ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เจ้าชายหิมะ

    ลำดับตอนที่ #27 : ครูฝึกจำเป็น

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 53
      1
      11 ธ.ค. 61

    ตอนที่ 27

    สีหน้าเรียบเฉยของเจ้าชายหิมะนั้นมีรอยยิ้มจาง ๆ ซ่อนอยู่  เมื่อได้ยินเสียงดังมาจากในครัว  เหมือนเจ้าหญิงเฟรนลี่จะได้รับคำแนะนำตลอดเวลา ผักต้องล้าง  ต้องหั่นยังไง เธอคงต้องเป็นลูกคุณหนูแน่ ๆ ถึงได้ทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง?  ร่างสูงมาหยุดยืนแอบดูอย่างเงียบ ๆ อยู่หน้าประตูครัว แต่ต้องสะดุ้งสุดตัว! เมื่อแม่ครัวระดับอนุบาล ถือถาดใส่ผักสดผลไม้ที่ล้างเสร็จแล้วออกมาชนเข้าเต็มรัก  สองมือรีบช่วยประคองถาดผักผลไม้เอาไว้

     

    ดวงตาสีมรกตเบิกกว้างเมื่อมองเห็นชายหนุ่มผมเทาอยู่ตรงหน้า

     “เจ้า! มาทำอะไรตรงนี้”  หญิงสาวตกใจ รีบก้าวถอยหลังหนึ่งก้าว เมื่อพบว่าใบหน้าของตนเองนั้นอยู่ใกล้กับบุรุษผมเทามากเกินไปแล้ว   

     

    เจ้าชายแรร์เน็สนิ่งอึ้ง  มองซ้ายมองขวา  งงตัวเองว่า  มายืนอยู่ตรงหน้าห้องครัวได้อย่างไร?  มองอีกฝ่ายด้วยสีหน้าตกตะลึงเช่นกัน  ก่อนจะปล่อยมือจากแขนของแม่ครัวฝึกหัดจากการช่วยประคองไว้  รีบจับส้มที่กลิ้งมาติดอยู่ที่ท่อนแขนเจ้าชายวางลงในถาด 

     

    “เจ้ามายืนตรงนี้นานเท่าไหร่แล้ว”  เจ้าหญิงเฟรนลี่ภาวนาขอให้แค่เพิ่งเดินผ่านมา  คงยังไม่ทันได้ยินความไม่เอาไหนในการทำอาหารของเธอ

     

    คนตอบยังอึกอักอั้มอึ้งเงียบงันอยู่ ไม่ยอมตอบคำถามนั้น

     

    “หรือว่า เจ้าหิว?”  แม่ครัวฝึกหัดคิดว่า บุรุษหนุ่มตรงหน้าเธอไม่น่าจะมายืนจดจ้องหน้าครัวอย่างไม่มีความหมายแน่นอน

    “ข้าหิวน้ำ”  เจ้าชายแห่งเรียวตอบทื่อ ๆ รีบสีตีหน้าให้เรียบเฉยเป็นปกติ

    “เจ้าทำอาหารอะไร  ทำอันนี้เหรอ?”  ดวงตาสีสนิมเหล็กก้มลงมองผักสดและผลไม้ในถาดที่หญิงสาวตรงหน้าถือมาอย่างเอ็นดู

     

    แม่ครัวฝึกหัดเงยหน้ามองบุรุษตรงหน้าพลางยิ้มแหย ๆ

    “ถ้าข้าทำ รสชาดคงไม่ได้เรื่องแน่เลย”  พลางตอบเสียงอ่อย  แค่ล้างผักผลไม้ก็ยังเกือบไม่รอด

     

    “ไม่อร่อยก็ฝึกหัดได้  เดี๋ยวก็ดีขึ้นเอง”

     

    “คงอีกนานล่ะ! ว่าแต่เจ้า ทำอาหารเป็นมั้ย?”  แม่ครัวฝึกหัดตวัดสายตาขึ้นจ้องหน้าเจ้าชายผมเทาเขม็ง

     

    คนตรงหน้ามองหน้าคนถามอย่างงุนงง

    “นั่นหน้าที่สตรีไม่ใช่เหรอ” 

