์ทโฟนที่มีหน้าจอใหญ่ แม้หน้าจอโทรศัพท์ของเธอจะไม่ใช่ขนาดใหญ่มากก็ตาม แต่แบตหมดเร็วมาก แค่เปิดเครื่องทิ้งไว้เฉย ๆ ยังไม่ได้ใช้อะไร ก็ยังรับประทานแบตเกือบจะหมดแล้วยิ่งถ้าเปิดสัญญาณอินเทอร์เนตด้วยไม่ต้องพูดถึง ยิ่งรับประทานแบตอย่างไวเลย
‘ตายแล้ว ยัยภาเอ๊ย!’
คราวนี้เธอตายแน่ รีบกดหาเบอร์ล่าสุดที่เคยโทรหาพี่ชาย แล้วกดโทรออกทันที ได้ยินสัญญาณโทรติดแล้ว ค่อยรู้สึกโล่งใจ แต่กว่าพี่ชายของเธอจะกดรับ มองแบตที่ลดลงเรื่อย ๆ ด้วยใจลุ้นระทึกในที่สุดก็ได้ยินเสียงตอบรับจากปลายทาง
“ว่าไงภา”เสียงพี่ชายของเธอตอบมาแล้ว
“พี่ยนตร์มารับภาด้วยนะคะ”
เธอยังไม่ทันได้อ้าปากกรอกเสียงพูดลงไป แบตก็หมดลงไปต่อหน้าต่อตา หน้าจอดับวูบลงมืดสนิท เครื่องโทรศัพท์ปิดตัวเองลงทันที นภาพยายามเปิดเครื่องใหม่ก็ทำไม่ได้ พยายามมองหาตู้โทรศัพท์ก็ไม่เห็นมีอีกต่างหาก ที่สำคัญที่สุด เธอจำเบอร์โทรศัพท์ของพี่ชายไม่ได้ เพราะไม่เคยโทรเองด้วยความจำในสมองเลย นี่เป็นข้อเสียของการมีโทรศัพท์มือถือข้อที่สอง
แง้................................!!!
นภาได้แต่กรี๊ดต่อในใจแทบจะร้องไห้เข่าทรุดอยู่ตรงนั้น
‘ทำไงดีล่ะทีนี้’
นภายืนหน้าเสียอย่างทำอะไรไม่ถูกอยู่ครู่หนึ่งราวกับสมองแฮงค์ ก่อนจะตัดสินใจเดินกลับไปที่ร้านซื้ออุปกรณ์ตอนแรก แต่ทว่า เธอดันมีความจำสั้นมากในเรื่องการจดจำเส้นทางแล้วนี่เธอเดินทะลุมาจากทางไหน แล้วมันต้องไปทางไหนมาไหนแล้วเนี่ยสมองพยายามลำดับสถานที่ที่เดินผ่านมา
“โอ๊ย! แล้วฉันจะเดินกลับถูกมั้ยเนี่ย...!”
นรินทร์ยืนแอบมองนภาอยู่อย่างขำสุดขีด เขาคอยแอบเดินตามเธอไปอยู่ห่าง ๆ มองเธอเดินเก้ๆ กัง ๆ หน้างี้ดูไม่จืด ยุ่งเป็นยุงตีกันเลย เขาอมยิ้มอย่างสะใจที่ได้แก้แค้นอีกฝ่ายซะที
‘อ้าว!แม่คุณ...ทำไมเดินไปทางนั้นล่ะ แล้วมันจะถึงหรือนั่น’เขามองเห็นยัยตัวแสบเดินออกนอกเส้นทางที่จะต้องกลับไปร้านอุปกรณ์ที่ซื้อและฝากของไว้แล้ว
‘ตายล่ะ!ยัยบ๊องเอ๊ย’เขามองเธอที่ชักจะเริ่มหลงทางไปกันใหญ่แล้ว พลางยกมือขึ้นกุมหน้าผากตัวเอง ที่สำคัญเขาเดินตามเธอจนเมื่อยขาแล้ว ตกลงว่า เขาแกล้งเธอหรือเธอแกล้งเขากันแน่ มันกลับตาลปัตรไปหมด เห็นทีจะต้องรีบแสดงตัวเพื่อแย่งตำแหน่งผู้นำกลับคืนมาซะแล้ว ให้เธอต้องมาเดินตามเขา ไม่ใช่เขาที่ต้องกลายเป็นคนเดินตามก้นเธออย่างนี้
ครู่หนึ่งโทรศัพท์ของหนุ่มหล่อดังขึ้น จึงรีบหยิบขึ้นมากดรับ ปรากฏรูปยนตร์บนหน้าจอโทรศัพท์สายเรียกเข้า
“ถึงไหนแล้ว เสร็จกันรึยัง”เสียงยนตร์ถาม
