คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ค่าจ้างของเขา...ทำไมกลายเป็นแบบนี้!!
ตอนที่ 3
“ทำไม! ระยะทางไม่ใช่ใกล้ ๆ นะ จากนี่ไปถึงโน่นกี่กิโล แล้วสินค้าของเธอน้ำหนักเท่าไหร่?” ปฏิการรีบสวนกลับทันควัน
“ก็ได้ ตามนั้น” เธอยอมจำนนอย่างขอไปที
“ของอยู่ไหนล่ะ จะได้รีบไป เดี๋ยวจะกลับมืด”
ปฏิการเดินตามน้องสาวเจ้าของบ้านออกไปจัดของ น้ำหมักชีวภาพบรรจุอยู่ในขวดหนึ่งลิตรครึ่งวางอยู่บนชั้นยาวขนาดสี่ชั้นเต็ม โรงเรือนนั้นมุงหลังคาจากยกสูง ด้านในมีแต่ถังพลาสติกขนาดสามสิบลิตรวางเรียงรายพรึ่บไปหมด
“มีลังใส่หรือเปล่า ลังเบียร์ ลังแม่โขงน่าจะใส่ได้นะ” หนุ่มผมยาวคาดคะเนขนาดของลังใส่สินค้า
“รู้ดีจริงนะ” ปริมาอดค่อนแคะเขาไม่ได้
‘คงจะกินประจำล่ะสิ!’
หนุ่มผมยาวถอยรถมอร์เตอร์ไซค์มาจอดใกล้ ๆ มองเห็นน้องสาวเพื่อนกำลังจัดของใส่ลังกระดาษอยู่
“เดี๋ยวฉันช่วยยกเอง” หนุ่มผมยาวรีบเข้าไปช่วยยกลังที่บรรจุน้ำหมักครบจำนวนแล้วมาไว้ที่เบาะซ้อนท้าย แต่ทว่ายังยกไปไม่ถึงรถ เขาเดินสะดุดก้อนหิน ทำให้ขวดน้ำหมักในลังหล่นลงกระแทกพื้นแตกไปสามขวด
“ฉันหวังว่า นายคงจะไม่เทกระจาดระหว่างทางหรอกนะ” เธอมองเพื่อนพี่ชายด้วยสายตาตำหนิ และไม่เชื่อมั่นในตัวเขาเอาเสียเลย พ่อมาดดีทีเหลว แล้วเดินไปหยิบขวดน้ำหมักมาเปลี่ยนให้
“ฉันจะชดใช้ให้ที่ทำแตกไปสามขวด” ปฏิการจ้องหน้านายจ้างจำเป็น
“ไว้หักกับค่าจ้างละกันนะ” หนุ่มผมยาวอมยิ้มน้อย ๆ
ปฏิการสตาร์ทรถ แล้วสวมหมวกันน็อค
“รีบทำกับข้าวล่ะ เดี๋ยวจะรีบกลับมารับค่าจ้างนะจ๊ะ” เขาหันมาบอกก่อนขับรถออกไป
หญิงสาวทำจมูกย่นใส่อย่างหมั่นไส้! ไอ้หมอนี่กล้าดียังไงมาสั่งเธอ!