     

    แม่ครัวฝึกหัดทำหน้ายุ่ง  อะไรกัน! ให้เป็นหน้าที่ผู้หญิงอย่างเดียวเหรอ

    “ทำไม! จะทำไม่ได้ล่ะ  ผู้ชายทำอาหารเป็นข้าว่า ต้องน่ารักมากเลยนะ”  พลางทำหน้าอมยิ้ม เมื่อนึกถึงท่วงท่าคนหน้าเฉยทำอาหารคงตลกมากแน่ ๆ

     

    “เจ้าขำอะไร?”  เสียบเรียบนั้นแฝงความสงสัยเต็มพิกัด

    “เปล่า! เจ้าหิวน้ำใช่ไหม  ทานน้ำก่อนนะ”  เจ้าหญิงรีบชักสีหน้าขำ ๆ ให้ขรึมขึ้นเล็กน้อย ก่อนหลบสายตาอีกฝ่าย แล้วเดินเลี่ยงถือถาดผักผลไม้ไปวางที่โต๊ะอาหารกลางห้อง  เทน้ำเปล่าใส่แก้วใสทรงสูงยื่นส่งให้

     

    “เป็นหญิงก็ต้องทำอาหารให้เป็นสิ!”  เจ้าชายแรร์เน็สเดินตามไป  อยากรู้จริง ๆ คิดอะไร  ถึงได้ทำหน้าขำซะขนาดนั้น  เขาชะงักเล็กน้อย เมื่อมองเห็นบุรุษผมทองเดินตรงเข้ามาหาพร้อมกับเมแลนด์

     

    แม่ครัวฝึกหัดจ้องหน้าชายหนุ่มอย่างเคือง ๆ

    “ก็คนมันทำไม่เป็นนี่นา”

     

    “ไม่เป็นก็ฝึกสิ”

     

    อีกฝ่ายยิ่งขมวดคิ้วย่นยู่ยี่ จะต้องให้ทำให้เป็นท่าเดียวเลย

    “ไม่พูดด้วยแล้ว”  คนหน้าตูมเดินหนีออกไปนอกบ้าน  หันไปเจอองครักษ์คู่ใจกำลังเดินมาพอดี

    “เจ้าออกไปข้างนอกกับข้าหน่อยได้รึเปล่า?”

     

    บุรุษผมทองมองเห็นเจ้าชายแรร์เน็สยืนอยู่ไม่ไกล  แอบอมยิ้ม  เจ้าหญิงเฟรนลี่คงจะเบื่อการทำอาหารในครัวแน่ ๆ คงอยากจะหนีเที่ยวอีกตามเคย  แล้วเดินไปหยุดอยู่เบื้องหน้าเจ้าชายแห่งเรียว

    “ข้ากับเมแลนด์จะไปเดินตรวจดูทางโน้น  ฝากท่านช่วยดูแลน้องข้าชั่วคราว!  ย้ำว่า ชั่วคราวเท่านั้น! อย่าให้น้องข้าเถลไถลเที่ยวเล่นไปไกลจนลืมเวลาทานอาหารเย็น ควรกลับมาก่อนตะวันตกดิน  หวังว่าท่านคงเข้าใจ”  บุรุษผมทองพูดเสียงจริงจัง  พลางกระตุกมืออดีตนายทหารเรียวข้างตัวเบา ๆ ตั้งแต่เด็กเขาต้องคอยตามหาเจ้าหญิงที่ชอบเที่ยวเล่นซุกซนได้ทุกวันจนเหนื่อย  ตอนนี้มีคนจะมารับหน้าที่นี้ซะที

     

    “ได้เลย!” เมแลนด์พยักหน้าอมยิ้มเล็กน้อยอย่างรู้กัน

     

    “บีวาร์ นี่! เจ้า! พูดแบบนี้ได้ไง”  เจ้าหญิงขมวดคิ้วยุ่งที่ถูกยัดเยียดข้อหาชอบเที่ยวเล่นเถลไถลให้เฉยเลย

     

