ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รับคำท้าหัวใจยัยตัวแสบ

    ลำดับตอนที่ #3 : ค่าจ้างของเขา...ทำไมกลายเป็นแบบนี้!!

    • อัปเดตล่าสุด 17 มี.ค. 67


                    ตอนที่ 3 


    “ทำไม! ระยะทางไม่ใช่ใกล้ ๆ นะ จากนี่ไปถึงโน่นกี่กิโล  แล้วสินค้าของเธอน้ำหนักเท่าไหร่?” ปฏิการรีบสวนกลับทันควัน

                    “ก็ได้ ตามนั้น”  เธอยอมจำนนอย่างขอไปที

                    “ของอยู่ไหนล่ะ จะได้รีบไป  เดี๋ยวจะกลับมืด”

                    ปฏิการเดินตามน้องสาวเจ้าของบ้านออกไปจัดของ  น้ำหมักชีวภาพบรรจุอยู่ในขวดหนึ่งลิตรครึ่งวางอยู่บนชั้นยาวขนาดสี่ชั้นเต็ม โรงเรือนนั้นมุงหลังคาจากยกสูง  ด้านในมีแต่ถังพลาสติกขนาดสามสิบลิตรวางเรียงรายพรึ่บไปหมด

                    “มีลังใส่หรือเปล่า  ลังเบียร์ ลังแม่โขงน่าจะใส่ได้นะ”  หนุ่มผมยาวคาดคะเนขนาดของลังใส่สินค้า

                    “รู้ดีจริงนะ”  ปริมาอดค่อนแคะเขาไม่ได้

    คงจะกินประจำล่ะสิ!’

                    หนุ่มผมยาวถอยรถมอร์เตอร์ไซค์มาจอดใกล้ ๆ มองเห็นน้องสาวเพื่อนกำลังจัดของใส่ลังกระดาษอยู่

                    “เดี๋ยวฉันช่วยยกเอง”  หนุ่มผมยาวรีบเข้าไปช่วยยกลังที่บรรจุน้ำหมักครบจำนวนแล้วมาไว้ที่เบาะซ้อนท้าย  แต่ทว่ายังยกไปไม่ถึงรถ เขาเดินสะดุดก้อนหิน ทำให้ขวดน้ำหมักในลังหล่นลงกระแทกพื้นแตกไปสามขวด

                    “ฉันหวังว่า นายคงจะไม่เทกระจาดระหว่างทางหรอกนะ”  เธอมองเพื่อนพี่ชายด้วยสายตาตำหนิ  และไม่เชื่อมั่นในตัวเขาเอาเสียเลย พ่อมาดดีทีเหลว  แล้วเดินไปหยิบขวดน้ำหมักมาเปลี่ยนให้

                    “ฉันจะชดใช้ให้ที่ทำแตกไปสามขวด”  ปฏิการจ้องหน้านายจ้างจำเป็น

                    “ไว้หักกับค่าจ้างละกันนะ”  หนุ่มผมยาวอมยิ้มน้อย ๆ

                    ปฏิการสตาร์ทรถ แล้วสวมหมวกันน็อค

                    “รีบทำกับข้าวล่ะ  เดี๋ยวจะรีบกลับมารับค่าจ้างนะจ๊ะ” เขาหันมาบอกก่อนขับรถออกไป

                    หญิงสาวทำจมูกย่นใส่อย่างหมั่นไส้!  ไอ้หมอนี่กล้าดียังไงมาสั่งเธอ!

     

                    *********************

     

                    ปริมาเดินไปปิดแก๊ส  มองต้มมะระผักกาดดองที่อยู่ในหม้อควันฉุยหอมฟุ้ง หยิบฝาหม้อมาปิด   พี่ชายของเธอชอบทานต้มมะระผักกาดดองที่สุด  แล้วหันมาหั่นส้มที่ล้างเรียบร้อยแล้ว  กลิ่นหอมของน้ำส้มคั้นลอยคลุ้งไปทั่ว  ทำให้บรรยากาศของห้องครัวสดชื่น  น้ำส้มถูกเทใส่เหยือกใสสี่เหลี่ยมทรงสูง  มีฝาปิดอย่างดี  ปริมานำเหยือกเข้าไปแช่ในตู้เย็น ถ้าพี่ชายของเธอได้ดื่มจะต้องชื่นใจหายเหนื่อยแน่นอน 