*********************
ปริมาเดินไปปิดแก๊ส มองต้มมะระผักกาดดองที่อยู่ในหม้อควันฉุยหอมฟุ้ง หยิบฝาหม้อมาปิด พี่ชายของเธอชอบทานต้มมะระผักกาดดองที่สุด แล้วหันมาหั่นส้มที่ล้างเรียบร้อยแล้ว กลิ่นหอมของน้ำส้มคั้นลอยคลุ้งไปทั่ว ทำให้บรรยากาศของห้องครัวสดชื่น น้ำส้มถูกเทใส่เหยือกใสสี่เหลี่ยมทรงสูง มีฝาปิดอย่างดี ปริมานำเหยือกเข้าไปแช่ในตู้เย็น ถ้าพี่ชายของเธอได้ดื่มจะต้องชื่นใจหายเหนื่อยแน่นอน
ปฏิการดับเครื่องยนต์ ถอดหมวกกันน็อคออกวางไว้บนรถมอร์เตอร์ไซค์ เหงื่อไหลจนปอยผมด้านหน้าเปียกโชก ยกแขนเสื้อเช็ดเหงื่อที่หยดอยู่ที่ปลายคาง ภารกิจส่งของให้ยัยตัวแสบเสร็จสิ้นลงแล้ว เขารู้สึกเหนื่อยไม่น้อย ทั้งไกลทั้งร้อน ไปกลับไม่ต่ำกว่าหกชั่วโมง ตอนนี้อยากจะทานน้ำอะไรเย็น ๆ ให้ชื่นใจ
โทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงของเขาดังขึ้น เมื่อเห็นคนโทรเข้ามาบนหน้าจอเป็นใครกลับปล่อยให้เสียงโทรศัพท์ดังอยู่อย่างนั้น ยังไม่ยอมรับสายพลางทำสีหน้าเบื่อหน่าย
“รับสิวะ!” ปรามเดินมาเจอเพื่อนยืนมองโทรศัพท์ที่มีสายเรียกเข้าอยู่หน้าบ้าน
นิ้วยาวเรียวเลื่อนหน้าจอเพื่อรับโทรศัพท์ เขากดเปิดลำโพง
“ปฏิการ! แกไปอยู่ไหน ทำไมไม่กลับบ้าน!” เสียงบิดาถามอย่างไม่พอใจ
หนุ่มผมยาวนิ่งมองโทรศัพท์ในมือ ภาพที่พ่อพูดจาหวานหูกับแฟนใหม่ช่างแตกต่างกับเวลาที่พูดกับเขาเหลือเกิน
“ได้ยินหรือเปล่า! พ่อถามแกอยู่นะ” ปลายสายพูดกระแทกเสียงหนักขึ้นกว่าเดิม เมื่อลูกชายคนเดียวยังไม่ตอบ
“พ่อน่าจะดีใจที่ผมไม่อยู่เป็นก้างขวางคอพ่อนะ”
“ถ้าคืนนี้แกไม่กลับมา พ่อจะไม่โอนเงินเข้าบัญชีให้ ถ้าคิดว่าตัวเองปีกกล้าข้าแข็งก็ลองดู!” ปลายสายวางหูไปทันทีอย่างหัวเสีย
“คืนนี้ แกควรจะกลับบ้านนะ พ่อเป็นห่วง...ถึงได้โทรมา...” ปรามตบบ่าเพื่อนเบา ๆ
“หิวมั้ย ไปในครัวหาอะไรกินก่อน ให้ใจเย็น ๆ ตามสบายเลยนะ เดี๋ยวข้าเดินไปดูบัญชีที่ร้านอาหารก่อน เดี๋ยวกลับมากินข้าวด้วยกัน”
หนุ่มผมยาวถอนหายใจเฮือกใหญ่ เดินเข้ามาในบ้าน ตรงไปที่ห้องครัวเพื่อหาน้ำดื่ม มองเห็นปริมากำลังสาละวนจัดของในตู้เย็นอยู่ รอยยิ้มน้อย ๆ ปรากฏขึ้นที่มุมปาก เขาค่อย ๆ เดินหย่องอย่างเบาที่สุดไปหยุดอยู่ด้านหลังน้องสาวเจ้าของบ้าน อยากจะแกล้งแม่ครัวให้ตกใจเล่นนิดหน่อย แต่ทว่ายังไม่ทันส่งเสียงให้เธอตกใจ ร่างเล็กดันถอยหลังมาชนเข้าเสียก่อน และสะดุดเท้าของเขาจนเซเสียหลัก
“ว้าย!” เสียงปริมาโพล่งออกมาด้วยความตกใจ ไม่นึกว่าจะมีใครมายืนอยู่ข้างหลังแบบนี้
หนุ่มผมยาวช่วยประคองร่างที่กำลังเซเสียหลักไว้ในอ้อมแขน
ปริมากรีดร้องเสียงดังด้วยความตกใจเมื่อหันมามองหน้าของคนประคองตัวเธอเอาไว้เป็นไอ้หนุ่มขี้เมาคนนั้น แล้วรีบผละออกจากอ้อมแขนของเขาอย่างด่วนจี๋
“นะ..นาย! เข้ามาทำไมเงียบ ๆ” แม่ครัวรัวพูดด้วยความตกใจไม่หาย
“ต่อไป ห้ามเข้ามาเงียบ ๆ อีก เข้าใจมั้ย!” หญิงสาวโวยวายเสียงดังลั่น มองใบหน้าอมยิ้มน้อย ๆ ของหนุ่มผมยาว ยิ่งไม่พอใจ ยิ่งหงุดหงิดเพิ่มขึ้น ไม่รู้จะขำอะไรนักหนา! ทำไมเขาถึงไม่กลับบ้านกลับช่องไปเสียทีนะ!