    “ข้าขอเตือนท่าน  ต้องพาเฟรนลี่กลับมาให้ตรงเวลานะ”  พูดพลางยกนิ้วชี้หน้าเจ้าชายแรร์เน็สด้วยสีหน้าจริงจัง  ก่อนจะหันหลังให้เดินไปอีกทาง สีหน้าขึงขังค่อยเปลี่ยนเป็นรอยยิ้ม แล้วหันมายิ้มให้กับอดีตนายทหารเรียวที่เดินอยู่ข้าง ๆ

    เจ้าชายผมเทามองบีวาร์ด้วยความงุนงง  เขาเป็นคู่หมั้นไม่ใช่เหรอ  ทำไมไม่คอยดูแลเจ้าหญิงเฟรนลี่เอาซะเลย  มีการมาฝากไว้กับเขาอีก  เป็นคู่หมั้นภาษาอะไร!

     

    เจ้าหญิงเฟรนลี่รีบเดินจ้ำอ้าวหนีคนที่ถูกฝากฝังให้ดูแล    สายตามองไปรอบ ๆ  ค่ายโจรกบฏริกเกอร์  มองเห็นเด็ก ๆ  กำลังหยอกล้อเล่นกันอยู่สี่ห้าคนตรงลานกว้าง  มองเห็นผู้หญิงกำลังดูแลทหารที่บาดเจ็บ  บางคนกำลังเลี้ยงลูกตัวน้อยในอ้อมแขน  บางคนกำลังเย็บผ้า  บางคนกำลังเก็บผักผลไม้ตามแปลงต่าง ๆ  เป็นค่ายโจรที่มีครอบครัว มีลูกเด็กเล็กแดง  ไม่ต่างจากครอบครัวทั่วไปเลย  ทุกที่ที่เดินผ่านจะเจอแต่คนขอบคุณเธอที่มาช่วยชุบชีวิตพวกเขาให้รอดตาย  เขาตั้งใจจะเลิกเป็นโจรจะอยู่ช่วยเหลือซีนิธไม่ไปไหน  ทุกถ้อยคำที่ได้ยินทำให้คนฟังยิ้มไม่หุบ  และมีความสุข

     

    บนประตูไม้ มีป้ายเขียนไว้ว่า  กระท่อมยา  มองผ่านบานประตูที่ยังเปิดอ้าอยู่  พบบุตรชายหัวหน้าโจรใหญ่กำลังสาละวันอยู่กับการปรุงยา 

     

    “ซีนิธ!  ทำอะไรเหรอ ข้าเข้าไปได้มั้ย?”  ดวงตาสีมรกตจ้องมองภายในห้องนั้นอย่างสนใจ บนโต๊ะไม้ตัวใหญ่ มีทั้งถ้วยชาม  ครกตำ  หม้อดิน เครื่องบด  สมุนไพรตากแห้งเป็นถาด ๆ ขวดอะไรต่อมิอะไรวางเรียงรายเต็มไปหมดเลย  เหมือนจะเป็นอุปกรณ์ปรุงยา 

     

    “ได้สิ!  ข้ากำลังทดลองยาสมานแผลตัวใหม่ พอผสมใบของต้นเมิสซ์  แล้วนำไปทาให้คนเจ็บ  มันหายเร็วมากเลย”  รอยยิ้มแต้มอยู่บนใบหน้าของหมอหนุ่ม  ดูมีความสุขเหลือเกิน

     

    “จริงเหรอ!”  เจ้าหญิงแห่งเบเนดิคทำตาโต  พลางก้าวเท้าเข้ามาในห้อง  กลิ่นสมุนไพรอ่อน ๆ ลอยตลบอบอวนอยู่ในห้องนั้น

     

    เจ้าชายแรร์เน็สเดินตามไปเงียบ ๆ  กวาดสายตาไปรอบห้อง ตามผนังเต็มไปด้วยชั้นวางขวดยาขนาดต่าง ๆ เต็มไปหมด  นอกจากนี้ยังมีชั้นหนังสือตำรายาเรียงเป็นตับเลย

     