“เสร็จแล้ว ทางโน้นล่ะ” นรินทร์ตอบสายตายังคงมอง และเดินตามยัยตัวแสบอย่างไม่ให้คลาดสายตา
“เรียบร้อยแล้ว จะรออยู่ที่ร้านเครื่องเขียนร้านเดิมนะ วนรถมารับของและคนด้วยล่ะ”
“ได้เลย”เขาตอบเพื่อนซี้
นรินทร์ขมวดคิ้วเมื่อเดินตามนภามาถึงทางแยกซึ่งมีผู้คนพลุกพล่าน แม่ตัวยุ่งหายไปไหนแล้วเนี่ยเขามองไม่เห็นเธอแล้วพยายามกวาดสายตามองหาเธอ
“น้องข้าเป็นไงบ้าง เมื่อกี๊โทรมา แต่ยังไม่ได้พูดอะไรกันเลย สงสัยแบตหมดตามเคย ขอพูดกับนภาหน่อยสิ” ยนตร์รู้สึกแปลกใจที่น้องสาวโทรเข้ามาแล้วกลับไม่ยอมพูดอะไรซักคำ จะเกิดอะไรขึ้นกับเธอรึเปล่า? รู้สึกเป็นห่วงน้องสาวขึ้นมา
นรินทร์สะดุ้งเฮือก!ที่ยนตร์ถามถึงยัยตัวแสบ
‘ตายล่ะ!จะบอกยนตร์ยังไงดีเนี่ย...มีหวัง....’
เขาพยายามเดินมองหาเธออย่างละเอียด
“ว่าไง นรินทร์”เสียงยนตร์ย้ำเมื่อยังไม่ได้รับคำตอบ
“คือ...คือ...”หนุ่มหล่อเริ่มพูดตะกุกตะกัก สุดท้ายเขาตัดสินใจที่จะบอกความจริง อย่างไรเสียยนตร์ก็ต้องรู้อยู่ดี
“ตอนนี้ข้าหลงกับนภาว่ะ”
“อะไรนะ!แกอย่าบอกนะ ว่าแกทำน้องข้าหาย!”ยนตร์ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงเครียดขึ้นทันที
“หลงกันน่ะ เมื่อกี๊นี้เอง ข้าไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ คนโครตเยอะเลยตอนนี้”หนุ่มหล่อรู้สึกไม่สบายใจเช่นกันที่เธอหายตัวไป
“แล้วตอนนี้อยู่ไหน”ยนตร์ไม่อยากจะเชื่อว่าอยู่ ๆ จะหลงกันจริง ถ้าไม่ได้ตั้งใจ แต่เขาจะสอบสวนเพื่อนอีกครั้ง แต่ตัวเขาเองก็ยังเกือบหลงกับปารเลย
“ตอนนี้ ข้าอยู่ตรงร้านหนังสือเก่า หนังสือมือสอง”หนุ่มหล่อมองป้ายหน้าร้านหนังสือมือสอง
“โอเค! เดี๋ยวตามไป”
นรินทร์รีบออกเดินตามหายัยตัวยุ่งทันที เธอไม่น่าจะหลงไปไหนไกล ชายหนุ่มหายใจเข้าลึก ๆ และออกยาว ๆ เพื่อผ่อนคลายความตึงเครียด พยายามใช้สายตามองทุกพื้นที่อย่างละเอียดถี่ถ้วนกว่าเดิมเขาต้องรีบหานภาให้เจอ ก่อนที่แม่คุณจะหลงทางไปไกลมากกว่านี้
‘ต้องหาเจอสิน่า...’เขาให้กำลังใจตัวเอง เดินหาเธอต่อไปไม่หยุด
'เธอจะหลงไปไหนได้ ถ้าไม่เข้าร้านใดร้านหนึ่ง' มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะหายตัวไปรวดเร็วถึงเพียงนี้
หนุ่มหล่อ เดินผ่านร้านขายตุ๊กตาร้านหนึ่ง แต่แล้วรีบเหลียวหันมาดู ป้ายสติ๊กเก้อสีชมพูสวยสดใสขนาดใหญ่ที่ติดหราอยู่ที่กระจกหน้าร้านนั้นเป็นรูปแมวคิตตี้ สาวกแมวคิตตี้อย่างเธออาจจะแวะเข้าไปดูก็ได้ เขาตัดสินใจเดินเข้าร้านทันที ไล่เดินมองหาทีละล็อค ทีละชั้น ทีละแถว แต่แล้ว...ก็ยังหาไม่เจอ....