“เข้าใจมั้ย ฉันถาม!”
คนถูกถามก้มหัวลงรับอย่างเชื่องช้า ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มระรื่น ทำตาแบ๊ว ๆ
"เข้าใจ! ฟังภาษาคนออก แต่จะทำตามหรือไม่ ก็...อีกเรื่องหนึ่ง..." หนุ่มผมยาวเอียงคอ แล้วยักคิ้วให้อย่างกวนประสาท
ปริมาถอนหายใจอย่างกลุ้ม!! เกลียดรอยยิ้มกวนโอ๊ย! ของเขาเสียจริง เดินเลี่ยงไปเก็บเปลือกส้มและล้างภาชนะต่อ
“นี่! ขอน้ำกินหน่อย ขับรถไปตั้งไกล ทั้งเหนื่อยทั้งร้อนมากรู้รึเปล่า?” เพื่อนพี่ชายเริ่มบ่นบ้าง
“แก้วอยู่นั่น” แม่ครัวชี้มือไปยังชั้นวางแก้วน้ำ และมีเหยือกน้ำอยู่ใกล้ ๆ
“บริการตัวเองนะ ยังไม่ว่าง!”
หนุ่มผมยาวส่ายหัว หยิบแก้วแล้วเดินไปเปิดตู้เย็น มองเห็นน้ำส้มคั้นในเหยือกสี่เหลี่ยมใสทรงสูง ยกเหยือกมาเทน้ำส้มใส่แก้วดื่มด้วยความกระหาย รู้สึกสดชื่นหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง รสชาติหวานเปรี้ยวถูกใจมาก
ปริมาหันมามองด้วยความตกใจ เบิกตาโต เมื่อเห็นเหยือกน้ำส้มอยู่ในมือของหนุ่มจอมกวน
“นี่! ใครอนุญาตให้นายกินน้ำส้ม”
หนุ่มผมยาวเลิกคิ้ว
“ต้องขออนุญาตด้วย?”
เขาพ่นลมออกมาทางปาก
“เหอะ!”
‘มันอะไรกันเนี่ย! เขี้ยวชะมัด!’ เขาเทน้ำส้มใส่แก้วเพิ่มอีกหน้าตาเฉย
แม่ครัวร่างเล็กรีบปราดเข้ามาแย่งเหยือกน้ำส้มจากมือของอีกฝ่ายทันที พลางตะโกนเสียดังห้ามปราม
“หยุด! พอแล้ว!”
“ยังไม่พอ....ยังไม่หายหิวเลย” เขาหมุนตัวหลบ ยื้อเหยือกน้ำส้มมาประชิดตัวเอง มองหน้าคนโวยวายแล้วยิ้มอย่างกวนประสาท ยังพยายามเทน้ำส้มใส่แก้วอีก
“เอ๊....อย่าแย่งสิ! เดี๋ยวหก นี่เป็นค่าจ้างของฉันนะ” หนุ่มขี้แกล้งเบี่ยงตัวหลบ ยกเหยือกขึ้นสูง รอยยิ้มน้อย ๆ ปรากฏขึ้นที่มุมปากอย่างนึกสนุก มีความสุขที่ได้กวนโอ๊ยเจ้าของบ้าน
“ฉันกับพี่ปรามยังไม่ได้กินเลยนะ นายจะกินหมดเลยเหรอ” เสียงหญิงสาวอ่อนลง เมื่อไม่สามารถแย่งเหยือกน้ำส้มที่อยู่สูงกว่าตัวเธอได้ แล้วต้องรีบถอยตัวออกห่างเมื่อเขายื่นใบหน้าขาวละมุนเข้ามาใกล้
“ก็ได้!” เขามองแม่ครัวตัวดีอย่างสงสาร อดแปลกใจไม่ได้เมื่อเขาสาวเท้าเข้าไปใกล้เธอ อีกฝ่ายจะรีบถอยตัวออกห่าง ที่ผ่านมาเขามีแต่สาว ๆ อยากมายืนประชิดตัวจับมือถือแขนเขาทั้งนั้น ทำไมเธอไม่มีทีท่าที่จะสนใจเขาบ้างเลย
“แล้วมีไรกินมั่งล่ะ”
“ต้มมะระผักกาดดอง ของโปรดพี่ปรามเลย” พี่ชายได้บอกเธอก่อนหน้านี้ ให้ทำอาหารตามที่ปฏิการขอ และย้ำกับเธอว่าต้องทำให้เขาด้วย แต่คนอย่างเธอมีเหรอที่จะยอมทำให้เขาง่าย ๆ ไม่มีทาง!!