    “ข้าให้เจ้าตลับหนึ่ง”  มือข้างหนึ่งยื่นตลับยามาให้หญิงสาว

    “เจ้าเก็บไว้ให้คนเจ็บป่วยเถอะ”  เจ้าหญิงคิดว่า อยู่กับซีนิธคงจะมีประโยชน์มากกว่า

     

    “เจ้าชอบช่วยเหลือคนอยู่แล้วนี่  อยู่กับเจ้าต้องได้ประโยชน์เช่นกัน” 

     

    หญิงสาวจึงยิ้มยื่นมือไปรับตลับยามาเก็บไว้

    “เจ้านี่ร้อนวิชาจริง ๆ เลย  ได้มาปุ๊บก็ทดลองยาทันที แบบนี้ต้นเมิสซ์ของเจ้าไม่เกลี้ยงแล้วเหรอ”

     

    “ตอนนี้เหรอ  โกร๋นไปหมดแล้ว”  หมอหนุ่มแห่งค่ายริกเกอร์หัวเราะร่วน

    “แต่ทุกครั้งที่ช่วยคนเจ็บ  ต้นเมิสซ์จะงอกใบใหม่ทันทีเลย  ขอบคุณเจ้ามากนะ ที่นำต้นเมิสซ์มาให้”  หมอหนุ่มละสายตาจากขวดยาในมือมาสบตากับเจ้าหญิงด้วยความขอบคุณ

     

    “อืม...งั้นข้าไม่รบกวนนะ ข้าอยากไปดูทุ่งดอกไม้ที่พ่อของเจ้าปลูกไว้ให้แม่ของเจ้าหน่อยได้รึเปล่า”  เจ้าหญิงเฟรนลี่เหมือนจะเคยเห็น จึงอยากจะไปดูอีก

     

    “เดินเลยไปทางภูเขานิดเดียวก็ถึงแล้ว”  หมอหนุ่มชี้มือไปทางด้านหลังกระท่อมยา

     

    “งั้นข้าไปก่อนนะ”  เจ้าหญิงยิ้มให้ก่อนเดินออกจากกระท่อมยาไปพร้อมกับเจ้าชายแรร์เน็ส

     

    หมอหนุ่มมองตามไป พลางถอนหายใจช้า ๆ อดรู้สึกอิจฉาไม่ได้  คู่นี้ติดกันยังกะแตงเมไปไหนไปด้วยกันตลอดเลย  เขาคงไม่มีหวังแล้วจริง ๆ ก่อนหันมาก้มหน้าก้มตาปรุงยาต่อไป

     

    “ว้าววว!! สวยจังเลย.............”  เจ้าหญิงตะโกนเสียงดัง  เมื่อมองเห็นทุ่งดอกไม้สีเหลืองอร่ามสุดลูกหูลูกตา  แดดยามเย็นทำให้ดอกไม้กลายเป็นสีทองน่ามองยิ่งนัก  ลมพัดทุ่งดอกไม้ไหวเอนตามแรงลมไปพร้อม ๆ กัน  ใบไม้ปริดปลิวออกจากกิ่งพริ้วไปตามสายลมราวม่านใบไม้  งดงามเหมือนเมืองในเทพนิยาย

     

    เจ้าชายแห่งเรียวจับแขนเจ้าหญิงแสนซนเอาไว้  เมื่อเห็นเธอทำท่าจะออกวิ่งไปกลางทุ่งดอกไม้สีทอง

    “อย่าไปไกลกว่านี้เลย”

     

    เจ้าหญิงอดทำหน้างอ  ขว้างค้อนสายตาใส่เจ้าชายไม่ได้ 

    “ทำไมล่ะ!

     

    “ไปไกลแล้วจะกลับไปทานข้าวทันเหรอ  ต้องให้คนอื่นเขารอ เขาเป็นห่วงมันจะดีมั้ย?”  เสียงเรียบของเจ้าชายแรร์เน็สทำให้อีกฝ่ายนิ่งอึ้งจนด้วยเหตุผลจะดื้อดึง

    “มีหวังบีวาร์คงเอาเรื่องข้าแน่!