นรินทร์ถอนหายใจออกเบา ๆ เหลืออีกล็อคเดียว เขาภาวนาขอให้เจอน้องสาวเพื่อนด้วยเถิด
ในที่สุดก็หาเธอเจอเสียที แม่ตัวยุ่งกำลังเลือกพวงกุญแจแมวคิตตี้อยู่ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มเชียว ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย คนอื่นเขาจะเป็นกังวลตามหาตัวกันให้วุ่นวายขนาดไหน
“ได้อันที่ชอบหรือยังครับ” ชายหนุ่มโน้มตัวเข้าไปกระซิบถามข้างหูเด็กสาว
นภาหันขวับมามองที่ต้นเสียง
“รู้รึเปล่า! คนอื่นเขาวุ่นวายตามหาตัวเธอกันใหญ่ มาหลบอยู่นี่มีความสุขจริงนะ”หนุ่มหล่ออดค่อนแคะเธอไม่ได้
“ก็แล้วมันเป็นความผิดของใครมิทราบ!ใครล่ะ ที่เป็นต้นเหตุทำให้เป็นแบบนี้” นภาเน้นเสียง จ้องหน้าหนุ่มหล่อเขม็ง
ชายหนุ่มหายใจเข้าลึก ๆ ยาว ๆ เมื่อถูกเธอพูดกระแทกความจริงใส่ พยายามสะกดอารมณ์โกรธเอาไว้
“แล้วจะได้เวลากลับรึยังครับ”
“ยัง...” เธอลอยหน้าลอยตาตอบกวนประสาทฝ่ายตรงข้าม
นรินทร์ไม่สนคำตอบของยัยตัวแสบ เดินเข้าไปคว้าข้อมือเด็กสาวแล้วลากเธอไปทันที
“เดี๋ยว!พี่นรินทร์!”นภาใช้อีกมือหนึ่งรั้งแขนชายหนุ่มเอาไว้
“ทำไม! มีอะไรอีก!”นรินทร์หันมาถามเสียงดุ ๆอย่างรำคาญเต็มที่
“ฉันขอเวลาเอานี่ไปคืนก่อนนะ” นภาชูพวกกุญแจแมวคิตตี้ในมือขึ้นมา
“เร็ว ๆ เลย” เขาเดินตามไปโดยไม่ยอมปล่อยมือเธอ
นภาวางพวงกุญแจแมวคิตตี้ไว้ที่เดิมของมันด้วยความเสียดาย เพราะตอนนี้ยังไม่มีเงินที่จะซื้อมันกลับไปได้ แล้วถูกเพื่อนของพี่ชายลากออกไปจากร้านอย่างรวดเร็ว
หนุ่มหล่อหยุดเดินเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ แล้วกดรับสาย ยนตร์โทรเข้ามา
“เจอนภามั้ย” น้ำเสียงของเพื่อนนั้นเจือความเป็นห่วงน้องสาวอย่างมาก
“เจอแล้ว กำลังพากลับไป”นรินทร์ตอบ
“พี่ยนตร์... ๆ ๆ ๆขอพูดกับพี่ยนตร์หน่อย” นภารู้ว่าพี่ชายโทรมารีบขยับตัวเข้าไปใกล้ ตะโกนเข้าไปในโทรศัพท์ของเขาเท่าที่จะทำได้
“นรินทร์ขอสายนภาหน่อย” ยนตร์ได้ยินเสียงน้องสาว นรินทร์หันมามองยัยตัวแสบ ที่มายืนคอยืดคอยาวในระยะประชิดตัวเขา พอนภารู้สึกตัวว่ายืนอยู่ใกล้เขาเกินไปก็รีบถอยตัวออกห่างอย่างเร็วที่สุด
