คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : มาทำแผลสิ!
ตอนที่4 มาทำแผลสิ!
"เราจะทำ ต้มยำเห็ดฟาง ต้องไปเก็บเห็ดก่อน" เจ้าของสวนบ้านไร่ทะเลฝันพาเขาเดินไปยังแปลงเพาะเห็ดฟาง ซึ่งมองเห็นเป็นแปลงสีเหลี่ยมผืนผ้ากว้างราวหนึ่งเมตร แต่ละแปลงจะคลุมด้วยฟางจนมิด แล้วคลุมด้วยพลาสติกใสอีกทีหนึ่ง
หนุ่มผมยาวมองเห็ดฟางด้วยความตื่นเต้น อดเอามือถือออกมาถ่ายรูปไม่ได้ ดอกเห็ดฟางลูกกลมมนสีขาวอมเทาโผล่พ้นดินสีดำที่มีความอุ่นและชื้น
"อยากกินเท่าไหร่ก็เก็บเอาเลย" ปริมาส่งถังขนาดเล็กให้เขาไว้ใส่เห็ดฟาง
"ถ่ายรูปให้หน่อยสิ ดอกใหญ่มาก" เขาส่งมือถือให้เธออย่างตื่นเต้น ก่อนหยิบเห็ดฟางดอกงามมาวางชิดแก้มขาวใสของตัวเอง ริมฝีปากบางนั้นโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มละมุนที่มุมปาก
ปริมารับมือถือมาถ่ายรูปให้ แอบค่อนแคะเขาอยู่ในใจ ผู้ชายอะไรยิ้มสวยมาก ยิ้มหวานราวกับผู้หญิงขนาดนี้
"นี่! ถ้าฉันมารับจ้างเก็บเห็ด เธอจะรับไหม" ชายหนุ่มค่อย ๆ ดึงเห็ดฟางออกมาพลางสลัดดินที่ติดมาออก แล้วใส่ลงในถัง
"ไว้มาจริง ๆ ก่อนเถอะ" เธอตอบอย่างไม่เชื่อว่า หนุ่มมาดสำอางค์ดูเป็นศิลปินจ๋าอย่างเขาจะมารับจ้างเธอจริง ๆ
หนุ่มหน้ามนเดินตามหญิงสาวรอดซุ้มเตี้ย ๆ มองเห็นมะเขือเทศสุกสีแดงลูกใหญ่ห้อยระย้าเป็นพวงเต็มไปหมด มีทั้งพริกทั้งบวบ และมะระจีนที่เรื้อยเกาะเกี่ยวกันตามห้างร้านที่ทำจากเชือกในล่อนเป็นตาข่ายที่สูงระดับไหล่
ปริมาแอบอมยิ้มเมื่อเห็น หนุ่มมาดกวนก้มโค้งเก็บมะเขือเทศ เก็บพริก ท่าทางจะก้มจนปวดหลัง เพราะเขาตัวสูงมาก แขนขายาวเก้งก้างไปหมด เมื่อต้องอยู่ในที่แคบ ๆ แบบนี้ แม้แปลงผักจะมีอยู่หลายแปลง แต่เธอเจตนาแกล้งให้เขาต้องมาเข้าแปลงนี้โดยเฉพาะ
"พอยัง ปวดหลังจะแย่แล้ว" ชายหนุ่มเริ่มบ่นที่ต้องก้มตัวตลอดเวลา เพราะหลังคาซุ้มนั้นเตี้ยกว่าตัวเขาเล็กน้อย
"ไหนบอกจะมารับจ้างไม่ใช่เหรอ?"
"ถ้าเธอจ้างจริง ทำได้อยู่แล้ว....จะให้เก็บอะไรบอกมาเลยคร้าบ..." เขาพยายามยิ้มกลบเกลื่อนแม้จะเริ่มรู้สึกเหนื่อยและร้อน พลางยกมือขยับคอเสื้อยืดสีขาวไปมา เกิดมาไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อนเลย
"ต้องเก็บข่ากับตะไคร้เพิ่ม"
เจ้าของสวนพาเขาออกจาซุ้มมาไม่นานก็เจอแปลงปลูกตะไคร้ และข่า
"หักตะไคร้มาสี่ห้าอัน อย่าให้รากมันติดมาล่ะ"
ชายหนุ่มวางถังเก็บเห็ดและมะเขือเทศลงกับพื้นดิน ย่อตัวลงข้าง ๆ โคนของต้นตะไคร้กอใหญ่
"เอาต้นใหญ่ ๆ อวบ ๆ นะ"
อยู่ ๆ หนุ่มผมยาวสะดุ้งโหยง รีบกระโดดออกจากโคนต้นตะไคร้
"มด...." คนตัวสูงตะโกนลั่น รีบวิ่งออกไปยืนห่าง ๆ ก้มตัวปัดมดตามมือและขากางเกงออกอย่างเร็วที่สุด
หญิงสาวหัวเราะ ก่อนเดินเข้าไปหาแล้วหยิบน้ำมันเขียวจากกระเป๋ากางเกงส่งให้
"โชคดียังไม่ทันโดนกัด" เขามองหน้าเธอดูมีความสุขเสียจริง นี่มันจงใจแกล้งกันใช่มั้ย?