                    ปฏิการดับเครื่องยนต์  ถอดหมวกกันน็อคออกวางไว้บนรถมอร์เตอร์ไซค์  เหงื่อไหลจนปอยผมด้านหน้าเปียกโชก  ยกแขนเสื้อเช็ดเหงื่อที่หยดอยู่ที่ปลายคาง  ภารกิจส่งของให้ยัยตัวแสบเสร็จสิ้นลงแล้ว  เขารู้สึกเหนื่อยไม่น้อย  ทั้งไกลทั้งร้อน ไปกลับไม่ต่ำกว่าหกชั่วโมง ตอนนี้อยากจะทานน้ำอะไรเย็น ๆ ให้ชื่นใจ

                    โทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงของเขาดังขึ้น  เมื่อเห็นคนโทรเข้ามาบนหน้าจอเป็นใครกลับปล่อยให้เสียงโทรศัพท์ดังอยู่อย่างนั้น  ยังไม่ยอมรับสายพลางทำสีหน้าเบื่อหน่าย

                    “รับสิวะ!”  ปรามเดินมาเจอเพื่อนยืนมองโทรศัพท์ที่มีสายเรียกเข้าอยู่หน้าบ้าน 

                    นิ้วยาวเรียวเลื่อนหน้าจอเพื่อรับโทรศัพท์  เขากดเปิดลำโพง

                    “ปฏิการ! แกไปอยู่ไหน  ทำไมไม่กลับบ้าน!”  เสียงบิดาถามอย่างไม่พอใจ

                    หนุ่มผมยาวนิ่งมองโทรศัพท์ในมือ ภาพที่พ่อพูดจาหวานหูกับแฟนใหม่ช่างแตกต่างกับเวลาที่พูดกับเขาเหลือเกิน

                    “ได้ยินหรือเปล่า!  พ่อถามแกอยู่นะ”  ปลายสายพูดกระแทกเสียงหนักขึ้นกว่าเดิม  เมื่อลูกชายคนเดียวยังไม่ตอบ

                    “พ่อน่าจะดีใจที่ผมไม่อยู่เป็นก้างขวางคอพ่อนะ”

                    “ถ้าคืนนี้แกไม่กลับมา พ่อจะไม่โอนเงินเข้าบัญชีให้  ถ้าคิดว่าตัวเองปีกกล้าข้าแข็งก็ลองดู!”  ปลายสายวางหูไปทันทีอย่างหัวเสีย

                    “คืนนี้ แกควรจะกลับบ้านนะ พ่อเป็นห่วง...ถึงได้โทรมา...”  ปรามตบบ่าเพื่อนเบา ๆ

                    “หิวมั้ย ไปในครัวหาอะไรกินก่อน ให้ใจเย็น ๆ  ตามสบายเลยนะ  เดี๋ยวข้าเดินไปดูบัญชีที่ร้านอาหารก่อน  เดี๋ยวกลับมากินข้าวด้วยกัน” 

                    หนุ่มผมยาวถอนหายใจเฮือกใหญ่  เดินเข้ามาในบ้าน  ตรงไปที่ห้องครัวเพื่อหาน้ำดื่ม  มองเห็นปริมากำลังสาละวนจัดของในตู้เย็นอยู่  รอยยิ้มน้อย ๆ ปรากฏขึ้นที่มุมปาก  เขาค่อย ๆ เดินหย่องอย่างเบาที่สุดไปหยุดอยู่ด้านหลังน้องสาวเจ้าของบ้าน  อยากจะแกล้งแม่ครัวให้ตกใจเล่นนิดหน่อย  แต่ทว่ายังไม่ทันส่งเสียงให้เธอตกใจ  ร่างเล็กดันถอยหลังมาชนเข้าเสียก่อน  และสะดุดเท้าของเขาจนเซเสียหลัก

                    “ว้าย!”  เสียงปริมาโพล่งออกมาด้วยความตกใจ  ไม่นึกว่าจะมีใครมายืนอยู่ข้างหลังแบบนี้

                    หนุ่มผมยาวช่วยประคองร่างที่กำลังเซเสียหลักไว้ในอ้อมแขน

    ปริมากรีดร้องเสียงดังด้วยความตกใจเมื่อหันมามองหน้าของคนประคองตัวเธอเอาไว้เป็นไอ้หนุ่มขี้เมาคนนั้น  แล้วรีบผละออกจากอ้อมแขนของเขาอย่างด่วนจี๋ 

                    “นะ..นายเข้ามาทำไมเงียบ ๆ”  แม่ครัวรัวพูดด้วยความตกใจไม่หาย

                    “ต่อไป ห้ามเข้ามาเงียบ ๆ อีก  เข้าใจมั้ย!  หญิงสาวโวยวายเสียงดังลั่น  มองใบหน้าอมยิ้มน้อย ๆ ของหนุ่มผมยาว  ยิ่งไม่พอใจ  ยิ่งหงุดหงิดเพิ่มขึ้น  ไม่รู้จะขำอะไรนักหนาทำไมเขาถึงไม่กลับบ้านกลับช่องไปเสียทีนะ!