เด็กสาวเอื้อมมือไปรับโทรศัพท์จากหนุ่มรุ่นพี่ แต่ทว่ากว่าจะได้ เขาก็แกล้งยึกยักโยกโย้ ไม่ยอมส่งให้โดยง่าย จนทำให้เธอหงุดหงิดเอาการ ขว้างค้อนสายตาวงใหญ่ให้เขาจนนับไม่ถ้วน
“พี่ยนตร์มารับฉันด้วยนะฉันไม่อยากไปกับพี่นรินทร์ พี่ยนตร์มารับฉันนะ” นภารับโทรศัพท์จากหนุ่มหล่อ แล้วรีบหันหลังให้เพื่อนพี่ชายกรอกเสียงลงไปในโทรศัพท์ระรัว
“ภา...เป็นอะไรหรือเปล่า”ยนตร์ถามไถ่น้องสาวด้วยความเป็นห่วง
“เปล่า...ไม่ได้เป็นอะไรค่ะ”
“ดูท้องฟ้าซิ” นภามองดูท้องฟ้าที่มืดสลัวลง พระอาทิตย์หลบหายไปตามเหลี่ยมตึกทางทิศตะวันตกแล้ว
“มันเย็นมากแล้ว มากับพี่นรินทร์นะ พี่รออยู่ จะได้ไม่เสียเวลา” ยนตร์อธิบายให้น้องฟังอย่างใจเย็น
“พี่ยนตร์....”นภายังงอแง
“รีบมานะ พี่รออยู่”
“ค่ะ” นภารับคำเสียงอ่อย เมื่อขอร้องพี่ชายไม่สำเร็จ จำนนด้วยเหตุผล แล้วส่งคืนโทรศัพท์ให้หนุ่มหล่อ
“ทีนี้ไปได้แล้วใช่มั้ย?” นรินทร์หันมาถามยัยตัวแสบแล้วคว้าข้อมือของเธอให้ก้าวตามไป
“เดี๋ยว...พี่นรินทร์...ให้ฉันเดินเองได้มั้ย” เด็กสาวพยายามรั้งข้อมือตัวเองไว้ ไม่ยอมเดินต่อ มองข้อมือตัวเองที่ยังถูกเขายึดไว้อยู่
“ไม่ได้! เดี๋ยวเธอหลงหายไปอีก พี่ขี้เกียจตามหา”
หนุ่มหล่อปฏิเสธด้วยน้ำเสียงเฉียบขาดพาเดินไปทันที พลางมองดูผู้คนยามเย็นยิ่งหนาตามากขึ้นกว่าเดิม แต่เด็กสาวกลับยังไม่ยอมเดินตาม จนเขาต้องหันมามองด้วยสายตาของคำถาม
“ถ้าใกล้ถึงแล้ว พี่ให้ฉันเดินเองนะ”นภาพยายามสะกดอารมณ์ที่ไม่พอใจเขาเอาไว้ พยายามพูดจากับเขาดีดีเผื่อว่าเขาจะใจอ่อน เธอจะให้พี่ชายหรือปารเห็นเธอถูกเพื่อนพี่ชายจูงไปแบบนี้ไม่ได้เป็นอันขาด! มันเสียหน้าอย่างแรงมีหวังต้องโดนปารเอาไปล้อแน่ ๆ
“ได้”
หนุ่มหล่อรับคำ หันหน้ากลับไปมองทาง อดยิ้มไม่ได้ในความช่างหวงเนื้อห่วงตัวซะเหลือเกินของเธอ หนุ่มหล่ออย่างเขามีแต่สาว ๆ อยากให้จูงมือถือแขนทั้งนั้น แต่เธอกลับไม่ใช่ มันแปลกจริง ๆ อย่างไรก็ตามเมื่อมีโอกาสจูงมือเธอเดินไปด้วยกันแล้ว มันถือเป็นโชคดีหรือโชคร้ายกันแน่ เวลาเธอพูดง่าย ๆ ก็ดูน่ารักดีหรอก ถ้าเธอไม่ยอมอ่อนลงเขาคงจะต้องแกล้งเธอต่อไปให้หายแค้น เห็นยัยตัวแสบหน้าง้ำหน้างอแล้วมันอดขำไม่ได้เลย มันสนุกจริง ๆ ที่แกล้งเธอแล้ว คนถูกแกล้งก็บ้าจี้ตามซะด้วย