"โธ่เอ๊ย! ร้องซะดังเลย ปอดชะมัด" เธอยื่นหน้าไปยิ้มเยาะใส่เขา
ปฏิการชี้นิ้วมาที่หน้าผากของหญิงสาว แล้วชี้ไปยังผมของตัวเอง
"มดอยู่ที่ผมเธอ"
สิ้นคำพูดของเขา อีกฝ่ายรีบก้มศรีษะลง ยกมือปัดผมตัวเองเป็นพัลวัล
หนุ่มหน้าฉีกยิ้มกว้าง
"ซะเมื่อไหร่? ล้อเล่น....น้า...." เขาเอาคืนบ้าง พลางโบกมือล้ออีกฝ่าย
ปริมาชักสีหน้าตึงขึ้นมาทันทีเมื่อถูกเขาแกล้งอำบ้าง
"ทำงานต่อได้แล้ว หิ้วถังมาด้วย" คนเสียหน้าหันไปสั่งเสียงห้วน แล้วเดินนำไป
หนุ่มหน้ามนรีบหยิบถังแล้วเดินตามไป ริมฝีปากบางนั้นเหยียดยิ้มน้อย ๆ ที่เอาคืนเธอได้
ทั้งคู่เดินมาถึงแปลงต้นข่าที่มีความสูงถึงหน้าอก ใบมีลักษณะแบนและยาว ดินที่โคนต้นคลุกด้วยแกลบสีดำเพื่อให้ดินร่วนและขุดง่าย
ชายหนุ่มเลิกคิ้วด้วยความงง เมื่อเจ้าของสวนส่งเสียมมาให้ เกิดมาเคยจับจอบจับเสียมที่ไหนเล่า!
"ขุดสิคะ รอไร" เมื่อเห็นเพื่อนพี่ชายยังยืนอึ้งอยู่
คนถูกสั่งอ้าปากค้างยังงงไม่หาย กระพริบตาปริบ ๆ ก่อนจะก้มหน้าก้มตา ขุดก็ขุด นี่มันใช้แรงงานชัด ๆ
"กดที่โคนต้นแล้วงัดขึ้นมา"
หนุ่มผมยาวทำตามคำแนะนำของเจ้าของสวน แต่พองัดดินขึ้นมา กลับไม่มีหัวต้นข่าติดออกมาด้วย ได้แต่ก้านและใบ
หญิงสาวหัวเราะ เห็นท่าขุดของเขาแล้วอดขำไม่ได้ สะใจเธอจริง ๆ หนอย...อยากกินต้มยำใช่มั้ย?
"ออกแรงหน่อย ขุดให้ลึกอีก"
ในที่สุดเขาก็ขุดเอาหัวข่าหัวใหญ่ขึ้นมาได้สำเร็จ
“เอาอีกหัวหนึ่ง”
หา!! คนขุดเงยหน้าขึ้นมามองคนสั่ง
“เร็ว ๆ เข้า ขุดอีกหัวหนึ่ง” เธอเน้นคำ
หืม....!!! ให้มันได้อย่างงี้สิ! ว่าแล้วคนขุดก็ก้มหน้าก้มตาขุดต่ออย่างขมักเขม้น โดยแกล้งขุดให้ดินนั้นกระเด็นไปกลบเท้าคนที่ยืนออกคำสั่งอย่างเดียว
“นี่! ขุดดี ๆ สิ!” หญิงสาวรีบก้าวถอยหลัง สะบัดดินออกจากหลังเท้าไปมา
ในที่สุดหัวข่าก็ถูกดึงขึ้นมจากดินจนได้ เขาเคาะดินที่ติดมาออกก่อนนำใส่ถัง สายตาเหลือบไปเห็นต้นชะอมที่สูงเท่ากับตัวเขา
“อยากกินชะอมชุบแป้งทอด เก็บชะอมด้วยนะ” ลูกมือหันไปบอกเจ้าของสวน
“ก็เก็บสิ! เดี๋ยวทำให้!” หญิงสาวมองตามหนุ่มมาดสำอางค์ไปเก็บชะอม เดี๋ยวก็รู้!