                    “เข้าใจมั้ย  ฉันถาม!

                    คนถูกถามก้มหัวลงรับอย่างเชื่องช้า ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มระรื่น ทำตาแบ๊ว ๆ

                    "เข้าใจ! ฟังภาษาคนออก  แต่จะทำตามหรือไม่ ก็...อีกเรื่องหนึ่ง..."  หนุ่มผมยาวเอียงคอ แล้วยักคิ้วให้อย่างกวนประสาท                 

                    ปริมาถอนหายใจอย่างกลุ้ม!! เกลียดรอยยิ้มกวนโอ๊ย! ของเขาเสียจริง  เดินเลี่ยงไปเก็บเปลือกส้มและล้างภาชนะต่อ

                    “นี่ขอน้ำกินหน่อย  ขับรถไปตั้งไกล ทั้งเหนื่อยทั้งร้อนมากรู้รึเปล่า?”  เพื่อนพี่ชายเริ่มบ่นบ้าง

                    “แก้วอยู่นั่น”  แม่ครัวชี้มือไปยังชั้นวางแก้วน้ำ  และมีเหยือกน้ำอยู่ใกล้ ๆ

                    “บริการตัวเองนะ  ยังไม่ว่าง!” 

                    หนุ่มผมยาวส่ายหัว หยิบแก้วแล้วเดินไปเปิดตู้เย็น  มองเห็นน้ำส้มคั้นในเหยือกสี่เหลี่ยมใสทรงสูง ยกเหยือกมาเทน้ำส้มใส่แก้วดื่มด้วยความกระหาย  รู้สึกสดชื่นหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง รสชาติหวานเปรี้ยวถูกใจมาก

                    ปริมาหันมามองด้วยความตกใจ เบิกตาโต เมื่อเห็นเหยือกน้ำส้มอยู่ในมือของหนุ่มจอมกวน

                    “นี่ใครอนุญาตให้นายกินน้ำส้ม

                    หนุ่มผมยาวเลิกคิ้ว  

                   “ต้องขออนุญาตด้วย?”  

                   เขาพ่นลมออกมาทางปาก  

                    “เหอะ!

                    ‘มันอะไรกันเนี่ย!  เขี้ยวชะมัด!’  เขาเทน้ำส้มใส่แก้วเพิ่มอีกหน้าตาเฉย

                    แม่ครัวร่างเล็กรีบปราดเข้ามาแย่งเหยือกน้ำส้มจากมือของอีกฝ่ายทันที  พลางตะโกนเสียดังห้ามปราม

                    “หยุดพอแล้ว!

                    “ยังไม่พอ....ยังไม่หายหิวเลย”  เขาหมุนตัวหลบ ยื้อเหยือกน้ำส้มมาประชิดตัวเอง  มองหน้าคนโวยวายแล้วยิ้มอย่างกวนประสาท  ยังพยายามเทน้ำส้มใส่แก้วอีก

                    “เอ๊....อย่าแย่งสิ!  เดี๋ยวหก  นี่เป็นค่าจ้างของฉันนะหนุ่มขี้แกล้งเบี่ยงตัวหลบ ยกเหยือกขึ้นสูง  รอยยิ้มน้อย ๆ ปรากฏขึ้นที่มุมปากอย่างนึกสนุก  มีความสุขที่ได้กวนโอ๊ยเจ้าของบ้าน

                    “ฉันกับพี่ปรามยังไม่ได้กินเลยนะ  นายจะกินหมดเลยเหรอ”  เสียงหญิงสาวอ่อนลง เมื่อไม่สามารถแย่งเหยือกน้ำส้มที่อยู่สูงกว่าตัวเธอได้  แล้วต้องรีบถอยตัวออกห่างเมื่อเขายื่นใบหน้าขาวละมุนเข้ามาใกล้

                    “ก็ได้!  เขามองแม่ครัวตัวดีอย่างสงสาร  อดแปลกใจไม่ได้เมื่อเขาสาวเท้าเข้าไปใกล้เธอ อีกฝ่ายจะรีบถอยตัวออกห่าง  ที่ผ่านมาเขามีแต่สาว ๆ อยากมายืนประชิดตัวจับมือถือแขนเขาทั้งนั้น  ทำไมเธอไม่มีทีท่าที่จะสนใจเขาบ้างเลย

    แล้วมีไรกินมั่งล่ะ” 

                    “ต้มมะระผักกาดดอง  ของโปรดพี่ปรามเลย” พี่ชายได้บอกเธอก่อนหน้านี้ ให้ทำอาหารตามที่ปฏิการขอ และย้ำกับเธอว่าต้องทำให้เขาด้วย  แต่คนอย่างเธอมีเหรอที่จะยอมทำให้เขาง่าย ๆ ไม่มีทาง!!