นรินทร์แอบอมยิ้ม เมื่อมองหน้าสาวน้อยที่ถูกเขาเดินจูงมืออยู่ขณะนี้ ใบหน้านั้นหงุดหงิดเอาการ แต่เขากลับรู้สึกสนุกมีความสุขอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แวบหนึ่งที่ชายหนุ่มรู้สึกแปลกใจ ความรู้สึกที่ได้จับมือเธอไว้แบบนี้ เหมือนมันเคยเกิดขึ้นมาแล้ว เหมือนคุ้นเคยกับเธอยังไงไม่รู้ ไม่เข้าใจตัวเองจริง ๆ ทำไมถึงรู้สึกแบบนี้ แล้วเธอจะรู้สึกเหมือนกับเขารึเปล่า หรือเขามันบ้ารู้สึกอยู่คนเดียว หรือเป็นเพราะเขาไม่เคยจูงมือผู้หญิงคนไหน เพราะมีแต่ผู้หญิงจะมาแย่งจูงมือเขาทุกที แต่ก็ไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อนเลย
นภามองซ้ายมองขวาไปมารอบตัวอย่างหัวเสียเต็มพิกัด รู้สึกโกรธที่ต้องถูกหนุ่มคู่อริเดินจูงมืออย่างนี้ เธออุตส่าห์ไม่เคยให้หนุ่มหน้าไหนมาจูงมือ แต่ทำไมคนแรกต้องเป็นนายหมอนี่ด้วย เมื่อมองเห็นผู้คนเริ่มบางตาลงไม่แน่นถนัดเหมือนบริเวณที่เพิ่งเดินผ่านมา จึงหยุดเดิน และรั้งแขนตัวเองที่ถูกเขาจับกุมไว้
หนุ่มคู่อริจึงหยุดเดินแล้วหันมามองด้วยสายตาของคำถาม
“ตรงนี้คนไม่เยอะแล้ว ไม่หลงกันหรอก ปล่อยมือฉันได้แล้ว” นภาบอกเขาด้วยน้ำเสียงขุ่น ๆ
“ทำไม! กลัวอะไร” เขาอดถามอย่างกวนประสาทไม่ได้
“กลัวสิ! เดี๋ยวคนเข้าใจผิด ฉันก็แย่สิ” เธอยังคงพูดต่อไปด้วยเสียงไม่พอใจ
“แย่ตรงไหน? เดินกับคนหล่อขนาดนี้ กลัวโดนเข้าใจผิดว่า เป็นแฟนกับพี่เหรอ” เขาแกล้งถามต่อด้วยสีหน้ายิ้ม ๆ
ตัวเขาเองยังไม่แคร์เลย เพราะมีคนเข้าใจผิดพูดไปเรื่อยว่าเขาเดินกับคนนั้นคนนี้มากมายจนนับไม่ถ้วน เป็นแฟนกับคนนั้นคนนี้จนนับไม่ไหว ทั้งที่จริงแล้ว เขาไม่เคยยอมรับใครเป็นแฟนแม้แต่คนเดียวต่างหาก ถ้าเขาแคร์เขาคงจะบ้าตายก่อน หลายครั้งที่เราบังคับใครให้เข้าใจเราอย่างถูกต้องไม่เคยได้เลย
“อย่าบอกนะ! ว่าพี่หลงเสน่ห์ฉันเข้าแล้ว” เด็กสาวยิ้มเยาะหาทางเอาคืน
หนุ่มหล่อหน้าใสอยากจะรีบปล่อยมือเธอทันที แต่พยายามตั้งสติไม่หวั่นไหว ว่าอย่างเขาหรือจะหลงเธอ เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด! แต่ก่อนจะปล่อยมือยัยตัวแสบคืนไปมันต้องหาเรื่องแกล้งเธอซะก่อน
“ถ้าพี่หลงเสน่ห์เธอจริง เธอจะยอมให้พี่จูงมือเหรอ” เขาจับมือแม่ตัวยุ่งไว้แน่นขึ้นกว่าเดิม พลางยื่นหน้าเข้ามาใกล้
ความคิดเห็น