     

    “ตกลงตามนี้นะ?”  ดวงตาสีสนิมเหล็กสบตากับเจ้าหญิงแสนซน

    คนถูกถามเอียงคอทำท่าคิดเล็กน้อยอย่างไม่ให้เสียฟอร์ม ก่อนจนใจพยักหน้ารับแต่โดยดี

     

    “ว่าแต่ดาบของเจ้าหายไปไหนแล้ว  ข้าไม่เห็นเจ้าถือดาบเลย”

     

    เจ้าชายหิมะหงายฝ่ามือในอากาศ  ดาบสีเงินจึงปรากฏบนฝ่ามือของเจ้าชาย  แต่พอลดฝ่ามือทิ้งลงข้างตัว ดาบในมือก็หายวับไปด้วยเช่นกัน

     

    “ข้าอยากจะฝึกดาบอีกได้รึเปล่า?”

     

    “ฝึกไปเจ้าจะกล้าใช้ดาบฆ่าใครได้?”  บุรุษผมเทาสงสัย  มันจะเสียแรงสอน  เสียเวลาเปล่าซะละมั้ง

    “ดาบมีไว้ปกป้องต่างหาก  ไม่ได้มีไว้ ฆ่า อย่างเดียวซะหน่อย”  เจ้าหญิงไม่เห็นด้วย

    คำพูดของเจ้าหญิงทำให้ต้องหวนนึกถึงคำสอนของครูฝึกดาบให้เจ้าชาย  ที่ลืมเลือนมานานแล้ว  การปกป้องมันยากกว่าการ “ฆ่า” อย่างมาก

     

    “นะ ข้าจะได้ปกป้องตัวเองได้  ไม่ต้องให้คนอื่นดูแลตลอดเวลา”

     

    “เจ้าจะไหวเหรอ  ครั้งก่อนยังเป็นลมเป็นแล้งไป”  เจ้าชายอดประชดไม่ได้ ที่ครั้งก่อนเจ้าหญิงแกล้งเป็นลมเฉยเลย สีหน้าเรียบ ๆ นั้นดูเข้มขึ้นทันที

    “ก็ครั้งก่อนเจ้าก็แกล้งข้าเหมือนกันละน่า...ถือว่าเจ๊ากันนะ  ข้าจะตั้งใจเรียนจริง ๆ  สอนเถอะ”  เจ้าหญิงส่งเสียงอ้อนวอน

     

    “เอางี้ละกัน  ข้าจะสอนวิธีป้องกันตัวง่าย ๆ ให้กับเจ้า”

     

    เจ้าหญิงแสนซนรีบพยักหน้าหงึก ๆ ด้วยความดีใจ  ก่อนจะโค้งคำนับอาจารย์

    “เอาล่ะ ท่าแรก ถ้าเจ้าถูกจับข้อมือ มาจับข้อมือข้าไว้สิ”  เจ้าชายยื่นมือมาข้างหน้าหญิงสาว

     

    ดวงตาสีมรกตมองมือใหญ่โตของบุรุษผมเทาที่ยื่นมาข้างหน้า แล้วมองหน้าครูฝึกที่มองตรงมา  เคยเผลอไปจับแขนเขาออกจะบ่อย  แต่ให้ตั้งใจจับแบบนี้ โดยที่มีสายตาคู่นั้นคอยจ้องมองทำไม? หัวใจต้องเต้นแรงขนาดนี้เนี่ย...?  เจ้าหญิงหายใจเข้าเบา ๆ ก่อนจะค่อย ๆ ยื่นมือไปจับข้อมือของชายหนุ่มไว้

     

    “เมื่อเราถูกจับข้อมือ  วิธีการคือ เจ้าจะต้องก้าวเท้าเข้าหาคู่ต่อสู้ พร้อมกับสะบัดข้อมือข้างที่ถูกจับลง เผื่อผ่อนแรงต้านของฝ่ายตรงข้าม แล้วดึงแขนขึ้นทันที  สามารถดึงได้สามแบบด้วยกัน  คือ ดึงขึ้นตรง ๆ  หรือดึงไปด้านข้าง  หรือพลิกข้อมือขึ้นแล้วหมุนทวนเข็มนาฬิกา  มืออีกข้างให้ผลักไปที่คางของฝ่ายตรงข้ามเขาจะหงายหลังทันที”  ครูฝึกจำเป็นค่อย ๆ สาธิตวิธีการอย่างช้า ๆ  และทำให้ดูหลายครั้ง 

    “ที่สำคัญต้องมีสติ  เร็ว แม่นยำ อย่าให้อีกฝ่ายตั้งตัวได้ ?” 