“เอาแต่ยอดนะ เดี่ยวมันจะแตกกิ่งใหม่อีก นายรู้ไหม ปลูกครั้งเดียวเก็บได้ถึง 30ปี เลยนะ”
หนุ่มผมยาวหันมาทำหน้าทึ่งด้วยความประหลาดใจ ไม่นึกว่าต้นชะอมแค่นี้จะมีอายุถึงสามสิบปีเชียว แบบนี้กินไม่ทันก็เก็บขายได้อีก เขาเอื้อมมือเข้าไปเด็ดยอดชะอมออกมา กลิ่นชะอมคลุ้งไปในอากาศ แค่กิ่งแรกก็โดนหนามตำเข้าให้ แขนของเขาถูกหนามข่วนจนเลือดออกซิบ ๆ แต่แข็งใจเก็บต่อ ไหน ๆ ก็โดนแล้ว ต้องเก็บมากินให้สาแก่ใจ
“ระวัง! นะ มันมีหนาม” เธอแกล้งตะโกนเตือนเขา แอบอมยิ้ม คิดว่าอยากจะกินอะไรก็สั่งได้เหรอ? ให้มันรู้เสียบ้างว่ามันไม่ง่ายขนาดนั้น
“แล้วทำไมเพิ่งมาบอกเล่า!” ชายหนุ่มหันหน้ามามองหญิงสาวที่ไม่ยอมเตือนตั้งแต่แรก ใบหน้าของเธอกำลังอมยิ้มอยู่รีบหุบทันที นี่มันจงใจแกล้งเขาสินะ ให้ตายสิ!
“โดนหนามเหรอ” เจ้าของสวนมองเขากดนิ้วตัวเองเข้าหากันเพื่อห้ามเลือด
"เป็นไรมั้ย?" เธอยื่นหน้าเข้าไปดูแขนของเขา
"เป็นสิ! ถามได้!" เขามองดูท่อนแขนของตัวเอง เกิดแผลถลอกหลายแผลเลย
"มา...ทายาก่อน" คนขี้แกล้งหยิบน้ำมันเขียวออกมาจากกระเป๋ากางเกง แล้วใส่ยาให้ตรงบาดแผล
"โอ๊ย!!! จะฆ่ากันหรือไง" เขาสะบัดแขนทันทีที่ยาโดนแผลที่หนังกำพร้าเปิดออกด้วยความแสบ
“ไม่ต้องทาแล้ว” คนเจ็บขยับแขนเดินหนี เจ็บจะแย่อยู่แล้วยังมาแกล้งอยู่ได้! คนใจร้าย! เขาแอบบ่นคนเดียว
**********************
ปรามมองกับข้าวตั้งเรียงรายอยู่บนโต๊ะอาหาร มีต้มมะระผักกาดดองของโปรดของเขาเลย ต้มยำ ชะอมชุปแป้งทอด ผัดผักบุ้ง ข้าวกล้องร้อน ๆ อยู่ในจานของแต่ละคนพร้อมรับประทานแล้ว
“กับข้าวน่าทานจัง” เขาเอ่ยชมน้องสาวที่นั่งอยู่ด้านซ้ายมือ แล้วหันไปมองเพื่อนซี้ที่นั่งอยู่ด้านขวามือ
ปริมามองหนุ่มผมยาวที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเธอ สายตาสะดุดอยู่ที่เสื้อยืดที่เขาสวมอยู่ เสื้อสีฟ้าสดใส มีรูปปลาโลมากำลังยิ้มอยู่ที่กลางเสื้อด้านหน้า เธอจำได้เสื้อตัวนี้เป็นของขวัญที่เธอซื้อให้พี่ชายนี่นา
“นายเอาเสื้อตัวนี้มาใส่ได้ยังไง!” เธอโวยวายเสียงดัง แล้วหันไปมองพี่ชาย
“พี่เป็นคนให้เขายืมใส่เอง” เขาลืมคิดไปว่าน้องสาวต้องไม่พอใจแน่ ๆ
“พี่ปราม!” ปริมาหน้างออย่างไม่พอใจที่พี่ชายเอาเสื้อที่เธอซื้อให้ไปให้นายกวนโอ๊ยใส่หน้าตาเฉย