"ทำไม! กินไม่เป็นเหรอ หรือกินไม่ได้!" เจ้าของบ้านมองสีหน้าหนุ่มจอมกวนที่ดูไม่ปลื้มเท่าไหร่
หนุ่มผมยาวทำจมูกย่น เขาเกลียดมะระ ทำไมค่าจ้างของเขากลายเป็นต้มมะระผักกาดดองไปได้ ไม่เอาเด็ดขาด!
“กินได้ แต่ไม่อยากกิน มีอะไรมั้ย? ปรามบอกว่า อยากกินอะไรให้บอกเธอได้เลย คงเข้าใจนะ” เขาพูดพลางตีสีหน้ายียวนกวนโอ๊ย ตั้งแต่เด็กมีแต่สาว ๆ ไม่ว่าจะเป็นรุ่นพี่หรือรุ่นน้องชอบซื้อขนมมาเลี้ยงคอยเอาอกเอาใจตลอด ไม่เคยมีใครทำกับเขาเยี่ยงนี้เลย
“แล้วจะกินอะไร? ไม่ทราบ! ทำเองเลยก็ได้นะ” เธอสะบัดเสียงห้วนอย่างไม่พอใจ จนมุมที่จะเลี่ยงไม่ยอมทำให้เขา พลางเดินไปดูหม้อข้าวที่หุงสุกแล้ว
“นี่! ฉันอุตส่าห์ช่วยไปส่งของให้เธอตั้งไกลนะ เธอทำแบบนี้กับผู้มีบุญคุณได้ยังไง” ปฏิการเดินตามเธอไปโวยวาย
ปริมาหันมาจ้องหน้าหนุ่มจอมกวน
“บุญคุณหมดไป ตั้งแต่...นายต้องการค่าจ้างแล้ว” หญิงสาวเน้นคำ
“งั้น! ฉันต้องการรับค่าจ้าง เดี๋ยวนี้!” คนตัวสูงก้มหน้ามองคนตัวเล็กที่สูงเลยไหล่ของเขานิดเดียว สบตากับดวงตากลมที่ฉายแววดื้อรั้นและเจ้าทิฐิ
ปริมาอยากจะร้องกรี๊ด พลางถอนหายใจออกเบา ๆ บอกตัวเองใจเย็นไว้ เม้มริมฝีปากแน่น
“ได้สิ! อยากกินอะไรละคะ” เธอกัดฟันข่มใจให้ร่ม ๆ แกล้งทำเป็นพูดดีกับเขา
เพื่อนพี่ชายตีสีหน้าครุ่นคิด แล้วดีดนิ้วอย่างนึกออก
"ต้มยำ ทำเป็นมั้ยล่ะ" เขารู้สึกคิดถึงแม่ขึ้นมา ตอนแม่ยังไม่เลิกกับพ่อ แม่ของเขาชอบทำต้มยำให้ทาน ฝีมือแม่อร่อยมาก
"ได้...แต่ตอนนี้ในตู้เย็นมีของไม่ครบ นายจะช่วยไปเก็บในสวนได้ไหมล่ะ" เธอแกล้งทำเสียงขอร้อง
"ไม่มีปัญหา แต่ตอนนี้หิวมาก หาอะไรมารองท้องก่อนดิ" เขายกมือตบท้องตัวเองเบา ๆ แล้วไปนั่งรอที่โต๊ะกลางห้องครัว
แม่ครัวตัวดีเดินไปหยิบกล้วยมาให้
หนุ่มผมยาวเบิกตาโตมองกล้วยน้ำว้าสุกงอมจนเปลือกกลายเป็นสีดำครึ่งหวีในมือของเธอ
"หะ!" เขาอุทานในลำคอ
"ให้กินกล้วยเน่านี่นะ!" ปกติเขาเป็นคนชอบกินกล้วยมาก แต่ไม่เคยกินกล้วยดำปี๋ขนาดนี้ เคยกินแต่กล้วยสวย ๆ หวีงาม ๆ เท่านั้น