     

    เจ้าหญิงลองฝึกตามอย่างรู้สึกสนุก  มันไม่ได้ยากอย่างที่คิดเลย

     

    “เอาใหม่นะ  แต่ถ้าเราถูกจับด้วยมือตรงข้ามของอีกฝ่าย  ให้เราแบมือเหมือนเดิม คือก้าวเท้าเข้าไปหา แล้วหมุนมือทวนเข็มนาฬิกา ข้อมือฝ่ายตรงข้ามจะถูกบิดข้อมือแบบนี้”  เจ้าชายทำอย่างช้า ๆ แล้วให้เจ้าหญิงลองฝึกทำดู และเพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อย ๆ

     

    “แล้วถ้าเราถูกล็อคคอล่ะ จะทำยังไง” เจ้าหญิงเกิดคำถาม

     

    “เจ้าเข้ามาล็อคคอข้าไว้”  เจ้าชายพยักหน้า แล้วหันหลังให้

     

    หญิงสาวเดินมาหยุดอยู่ด้านหลังของครูฝึกหนุ่ม เงยหน้ามองร่างสูงตรงหน้า สงสัยจะต้องกระโดดกอดคอแล้วมั้ง  ตัวสูงขนาดนี้  แต่พอนึกถึงว่าจะต้องเข้าไปล็อคคอเขา  หน้าก็ร้อนผ่าวขึ้นมาทันทีเลย  หัวใจเต้นแรงอีกแล้ว

     

    เจ้าชายแห่งเรียวยืนนิ่ง  แต่หัวใจไม่นิ่ง  จนรู้สึกได้ว่ากำลังเต้นผิดปกติ  พยายามทำใจให้สงบไม่หวั่นไหว เมื่อกำลังจะถูกกอด เอ้ย! ไม่ใช่!  ถูกล็อคคอ

    “เจ้าพร้อมรึยัง ยืนทำอะไรอยู่”  เจ้าชายรู้สึกว่า เธอเงียบนานเกินไปแล้ว

     

    คนถูกถามสะดุ้ง!!

    “พะพร้อม! เจ้าก้มตัวลงหน่อยสิ แบบนี้จะล็อคคอได้ยังไงเล่า”

     

    เจ้าชายผมเทาจึงยอมย่อตัวลงเล็กน้อย พลางอมยิ้มเมื่อได้แกล้งคน 

     

    ลูกศิษย์จำเป็นค่อย ๆ  ยื่นมือไปล็อคคอครูฝึกหนุ่มอย่างระมัดระวัง

     

    “เจ้าต้องใช้มือข้างหนึ่งจับที่เหนือศอกของฝ่ายตรงข้ามแบบนี้  อีกมือจับที่หัวไหล่ผู้ร้ายให้มั่น แล้วก้มลงบิดตัว ทุ่มอีกฝ่ายลงกับพื้น”  เจ้าชายหิมะพยายามสอนอย่างช้า ๆ แล้วเหวี่ยงคนตัวเล็กลงกับพื้นอย่างเบามือ พร้อมกับเอาเข่ากดสีข้างของเธอไว้ 

     

    ดวงตาสีสนิมเหล็กมองหน้านักเรียนที่ลงไปนอนอยู่กับพื้นทำตาปริบ ๆ อย่างอึ้ง  เธอนึกไม่ถึงว่า เขาจะกล้าทุ่มเธอลงพื้นจริง ๆ แม้จะออมมืออยู่ก็ตาม

     

    เจ้าหญิงรีบขยับตัวลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว ไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายจ้องมองนานนัก

     