“ขอโทษด้วยนะ ถ้าทำให้เธอไม่พอใจ ฉันถอดคืนให้เธอเดี๋ยวนี้เลยก็ได้นะ” ปฏิการไม่รู้ว่าจะทำให้เธอไม่พอใจขนาดนี้
“ไม่ต้อง! ข้าเป็นคนให้แกใส่เอง” ปรามหันไปบอกเพื่อนเสียงเข้ม
โทรศัพท์มือถือของปรามดังขึ้น เขากดรับสาย แล้วยื่นโทรศัพท์ให้น้องคนเล็ก เมื่อปลายสายบอกว่าต้องการพูดกับเธอ
“พ่ออยากคุยกับปริม”
หญิงสาวนิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วยื่นมือไปรับโทรศัพท์จากพี่ชาย ก่อนจะเลื่อนหน้าจอวางสาย แล้ววางโทรศัพท์คืนให้เขาตามเดิม เธอเคยบอกพี่ชายหลายครั้งแล้วว่าจะไม่รับโทรศัพท์จากพ่ออีก แต่พ่อของเธอก็ไม่เคยลืมยังคงโทรมาเพื่ออวยพรวันเกิดของลูกสาวคนนี้ แม้ว่าเธอจะไม่เคยยอมรับสายแม้แต่ครั้งเดียว
ปฏิการมองบรรยากาศที่ค่อนข้างตึงเครียดขึ้นมาทุกที รีบทำลายความเงียบงันนั้น
“ทานข้าวกันเถอะ ฉันหิวแล้ว”
สายตามองไปที่ถ้วยต้มยำชามใหญ่สีสันน่าทานมาก กลิ่นหอมของมะนาวโชยมาแตะปลายจมูก ไม่นึกว่าน้องสาวเพื่อนจะมีฝีมือทำอาหารขนาดนี้ ทันทีที่ตักข้าวพร้อมต้มยำเข้าปาก ใบหน้าของชายหนุ่มเหยเก เขาแทบสำลักเพราะมันเผ็ดมาก รสเผ็ดร้อนซีดขึ้นจมูก เกือบจะพ่นออกมาทางปากแล้ว แต่พยายามกลืนลงไปจนได้ รีบเอามือปิดปากไว้ เขาลุกออกจากโต๊ะอาหารไปไออย่างระคายคออยู่นานมาก
ปรามรีบลุกขึ้นไปช่วยลูบหลังให้เพื่อน
หนุ่มผมยาวกลับมานั่งที่เดิมรีบยกแก้วขึ้นน้ำดื่มอย่างรวดเร็ว แต่ยังไม่หายเผ็ด เขาห่อปากเป่าลมออกมาเพื่อคลายความเผ็ดร้อน เอามือพัดถี่ยิบ ริมฝีปากและใบหน้านั้นแดงไปจนถึงใบหูแล้ว
ริมฝีปากของหญิงสาวเหยียดยิ้มอย่างขำอาการของหนุ่มจอมกวน รีบหุบยิ้มเมื่อพี่ชายหันมามอง
“เผ็ดไปเหรอ...” เธอตีหน้าตายถาม แม้จะจงใจทำพริกหกใส่ลงไปก็ตาม
หนุ่มจอมกวนจ้องหน้าคนขี้แกล้งเขม็ง ใบหน้าเธอนั้นซ่อนรอยยิ้มไว้ไม่มิด นี่มันจงใจแกล้งกันชัด ๆ
ปรามมองหน้าเพื่อนซี้ที่มีอาการเผ็ดมาก รีบหันไปบอกน้องสาว
“ปริมไปหยิบกล้วยมา”
ปริมาจำใจลุกขึ้นเดินไปหยิบกล้วยที่ห้องครัวมาให้
“กล้วยแก้เผ็ดได้” ปรามบอกเพื่อนหนุ่ม
เพื่อนซี้มองหน้าเพื่อนด้วยสายตาของคำถาม ราวกับไม่อยากจะเชื่อ
“ลูกอมไม่มีเหรอ!” เขาต้องกินกล้วยอีกแล้วเหรอเนี่ย!