"อะไร! นี่คือของมีค่าของที่นี่เลยนะ เน่าที่ไหน ยังไม่เน่า นายไม่รู้อะไร กล้วยมีประโยชน์มาก อุดมด้วยวิตามินมากมาย แค่กินกล้วยก็ได้วิตามินเกือบครบแล้ว ไม่เชื่อเสิร์ทกูเกิ้ลดูดิ ที่รีสอร์ทของเราใช้กล้วยแทนน้ำตาลในการทำน้ำปั่นผัก ขายดีสุด ๆ เลย และกล้วยที่ดำ ๆ เนี่ยช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน รู้รึเปล่า?" เธอพูดถึงรีสอร์ทเล็กๆ ชื่อบ้านไร่ทะเลฝัน อยู่ติดทะเล ซึ่งแม่ทิ้งมรดกไว้ให้ก่อนเสียชีวิต เดินเอากล้วยไปวางที่โต๊ะกลางห้องครัว แถมหยิบส้มมาวางให้อีกสองสามลูก
ชายหนุ่มเลิกคิ้วมองส้มเหี่ยว ๆ ที่เธอนำมาวาง ให้ตายสิ! ค่าจ้างแต่ละอย่างช่างดีงามเหลือเกิน
อีกฝ่ายหันมามอง "ยังไม่เน่า ก็น้ำส้มที่นายกินไปไง ทำจากส้มนี้แหละ นี่เป็นส้มไร้สารพิษนะ รู้มั้ยส้มทั่วไปมีสารเคมีมากแค่ไหน แล้วปลูกแบบไม่ใส่สารเคมี ปลูกยากมากนะ ส้มนี้วางอยู่ในอุณภูมิห้องมาแค่สามอาทิตย์เอง รสชาติยังไม่เปลี่ยนเลย" แม่ครัวตัวดีอธิบายผลการทดลองเก็บส้มในอุณหภูมิห้อง
"เขี้ยวชะมัด!" เขาบ่นขมุบขมิบเบา ๆ
"ตกลงไม่กินนะ อย่างนาย...คงจะ..." แม่ครัวตัวแสบมองใบหน้าขาวใส ผิวพรรณดูเป็นลูกผู้ดีมีตระกูล ผู้ชายอะไรผิวดีขนาดนี้ จะต้องเป็นลูกคุณหนูพวกกินยากเลือกกินแน่นอนเลย
"กินสิ!" เขารีบพูดทับขึ้นมา ขณะที่เธอยังพูดไม่ทันจบ สองมือรีบคว้าทั้งกล้วยทั้งส้มรวบมาไว้ใกล้ตัว
คนถูกสบประมาทรีบบิดกล้วยงอมเปลือกสีกระดำกระด่างออกจากเครือ พอปอกเปลือกออก ผิวข้างในยังดูดีอย่างที่เธอบอกแต่แรก เขาแกล้งกินกล้วยอย่างเอร็ดอร่อยโชว์ จากนั้นแกะเปลือกส้มเหี่ยว ๆ ออก แม้ว่าจะแกะค่อนข้างยาก เพราะผิวส้มนั้นแห้งจนติดเนื้อ แต่เนื้อส้มข้างในยังสดมาก รสชาติหวานอร่อยชื่นใจ แถมซังยังนุ่มอีกด้วย มันดูที่ผิวอย่างเดียวไม่ได้จริง ๆ
"แล้วจะต้องไปเก็บอะไรบ้างล่ะ เก็บที่ไหน" เขาลุกขึ้นเตรียมพร้อมเป็นลูกมือของเธอแล้ว
หญิงสาวชี้นิ้วไปที่สวนครัวหลังบ้าน ซุปเปอร์มาร์เก็ตมีชีวิตของบ้านไร่ทะเลฝัน
หนุ่มมาดกวนชะงักเล็กน้อย เกิดมาเคยเข้าสวนที่ไหน ตั้งแต่เล็กเขาจับไมค์ฝึกร้องเพลง และเล่นแต่กีต้าร์มาตลอด
"นำไปสิ" เขาเบ้หน้าให้เจ้าของบ้านเดินนำ
แม่ครัวตัวแสบหมุนตัวเดินไปที่ประตูบ้าน ใบหน้าซ่อนยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ คราวนี้นายโดนดีแน่! เธอพาเขาเดินไปเก็บเห็ดก่อน เริ่มจากงานง่ายที่สุด
ความคิดเห็น