     “พร้อมนะ  ข้าจะเข้าไปล็อคคอเจ้า”  เสียงครูฝึกบอกให้ลูกศิษย์เตรียมตัวรับสถานการณ์

     

    เจ้าหญิงเฟรนลี่พยายามตั้งสติ เมื่อถูกเจ้าชายแรร์เน็สเข้ามาล็อคคอทางด้านหลัง  รีบทำตามที่ครูฝึกสอน เหวี่ยงร่างสูงลงกับพื้นได้สำเร็จ

     

    เจ้าชายแห่งเรียวเก็บกิ่งไม้ขนาดสั้นประมาณหนึ่งคืบขึ้นมา  ก่อนลุกขึ้นยืน 

    “สมมตติว่าไม้นี้คือมีด”  ก่อนส่งไม้ให้อีกฝ่ายถือไว้  แล้วพยักหน้าให้เธอเข้ามาล็อคคออีกครั้ง

    “ถ้าอีกฝ่ายมีอาวุธ  เจ้าจะต้องจับมือที่จับมีดของอีกฝ่ายดึงออกให้ห่างจากคอ  แล้วกดไว้กับตัวแบบนี้ จะทำให้คนร้ายขยับมีดไม่ได้”  มืออุ่นของเจ้าชายจับมือของเจ้าหญิงที่ถือไม้จี้คอเขาอยู่  วางมือบนหลังมือของเธอกดมือนั้นเข้ากับอกตนเอง

     

     “แล้วก้มตัวหมุนตัวออกไปใต้แขนคนร้ายแบบนี้  มือของเขาจะบิด  ให้กดมือนั้นเข้ากับหลังของคนร้ายทันที  แล้วแย่งมีดออกมาได้สบาย ๆเลย  หรือว่าจะหมุนตัวออกด้านนอก  ก็จะทำให้มือของเขาบิดเช่นเดียวกัน  ถ้าบิดแรงแขนของเขาก็อาจจะหักได้”

     

    นักเรียนฝึกหัดแอ่นตัวตาม เมื่อถูกเจ้าชายบิดแขนขณะหมุนตัวออกไป

    “โอะ ๆ โอ๊ย...” 

    “แต่ถ้า ถูกอาวุธจี้ทางด้านหลัง”  เจ้าชายพยักหน้าให้นักเรียนฝึกหัดเอาไม้จี้ด้านหลังของเขา 

     

    “ขั้นแรกเลยยกมือขึ้นระดับอกแบมือออก แสดงให้เห็นว่า ไม่สู้  ยอมแล้ว  ก่อนจะก้มหมุนตัวไปด้านหลัง  แขนจะปัดหลังมือที่ถือมีดเข้ามาถูกล็อคที่ศอก  มืออีกข้างตามมาตั้งฉากไว้ แขนของคนร้ายจะถูกล็อคจนขยับไม่ได้  พร้อมกับย่อตัวลงนั่งแล้วปลดมีดออกแบบนี้”

    ครูฝึกให้ลูกศิษย์  ค่อย ๆ ฝึกตามอย่างช้า ๆ  จนเข้าใจ และใช้งานได้คล่องแคล่ว  ก่อนจะสอนเทคนิคง่าย ๆ อย่างอื่นให้อีกสองสามท่าที่อาจจำเป็นต้องใช้ 

     

    บุรุษผมเทามองท้องฟ้า  แสงสุดท้ายกำลังจะลับเหลี่ยมขุนเขาแล้ว ประสาทหูเหมือนได้ยินเสียงอะไรบางอย่างเคลื่อนไหว เมื่อมองตามไปเห็นเงาตะคุ่มของกลุ่มคน  กวาดสายตาไปรอบ ๆ  มีจำนวนไม่น้อยเลย  รู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย  รีบคว้ามือเจ้าหญิงเฟรนลี่วิ่งให้เร็วที่สุด  แต่ไม่สามารถวิ่งด้วยความเร็วสูงสุดได้ เพราะเธอคงจะวิ่งตามไม่ทันแน่นอน 

     

    นักรบชุดดำส่งสัญญาณให้แต่ละฝ่ายทำตามแผน  ต้อนเหยื่อให้เข้าสู่วงล้อมของการจับกุม

     