                   "ทำไม! กินไม่เป็นเหรอ หรือกินไม่ได้!"  เจ้าของบ้านมองสีหน้าหนุ่มจอมกวนที่ดูไม่ปลื้มเท่าไหร่

                    หนุ่มผมยาวทำจมูกย่น  เขาเกลียดมะระ  ทำไมค่าจ้างของเขากลายเป็นต้มมะระผักกาดดองไปได้  ไม่เอาเด็ดขาด!

                    “กินได้ แต่ไม่อยากกิน  มีอะไรมั้ยปรามบอกว่า  อยากกินอะไรให้บอกเธอได้เลย คงเข้าใจนะเขาพูดพลางตีสีหน้ายียวนกวนโอ๊ย  ตั้งแต่เด็กมีแต่สาว ๆ ไม่ว่าจะเป็นรุ่นพี่หรือรุ่นน้องชอบซื้อขนมมาเลี้ยงคอยเอาอกเอาใจตลอด  ไม่เคยมีใครทำกับเขาเยี่ยงนี้เลย

                    “แล้วจะกินอะไร? ไม่ทราบทำเองเลยก็ได้นะ”  เธอสะบัดเสียงห้วนอย่างไม่พอใจ  จนมุมที่จะเลี่ยงไม่ยอมทำให้เขา  พลางเดินไปดูหม้อข้าวที่หุงสุกแล้ว

                    “นี่ฉันอุตส่าห์ช่วยไปส่งของให้เธอตั้งไกลนะ เธอทำแบบนี้กับผู้มีบุญคุณได้ยังไง”  ปฏิการเดินตามเธอไปโวยวาย

                    ปริมาหันมาจ้องหน้าหนุ่มจอมกวน

                    “บุญคุณหมดไป  ตั้งแต่...นายต้องการค่าจ้างแล้วหญิงสาวเน้นคำ

                    “งั้นฉันต้องการรับค่าจ้าง เดี๋ยวนี้!”   คนตัวสูงก้มหน้ามองคนตัวเล็กที่สูงเลยไหล่ของเขานิดเดียว  สบตากับดวงตากลมที่ฉายแววดื้อรั้นและเจ้าทิฐิ

                    ปริมาอยากจะร้องกรี๊ด  พลางถอนหายใจออกเบา ๆ  บอกตัวเองใจเย็นไว้  เม้มริมฝีปากแน่น 

                    “ได้สิอยากกินอะไรละคะ”  เธอกัดฟันข่มใจให้ร่ม ๆ แกล้งทำเป็นพูดดีกับเขา

                   เพื่อนพี่ชายตีสีหน้าครุ่นคิด  แล้วดีดนิ้วอย่างนึกออก

                   "ต้มยำ ทำเป็นมั้ยล่ะ"  เขารู้สึกคิดถึงแม่ขึ้นมา  ตอนแม่ยังไม่เลิกกับพ่อ  แม่ของเขาชอบทำต้มยำให้ทาน ฝีมือแม่อร่อยมาก

                   "ได้...แต่ตอนนี้ในตู้เย็นมีของไม่ครบ   นายจะช่วยไปเก็บในสวนได้ไหมล่ะ"  เธอแกล้งทำเสียงขอร้อง

                     "ไม่มีปัญหา แต่ตอนนี้หิวมาก หาอะไรมารองท้องก่อนดิ"  เขายกมือตบท้องตัวเองเบา ๆ  แล้วไปนั่งรอที่โต๊ะกลางห้องครัว

                      แม่ครัวตัวดีเดินไปหยิบกล้วยมาให้

                     หนุ่มผมยาวเบิกตาโตมองกล้วยน้ำว้าสุกงอมจนเปลือกกลายเป็นสีดำครึ่งหวีในมือของเธอ

                     "หะ!" เขาอุทานในลำคอ

                     "ให้กินกล้วยเน่านี่นะ!"  ปกติเขาเป็นคนชอบกินกล้วยมาก แต่ไม่เคยกินกล้วยดำปี๋ขนาดนี้ เคยกินแต่กล้วยสวย ๆ หวีงาม ๆ เท่านั้น