“ไม่มี กินกล้วยไปก่อน”
ปฏิการจำใจปอกกล้วยเข้าปาก รสหวานของกล้วยทำให้อาการเผ็ดหยุดลงทันทีราวกับปาฏิหารย์
“ลองกินดูบ้างมั้ยล่ะ” เมื่อควบคุมอาการเผ็ดได้แล้ว คนถูกแกล้งรีบลุกขึ้นตักต้มยำเอื้อมไปใส่จานข้าวของแม่ครัวตัวแสบ
ปริมารีบยกจานข้าวหนี
“ปรามลองกินดูดิ” จานข้าวของเธอนั้นอยู่ไกลเกินกว่าแขนของเขาจะเอื้อมถึง แต่จานของเพื่อนนั้นอยู่ใกล้กว่า
ปรามยกมือห้ามทันที
“เฮ้ย! ไม่เอา กินอย่างอื่นดิ ต้มมะระมั้ย?” ปรามอดแหย่เพื่อนไม่ได้ แม้จะรู้ดีว่า เพื่อนรักไม่ชอบอาหารที่มีรสขม
ปรามตักชะอมชุปแป้งทอดใส่จานเพื่อน
สายตาของหนุ่มหน้ามนมองชะอมชุบแป้งทอดในจานตัวเองอย่างสงสัย แม่ครัวตัวแสบจะใส่อะไรอีกหรือเปล่า? พลางพลิกชะอมทอดไปมา มองหน้าคนตักให้ตอนนี้กำลังงับชะอมชุบแป้งทอดอย่างเอร็ดอร่อย จึงกล้าเอาเข้าปาก รสชาติกรอบอร่อยกำลังดี แป้งไม่หนาเกินไป และไม่อมน้ำมัน แต่พอมองดูในจานชะอมเหลืออยู่อีกแค่ชิ้นเดียว อะไรกันเนี่ย!! แล้วรีบเอาซ่อมไปจิ้มชะอมชุปแป้งทอดชิ้นสุดท้าย แต่แม่ครัวตัวดีรีบเอาซ่อมมาจิ้มไว้เช่นกัน
“นี่! ของฉัน! ฉันเป็นคนทำนะ!” คนทำไม่ยอมออกแรงยื้อชะอมชุบแป้งทอดมาหาตนเอง
อีกฝ่ายก็ไม่ยอม “ฉันเป็นคนเก็บนะ ดูสิ! แผลเต็มแขนไปหมด”
ปรามมองทั้งคู่อย่างขำ ๆ
‘ไอ้สองคนนี้ยังไง! เจอหน้าทีไรมีเรื่องกันได้ตลอดเลย’
“ปริม ให้การไปเถอะน่า...”
หญิงสาวหันมามองหน้าพี่ชายที่เข้าข้างเพื่อนอีกแล้ว! ทำหน้างอเป็นจวักยอมปล่อยมือจากชะอมชุบแป้งทอดอย่างเสียไม่ได้
ปรามมองแขนเพื่อนมีแผลขีดข่วนอยู่หลายแผล และมีรอยปื้นแดงค่อนข้างใหญ่หนึ่งแผล
“ไปทำอะไรมา”
“ไปเก็บผักมา โดนหนามชะอมข่วนเอา น้องแกไม่ยอมบอกข้าเลย แล้วก็นี่แขนบังเอิญไปชนร้านต้นมะเขือเทศ” ปฏิการฟ้องเพื่อนซี้ให้ดูแผลเล็กแผลน้อยตามแขน
ปริมายิ้มเยาะเพื่อนหนุ่มของพี่ชายอย่างหมั่นไส้ แค่นี้ก็ต้องฟ้องด้วย แผลไม่ได้ใหญ่โตอะไรเลย รู้สึกรำคาญพาลกินข้าวไม่ลงแล้ว
“ปริมอิ่มแล้วเหรอ” ปรามมองเห็นน้องสาวรวบช้อนไว้กลางจานที่ไม่มีเหลือแม้แต่เม็ดเดียว
“ถ้าอิ่มแล้ว ไปเอากล่องทำแผลมาทำแผลให้การหน่อย เอาน้ำมันมะพร้าวมาด้วยนะ”
น้องสาวหันขวับ! มองหน้าพี่ชายตัวดีด้วยสายตาของคำถาม
“หะ!” ต้องเป็นคนทำแผลให้ไอ้หมอนี่ด้วยเหรอ!
ความคิดเห็น