    เจ้าชายแรร์เน็สหยุดวิ่งเมื่อมองเห็นว่า กำลังตกอยู่ในวงล้อมของศัตรู  หงายฝ่ามือในอากาศ  ดาบสีเงินปรากฏขึ้นบนฝ่ามือนั้นทันที  แล้วพุ่งออกไปตวัดดาบในมือของฝ่ายตรงข้ามหลุดกระเด็นไปอย่างรวดเร็ว  ก่อนจะยกดาบขึ้นมารับคมดาบที่ฟันมาทางด้านข้าง  มืออีกข้างรีบดึงหญิงสาวหลบมาอีกด้านหนึ่ง  พร้อมกับวาดดาบออกไปกันหมาหมู่ที่อยากจะแย่งตัวเธอไป 

     

    ดาบคมแหวกอากาศมาทางด้านหลังของบุรุษผมเทาแล้วแทงเข้ากลางแผ่นหลังนั้นอย่างรวดเร็ว  อีกฝ่ายพยายามกดดาบกระแทกเข้าไปอย่างแรง  แต่ทว่าไม่อาจแทงทะลุผ่านเกราะน้ำแข็งเข้าไปได้  เกร็ดน้ำแข็งวิ่งจากปลายดาบมาที่มือของผู้ประสงค์ร้าย  ความเย็นจัดทำให้อีกฝ่ายต้องปล่อยดาบทิ้งลงบนพื้นดิน

     

    อีกคนบุกเข้ามาฟันท่อนแขนของเจ้าชายที่จับแขนเจ้าหญิงเฟรนลี่อยู่อย่างแรงหวังให้ท่อนแขนนั้นขาดออกจากกัน   เจ้าชายผมเทารีบดึงเจ้าหญิงหมุนตัวหลบไปได้ทันท่วงที  พลิกสันดาบขึ้นกระแทกเข้าที่ท้องของผู้ที่ดาหน้ากันเข้ามา

     

    มือข้างหนึ่งของเจ้าหญิงเฟรนลี่ถูกมือของวายร้ายดึงไป  เธอหันมามองอย่างตกใจแต่พยายามตั้งสติ  แล้วก้าวเท้าตามไปพร้อมกับสะบัดข้อมือลงแล้วหมุนข้อมือขึ้นทวนเข็มนาฬิกาทำให้ข้อมือฝ่ายตรงข้ามบิดจนต้องปล่อยมือไปเอง  ดวงตาสีเขียวมรกตเบิกมองอย่างตกตะลึงไม่นึกว่าตัวเองจะทำได้และดีขนาดนี้  แล้วหันไปยิ้มให้คนสอนอย่างดีใจ

     

    เจ้าชายหิมะหันมามองลูกศิษย์อย่างไม่เชื่อสายตา สิ่งที่สอนเธอไปได้ใช้จริงแล้ว

    “ดีมาก” 

     

    รอยยิ้มบนใบหน้าเจ้าหญิงเฟรนลี่ค่อย ๆ จางหายไป  พร้อมกับร่างที่ทิ้งตัวลงหมดสติ

    “เฟรนลี่!!” 

    แขนข้างหนึ่งของเจ้าชายแรร์เน็สรีบประคองร่างคนหมดสติไว้อย่างรวดเร็ว  ดวงตาสีสนิมเหล็กมองเห็นลูกดอกปักอยู่ที่หัวไหล่ของเจ้าหญิง  พลังเย็นในร่างของเจ้าชายหิมะ วิ่งพลุ่งพล่านตามอารมณ์โกรธที่ปะทุขึ้นมาทันที

     

     ======================  


    สวัสดีค่ะ  เอาคลิปวิชาการป้องกันตัวมาฝากด้วย  ดูแล้วไม่ยากเลย

    https://www.youtube.com/watch?v=HnWvoeqMxC4&index=1&list=PLWxg7KMK9Z7dMGGkEYjhdVAlXYC_6db1S&t=1602s


    https://www.youtube.com/watch?v=70o1T8V7AiM&t=4s




     

     

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×