                     "อะไร! นี่คือของมีค่าของที่นี่เลยนะ  เน่าที่ไหน  ยังไม่เน่า  นายไม่รู้อะไร กล้วยมีประโยชน์มาก อุดมด้วยวิตามินมากมาย แค่กินกล้วยก็ได้วิตามินเกือบครบแล้ว ไม่เชื่อเสิร์ทกูเกิ้ลดูดิ  ที่รีสอร์ทของเราใช้กล้วยแทนน้ำตาลในการทำน้ำปั่นผัก ขายดีสุด ๆ เลย  และกล้วยที่ดำ ๆ เนี่ยช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน รู้รึเปล่า?" เธอพูดถึงรีสอร์ทเล็กๆ ชื่อบ้านไร่ทะเลฝัน  อยู่ติดทะเล  ซึ่งแม่ทิ้งมรดกไว้ให้ก่อนเสียชีวิต  เดินเอากล้วยไปวางที่โต๊ะกลางห้องครัว  แถมหยิบส้มมาวางให้อีกสองสามลูก

                     ชายหนุ่มเลิกคิ้วมองส้มเหี่ยว ๆ  ที่เธอนำมาวาง  ให้ตายสิ! ค่าจ้างแต่ละอย่างช่างดีงามเหลือเกิน

                     อีกฝ่ายหันมามอง  "ยังไม่เน่า  ก็น้ำส้มที่นายกินไปไง ทำจากส้มนี้แหละ  นี่เป็นส้มไร้สารพิษนะ  รู้มั้ยส้มทั่วไปมีสารเคมีมากแค่ไหน  แล้วปลูกแบบไม่ใส่สารเคมี  ปลูกยากมากนะ  ส้มนี้วางอยู่ในอุณภูมิห้องมาแค่สามอาทิตย์เอง รสชาติยังไม่เปลี่ยนเลย"  แม่ครัวตัวดีอธิบายผลการทดลองเก็บส้มในอุณหภูมิห้อง

                      "เขี้ยวชะมัด!"  เขาบ่นขมุบขมิบเบา ๆ

                      "ตกลงไม่กินนะ อย่างนาย...คงจะ..."  แม่ครัวตัวแสบมองใบหน้าขาวใส ผิวพรรณดูเป็นลูกผู้ดีมีตระกูล  ผู้ชายอะไรผิวดีขนาดนี้ จะต้องเป็นลูกคุณหนูพวกกินยากเลือกกินแน่นอนเลย 

                      "กินสิ!"  เขารีบพูดทับขึ้นมา ขณะที่เธอยังพูดไม่ทันจบ  สองมือรีบคว้าทั้งกล้วยทั้งส้มรวบมาไว้ใกล้ตัว

                     คนถูกสบประมาทรีบบิดกล้วยงอมเปลือกสีกระดำกระด่างออกจากเครือ  พอปอกเปลือกออก ผิวข้างในยังดูดีอย่างที่เธอบอกแต่แรก   เขาแกล้งกินกล้วยอย่างเอร็ดอร่อยโชว์  จากนั้นแกะเปลือกส้มเหี่ยว ๆ ออก แม้ว่าจะแกะค่อนข้างยาก เพราะผิวส้มนั้นแห้งจนติดเนื้อ แต่เนื้อส้มข้างในยังสดมาก รสชาติหวานอร่อยชื่นใจ แถมซังยังนุ่มอีกด้วย  มันดูที่ผิวอย่างเดียวไม่ได้จริง ๆ

                     "แล้วจะต้องไปเก็บอะไรบ้างล่ะ  เก็บที่ไหน"   เขาลุกขึ้นเตรียมพร้อมเป็นลูกมือของเธอแล้ว     

                     หญิงสาวชี้นิ้วไปที่สวนครัวหลังบ้าน  ซุปเปอร์มาร์เก็ตมีชีวิตของบ้านไร่ทะเลฝัน

                    หนุ่มมาดกวนชะงักเล็กน้อย  เกิดมาเคยเข้าสวนที่ไหน  ตั้งแต่เล็กเขาจับไมค์ฝึกร้องเพลง และเล่นแต่กีต้าร์มาตลอด

                    "นำไปสิ"  เขาเบ้หน้าให้เจ้าของบ้านเดินนำ

                    แม่ครัวตัวแสบหมุนตัวเดินไปที่ประตูบ้าน  ใบหน้าซ่อนยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์  คราวนี้นายโดนดีแน่!  เธอพาเขาเดินไปเก็บเห็ดก่อน เริ่มจากงานง่ายที่สุด

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                   

                   

                   

                   

     

                   

           

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×